.
.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิสารพยายามหลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามของ น.ส.สมจิตต์ นวเครือสุนทร ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 เกี่ยวกับการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่ปิดถนนย่านราชประสงค์จนเศรษฐกิจเสียหายนับหมื่นล้านบาทเมื่อปี 2553
โดยอ้างว่าเป็นเรื่องเก่าที่ไม่ควรนำมาเทียบเคียงกัน และอ้างว่าต้องยึดหลักนิติรัฐ นิติธรรม แต่เมื่อถามว่าหากยึดหลักนิติรัฐ นิติธรรม แต่ในวันนี้รัฐบาลได้ปฏิบัติกับผู้ชุมนุมที่อุรุพงษ์ อย่างเสมอภาคกับการชุมนุมของคนเสื้อแดงหรือไม่
นายวิสาร ได้พยายามหลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามโดยใช้วิธีกล่าวหา น.ส.สมจิตต์ พร้อมกับนำภาพที่ น.ส.สมจิตต์ ที่อยู่ในที่ชุมนุมของกลุ่ม คปท. มาแสดงต่อสื่อมวลชน จึงถูกย้อนถามจาก น.ส.สมจิตต์ ว่า ตนไปอยู่ในที่ชุมนุมไม่ได้หรือ
นายวิสาร กล่าวว่า ได้ เป็นสิทธิ แต่ยังคงพยายามที่จะดิสเครดิตด้วยการโชว์รูปภาพต่อและพูดว่าช่วงเช้าตนก็เป็นประชาชนใส่กางเกงขาสั้น แต่ตอนนี้ใส่สูทเป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยก็ทำหน้าที่
จึงถูก น.ส.สมจิตต์ สวนกลับว่า กรณีของท่านก็ไม่แตกต่างจากกรณีของตนเพราะขณะนี้ตนกำลังทำหน้าที่สื่อมวลชน ถามในเชิงตรวจสอบไม่ใช่ชวนทะเลาะขอความกรุณาอย่าเบี่ยงเบนประเด็น
ทำให้นายวิสารพยายามที่จะไม่ตอบคำถามและพูดกับสื่อมวลชนคนอื่นว่ามีใครต้องการถามบ้างหรือไม่ แต่ไม่มีใครถามทำให้ น.ส.สมจิตต์ ยังคงถามต่อว่า
กรณีการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ มีคำพิพากษาถึงสองครั้งว่าเป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย แต่กรณีที่อุรุพงษ์ ยังไม่มีการตัดสินว่าเป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย เหตุใดการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่จึงแตกต่างกัน นายวิสาร อ้างว่า เป็นเรื่องเก่าที่ไม่สามารถนำมาเทียบเคียงได้ จะยึดแค่วันนี้ที่มีอำนาจทุกคนต้องอยู่ใต้กฎหมาย ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองเดินหน้าไม่ได้
Edited by ดอกปีบ, 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 21:29.