เอามาให้อ่านครับ บทวิเคราะห์ เกมส์ ต่อจากนี้
จับชีพจร "ยกสุดท้าย" เกมชิงอำนาจ...สุเทพ "ปรับแนว" เพื่อไปให้ถึง "เป้าหมาย"
แม้ในเบื้องต้น การ "ชี้มูล" ของ ปปช.จะไม่ทำให้ยิ่งลักษณ์ เดือดร้อน เพราะตามปกติ หากโดนชี้มูลจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ เมื่อพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว จึงไม่มีผลอะไร แต่ในระยะยาว คดีนี้จะส่งผลต่อ "อนาคต" ของยิ่งลักษณ์ หนักกว่าคดีย้าย "ถวิล" ที่ทำให้ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกฯหลายเท่านัก เพราะมันหมายถึง "อดีตนายกฯหญิงคนแรกของประเทศไทย" อาจจะไม่ได้หวนกลับสู่เวทีการเมืองอีกครั้ง และมีสิทธิโดนสั่ง "จำคุก"
นั่นคือ หากวุฒิสภา มีมติ "ถอดถอน" ยิ่งลักษณ์ จะส่งผลให้เธอต้องถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี และขาดคุณสมบัติในการสมัคร ส.ส.ตลอดไป (รัฐธรรมนูญมาตรา 102 กำหนดลักษณะบุคคลต้องห้ามลงสมัคร ส.ส. ไว้ใน (12) ว่า เคยถูกวุฒิสภาถอดถอน) และอีกขาคือ คดีอาญา ซึ่งความผิดตามที่ยิ่งลักษณ์ ถูกกล่าวหาว่า "เพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหาย" ที่เกิดจากโครงการรับจำนำข้าว มีโทษจำคุก 1-10 ปี
หลังคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ และ ปปช. ทาง กปปส. ได้เปลี่ยนวัน "เผด็จศึก" ให้เร็วขึ้น เพราะไม่ต้องการให้รัฐบาลตั้งตัวได้ จากเดิมนัดหมายวันที่ 14 พฤษภาคม เปลี่ยนมาเป็น เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา คือ 9 พฤษภาคม โดยมีปฏิบัติการ "ดาวกระจาย" ไปตามสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวีทุกช่อง แต่ชัดเจนว่าเป้าหลักของการเคลื่อนไหวของ กปปส.ในวันดังกล่าวที่ "การประชุมวุฒิสภา" ที่สภาผู้แทนฯ เพื่อเลือก "ประธานวุฒิสภา" คนใหม่
ตามแผนที่มีการกำหนดไว้ คือ หาก "สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย" ได้รับเลือกเป็นประธานวุฒิสภา กปปส.ก็จะเดินเกมอย่างหนึ่ง แต่หาก ส.ว."สายรัฐบาล" ได้รับเลือก ก็จะเดินเกมอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งแน่นอน หากเป็นแบบหลังการเดินเกมจะเป็นแบบเข้มข้น ดุเดือด
และที่สุด "สุรชัย" ซึ่งยังคงมีฐานะเป็น "รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ปฏิบัติหน้าที่ประธานวุฒิสภา" ก็ได้ตำแหน่งดังกล่าวมาด้วยการลงคะแนนแบบม้วนเดียวจบ ด้วยคะแนนสูงถึง 96 เสียง ซึ่งคะแนนนี้เป็นคะแนนที่มีนัยะสำคัญอย่างมาก เพราะเกิน 3 ใน 5 ของจำนวน ส.ว.ทั้งหมดที่มีอยู่ 150 คน นั่นคือ หากคะแนนจำนวนนี้เหนียวแน่นกันจริงๆ อาจจะทำให้วุฒิสภาที่ไม่เคยถอดถอนใครได้สามารถ "ถอดถอน" บุคคลได้ ซึ่งแน่นอน บุคคลที่เป็นเป้า คือ "ยิ่งลักษณ์", "นิคม ไวยรัชพานิช" อดีตประธานวุฒิสภา ผู้ซึ่งมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับฝ่ายเพื่อไทย และ "สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์" อดีตประธานรัฐสภา ที่ถูกร้องถอดถอนจากกรณีแก้รัฐธรรมนูญเรื่องที่มา ส.ว.
เรื่อง "ถอดถอน" เป็นเพียงมุมหนึ่งที่สะท้อนออกมาหลังการเลือกประธานวุฒิสภา แต่จุดที่น่าสนใจมากกว่า คือ การ "รุก" ของกปปส. เพื่อให้ "ประธานวุฒิสภา" เป็นกลไกหลักในการสร้าง "รัฐบาลคนกลาง" ให้กับ กปปส.
จากเดิมที่สุเทพ เคยประกาศว่าจะเป็นผู้ทูลเกล้าฯชื่อนายกรัฐมนตรี และเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการด้วยตัวเอง ซึ่งทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ตอนนี้สุเทพ "โยน" ภาระดังกล่าวไปที่ "ประธานวุฒิสภา" โดยเรียกร้องให้ประธานวุฒิสภา ไปหารือกับ ประธานศาลฎีกา ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานศาลปกครองสูงสุด และ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อดำเนินการให้มี "นายกฯคนใหม่"
ชัดเจนว่า สุเทพ มีการปรับยุทธวิธีในการเดินเกมใหม่ เพราะน่าจะตระหนักดีว่า การจะเดินไปให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ ด้วย "วิธีเดิม" ของตัวเองนั้น เป็นไปได้ยากเต็มที จึงพยายามปรับ "วิธีทำ" ใหม่ ให้อยู่ในกรอบรัฐธรรมนูญให้มากที่สุด นั่นคือใช้กลไกองค์กรตามรัฐธรรมนูญที่มีอยู่ นำโดย "ประธานวุฒิสภา" ซึ่งตอนนี้ต้องถือว่า เป็น "ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ"
แต่ทุกอย่างก็ไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างที่ "กำนันสุเทพ" อยากได้ เรื่องยากอย่างแรก คือ "สุรชัย" จะรับลูก กปปส.แค่ไหน? ถ้าสุรชัย รับลูก ก็ยังมีอุปสรรค
ขั้นสอง คือ ประธานศาลฎีกา ประธานศาลรัฐธรรมนูญ และ ประธานศาลปกครองสูงสุด จะเข้ามาร่วมวงหารือด้วยหรือไม่? ขั้นที่สาม คือ หากวงหารือนี้เกิดขึ้นได้จริง แนวทางที่วงหารือนี้แถลงออกมาจะเป็นที่ยอมรับ และปฏิบัติได้จริงหรือไม่ เพราะถึงที่สุด ก็ต้องยอมรับว่า "รัฐบาลพรรคเพื่อไทย" ยังมีสภาพเป็น "รัฐบาลรักษาการ" อยู่ แม้ "สัญญาณชีพ" จะแผ่วเบาเต็มที แต่ก็ยังมีชีวิต
ดังนั้น แม้ "กำนันสุเทพ" จะปรับแนวทางแล้ว แต่ก็ยังยาก ที่จะบรรลุเป้าหมายได้ จึงต้องเตรียม "แผนสอง" ไว้ คือ หากอาศัยมือคนอื่นไม่ได้ ก็ต้องทำ "ด้วยตัวเอง" ซึ่งจากการปราศรัยของสุเทพ ก็ปรากฏให้เห็นชัดเจนว่า จะ "เผด็จศึก" สำเร็จหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับ "จำนวน" ของมวลมหาประชาชน ว่าจะมากพอที่จะกดดันทำให้ "กลไกอำนาจรัฐ" อันได้แก่ ข้าราชการ และ "กองทัพ" เปลี่ยนท่าทีได้หรือไม่
"เกมชิงอำนาจ" จะจบหรือไม่ จะจบอย่างไร หรือจะเป็นแค่"พักยก" เพื่อรอเวลามาสู้กันใหม่...สัปดาห์นี้ได้รู้กัน!!
http://www.bangkokbi...ให้ถึงเป้า.html
..........................................................................................
จบแน่ๆ แต่จะทำอย่างไรให้จบในแบบที่ถูกต้อง นี่คือความยากครับ แต่ที่แน่ๆ ระบอบทักษิณได้ถอยร่นมาเรื่อยๆแล้ว แทบจะเรียก
ได้ว่า ไม่มีที่ยืน ยอมรับแนวทางของลุงกำนันมากขึ้น
แก้ไขปรับขนาดบรรทัดให้อ่านง่ายครับ
Edited by ธีรเดชน้อย, 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 09:37.