http://www.bangkokbi...ั้งตามก.ม..html
กกต.เปิดอกคุยกปปส. "ศุภชัย"วอนเห็นใจทำหน้าที่จัดการเลือกตั้งตามก.ม. ชี้พ.ร.ฎ.เลือกตั้งเป็นพระราชอำนาจ
นาย สาธิต เซกัล กรรมการ กปปส.พร้อมคณะประกอบด้วย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ นพ.ระวี มาศฉมาดล นายคมสันต์ ทองศิริ พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคนี เดินทางเข้าพบและยื่นจดหมายเปิดผนึกต่อกกต.ทั้ง 5คน เพื่อขอให้พิจารณาเลื่อนกำหนดวันเลือกตั้ง2ก.พ.2557ออกไปก่อนจนกว่าจะมีการปฏิรูปประเทศไทยเสร็จสิ้น โดยนายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต.นำกกต.มาพบตัวแทนกปปส. ขาดเพียงนายบุญส่ง น้อยโสภณ กกต.ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย เพียงคนเดียวที่ไม่ได้มาร่วมหารือ
นายสาธิต กล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบันวิกฤติ พวกตนเป็นห่วงว่าหากมีการเลือกตั้งวันดังกล่าว ปัญหาคงไม่จบ จึงมีความจำเป็นต้องมาหารือกับกกต. เพื่อให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไป เพราะกลไกที่มีอยู่ไม่สามารถดูแลการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรมได้ 10 ปีที่ผ่านผู้ทุจริตก็หาวิธีหลีกเลี่ยง การซื้อสิทธิขายเสียงมีทุกระดับ กกต.มีกลไก ระบบ ระเบียบ แต่ไม่สามรถป้องกันได้ บทลงโทษไม่เพียงพอ การให้ใบแดง-ใบเหลือง คนกลุ่มนี้ก็หาวิธีหลีกเลี่ยง
ต่อมานายสมศักดิ์ ได้อ่านจดหมายเปิดผนึกของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส.เรื่อง ขอให้พิจารณาเลื่อนกำหนดวันเลือกตั้งออกไป ตอนหนึ่งว่า กปปส.มีเจตนารมณ์ร่วมกันกำจัดระบอบทักษิณให้สิ้นไปจากประเทศไทย ทั้งมีเจตนารมณ์มุ่งมั่นในการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยโดยวิธีการปฏิรูปประเทศ ไทยอย่างน้อย 5 ด้านซึ่งการปฏิรูปดังกล่าวต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร โดยประชาชนได้แสดงออกถึงความต้องการในการกำจัดระบอบทักษิณและต้องการปฏิรูป ประเทศไทยโดยเปิดเผยตัวตนบนท้องถนนไม่น้อยกว่า 2 ล้านคนในวันที่ 24พ.ย.2556 และไม่น้อยกว่า 5 ล้านคนในวันที่ 9 ธ.ค.2556
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า เมื่อมีการตราพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้ง2ก.พ.2557 มวลมหาประชาชนไม่ได้ปฏิเสธการเลือกตั้ง แต่มีความเห็นเป็นหนึ่งเดียวว่าต้องมีการปฏิรูปประเทศไทยให้เสร็จสิ้นก่อน ทั้งการเลือกตั้งในวันดังกล่าวมิอาจแก้ไขปัญหาของประเทศไทยในขณะนี้ได้ มิอาจหยุดยั้งวงจนอุบาทว์ทางการเมือง ทั้งเปิดโอกาสให้บุคคลและพรรคการเมืองที่ต้องการได้มาซึ่งอำนาจในการปกครอง ประเทศโดยวิธีการที่ไม่ได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ และไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งยังไม่ได้รับโทษตามกฎหมาย มาสร้างความเสียหายให้กับประชาชน ประเทศชาติ และทำให้สูญเสียงบประมาณจำนวนมาก ไม่เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง และผลสำวจของกรุงเทพโพลล์ หัวข้อประเทศไทยกับการปฏิรูป ประชาชนร้อยละ 79.3 เห็นว่าเวลานี้ประเทศไทยจำเป็นจะต้องมีการปฏิรูปด้านต่าง ๆ
"กปปส.ขอเสนอความเห็นต่อ กกต.โปรดพิจารณาเลื่อนกำหนดวันเลือกตั้งออกไปก่อน จนกว่าการปฏิรูปประเทศไทยจะเสร็จสิ้น ทั้งนี้ กกต.สามารถ ใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายเสนอความเห็น คำปรึกษา คำแนะนำต่อรัฐบาลรักษาการ ทั้งการเลื่อนกำหนดวันเลือกตั้งสามารถกระทำได้ตามบทบัญญัติมาตรา 184 และมาตรา 187รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย"นายสมศักดิ์ กล่าว
ต่อมานายสมเกียรติ กล่าวว่า การเลือกตั้งวันที่2ก.พ.2557อาจจะเหมือนการเลือกตั้งวันที่ 2 เม.ย.2549 ในครั้งนั้นคนไม่ไปใช้สิทธิ์กว่า 9 ล้านคน บัตรเสียกว่า 1ล้านกว่าคน และศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 9ต่อ 5 ให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ คิดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะเกิดตามรอยเดิมแต่ร้อนแรงกว่า วุ่นวายกว่า โดยเฉพาะ 14จังหวัดภาคใต้ มีผู้สมัครไม่ได้เสียงเกิน20% ความวุ่นวายจะเกิดขึ้น หากได้ ส.ส.ไม่ครบก็เรียกประชุมสภาไม่ได้ การเลือกตั้งคงวุ่นวายอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน เพราะเลือกตั้งไม่ได้ในบางเขต กทม. เกิดโกลาหล ดังนั้นการเลือกตั้งคงไม่สุจริต เที่ยงธรรมตามมาตรา 135 ที่ กกต.ต้องจัดการเลือกตั้งให้สุจริตเที่ยงธรรม
"ผมอยากเสนอแนะ กกต.ควร ทำหนังสือไปยังศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ว่า การไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ รัฐบาลหมดความชอบธรรมที่จะออกกฎหมายใด ๆ และควรหากฎหมายมาอธิบายว่าเป็นเหตุสุดวิสัยจนต้องเลื่อนการเลือกตั้งออกไป คิดว่าหากมีการเลือกตั้งคงมีผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนนและบัตรเสีย 10กว่าล้านคนขึ้นไป มีแต่ กกต.เท่านั้นที่จะหยุดยั้งปัญหาได้" นายสมเกียรติ กล่าว
ด้านนายคมสันต์ กล่าวว่า หากมีการเลือกตั้งวันดังกล่าวไม่รู้ว่าจะเกิดอะไร จะเกิดการยอมรับหรือไม่ ในฐานะผู้เสียภาษีเสียดายเงิน เสียดายงบประมาณแผ่นดิน มีคนบอกว่าให้เลือกตั้งก่อนแล้วปฏิรูปตนยอมรับไม่ได้ ขอให้ กกต.กล้าตัดสินใจเลื่อนวันเลือกตั้งออกไปให้มีการปฏิรูปก่อน
จากนั้นนพ.ระวี กล่าวว่า เราไม่ยอมรับการเลือกตั้งวันดังกล่าวเเละจะรณรงค์ให้มีการปฏิรูปประเทศให้เสร็จก่อนเลือกตั้ง เชื่อมั่นว่า กกต.มี ความตั้งใจทำเพื่อบ้านเมือง แต่ภายใต้กฎกติกานี้ แม้จะมีพลังอำนาจแค่ไหนก็เป็นไปได้ยากที่จะทำให้การเลือกตั้งสุจริต การซื้อเสียงมีมาอย่างต่อเนื่อง จำเป็นต้องมีกฎหมายใหม่มาดูแล
ด้าน นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้าน กิจการริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า ชื่นชม กปปส.ที่ปรารถนาดีต่อบ้านเมือง ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี มีวิธีการคิดที่ดี สิ่งที่ กปปส.เสนอมานั้น แม้ กกต.เห็นว่าเป็นแนวคิดที่เป็นประโยชน์ แต่การทำงาน กกต.อยู่ในข้อจำกัดหลายเรื่อง การออกประกาศ คำสั่งสามารถทำได้ทันที แต่ถ้าไปแก้ไขกฎหมายที่สูงขึ้น กกต.มี ข้อจำกัด อย่างการเสนอให้เลื่อนวันเลือกตั้งตามมาตรารัฐธรรมนูญ มาตรา 184 นั้น ดูจากเนื้อหาสาระรัฐบาลต้องออกเป็นพระราชกำหนดแต่ต้องเป็นเรื่องที่เร่งด่วน ถ้าไม่ทำจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ และมาตรา 187 พระมหากษัตริย์มีพระราชอำนาจในการตราพระราชกฤษฎีกาซึ่งขึ้นอยู่กับพระบรมราช วินิจฉัยของพระมหากษัตริย์
"การเลื่อนหรือไม่เลื่อนวันเลือกตั้ง ผมมองว่าไม้แรก คือ ฝ่ายการเมืองต้องตกลงกันก่อน ประเด็นกฎหมายเป็นไม้ที่สอง และ กกต.เป็นไม้ที่สาม ถ้าการเมืองตกลงกันได้ว่าเลื่อนการเลือกตั้ง และกฎหมายชี้ช่อง กกต.ยินดีจะเลื่อนการเลือกตั้งออกไป 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี หรือ 2 ปี เพราะ กกต.เพิ่ง เข้ามาก็ไม่ได้เชี่ยวชาญการเลือกตั้ง แต่หากเลื่อนวันเลือกตั้งไม่ได้จริง ๆ อยากเรียกร้องให้ กปปส.ทำให้การเลือกตั้งดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ มาช่วยกันตรวจสอบ รณรงค์ให้ประชาชนเกิดการตื่นตัว การเลือกตั้งอาจจะไม่ได้ผลสมบูรณ์100% การซื้อเสียงจาก 100% อาจเหลือ50-80% อย่างการเลือกตั้งในครั้งนี้ตนทีมยุทธศาสตร์ขึ้นมาปราบปรามการทุจริตเลือก ตั้ง ก็ยินดีให้ กปปส.ส่งตัวแทนมา 1 คน มานั่งพูดคุยกัน"กกต.กล่าว
นายสมชัย กล่าวต่อว่า การส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญไม่ใช่หน้าที่ของ กกต. องค์กรที่เหมาะสมกว่าคือผู้ตรวจการแผ่นดิน เมื่อถามถึงกรณีที่ผบช.น.เสนอให้นายกฯเลื่อนวันเลือกตั้งออกไปหลัง กปปส.มีแนวโน้มจะปิดล้อม กกต.ให้ รับสมัครไม่ได้ นายสมชัย กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลเห็นว่ามีความจำเป็น เป็นสถานการณ์เร่งด่วนจำเป็นต้องเลื่อนการออกตั้งออกไป ก็เป็นอำนาจรัฐบาลจะตัดสินใจออกพระราชกำหนดภายใต้สถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ต้องขอความเห็นชอบจาก กกต.ด้วย ยกตัวอย่างถ้าเกิดภัยพิบัติ เช่น สึนามิถล่มเหมือนญี่ป่น ประเทศชาติประกาศสงคราม คงไม่มีใครไปเลือกตั้ง
ต่อมานายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. กล่าวว่า พระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งเป็นพระราชอำนาจพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กปปส.ต้องเห็นใจ กกต.ด้วย เราก็เพิ่งรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง เราเห็นด้วยปฏิรูปการเลือกตั้ง ถ้าเลื่อนวันเลือกตั้งไม่ได้จริง ๆ อยากให้เข้ามามีส่วนร่วม
"ไม่ใช่ว่าเราไม่สนใจ เราเห็น เรารับทราบปัญหา แต่ กกต. มีหน้าที่ตามกฎหมาย คือ จัดการเลือกตั้งให้สุจริตและเที่ยงธรรม ข้อเสนอของ กปปส.เราไม่ได้นิ่งดูดาย จะนำไปหารือกัน เราเห็นใจท่าน แต่ท่านก็ต้องเห็นใจเราด้วย ถ้าเรามีอำนาจเราทำได้ เราเข้ามาก็อยากให้บ้านเมืองสงบ นี่พูดด้วยใจ ตอนนี้บ้านเมืองอยู่ในวิกฤติ เราต้องยอมเสียสละ ทุกคนเข้ามาด้วยใจ ผมเห็นทุกสิ่งทุกอย่าง เรามาอยู่ตรงนี้รู้ว่าการเลือกตั้งเป็นอย่างไร ผมยังคิดเลยว่าคนที่ไม่มาเลือกตั้งแล้วไปลงโทษเขา แต่คนมาเลือกตั้งเราไม่ได้ให้ประโยชน์กับเขาเลย ส่วนตัวผมเคยคิดว่าคนมาเลือกตั้งควรให้ค่าพาหนะเขา เหมือนการเลือกสหกรณ์ให้ 500 บาท ผมรู้ถ้าให้ต้องใช้เงินเยอะ การให้เงินจะป้องกันการซื้อเสียงได้ และเห็นว่าเงินสนับสนุนพรรคการเมืองไม่ควรให้ ควรเอาไปให้ประชาชนมากกว่า"ประธาน กกต. กล่าว
นายประวิช รัตนเพียร กกต.ด้านการมีส่วนร่วม กล่าวว่า ไม่ใช่ว่ากกต.ไม่ รู้ร้อนรู้หนาว เรารู้ เราก็พยายามทำให้ดีที่สุดในอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ ในจดหมายเปิดผนึกที่ยื่นวันนี้ข้อความทั้งหมดจะได้รับการพิจารณาจาก กกต. 5 คนอย่างตรงไปตรงมา แต่ไม่รู้จะทำได้มากน้อยแค่ไหน ย้ำว่าเราเข้าใจสถานการณ์
ด้านนายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ กกต.ด้าน กิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ กล่าวว่า ขอบคุณที่ให้เกียรติ คาดหวังกับพวกเรา รู้สึกว่าเป็นภาระหน้าที่ที่จะมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาบ้านเมืองย่างเต็มที่ เรารู้ว่าวิกฤติที่เสนอมาเป็นข้อเท็จจริงที่รับทราบ แต่ต้องเข้าใจว่า กกต.เป็น ผู้ดำเนินการเลือกตั้ง ไม่มีกฎหมายที่บอกว่าไม่ให้ดำเนินการเลือกตั้ง ดังนั้นเป็นหน้าที่ หลีกเลี่ยงไม่ได้ ด้วยความเห็นใจด้วยความรู้สึกผูกพัน โดยบทบาทหน้าที่ กกต.มี หน้าที่พิทักษ์หลักนิติธรรม นิติรัฐให้เป็นไปตามระบบ ส่วนความรู้สึกความผูกพัน ความเห็นใจ ตนเคารพทุกท่านรู้สึกเสียสละ จริงจังกับปัญหาบ้านเมือง ควรบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ ปัญหาที่ฝากไว้เราจะหาช่องทางที่มีทางออกให้เหมาะสมกับสภาวะองค์กร ไม่ละทิ้งอยู่เฉยแน่นอน.
กกต.คงนึกในใจ...ทำไม่ถึงต้องเป็นเรา...
Edited by คนกรุงธน, 17 December 2013 - 16:26.