http://m.tnews.co.th...php?hotID=79405
"สนธิ" วิเคราะห์ชัด!! "ทักษิณ" จนตรอกจ่อเล่นไม่เลือก เตรียม "ล้มกระดาน" สร้างความรุนแรงทิ้งซากความเสียหายให้กับประเทศอย่างยับเยิน
วันนี้ ( 9 ม.ค. ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ อดีตโฆษกแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โดยระบุว่า ตนได้ไปถามนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่าประเมินสถานการณ์บ้านเมืองอย่างไร โดยนายสนธิ วิเคราะห์ว่าทักษิณในเวลานี้แทบจะปิดประตูแพ้ทุกทาง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความล้มเหลวพรบ.นิรโทษกรรม เรื่องแก้ที่มาสว. ยังมีโครงการเงินกู้ 2 ลล. และเรื่องที่ศาลรัฐนูญตัดสิน ม.190 ขัดรธน. แถมยังมีคดีที่รอปปช.ชี้มูลอีกมาก
โดยสนธิ กล่าวอีกว่า ถ้าคิดถึงทักษิณในตอนนี้ต้องใช้คำว่า "กูไม่ได้พวกมึงก็ต้องไม่ได้ด้วย" มีตัวอย่างคือ หักหลังทรยศมวลชนคนเสื้อแดงได้โดยการล้างความผิดให้กับคนที่ตัวเองปลุกระดม ว่าฆ่าคนเสื้อแดงเพื่อเป็นเหตุอ้างในการล้างความผิดให้กับทักษิณเองได้ พร้อมชี้ชัด ทักษิณเตรียม "ล้มกระดาน" ใช้ "ความรุนแรง" ทิ้งซากความเสียหายให้กับประเทศอย่างยับเยิน โดยไม่สนใจอะไรเพราะถือว่าตัวเองอยู่ต่างประเทศไม่มีใครทำอะไรได้
โดยข้อความทั้งหมดมีดังนี้
สนธิ ประเมินคนอย่างทักษิณ "กูไม่ได้พวกมึงก็ต้องไม่ได้ด้วย"
เช้าวันนี้ (9 มกราคม พ.ศ. 2557) ผมเห็นคุณสนธิ ลิ้มทองกุล นั่งอ่านหนังสือกำลังภายในเรื่อง พยัคฆ์ลำพอง เขียนโดย อึ้ง เอง ผมจึงสอบถามคุณสนธิประเมินสถานการณ์บ้านเมืองในเวลานี้อย่างไร?
คุณสนธิ วิเคราะห์ให้ฟังว่าการประเมินในเวลานี้ต้องคิดว่าถ้าเป็นคนอย่างทักษิณจะคิด อย่างไร เราก็จะสามารถวิเคราะห์ต่อได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
1. ภายหลังความล้มเหลวในเรื่อง พรบ.นิรโทษกรรม ทักษิณ ไม่สามารถกลับบ้านได้
2. ความคาดหวังในการกระชับอำนาจทั้งในส่วนของวุฒิสภา เพื่อยึดองค์กรอิสระผ่านการการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มาของ ส.ว.ล้มเหลวไปเรียบร้อยโดยคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
3. ทักษิณคิดแก้เกมด้วยการเลือกตั้งเพื่อสร้างความชอบธรรมทั้งในประเทศและต่าง ประเทศโดยหวังกลับเข้าสู่อำนาจล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง เพราะในเวลานี้ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งให้ได้ ส.ส.25 เขตขึ้นไปซึ่งทำให้ไม่สามารถมีสภาผู้แทนราษฎรและคณะรัฐบาลชุดใหม่ได้ (รัฐธรรมนูญกำหนดให้ สภาผู้แทนราษฎรต้องมี ส.ส. 95% ขึ้นไปจึงจะถือเป็นสภาผู้แทนราษฎรได้ และเปิดประชุมสภาได้)
เมื่อ 28 เขตไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้+22 เขตมีผู้สมัครเพียงคนเดียวต้องให้ได้คะแนนเสียงเกินกว่าร้อยละ 20+ หากการเลือกตั้งไม่สามารถนับคะแนนระบบบัญชีรายชื่อได้ครบทุกหน่วยก็จะไม่ สามารถประกาศ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่ออีก 100 คน หมายความว่าถ้าประชาชนยืดหยัดได้เช่นนี้ ฝ่ายระบอบทักษิณก็จะไม่สามารถกลับเข้าสู่อำนาจได้ในระบบนี้แล้ว
4. การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ที่จะไปเจรจาความตกลงและทำสัญญาระหว่างประเทศโดยปิดหูปิดตาประชาชน ไม่สามารถทำได้จากคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวานนี้ ส่งผลทำให้ข้อตกลงให้ต่างชาติเป็นแนวร่วมหนุนรัฐบาลยิ่งลักษณ์อ่อนแอลง ไม่สามารถขายทรัพย์สมบัติของชาติหรือทรัพยากรให้ต่างชาติได้โดยอิสระเสรี ไม่สามารถแสวงหาประโยชน์ได้อย่างที่วางแผนเอาไว้ได้
5. โครงการเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ที่คาดหวังเอาไว้ว่าจะมีผลประโยชน์อย่างมหาศาลต้องยุติลง การคอร์รัปชั่นที่หลายกลุ่มคาดหวังเอาไว้ก็สิ้นสุดไปด้วย โดยเฉพาะเมื่อยุบสภาไปแล้วก็เดินหน้าไม่ได้โดยรัฐบาลรักษาการ แม้จะเลือกตั้งกลับเข้าสู่อำนาจก็ไม่ได้อีกเพราะการเลือกตั้งไม่สำเร็จอีก เช่นกัน
6. ปปช.ยังต้องมีการชี้มูลอีกหลายคดี ในส่วนของรัฐบาล เช่น การทุจริตจำนำข้าว โครงการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ฯลฯ ยังไม่นับบางคดีในส่วนของสมาชิกรัฐสภาต้องมีการชี้มูลและถูกดำเนินคดีความ ต่อในชั้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นความผิดในการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มาของ ส.ว. และการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ล้วนแล้วแต่เป็นความผิดที่มีโทษร้ายแรง หากยิ่งปล่อยเอาไว้นานวันก็มีแต่ความเสี่ยงรอวันถูกเชือดอย่างเดียว
เมื่อทักษิณล้างความผิดในอดีตของตัวเองไม่ได้ กลับบ้านไม่ได้ เจรจาตกลงขายทรัพย์สมบัติของชาติไม่ได้ ไม่สามารถแสวงหาผลประโยชน์จากการกู้เงินมหาศาล 2 ล้านล้านบาทได้ ไม่สามารถให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์กลับเข้าสู่อำนาจได้ และยังต้องรอวันถูกเชือดจากองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญอีก จึงถือว่าทักษิณได้เข้าสู่การพ่ายแพ้ทุกทิศทางในระบบนี้แล้ว
คำถามคือคนอย่างทักษิณเมื่อพบสถานการณ์เช่นนี้จะคิดอย่างไร?
คำตอบนี้ ก็ให้ดูกรณี พรบ.นิรโทษกรรม ที่หักหลังทรยศมวลชนคนเสื้อแดงได้โดยการล้างความผิดให้กับคนที่ตัวเองปลุก ระดมว่าฆ่าคนเสื้อแดงเพื่อเป็นเหตุอ้างในการล้างความผิดให้กับทักษิณเองได้
และในยามที่ทักษิณไม่สามารถได้รับการล้างความผิดผ่าน พรบ.นิรโทษกรรม ก็ไม่เคยคิดจะสานต่อล้างความผิดให้กับมวลชนตัวเองอีกแต่กลับล้มทั้งกระดาน พรบ.นิรโทษกรรมทุกฉบับโดยยอมทรยศหักหลังคำสัญญาที่ให้ไว้กับมวลชนคนเสื้อแดง ที่เคยสนับสนุนตัวเอง
คุณสนธิวิเคราะห์ว่า คนอย่างทักษิณ "ถ้ากูไม่ได้พวกมึงก็ต้องไม่ได้ด้วย"
เมื่อทักษิณพ่ายแพ้ทุกทิศทาง จึงเต็มเปี่ยมไปด้วยความแค้นที่เจ็บปวด ทุกข์ทรมานใจอย่างแสนสาหัส สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปถ้าคิดแบบทักษิณจึงเหลือหนทางเดียวเท่านั้นคือ "ล้มกระดาน"
และการล้มกระดานจะเกิดขึ้นได้ก็ต้องมีชนวนจาก "ความรุนแรง" เท่านั้น
คุณสนธิ วิเคราะห์ว่า ทักษิณจะจากไปโดยทิ้งซากความเสียหายให้กับประเทศนี้อย่างยับเยิน โดยไม่สนใจอะไรเพราะถือว่าตัวเองอยู่ต่างประเทศไม่มีใครทำอะไรได้
รวมถึงอาจจะฝากความเสียหายบางอย่างให้เป็นสัญลักษณ์ที่ประชาชนรักและเทิดทูน เพื่อแสดงการข่มขู่และอาฆาตมาดร้ายเอาไว้ให้เป็นบาดแผล
สงครามที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้กำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว!!!