นายสุรชัยกล่าวว่า การติดคุกของตนที่ผ่านมาไม่เคยคิดว่าเสียหาย และต้องขอบคุณนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ทำให้ตนติดคุก เพราะได้พักผ่อนมาอย่างเต็มที่ สุขภาพก็ดีขึ้น
ซึ่งช่วงที่อยู่ในคุกได้รับการช่วยเหลือจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ผ่านคุณเมล์ แดงยุโรปให้เงินเดือนละ 4,000-6,000 บาทต่อเดือน บางคนหนักกว่าได้ถึง 40,000 บาท ในวันที่ 22 ก.พ. 2554 ตนมีเงินอยู่ 25,000 บาท พอผ่านไป 2 ปีได้เงินเดือนละ 6,000 บาท เมื่อพ้นคุกได้ถึง 140,000 บาท จนรวยจากการติดคุก
“มีอยู่คน เป็นชาวเขมรที่อยู่ในการชุมนุม แต่ถูกคุมขังอยู่ในคุกหลักสี่ ปัจจุบันมีเงินกว่า 400,000 บาทแล้ว ตนอยู่ในคุก ยังอยู่ห้องพิเศษส่วนตัว มีโต๊ะกินข้าวเอง มีหม้อหุงข้าวเอง ฯลฯ จึงจะเห็นได้ว่าคนเสื้อแดงที่อยู่ในคุกได้รับการดูแล และยิ่งเมื่อเปลี่ยนมาเป็นรัฐบาลชุดปัจจุบันก็ได้รับการดูแลตลอด โดยนายใหญ่ ส่วนพวกเสื้อเหลืองไม่รู้นายใหญ่หายไปไหน เพราะพรรคประชาธิปัตย์ และกลุ่ม พธม.ก็ไม่ใช่”
นายสุรชัยกล่าวอีกว่า ตามปกติคนที่ต้องโทษตามมาตรา 112 ในอดีตจะถูกดูถูก ไม่มีใครอยากยุ่ง เมื่อพ้นโทษก็ถูกรังเกียจ เพราะอำมาตย์เขาอยากให้เป็นอย่างนั้น แต่ตนออกมามีคนไปรับหลายร้อย แม้อธิบดีกรมราชฑัณฑ์ยังต้องมาส่ง เพราะเกรงว่าตนจะแสดงอาการที่ไม่ถูกใจ และตนอยากให้รู้ว่าการที่ตนพ้นโทษออกมาด้วยการพระราชทานอภัยโทษนั้นเกิดจากการทูลเกล้าฯ ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แสดงว่าในยุครัฐบาลชุดนี้ให้การช่วยเหลือ ถ้าเป็นยุคที่พรรคประชาธิปัตย์ เป็นรัฐบาลตนคงไม่ได้พ้นคุกเช่นนี้
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีคนถูกคุมขังข้อหาเดียวกับตนน้อยแค่ 5 คน หลายคนไม่สารภาพผิดแบบตนเพราะต้องการพิสูจน์ในสิ่งที่พูด อย่างนายสมยศ พฤษาเกษมสุข ฯลฯ ไม่ทำตาม ตนคาดว่าอีก 6 ปีคดีก็ยังไม่แล้วเสร็จ แสดงว่าเขาต้องการวางกรอบให้เราเดินตามนี้ อย่างตนติดคุกมากว่า 22 ปีได้รับการพ้นโทษมาแล้วนับ 10 ครั้ง
สำหรับกรณีการออกมาต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมในปัจจุบัน นายสุรชัยกล่าวว่า ตนไม่รู้สึกหวั่นไหว เพราะสถานการณ์เช่นนี้เหมือนกับการที่หนังใกล้จะจบเรื่องแล้ว จึงปรากฏตัวละครที่เคยซ่อนตัวอยู่ออกมาเล่นกันยกใหญ่ ตนขอย้อนไปในเหตุการณ์ 14 ตุลา 16 ซึ่งตอนนั้นไม่ใช่เรื่องที่นักศึกษาออกมาต่อสู้กับจอมพลถนอม และจอมพลประภาส แต่ต่อสู้กับกลุ่มอนุรักษ์ จารีตนิยม
ตนจึงอยากให้คนเสื้อแดงอย่าไปสนใจกับเรื่องสุดซอยใดๆ เพราะที่ผ่านมาคนเสื้อแดงอยากให้เอานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ติดคุก ส่วนคนเสื้อเหลืองอยากให้นายอภิสิทธิ์รอด แต่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณติดคุก ทั้งๆ ที่ในปัจจุบันไม่ใช่การต่อสู้ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับประชาธิปัตย์ แต่คือทุนประชาภิวัฒน์ กับอนุรักษ์จารีตนิยม
เหตุการณ์ออกมาคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ขณะนี้จึงเป็นรายการคุณขอมาของกลุ่มที่กำลังจะหมดอำนาจแล้ว แต่หาทางถอยเพื่อให้คนที่เคยใช้เป็นเครื่องมืออยู่รอด
ส่วนกลุ่มที่ไม่ยอมหยุดการชุมนุมแม้จะมีข่าวจะยกเลิก พ.ร.บ.ฉบับนี้ไปแล้ว ก็เพราะอยากจะเปลี่ยนแปลงการปกครองเช่นกัน แต่เป็นการปกครองที่เป็นไปในทางให้ประโยชน์แก่เขา และเหตุที่ไม่เอา พ.ร.บ.ฉบับนี้ก็เพราะนายอภิสิทธิ์คิดว่าตัวเองเส้นใหญ่ คงรอดพ้นคดีในที่สุด
ปัจจุบันมีทั้งหมอ มหาวิทยาลัย ต่างออกมาเคลื่อนไหวเพราะมีคนอยู่เบื้องหลังการให้ออกมาเคลื่อนไหว เป็นการวางทางถอยและเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณ คนที่ยังสู้อยู่แม้จะมีการถอน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมไปแล้วก็เพราะต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน
ตนจึงขอเสนอ 2 แนวทาง 2 ยุทธศาสตร์เพื่อต่อสู้ คือแนวทางแรกสู้ด้วยพรรคเพื่อไทยและสภาผู้แทนราษฎร แนวทางที่ 2 ทำให้พรรคประชาธิปัตย์เล็กลง ส่วนยุทธศาสตร์แรกสู้เพื่อให้ชนะการเลือกตั้ง และยุทธศาสตร์ที่ 2 สู้ด้วยคนเสื้อแดง เพราะกลุ่มอนุรักษ์จารีตนิยมกำลังหาทางถอยแล้ว จึงอยากให้คนเสื้อแดงไม่ต้องไปสนใจเรื่องสุดซอย หรือไม่สุดซอย
นายสุรชัยกล่าวอีกว่า การแก้ไขปัญหาประเทศไม่ใช่เปลี่ยนรัฐบาลแต่ต้องเปลี่ยนโครงสร้างทางอำนาจ