คืออยากบอกว่า เข้าใจดีถึงความต้องการของสมาชิก สรท ที่อยากเห็นการปฏิรูปประเทศ ขจัดระบอบทักษิณ เกิดขึ้นในเร็ววัน จนอยากให้ทหารออกมายืนข้างประชาชน ในทันใด
ในความเป็นจริง เราคงต้องมองในแง่มุมของทหารด้วย
- เป็นข้าราชการที่มีกฎระเบียบค้ำคออยู่ ต้องทำตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาตาม กม
- บทเรียนในปี 49 ทหารถูกด่าว่าฉีก รธน ทำรัฐประหาร ประชาธิปไตยถอยหลัง ซึ่งทำให้ทหารพยายามลดบทบาททางการเมือง เน้นการเป็นทหารอาชีพมากขึ้น
- บทเรียนปี 53 ทหารออกมาช่วยรัฐบาลกระชับพื้นที่ชุมนุม ทหารมีการสูญเสีย ถูกกล่าวหาว่ากระทำรุนแรงกับประชาชน มีคดีความ จึงทำให้ทหารไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับการเมือง
ส่วนการเมืองภายในของทหารเอง คงไม่ต้องกล่าวถึง มันมีมาทุกยุคทุกสมัย เด็กใคร เส้นนัักการเมืองคนใด ใครข้ามห้วย ฯลฯ
เราจึงเห็นว่ากับการเมืองของประเทศ ทหารพยายามนิ่งเฉย ปล่อยให้นักการเมืองบรรเลงกันเอง
แต่ถ้าเราไม่ลืม
ก่อนหน้านี้ไม่นาน ทหารได้ออกมาช่วย นศ ราม ที่โดนเสื้อแดงลอบยิง ทั้งๆที่ควรเป็นหน้าที่ของตำรวจ
มวลชนที่โดนแก๊สน้ำตากระหน่ำยิง ได้ทหารออกมาช่วย
ทหารบอกว่า ไม่อยากเห็นความรุนแรงที่ตำรวจทำกับประชาชน
ทหารบอกว่า ยืนอยู่ข้างประเทศ
วันนี้ทหารจัดให้มีการสัมมนา กับ กปปส
แสดงถึงการยอมรับการมีตัวตนของ กปปส
แต่จะให้ทหารเซย์เยส ในทันใด คงทำได้ยาก
เราคงต้องให้เวลาทหารไปรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ วิจัยให้ตกผลึก
ให้พวกเขาได้หารือ กำหนดแนวทางของพวกเขา
แนวทางซึ่งถูก กม และทำให้ทหารไม่ตกเป็นจำเลยอีก
ส่วนจะเป็นประโยชน์ หรือยืนอยู่ข้าง กปปส หรือไม่
ต้องรอดู
วันนี้ สิ่งสำคัญคือ ทหารไม่ได้แสดงให้เห็นว่าอยู่ข้างรัฐบาลชัดเจน จนไม่ฟังเสียง กปปส
ถึงจะไม่สนับสนุน แต่ก็ไม่ขัดขวาง
สิ่งที่มวลมหาประชาชน ต้องลงมือทำคือ กระจายความรู้ ความเข้าใจในการปฏิรูปประเทศก่อนการเลือกตั้งให้มากที่สุด
รวมพลังกันให้มากที่สุดเพื่อกดดัน รัฐบาลรักษาการ
อย่าหวังพึ่งคนอื่น พึ่งตนเองให้มากที่สุด