ม็อบครึ่งแสนรวมพลที่สถานีรถไฟสามเสน ต้านกฎหมายล้างผิด "เทพเทือก" นำ 50 ส.ส.ปชป.แถลงหน้าพระบรมรูป ร.7 ลั่นหากปล่อยให้รัฐบาลย่ามใจทำในสิ่งเลวร้ายบ้านเมืองจะอยู่ภายใต้เผด็จการ ปลุก ปชช.ทุกสาขาอาชีพออกมาสู้ พร้อมยกระดับจนกว่ารัฐบาลจะยกเลิก เครือข่าย ปชช.เคลื่อนทัพหนุน หมอนัดรวมพลที่ รพ.รามาฯ เดินไปสมทบม็อบอุรุพงษ ์รัฐพล่านสกัดทุกทาง มท.1 สั่งผู้ว่าฯ งัดพ.ร.บ.ปภ.ป้องกันศาลากลาง คาดโทษหากปล่อยให้โดนยึด "เด็จพี่" ป้ายสีเสี่ยน้ำมันเถื่อนหนุนท่อน้ำเลี้ยง "โอ๊ค" พลิ้วพร้อมรับฟังคนเสื้อแดง
เมื่อวันพุธ ที่บริเวณหน้าลานพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัฐสภา แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี, นายอิสสระ สมชัย รองหัวหน้าพรรคภาคอีสาน, นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู รองหัวหน้าพรรคภาคเหนือ, นายถาวร เสนเนียม รองหัวพรรคภาคใต้ พร้อมด้วย ส.ส.ปชป. จำนวน 50 คน แต่งชุดดำ ร่วมแถลงการณ์คัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกทางการเมืองของประชาชน หรือฉบับซุดสอย ที่ล้างความผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษหนีคุกด้วย
โดยนายสุเทพได้อ่านพระราชหัตถเลขาสละราชสมบัติตอนหนึ่งของพระบาทสมเด็จพระปก เกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2477 ความว่า “...ข้าพเจ้ามีความเต็มใจที่จะสละอำนาจอันเป็นของข้าพเจ้าอยู่แต่เดิม ให้แก่ราษฎรโดยทั่วไป แต่ข้าพเจ้าไม่ยินยอมยกอำนาจทั้งหลายของข้าพเจ้าให้แก่ผู้ใด คณะใด โดยเฉพาะเพื่อใช้อำนาจนั้นโดยสิทธิขาด และโดยไม่ฟังเสียงอันแท้จริงของราษฎร...”
นายสุเทพกล่าวว่า บัดนี้เป็นที่ปรากฏแน่ชัดแล้วว่า รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย กระทำการอันสวนทางกับแนวพระราชหัตถเลขาข้างต้นอย่างชัดเจน ด้วยการดึงดันอย่างถึงที่สุดที่จะใช้เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งมีเนื้อหาลบล้างความผิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในคดีทุจริตคอร์รัปชัน รวมถึงความผิดของแกนนำกลุ่มผู้ก่อเหตุร้ายในการชุมนุมทางการเมืองที่มิชอบ ด้วยกฎหมาย พวกเรา ส.ส.ได้พยายามต่อสู้คัดค้านร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง พยายามเรียกร้องต่อรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยให้ถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมออกไป แต่ไม่เป็นผล จนในที่สุดพวกเสียงข้างมากใช้วิธีรวบรัดนำร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร วาระ 2-3 ในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ ดังนั้นจึงเห็นว่า หากปล่อยให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย ย่ามใจในอำนาจเสียงข้างมากทำในสิ่งเลวร้ายเช่นนี้ต่อไป บ้านเมืองจะไร้หลักยึด อยู่ภายใต้อำนาจเผด็จการ
"ขอประกาศว่า ตั้งแต่บัดนี้ กลุ่มสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นำโดยผม จะร่วมกับพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ เคลื่อนไหวต่อต้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมอย่างเข้มข้น โดยในเบื้องต้นขอเชิญชวนพี่น้องคนไทยทั่วประเทศออกมาชุมนุมคัดค้านโดยพร้อม เพรียงกัน ที่บริเวณสถานีรถไฟสามเสน เริ่มตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคมนี้ เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป จากนั้นจะร่วมกับพี่น้องข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พ่อค้า นักธุรกิจ และพี่น้องชาวไทยทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศและทั่วโลก ยกระดับการเคลื่อนไหวจนกว่ารัฐบาลและพรรคเพื่อไทยจะยอมยกเลิกร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมดังกล่าว”
นายสุเทพยืนยันว่า จะเคลื่อนไหวต่อสู้ภายใต้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ เคารพต่อกฎหมายอย่างเคร่งครัด จึงขอเตือนมายังรัฐบาลว่า อย่าลุแก่อำนาจสั่งการใช้อำนาจรัฐที่มิชอบเข้าขัดขวางหรือทำลายการต่อสู้อัน ชอบธรรมของประชาชนเป็นอันขาด เพราะยิ่งจะเป็นการเติมเชื้อไฟแห่งความไม่พอใจของประชาชน จนทำให้สถานการณ์บานปลายจนยากจะเยียวยา
มวลชนครึ่งแสนลุกฮือ
จากนั้น นายสุเทพให้สัมภาษณ์ว่า กลุ่ม ส.ส.ชุดนี้เป็นชุดแรกที่ได้ประกาศตัวออกไปยืนเคียงข้างประชาชน และเพื่อไม่ให้มีผลผูกพันกับพรรค รองหัวหน้าพรรคบางส่วน ได้แก่ นายกรณ์ จาติกวณิช, นางศิริวรรณ, นายอิสสระ และนายถาวร จึงได้ลาออกจากกรรมการบริหารพรรค ซึ่งหลังจากนี้ก็จะมี ส.ส.ชุดอื่นๆ เตรียมตัวมาร่วมต่อสู้ และอาจจะมี ส.ส.จากพรรคอื่นมาร่วมด้วย ส่วนที่พวกตนไม่ลาออกจาก ส.ส.เพราะยังมีหน้าที่ต่อสู้ในสภา โดยต้องอภิปรายคัดค้าน และลงมติแสดงความไม่เห็นด้วยกับร่างดังกล่าว
ด้านนายอิสสระ สมชัย กล่าวว่า ตนพร้อมด้วยรองหัวหน้าพรรคอีก 3 คน ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งโดยไม่ได้รู้เห็นเป็นใจกับพรรค แต่เป็นการตัดสินใจส่วนตัว เพราะหากไม่ลาออก ก็จะทำให้ฝ่ายตรงข้ามยื่นยุบพรรคได้ เพื่อต้องการออกมาเคลื่อนไหวอย่างเปิดเผย เพราะต่อไปนี้เราจะหวังพึ่งสภาต่อไปไม่ได้แล้ว จึงต้องหวังพึ่งประชาชนในการเปิดเผยความจริง เช่น กลุ่มผู้ชุมนุมที่แยกอุรุพงษ์และกลุ่ม สปท.
นายถาวร เสนเนียม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานว่ามีเจ้าหน้าที่ยศ พ.ต.ท. นายหนึ่งโทรศัพท์ไป ส.ก.ของพรรค ปชป. พื้นที่ฝั่งธนบุรี และผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าฯกทม. สอบถามรายละเอียดส่วนบุคคล เช่น ชื่อ และบ้านพัก ว่าอยู่จุดนั้นจุดนี้ใช่หรือไม่ ซึ่งถือเป็นการข่มขู่คุกคาม มีสั่งการไปยังนายสถานีรถไฟสามเสนว่าห้ามใช้สถานที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ด้วย ซึ่งถือว่าเป็นความพยายามสกัดกั้นการชุมนุมของ ส.ส.ปชป.ไม่ล่วงล้ำเข้าไปในพื้นที่สถานี แต่จะชุมนุมบนพื้นที่ถนนกำแพงเพชร 5 จึงขอเตือนรัฐบาลว่า ถ้าประชาชนจะออกมาใช้สิทธิ์ ก็อย่าขัดขวาง เพราะจะทำให้มีผู้ร่วมชุมนุมมากขึ้น และอย่าลิดรอนสิทธิ์ประชาชนมากเกินไป
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง ปชป. เปิดเผยว่า ตนได้รับรายงานว่าขณะนี้ตำรวจสกัดกั้นผู้ชุมนุมที่มาเป็นคันรถ โดยบอกว่าถ้าให้รถชนรถได้ก็ต้องทำ ทั้งนี้ จำนวนผู้ร่วมชุมนุมน่าจะอยู่ที่ 3-5 หมื่นคน
ส่วนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวในรายการฟ้าวันใหม่ ถึงเรื่องการ Reset Zero ที่เริ่มต้นใหม่ว่า มันถอยหลังนะ ถ้าพรุ่งนี้ตนบอกว่าคนเผาบ้านเผาเมืองด้วยความจงใจ เพราะว่าการเมืองขัดแย้งกันอยู่ไม่ต้องรับผิด ถ้าเกิดอุรุพงษ์กับสวนลุมฯ วันนี้มาเผาบ้าง จะดำเนินคดีกับเขาไหม แล้วมัน Zero ยังไง
ด้านนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน กล่าวว่า ในส่วนของเครือข่ายประชาชน 77 จังหวัดได้ประสานและนัดหมายให้เครือข่ายทุกจังหวัดอยู่ในความพร้อมระดับสูง สุด โดยขอให้เดินทางมาก่อนมาสมทบที่เวทีอุรุพงษ์หรือเวทีที่สวนลุมพินี ตั้งแต่คืนวันที่ 31 ต.ค.เป็นต้นไป และให้เตรียมพร้อมอยู่กันยาวยืดเยื้อรอฟังศาลโลกตัดสินคดีปราสาทพระวิหารไป ด้วย
หมอหนุนม็อบอุรุพงษ์
ที่น่าสนใจ "กลุ่มแพทย์ไทยหัวใจรักชาติ" นำโดย ศ.นพ.ประมวล วรุตมเสน อดีตนายกแพทย์สภา อดีตศาตราจารย์แผนกสูตินรีเวชจุฬาฯ ได้เชิญชวนประชาชนเข้าร่วมเดินรณรงค์ต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยแต่งชุดขาว-ดำ นัดแสดงจุดยืนในวันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคม 2556 เวลา 17.00 น. ที่หน้ามูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ฝั่งตรงข้ามอาคารเทพรัตน์ รพ.รามาธิบดี สี่แยกตึกชัย ถนนพระรามหก จากนั้นจะเดินรณรงค์ไปยังเวทีอุรุพงษ์ ก่อนที่จะขยับต่อเนื่องไปยังสถานีรถไฟสามเสน
ที่บริเวณแยกอุรุพงษ์ บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ประชาชนยังคงปักหลักชุมนุมอย่างสงบ โดยนายพานสุวรรณ ณ แก้ว โฆษกเวที คปท. กล่าวปราศรัยว่า ในวันที่ 31 ต.ค.นี้ พรรคประชาธิปัตย์ได้มีการนัดชุมนุมที่บริเวณสถานนีรถไฟสามเสน ทางคปท.จะยังคงปักหลักชุมนุมอยู่ที่แยกอุรุพงษ์ จะไม่มีการเคลื่อนไปยังจุดอื่น โดยในคืนนี้จะมีมวลชนจาก จ.ระนองเดินทางเข้ามาสมทบ และจะมีมวลชนอีกมากที่จะทยอยเข้าร่วมเพิ่มจนเต็มพื้นที่ เพื่อป้องกันการสกัดกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ช่วงค่ำ พ.ต.อ.สมาน รอดกำเนิด ผู้กำกับการ สน.พญาไท เดินทางมายื่นหนังสือให้แก่นายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษา คปท. โดยให้รื้อถอน เคลื่อนย้ายสิ่งกีดขวางการจราจรบริเวณพื้นที่การชุมนุมบริเวณแยกอุรุพงษ์ตาม แนวถนนพระราม 6 ขาออก และพื้นที่ต่อเนื่อง ภายในกำหนด 3 วัน (2 พ.ย.)
นายนิติธรกล่าว ตนยินดีจะไปชำระค่าปรับเป็นครั้งที่ 2 ทั้งนี้ เดิมกลุ่ม คปท.ชุมนุมเพื่อตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลในเรื่องต่างๆ เเต่หาก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมในสภาผ่านการพิจารณาในวาระ 3 เมื่อไหร่ กลุ่ม คปท.จะยกระดับการชุมนุมเป็นขับไล่รัฐบาล
ส่วนท่าทีของรัฐบาล นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพรรค ปชป.เรียกคนให้ออกมาชุมนุมว่า รัฐบาลเข้าใจดีว่าเป็นไปตามกระบวนการในระบอบประชาธิปไตย แต่ที่ขอติงคือกระบวนการทางกฎหมาย ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมถึงแม้จะผ่านสภาผู้แทนราษฎรใน 2-3 วันนี้ ก็ยังคงมีขั้นตอนต่อไปอีก ในชั้นวุฒิสภา และอาจจะมีการยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ถือเป็นไปตามกระบวนการทางรัฐสภา และกระบวนการในระบอบประชาธิปไตย ถ้าฝ่ายค้านไม่เห็นด้วย การต่อสู้ในเชิงความคิดสามารถมีได้ในเวทีรัฐสภา หรือแสดงความเห็นนอกเวทีสภาก็ได้ แต่ต้องไม่ไปละเมิดสิทธิผู้อื่น และไม่ใช่การเรียกระดมคนในลักษณะที่มีการชุมนุมยืดเยื้อเพื่อสร้างแรงกดดัน หรือทำให้เกิดเงื่อนไขที่นำไปสู่ความรุนแรงได้ซึ่งรัฐบาลยอมไม่ได้
ร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การที่นายสุเทพข่มขู่นายกฯ ว่าจะไม่มีแผ่นดินอยู่นั้น ถือเป็นการใช้คำพูดที่สะท้อนนัยความรุนแรง ทำให้สังคมไม่สบายใจ ว่านี่เป็นการเป่านกหวีดเพื่อส่งสัญญาณความรุนแรงทั้งในและนอกสภาใช่หรือไม่ ทั้งยังน่าสงสัยว่ามีความเชื่อมโยงกับกระแสข่าวที่ว่าขณะนี้มีกลุ่มผู้ไม่ หวังดีวางแผนจุดชนวนความรุนแรงเพื่อนำไปสู่ความวุ่นวายเพื่อโค่นล้มรัฐบาล
http://www.thaipost....ws/311013/81434
อ่านความคิดเห็นของหมวดเจ็บดีกว่า....
การที่นายสุเทพข่มขู่นายกฯ ว่าจะไม่มีแผ่นดินอยู่นั้น ถือเป็นการใช้คำพูดที่สะท้อนนัยความรุนแรง ทำให้สังคมไม่สบายใจ ว่านี่เป็นการเป่านกหวีดเพื่อส่งสัญญาณความรุนแรงทั้งในและนอกสภาใช่หรือไม่
ผมเชื่อว่าถ้านายกฯยิ่งลักษณ์จะไม่มีแผ่นดินอยู่ ทำให้สังคมสุจริตชนไทยสบายใจมากกว่า......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า