ช่องเก่า หายไป เพราะ(น่าจะ)โดนรีพอร์ต
วันนี้ มีช่องทางใหม่แล้ว
เย้ๆ วันไหนไม่ได้ดูใจจะขาด
ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 05:53
ช่องเก่า หายไป เพราะ(น่าจะ)โดนรีพอร์ต
วันนี้ มีช่องทางใหม่แล้ว
เย้ๆ วันไหนไม่ได้ดูใจจะขาด
ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 07:19
POPULAR
วันนี้จะไปมอบช่อดอกไม้ให้กำลังใจแก่ นพ.สสจ.สิงห์บุรี ครับ (โดนกลุ่มพายัพปลดป้ายออกเมื่อ3มีค.) คนดีต้องชื่นชม ส่วนคนชั่วเราต้องประนามครับ
ช่วยกัน...ช่วยกัน.....
ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 07:24
POPULAR
"ข่าวดี ลุงถวิลบอกถ้าป้าปูไม่คืนตำแหน่งให้ เจอกันที่ศาล ไอ้ขี้ข้าที่ยุไม่ติดแต่ป้าปูโดนเต็มๆ คิดสิคิด...."
'ถวิล'ชี้ยากแค่ไหนก็ต้องคืนตำแหน่ง
'ถวิล' โต้ 'พงศ์เทพ' ถามศาลหรือยัง ยกกรณีคืนตำแหน่งข้าราชการในอดีตเป็นแนวทาง ลั่นขอนิ่งๆ ปล่อยให้เป็นเรื่องนายกฯ กับศาล
9 มี.ค. 57 นายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ กล่าวถึงกรณี นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รักษาการรองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ขั้นตอนการคืนตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ซับซ้อน อาจไม่ทันภายในเวลา 45 วัน ตามที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่ง ว่า ตนตั้งข้อสังเกตว่าเร็วเกินไปหรือไม่ ที่ออกมาพูดว่ากระบวนการสลับซับซ้อน รัฐบาลได้มีการพยายามปรึกษากับทางศาลแล้วหรือยัง หรือเป็นเพราะมีปัญหากับตนหรือไม่ โดยที่ผ่านมาศาลปกครองสูงสุดเคยมีคำสั่งคืนตำแหน่งให้กับข้าราชการมาแล้ว หลายคน อาทิ กรณีนายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พานิช อดีตอธิบดีกรมการปกครอง หรือนายพีรพล ไตรทศาวิทย์ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับตน และสามารถคืนตำแหน่งได้ ดังนั้น เมื่อมีแนวทางอยู่แล้วจึงไม่น่าจะยากอะไร ตอนย้ายตนออกจากตำแหน่งเลขาธิการสมช.ยากกว่านี้ และถึงยากก็ควรปฏิบัติเพราะเป็นคำสั่งศาลปกครองสูงสุด
"มีกรณีของนายวงศ์ศักดิ์ และนายพีรพล เป็นตัวอย่างอยู่แล้ว หากทำตามแนวทางดังกล่าว ก็ไม่น่าจะยาก อีกทั้งคนที่ได้รับผลกระทบ คือคนของท่านเอง น่าจะพูดจากันได้ ไม่เห็นจะยากอะไร น่าจะเร็วขึ้นด้วยซ้ำ"
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการปรึกษากับทีมกฎหมายหรือไม่ หากเกิดกรณีที่มีการยื้อเวลาเพื่อคืนตำแหน่ง นายถวิล กล่าวว่า มีคนเสนอเยอะ โดยเฉพาะแนวทางต่อสู้ตามกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญา แต่ตนอยากนิ่งๆ ทำใจร่มๆ ไว้ก่อน ไม่อยากคิดอะไรมาก เพราะผ่านความวิตกกังวลและความเดือดร้อนมาพอสมควรแล้ว ตนถือว่าเป็นเรื่องของนายกฯ กับศาลปกครองสูงสุด ไม่ใช่เรื่องระหว่างตนกับนายกฯ แล้ว เพราะศาลตัดสินเรียบร้อย
ส่วนกรณีที่ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสมช. ฝากให้เป็นข้าราชการที่ดีเชื่อฟังผู้บังคับบัญชา นายถวิล กล่าวว่า ตนอยากนิยามว่า ข้าราชการที่ดีจะต้องเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาที่มีเหตุผล ยึดผลประโยชน์ของชาติบ้านเมือง และต้องนิยามด้วยว่า ข้าราชการที่ดีต้องไม่ใช่ข้าราชการที่ฉวยโอกาส ทำร้ายพวกเดียวกันเองเพื่อให้เติบโตขึ้นมา
#คมชัดลึก
ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 07:25
POPULAR
ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 07:29
กระบวนการทำลายล้าง กปปส.ด้วยข้อหาปฏิรูปพลังงาน
จากกลุ่มคนหวังทำลายล้างที่พอจะมองเห็นตัว !!
ข้อคิดดีๆ จากคุณไพศาล พืชมงคล
-------
การตีจากภายนอกด้วยข้อหาสารพัด ปืน ระเบิด ที่ว่าหนักยังระวังไม่ยากและมัทหารมาช่วยดูแล
แต่ตีจากภายในก็หนักไม่แพ้กัน และทหารก็มาช่วยไม่ได้ นอกจากสติปัญญารู้เท่าทัน
เรื่องใดที่ทำให้ทะเลาะกันเอง เรื่องนั้นคือปรากฎการณ์ที่ตีมาจากภายใน ใครทำให้ตักันเอง คนนั้นคือข้าศึกที่แฝงมาตีจากภายใน
ดูกันเองก็เห็นได้กระจ่าง จะยอมเป็นเหยื่อไหมโยม
เวทีไหนพูดเรื่องโค่นระบอบปิ๊ลิ้มบ้างครับ ผมไปแน่นอน
ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 07:43
POPULAR
มหากาพย์การผจญภัย อลังการงานต่อแสนชุลมุน สุดหรรษา เรื่องราวของหุ่นเลโก้ตัวเล็กแสนธรรมดา ที่รวบรวมมวลมหาประชาเลโก้ เพื่อหยุดยั้งทรราชย์ ผู้ชั่วร้าย ที่จะนำไปสู่การพิทักษ์โลก จนเมืองเกือบพังทลายแทบต่อไม่ทัน! *หมายเหตุ : ภาพยนตร์ฉายจำกัดโรง เพราะยุบโรงปทุมวัน ราชประสงค์ อโศก สีลม ฉายเฉพาะสวนลุม ซีนีเพล็ก และ อิสระ ซีนีม่า แจ้งวัฒนะ
ขำๆ คลายเครียดคะ แต่ใจจริงก็อยากให้เลโก้ทำจริงๆสักชุดนะ จะได้เก็บเป็นที่ระลึก
ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 08:00
แร๊งงงงงงงงงงง
เข้าใจหากระไดนะกำนัน บิ๊กๆทั้งนั้น
ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 08:28
เพื่อชาติ เพื่อพ่อหลวง
คงเหนื่อยมาพอแระ !!! ง่าวจั๊ดดดดได้อีก
นปช.เชียงใหม่เร่งติดตั้งเวทีรอแนวร่วมเหนือ ลั่นกลองรบค่ำนี้ แต่คงรีบมาก สังเกตจากป้าย
ข่าวจันจิรา #ไทยรัฐ pic.twitter.com/2bhPMnVLz1
Nopadol Prompasit
ล้านา 5555555555555555555555555555555
555555555555 ว่าจะไม่โพสต พอเห็นปั้ป โพสตเลย 5555555555
สงสัย..กร๊าฟฟิก.. คงเป็นคนประเทศเพื่อนบ้านแน่ๆ เลยพิมพ์ออกมาเหมือนภาษาพูดเลย ..ล้านา..
ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 08:36
เพื่อชาติ เพื่อพ่อหลวง
"รวมพลัง 17 จังหวัดภาคเหนือ" อื้อออ...หือออออ
นับหัวบนรถก็พอรู้แล้วว่า มากมายแค่ไหน รถกะบะก็พอมั้ง !!!
08.52 น.เสื้อแดงพิษณุโลก เพชรบูรณ์ โบกธงรอแดงพิจิตร ที่ 4 แยกอินโดจีน
Cr.ยุทธ์ #ไทยรัฐ pic.twitter.com/9TWGiuyLax
Ksj Suan-in
เคยไปพิดโลก เมื่อสงกรานต์ปีที่แล้ว พวกแดงขึ้นรถใส่เสื้อแดงเต็มคันเล่นน้ำ แต่ไม่เห็นมีใครเล่นกับพวกมันเลย รถไปถึงตรงใหน คนเค้าก็หันหลังให้หมด มันไม่รู้ตัวมันเลย
Aphichai Chaunchit
เหลือ***ไม่กี่ตัว ไม่มีคนเลย555
นับได้ 7 หัวบนรถ รวมหัวแม่ตีน หัวแม่มือและหัวเข่าอีกคนละ 6หัวแล้วรวมพลังได้ 7+(7*6) เท่ากับ 49 หัว มีตัวผู้ 5ตัว เพิ่มให้อีก 5หัว(ไม่ระบุว่าหัวอะไร) ตัวเมีย 2ตัว เพิ่มให้อีก 4หัว(นม) หลงจ้งเก๋าเจ้งได้ 49+5+4 เป็น 58 หัว
ปล.แก้ไขตัวเลขเล็กน้อย
พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ก่อนพวกมรึงจะรวมพล มรึงหาเงินไปจ่ายค่าข้าวเขาก่อนดีกว่า 3 - 4 จังหวัดนั้นอะ ชาวนาหลายคนเขาไม่มีจะกินแล้ว
เอาภาษีพวกตรูไปใช้จนหมด 6 - 7 แสนล้านแล้ว ไหนจะงบประมาณกลางไว้สู้ภัยแล้ง น้ำท่วม
ยังจะหน้าด้านไปรวมพล
แมงวาปนี่ก็หยุมหยิมจริงๆ ก็นี่แหละครับอีเว้น ช่วยเหลือชาวนา หัวละ 200-300 พอได้ซื้อของประทังชีวิตไปวันๆก่อน
ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 09:26
ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 09:29
POPULAR
รู้มั้ยพจมานเป็นใคร
คอลัมน์กวนน้ำให้ใส
โดยสารส้ม
หนังสือพิมพ์แนวหน้า
๑๐ มี.ค. ๕๗
ภายหลังการเป่านกหวีดใส่คุณหญิงพจมานที่ห้างดิ เอ็มโพเรียม ปรากฏว่า คุณทยา ทีปสุวรรณ ถูกปฏิบัติการคุกคาม ข่มขู่ กระทั่งบุกถล่มด้วยอาวุธสงครามอย่างต่อเนื่อง!
บ้านย่านสุขุมวิทถูกโยนระเบิดไปป์บอมบ์เข้าใส่ (แต่ไม่ระเบิด)
บ้านแม่ของคุณทยาที่ปากช่อง ถูกยิงถล่มด้วยอาวุธสงคราม ทั้งปืนเอ็ม 16 และอาก้า คนร้ายลอยนวล
บ้านย่านสุขุมวิทถูกโยนระเบิดใส่อีกรอบ คราวนี้เป็นระเบิดสังหาร (แต่ไม่ระเบิด)
โรงเรียนศรีวิกรม์ที่เป็นกิจการของครอบครัวถูกข่มขู่ มีการเอาสีแดงไปป้ายเอาพวงหรีดไปวาง
ยังไม่ต้องพูดถึงกรณีดีเอสไอเร่งรัดคดี เร่งออกหมายเล่นงานฐานกบฏ หลังจากเป่านกหวีดใส่คุณหญิงพจมาน ไม่กี่ชั่วโมง!
ครอบครัวของทยาถูกกดดัน ข่มขู่ ถูกบีบให้ขอโทษคุณหญิงโดยเร็ว ฯลฯ
รู้หรือยังว่า “พจมาน” เป็นใคร? ใหญ่ขนาดไหน?
แม้คนไทยทั้งประเทศจะต้องทุกข์ยากแสนสาหัส ถูกฆ่าตายอย่างอำมหิตจากระบอบทักษิณ พจมานก็ต้องได้อยู่อย่างสุขสบาย เสวยสุขต่อไปแตะต้องไม่ได้เด็ดขาด!
ให้มันรู้เสียบ้างว่าใครเป็นใคร?
จะย้อนความจำให้บ้างก็ได้ว่าพจมานเป็นใคร
1) ใหญ่แค่ไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าอัยการสูงสุดถึงกับมีคำสั่งไม่ฎีกาในคดีเลี่ยงภาษีของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร และนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์
มีผลทำให้คดีต้องยุติลงไป โดยที่ศาลฎีกาฯไม่มีโอกาสได้พิพากษาคดีให้เป็นที่ยุติ
ท่ามกลางข้อครหา ข้อสงสัย โดยที่อัยการสูงสุดไม่แสดงเหตุผลที่แจ้งชัด อ้างแค่ว่า “อัยการมีอิสระในการพิจารณาสั่งคดี” - “การสั่งไม่ฎีกาเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ และเป็นดุลยพินิจ” - “อัยการได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย” ฯลฯ
ทั้งๆ ที่ อัยการสูงสุดก่อนหน้านั้นเคยยื่นฟ้องต่อศาลชั้นต้น ซึ่งแสดงว่าอัยการเห็นว่าคดีนี้มีพยานหลักฐานชัดเจนเพียงพอที่จะเอาผิดกับคุณหญิงพจมานและพวกได้ แถมยังชนะคดีในศาลชั้นต้น ก็แสดงว่า ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีนี้มีพยานหลักฐานแน่นหนาเพียงพอที่จะเอาผิดคุณหญิงพจมานและพวกได้ (ลงโทษจำคุก)
แต่เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องคุณหญิงพจมาน แก้คำพิพากษาศาลชั้นต้น(ประธานศาลอุทธรณ์ คุณชัยสิทธิ์ ตราชูธรรม ถึงกับทำความเห็นแย้งต่อคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์) แต่อัยการสูงสุดกลับไม่ติดใจ ไม่สงสัย หรือไม่ฎีกาคดีไปให้ถึงที่สุดเพื่อให้ศาลฎีกาได้พิจารณาชี้ขาดให้เป็นที่ยุติ จะได้สิ้นข้อครหาสงสัยใดๆ เพราะอย่างน้อย หากไม่เห็นแก่คำสั่งฟ้องของอัยการในอดีต ก็น่าจะเคารพในน้ำหนักของประเด็นความผิดที่ปรากฏชัดเจนอยู่ในคำพิพากษาของศาลชั้นต้นบ้าง
คดีนี้ คือคดีที่คุณหญิงพจมาน นายบรรณพจน์ และพวก ตกเป็นจำเลยข้อหาร่วมกันจงใจหลีกเลี่ยงการชำระภาษีอากรหุ้นชินฯ (มูลค่าหุ้นกว่า 700 ล้านบาทมูลค่าภาษี 270 ล้าน) ศาลชั้นต้นพิจารณาพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงแล้ว พิพากษาให้ลงโทษจำคุก โดยระบุถึงขั้นว่า
“...จำเลยทั้งสามเป็นผู้มีฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะกระทำผิดฐานให้ถ้อยคำอันเป็นเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีอากร จำเลยที่ 2 (คุณหญิงพจมาน) เป็นภริยาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับผู้บริหารประเทศ จำเลยทั้งสามจึงนอกจากมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตนเยี่ยงพลเมืองดีทั่วๆ ไปแล้ว ยังควรดำรงตนให้เป็นตัวอย่างที่ดีสมฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมด้วย แต่จำเลยทั้งสามกลับร่วมกันกระทำการหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร อันเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ไม่เป็นธรรมต่อสังคมและระบบภาษี ทั้งๆ ที่จำนวนภาษีอากรที่จำเลยที่ 1(นายบรรณพจน์) จะต้องชำระตามกฎหมาย และจำเลยที่ 2 (คุณหญิงพจมาน) จะเป็นผู้ชำระแทนในที่สุดนั้น เทียบไม่ได้กับจำนวนทรัพย์สินที่จำ เลยที่ 2 (คุณหญิงพจมาน) และครอบครัวมีอยู่ในขณะนั้น การที่จำเลยที่ 1 จะชำระภาษีอากรไปตามกฎหมาย เช่น พลเมืองดีทุกคน จึงมิได้มีผลกระทบต่อฐานะของจำเลยที่ 2 แต่อย่างใด การกระทำความผิดของจำเลยทั้งสามจึงร้ายแรง...”
2) ใหญ่ถึงขนาดว่าเคยซื้อที่ดินรัชดาโดยผิดกฎหมาย ในราคาถูกๆ
พจมานเคยซื้อที่ดินรัชดาจากรัฐบาลของสามี ในราคาไม่ถึง 800 ล้านบาท
ภายหลัง เมื่อศาลพิพากษาว่าผิด ให้คืนที่ดิน คืนเงิน หลังจากนั้น กองทุนฟื้นฟูฯ ได้ประมูลขายที่ดินรัชดาฯ แปลงดังกล่าวออกไปในราคากว่า 1,800 ล้านบาท
แพงกว่าที่พจมานเคยซื้อกว่า 1,000 ล้านบาท!
พจมานเจ๋งกว่าทักษิณ เพราะเป็นคนได้ประโยชน์จากการซื้อที่ดิน แต่ไม่ต้องติดคุกเหมือนทักษิณ เพราะไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐตามกฎหมาย ป.ป.ช. (เสมือนให้ทักษิณติดคุกแทน) ดังคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ ระบุว่า
“...จำเลยที่ 1 (ทักษิณ) เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ผู้มีอำนาจในการกำกับดูแลกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน เมื่อจำเลยที่ 2 (พจมาน) เป็นคู่สมรสของจำเลยที่ 1 การซื้อขายที่ดินพิพาทระหว่างจำเลยที่ 2 กับกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินจึงเป็นเรื่องผลประโยชน์ส่วนบุคคลขัดแย้งผลประโยชน์ส่วนรวม ซึ่งต้องห้ามมิให้กระทำ
จำเลยที่ 1 (ทักษิณ) เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2552 มาตรา 100(1) ต้องรับโทษตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 122 วรรคหนึ่ง
ส่วนจำเลยที่ 2 นั้น (พจมาน) มาตรา 100 เป็นบทบัญญัติให้การกระทำเป็นความผิดเนื่องจากผู้กระทำเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทั้งยังบัญญัติให้การกระทำของคู่สมรสของเจ้าหน้าที่ของรัฐถึงเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐเอง แต่มาตรา 122 ซึ่งเป็นบทกำหนดโทษของผู้ฝ่าฝืนมาตรา 100 ระบุไว้ชัดเจนว่า ให้ลงโทษแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐที่ฝ่าฝืนมาตรา 100 ไม่ได้ระบุให้ลงโทษรวมไปถึงคู่สมรสหรือบุคคลอื่นด้วย จำเลยที่ 2 จึงไม่มีความผิด และไม่ต้องร่วมรับโทษตามมาตรา 122 กับจำเลยที่ 1...”
3) ใหญ่ถึงขนาดเคยชักใยบงการระบอบทักษิณ
นายเสนาะ เทียนทอง บันทึกไว้ในหนังสือ “รู้ทันทักษิณ 4” เรื่อง “จะเอาทักษิณหรือประเทศไทย” สะท้อนบทบาทของ “คุณหญิง” ระบุว่า
“รัฐมนตรีหลายคนจะมี “คนของเขา” เข้ามาบอกว่า เดี๋ยวทำงบฯ นะ จะเอากี่พัน(ล้าน) จะเอาห้าพันหรือหกพัน แต่ต้องเอาเข้าพรรค 10 เปอร์เซ็นต์ หมายความว่า คุณไปทำอะไรขึ้นมาก็ได้ ไปเขียนโครงการมา ถ้ารัฐมนตรีคนไหนทำไม่ได้ก็อยู่ไม่ได้ เวลาทำโครงการก็ต้องจ้างที่ปรึกษาที่เป็นคนของตัวเอง แล้วใช้วิธีที่เก่งที่สุด คือ การยกเว้นระเบียบพิเศษ ยิ่งใช้วิธีขีดเส้นตายว่าต้องเสร็จวันนั้นวันนี้ เหมือนกับที่สนามบินสุวรรณภูมิ ก็เพื่อจะได้อ้างในการใช้วิธีจัดซื้อจัดจ้างแบบพิเศษ
นโยบาย 10 เปอร์เซ็นต์นี้ ในการทำโครงการ รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงก็จะต้องทำโครงการโดยไปตกแต่งงบประมาณ ไปพอกหรือเพิ่มงบขึ้นมาก่อน เพื่อว่ามูลค่าโครงการที่เสนอขออนุมัตินั้น จะได้ครอบคลุมถึง 10 เปอร์เซ็นต์ที่จะต้องหักเข้าพรรคเอาไว้แล้ว จากนั้นไปตกลงกับคนของเขา ผ่าน “คุณหญิง” ตกลงกันเรียบร้อยเมื่อไหร่ เมื่อเรียบร้อยเมื่อไหร่ก็ส่งมาให้ตัวตายตัวแทนทางการเมืองที่เขาไว้ใจ คนที่เคยเป็นลูกจ้างในบริษัทมาก่อน พอเข้า ครม. นายกรัฐมนตรีจะเป็นคนนำเสนอโครงการเองและอนุมัติให้เองเสร็จสรรพ รัฐมนตรีทุกคนไม่ต้องคิด ไม่ต้องสงสัย
ทุกวันนี้ ยังไม่มีใครรู้ว่า 10 เปอร์เซ็นต์นั้น มีอยู่เท่าไรแล้ว คงต้องไปถามคุณหญิง!”
ยิ่งกว่านั้น นายเสนาะยังบอกด้วยว่า เคยเตือน เคยพูดคุยกับคุณหญิงอ้อ
“ผมบอกว่า “น้อง ถ้ามันได้มาอีกแสนล้าน เอาไปทำไม” เขาพากันตอบว่า“ก็รู้ แต่ในเมื่อเล่นการเมือง มันต้องควักเงิน ก็ต้องถือว่าเป็นธุรกิจ”
ผมเคยเตือนหนักๆ ถึงขั้นว่า “ในอนาคต ถ้ามันจะเดือดร้อนหนักๆ คือคนเป็นหัวนะ”
เขาก็ตอบอย่างไม่สะทกสะท้านว่า “ก็รู้ ถ้าพี่ทักษิณจะลง ต้องให้พรรคไทยรักไทยมีอำนาจอย่างน้อยสองสมัยถึงจะปลอดภัย”
รู้แล้วหรือยัง ว่า “พจมาน” ใหญ่แค่ไหนในระบอบทักษิณ!
ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 09:41
ท่านนายก บอกชาวนาที่จะทำนาปรังรอบสอง ว่าอาจมีปัญหาบริหารจัดการน้ำ ขอให้ชาวนาเลี่ยงไปปลูกพืชที่ทนน้ำได้แทน!!??
Cr.ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์
สรุปนางดอกไม้นี่โง่จริง อะไรจริง กรรมของประเทศไทย
พืชทนน้ำปูไม่รู้จักดอกค่า เคยปลูกแต่พืชหน้าทนค่า ปลูกทุกวัน
เจ๊ดอกไม้ อาจจะให้ปลูกกระบองเพชรมั้ง พืชทนน้ำ
ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 09:57
แร๊งงงงงงงงงงง
กระไดตุงมาเชียว....
ผมผวนไม่เป็นใครก็ได้ช่วยที...
ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 10:02
POPULAR
ไอ้ที่นั่งแม่มเลี้ยงเสียข้าวสุกจินๆ
น่าจะมีประเภททำงานไม่คุ้มเงินเดือนไล่แม่มออกได้...แสดดด...
ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 10:03
ท่านนายก บอกชาวนาที่จะทำนาปรังรอบสอง ว่าอาจมีปัญหาบริหารจัดการน้ำ ขอให้ชาวนาเลี่ยงไปปลูกพืชที่ทนน้ำได้แทน!!??
Cr.ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์
สรุปนางดอกไม้นี่โง่จริง อะไรจริง กรรมของประเทศไทย
พืชทนน้ำปูไม่รู้จักดอกค่า เคยปลูกแต่พืชหน้าทนค่า ปลูกทุกวัน
เจ๊ดอกไม้ อาจจะให้ปลูกกระบองเพชรมั้ง พืชทนน้ำ
เชื่อว่าช่วงนี้เธอจะเริ่มหลุดบ่อยขึ้น มากขึ้นและมากขึ้น
ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 10:09
พื้นร้อนมาก น้องตั๊นยังไม่นั่งยองๆเลย จะน่ารักเรียบร้อยได้รับการอบรมมาดีเกินไปแล้วนะ
แบบนี่สิครับ ถึงเรียกว่า .. กิริยามารยาท กุลสตรีไทย .. หนังสือพิมพ์ทั้งหลายน่าที่จะเอาไปลงตีพิมพ์หน้าหนึ่งนะ
Edited by itsorachai, 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 11:57.
ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 10:19
ดอกไม้งามมีหนามแหลม ใช่บานแย้มให้คนชม บานไว้เพื่อสะสม ความอุดมแห่งผืนดิน...
ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 10:20
POPULAR
ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 10:22
แร๊งงงงงงงงงงง
เข้าใจหากระไดนะกำนัน บิ๊กๆทั้งนั้น
เจออย่างนี้แล้วป้าแกอาจจะ "ยกหีบหนี" คร้าา
VVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVV
Edited by ดอกปีบ, 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 10:27.
ดอกไม้งามมีหนามแหลม ใช่บานแย้มให้คนชม บานไว้เพื่อสะสม ความอุดมแห่งผืนดิน...
ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 10:32
POPULAR
สุเทพ ระหว่างรอเปิดเวทีปฏิรูป กัวข้อความเหลื่อมล้ำ ทางขวาโสภณ สุภาพงษ์ อดีต ส.ว./ทางซ้าย นพ.พลเดช ปิ่นประทีป #ThaiPBS pic.twitter.com/3wPsWURVH9
เจรจาขอคืนพื้นที่ถ.แจ้งวัฒนะ 'ไม่สำเร็จ' พระพุทธอิสระ ยื่นเงื่อนไขเดิม ปลัดก.กลาโหมนอนพื้นที่ 3 วัน 3 คืน #voicelive pic.twitter.com/lxN3KHqhCU
Edited by ชาวสวน, 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 10:39.
ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 10:46
รู้มั้ยพจมานเป็นใคร
คอลัมน์กวนน้ำให้ใส
โดยสารส้ม
หนังสือพิมพ์แนวหน้า
๑๐ มี.ค. ๕๗
ภายหลังการเป่านกหวีดใส่คุณหญิงพจมานที่ห้างดิ เอ็มโพเรียม ปรากฏว่า คุณทยา ทีปสุวรรณ ถูกปฏิบัติการคุกคาม ข่มขู่ กระทั่งบุกถล่มด้วยอาวุธสงครามอย่างต่อเนื่อง!
บ้านย่านสุขุมวิทถูกโยนระเบิดไปป์บอมบ์เข้าใส่ (แต่ไม่ระเบิด)
บ้านแม่ของคุณทยาที่ปากช่อง ถูกยิงถล่มด้วยอาวุธสงคราม ทั้งปืนเอ็ม 16 และอาก้า คนร้ายลอยนวล
บ้านย่านสุขุมวิทถูกโยนระเบิดใส่อีกรอบ คราวนี้เป็นระเบิดสังหาร (แต่ไม่ระเบิด)
โรงเรียนศรีวิกรม์ที่เป็นกิจการของครอบครัวถูกข่มขู่ มีการเอาสีแดงไปป้ายเอาพวงหรีดไปวาง
ยังไม่ต้องพูดถึงกรณีดีเอสไอเร่งรัดคดี เร่งออกหมายเล่นงานฐานกบฏ หลังจากเป่านกหวีดใส่คุณหญิงพจมาน ไม่กี่ชั่วโมง!
ครอบครัวของทยาถูกกดดัน ข่มขู่ ถูกบีบให้ขอโทษคุณหญิงโดยเร็ว ฯลฯ
รู้หรือยังว่า “พจมาน” เป็นใคร? ใหญ่ขนาดไหน?
แม้คนไทยทั้งประเทศจะต้องทุกข์ยากแสนสาหัส ถูกฆ่าตายอย่างอำมหิตจากระบอบทักษิณ พจมานก็ต้องได้อยู่อย่างสุขสบาย เสวยสุขต่อไปแตะต้องไม่ได้เด็ดขาด!
ให้มันรู้เสียบ้างว่าใครเป็นใคร?
จะย้อนความจำให้บ้างก็ได้ว่าพจมานเป็นใคร
1) ใหญ่แค่ไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าอัยการสูงสุดถึงกับมีคำสั่งไม่ฎีกาในคดีเลี่ยงภาษีของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร และนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์
มีผลทำให้คดีต้องยุติลงไป โดยที่ศาลฎีกาฯไม่มีโอกาสได้พิพากษาคดีให้เป็นที่ยุติ
ท่ามกลางข้อครหา ข้อสงสัย โดยที่อัยการสูงสุดไม่แสดงเหตุผลที่แจ้งชัด อ้างแค่ว่า “อัยการมีอิสระในการพิจารณาสั่งคดี” - “การสั่งไม่ฎีกาเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ และเป็นดุลยพินิจ” - “อัยการได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย” ฯลฯ
ทั้งๆ ที่ อัยการสูงสุดก่อนหน้านั้นเคยยื่นฟ้องต่อศาลชั้นต้น ซึ่งแสดงว่าอัยการเห็นว่าคดีนี้มีพยานหลักฐานชัดเจนเพียงพอที่จะเอาผิดกับคุณหญิงพจมานและพวกได้ แถมยังชนะคดีในศาลชั้นต้น ก็แสดงว่า ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีนี้มีพยานหลักฐานแน่นหนาเพียงพอที่จะเอาผิดคุณหญิงพจมานและพวกได้ (ลงโทษจำคุก)
แต่เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องคุณหญิงพจมาน แก้คำพิพากษาศาลชั้นต้น(ประธานศาลอุทธรณ์ คุณชัยสิทธิ์ ตราชูธรรม ถึงกับทำความเห็นแย้งต่อคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์) แต่อัยการสูงสุดกลับไม่ติดใจ ไม่สงสัย หรือไม่ฎีกาคดีไปให้ถึงที่สุดเพื่อให้ศาลฎีกาได้พิจารณาชี้ขาดให้เป็นที่ยุติ จะได้สิ้นข้อครหาสงสัยใดๆ เพราะอย่างน้อย หากไม่เห็นแก่คำสั่งฟ้องของอัยการในอดีต ก็น่าจะเคารพในน้ำหนักของประเด็นความผิดที่ปรากฏชัดเจนอยู่ในคำพิพากษาของศาลชั้นต้นบ้าง
คดีนี้ คือคดีที่คุณหญิงพจมาน นายบรรณพจน์ และพวก ตกเป็นจำเลยข้อหาร่วมกันจงใจหลีกเลี่ยงการชำระภาษีอากรหุ้นชินฯ (มูลค่าหุ้นกว่า 700 ล้านบาทมูลค่าภาษี 270 ล้าน) ศาลชั้นต้นพิจารณาพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงแล้ว พิพากษาให้ลงโทษจำคุก โดยระบุถึงขั้นว่า
“...จำเลยทั้งสามเป็นผู้มีฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะกระทำผิดฐานให้ถ้อยคำอันเป็นเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีอากร จำเลยที่ 2 (คุณหญิงพจมาน) เป็นภริยาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับผู้บริหารประเทศ จำเลยทั้งสามจึงนอกจากมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตนเยี่ยงพลเมืองดีทั่วๆ ไปแล้ว ยังควรดำรงตนให้เป็นตัวอย่างที่ดีสมฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมด้วย แต่จำเลยทั้งสามกลับร่วมกันกระทำการหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร อันเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ไม่เป็นธรรมต่อสังคมและระบบภาษี ทั้งๆ ที่จำนวนภาษีอากรที่จำเลยที่ 1(นายบรรณพจน์) จะต้องชำระตามกฎหมาย และจำเลยที่ 2 (คุณหญิงพจมาน) จะเป็นผู้ชำระแทนในที่สุดนั้น เทียบไม่ได้กับจำนวนทรัพย์สินที่จำ เลยที่ 2 (คุณหญิงพจมาน) และครอบครัวมีอยู่ในขณะนั้น การที่จำเลยที่ 1 จะชำระภาษีอากรไปตามกฎหมาย เช่น พลเมืองดีทุกคน จึงมิได้มีผลกระทบต่อฐานะของจำเลยที่ 2 แต่อย่างใด การกระทำความผิดของจำเลยทั้งสามจึงร้ายแรง...”
2) ใหญ่ถึงขนาดว่าเคยซื้อที่ดินรัชดาโดยผิดกฎหมาย ในราคาถูกๆ
พจมานเคยซื้อที่ดินรัชดาจากรัฐบาลของสามี ในราคาไม่ถึง 800 ล้านบาท
ภายหลัง เมื่อศาลพิพากษาว่าผิด ให้คืนที่ดิน คืนเงิน หลังจากนั้น กองทุนฟื้นฟูฯ ได้ประมูลขายที่ดินรัชดาฯ แปลงดังกล่าวออกไปในราคากว่า 1,800 ล้านบาท
แพงกว่าที่พจมานเคยซื้อกว่า 1,000 ล้านบาท!
พจมานเจ๋งกว่าทักษิณ เพราะเป็นคนได้ประโยชน์จากการซื้อที่ดิน แต่ไม่ต้องติดคุกเหมือนทักษิณ เพราะไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐตามกฎหมาย ป.ป.ช. (เสมือนให้ทักษิณติดคุกแทน) ดังคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ ระบุว่า
“...จำเลยที่ 1 (ทักษิณ) เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ผู้มีอำนาจในการกำกับดูแลกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน เมื่อจำเลยที่ 2 (พจมาน) เป็นคู่สมรสของจำเลยที่ 1 การซื้อขายที่ดินพิพาทระหว่างจำเลยที่ 2 กับกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินจึงเป็นเรื่องผลประโยชน์ส่วนบุคคลขัดแย้งผลประโยชน์ส่วนรวม ซึ่งต้องห้ามมิให้กระทำ
จำเลยที่ 1 (ทักษิณ) เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2552 มาตรา 100(1) ต้องรับโทษตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 122 วรรคหนึ่ง
ส่วนจำเลยที่ 2 นั้น (พจมาน) มาตรา 100 เป็นบทบัญญัติให้การกระทำเป็นความผิดเนื่องจากผู้กระทำเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทั้งยังบัญญัติให้การกระทำของคู่สมรสของเจ้าหน้าที่ของรัฐถึงเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐเอง แต่มาตรา 122 ซึ่งเป็นบทกำหนดโทษของผู้ฝ่าฝืนมาตรา 100 ระบุไว้ชัดเจนว่า ให้ลงโทษแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐที่ฝ่าฝืนมาตรา 100 ไม่ได้ระบุให้ลงโทษรวมไปถึงคู่สมรสหรือบุคคลอื่นด้วย จำเลยที่ 2 จึงไม่มีความผิด และไม่ต้องร่วมรับโทษตามมาตรา 122 กับจำเลยที่ 1...”
3) ใหญ่ถึงขนาดเคยชักใยบงการระบอบทักษิณ
นายเสนาะ เทียนทอง บันทึกไว้ในหนังสือ “รู้ทันทักษิณ 4” เรื่อง “จะเอาทักษิณหรือประเทศไทย” สะท้อนบทบาทของ “คุณหญิง” ระบุว่า
“รัฐมนตรีหลายคนจะมี “คนของเขา” เข้ามาบอกว่า เดี๋ยวทำงบฯ นะ จะเอากี่พัน(ล้าน) จะเอาห้าพันหรือหกพัน แต่ต้องเอาเข้าพรรค 10 เปอร์เซ็นต์ หมายความว่า คุณไปทำอะไรขึ้นมาก็ได้ ไปเขียนโครงการมา ถ้ารัฐมนตรีคนไหนทำไม่ได้ก็อยู่ไม่ได้ เวลาทำโครงการก็ต้องจ้างที่ปรึกษาที่เป็นคนของตัวเอง แล้วใช้วิธีที่เก่งที่สุด คือ การยกเว้นระเบียบพิเศษ ยิ่งใช้วิธีขีดเส้นตายว่าต้องเสร็จวันนั้นวันนี้ เหมือนกับที่สนามบินสุวรรณภูมิ ก็เพื่อจะได้อ้างในการใช้วิธีจัดซื้อจัดจ้างแบบพิเศษ
นโยบาย 10 เปอร์เซ็นต์นี้ ในการทำโครงการ รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงก็จะต้องทำโครงการโดยไปตกแต่งงบประมาณ ไปพอกหรือเพิ่มงบขึ้นมาก่อน เพื่อว่ามูลค่าโครงการที่เสนอขออนุมัตินั้น จะได้ครอบคลุมถึง 10 เปอร์เซ็นต์ที่จะต้องหักเข้าพรรคเอาไว้แล้ว จากนั้นไปตกลงกับคนของเขา ผ่าน “คุณหญิง” ตกลงกันเรียบร้อยเมื่อไหร่ เมื่อเรียบร้อยเมื่อไหร่ก็ส่งมาให้ตัวตายตัวแทนทางการเมืองที่เขาไว้ใจ คนที่เคยเป็นลูกจ้างในบริษัทมาก่อน พอเข้า ครม. นายกรัฐมนตรีจะเป็นคนนำเสนอโครงการเองและอนุมัติให้เองเสร็จสรรพ รัฐมนตรีทุกคนไม่ต้องคิด ไม่ต้องสงสัย
ทุกวันนี้ ยังไม่มีใครรู้ว่า 10 เปอร์เซ็นต์นั้น มีอยู่เท่าไรแล้ว คงต้องไปถามคุณหญิง!”
ยิ่งกว่านั้น นายเสนาะยังบอกด้วยว่า เคยเตือน เคยพูดคุยกับคุณหญิงอ้อ
“ผมบอกว่า “น้อง ถ้ามันได้มาอีกแสนล้าน เอาไปทำไม” เขาพากันตอบว่า“ก็รู้ แต่ในเมื่อเล่นการเมือง มันต้องควักเงิน ก็ต้องถือว่าเป็นธุรกิจ”
ผมเคยเตือนหนักๆ ถึงขั้นว่า “ในอนาคต ถ้ามันจะเดือดร้อนหนักๆ คือคนเป็นหัวนะ”
เขาก็ตอบอย่างไม่สะทกสะท้านว่า “ก็รู้ ถ้าพี่ทักษิณจะลง ต้องให้พรรคไทยรักไทยมีอำนาจอย่างน้อยสองสมัยถึงจะปลอดภัย”
รู้แล้วหรือยัง ว่า “พจมาน” ใหญ่แค่ไหนในระบอบทักษิณ!
เป็นแก่นเป็นแกนหลักในระบอบทักษิณหรือเปล่าคะ พจมาร เนีย
ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 10:47
POPULAR
ดอกไม้งามมีหนามแหลม ใช่บานแย้มให้คนชม บานไว้เพื่อสะสม ความอุดมแห่งผืนดิน...
ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 10:48
POPULAR
ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 11:04
เสมา ขุนศึกรักสถาบัน
ที่เชียงใหม่ตอนนี้ ทุกคนใด้ค่าจ้าง 200 บาท มีผู้ใหญ่บ้านเป็นคนพามา
ขอบคุณสายจากพื้นที่
Bencha Phangpong
คนเรือนแสน ช่างแสนจะสาหัส แล้วเสือกเอาเด็กมาชุมนุมทำไมเนี้ย
Prangpp Love King
ไม่ต้องเชียงใหม่ที่เดียวคะทุกที่ๆแดงไปต้องมีค่าจ้างคนละ200 บาททุกคนไม่ว่าเด็กผุ้ใหญ่คนที่เป็นรถได้500-800คะตอนที่ไปที่ขอนแก่นก้อเกณฑ์คนจากจังหวัดใกล้เคียงไปด้วยคะ
//ขิหา!!! จะคำนวนพื้นที่หย่างง้าย 4ต่อตร.ม. ไม่ได้ ต้อง1ต่อ ตร.ม. หรือ1ต่อ 2ตร.ม. ดี...??????
ยังอีก 2คืน จะไหวมั่ยเหนี้ยยย!!!!
เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา
เสื้อแดงนัดรวมพล 17 จังหวัดเหนือ แรกๆก็ฟุ่งว่าจะมาเป็นแสน ตอนนี้เหลือยอดหมื่น ค่ารถ 600-800ต่อคัน ค่าคน 500ถึงมือจริง 300 รถขนมา 3-4คนต่อคัน สรุปคือโกงซ้อนโกง "คบคนเช่นไรก็จะเป็นเช่นนั้น"
https://www.facebook...664188040285408
http://m.youtube.com...h?v=pTVk3B3Q7Ak
080357 แกนนำเเดงปากเก่งขู่เตะปากป๋าเปรม ขู่กกต สมชัยมึงระวังไว้
เเกนนำเเดง พรศักดิ์ ศรีละมุล ปากเก่ง ด่า อ.เสรี อ.เเก้วสรร เป็นสัตว์นรก ขู่จะเข้ากรุงเทพเตะ ปากป๋าเปรมขู่กกต.สมชัยมึงระวังไว้
คนไท รักในหลวง
ดูแล้วเป็นแสนแสนสู่ฝัน สปป.ลานนา ... ไกล - ไกลเกินฝัน ...!
เจ้าหญิงซูยุ Ovo
เวลา 22.20 น.
นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ รักษาการ รมช.กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะแกนนำ นปช. กล่าวบนเวทีปราศรัย ของคนเสื้อแดง ที่ จ.เชียงใหม่ ว่า ให้พี่น้องคนเสื้อแดงเตรียมตัวให้พร้อม เตรียมรอฟังสัญญานจาก กทม. แล้วมุ่งหน้าทวงคืนประชาธิปไตย
คนไท รักในหลวง
เริ่มมันส์ปากกันแระ ... เริ่มหลุดแระ ดีดีประกาศเลย ..!
แรง ...! "วีระกานต์"จวก ผบ.ทบ. กองทัพไทยยุคนี้ด้อยคุณภาพ
มากสุด-2 มาตรฐาน หากไร้เลือกตั้ง.แยกประเทศอยู่เถอะ
/ข่าวเจตน์ตนา ไทยรัฐ @tud_TRNEWS
cr/@Sudachan Satit
Ksj Suan-in
โดยส่วนตัว ผมอยากให้แยกครับ เบื่อนโยบายเอาเงินทั้งประเทศไปแดกกันเอง
Cookie Arsenal
จริงนะ ลองให้คนมาลงทะเบียนแยกประเทศดูดิ จะมีสักกี่คน ไอ้พวกแกนนำปากดี เอาเข้าจริงมันก็ไม่กล้าแยกหรอก 555
Aticia Leonor
ทำไมต้องแยกประเทศ หากพวกมันอึดอัดอยู่ไม่ได้ ก็ไม่ต้องอยู่ ลี้ภัยไปอยู่กับพ่อมึงโน่นเลย ไปจะไปที่ไหนก็เชิญ อย่ามาสร้างความแตกแยกให้กับประเทศไทยอีกเลย พวกมึงไม่ได้รักประเทศหรอก เพราะถ้ารักกันจะต้องไม่ทำร้ายกันอย่างนี้
เพื่อชาติ เพื่อพ่อหลวง
นาทีที่ 19.50 เป็นต้นไป ประนามกองทัพ ขอแยกประเทศ //
วีระกานต์ มุสิกพงศ์ เคลื่อนพลคนประชาธิปไตย เชียงใหม่ 8-3-2014
เคลื่อนพลคนประชาธิปไตย เชียงใหม่ ASIA UPDATE
นี้ขนาดใน ชร. ชม. ที่เป็นแก่นภูเขาไฟ ลาวาแดงยังทะลักออกมาแค่นี้ เห็นทีต้องขุดลงไปพบท่านสมเด็จมหาเดโชฯ ให้จ่ายค่าบริบาลเพิ่มหน่อย ท่อแต่ละตีบจะหมดแล้ว มีแต่ท่อดูด ไม่ก้อกปล่อย ระวังถังเก็บกากฯระเบิดนะ!!!
ภาพแรกนี่ ของจริงป่าวคับ ทำไมหญ้ามันยาวจังหว่า จัดงานใหญ่ทั้งที หญ้าก็ไม่ยอมตัดปล่อยให้รกซะงั้น หรือว่าปล่อยไว้ให้เหล่าควายทั้งหลายได้และเล็ม เคี้ยวเอื้องเพลินๆ เวลาฟังควายบนเวที ...เจี๊ยบ...อยู่หว่า
ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 11:11
รู้มั้ยพจมานเป็นใคร
คอลัมน์กวนน้ำให้ใส
โดยสารส้ม
หนังสือพิมพ์แนวหน้า
๑๐ มี.ค. ๕๗
ภายหลังการเป่านกหวีดใส่คุณหญิงพจมานที่ห้างดิ เอ็มโพเรียม ปรากฏว่า คุณทยา ทีปสุวรรณ ถูกปฏิบัติการคุกคาม ข่มขู่ กระทั่งบุกถล่มด้วยอาวุธสงครามอย่างต่อเนื่อง!
บ้านย่านสุขุมวิทถูกโยนระเบิดไปป์บอมบ์เข้าใส่ (แต่ไม่ระเบิด)
บ้านแม่ของคุณทยาที่ปากช่อง ถูกยิงถล่มด้วยอาวุธสงคราม ทั้งปืนเอ็ม 16 และอาก้า คนร้ายลอยนวล
บ้านย่านสุขุมวิทถูกโยนระเบิดใส่อีกรอบ คราวนี้เป็นระเบิดสังหาร (แต่ไม่ระเบิด)
โรงเรียนศรีวิกรม์ที่เป็นกิจการของครอบครัวถูกข่มขู่ มีการเอาสีแดงไปป้ายเอาพวงหรีดไปวาง
ยังไม่ต้องพูดถึงกรณีดีเอสไอเร่งรัดคดี เร่งออกหมายเล่นงานฐานกบฏ หลังจากเป่านกหวีดใส่คุณหญิงพจมาน ไม่กี่ชั่วโมง!
ครอบครัวของทยาถูกกดดัน ข่มขู่ ถูกบีบให้ขอโทษคุณหญิงโดยเร็ว ฯลฯ
รู้หรือยังว่า “พจมาน” เป็นใคร? ใหญ่ขนาดไหน?
แม้คนไทยทั้งประเทศจะต้องทุกข์ยากแสนสาหัส ถูกฆ่าตายอย่างอำมหิตจากระบอบทักษิณ พจมานก็ต้องได้อยู่อย่างสุขสบาย เสวยสุขต่อไปแตะต้องไม่ได้เด็ดขาด!
ให้มันรู้เสียบ้างว่าใครเป็นใคร?
จะย้อนความจำให้บ้างก็ได้ว่าพจมานเป็นใคร
1) ใหญ่แค่ไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าอัยการสูงสุดถึงกับมีคำสั่งไม่ฎีกาในคดีเลี่ยงภาษีของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร และนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์
มีผลทำให้คดีต้องยุติลงไป โดยที่ศาลฎีกาฯไม่มีโอกาสได้พิพากษาคดีให้เป็นที่ยุติ
ท่ามกลางข้อครหา ข้อสงสัย โดยที่อัยการสูงสุดไม่แสดงเหตุผลที่แจ้งชัด อ้างแค่ว่า “อัยการมีอิสระในการพิจารณาสั่งคดี” - “การสั่งไม่ฎีกาเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ และเป็นดุลยพินิจ” - “อัยการได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย” ฯลฯ
ทั้งๆ ที่ อัยการสูงสุดก่อนหน้านั้นเคยยื่นฟ้องต่อศาลชั้นต้น ซึ่งแสดงว่าอัยการเห็นว่าคดีนี้มีพยานหลักฐานชัดเจนเพียงพอที่จะเอาผิดกับคุณหญิงพจมานและพวกได้ แถมยังชนะคดีในศาลชั้นต้น ก็แสดงว่า ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีนี้มีพยานหลักฐานแน่นหนาเพียงพอที่จะเอาผิดคุณหญิงพจมานและพวกได้ (ลงโทษจำคุก)
แต่เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องคุณหญิงพจมาน แก้คำพิพากษาศาลชั้นต้น(ประธานศาลอุทธรณ์ คุณชัยสิทธิ์ ตราชูธรรม ถึงกับทำความเห็นแย้งต่อคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์) แต่อัยการสูงสุดกลับไม่ติดใจ ไม่สงสัย หรือไม่ฎีกาคดีไปให้ถึงที่สุดเพื่อให้ศาลฎีกาได้พิจารณาชี้ขาดให้เป็นที่ยุติ จะได้สิ้นข้อครหาสงสัยใดๆ เพราะอย่างน้อย หากไม่เห็นแก่คำสั่งฟ้องของอัยการในอดีต ก็น่าจะเคารพในน้ำหนักของประเด็นความผิดที่ปรากฏชัดเจนอยู่ในคำพิพากษาของศาลชั้นต้นบ้าง
คดีนี้ คือคดีที่คุณหญิงพจมาน นายบรรณพจน์ และพวก ตกเป็นจำเลยข้อหาร่วมกันจงใจหลีกเลี่ยงการชำระภาษีอากรหุ้นชินฯ (มูลค่าหุ้นกว่า 700 ล้านบาทมูลค่าภาษี 270 ล้าน) ศาลชั้นต้นพิจารณาพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงแล้ว พิพากษาให้ลงโทษจำคุก โดยระบุถึงขั้นว่า
“...จำเลยทั้งสามเป็นผู้มีฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะกระทำผิดฐานให้ถ้อยคำอันเป็นเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีอากร จำเลยที่ 2 (คุณหญิงพจมาน) เป็นภริยาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับผู้บริหารประเทศ จำเลยทั้งสามจึงนอกจากมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตนเยี่ยงพลเมืองดีทั่วๆ ไปแล้ว ยังควรดำรงตนให้เป็นตัวอย่างที่ดีสมฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมด้วย แต่จำเลยทั้งสามกลับร่วมกันกระทำการหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร อันเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ไม่เป็นธรรมต่อสังคมและระบบภาษี ทั้งๆ ที่จำนวนภาษีอากรที่จำเลยที่ 1(นายบรรณพจน์) จะต้องชำระตามกฎหมาย และจำเลยที่ 2 (คุณหญิงพจมาน) จะเป็นผู้ชำระแทนในที่สุดนั้น เทียบไม่ได้กับจำนวนทรัพย์สินที่จำ เลยที่ 2 (คุณหญิงพจมาน) และครอบครัวมีอยู่ในขณะนั้น การที่จำเลยที่ 1 จะชำระภาษีอากรไปตามกฎหมาย เช่น พลเมืองดีทุกคน จึงมิได้มีผลกระทบต่อฐานะของจำเลยที่ 2 แต่อย่างใด การกระทำความผิดของจำเลยทั้งสามจึงร้ายแรง...”
2) ใหญ่ถึงขนาดว่าเคยซื้อที่ดินรัชดาโดยผิดกฎหมาย ในราคาถูกๆ
พจมานเคยซื้อที่ดินรัชดาจากรัฐบาลของสามี ในราคาไม่ถึง 800 ล้านบาท
ภายหลัง เมื่อศาลพิพากษาว่าผิด ให้คืนที่ดิน คืนเงิน หลังจากนั้น กองทุนฟื้นฟูฯ ได้ประมูลขายที่ดินรัชดาฯ แปลงดังกล่าวออกไปในราคากว่า 1,800 ล้านบาท
แพงกว่าที่พจมานเคยซื้อกว่า 1,000 ล้านบาท!
พจมานเจ๋งกว่าทักษิณ เพราะเป็นคนได้ประโยชน์จากการซื้อที่ดิน แต่ไม่ต้องติดคุกเหมือนทักษิณ เพราะไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐตามกฎหมาย ป.ป.ช. (เสมือนให้ทักษิณติดคุกแทน) ดังคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ ระบุว่า
“...จำเลยที่ 1 (ทักษิณ) เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ผู้มีอำนาจในการกำกับดูแลกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน เมื่อจำเลยที่ 2 (พจมาน) เป็นคู่สมรสของจำเลยที่ 1 การซื้อขายที่ดินพิพาทระหว่างจำเลยที่ 2 กับกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินจึงเป็นเรื่องผลประโยชน์ส่วนบุคคลขัดแย้งผลประโยชน์ส่วนรวม ซึ่งต้องห้ามมิให้กระทำ
จำเลยที่ 1 (ทักษิณ) เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2552 มาตรา 100(1) ต้องรับโทษตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 122 วรรคหนึ่ง
ส่วนจำเลยที่ 2 นั้น (พจมาน) มาตรา 100 เป็นบทบัญญัติให้การกระทำเป็นความผิดเนื่องจากผู้กระทำเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทั้งยังบัญญัติให้การกระทำของคู่สมรสของเจ้าหน้าที่ของรัฐถึงเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐเอง แต่มาตรา 122 ซึ่งเป็นบทกำหนดโทษของผู้ฝ่าฝืนมาตรา 100 ระบุไว้ชัดเจนว่า ให้ลงโทษแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐที่ฝ่าฝืนมาตรา 100 ไม่ได้ระบุให้ลงโทษรวมไปถึงคู่สมรสหรือบุคคลอื่นด้วย จำเลยที่ 2 จึงไม่มีความผิด และไม่ต้องร่วมรับโทษตามมาตรา 122 กับจำเลยที่ 1...”
3) ใหญ่ถึงขนาดเคยชักใยบงการระบอบทักษิณ
นายเสนาะ เทียนทอง บันทึกไว้ในหนังสือ “รู้ทันทักษิณ 4” เรื่อง “จะเอาทักษิณหรือประเทศไทย” สะท้อนบทบาทของ “คุณหญิง” ระบุว่า
“รัฐมนตรีหลายคนจะมี “คนของเขา” เข้ามาบอกว่า เดี๋ยวทำงบฯ นะ จะเอากี่พัน(ล้าน) จะเอาห้าพันหรือหกพัน แต่ต้องเอาเข้าพรรค 10 เปอร์เซ็นต์ หมายความว่า คุณไปทำอะไรขึ้นมาก็ได้ ไปเขียนโครงการมา ถ้ารัฐมนตรีคนไหนทำไม่ได้ก็อยู่ไม่ได้ เวลาทำโครงการก็ต้องจ้างที่ปรึกษาที่เป็นคนของตัวเอง แล้วใช้วิธีที่เก่งที่สุด คือ การยกเว้นระเบียบพิเศษ ยิ่งใช้วิธีขีดเส้นตายว่าต้องเสร็จวันนั้นวันนี้ เหมือนกับที่สนามบินสุวรรณภูมิ ก็เพื่อจะได้อ้างในการใช้วิธีจัดซื้อจัดจ้างแบบพิเศษ
นโยบาย 10 เปอร์เซ็นต์นี้ ในการทำโครงการ รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงก็จะต้องทำโครงการโดยไปตกแต่งงบประมาณ ไปพอกหรือเพิ่มงบขึ้นมาก่อน เพื่อว่ามูลค่าโครงการที่เสนอขออนุมัตินั้น จะได้ครอบคลุมถึง 10 เปอร์เซ็นต์ที่จะต้องหักเข้าพรรคเอาไว้แล้ว จากนั้นไปตกลงกับคนของเขา ผ่าน “คุณหญิง” ตกลงกันเรียบร้อยเมื่อไหร่ เมื่อเรียบร้อยเมื่อไหร่ก็ส่งมาให้ตัวตายตัวแทนทางการเมืองที่เขาไว้ใจ คนที่เคยเป็นลูกจ้างในบริษัทมาก่อน พอเข้า ครม. นายกรัฐมนตรีจะเป็นคนนำเสนอโครงการเองและอนุมัติให้เองเสร็จสรรพ รัฐมนตรีทุกคนไม่ต้องคิด ไม่ต้องสงสัย
ทุกวันนี้ ยังไม่มีใครรู้ว่า 10 เปอร์เซ็นต์นั้น มีอยู่เท่าไรแล้ว คงต้องไปถามคุณหญิง!”
ยิ่งกว่านั้น นายเสนาะยังบอกด้วยว่า เคยเตือน เคยพูดคุยกับคุณหญิงอ้อ
“ผมบอกว่า “น้อง ถ้ามันได้มาอีกแสนล้าน เอาไปทำไม” เขาพากันตอบว่า“ก็รู้ แต่ในเมื่อเล่นการเมือง มันต้องควักเงิน ก็ต้องถือว่าเป็นธุรกิจ”
ผมเคยเตือนหนักๆ ถึงขั้นว่า “ในอนาคต ถ้ามันจะเดือดร้อนหนักๆ คือคนเป็นหัวนะ”
เขาก็ตอบอย่างไม่สะทกสะท้านว่า “ก็รู้ ถ้าพี่ทักษิณจะลง ต้องให้พรรคไทยรักไทยมีอำนาจอย่างน้อยสองสมัยถึงจะปลอดภัย”
รู้แล้วหรือยัง ว่า “พจมาน” ใหญ่แค่ไหนในระบอบทักษิณ!
เป็นแก่นเป็นแกนหลักในระบอบทักษิณหรือเปล่าคะ พจมาร เนีย
หัวใจของทศกัณฑ์อยู่นี่เอง ทหารของพระรามจะทำอย่างไรกันดี คิดหน่อย ๆ อิอิ
ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 11:22
*** display screen มีปัญหาเล่นใน Safemode ยากจังเบย
ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 11:23
POPULAR
กระบวนการทำลายล้าง กปปส.ด้วยข้อหาปฏิรูปพลังงาน
จากกลุ่มคนหวังทำลายล้างที่พอจะมองเห็นตัว !!
ข้อคิดดีๆ จากคุณไพศาล พืชมงคล
-------
การตีจากภายนอกด้วยข้อหาสารพัด ปืน ระเบิด ที่ว่าหนักยังระวังไม่ยากและมัทหารมาช่วยดูแล
แต่ตีจากภายในก็หนักไม่แพ้กัน และทหารก็มาช่วยไม่ได้ นอกจากสติปัญญารู้เท่าทัน
เรื่องใดที่ทำให้ทะเลาะกันเอง เรื่องนั้นคือปรากฎการณ์ที่ตีมาจากภายใน ใครทำให้ตักันเอง คนนั้นคือข้าศึกที่แฝงมาตีจากภายใน
ดูกันเองก็เห็นได้กระจ่าง จะยอมเป็นเหยื่อไหมโยม
คุณไพศาลนี่แก ออกมาเอเอสทีวีบ่อยนี่นา
แสดงให้เห็นถึงตัวตนจริงๆของแกได้เลย
ว่าแป๊ะครอบทุกคนในเครือมันไม่ได้
"กูจะสู้แม้รู้ว่าพวกกูน้อย สู้ไม่ถอยแม้รู้ว่าจะดับสลาย แผ่นดินนี้พ่อกูอยู่ปู่กูตาย กูสุดอายถ้าเสียทีไพรีครอง"
ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 11:26
ยืนยันคำพูดที่ว่าตระกูล"ชินวัตร"นี้มันเลวตั้งแต่หัวถึงหางหรือที่เรียกว่าเลวทั้งโคตรเลย..
ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 11:29
ไม่เกี่ยวการเมือง ทำไมต้องทำขนาดนี้กับ หลวงพ่อคูณ
ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 11:32
ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 11:32
ไอ้ที่นั่งแม่มเลี้ยงเสียข้าวสุกจินๆ
น่าจะมีประเภททำงานไม่คุ้มเงินเดือนไล่แม่มออกได้...แสดดด...
ก็ ไม้กวาดมีอันเดียวนี่ จะไปแย่งกวาด ก็กลัวไม่สะอาด เดี๋ยวเหลือขยะเป็นหย่อมๆ (ตามปกติในการทำงานในหน้าที่)
ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 11:39
ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 11:44
POPULAR
ไอ้ที่นั่งแม่มเลี้ยงเสียข้าวสุกจินๆ
น่าจะมีประเภททำงานไม่คุ้มเงินเดือนไล่แม่มออกได้...แสดดด...
ก็ ไม้กวาดมีอันเดียวนี่ จะไปแย่งกวาด ก็กลัวไม่สะอาด เดี๋ยวเหลือขยะเป็นหย่อมๆ (ตามปกติในการทำงานในหน้าที่)
คุณทหารครับ ด้านหน้า&ด้านข้างสะอาดแล้ว อย่าลืมหันกลับไปกวาดด้านหลังด้วยครับ
ควายตัวนี้สีขาว
ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 11:49
รู้มั้ยพจมานเป็นใคร
คอลัมน์กวนน้ำให้ใส
โดยสารส้ม
หนังสือพิมพ์แนวหน้า
๑๐ มี.ค. ๕๗
ภายหลังการเป่านกหวีดใส่คุณหญิงพจมานที่ห้างดิ เอ็มโพเรียม ปรากฏว่า คุณทยา ทีปสุวรรณ ถูกปฏิบัติการคุกคาม ข่มขู่ กระทั่งบุกถล่มด้วยอาวุธสงครามอย่างต่อเนื่อง!
บ้านย่านสุขุมวิทถูกโยนระเบิดไปป์บอมบ์เข้าใส่ (แต่ไม่ระเบิด)
บ้านแม่ของคุณทยาที่ปากช่อง ถูกยิงถล่มด้วยอาวุธสงคราม ทั้งปืนเอ็ม 16 และอาก้า คนร้ายลอยนวล
บ้านย่านสุขุมวิทถูกโยนระเบิดใส่อีกรอบ คราวนี้เป็นระเบิดสังหาร (แต่ไม่ระเบิด)
โรงเรียนศรีวิกรม์ที่เป็นกิจการของครอบครัวถูกข่มขู่ มีการเอาสีแดงไปป้ายเอาพวงหรีดไปวาง
ยังไม่ต้องพูดถึงกรณีดีเอสไอเร่งรัดคดี เร่งออกหมายเล่นงานฐานกบฏ หลังจากเป่านกหวีดใส่คุณหญิงพจมาน ไม่กี่ชั่วโมง!
ครอบครัวของทยาถูกกดดัน ข่มขู่ ถูกบีบให้ขอโทษคุณหญิงโดยเร็ว ฯลฯ
รู้หรือยังว่า “พจมาน” เป็นใคร? ใหญ่ขนาดไหน?
แม้คนไทยทั้งประเทศจะต้องทุกข์ยากแสนสาหัส ถูกฆ่าตายอย่างอำมหิตจากระบอบทักษิณ พจมานก็ต้องได้อยู่อย่างสุขสบาย เสวยสุขต่อไปแตะต้องไม่ได้เด็ดขาด!
ให้มันรู้เสียบ้างว่าใครเป็นใคร?
จะย้อนความจำให้บ้างก็ได้ว่าพจมานเป็นใคร
1) ใหญ่แค่ไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าอัยการสูงสุดถึงกับมีคำสั่งไม่ฎีกาในคดีเลี่ยงภาษีของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร และนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์
มีผลทำให้คดีต้องยุติลงไป โดยที่ศาลฎีกาฯไม่มีโอกาสได้พิพากษาคดีให้เป็นที่ยุติ
ท่ามกลางข้อครหา ข้อสงสัย โดยที่อัยการสูงสุดไม่แสดงเหตุผลที่แจ้งชัด อ้างแค่ว่า “อัยการมีอิสระในการพิจารณาสั่งคดี” - “การสั่งไม่ฎีกาเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ และเป็นดุลยพินิจ” - “อัยการได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย” ฯลฯ
ทั้งๆ ที่ อัยการสูงสุดก่อนหน้านั้นเคยยื่นฟ้องต่อศาลชั้นต้น ซึ่งแสดงว่าอัยการเห็นว่าคดีนี้มีพยานหลักฐานชัดเจนเพียงพอที่จะเอาผิดกับคุณหญิงพจมานและพวกได้ แถมยังชนะคดีในศาลชั้นต้น ก็แสดงว่า ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีนี้มีพยานหลักฐานแน่นหนาเพียงพอที่จะเอาผิดคุณหญิงพจมานและพวกได้ (ลงโทษจำคุก)
แต่เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องคุณหญิงพจมาน แก้คำพิพากษาศาลชั้นต้น(ประธานศาลอุทธรณ์ คุณชัยสิทธิ์ ตราชูธรรม ถึงกับทำความเห็นแย้งต่อคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์) แต่อัยการสูงสุดกลับไม่ติดใจ ไม่สงสัย หรือไม่ฎีกาคดีไปให้ถึงที่สุดเพื่อให้ศาลฎีกาได้พิจารณาชี้ขาดให้เป็นที่ยุติ จะได้สิ้นข้อครหาสงสัยใดๆ เพราะอย่างน้อย หากไม่เห็นแก่คำสั่งฟ้องของอัยการในอดีต ก็น่าจะเคารพในน้ำหนักของประเด็นความผิดที่ปรากฏชัดเจนอยู่ในคำพิพากษาของศาลชั้นต้นบ้าง
คดีนี้ คือคดีที่คุณหญิงพจมาน นายบรรณพจน์ และพวก ตกเป็นจำเลยข้อหาร่วมกันจงใจหลีกเลี่ยงการชำระภาษีอากรหุ้นชินฯ (มูลค่าหุ้นกว่า 700 ล้านบาทมูลค่าภาษี 270 ล้าน) ศาลชั้นต้นพิจารณาพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงแล้ว พิพากษาให้ลงโทษจำคุก โดยระบุถึงขั้นว่า
“...จำเลยทั้งสามเป็นผู้มีฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะกระทำผิดฐานให้ถ้อยคำอันเป็นเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีอากร จำเลยที่ 2 (คุณหญิงพจมาน) เป็นภริยาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับผู้บริหารประเทศ จำเลยทั้งสามจึงนอกจากมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตนเยี่ยงพลเมืองดีทั่วๆ ไปแล้ว ยังควรดำรงตนให้เป็นตัวอย่างที่ดีสมฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมด้วย แต่จำเลยทั้งสามกลับร่วมกันกระทำการหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร อันเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ไม่เป็นธรรมต่อสังคมและระบบภาษี ทั้งๆ ที่จำนวนภาษีอากรที่จำเลยที่ 1(นายบรรณพจน์) จะต้องชำระตามกฎหมาย และจำเลยที่ 2 (คุณหญิงพจมาน) จะเป็นผู้ชำระแทนในที่สุดนั้น เทียบไม่ได้กับจำนวนทรัพย์สินที่จำ เลยที่ 2 (คุณหญิงพจมาน) และครอบครัวมีอยู่ในขณะนั้น การที่จำเลยที่ 1 จะชำระภาษีอากรไปตามกฎหมาย เช่น พลเมืองดีทุกคน จึงมิได้มีผลกระทบต่อฐานะของจำเลยที่ 2 แต่อย่างใด การกระทำความผิดของจำเลยทั้งสามจึงร้ายแรง...”
อัยการสูงสุดในสมัยนั้นก็คือ นายชัยเกษม นิติสิริ
รักษาการรมว.ยุติธรรมในสมัยนี้
ผลประโยขน์ต่างตอบแทน
นี่แหละคือผลพวงของระบอบทักษิณ
1ในตัวอย่างจากคลิปถั่งเฉ้า
ยอมพลีกายเป็นทาสรับใช้
เมื่อเกษียณแล้วจะได้ไม่อดตาย
ชัยเกษมน่าจะดู พลเอกเสถียร เพิ่มทองอินทร์เป็นตัวอย่าง
จะต้องติดคุกตอนแก่ ในวัยที่ไร้ซึ่งบารมีและนายเงินมาเหลียวแล
"กูจะสู้แม้รู้ว่าพวกกูน้อย สู้ไม่ถอยแม้รู้ว่าจะดับสลาย แผ่นดินนี้พ่อกูอยู่ปู่กูตาย กูสุดอายถ้าเสียทีไพรีครอง"
ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 11:53
มีเสื้อแดงกินปูนอีกแล้ว ที่ราชบุรี
เห็นป้ายต้านนักการเมืองโกงหน้าสำนักงานสาธารณสุขราชบุรีแล้วร้อนท้อง
จากเพจ V For ราชบุรี
ประกาศข่าวด่วน เวลานี้ 11.35 น. วันที่ 10 มีนาคม ที่หน้าโรงพยาบาลแม่และเด็ก ข้างวิทยาลัยเทคนิคราชบุรี และที่ ที่หน้า สสจ ราชบุรีค่ะ มีพวกเสื้อแดงมาก่อกวนค่ะ มาสั่งให้ปลดป้ายลงค่ะ แต่มวลชนมีน้อยมากค่ะ ต้องการกำลังเสริมค่ะ
ขอบคุณค่ะ / Nawanun Phuttha
มีป้ายสีแดงเขียนข้อความว่า "เครือข่ายภาคประชาชนแสวงหาความเป็นธรรมให้กับสังคม"
แสวงหาภาษาอะไรของมัน
Edited by อู๋ ฮานามิ, 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 11:54.
ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด
เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ
ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 12:13
ถ้าอดีต เมีย หายไปซักคน ???? มันจะบ้าเลือด หรือ ดีใจ หว่า
ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 12:13
รู้มั้ยพจมานเป็นใคร
คอลัมน์กวนน้ำให้ใส
โดยสารส้ม
หนังสือพิมพ์แนวหน้า
๑๐ มี.ค. ๕๗
ภายหลังการเป่านกหวีดใส่คุณหญิงพจมานที่ห้างดิ เอ็มโพเรียม ปรากฏว่า คุณทยา ทีปสุวรรณ ถูกปฏิบัติการคุกคาม ข่มขู่ กระทั่งบุกถล่มด้วยอาวุธสงครามอย่างต่อเนื่อง!
บ้านย่านสุขุมวิทถูกโยนระเบิดไปป์บอมบ์เข้าใส่ (แต่ไม่ระเบิด)
บ้านแม่ของคุณทยาที่ปากช่อง ถูกยิงถล่มด้วยอาวุธสงคราม ทั้งปืนเอ็ม 16 และอาก้า คนร้ายลอยนวล
บ้านย่านสุขุมวิทถูกโยนระเบิดใส่อีกรอบ คราวนี้เป็นระเบิดสังหาร (แต่ไม่ระเบิด)
โรงเรียนศรีวิกรม์ที่เป็นกิจการของครอบครัวถูกข่มขู่ มีการเอาสีแดงไปป้ายเอาพวงหรีดไปวาง
ยังไม่ต้องพูดถึงกรณีดีเอสไอเร่งรัดคดี เร่งออกหมายเล่นงานฐานกบฏ หลังจากเป่านกหวีดใส่คุณหญิงพจมาน ไม่กี่ชั่วโมง!
ครอบครัวของทยาถูกกดดัน ข่มขู่ ถูกบีบให้ขอโทษคุณหญิงโดยเร็ว ฯลฯ
รู้หรือยังว่า “พจมาน” เป็นใคร? ใหญ่ขนาดไหน?
แม้คนไทยทั้งประเทศจะต้องทุกข์ยากแสนสาหัส ถูกฆ่าตายอย่างอำมหิตจากระบอบทักษิณ พจมานก็ต้องได้อยู่อย่างสุขสบาย เสวยสุขต่อไปแตะต้องไม่ได้เด็ดขาด!
ให้มันรู้เสียบ้างว่าใครเป็นใคร?
จะย้อนความจำให้บ้างก็ได้ว่าพจมานเป็นใคร
1) ใหญ่แค่ไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าอัยการสูงสุดถึงกับมีคำสั่งไม่ฎีกาในคดีเลี่ยงภาษีของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร และนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์
มีผลทำให้คดีต้องยุติลงไป โดยที่ศาลฎีกาฯไม่มีโอกาสได้พิพากษาคดีให้เป็นที่ยุติ
ท่ามกลางข้อครหา ข้อสงสัย โดยที่อัยการสูงสุดไม่แสดงเหตุผลที่แจ้งชัด อ้างแค่ว่า “อัยการมีอิสระในการพิจารณาสั่งคดี” - “การสั่งไม่ฎีกาเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ และเป็นดุลยพินิจ” - “อัยการได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย” ฯลฯ
ทั้งๆ ที่ อัยการสูงสุดก่อนหน้านั้นเคยยื่นฟ้องต่อศาลชั้นต้น ซึ่งแสดงว่าอัยการเห็นว่าคดีนี้มีพยานหลักฐานชัดเจนเพียงพอที่จะเอาผิดกับคุณหญิงพจมานและพวกได้ แถมยังชนะคดีในศาลชั้นต้น ก็แสดงว่า ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีนี้มีพยานหลักฐานแน่นหนาเพียงพอที่จะเอาผิดคุณหญิงพจมานและพวกได้ (ลงโทษจำคุก)
แต่เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องคุณหญิงพจมาน แก้คำพิพากษาศาลชั้นต้น(ประธานศาลอุทธรณ์ คุณชัยสิทธิ์ ตราชูธรรม ถึงกับทำความเห็นแย้งต่อคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์) แต่อัยการสูงสุดกลับไม่ติดใจ ไม่สงสัย หรือไม่ฎีกาคดีไปให้ถึงที่สุดเพื่อให้ศาลฎีกาได้พิจารณาชี้ขาดให้เป็นที่ยุติ จะได้สิ้นข้อครหาสงสัยใดๆ เพราะอย่างน้อย หากไม่เห็นแก่คำสั่งฟ้องของอัยการในอดีต ก็น่าจะเคารพในน้ำหนักของประเด็นความผิดที่ปรากฏชัดเจนอยู่ในคำพิพากษาของศาลชั้นต้นบ้าง
คดีนี้ คือคดีที่คุณหญิงพจมาน นายบรรณพจน์ และพวก ตกเป็นจำเลยข้อหาร่วมกันจงใจหลีกเลี่ยงการชำระภาษีอากรหุ้นชินฯ (มูลค่าหุ้นกว่า 700 ล้านบาทมูลค่าภาษี 270 ล้าน) ศาลชั้นต้นพิจารณาพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงแล้ว พิพากษาให้ลงโทษจำคุก โดยระบุถึงขั้นว่า
“...จำเลยทั้งสามเป็นผู้มีฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะกระทำผิดฐานให้ถ้อยคำอันเป็นเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีอากร จำเลยที่ 2 (คุณหญิงพจมาน) เป็นภริยาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับผู้บริหารประเทศ จำเลยทั้งสามจึงนอกจากมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตนเยี่ยงพลเมืองดีทั่วๆ ไปแล้ว ยังควรดำรงตนให้เป็นตัวอย่างที่ดีสมฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมด้วย แต่จำเลยทั้งสามกลับร่วมกันกระทำการหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร อันเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ไม่เป็นธรรมต่อสังคมและระบบภาษี ทั้งๆ ที่จำนวนภาษีอากรที่จำเลยที่ 1(นายบรรณพจน์) จะต้องชำระตามกฎหมาย และจำเลยที่ 2 (คุณหญิงพจมาน) จะเป็นผู้ชำระแทนในที่สุดนั้น เทียบไม่ได้กับจำนวนทรัพย์สินที่จำ เลยที่ 2 (คุณหญิงพจมาน) และครอบครัวมีอยู่ในขณะนั้น การที่จำเลยที่ 1 จะชำระภาษีอากรไปตามกฎหมาย เช่น พลเมืองดีทุกคน จึงมิได้มีผลกระทบต่อฐานะของจำเลยที่ 2 แต่อย่างใด การกระทำความผิดของจำเลยทั้งสามจึงร้ายแรง...”
อัยการสูงสุดในสมัยนั้นก็คือ นายชัยเกษม นิติสิริ
รักษาการรมว.ยุติธรรมในสมัยนี้
ผลประโยขน์ต่างตอบแทน
นี่แหละคือผลพวงของระบอบทักษิณ
1ในตัวอย่างจากคลิปถั่งเฉ้า
ยอมพลีกายเป็นทาสรับใช้
เมื่อเกษียณแล้วจะได้ไม่อดตาย
ชัยเกษมน่าจะดู พลเอกเสถียร เพิ่มทองอินทร์เป็นตัวอย่าง
จะต้องติดคุกตอนแก่ ในวัยที่ไร้ซึ่งบารมีและนายเงินมาเหลียวแล
เปิดบัญชีทรัพย์สินฯชัยเกษม นิติสิริ พบมีกว่า 150 ล. ไม่มีหนี้สิน แจ้งมีบ้าน 8 หลัง แหลายหลังไม่รู้ได้มาเมื่อไร ไม่ระบุมูลค่า
นายชัยเกษม นิติสิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม อดีตอัยการสูงสุด กำลังถูกจับตามองในเรื่องของที่มาบ้านหลายหลัง ที่แจ้งไว้ในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ที่แจ้งต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ช่วงเข้ารับตำแหน่ง รมว.ยุติธรรม เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2556เนื่องจาก นายชัยเกษม ระบุว่า จำไม่ได้ว่าได้รับมาเมื่อไร รวมทั้งบ้านที่อยู่อาศัย จำนวน 5 หลังจากทั้งหมด 8 หลัง
วานนี้ ( 9 มี.ค.57 ) สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า ในการแจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ต่อ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2556
นายชัยเกษม ระบุว่า มีบ้านจำนวน 8 หลัง แบ่งเป็นของ นายชัยเกษม 7 หลังและคู่สมรส 1 หลัง
อย่างไรก็ตาม นายุชัยเกษม ระบุว่า มีบ้านจำนวน 4 หลัง ในความครอบครองของตนเอง ซึ่งจำไม่ได้ว่า ได้มาเมื่อไร รวมทั้งบ้านเลขที่ 62/999 ถนนรัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นบ้านที่อยู่อาศัยในปัจจุบัน
ขณะที่ บ้านเลขที่ 62/15 หมู่ที่ 8 ต.บางกระสอ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี ซึ่งระบุว่าเป็นของคู่สมรส ระบุว่า จำวันที่ได้มาไม่ได้เช่นกัน และไม่มีการระบุมูลค่าปัจจุบันไว้ด้วย
นายชัยเกษม ยังแจ้งด้วยว่า มีที่ดินในความครอบครอง จำนวน 31 แปลง แบ่งเป็น ของนายชัยเกษม 28 แปลง มูลค่า 56,842,259 บาท และคู่สมรส 3 แปลง มูลค่า 7,300,000 บาท
ทั้งนี้ ในการแจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินดังกล่าว นายชัยเกษม แจ้งว่า มีรายได้ทั้งสิ้น 7,898,668 บาท มีรายจ่ายทั้งสิ้น 2,400,000 บาท มีทรัพย์สินทั้งหมด 152,709,376 บาท และไม่มีหนี้สิน
รายได้ประจำ มาจาก
- เงินเดือน 1,347,000 บาท และนางอัมพร นิติสิริ (คู่สมรส) 562,780 บาท
- เบี้ยประชุมราชการ/รัฐวิสาหกิจ 2,643,888 บาท และคู่สมรส 240,000 บาท
- ค่าสอนพิเศษ 25,000 บาท
- ค่าโบนัสรัฐวิสาหกิจ 2,250,000 บาท
นายชัยเกษม ยังแจ้งว่า มีเงินฝาก มูลค่า 21,521,326 บาท แบ่งเป็น
- บัญชีธนาคารกสิกรไทย 4 บัญชี
- บัญชีธนาคารออมสิน 3 บัญชี
- บัญชีธนาคารกรุงไทย 7 บัญชี
- บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ 1 บัญชี
- บัญชีธนาคารกรุงเทพ 2 บัญชี
- สหกรณ์ออมทรัพย์ข้าราชการ สำนักงานอัยการสูงสุด 1 บัญชี
- สลากออมสินพิเศษ 1 บัญชี
- ธนาคารอาการสงเคราะห์ 3 บัญชี
ส่วนคู่สมรส มูลค่า 6,009,813 บาท แบ่งเป็น
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา 1 บัญชี
- สหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงแรงงาน 1 บัญชี
สำหรับเงินลงทุนมีทั้งหมด 22 แห่ง แบ่งเป็น ของนายชัยเกษม 12 แห่ง มูลค่า 20,044,483 บาท และคู่สมรส 10 แห่ง มูลค่า 9,436,493 บาท
มียานพาหนะ 1 คัน ของคู่สมรส มูลค่า 3,100,000 บาท
และ มีทรัพย์สินอื่น (ราคาตั้งแต่สองแสนบาทขึ้นไป) แบ่งเป็น ของนายชัยเกษม 5 ชิ้น มูลค่า 7,550,000 บาท และคู่สมรส 4 ชิ้น มูลค่า 6,355,000 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ นายชัยเกษม ได้วิพากษ์วิจารณ์กลุ่มนักวิชาการสยามประชาภิวัฒน์ที่บอกว่า รัฐบาลรักษาการสิ้นสภาพแล้ว เนื่องจากไม่สามารถเปิดประชุมสภาได้ภายใน 30 วัน และรวมไปถึงแสดงถ้อยคำที่ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ที่มักวินิจฉัยตีความไปในอีกรูปแบบหนึ่ง แต่จำเป็นต้องฟัง
http://www.tnews.co....-8-หลัง-!!.html
ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 12:18
ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 12:28
"สุรพงษ์"เรียกร้องกองทัพดูแลทหารในสังกัดไม่ควรขนอาวุธใกล้ที่ชุมนุม ส่วนการพิจารณาต่ออายุพรก.ฉุกเฉินฯขอเวลาอีก1สัปดาห์ pic.twitter.com/3wM7TGeiut
"ภราดร"เผยกรณีพาสปอร์ตถูกสวมรอยบนเที่ยวบินMH370ไม่เกี่ยวกับไทย เพราะเล่มเก่าได้แจ้งหาย และทำเล่มใหม่ให้เดินทางได้แล้ว pic.twitter.com/anUYRIeRwz
"เฉลิม"เผยการเมืองหลังจากนี้จะมีเหตุการณ์น่ากลัวเพราะไม่มีใครยอมใคร มีพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯก็ไร้ประโยชน์ พร้อมกลับ"จับกัง1" pic.twitter.com/FesWF9amrZ
Remix ขี้ข้าดิ้น 5 5
ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 12:30
POPULAR
ภาพเปรียบเทียบขนาดของวาฬสี่นํ้าเงิน ซึ่งจัดว่าเป็นสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเท่าที่เคยมีมาและยังมีชีวิตอยู่ pic.twitter.com/KrwV1xNwWa
ความรู้รอบตัวยามเที่ยงครับ...
ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 12:31
12.26 น. "พลโทภราดร" เตรียมเสนอครม.ยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินตามข้อเรียกร้องขององค์กรธุรกิจ แต่อาจจะใช้ พ.ร.บ.มั่นคงแทน คาดรู้ผลใน2-3วันนี้ #PNC
ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 12:31
"สุรพงษ์"เรียกร้องกองทัพดูแลทหารในสังกัดไม่ควรขนอาวุธใกล้ที่ชุมนุม ส่วนการพิจารณาต่ออายุพรก.ฉุกเฉินฯขอเวลาอีก1สัปดาห์ pic.twitter.com/3wM7TGeiut
"ภราดร"เผยกรณีพาสปอร์ตถูกสวมรอยบนเที่ยวบินMH370ไม่เกี่ยวกับไทย เพราะเล่มเก่าได้แจ้งหาย และทำเล่มใหม่ให้เดินทางได้แล้ว pic.twitter.com/anUYRIeRwz
"เฉลิม"เผยการเมืองหลังจากนี้จะมีเหตุการณ์น่ากลัวเพราะไม่มีใครยอมใคร มีพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯก็ไร้ประโยชน์ พร้อมกลับ"จับกัง1" pic.twitter.com/FesWF9amrZ
Remix ขี้ข้าดิ้น 5 5
ไปรับออเดอร์+รับการตบกบาลจากนายจ้างมาแล้วล่ะสิ
ตอบ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 12:33
ดาบปลอกเงิน ด้ามเงิน ฝีมือช่างล้านนา ราวปี พ.ศ. 2400 เดินไปเจอแขวนที่ผนังบ้านหลังหนึ่งใน จ.น่าน pic.twitter.com/bGYwhCK9xt
สวยเนอะ !!!
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 62 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน