สรุปให้อีกทีนะครับ...
ปี 2505 ฝรั่ง สุมหัวกับเขมร จะเอาปราสาทเขาพระวิหาร จากดินแดนไทย... และก็ทำได้สำเร็จ....
พวกมันทดเลขเอาไว้ในใจ รอเวลาจังหวะเหมาะสม ผ่านไป 50 ปี
2556 พวกมันมาตอกย้ำอีกครั้ง.... เพื่อเอา ปราสาทเขาพระวิหารเข้าเป็นมรดกโลกภายใต้นามของกัมพูชา...
และมันก็(น่าจะ) ทำสำเร็จเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ณ บัดนี้...
แถมยังแอบวางยา ติ่ง แผนที่ 1 ต่อ 200000 มาตลอดเวลา..................
(เหมือนที่มัน ซัดเราหมัดแรกตอน 2505 จนพัฒนาการมาเป็น บทสรุป 11 พย 2556)
จากลำดับเหตุการณ์ที่ผ่านมา เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า มันเจตนา จะเล่นเรามาตลอด....
นั่นก็คงจะเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะมันเป็นรูปแบบ การล่าอาณานิคม ที่มีมาตลอดทั้งในอดีต จนถึงปัจจุบัน (และจะต่อเนื่องไปอนาคตเรื่อยๆ)
แต่ที่ น่าสนใจ
ก็คือ เจตนา ของเจ้าหน้าที่รัฐไทย......
(เห็น สองท่าน โพสต์ถกกันเรื่อง นิยาม คำว่า นักการเมือง....
โอเค การใช้ศัพท์บางที เราก็หยิบมาใช้ได้ตรงใจความที่ต้องการสื่อบ้าง ไม่ตรงบ้าง เป็นเรื่องปกติ
แต่ ผมพอเข้าใจ เจตนา ของ คุณ จขกท....
เข้าใจว่า หมายถึง เจ้าหน้าที่ตัวแทนของรัฐ นั่นแหล่ะ
ซึ่ง ก็เป็นไปได้ทั้งพวกนักธุรกิจการเมือง พวกข้าราชการการเมือง ข้าราชการพลเรือน ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่รัฐวิสาหกิจ ฯลฯ
เป็นบุคคลที่มีหน้าที่ประเภทเดียวกัน คือ รับผิดชอบต่อส่วนรวมประเทศชาติ ตามแต่สายงานของตน นั่นเอง)
ตั้งแต่ หลังยุค ต้มยำกุ้ง 2540++++ เป็นต้นมา....
(ผมไม่ได้ศึกษาข้อมูลลึกซึ้งอะไรนะครับ แค่ระลึกลำดับเรื่องราวคร่าวๆตามความจำของตนเองเท่านั้น อาจจะผิดพลาดได้)
รัฐไทย มีท่าทีที่เพิกเฉย เมินเฉย ไม่เข้มงวด ผ่อนปรน.... กรณี ชายแดนในเขตเขาพระวิหาร....
รัฐไทย ยุคหลัง ไม่มีท่าทีที่ ขึงขัง จริงจัง ที่จะคัดค้านในคำตัดสินศาลโลก 2505
ทั้งๆที่ รากของมันมีพื้นฐานมาจากตรงนั้น.... ว่าเราต้องสู้ให้ถึงที่สุด ทุกวิถีกระบวนทาง เพื่อรักษาอธิปไตยดินแดนที่เป็นของเรา
ถ้าเรามองภาพเหตุการณ์จากอดีต ผ่านมาเรื่อยๆ จนถึงเมื่อวาน....
ก็อาจจะพออนุมานได้ว่า
รัฐไทย (เจ้าหน้าที่รัฐของไทย) มีเจตนา ที่จะส่งมอบ ปราสาทเขาพระวิหาร ให้กัมพูชา ให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด จบเรื่องจบราวเสียที
(จึงเป็นที่มาของท่าที ของการยินดี พอใจ ดีใจ โล่งใจ หลังคำตัดสินศาลโลก 2556)
ผมไม่รู้นะ.....
หลายคนอาจจะเห็นด้วยด้วยข้ออ้างว่า... เพื่อสันติภาพ ความสงบสุข เรียบร้อย.....
เพื่อความสัมพันธ์อันดี และผลประโยชน์ของทั้งสองประเทศ
มันก็ รับฟังได้ มันก็มีเหตุผล... ผมไม่เถียง
เพียงแต่......
ผมคิดว่า เราใจบุญมากมายเหลือเกิน ที่ยอมยกดินแดน(ที่ควรจะเป็นของเรา)ให้เขา
ในแบบที่ว่า กัมพูชา อยากได้อะไรก็ได้....
ส่วนเราจะได้อะไร มันก็อยู่ที่เขาจะ เวทนาแบ่งให้เราหรือเปล่า
ผมว่า มันน่า สมเพช ว่ะ.......
เจ้าหน้าที่รัฐไทย ทั้งกระบวนการ (ตั้งแต่หลังยุค ต้มยำกุ้ง 2540++++)
ถ้าท่านๆไม่รู้ตัว ก็อยากจะให้รู้ว่า ทุกท่าน มีส่วนทั้งหมด ที่ทำให้ เรายอมยก ปราสาทพระวิหาร ให้กัมพูชา อย่างง่ายดายเหลือเกิน
มาทำหน้าที่ ใช้หนี้แผ่นดิน และมาทำบุญ...