Jump to content


Photo
- - - - -

เสกสรรค์ ประเสริฐกุล 40ปี 14ตุลา 13 10 56


  • Please log in to reply
78 ความเห็นในกระทู้นี้

#51 หนูอ้อย

หนูอ้อย

    นักเขียนหน่อมแน้ม

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,215 posts

ตอบ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 16:35

singfather.jpg
เสกสรรค์ ประเสริฐกุล และ จิระนันท์ พิตรปรีชา
เป็นอดีตผู้นำนักศึกษาในเหตุการณ์ 14 ตุลา พ.ศ. 2516

 

jid2.jpg

 

remembrance-of-the-things-past.jpg

เสกสรรค์และจิระนันท์หลังออกจากป่า ..ที่สำนักงานโลกหนังสือ ในงานแสดงภาพของสุชาติ สวัสดิ์ศรี

 

เสกสรรค์ ประเสริฐกุล และ จิระนันท์ พิตรปรีชา ออกจาก “ป่า” กลับสู่เมืองเมื่อ พ.ศ.2523 ภาพนี้ถ่ายที่สำนักงาน โลกหนังสือ เสกสรรค์เดินทางมาพร้อมกับต้นฉบับเรื่องสั้นชุด ฤดูกาล ซึ่งเป็นรวมเรื่องสั้นชุดแรกที่เขาเขียนไว้ตั้งแต่สมัยอยู่ใน “ป่า” และต่อมาสำนักพิมพ์ดวงกมลได้จัดพิมพ์รวมเรื่องสั้นชุดนี้เป็นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.2524


 AMAZING  coup d'etat  , THAILAND ONLY ..  :ph34r:  


#52 ม่านน้ำ

ม่านน้ำ

    ผมเพิ่งมาครับ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,373 posts

ตอบ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 16:46

เห็นวรรณสิงห์ เห็นเสกสรรค์ เห็นจิระนันท์ เห็นตัวตนที่แท้จริง (ของเขา)


Posted Image


#53 ธีรเดชน้อย

ธีรเดชน้อย

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,659 posts

ตอบ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 18:11

วันนี้ผมนั่งอ่านที่ คุณเสกสรรค์พุด ซึ่งยาวมากๆๆๆๆ 

 

ผมสงสัยว่า จะมีสักกี่คนที่ฟังแล้วเข้าใจ 

 

ผมเองมานั่งอ่านและตีความทั้งหมดจนถึงตอนนี้ยังไม่เข้าใจสิ่งที่พยายามจะสื่ออกมาเท่าไหร่เลย

 

เหมือนหลีกเลียง ที่จะพูด ปัญหาบางประเด็น แต่โจมตีสิ่งที่คิด อคติ มากกว่า


" จุดเริ่มของการรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 หลังจากรัฐบาลเพื่อไทยได้บริหารประเทศล้มเหลวมาตลอด 2 ปีเศษ มีการทุจริตคอรัปชั่นมากมาย มีการนำพรบ.นิรโทษกรรมมาอนุมัติผ่านสภาฯเพื่อช่วยเหลือ น.ช. ทักษิณ ทำให้มวลมหาประชาชนลุกขึ้นประท้วงต่อต้าน แม้จนกระทั่ง ศาลรัฐธรรมนูญและปปช. ได้ตัดสินและชี้มูลความผิดจนต้องพ้นออกจากตำแหน่งแล้วก็ตาม ทำให้ประเทศชาติต้องหยุดนิ่ง สุดท้ายเมื่อ พลเอก ประยุทธ ผบ.ทบ.ได้เรียกทุกฝ่ายเข้ามาคุยเพื่อหาทางออกแล้ว โดยขอให้ ครม.ที่ยังคงเหลือลาออกเพื่อตั้งนายกฯเพื่อการปฎิรูปประเทศ แต่ไร้ซึ่งการตอบสนองและการเสียสละ ทำให้พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา จำเป็นต้องประกาศยึดอำนาจ   "

 

 


#54 Set ZeRo

Set ZeRo

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 444 posts

ตอบ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 18:14

เสกสรรค์พูดด่าคนชั้นกลางในกทมที่เลือกปชป ได้เจ็บแสบดีมาก  เมื่อเช้าสรยุทธ์เอามาเปิดซ้ำไปซ้่ำมากว่า 5นาที คนทั่วประเทศจะได้ตาสว่างใครที่มันเป็นเผด็๋จการ



#55 naiare

naiare

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,475 posts

ตอบ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 18:26

อดีตผู้นำ 14 ต.ค. นักวิชาการยังฝันเฟื่องเหมือนเดิม

เปิดตำราอ้างคำว่า ปชต เสียงส่วนใหญ่ อำนาจของประชาชนอยู่นั่น
ลองมองความเป็นจริงการเมืองไทยสมัยนี้กันหน่อย
เอาแบบของจริงกันเลย
สมมุติ ถ้าภาคใต้มีคนเท่าภาคอิสาน คือมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งถึง 1 ใน 3 ของทั้งประเทศ
แล้วภาคอิสานมีคนเท่าภาคใต้
พรรค ปชป ก็มีโอกาสเป็นรัฐบาล ก็จะกลายเป็นเสียงส่วนใหญ่
ที่ผมยกตัวอย่างนี้ก็คือ
การเมืองไทย มันมีลักษณะของลัทธิภาคนิยมมาช้านาน ไม่เกี่ยวกับการอ้าง ปชต หรือชนชั้น
คนจน คนรวยก็มีอยู่ทุกภาค ทำไมภาคอิสาน เหนือต้องรู้เรื่อง ปชต ชนชั้นมากกว่าภาคใต้?
แล้วทำไมคนภาคใต้ถึงต้องกลายเป็นพวกเผด็จการ ?  มันตลกครับ
ดังนั้น จะให้เสียงส่วนน้อยไปเคารพส่วนใหญ่ มันไม่มีทาง
เพราะเสียงส่วนน้อยที่ว่านั้นก็คือเสียงส่วนใหญ่ประจำคนทั้งภาคนั้นๆ
เหมือนบอกต้องเอาญัตติคนอิสานมาครอบคนใต้ ใครจะไปยอม
พรรค ปชป เหนียวแน่นภาคใต้มาช้านาน
พรรค พท ซึ่งได้คุมอิสานเบ็ดเสร็จเมื่อสิบปีให้หลังมานี้ ก็ใช้นโยบายประชานิยมทุ่มหนัก
เพื่อเลี้ยงฐานเสียงอิสาน เหนือไม่ให้หลุด
รวมทั้งใช้ทีมงานวิชาการฝ่ายซ้ายที่เคยทำงานมวลชนในภาคอิสานซึ่งก็คือ
บทเรียน ปชต แบบ นปช มาทำตลาดอีกแรงหนึ่ง

(ผมละเว้นการพูดถึงภาคอื่นที่เสียงแบ่งๆกันไปนะครับ)
 
ผมฟังแต่พวกอดีตผู้นำ 14 อ้างแต่ความเป็นธรรม ความชอบธรรม เสียงส่วนใหญ่แล้วอนาจ
บ่องตง ..
การเมืองไทยผูกติดกับลัทธิภาคนิยม ไม่ใช่เรื่องชนชั้นใดๆ
แล้วมีการดำเนินงานแบบสองมาตราฐานตลอดจะเป็นธรรมได้อย่างไร
อดีตผู้นำ นศ เหล่านั้นน่าจะเปลี่ยนเป็น ผู้นำมวลชนประจำภาคจะเหมาะสมกว่าอ้างคำว่า ปชต

ท่านเคยวิเคราะห์ประเด็นเหล่านี้หรือไม่ อาทิเช่น
ทำไม คนใต้ชอบเลือก ปชป ทุกครั้ง
นายกเมืองไทยส่วนใหญ่ ทำไมต้องชนะเสียงภาคอิสาน เป็นมาช้านาน
แต่แล้ว ทั้งคนใต้และคนอิสานก็ยังไม่ได้ร่ำรวยขึ้นจริงสักครั้ง
หนี้สินต่อครัวเรือนก็ยังสูงขึ้นเรื่อยๆ
ขณะที่ นกม รวยขึ้นๆจากนโยบายประชานิยมและเมกะโปรเจค

 

(อ่านแล้วทะ***ๆหน่อย เพราะผมก๊อปมาจากที่ผมตอบใน FB ผม)


Edited by naiare, 14 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 18:28.


#56 naiare

naiare

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,475 posts

ตอบ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 18:29

ทุกประเทศทุกระบอบ มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทุนที่เอาเปรียบและครอบงำสังคม

 

พวกผู้นำเหล่านี้ เคยสนใจประเด็นนี้หรือไม่



#57 ปุถุชน

ปุถุชน

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 27,531 posts

ตอบ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 18:44

เสกสรรค์VSธีรยุทธ์....

สองคนนี้เปรียบเหมือนนี้วชี้กับนิ้วกลางถ่างกว้าง

ไม่มีวันกลับมาแนบชิดอีกแล้ว.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...


#58 Set ZeRo

Set ZeRo

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 444 posts

ตอบ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 18:46

ธีรยุทธ์ ลงไปในรูตูดรูขี้แล้ว สกปรกเกินที่เสกสรรค์จะไปยุ่งด้วย

เสกสรรค์VSธีรยุทธ์....

สองคนนี้เปรียบเหมือนนี้วชี้กับนิ้วกลางถ่างกว้าง

ไม่มีวันกลับมาแนบชิดอีกแล้ว.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า



#59 หนุ่มเกาหลีมีแฮงคัก

หนุ่มเกาหลีมีแฮงคัก

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 320 posts

ตอบ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 19:42

แหม่ นานๆจะฮอต สำหรับผมแล้ว แค่ทำกฏหมายให้เป็นกฏหมาย(ตำรวจ อัยการ ศาล และกระบวนการยุติธรรม) ยังง่ายกว่าแก้ปัญหาเรื่องชนชั้นครับ ไม่เชื่อลองไปลอกการบ้านประเทศที่"ได้ชื่อ"ว่าเป็นประเทศผู้นำประชาธิปไตยดูก็ได้
.
.
.
แต่น้าเสกก็ไม่ได้พูดถึงประเด็นนี้เลย อาจจะเป็นเพราะว่านี่เป็นเวที 14 ตุลา ที่วาระ มักจะผูกติดกับปัญหาเรื่องชนชั้นๆๆๆๆๆ แต่ไม่ใช่เวทีพูดถึงทางแก้ปัญหาความขัดแย้งในประเทศไทย
.
.
.
แต่โดยสรุปแล้ว ผมคิดว่า น้าเสก "กั๊ก"ครับ ก็คงรู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดีไป



#60 Stargate-1

Stargate-1

    SG-1

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,578 posts

ตอบ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 19:54


Edited by Stargate-1, 14 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 21:37.

Tam-mic-ra ฟันธง!  คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ .....  คิดครับคิด  :lol:   จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96  ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง   แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3


#61 สมชายสายชม

สมชายสายชม

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,564 posts

ตอบ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 20:08

'เสกสรร' กำลังจะผันไปรับใช้นายทุนสามานย์ .. โอ้ว อุดมการณ์(ที่กินได้) ๕๕๕๕

...


Edited by สมชายสายชม, 14 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 20:08.

ชาวนา เกษตรกร กรรมกร และประชาชน เป็นเจ้าของประเทศ
แต่ หลงจู๊ ผู้รับเหมา นายทุน และนักการเมือง เป็นเจ้าของโฉนด

 

คนชั่วที่ชอบใช้ประชาธิปไตยเป็นข้ออ้างว่า "มาจากการเลือกตั้ง"

ก็ไม่ต่างกับพระปลอมที่นำ "จีวร" มาห่มเพื่อหลอกชาวบ้าน


#62 เพื่อนร่วมชาติ

เพื่อนร่วมชาติ

    พรานล่าปูไปรยา

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 7,788 posts

ตอบ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 20:46

ดูคุณเสกสรรค์ มีอคติ กับชนชั้นนำ(ในยุคนั้น) และชนชั้นกลางในยุคปัจจุบัน

 

ให้ความสำคัญกับประชาธิปไตยว่า ประชาชนคือจุดศุนย์กลางทั้งหมด

 

พูดถึงกลุ่มอำนาจเก่า(ชนชั้นนำ)และกลุ่มอำนาจใหม่(ทุนนิยม)

 

แต่ไม่พูดถึงต้นเหตุของรัฐประหารเลย คือ คอร์รัปชั่น

 

แกพูดราวกับว่าผู้มีสิทธิครอบครองประชาธิปไตยคือคนชั้นล่างเท่านั้นครับ

 

ไม่รู้ประชาธิปไตยสำนักบอลเชวิกรึเปล่า


ประชาธิปไตยก็เหมือนส้วมสาธารณะแบบนั่งเต็มตูด ควายนับถือศาสนาชินวัตรใช้แล้วสกปรกชิบเป๋ง


#63 webster

webster

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 372 posts

ตอบ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 20:59

ฟังตั้งแต่ต้นจนจบ....  ผิดหวัง... เป็นการจับประเด็นที่ตื้นเขิน ตัดตอนความจริง มีชนชั้นอคติอย่างชัดเจน

 

ราวกับว่า ด้วยเหตุที่ชนชั้นล่างถูกเอาเปรียบ จึงมีสิทธิ์ที่จะทำผิดกฏหมาย และได้รับความเห็นใจไปพร้อมๆกัน

 

คุณธรรมก็สามารถมองข้ามไปได้ ถ้ามันขัดขวางการต่อสู้เพื่อตัวเอง



#64 ypk

ypk

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,173 posts

ตอบ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 21:27

เหอะ เหอะ  ผมมองว่าเขาพูดในเชิง หลักการ ของประชาธิปไตย นะ เหมือนสอน

เรื่องประชาธิปไตยให้เสื้อแดงรู้จักยังงั้นแหละ เพียงแต่แนวการพูดดูออกจะเป็นเหมือน

หิวโหยประชาธิปไตยอย่างเหลือเกิน มันจึงมีเรื่องของชนชั้น มีเรื่องอนุรักษ์นิยม มีเรื่อง

เผด็จการ เข้ามาปนซะเยอะ แต่อาจเป็นเพราะถูกเชิญไปพูดในงานรำลึก 14 ตุลา ก็ได้

เลยต้องมีเรื่องพวกนี้เข้ามาเกี่ยวข้อง

 

อ เสกสรรค์ ยังมีชนชั้นกรรมกร รากหญ้า ชนชั้นกลางใหม่ กลางเก่า ชนชั้นนำ พร้อมทั้งนำประชา

นิยมของทักษิณ มาเป็นการพิสูจน์ทฤษฎีความเชื่อแบบดั้งเดิมของแกเอง ว่ามันเลิศประเสริฐศรี

ที่สามารถเข้าถึงชนชั้นล่างได้ แสดงว่าชนชั้นล่างเริ่มมีสิทธิ์มีเสียง 

 

ผมว่านี่เป็นการมองประชาธิปไตยแบบเก่า ๆ ที่ยังติดอยู่กับความเชื่อ เรื่องของเผด็จการทหาร ที่

ค่อนข้างฝังลึก จนมองข้ามเผด็จการทุนนิยม เผด็จการรัฐสภา ไปอย่างไม่แยแส ตรงกันข้ามกลับ

มีแนวโน้มไปทางเผด็จการทุนนิยมอีกต่างหาก

 

ผมมองว่าประชาธิปไตยในประเทศที่เขาเจริญแล้ว ความโปร่งใส ตรวจสอบได้ คือหัวใจของมัน

แต่ถ้า อ เสกสรรค์ ไม่ยอมรับรู้ถึงความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ว่าเป็นประชาธิปไตยแล้ว ก็คงจะต้อง

ย่ำอยู่กับ ชนชั้น และเผด็จการทหารไปอีกนานเลยแหละ



#65 สมชายสายชม

สมชายสายชม

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,564 posts

ตอบ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 21:52

คำว่า 'ชนชั้น' มันหมดไปหรือเลิกพูดกันไปตั้งแต่ปลายสมัยรัฐบาลเกรียงศักดิ์แล้ว

 

มีไอ้เขี้ยแม้วที่มันเป็นคนเริ่มตั้งแบ่งแยกชนชั้นขึ้นมาใหม่ด้วยคำว่า 'มนุษย์เงินเดือน'

 

แล้วพอปี ๕๑ ๕๒ ไอ้พวกเxี้ยนายทุนสามานย์และไอ้พวกเxี้ยหางแดงก็ขุดชนชั้น 'ไพร่'

 

และ 'อำมาตย์' ขึ้นมาเพื่อหลอกใช้พวกควายแดงเป็นเครื่องมือ

 

คาดไม่ถึงเลยว่า 'นายเสกสรร' จะเผยธาตุภายใน 'คอมมิวนิสต์หลงยุค' โดยการนำคำว่า 'ชนขั้น'

 

ออกมากล่าวในสุนทรพจน์เพื่อรับใช้เป็น 'ขี้ข้า' ให้ 'นายทุนสามานย์'

 

 

ขอไว้อาลัยแก่ 'อุดมการณ์จอมปลอม'(ที่กินได้) ของ นายเสกสรร  .. "ถุยยย "

...


Edited by สมชายสายชม, 14 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 22:19.

ชาวนา เกษตรกร กรรมกร และประชาชน เป็นเจ้าของประเทศ
แต่ หลงจู๊ ผู้รับเหมา นายทุน และนักการเมือง เป็นเจ้าของโฉนด

 

คนชั่วที่ชอบใช้ประชาธิปไตยเป็นข้ออ้างว่า "มาจากการเลือกตั้ง"

ก็ไม่ต่างกับพระปลอมที่นำ "จีวร" มาห่มเพื่อหลอกชาวบ้าน


#66 อู๋ ฮานามิ

อู๋ ฮานามิ

    สมาชิกหน้าเก่า

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,018 posts

ตอบ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 22:11

คนที่คิดว่าเผด็จการการเมืองจะมีเฉพาะทหารเท่านั้น

แสดงว่าคนนั้นโลกสวยเกินไป หรือ ไม่ได้อัพเกรดโปรแกรม หรือ เลือกที่จะรู้ในสิ่งที่ชอบ เพราะกลัวจะเข้าตัว  -_-  


ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด

 

เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ


#67 อู๋ ฮานามิ

อู๋ ฮานามิ

    สมาชิกหน้าเก่า

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,018 posts

ตอบ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 22:56

คนไทยจำนวนไม่น้อยบูชาการเลือกตั้งว่าเป็นหลักของ"ประชาธิปไตย"

 

อะไรก็ตามถ้ามาจากการเลือกตั้งมันต้องดีกว่าไม่ได้เลือกตั้ง "เพราะประชาชนเลือกมาแล้ว"

 

แนวคิดนี้เมื่อถูกขยายผลและโฆษณาชวนเชื่อเพิ่มโดยนักการตลาดการเมืองก็เลยกลายเป็นหลักของเผด็จการรัฐสภาไป

 

เสียงส่วนใหญ่ที่เลือกตั้งมา ก็กลายเป็นใบอนุญาตให้รัฐบาลทำอะไรก็ได้ 


ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด

 

เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ


#68 Tatiana

Tatiana

    แทนคุณแผ่นดินเกิด

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,063 posts

ตอบ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 00:31

 

 

 

 

อีกปัญหาที่สำคัญคือ คนชั้นกลางไม่ยอมขยายพันธุ์ครับ  :D

 

ในออฟฟิสผมเลย  30+ เพิ่งจะเอาผัวกัน

 

มีผัวเสร็จ หาบ้านหารถ บอกยังไม่พร้อมมีลูก

 

ปาไป36 บอกว่าพร้อมมีลูกแล้ว  ปรากฎว่า

 

มดลูกหมดอายุการใช้งาน :wacko:

 

 

เมื่อเทียบกับเด็กสก๊อยอายุ36 ซึ่งมีลูกอายุ 18

 

และลูกอายุ 18ของสก๊อยคนเดิมมีลูกมา1คน

 

สรุปอดีตสก๊อยอายุ36 ได้เป็นยาย  

 

อีกคนอายุ36 มีบ้านมีรถ แต่หาทายาทไม่ได้

 

นี่แหละความจริงของชนชั้นกลาง

 

 

ขำคุณ Shariff จังหาว่าผู้หญิงอายุ 36 มดลูกหมดอายุแล้ว (ขอต่อสู้เพื่อสิทธิสตรี :lol:  :lol:  :lol:) ดิฉันมีลูกคนแรกตอนอายุ 39 แล้วก็ยังมีได้อีกถ้าไม่ควบคุม จริงๆนะคะไม่ได้โม้


กราบหัวใจพี่น้องที่เสียสละออกมาทวงอำนาจคืนจากระบอบทักษิณ


#69 Tatiana

Tatiana

    แทนคุณแผ่นดินเกิด

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,063 posts

ตอบ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 01:02

เสกสรรค์พูดด่าคนชั้นกลางในกทมที่เลือกปชป ได้เจ็บแสบดีมาก  เมื่อเช้าสรยุทธ์เอามาเปิดซ้ำไปซ้่ำมากว่า 5นาที คนทั่วประเทศจะได้ตาสว่างใครที่มันเป็นเผด็๋จการ

 

ไอ้เหลี่ยมพ่อเดอะเว็จล่ะ เป็นชนชั้นไหนในกทม. สงสัยชั้นสูงมาก เสกสรรค์เลยเอื้อมไม่ถึง

 

พวกเราๆที่อาจจะถือได้ว่าเป็นชนชั้นกลางๆ ก็ไม่ได้เคยไปเอาเปรียบชนชั้นล่างหรือรากหญ้าเลย มีแต่ช่วยอุดหนุนซื้อของและจ้างแรงงาน (ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็ไม่มีคนไทยมาให้จ้างแล้ว) บริจาคนู่นนี่ตามฐานะ แถมยังต้องจ่ายภาษีหนักเพื่อให้รัฐฯเอาไปอุดหนุนชนชั้นล่างบ้าง ไปเป็นเงินเดือนนักการเมือง ข้าราชการ ทหาร ตำรวจบ้าง โกงกินกันบ้าง แล้วเสกสรรค์ยังจะต้องการอะไรจากชนชั้นกลางอีก ถามว่าชนชั้นกลางในกรุงเทพฯมีอำนาจอะไรที่จะไปยกระดับชนชั้นล่างมากไปกว่านี้

 

แปลกแฮะ เสกสรรค์เทพยดาของเดอะเว็จไม่ยักไปแหกปากเรียกร้องเอาจากชนชั้นนายทุน หรือว่าตัวเองกลายเป็นชนชั้นนายทุนไปซะเองแล้ว


กราบหัวใจพี่น้องที่เสียสละออกมาทวงอำนาจคืนจากระบอบทักษิณ


#70 stormtrooper

stormtrooper

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 356 posts

ตอบ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 01:12

ชุมนุมปี 53 เกิดได้เพราะไอ้นายทุนที่อยู่นอกประเทศอยู่เบื้องหลัง  มีกองกำลังติดอาวุธ  เจือกบอกว่าเป็นการลุกขึ้นสู้ของชนชั้นที่เสียเปรียบ  สาดดดเอ๊ย  กลับไปอยู่ในป่าเหมือนเดิมเถอะ  ไอ้วัตถุโบราณ



#71 HiddenMan

HiddenMan

    Long Live The King

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,023 posts

ตอบ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 01:49

:lol:  :lol:  :lol: ด็อก ขอเกาะกระแสด้วย...

 

 

 

dssss--_zps88211b3e.png


“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.”  - Mahatma Gandhi

 

สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด

https://www.facebook...denman.serithai


#72 nunoi

nunoi

    เด็กข้างถนน

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,745 posts

ตอบ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 04:16

เสกสรรค์พูดด่าคนชั้นกลางในกทมที่เลือกปชป ได้เจ็บแสบดีมาก  เมื่อเช้าสรยุทธ์เอามาเปิดซ้ำไปซ้่ำมากว่า 5นาที คนทั่วประเทศจะได้ตาสว่างใครที่มันเป็นเผด็๋จการ

 

ฮาดีกับความเห็นคุณนะ 

 

QC ได้คุณภาพตรงกันทุก id จริงๆ สำหรับคนแบบกลุ่มนี้


กฎหมายมันก็แค่สิงที่สร้างมาอย่างมีเป้าหมาย แต่หาก เอาแต่บอกว่ากฎหมายเป็นแบบนี้ แบบนั้น โดยไม่สนใจว่าเป้าหมายจริงๆ นันคืออะไร ก็คงไม่ใช่ 

 

 


#73 suwadee

suwadee

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 407 posts

ตอบ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 05:37

 

ปาฐกถานี้ผมบอกเลยนะ

 

"คับแคบ" "หมกมุ่น" และ "มากอคติ" คือมุมมองของเสกสรรค์

 

หมกมุ่นอยู่กับเรื่องอำนาจ การเมือง ชนชั้น ราวกับว่ามีแต่สิ่งเหล่านี้ที่เป็นตัวแปรของสังคม

 

เรียกว่าแทบจะโยนขี้ทั้งบ่อให้คนชั้นปกครองและคนชั้นกลางก็ว่าได้

 

ทั้ง ๆ ที่สาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้คนรายได้น้อยมีคุณภาพชีวิตไม่ดี ก็คือการขาดวินัยทางการเงินส่วนตัวและครอบครัว

 

และความเป็นจริงคือ มีคนรายได้น้อยมากมายที่ยกระดับคุณภาพชีวิตได้ด้วยวินัยทางการเงิน โดยไม่มีอำนาจการเมืองหรือกฎหมายใด ๆ มากดพวกเขาไว้ได้เลย

 

ตัวอย่างเรื่องพื้นที่ในสถานศึกษา ก็จัดว่าละเมอเพ้อพก เมื่อเสกสรรค์บอกว่าลูกหลานคนมีรายได้สูงคือคนที่ยึดครองพื้นที่ในสถานศึกษา

 

มันตรงข้ามกับความจริงที่ผมพบ คนจนกว่าผมกำลังเรียนในมหาวิทยาลัยเอกชน ด้วยกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา

 

ในขณะที่ลูกหลานคนรวยจริง ๆ มีไม่เยอะหรอกครับที่แย่งที่เรียนในมหาลัยไทย เขาส่งลูกเรียนนานาชาติและส่งไปเรียนเมืองนอกกันต่างหาก

 

คำปลุกระดมที่คับแคบ หมกมุ่น และมากอคติแบบนี้ไม่ใช่หรือ ที่ทำให้ชนชั้นล่างในเขมรลุกขึ้นมาเข่นฆ่าคนที่รวยกว่า

 

 

อีกอย่าง เสกสรรค์ไปหลับอยู่ที่ไหน ถึงตำหนิคนชั้นกลางจนดูเลวทรามแล้งน้ำใจ 

 

ไม่ใช่คนชั้นกลางหรือ ที่ช่วยบริจาคทรัพย์ บริจาคแรงในยามชาติประสบภัยพิบัติ

 

ไม่ใช่คนชั้นกลางหรือ ที่ตื่นตัวเรื่องสิ่งแวดล้อม ออกมาปกป้องทรัพยากรส่วนรวมของชาติ

 

เห็นด้วยกับความเห็นนี้ครับ

 

เมื่อวานนั่งคุยกับพี่สาวที่เป็นครูมัธยมต้น  แล้วก็เห็นภาพชัดๆเลยว่าอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้รากหญ้าไม่หมดไปจากสังคมไทยก็คือ

"การผลิตซ้ำ"

 

การสร้างคนชั้นกลางขึ้นมา 1 คนเพื่อมารับภาระประเทศในอนาคต ภาระส่วนใหญ่ไม่ได้ตกอยู่กับรัฐ แต่ตกอยู่กับพ่อแม่ และภาระนี้ก็หนักขึ้นทุกที

ประมาณว่าจะสร้างเด็กปริญญาตรี 1 คน พ่อแม่ต้องใช้เงินเฉพาะการศึกษาอย่างเดียวไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท

คนชั้นกลางจำนวนมากจึงจำกัดสร้างคนชั้นกลางรุ่นใหม่ไว้แค่คนเดียว หรือไม่สร้างเลย

 

ขณะที่รากหญ้ารุ่นใหม่ๆถูกสร้างขึ้นมาเรื่อยๆ ในจังหวัดที่พี่สาวผมสอนอยู่ เด็กได้เสียกันตั้งแต่อายุน้อยๆ และเมื่อเลิกกัน (ซึ่งเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้ว)

เด็กก็จะถูกเอาไปโยนให้ปู่ย่าเลี้ยง โดยที่พ่อแม่จริงจะแทบไม่มาดูดำดูดี และต่างฝ่ายต่างแยกกันไปมีครอบครัวของตัวเอง เด็กเหล่านี้ส่วนหนึ่ง

ก็โตขึ้นมาเป็นปัญหาสังคม ไม่ตั้งใจเรียน นี่เป็นอีกรูปแบบของการผลิตซ้ำรากหญ้า 

 

ทุกวันนี้ทางรัฐกำหนดการศึกษาขั้นต่ำให้อยู่ที่ ม.3 ทำให้ครูมัธยมต้นต้องรับบทหนักในการติดตามเด็กเพื่อทำทุกทางให้เด็กเรียนจบในชั้นนี้ให้ได้

แต่เท่าที่ฟังพี่ผมเล่า มีเด็กน้อยนักที่จะตั้งใจเรียนแค่จะให้จบครบทุกวิชา และเด็กที่จบแค่ม.3 แบบกระพร่องกระแพร่ง จะไปทำอะไรได้ในสังคมยุคใหม่

นอกจากจะเป็นรากหญ้า

 

เรายังไม่พูดถึงรากหญ้าที่ทำงานแค่พอตัวเองอายุ 40 กว่าๆ พอส่งลูกเรียนขั้นต้นจบ ก็เลิกส่งให้ลูกๆดิ้นรนกันเอง แถมตัวเองยังลาออกมาให้ลูกๆส่งเงินเลี้ยง

พ่อแม่ที่ตัดอนาคตพวกลูกๆพวกนี้ก็มีตัวตนอยู่มากมาย แม้จะไม่ทำให้ลูกกลายเป็นรากหญ้าไปเลย แต่ก็ทำลายศักยภาพในการสร้างคนรุ่นใหม่ๆที่ดีกว่าเดิม

 

...มีแต่พวกเอียงซ้ายกะลาครอบเท่านั้นแหละ ที่มองไม่เห็นความเป็นจริงที่ว่า "คนที่สร้างรากหญ้าจริงๆแล้ว ก็คือรากหญ้านั่นแหละ"   <_<

 

มันเป็นความจริงที่อยากร้องไห้ รากหญ้าที่ผลิตรากหญ้าออกมา เขาไม่ผลิตคนเดียวด้วยนะผลิตกันที3-4คน คนเล่านี้แหละที่เป็นฐานเสียงให้นักทุจริตการเมืองล่ะ



#74 Shariff

Shariff

    สมาชิกหน้าตาดี

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,802 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 10:06

 

 

 

 

 

อีกปัญหาที่สำคัญคือ คนชั้นกลางไม่ยอมขยายพันธุ์ครับ  :D

 

ในออฟฟิสผมเลย  30+ เพิ่งจะเอาผัวกัน

 

มีผัวเสร็จ หาบ้านหารถ บอกยังไม่พร้อมมีลูก

 

ปาไป36 บอกว่าพร้อมมีลูกแล้ว  ปรากฎว่า

 

มดลูกหมดอายุการใช้งาน :wacko:

 

 

เมื่อเทียบกับเด็กสก๊อยอายุ36 ซึ่งมีลูกอายุ 18

 

และลูกอายุ 18ของสก๊อยคนเดิมมีลูกมา1คน

 

สรุปอดีตสก๊อยอายุ36 ได้เป็นยาย  

 

อีกคนอายุ36 มีบ้านมีรถ แต่หาทายาทไม่ได้

 

นี่แหละความจริงของชนชั้นกลาง

 

 

ขำคุณ Shariff จังหาว่าผู้หญิงอายุ 36 มดลูกหมดอายุแล้ว (ขอต่อสู้เพื่อสิทธิสตรี :lol:  :lol:  :lol:) ดิฉันมีลูกคนแรกตอนอายุ 39 แล้วก็ยังมีได้อีกถ้าไม่ควบคุม จริงๆนะคะไม่ได้โม้

 

:lol:  :lol:  :lol:

 

จริงๆผมพูดเอาฮานะครับ

 

แบบหมั่นไส้สาวๆในออฟฟิส 

 

จะ40 เข้าไปแล้วยังบอกไม่พร้อม  -_-


"การปลดปล่อยตัวเองออกจากความเป็นทาสทางความคิดมิใช่ใครอื่น, มีแต่เราเท่านั้นที่จะต้องกระทำ "จากเพลง Redemption song.

#75 Nong Adis

Nong Adis

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 449 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 12:58

ควายเสื้อแดงรักประชาธิปไตยเพราะทักษิณคือประชาธิปไตย ทักษิณมีเงินให้ใช้ไม่ต้องทำงานมากก็ได้หมื่นห้า เสกสรรค์คือควายเสื้อแดงหลังเขาที่ไม่เข้าใจประชาธิปไตยเอาเสียเลย ทีหลังอย่าออกมาพูดอีกแสดงความโง่ระดับเดียวกับบรรหารควายหลงยุค



#76 Huligan

Huligan

    ดาวพยศนภา

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,880 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 13:10

เข้ามาดูการแถของเหล่ากระบือแดง  :wacko: 


Edited by Huligan, 16 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 13:26.

ทฤษฎีของ เดล คาเนกี ใช้กับเหิ้ยหางแดงไม่ได้*สิ่งที่มองไม่เห็นใช่ว่าจะไม่มีอยู่จริง แต่สิ่งที่มองเห็นได้นั้นน่าเชื่อถือมากกว่า*

#77 Huligan

Huligan

    ดาวพยศนภา

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,880 posts

ตอบ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 16:23

โดยมุมมองส่วนตัว ผมไม่คิดว่าเสกสรรค์จะเชียร์แม้วหรือควายแดง

แต่ แกพยายามจะยึดแต่"มัธยฐาน"เป็นหลัก...และไม่กล้าหักดิบกับ"ฐานนิยม"

ทั้งที่ความเป็นจริงของมาตรฐานด้านความรับผิดชอบทางสังคมในเวลานี้ มันเบ้ขวาแบบสุดขั้ว

คำวิจารณ์ของแกเลยห่างไกลจากความถูกต้องทาง MEAN แบบกู่ไม่กลับ

ขณะที่ อ.ธีรยุทธ จะเน้น MEAN เป็นหลัก...เลยดูไม่ถูกใจพวกคลั่งฐานนิยม 


Edited by Huligan, 16 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 16:24.

ทฤษฎีของ เดล คาเนกี ใช้กับเหิ้ยหางแดงไม่ได้*สิ่งที่มองไม่เห็นใช่ว่าจะไม่มีอยู่จริง แต่สิ่งที่มองเห็นได้นั้นน่าเชื่อถือมากกว่า*

#78 redfrog53

redfrog53

    เกิดที่รัสเซีย มาโตที่ สรท.

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 25,221 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 12:38

Suvinai Pornavalai
(เสกสรรค์ ยังคงเป็น"พี่เสก"ของผม) 
กระแสตอบรับปาฐกถาของอาจารย์เสกสรรค์ในวาระครบรอบ๔๐ ปี ๑๔ตุลาเรื่อง"เจตนารมย์๑๔ ตุลาเพื่อประชาธิปไตย"ของฝ่ายต่อต้านระบอบทักษิณนั้นไม่ค่อยดีเอาเสียเลย ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะโทนของปาฐกถานี้ออกจะเอาใจฝ่ายเสื้อแดงมากไปหน่อย แต่สะท้อนความเป็นจริงที่คลาดเคลื่อนไปจากการรับรู้ของฝ่ายที่ต่อต้านระบอบทักษิณ
ผมรู้จักพี่เสกทางความคิดและติดตามการเติบใหญ่ทางจิตวิญญาณของพี่เสกมานาน ต้องบอกว่านานมากทีเดียวจนกระทั่งกลายเป็นหนังสืออีกเล่มหนึ่งของผมที่ชื่อ"เสกสรรค์กับมังกร"ที่ผมมอบให้สำนักพิมพ์สามัญชนจัดพิมพ์ให้ในวาระครบรอบ๖๐ ปีของพี่เสก
พี่เสกเป็นคนที่เห็นทุกข์มาก่อนและรู้ทุกข์เป็นอย่างดี โดยเฉพาะทุกข์ที่มาจากความคิดและการปรุงแต่ง"ตัวตนอันสูงส่ง" 
ในประเทศนี้มีคนน้อยคนนักที่สามารถฝึกตนจนรู้ทัน"อัตตาละเอียด"ของตนเองได้ถึงขนาดนี้
พี่เสกเป็นคนที่ไม่เคยหลงไหลในอำนาจ ไม่เคยหลงไหลในเงินทองตั้งแต่หนุ่ม ถ้าจะมีสิ่งที่พี่เสกยึดติด สิ่งนั้นก็คือความหลงใน"ตัวตนอันสูงส่ง"ของตัวเขาเองที่สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์๑๔ ตุลาที่ทำให้ตัวเขากลายเป็น"ฮีโร่จำเป็น"
ตอนที่ผมเคลื่อนไหวร่วมกับพันธมิตรในปี๒๕๔๙ พี่เสกเคยเตือนผมด้วยความหวังดีแต่ไม่ห้ามปรามว่า"ระวังอย่าตกเป็นเครื่องมือของชนชั้นนำ เพราะนี่เป็นการต่อสู้ระหว่างพวกชนชั้นนำกันเอง"ซึ่งการรัฐประหาร ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ได้พิสูจน์แล้วว่ามันเป็นจริงตามนั้น
พี่เสกเป็นนักกลยุทธ์ที่เดินหมากได้อย่างสุขุมและรู้ทันเกมมาตั้งแต่หนุ่ม
เมื่อผมได้ประเมิณจากสิ่งที่ผมรู้จักพี่เสกมาอย่างไม่ฉาบแวยผิวเผินเหมือนคนทั่วไป
ทำให้ผมไม่สามารถสรุปง่ายๆเหมือนคนอื่นๆที่ต่อต้านระบอบทักษิณได้ว่า"พี่เสกเปลี่ยนไป" "หรือพี่เสกขายจิตวิญญาณให้กับทักษิณไปแล้ว อดีตคนเดือนตุลาหลายคนอาจใช่ แต่ไม่น่าใช่คนอย่างพี่เสกอย่างแน่นอน 
เพราะคนที่ข้ามด่านอำนาจและเงินทองมาได้ตั้งแต่หนุ่มอย่างทรนงอย่างพี่เสกและตอนนี้มีชีวิตในวัยเริ่มชราที่ร่างกายมิได้แข็งแรงเหมือนแต่ก่อนแต่ก็ไม่เคยกลัวความตายเพราะเจริญมรณานุสติอยู่เสมอ
คนแบบนี้ผมไม่เชื่อหรอกว่าจะเป็นคนที่ขายวิญยาณให้กับทักษิณเพื่อความสะดวกสบายเล็กๆน้อยในช่วงบั้นปลายของชีวิต
เพราะฉะนั้นบทสรุปที่ผมได้ในกรณีนี้ก็คือ จุดยืนทางการเมืองของพี่เสกได้กลายเป็นจุดยืนของ"การเมืองเชิงบูรณาการ"ไปแล้วคือไม่ใช่ทั้งแดงและเหลือง แต่ต้องการ"ก้าวข้ามทั้งแดงและเหลืองเพื่อหลอมรวมแดงและเหลืองเข้าด้วยกัน"เพื่อการสลายสีและถอดถอนเหตุปัจจัยทางความคิดที่จะนำไปสู่สงครามการเมืองหรือการเข่นฆ่ากันเองเพราะความความขัดแย้งทางความคิด
การสรุปแบบนี้เกี่ยวกับพี่เสกจึงน่าจะสอดคล้องกับพัฒนาการทางจิตที่ผ่านมาทั้งชีวิตของพี่เสกมากกว่าในสายตาของผม
จุดยืนแบบ"การเมืองเชิงบูรณาการ"เป็นจุดยืนที่อาภัพและเป็นเสียงข้างน้อย เพราะเป็นจุดยืนแบบค้างคาวที่ไม่ใช่ฝ่ายหนูและไม่ใช่ฝ่ายนก มิหนำซ้ำยังถูกเข้าใจผิดได้ง่ายจากทั้งสองฝ่าย
เหตุการณ์ล่าสุดที่เพิ่งเกิดกับพี่เสกก็ยืนยันถึงความจริงเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี
 
 
 
 
 
Bunnaroth Buaklee
ผมเห็นด้วยกับอ.สุวินัย ว่าอ.เสก แกไม่ได้ขายวิญญาณให้ทักษิณหรือเอียงข้างแดงซะแล้วหรอกครับ
 
อาจารย์แกติดกับความเป็นคนวงนอกมานานมากแล้ว แล้วก็ถูกบ้อมบ์เป็นวาระๆ ไปส่วนจะวางเฉยอุเบกขาได้แค่ไหนนั้นเสกสรรค์ยุคถอดหมวกคงจะไม่เหมือนก่อน จำได้ว่าตอนที่แขก คำ ผกา ขึ้นเวทีอภิปรายว่าด้วยสลิ่มไทยด้วยวาทกรรมเสียดสีเอามัน จัดคนในชาติที่ไม่เอาด้วยกับแดงกลายเป็นสลิ่มทั้งหมด อ.เสก ก็เป็นหนึ่งในสลิ่มเหล่านั้น ผมได้นั่งกินข้าวกับจารย์เสกหลังจากวาทกรรมสลิ่มเกิดไม่นาน ก็เหมือนแกจะไม่ยี่หระอะไร 
 
ผมสวมวิญญาณเสือปืนไว เขียนบทความว่าด้วยปาฐกถา 14 ตุลาออนไลน์ในห้าโมงเย็นวันที่เสกสรรค์ ประเสริฐกุลพูดจบตอนบ่ายสาม จึงหยิบเอาสิ่งที่ตัวเองสะดุดที่สุด 3 ประเด็นมาพูด ประเด็นสุดท้ายว่าด้วยอำนาจนิยม ที่คงไม่ต้องอธิบายซ้ำแล้วเพราะพี่วิชช์ - สุรวิชช์ วีรวรรณ อธิบายความได้ครบถ้วนกระบวนความไปแล้ว 
 
วันนี้ขอทิ้งท้ายเรื่องนี้ประกอบความเห็นของอ.สุวินัย อีกรอบ เป็น รอบเก็บกวาดสิ่งที่อยากเสนอแต่ยังไม่ได้เสนอ
 
ผมคิดว่าชุดความคิดอ.เสก ในเรื่อง 40 ประชาธิปไตยของอ.เสก ครอบคลุมองค์ประกอบที่กว้างมาก แผ่ไปถึงปัจจัยภายนอก ว่าด้วยทุนข้ามชาติ ซึ่งสำคัญและมีผลต่อ “ระบบ-ระบอบ” มากแต่หลายคนมองข้ามไป อันที่จริงอิทธิพลใหญ่จากภายนอกมีผลต่อระบบ-ระบอบภายในของเรามานานแล้วแหละ ตั้งแต่ยุคอาณานิคม ยุคสงครามโลก ยุคสงครามเย็น มาจนถึงล่าสุดคือว่าด้วย โลกาภิวัตน์ทุนครอบโลก ที่กำลังเป็นอยู่ปัจจุบัน
 
-ปัญหาคือกว้าง แต่ไม่ลงลึกและไม่ผูกให้กระชับ-
 
จุดเด่นของการได้พูด 2 เวที ทำให้สามารถบรรยายเรื่องได้ 2 ตอนที่ไม่ซ้ำกัน คือได้ความกว้าง ความครอบคลุม แต่ปัญหาที่ผมคิดว่าเป็นจุดอ่อนที่สุดของชุดปาฐกถาชุดนี้คือ บทสรุปที่ร้อยเกี่ยวเอาบริบทปัจจัยที่ได้นำเสนอยังไม่กระชับ ชัดเจน ให้คนฟังได้จับเป็นประเด็น นั่นคือ ต้องไปย่อยเคี้ยวประมวลผลเอาเอง อีกประการคือ ไม่ลงลึก เอาแต่ภาพรวม 
 
เพราะคุณลักษณะของสิ่ง/สรรพสิ่ง/ประเภท/กระบวนฯลฯ นั้นไม่ได้มีแค่ด้านเดียว คือมีอย่างน้อย 2 ด้านเสมอ คนเสื้อแดงอาจมีภาพด้านหนึ่งของพลังมวลชนหนุนพรรคการเมืองเพื่อผลประโยชน์กลุ่ม (Interest group) แบบที่อ.เสกนำเสนอ แต่อีกด้านคือพลังที่ฉุดรั้งประชาธิปไตยด้วยหากมีพฤติกรรมที่ไม่สอดคล้องกับวิธีการแบบประชาธิปไตย 
 
เช่นเดียวกัน ภาพด้านที่อ.เสกนำเสนอชนชั้นกลางคือ ผู้ที่เคยก้าวหน้าแล้วไปใช้วิธีการไม่ถูกต้องในรอบ 2549 ทั้งๆ ที่อีกด้านหนึ่งของกลุ่มชนชั้นกลางคือผู้เรียกร้องสิ่งที่เป็นองค์ประกอบพื้นฐานของประชาธิปไตยที่ประเทศนี้ยังให้กับประชาชนไม่ได้
 
ผมคิดว่านี่เป็นจุดที่อ.เสก ละเลยไปนะ -- เพราะพลังต่างๆ มีทั้งด้านบวกและลบ อันนี้เป็นเรื่องที่อ.เสกรู้อยู่แน่นอน ปัญหาคือ ไม่ได้นำเสนอไว้ในชุดปาฐกถา มันเลยเป็นภาพด้านเดียวที่เป็นจุดอ่อนให้เกิดการโต้แย้งไปจนถึงการขว้างก้อนอิฐใส่ 
 
ผมคิดในแง่บวกว่า หากมีการปาฐกถารอบ 3 ในช่วงเดียวกัน ภาพใหญ่ทั้งหลายที่นำเสนอไป 2 วันจะถูกร้อยเชื่อมให้เกิดภาพที่ชัดเจนขึ้น เพราะปาฐกถาใดๆ ก็ตามมีข้อจำกัดที่เงื่อนเวลา ต้องอยู่ในกรอบเวลาและมีประเด็นนำเสนอจำกัด 
 
แต่อย่างไรก็ตามในเมื่อมีแค่ 2 ภาค 13-14 ตุลาดังที่ได้ยินได้ฟัง ผมคิดว่า ปาฐกถาชุดนี้ก็มีจุดอ่อนคือการร้อยเชื่อมชี้ประเด็น ไปจนถึง จุดอ่อนในแง่ของบทสรุปที่ให้คนฟัง(ที่หลากหลายระดับ) ได้เข้าใจง่ายกว่านี้
 
อ.เสกบอกว่า “ทุนข้ามชาติ” (ตลอดถึงทุนใหม่ที่มีลักษณะเดียวกันหรือเป็นพวกกัน) เป็นปัญหาของประชาธิปไตย
 
แล้วบอกว่า “ช่องว่างชนชั้น ความเหลื่อมล้ำ” ที่ขยายออกๆ ก็เป็นปัญหากับประชาธิปไตย 
โดยตรรกะนี้ ทุนใหม่ที่มาเป็นอำนาจใหม่ในปัจจุบัน ก็คือตัวแทนของทุนข้ามชาติ ที่ยากปฏิเสธไม่ดูเหมือนไม่มีนโยบายใดๆ เลยที่ผ่อนหนักเป็นเบา ปะทะปะทัง สร้างเบาะรอง มีแต่จะทะลุ่มทะลุยไปข้างหน้าร่วมกับทุนข้ามชาตินั้น (ล่าสุดก็แก้รธน.มาตรา 190 ไปแล้ว) 
 
ปมปัญหาของประชาธิปไตยปัจจุบันจึงมีหลายเรื่องทับซ้อนกันอยู่ ทุนใหม่ สู้กับ ทุนเก่า อำนาจใหม่ สู้กับ อำนาจเก่า แต่ทั้งหมดยังไม่หลุดจากโครงสร้างแบบเดิมคือ วิธีการ+ความคิดแบบอำนาจนิยม ที่ฝังอยู่ในสังคมนี้มายาวนาน 
 
เมื่อก่อนระบบราชการเป็นตัวแทนของอำมาตยาธิปไตยครอบงำสังคมไทย โครงสร้างของระบบราชการและธรรมเนียมวัฒนธรรมแบบอุปถัมภ์รวมศูนย์ มันเอื้อต่อ “อำนาจนิยม” และง่ายในการฉ้อฉล+รักษาอำนาจ ปัจจุบัน ทุนใหม่พรรคเพื่อไทยทั้งมวลได้ครอบโครงสร้างระบบราชการและใช้ประโยชน์จากธรรมเนียมอุปถัมภ์อำนาจรวมศูนย์อย่างเต็มที่
 
มาด้วยวิธีแบบประชาธิปไตย แทนที่จะกวาดล้างธรรมเนียมแบบแผนแบบอุปถัมภ์ อำนาจรวมศูนย์อันเป็นเครื่องมือของอำนาจนิยม กลับใช้หนทางนั้นหาประโยชน์รักษาอำนาจตนเอง
 
นิยายกำลังภายในบอกว่า การผึกวิทยายุทธ์แบบมารนั้นง่าย สำเร็จง่าย มีอานุภาพสูง เร็วกว่าการก้มหน้าก้มตาฝึกตามแบบธรรมะ ที่มีขั้นตอนสำเร็จช้าแต่ยั่งยืน
 
ทุนใหม่อำนาจใหม่ ชูธงฝ่ายธรรมะ แต่กระบวนท่าทั้งหมดเป็นมารทั้งสิ้น ! 
 
เพราะความไม่มีบทสรุปของอ.เสก จึงทำให้เกิดความย้อนแย้งขึ้นมา เช่น ทุนใหม่ที่เข้ามามีอำนาจรัฐโดยมีมวลชนหนุนหลัง ด้านหนึ่งก่อให้เกิดพัฒนาการสักก้าวสองก้าวในแง่ของการสร้างนโยบายให้ประชาชน แต่อีกด้านหนึ่งที่อ.เสก (พูดแล้วแต่ต้องตีความต่อ) ยังไม่ได้อธิบายให้ชัดคือ ด้วยความเป็นทุนใหม่เป็นนายหน้าโลกาภิวัฒน์มาปกครองแบบนี้ ก็ยากที่จะสร้างประชาธิปไตยถาวรให้เกิดขึ้นได้
นั่นเพราะอ.เสกบอกเองว่า ทุนข้ามชาติ เป็นอุปสรรคต่อ ประชาธิปไตย และมันยิ่งทำให้ความเหลื่อมล้ำถ่างกว้างไปอีก
 
แปลเป็นภาษาของผมคือ ต่อให้พรรคเพื่อไทยและเสื้อแดงเดินหน้าต่อไปแบบนี้เรื่อยๆ ประชาธิปไตยที่แท้จริงยังไม่เกิด ขณะที่ความเหลื่อมล้ำ และการรุกเข้ามาของทุนโลกก็จะมากขึ้นๆ เรื่อยๆ 
 
อ.เสก เห็นด้วยกับการกระจายอำนาจแน่ๆ เพราะเป็นกรรมการปฏิรูปและเป็นคนเขียนรายงานสรุปของกก.ชุดนี้ แถมยังมีทิ้งท้ายสั้นๆ ว่า ควรกระจายอำนาจให้คนเล็กคนน้อยได้มีที่ทางอยู่รอด
 
น่าเสียดายมากที่ไม่มีการย้ำบทสรุป 2 วันปาฐกถาในเชิงแปรเป็นแนวปฎิบัติ ไม่เหมือนอ.ธีรยุทธ ที่ฟันธงโชะเลยว่ากระจายอำนาจคือทางออก
 
ปมปัญหาของเมืองไทยตอนนี้ไม่ว่าฝ่ายไหนคือ “วิธีการ” คนเสื้อแดงก็เหอะอย่าแค่หยิบคำปาฐกถาบางส่วนไปลากเข้าความแล้วตีปีก เพราะขบวนที่เรียกตัวเองว่าเป็นพลังประชาธิปไตยทั้งพรรคและเสื้อแดงน่ะ สวมอยู่บนวิธีการที่ไม่ใช่ประชาธิปไตยมากขึ้นเรื่อยๆๆ แบบที่บางคนไม่รู้ตัวก็มี 
 
เช่น การแก้รธน.เป็นสภาผัวเมียอะไรนั่นมันแค่อยากเอาชนะศึกต่อพลังการเมืองอีกฝ่าย ซึ่งพวกเขาก็เล่นกันอยู่หยิบมือเดียวในโครงสร้างส่วนบน แต่กลับสร้างความหายนะให้กับประชาชนส่วนใหญ่ แถมทำให้ “ระบบ” เสียหายไปอีก ... แก้แล้วควรจะดีขึ้นแต่นี่แก้แล้วระบบไม่ได้ดีขึ้นเลย มันจะกระเทือนต่อ “ระบอบ” ด้วยซ้ำ
 
โดยสรุปคือ ชุดปาฐกถา 2 วันของอ.เสกน่ะ กว้าง ครอบคลุม แต่มันเป็นวิทยานิพนธ์แค่ 4 บทแรกนำเสนอเรื่องราวข้อมูลโน่นนั่นมาวางบนฐานทฤษฎี ข้อมูลบางอย่างที่นำเสนอก็ขาดไปนะเช่นการพยายามมองแบบทวิลักษณ์ หยิบภาพใหญ่มาเสนอมันจึงเกิดการโต้เถียงว่า “ไม่ใช่” ที่สำคัญคือดันขาดบทสำคัญบทสุดท้ายคือบทสรุป 
 
ผมสรุปแทนแล้วกันว่า กระจายอำนาจโดยเร็วครับ 
 
เร่งกระจายก่อนที่ทุนใหม่อำนาจใหม่ที่ผูกกับทุนโลกที่เข้ามาสวมโครงสร้างอำนาจนิยมราชการรวมศูนย์ธรรมเนียมอุปถัมภ์จะพาประเทศของเราเละเทะ การกระจายอำนาจคือหนึ่งในวิธีการแก้อำนาจนิยม(ทั้งเก่าและใหม่) สร้างภูมิคุ้มกันให้ประชาชน หนุนเสริมโครงสร้างส่วนล่างให้เข็มแข็ง แก้การกินรวบประเทศ และที่สำคัญคือ กุญแจแก้ปัญหาประชาธิปไตยไทย ที่อำนาจรัฐทั้งเก่าและใหม่ รวมทั้งทุนเก่าและใหม่ไม่อยากให้เกิดต่างหาก ! 

Posted Image

#79 butadad

butadad

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,119 posts

ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 13:41

ใช่เลย เรามีปัญหาจากระบบอุปถัมภ์  ไม่งั้นเราจะมี นายก ที่มาจากตระกูลเดียวกัน โดยไม่สนใจความสามารถมาต่อเนื่องกันแบบนี้เหรอ






ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน