Jump to content


Photo
- - - - -

วันมหาชน "โจรเมืองสะท้าน" โดย เปลว สีเงิน 5 พฤศจิกายน 2556


  • Please log in to reply
1 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 aiwen^mei

aiwen^mei

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,150 posts

ตอบ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 18:15

   แล้ว "ลิงประชาธิปัตย์" ก็ยกทัพลูกหลาน "พระนารายณ์" ยาวหลายกิโล จากสถานีสามเสนมาหลอกสมุน "ยักษ์หน้าเหลี่ยม" ยึดอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินได้สำเร็จ พร้อมตั้งค่ายคูประตูรบ จ่อประจันหน้าด่าน "กรุงลงกา" เพื่อทำศึกแตกหักกับทัพจอมอสูร "ฆาตกร-โกงแผ่นดิน-กินประเทศ" ยกต่อไป 
    ถ้าว่าไป ก็เหมือนรามเกียรติ์ตอน "หนุมานจองถนน" กว่าจะใช้เล่ห์กล และกำลังพลลิงถมหินในทะเลสร้างทางเข้ากรุงลงกาได้ ก็ต้องใช้ทั้งเล่ห์ ทั้งกล ทั้งมนต์เสน่ห์หนักหนาเอาการ
    ก็ต้องบอกว่าการยกระดับ "ขั้นแรก" ของคุณสุเทพและคณะประชาธิปัตย์ "เข้าแผน" คือเป็นไปตามขั้นตอนที่วางไว้
    ถ้าพูดในภาพรวม ที่เห็นรูปแบบเคลื่อนทัพจากสถานีสามเสนอันเหมือนหนองน้ำ ไปลงทะเลใหญ่ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยของมังกรวานนี้ (๔ พ.ย.๕๖)
    ก็ชัดว่า การทำศึกปราบโจรแผ่นดินครั้งนี้ ไม่ใช่ "สุเทพโชว์" หรือ วันแมนโชว์ และไม่ใช่สถานการณ์พาไปวันๆ 
    หากแต่ถึงพร้อมด้วยยุทธศาสตร์-ยุทธวิถี และเล่ห์กลศึกชนิด "เป็นขั้น-เป็นตอน" ซึ่งต้องพูดว่า 
    ฝ่ายเสนาธิการ...เยี่ยม!
    กองทัพประชาธิปัตย์ใช้เวลาเพียง ๓ วัน สามารถ "ใช้ใจ-แลกใจ" ประชาชน จากเรือนพัน เป็นเรือนหมื่น จากเรือนหมื่น เป็นเรือนหลายหมื่น และเช้าวาน จากหลายหมื่น แค่เที่ยง ขยับขึ้นเป็นเรือนแสน 
    และแสนๆ แน่นขนัดตอนค่ำ ทอดยาวไปตามราชดำเนิน ถนนแห่งชัยชนะประชาชน ถนนที่ตีนบริสุทธิ์ประชาแห่งราช ย่ำร้อยครั้ง
    ชนะทั้งร้อยครั้ง!
    ประชาชนทุกวันนี้ ต่างอยู่ในสภาพ "อกไหม้-ไส้ขม" มองยิ่งลักษณ์บริหารด้วยทุจริต-คอร์รัปชันตาปริบๆ 
    ราชการงานเมืองที่มุ่งทำ ก็มิใช่เพื่อบ้านเมือง หากแต่เพื่อ "บ้านกู-โคตรกู-พี่ชายกู" แต่เงินภาษีประชาชน มันช่างหดหู่ยิ่งนัก
    ยิ่งเห็นสมคบรัฐสภาออกกฎหมายนิรโทษให้ "ฆาตกร-โกงแผ่นดิน-กินประเทศ" ก็ได้แต่ร้อง ด้วยร้อน-แล้ง อยู่ในหัวอก
    หมดสิ้นแล้ว ประเทศไทย....!
    พูดอะไรก็เป็นภัยกับตัวเอง เพราะพวกโจรเริงเมืองหูตามันเกลื่อนกลาดทั้งในระบบราชการและระบบชาวบ้าน ขืนไม่หรี่ตาตามโจร ก็จะโดน "ระบอบทักษิณ" เล่นงาน 
    จนกระทั่งสุเทพและคณะ "ตั้งเวที" สถานีสามเสน เป้าหมายที่ประกาศ เหมือนเข้าไปนั่งอยู่ในหัวใจ เหมือนบ่งหนองให้ไหล แค่คลายเจ็บปวด 
    แต่มันจะไม่หาย....
    ถ้าสุเทพและคณะไม่นำประชาชนขับมันไปให้พ้นจากไทยแผ่นดิน!
    แค่ให้ถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษทักษิณ มันไม่พอ เพราะเหมือนรีดหนอง แต่ไม่เค้นเอาหัวฝีร้ายออกจากเนื้อใน มันก็หายยาก 
    เดี๋ยวๆ มันก็ "กลัดหนอง-กินเนื้อ" ให้ "ปวดทั้งแผ่นดิน" ไม่สิ้น ไม่คลาย!
    การเคลื่อนขบวนออกจากสถานีสามเสน แวะสถานีอุรุพงษ์ ก่อนไปสักการะศาลหลักเมือง กล่าวคำปฏิญาณต่อ "พระแก้วมรกต" และบูรพมหากษัตริย์ ณ พระบรมมหาราชวัง แล้วมาจอดสถานีสุดท้าย "อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย"
    นั่นไม่ใช่การ "ซื้อใจ-วัดใจ" ประชาชน หากแต่เป็นการ "ได้รับ" พลังน้ำใจ จากประชาชนทั้ง ๒ ฟากถนน ทั้งพระราม ๖ อุรุพงษ์ สะพานขาว ผ่านฟ้า ราชดำเนิน สนามหลวง ที่หลั่งไหล เรียงราย
    มอบให้สุเทพกับคณะมหาชนนับหมื่น-นับแสน ที่ยิ่งเดิน ท้ายขบวนยิ่งต่อยาว..ต่อยาว..เป็นดาวหางขึ้นกลางประเทศ!
    การเคลื่อนทัพของสุเทพ นอกจากเป็นยุทธวิธี ยังแฝงยุทธศาสตร์ "แหลมคม" ด้วยการแวะสถานีอุรุพงษ์ ส่งนัย "ปิง-วัง-ยม-น่าน" รวมเป็น "เจ้าพระยา ใหญ่สายเดียวกัน"
    และก่อนหน้า กปท.โดยสันติอโศกที่สวนลุมฯ ก็เคลื่อนมารวมกับ คปท.ที่อุรุพงษ์ พร้อมเครือข่ายประชาชน ๗๗ จังหวัด 
    "ทั้งผองรวมเป็นหนึ่ง" 
    ประกอบด้วย พลตรีจำลอง ศรีเมือง พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ พิภพ ธงไชย สุริยะใส กตะศิลา นิติธร ล้ำเหลือ อุทัย ยอดมณี และนักศึกษาอาชีวะ
    การแวะของสุเทพ เท่ากับประกาศให้ทราบว่า "นี้...เนื้อเดียวกัน" ในแนวทางสู่เป้าหมาย เพียงแยกเวทีกันไป ทางยุทธศาสตร์!
    การเดินทัพของสุเทพ โดยไม่บอกเป้าหมาย ปล่อยให้ทุกคนกระหายอยากรู้ ก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง 
    หลายคนอาจคาดเดาได้ สุดท้ายสุเทพต้องย้ายเวทีมายึดชัยภูมิราชดำเนิน แต่ก็มีพวกหนึ่งที่ หลงค่ายกลสุเทพ คือตำรวจ
    เหนื่อยเปล่า...ที่ต้องระดมกันกั้นกำแพงคุกรอบทำเนียบฯ-รอบสภาฯ แต่ว่ามวลชนคนไม่เอารัฐบาลยิ่งลักษณ์, ไม่เอารัฐสภาสมศักดิ์-นิคม เขาไม่มาทางนี้ แต่ไปทางโน้น!
    เมื่อคิดหยั่งผ่าน "ทางเดินทัพ" จึงไม่รู้สึกอะไรนักที่คณะพรรคประชาธิปัตย์ โดยสุเทพประกาศเป้าหมายการตั้งเวทีชุมนุมแค่ว่า
    "ให้รัฐบาลถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษทักษิณออกไป"!
    ประชาชนร่วมเดินทัพ มีปฏิกิริยาไม่ค่อยพอใจนัก เพราะเห็นว่า มันเบา-โหวงเหวง ไม่สมราคาที่กรีธาทัพ สะท้านฟ้า-สะเทือนดิน
    และอีกอย่าง รู้อยู่กับใจ มาป่านนี้ "มันถอนไม่ได้แล้ว" ครั้นจะมารอวัดใจจาก ส.ว.ให้โหวตไม่รับ ดูไม่สมเหตุสมผล "จะเล่นละครกับรัฐบาลแหกตาประชาชนหรืออย่างไร?"
    บางคนตั้งข้อสงสัยเช่นนี้....
    ก็อยากบอกว่า "ดีแล้วที่คนสงสัย"
    เพราะนั่นแสดงว่าแผนและยุทธศาสตร์ปราบทรราชมารแผ่นดินของสุเทพกับมวลมิตรร่วมแนวทางแต่ละเวทีแยบคาย ใช้ได้...เพราะคนภายนอก 
    เดาไม่ได้-คาดหมายไม่ถูก!
    ไว้ใจสุเทพ ตามที่อภิสิทธิ์บอกซักพักเหอะ แล้วจะเห็นเหมือนที่ไม่คิดว่าเคลื่อนพลจากสามเสนไปยึดราชดำเนิน
    ที่ตั้งเงื่อนไข "ให้ถอน พ.ร.บ.นิรโทษ"
    เถอะ...แล้วมันจะถูกยกระดับเป็น "ไล่ยิ่งลักษณ์ออกไป" ในไม่ช้า!
    ถ้าไม่ไล่....
    เรา-ประชาชน ก็ต้องหันเท้าเข้าหาสุเทพและคณะ ไล่มันไปแทน!!
    ครับ...ก็บอกตามที่ผมคาดเดาให้สบายใจกัน โทษด้วยบริหารเหิมเกริมของยิ่งลักษณ์ ฝ่ายรัฐบาล และของสมศักดิ์-นิคม ฝ่ายรัฐสภา 
    มันถึงขั้น "อนันตริยกรรมแผ่นดิน" หนักหนาเกินกว่าแค่ "ดีดไข่-ดีดแคม" แล้วอภัยให้กันไป!
    นอกจาก "มหาประชาชน" ตื่นแล้วทั่วประเทศ!
    คณาจารย์มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ นิสิต-นักศึกษา หลายสถาบัน นักธุรกิจ-พ่อค้า จำนวนมาก แพทย์-พยาบาล หลายสถาบัน รวมทั้งข้าราชการที่กลัวแสนกลัวนักการเมือง
    ยกเว้น ตำรวจ และทหาร    
    ขณะนี้...........
    ไม่มีใครกลัว "อำนาจ" รัฐบาลทรราชแล้ว!
    ต่างประกาศตัว ประกาศเจตนารมณ์ ต่อต้านการบริหารทุจริต-คอร์รัปชัน ต่อต้านการออกกฎหมายลูกฆ่ากฎหมายแม่ คือรัฐธรรมนูญ ล้มอำนาจสถาบันประเทศ ล้างหลักนิติรัฐ ด้วยการนิรโทษ "ฆาตกร-โกงแผ่นดิน-กินประเทศ" นามว่าทักษิณ!
    ข้าราชการ "กระทรวงพาณิชย์" ประมาณ ๑๐๐ คน เป็นข้าราชการแห่งแรกต้องบันทึกไว้ ที่รักประเทศ รักสะอาด-สุจริต-เกลียดคอร์รัปชัน ในระบบราชการ
    เย็นวาน เขาเหล่านั้นต่างออกมา "ประกาศตน" ต้านรัฐบาลบริหารคอร์รัปชัน หยัดยืนเคียงข้างประชาชน!
    เอาละ เพื่อเป็น "สัญญาผูกมัด" สุเทพและคณะพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง ผมจะนำคำปฏิญาณที่คุณสุเทพกล่าวต่อพระแก้วมรกต และบุรพมหากษัตริย์ มาไว้เป็นสักขี ดังนี้
    "แผ่นดินไทยพระเจ้าแผ่นดินทุกพระองค์ได้สร้างขึ้นทำนุบำรุงนำมาซึ่งความผาสุกจนมาปี ๒๔๗๕ รัชกาลที่ ๗ ทรงพระราชทานอำนาจให้ประชาชนทั้งประเทศเปลี่ยนแปลงเป็นระบอบประชาธิปไตย 
    ต่อมาได้มีกระบวนการผู้คนยึดอำนาจเป็นของคนคนเดียว คณะเดียว เป็นเหตุให้พี่น้องต้องมาต่อสู้ครั้งแล้วครั้งเล่า มาจนบัดนี้ เป็นที่ปรากฏแน่ชัดแล้วว่า ความถูกต้องรวบอำนาจการปกครองในหมู่เขา โดยไม่คำนึงสิทธิอำนาจ พยายามแก้ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเพื่อล้างผิดให้คนโกง คนทุจริต คนเผาบ้านเผาเมือง คนฆ่าประชาชน-ทหาร ทำลายกฎหมาย ทำให้ประเทศไทยไม่สามารถดำรงนิติรัฐปกครองนิติธรรม จึงมารวมตัวกันปกป้องชาติ ประชาชน ภายใต้การปกครองที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข  
    พวกข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอตั้งสัตย์ปฎิญาณต่อเบื้องหน้าพระแก้วมรกต พระสยามเทวาธิราช และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ข้าพเจ้าเป็นผู้สำนึกบุญคุณบ้านเมือง ต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รักษาบ้านเมือง พวกข้าพเจ้าทั้งหลายขอตั้งสัจวาจาจะดำเนินการต่อสู้คัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมล้างผิดคนโกงอย่างเต็มที่ ให้กฎหมายดังกล่าวมีอันเป็นไปใช้ไม่ได้และต่อสู้กับคนทุจริต 
    จนกว่าคนเหล่านี้จะสาบสูญไปจากแผ่นดินไทย 
    ขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์บุญบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ช่วยดลบันดาลให้ข้าพเจ้าทั้งหลายที่ตั้งใจทำดีจงมีความสุข ความเจริญ ขอให้มีชัยชนะในการต่อสู้ปกปักรักษาบ้านเมือง"
    นี่จงเป็นสัจ ทำสำเร็จ จงจำเริญ ผิดสัจ จงวิบัติพลัน



#2 aiwen^mei

aiwen^mei

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,150 posts

ตอบ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 18:17

อ้างอิจากลิงก์นี้ค่ะ

 

http://thaipost.net/news/051113/81647






ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน