Jump to content


Photo
- - - - -

วิธีทำลายระบอบทักษิณ คือ คัดกรองผู้มีสิทธิเลือกตั้ง


  • Please log in to reply
107 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 เขียว

เขียว

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 17 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 01:18

*
POPULAR

ปัญหาความขัดแย้งในการเมืองไทย เกิดจาก การเลือกตั้งแบบประชาธิปไตย 1 คน 1 เสียง ที่เปิดช่องให้คนจนที่รับเงินจากนักการเมือง เลือกนักการเมืองคุณภาพต่ำเข้ามาสร้างปัญหาให้กับประเทศ เมื่อคนจนมีจำนวนมากกว่าชนชั้นกลาง นักการเมืองคุณภาพต่ำจึงมีเสียงข้างมากในสภา

 

ทางแก้คือ คัดเลือกผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง โดยให้สิทธิแก่ประชาชนที่มีคุณภาพเท่านั้น ซึ่งได้แก่ ผู้ที่มีความสามารถในการรับข้อมูลข่าวสาร และไม่มีผลประโยชน์มาเกี่ยวข้อง เช่น ผู้เสียภาษี, ปัญญาชน และ ประชาชนทั่วไปที่ตื่นรู้ทางการเมือง(ด้วยวิธีสอบคัดเลือก) คนเหล่านี้จะสามารถเลือกรัฐบาลด้วยความเป็นกลาง ไม่เอาใจคนรวยหรือคนจนมากเกินไป คำนึงถึงความถูกต้องและผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก ดังจะเห็นได้จากประวัติศาสตร์ทางการเมืองที่ผ่านมา เช่น การคัดค้าน พรบ.นิรโทษกรรม, การเลือกคุณรสนา โตสิตระกูลเป็น สว.,และ การออกมาชุมนุมต่อต้านรัฐบาล

 

[แก้ไขเพิ่มเติม 10/12/56] หลายคนเข้าใจผิดว่า วิธีนี้จะตัดสิทธิเลือกตั้งของคนจนด้อยการศึกษา ที่จริงแล้ว วิธีนี้ไม่ได้ตัดสิทธิ์ใคร แค่ทำให้สิทธิการเลือกตั้ง ได้มายากขึ้น กล่าวคือ ผู้ที่จะได้รับสิทธิเลือกตั้ง จำป็นต้องพิสูจน์ตัวเองก่อน ว่าเข้าใจเรื่องประโยชน์ของชาติ ซึ่งทำได้ด้วยการสอบคัดเลือก แต่ถ้าให้ประชาชนทุกคนต้องไปสอบคัดเลือก ก็อาจจะไม่ค่อยมีใครไปสอบ ทำให้เหลือจำนวนผู้ออกเสียงเลือกตั้งน้อยมาก หรือที่แย่ไปกว่านั้นคือ อาจมีการโกงข้อสอบ จึงสมควรที่จะให้สิทธิเลือกตั้งโดยอัตโนมัติแก่คนบางกลุ่ม คนกลุ่มที่มีสิทธิ์ปกครองประเทศโดยสมบูรณ์อยู่แล้วคือ ผู้เสียภาษี คนอีกกลุ่มที่ได้รับการปลูกฝังเรื่องผลประโยชน์ของชาติมาแล้ว คือ ปัญญาชน

 

รายละเอียดทั้งหมด https://www.change.o...ีสิทธิเลือกตั้ง

 

 

ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรกับวิธีนี้
 


Edited by เขียว, 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 17:14.


#2 Octavarium

Octavarium

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,095 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 01:22

*
POPULAR

แล้วคนที่ไม่มีสิทธิ์เลือกตั้งตามระบบที่ว่านี้ ท่านจะให้เขาอยู่ตรงไหนครับ

 

แบบนั้นจะดีกว่าระบอบทักษิณยังไง


       Invoke ExitWindowsEx, EWX_SHUTDOWN | EWX_POWEROFF | EWX_FORCEIFHUNG, SHTDN_REASON_MAJOR_SYSTEM


#3 น้องจุบุจุบุ

น้องจุบุจุบุ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,006 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 01:25

ไร้สาระครับถ้าทำขนาดนั้นผมทำให้เป็นซาวเสียงแบบอเมริกาจะง่ายกว่าปิดกั้นบ้าบอขนาดนั้น



#4 ท่าษายติณหัก

ท่าษายติณหัก

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 859 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 01:29

แก้ไม่ได้หรอกครับ  แล้วก็ไม่ยุติธรรมกับคนจนด้วย

 

ควรให้การศึกษา และปลูกฝังจิตสำนึกทางศีลธรรม คุณธรรมครับ

 

ปฏิรูปการศึกษาคือสิ่งที่ควรทำพร้อมปฏิรูปประเทศ


ท่าษายติณหัก= ท่า สาย ติน หักมาเล่นผวนคำกันไหม

#5 เขียว

เขียว

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 17 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 01:41

สำหรับคนที่ไม่เสียภาษี และ ไม่มีวุฒิการศึกษา สามารถมีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งได้ ด้วยการไปสอบคัดเลือกครับ

 

การเลือกตั้งในอเมริกา ไม่ใช่ทุกคนมีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งเหมือนในอังกฤษ อเมริกามีการคัดกรองคน

 

คนจนตามต่างจังหวัด มีการศึกษาน้อย ชาวบ้านไม่รู้ว่ารับเงินแค่ไม่กี่ร้อยแล้ว ประเทศชาติเสียหายอย่างไร ระบอบทักษิณอยู่ได้เพราะอาศัยจุดโหว่ตรงนี้ วิธีแก้ด้วยการคัดกรองผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เปรียบเหมือนการประกวดหมา ถ้ากรรมการไม่รู้เรื่องหมา ก็จะตัดสินมั่วซั่ว กรรมการแบบนี้จึงควรถูกตัดสิทธิ์ คนที่คลุกคลีกับชาวบ้าน จะรู้ดีว่า การให้การศึกษากับคนกลุ่มนี้เป็นไปไม่ได้ ทำได้แค่สอนเด็กรุ่นหลัง



#6 Moo3storey

Moo3storey

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,284 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 01:43

มันเหมือนกลัวว่าคนรากหญ้า ผูู้ใช้แรงงาน ลูกจ้าง คนหาเช้ากินค่ำจะมีสิทธิ์เลือกตั้งเลือกพรรคการเมืองที่เค้าคิดว่าดี ซึ่งไอ้ระบบ หรือ แนวคิดคัดกรองผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งนี้มันผิดครับ มันคิดกลับหัวกลับหางโง่ๆ

คือถ้าคุณกลัวว่า ระหว่างตัวเลือก A.ขนมจีน B.พิซซ่า C.ส้มตำ D.ขี้ แล้วคนเลือกส่วนใหญ่จะเลือกกินข้อ D.ขี้ โดยการทำระบบคัดกรองคนมีสิทธิ์เลือกอาหาร มันก็ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา วิธีแก้ปัญหาจริงๆก็คือสร้างกฎกติกาที่ดี ที่คัดสรรแต่อาหารที่ดีมีประโยชน์มาให้คนเลือก ถ้าทำได้ตัวเลือกโง่ๆแบบข้อ D. ก็จะสูญสิ้นไปตลอดกาล

#7 GuoJia

GuoJia

    Siam

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,463 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 01:47

ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ควรเป็นผู้มีสำนึกต่อส่วนรวม เช่น ผู้เสียภาษีเงินได้, ผู้บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ต่าง ๆ, อาสาสมัคร ฯลฯ

นอกเหนือจากข้างบนใครอยากมีสิทธิ์เลือกตั้งต้องจ่ายค่าเข้าเลือกตั้ง เป็นเงินประมาณเท่าที่จ่ายเงินซื้อเสียงกันปัจจุบัน

สรุป ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งควรเห็นแก่ส่วนรวม ไม่งั้นก็เห็นแก่เงินตัวมันที่จ่ายค่าเลือกตั้ง

จะได้รู้สึกหวงแหนห่วงใยดูแลเงินที่นักการเมืองจะเอาไปใช้ในโครงการต่าง ๆ


“ ...คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา ,

ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา ยามเมื่อฟ้าสีทองผ่องอำไพ “


#8 ลูกผู้ชายฆ่าได้ ฝังให้ด้วย

ลูกผู้ชายฆ่าได้ ฝังให้ด้วย

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 30 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 01:49

เลอะเทอะ :huh:



#9 tonythebest

tonythebest

    สมาชิกขั้นสูง 178 เซนติเมตร

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,595 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 02:02

*
POPULAR

ใจเย็นๆ กันดีกว่าครับ
ผมว่า จขกท นำเสนอด้วยปัญหาอย่างที่เราและเขาเจอ
มันคือเรื่องเดียวกัน
ปัญหาคือ เราจะใช้วิธีการอย่างไรต่างหาก

การศึกษาในบ้านเรา ต้องมาองค์ประกอบสำคัญ
คือค่าใช้จ่าย (ข้ามพวกขี้เกียจเรียนไปนะครับ)
ดังนั้น โอกาสทางการศึกษาของชาวไทยเราจึงมีไม่เท่ากัน
ผมเชื่อว่า ส่วนใหญ่ไม่ได้เลือกที่จะไม่เรียน
แต่เป็นเพราะไม่มีปัญญาเรียนต่างหาก
ดังนั้น บางที หากเราตัดสิทธิ์เหล่านี้ของเขาไป
ดูจะไม่ยุติธรรมนัก

มองหาวิธีใหม่ดีกว่าครับ

ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ

 

 

 

เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน

จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน


#10 GuoJia

GuoJia

    Siam

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,463 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 02:02

นักการเมืองซื้อสิทธิ์ จับได้ มีหลักฐานพยาน ศาลตัดสิน โทษตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี

ชาวบ้านขายเสียง จับได้ มีหลักฐานพยาน ศาลตัดสิน โทษตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี

กกต ทำผิดทุจริตเสียเอง เช่น กาบัตรแทนผู้ที่ไม่มาใช้สิทธิ์ มีโทษจำคุก เท่าไรก็ว่าไป

 

ช่วย ๆ กันคิด ใช้ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ก็ยังได้คิดทางออกให้กับประเทศ


“ ...คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา ,

ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา ยามเมื่อฟ้าสีทองผ่องอำไพ “


#11 osamu

osamu

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 798 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 02:31

ที่จริงสมัยได้อิสรภาพจากอังกฤษใหม่ๆอเมริกาก็เคยใช้ระบบคัดกรองคุณภาพคนที่มีสิทธิเลือกตั้งนะครับไม่ใช่พอตั้งประเทศก็หนึ่งคน-หนึ่งโวตกันเลย เขาเริ่มจากคนที่มีการศึกษาก่อนและเมื่อประชาชนได้เริ่มเรียนรู้ระบอบประชาธิปไตยมากขึ้นก็ค่อยๆขยายสิทธินี้ออกไปสู่กลุ่มอื่นๆไปเรื่อยๆ  ส่วนในปัจจุบันเราก็คงกลับไปทำแบบนั้นไม่ได้ เราพลาดไปตั้งแต่แรกมีประชาธิปไตยในปี 2475 (หรือที่จริงไม่ได้พลาด? เพราะนักการเมืองทุกยุคทุกสมัยก็ชอบการเลือกตั้งแบบนี้เพราะซื้อเสียงง่าย?) เพราะฉะนั้น ด้วยเหตุการณ์เฉพาะหน้าก็อาจจะต้อง"ออกแบบ"อะไรใหม่ๆมาใช้ควบคุมให้การเลือกตั้งซื้อเสียงได้ยาก หรือโกงได้ยากขึ้นและให้มีบทลงโทษรุนแรง ปรับปรุงระบบบังคับใช้กฏหมายที่อยู่ภายใต้ลัทธิรวมศูนย์ทั้งประเทศไว้ภายใต้นักการเมืองทำให้การซื้อขายตำแหน่งทำได้ง่ายด้วยการตัดสินใจของคนไม่กี่คนแต่มีอำนาจครอบคลุมทั้งประเทศ ให้กระจายออกไปสู่ท้องถิ่นใครท้องถิ่นมัน เลือกตั้งกันเอาเองทั้งผู้ว่าฯและ/หรือตำรวจของจังหวัด ประชาชนจังหวัดไหนเลือกคนไม่ดีเข้ามาก็ต้องรับผิดชอบรับกรรมกันไปจากการหวังเงินตอบแทนจากการซื้อสิทธิขายเสียงโดยไม่ต้องรับกรรมกันทั้งประเทศ(คราวต่อไปประชาชนก็จะเรียนรู้ได้เองว่าการขายเสียงส่งผลต่อ"ละแวกท้องถิ่น"ของตนเองและอาจจะได้เห็นตัวอย่างจากจังหวัดอื่นที่เลือกคนที่มีคุณภาพมาบริหารจัดการ) ระบบผู้แทนฯหรือสส.ก็ต้องให้เป็นอิสระจากพรรคการเมืองได้ และไม่ต้องสังกัดพรรค(เพราะต้องยอมเป็นทาสพรรคไม่เช่นนั้นพรรคไม่ส่งลงสมัครก็หมดโอกาส...พรรคริบเอาสิทธิการเลือกผู้แทนฯส่วนหนึ่งไปจากประชาชนหรือเปล่า?) ไม่ต้องจำกัดวุฒิการศึกษา(..ต้องจบปริญญาตรี..แล้วทีอย่างนี้ทำไมไปจำกัดสิทธิคนอีกเป็นสิบๆล้านคนที่ไม่ได้จบปริญญาตรีไม่ให้เป็นผู้แทนฯล่ะ? แต่พอจะจำกัดสิทธิคนเลือกว่าต้องมีการศึกษาบ้างบอกไม่ยุติธรรม?)  แต่ผมว่าข้อแรกเลยที่เราควรจะคิดให้ได้ก่อนที่จะคิดโน่นนี่ต่อไปก็คือ....เราจะยอมรับความจริงกันหรือเปล่าว่าระบบเลือกตั้งที่ใช้กันอยู่มันมีปัญหา!



#12 เขียว

เขียว

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 17 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 02:47

คือถ้าคุณกลัวว่า ระหว่างตัวเลือก A.ขนมจีน B.พิซซ่า C.ส้มตำ D.ขี้ แล้วคนเลือกส่วนใหญ่จะเลือกกินข้อ D.ขี้ โดยการทำระบบคัดกรองคนมีสิทธิ์เลือกอาหาร มันก็ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา วิธีแก้ปัญหาจริงๆก็คือสร้างกฎกติกาที่ดี ที่คัดสรรแต่อาหารที่ดีมีประโยชน์มาให้คนเลือก ถ้าทำได้ตัวเลือกโง่ๆแบบข้อ D. ก็จะสูญสิ้นไปตลอดกาล

 

ถ้าเราสรรหาอาหารที่ดีๆมาให้แล้วเขาไม่กินล่ะครับ เหมือนคนอีสานที่ชอบกินปลาร้า ถึงแม้ว่าจะมาอยู่ในกรุงเทพที่มีอาหารให้เลือกมากมายก็ตาม เขาก็ยังสั่งส้มตำปลาร้า ซึ่งถ้าเขากินแล้วเป็นพยาธิคนเดียว คงไม่มีใครว่า แต่การเมืองไม่เหมือนการกิน เมือคนหนึ่งเลือกผิด ก็จะกระทบกับคนทั้งประเทศ เมื่อคนจำนวนมากเลือกผิด ก็จะทำให้การเมืองขาดเสถียรภาพ 2 ปีซ่อม 2 ปีสร้าง


Edited by เขียว, 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 02:47.


#13 เขียว

เขียว

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 17 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 02:59

ที่จริงสมัยได้อิสรภาพจากอังกฤษใหม่ๆอเมริกาก็เคยใช้ระบบคัดกรองคุณภาพคนที่มีสิทธิเลือกตั้งนะครับไม่ใช่พอตั้งประเทศก็หนึ่งคน-หนึ่งโวตกันเลย เขาเริ่มจากคนที่มีการศึกษาก่อนและเมื่อประชาชนได้เริ่มเรียนรู้ระบอบประชาธิปไตยมากขึ้นก็ค่อยๆขยายสิทธินี้ออกไปสู่กลุ่มอื่นๆไปเรื่อยๆ  ส่วนในปัจจุบันเราก็คงกลับไปทำแบบนั้นไม่ได้

ทำไมถึงกลับไปเป็นแบบนั้นไม่ได้ล่ะครับ แค่แก้รัฐธรรมนูญก็เปลี่ยนได้แล้ว อย่างอเมริกาซึ่งคนเยอะกว่าเรายังทำได้ ในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา เขาก็ยังปรับกันอยู่เรื่อยๆ เช่น เวลามีความกลัวเรื่องคอรัปชั่น เขาก็กีดกันไม่ให้คนผิวดำและคนอาเซียนโหวตบ้าง หรือถ้าเป็นแค่ resident แต่ไม่ใช่ citizen ก็ไม่ให้โหวต (ตอนนี้อังกฤษก็ยังเป็นอย่างนี้)



#14 dek-harte

dek-harte

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 162 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 03:14

ปัญหาความขัดแย้งในการเมืองไทย เกิดจาก การเลือกตั้งแบบประชาธิปไตย 1 คน 1 เสียง ที่เปิดช่องให้คนจนที่รับเงินจากนักการเมือง เลือกนักการเมืองคุณภาพต่ำเข้ามาสร้างปัญหาให้กับประเทศ เมื่อคนจนมีจำนวนมากกว่าชนชั้นกลาง นักการเมืองคุณภาพต่ำจึงมีเสียงข้างมากในสภา
 
ทางแก้คือ คัดเลือกผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง โดยให้สิทธิแก่ประชาชนที่มีคุณภาพเท่านั้น ซึ่งได้แก่ ผู้ที่มีความสามารถในการรับข้อมูลข่าวสาร และไม่มีผลประโยชน์มาเกี่ยวข้อง เช่น ผู้เสียภาษี, ปัญญาชน และ ประชาชนทั่วไปที่ตื่นรู้ทางการเมือง(ด้วยวิธีสอบคัดเลือก) คนเหล่านี้จะสามารถเลือกรัฐบาลด้วยความเป็นกลาง ไม่เอาใจคนรวยหรือคนจนมากเกินไป คำนึงถึงความถูกต้องและผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก ดังจะเห็นได้จากประวัติศาสตร์ทางการเมืองที่ผ่านมา เช่น การคัดค้าน พรบ.นิรโทษกรรม, การเลือกคุณรสนา โตสิตระกูลเป็น สว.,และ การออกมาชุมนุมต่อต้านรัฐบาล
 
รายละเอียดทั้งหมด https://www.change.o...ีสิทธิเลือกตั้ง
 
 
ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรกับวิธีนี้


ผมเห็นว่าไม่เข้าท่าเอาเสียเลย แทนที่จะให้คนตระหนักในหน้าที่ กลับไปจำกัดสิทธิของเขา
จขกท.ลองกลับไปทำความเข้าใจ เรื่อง สิทธิและหน้าที่ให้เคลียร์ก่อนดีมั้ยครับ
อีกอย่าง คุณมองข้ามเรื่องค่านิยมของคนไทยอีกด้วย ต่อให้คุณจำกัดสิทธิของผู้เลือกตั้งได้ แต่คนไทยนิยมตามนาย หรือตามผู้ใหญ่
ยิ่งคุณจำกัดสิทธิ จำนวนคนที่ผมจะซื้อก็ลดลง ผมจับแต่พวกผู้ใหญ่บ้านเหมือนเดิม หรืออาจจะพระแถวนั้นก็ชนะเหมือนเดิมครับ
วิธีของจขกท.จึงไม่แก้ปัญหาเลย

ถ้าความเข้าใจในสิทธิและหน้าที่ของชาวบ้านชัด เขาจะแยกได้ครับ
ก็คล้ายๆม้อบลุยแก้สน้ำตา แต่เบรกเคารพธงชาตินั่นแหละ ผมว่าชาวบ้านหน่ะไปไกลกว่า จขกท.เยอะแล้วครับ
ขอบคุณครับ

#15 เขียว

เขียว

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 17 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 03:17

การศึกษาในบ้านเรา ต้องมาองค์ประกอบสำคัญ
คือค่าใช้จ่าย (ข้ามพวกขี้เกียจเรียนไปนะครับ)
ดังนั้น โอกาสทางการศึกษาของชาวไทยเราจึงมีไม่เท่ากัน
ผมเชื่อว่า ส่วนใหญ่ไม่ได้เลือกที่จะไม่เรียน
แต่เป็นเพราะไม่มีปัญญาเรียนต่างหาก
ดังนั้น บางที หากเราตัดสิทธิ์เหล่านี้ของเขาไป
ดูจะไม่ยุติธรรมนัก

มองหาวิธีใหม่ดีกว่าครับ

ใช่ครับ คนเรียนน้อยเพราะบ้านจน พอเรียนน้อยก็เลยยากที่จะรู้ว่าอะไรถูกผิด ขายเสียงก็ไม่รู้ว่าผิด จริงอยู่่ว่า บางคนเรียนน้อยแต่ความรู้มากก็มี อย่างพวกปราชญ์ชาวบ้าน ซึ่งเราก็เปิดโอกาสให้เขาได้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ด้วยการสอบคัดเลือก ไม่ได้ตัดสิทธิ์ครับ



#16 เขียว

เขียว

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 17 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 03:25

ผมเห็นว่าไม่เข้าท่าเอาเสียเลย แทนที่จะให้คนตระหนักในหน้าที่ กลับไปจำกัดสิทธิของเขา
จขกท.ลองกลับไปทำความเข้าใจ เรื่อง สิทธิและหน้าที่ให้เคลียร์ก่อนดีมั้ยครับ
อีกอย่าง คุณมองข้ามเรื่องค่านิยมของคนไทยอีกด้วย ต่อให้คุณจำกัดสิทธิของผู้เลือกตั้งได้ แต่คนไทยนิยมตามนาย หรือตามผู้ใหญ่
ยิ่งคุณจำกัดสิทธิ จำนวนคนที่ผมจะซื้อก็ลดลง ผมจับแต่พวกผู้ใหญ่บ้านเหมือนเดิม หรืออาจจะพระแถวนั้นก็ชนะเหมือนเดิมครับ
วิธีของจขกท.จึงไม่แก้ปัญหาเลย

ถ้าความเข้าใจในสิทธิและหน้าที่ของชาวบ้านชัด เขาจะแยกได้ครับ
ก็คล้ายๆม้อบลุยแก้สน้ำตา แต่เบรกเคารพธงชาตินั่นแหละ ผมว่าชาวบ้านหน่ะไปไกลกว่า จขกท.เยอะแล้วครับ
ขอบคุณครับ

 

เราเรียนกันมาว่า คำว่า สิทธิ ต้องไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ถ้าสิทธิของเขาทำให้ประเทศเดือดร้อน เพราะการขายเสียง สมควรหรือครับ ที่เขาจะได้สิทธิ

 

ลำพังผู้ใหญ่บ้านหรือพระท้องถิ่น ผมว่าไม่อาจสู้เสียงจากพวกผู้เสียภาษีและปัญญาชนได้ ส่วนม็อบที่ลุยแก๊สน้ำตา จัดว่าเป็นคนที่มีคุณภาพ ดูง่ายๆ ก็คือ แทบไม่มีใครทิ้งขยะตามถนนเลย ทุกคนทิ้งลงถัง เราจะนำไปเทียบกับพวกเสื้อแดงได้หรือครับ คนพวกนั้น ผมเห็นเขากินเสร็จแล้ว ก็ทิ้งลงพื้น การจะสอนให้เขาเข้าใจสิทธิหน้าที่นั้น เป็นทฤษฎี ที่ทำจริงไม่ได้ ลองไปคุยกับชาวบ้านดูก็ได้ครับ เช่น ผมบอกเขาว่า "รักษาป่าเพื่อคนทั้งประเทศ" เขาตอบว่า "แล้วเขาจะได้อะไร" ผมอธิบายให้ตายเขาก็ไม่เข้าใจ ไม่ใช่ผมคนเดียวที่เจอแบบนี้นะครับ ลองถามคุณพิภพ ธงไชยดูก็ได้ หรือถ้าอบรมได้ ก็มีวิธีเดียวที่จะรับประกันได้ว่าเขาเข้าใจถูกต้อง นั่นคือการสอบคัดเลือก


Edited by เขียว, 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 03:39.


#17 หงส์เฒ่าเสาร์ธรรม

หงส์เฒ่าเสาร์ธรรม

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,408 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 03:27

ทุกคนมีสิทธิ์ ได้เรียน และทดสอบ เพื่อได้รับสิทธิ์เลือกตั้ง

ไม่ต้องจำกัดเพียงอายุ ที่ต้องถึงวัยมีวุฒิภาวะ ... เด็กๆที่มีความคิด ก็ย่อมมีสิทธิ์เลือกตั้งได้ถ้าพวกเขาเข้าใจในระบอบประชาธิปไตย

 

บทลงโทษต้องแรง สำหรับพวกที่ซื้อเสียง ขายเสียง


จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ ... ศีลธรรม เป็นกรอบรักษาจินตนาการให้ดำรงอยู่ด้วยความดีงาม... -_- 


#18 dek-harte

dek-harte

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 162 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 03:42

ยิ่งคุณจำกัดสิทธิ จำนวนคนที่ผมจะซื้อก็ลดลง ผมจับแต่พวกผู้ใหญ่บ้านเหมือนเดิม หรืออาจจะพระแถวนั้นก็ชนะเหมือนเดิมครับ
วิธีของจขกท.จึงไม่แก้ปัญหาเลย
ถ้าความเข้าใจในสิทธิและหน้าที่ของชาวบ้านชัด เขาจะแยกได้ครับ
ก็คล้ายๆม้อบลุยแก้สน้ำตา แต่เบรกเคารพธงชาตินั่นแหละ ผมว่าชาวบ้านหน่ะไปไกลกว่า จขกท.เยอะแล้วครับ
ขอบคุณครับ

ลำพังผู้ใหญ่บ้านหรือพระท้องถิ่น ผมว่าไม่อาจสู้เสียงจากพวกผู้เสียภาษีและปัญญาชนได้ ส่วนม็อบที่ลุยแก๊สน้ำตา จัดว่าเป็นคนที่มีคุณภาพ ดูง่ายๆ ก็คือ แทบไม่มีใครทิ้งขยะตามถนนเลย ทุกคนทิ้งลงถัง เราจะนำไปเทียบกับพวกเสื้อแดงได้หรือครับ คนพวกนั้น ผมเห็นเขากินเสร็จแล้ว ก็ทิ้งลงพื้น การจะสอนให้เขาเข้าใจสิทธิหน้าที่นั้น เป็นทฤษฎี ที่ทำจริงไม่ได้ ลองไปคุยกับชาวบ้านดูก็ได้ครับ เช่น ผมบอกเขาว่า "รักษาป่าเพื่อคนทั้งประเทศ" เขาตอบว่า "แล้วเขาจะได้อะไร" ผมอธิบายให้ตายเขาก็ไม่เข้าใจ ไม่ใช่ผมคนเดียวที่เจอแบบนี้นะครับ ลองถามคุณพิภพ ธงไชยดูก็ได้ หรือถ้าอบรมได้ ก็มีวิธีเดียวที่จะรับประกันได้ว่าเขาเข้าใจถูกต้อง นั่นคือการสอบคัดเลือก


แล้วผมถามคุณง่ายๆว่าคุณเอาสิทธิอะไรตัดสินว่าคุณมีสิทธิเลือกเขาได้ครับ คุณเอาเกณฑ์อะไรมาวัดว่าคุณมีสำนึกดีกว่าเขาครับ
แล้ว ผมวัดเกณฑ์คุณได้มั้ย

ถ้าไม่เข้าใจเรื่องสิทธิกับหน้าที่ อย่ามาแยกประชาชนครับ
สิ่งที่คุณคิดหน่ะเข้าทางเสื้อแดงที่อยากแยกชนชั้นมากๆเลย
ซึ่งผมว่าเป็นความคิดที่น่าละอายนะครับ

ทำความเช้าใจเรื่องสิทธิและหน้าที่ครับ ไม่ใช่ตามที่คุณเห็น ส่วนเรื่องคุณภาพม้อบ ผมขำครับคุณเคยไปลุยมั้ยเนี่ย

ขอบคุณครับ

#19 analysis

analysis

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 350 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 03:50

ตอนเลือกตั้งไม่ต้องมีเบอร์ผู้สมัคร ไม่บอกสังกัดพรรค ให้กาชื่อเอา แล้วสุ่มการเรียงชื่อด้วย เหมือนกันเด็กลอกข้อสอบ

ไม่มีสส.บัญชีรายชื่อ

#20 Moo3storey

Moo3storey

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,284 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 04:07

คือถ้าคุณกลัวว่า ระหว่างตัวเลือก A.ขนมจีน B.พิซซ่า C.ส้มตำ D.ขี้ แล้วคนเลือกส่วนใหญ่จะเลือกกินข้อ D.ขี้ โดยการทำระบบคัดกรองคนมีสิทธิ์เลือกอาหาร มันก็ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา วิธีแก้ปัญหาจริงๆก็คือสร้างกฎกติกาที่ดี ที่คัดสรรแต่อาหารที่ดีมีประโยชน์มาให้คนเลือก ถ้าทำได้ตัวเลือกโง่ๆแบบข้อ D. ก็จะสูญสิ้นไปตลอดกาล


ถ้าเราสรรหาอาหารที่ดีๆมาให้แล้วเขาไม่กินล่ะครับ เหมือนคนอีสานที่ชอบกินปลาร้า ถึงแม้ว่าจะมาอยู่ในกรุงเทพที่มีอาหารให้เลือกมากมายก็ตาม เขาก็ยังสั่งส้มตำปลาร้า ซึ่งถ้าเขากินแล้วเป็นพยาธิคนเดียว คงไม่มีใครว่า แต่การเมืองไม่เหมือนการกิน เมือคนหนึ่งเลือกผิด ก็จะกระทบกับคนทั้งประเทศ เมื่อคนจำนวนมากเลือกผิด ก็จะทำให้การเมืองขาดเสถียรภาพ 2 ปีซ่อม 2 ปีสร้าง

แทนที่จะกำหนดคุณสมบัติคนเลือก ผมว่าไปกำหนดคุณสมบัติตัวเลือกให้ได้แต่ตัวเลือกดีๆมาให้เลือก ดีกว่าครับ

ก็กำหนดไปเลยว่าคุณสมบัติคนที่จะมาเป็นส.ส.ต้องได้ปริญญาจริงๆ พวกที่จ้างสอบ ซื้อใบปริญญามาต้องถูกตรวจสอบโดยละเอียดแล้วคัดออก เพิ่มคุณสมบัติไปเลยว่าต้องทำงานกับพรรค ลงพื้นที่เข้าหาชาวบ้านมาไม่น้อยกว่า 3 ปี กำหนดเลยว่าต้องเคยทำงานด้านการศึกษา สาธารณสุข หรืองานช่วยเหลือสังคมมาก่อน

แล้วก็เพิ่มระเบียบข้อบังคับการหาเสียงเลยว่ากกต.แต่ละเขตต้องจัดให้มีการดีเบต การแสดงวิสัยทัศน์ของผู้สมัครทุกคน ในเวทีสาธารณะ และเปิดโอกาสให้ปชช.ในเขตเลือกตั้งเข้ารับฟังและซักถาม และมีการบันทึกเผยแพร่ออกสื่อแจกให้ปชช.อย่างทั่วถึง

นโยบายก็ต้องกำหนดให้ต้องอธิบายได้ ไม่ใช่ว่าอธิบายไม่ได้ จะได้เงินจากไหนไม่รู้ จะทำโครงการเมกะโปรเจคสร้างรถไฟความเร็วสูงซึ่งเป็นโครงการที่ต้องศึกษามา 5-10 ปี คือจะไปเอาของเก่าที่เค้าศึกษามาก่อนมาก็ได้ แต่ต้องอธิบายได้ ไม่ใช่วางกรอบกว้างๆมีแค่กระดาษ a4 สองแผ่น ถ้าอย่างนี้ก็จะต้องมีความผิด ก็จะช่วยคัดโครงการประชานิยมยะออกไปได้

#21 kim

kim

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,724 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 04:16

ปัญหาตอนนี้มันก็อยู่ที่การซื้อสิทธ์ขายเสียงในการเลือกตั้งนั้นแหละ

 

ทำให้คนน้ำดีโดนคัดออกจากการเมือง เพราะ เสียงดีแต่กาไม่มี หรือ เงินไม่มากาไม่ไป

ใครพูดนะหรือ? ก็ประชาชนที่พร้อมจะขายเสียงตัวเองเพื่อเศษเงิน มันก็คือคนส่วนใหญ่ที่ทำให้พรรคไทยรักไทยและทักษิณอยู่ยงในบ้านเมืองขณะนี้ได้ ส่วนใหญ่พวกนี้จะการศึกษาน้อย ทำมาหากินเช้าชามเย็นชาม ไม่เสียภาษี

 

ที่จขกท.กล่าวมาก็เป็นการตัดตอนคนพวกกลุ่มคนต้นตอปัญหานี้ไปเยอะ อันนี้ผมก็เห็นด้วยนะ แต่เอาแค่เรื่องเดียวก็พอ เช่นต้องเป็นผู้เสียภาษีรายได้ก็พอเพราะเงินภาษีของเค้าควรได้รับสิทธิในการเลือกผู้แทนของเค้ามาบริหารบ้านเมือง อาจเป็นครั้งแรกก็ได้ที่คนน้อยนิดต้องมากำหนดทิศทางของประเทศไทยเพราะคนเสียภาษีรายได้ในไทยจริงๆในไทยมีแค่ 2 ล้านคนกว่าๆ ขืนเอาเรื่องการศึกษาเข้ามาจะมิยิ่งหนักเข้าไปอีก

 

อาจใช้แนวคิดนี้ในการเลือกตั้งครั้งถึงสามครั้ง เพื่อตัดวงจรนักการเมืองซื้อเสียงออกจากระบบไปสักสิบถึงสิบห้าปี ระหว่างนี้ก็เร่งในการศึกษาประชาธิปไตยกับกลุ่มคนที่มีปัญหาเหล่านี้ เพื่อเป็นการซื้อเวลาช่วงนี้ไป จนกว่าคนไทยจะพร้อมเห็นว่าการซื้อสิทธิขายเสียงเป็นสิ่งผิด

แต่แนวคิดนี้จะตกไปทันทีเมื่อมีหลักฐานว่าสส.ที่เป็นน้ำดีในสภาก็ซื้อเสียงแหลกด้วยเหมือนกัน

 

%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%

 

 

อันนี้การเลือกตั้งของประชาชนในสหรัฐอเมริกา

 

1. คุณสมบัติของประชาชนที่มีสิทธิในการออกเสียงเลือกตั้ง
1) เป็นพลเมืองหรือ สัญชาติอเมริกันเท่านั้น
2) มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์
3) อยู่ในท้องถิ่นระยะเวลาพอสมควรในปี ค.ศ. 1970 สภาคองเกรสได้บัญญัติกฎหมายทีที่เกี่ยวกับการออกเสียงเลือกตั้ง คือให้ผู้มีสิทธิออกเสียงต้องมีถิ่นที่อยู่อาศัยในเขตเลือกตั้งนั้น 30 วัน ต่อมาปี ค.ศ. 1973 ศาลสูงแก้เป็น50 วัน
4) ต้องไปลงทะเบียนแสดงเจตจำนงออกเสียงเลือกตั้งภายในเวลาที่แต่ละมลรัฐกำหนด ส่วนใหญ่คือ 54 วัน ก่อนวันเลือกตั้ง ณ หน่วยเลือกตั้งของตน 

5) แต่ละมลรัฐจะกำหนดคุณสมบัติผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งเป็นของตัวเอง

 

2. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง

1) อายุ อายุมากขึ้นมีแนวโน้มมีส่วนร่วมทางการเมืองมากขึ้น

2) การศึกษา โดยทั่วไปผู้มีการศึกษาสูงจะมีแนวโน้มไปใช้สิทธิเลือกตั้งมากกว่า

3) สถานะทางสังคมและรายได้ ปัจจัยเกี่ยวกับสถานะทางสังคมโดยเฉพาะอย่างยิ่งเชื้อชาติมีส่วนสำคัญในการตัดสินใจไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ความแตกต่างของรายได้ของประชาชนผู้ที่มีรายได้สูงไปใช้สิทธิเลือกตั้งมากกว่าผู้มีรายได้น้อย
4) การแข่งขันระหว่างพรรคการเมือง 2 พรรค มลรัฐที่มีการแข่งขันสูง มีอัตราการใช้สิทธิเลือกตั้งสูง โดยส่วนใหญ่ที่ผ่านมาพรรครีพับลิกันได้คะแนนสูงกว่าพรรคเดโมแครท

 

ผมว่าการที่สหรัฐใช้วิธีการลงทะเบียนผู้มีสิทธิการเลือกตั้งก่อนการเลือกตั้งก็เป็นวิธีที่ไม่เลว เป็นการกระตุ้นให้คนที่จะมาเข้าระบบเลือกตั้งต้องการเลือกตั้งจริงๆ ไม่ใช่จะมาขายเสียงง่ายๆในคืนหมาหอนลูกเดียวเหมือนไทยในปัจจุบัน อันนี้ขอให้ฝากไว้นะครับ


Edited by kim, 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 04:24.


#22 เด็กปากเกร็ด

เด็กปากเกร็ด

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,363 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 07:42

ต้องเด็ดขาดกับเรื่องซื้อเสียงครับ ช่วยได้เยอะเลยครับ

#23 อาวุโสโอเค

อาวุโสโอเค

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,790 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 07:47

จริยธรรมของผู้สมัครรับเลือกตั้งหรือแต่งตั้งทางการเมืองต้องเข้มงวดมาก และสามารถนำมาใช้ได้จริงอย่างเป็นรูปธรรม  -_-


การเมืองไม่ใช่เพื่อกลุ่มใด แต่เพื่อทุกคนในประเทศ

#24 Bourne

Bourne

    สายลับ ๆ ล่อ ๆ หัดเกรียน

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,471 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 07:50

ผมคิดว่า ปัญหาการเมืองในบ้านเมืองเราหลัก ๆ มาจากสองส่วนครับ

1. นักการเมืองชั่ว

2. ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งด้อยคุณภาพ

 

ผมเห็นด้วยที่ว่า ควรแก้ไขปัญหาเรื่องผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งด้วยครับ วิธีก็มีต่าง ๆ นา ๆ เช่น จำกัดตามวุฒิการศึกษา จำกัดตามการเสียภาษี สอบคัดกรองผู้ลงคะแนน หรือ ให้น้ำหนักผู้มีสิทธิ์ด้อยคุณภาพน้อยหน่อย (เช่น 5-10 โหวต เท่ากับ หนึ่ง เสียง) แน่นอนครับ ถ้าเสนอวิธิเช่นนี้ออกไป โดนด่าแน่นอน แต่บ่องตง เหลือทนแล้วครับ กับการให้ควายมากาบัตร >.<


ภาระกิจหลักของผมบนบอร์ดเสรีไทย คือ ด่าควายครับ เรื่องคิดต่างผมรับได้ แต่เรื่องคิดชั่วผมรับไม่ไหวครัช

#25 นายตัวเกร็ง

นายตัวเกร็ง

    Monkey Godfather Lv.3

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,901 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 08:00

*
POPULAR

ผมเคยเขียนไปแล้วนะวิธีที่ง่ายกว่าการคัดกรองด้วยวุฒิการศึกษาหรือการเสียภาษีมันมีวิธีที่ง่ายกว่านั้นคือ
เปลี่ยนบัตรลงคะแนนเลือกตั้งจากการทำสัญลักษณ์กากบาทอย่างเดียวให้เป็นการเขียนชื่อตัวบรรจง

ทั้งชื่อผู้สมัคร และพรรคที่ตัวเองเลือก รักกันจริงๆคงเขียนชื่อกันไม่ผิดละมั้ง?

กระทู้ :
http://webboard.seri...นนเสียงเลือกตั/
 


เขียนเรื่องการเมือง : ดราม่า ,เขียนเรื่องสังคม : ดราม่า เขียนเรื่องบันเทิง : ดราม่า
แต่พอโพสเรื่องหื่น : มีความเห็นเป็นไปทางเดียวกันเสมอ >3<


#26 nunoi

nunoi

    เด็กข้างถนน

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,745 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 08:09

ผมเคยเขียนไปแล้วนะวิธีที่ง่ายกว่าการคัดกรองด้วยวุฒิการศึกษาหรือการเสียภาษีมันมีวิธีที่ง่ายกว่านั้นคือ
เปลี่ยนบัตรลงคะแนนเลือกตั้งจากการทำสัญลักษณ์กากบาทอย่างเดียวให้เป็นการเขียนชื่อตัวบรรจง

ทั้งชื่อผู้สมัคร และพรรคที่ตัวเองเลือก รักกันจริงๆคงเขียนชื่อกันไม่ผิดละมั้ง?

กระทู้ :
http://webboard.seri...นนเสียงเลือกตั/
 

 

 

เหมือนจะมีบางประเทศก็ใช้รูปแบบนี้ใช่ไหมครับ 

 

น่าสนใจดี


กฎหมายมันก็แค่สิงที่สร้างมาอย่างมีเป้าหมาย แต่หาก เอาแต่บอกว่ากฎหมายเป็นแบบนี้ แบบนั้น โดยไม่สนใจว่าเป้าหมายจริงๆ นันคืออะไร ก็คงไม่ใช่ 

 

 


#27 arch_freeman

arch_freeman

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,286 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 08:09

ผมเห็นด้วยกับแนวคิดนี้อย่างยิ่ง เพราะ หลายปีที่ผ่านมา เรามองมุ่งเน้นไปที่การแก้ปัญหาว่า ออกแบบกฎหมายอย่างไร เพื่อป้องกันนักการเมืองชั่วและนักธุรกิจการเมือง ไม่ให้เข้ามาเล่นการเมือง แต่ทุกครั้งก็ล้มเหลว และ คนพวกนี้ก็แผ่อิทธิพลไม้่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมเข้ามาทุกครั้ง

 

แต่หากเราลองมองอีกด้าน จะพบว่า สาเหตุที่การเมืองไทยเป็นแบบนี้ เพราะ การศึกษา และ ความไม่พร้อมของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เมื่อเราตั้งโจทย์แบบนี้แล้ว เราก็ต้องตั้งคำถาม ทำอย่างไรที่จะทำให้ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีความพร้อม มีสิทธิเลือกตั้งในระดับต่างๆ

 

เพราะการใช้สิทธิเลือกตั้งในระดับๆ ต่างๆ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะต้องมีความเข้าใจในหน้าที่ของตัวเอง เข้าในหน้าที่ของตัวแทนที่จะเลือก และ สามารถแยกแยะผิดชอบชั่วดีของนักการเมืองได้

 

คนบางคนมีพร้อมในการใช้สิทธิเลือกตั้งระดับท้องถิ่นเท่านั้น เช่น อบต หรือ เทศบาล

คนบางคนมีพร้อมในการใช้สิทธิเลือกตั้งระดับผู้ว่าราชการจังหวัด

คนบางคนมีพร้อมในการใช้สิทธิเลือกตั้งระดับประเทศ เช่น สส หรือ สว.

 

ในระบบการศึกษา ทุกคนมีสิทธิเรียนหนังสือ แต่ทุกคนไม่ได้สิทธิเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยที่เป็นที่นิยม ทุกคนถูกคัดกรองด้วยระดับความพร้อมด้าน IQ

 

ในขณะที่ระบบเลือกตั้งนั้น ยังไม่มี ผมขอยกตัวเอย่างว่า ในอนาคตอาจจะมีแบบทดสอบด้าน IQ และ EQ และ ความคิดเชิงตรรกศาสตร์ กับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เพื่อกำหนดระดับความพร้อมของผู้มีสิทธิเลือกตั้งว่า เขามีความพร้อมในการเลือกตั้งในระดับใด

 

จะทำให้เราได้ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งที่มีคุณภาพ และ นำไปสู่การคัดเลือกนักการเมืองคุณภาพเข้าระบบการเมืองเช่นกัน

 

แต่อย่างไรก็ตามแนวคิดนี้จะได้รับการต่อต้าน จากพวกที่ต่อสู้เพื่อสิทธิและความเท่าเทียมกัน พวกเขาจะแย้งว่า สิทธิการเลือกตั้งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ไม่ว่า คนจน หรือ คนรวย คนโง่ หรือ คนฉลาด คนบ้า หรือ คนมีสติ ย่อมมีสิทธิในการเลือกตั้ง

 

แต่ปัจจุบันประเทศไทยไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะ พระ ก็ไม่มีสิทธิเลือกตั้งเหมือนประชาชนทั่วไป เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ก็ไม่มีสิทธิเลือกตั้ง เช่นกัน

 

แต่เราไม่เคยกำหนดเลยว่า ใครมีความพร้อมในการเลือกตั้ง !!!

 

และนี่จะเป็นปัญหาต่อไปในอนาคต ถ้าเรายังมองหาวิธีในการป้องกันการเข้าสู่ระบบการเมืองของนักการเมืองชั่ว โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงการคัดกรองคุณภาพของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง

 

เพราะเรามักจะคิดเชิงปริมาณในการเลือกตั้ง (ใช้เสียงข้างมาก) ไม่เคยคิดเชิงคุณภาพ (คนดีจำนวนมาก) เลย เราจึงถูกปกครองด้วยนักการเมืองที่มีปัญหามาตลอด

 

 

ปัญหาความขัดแย้งในการเมืองไทย เกิดจาก การเลือกตั้งแบบประชาธิปไตย 1 คน 1 เสียง ที่เปิดช่องให้คนจนที่รับเงินจากนักการเมือง เลือกนักการเมืองคุณภาพต่ำเข้ามาสร้างปัญหาให้กับประเทศ เมื่อคนจนมีจำนวนมากกว่าชนชั้นกลาง นักการเมืองคุณภาพต่ำจึงมีเสียงข้างมากในสภา

 

ทางแก้คือ คัดเลือกผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง โดยให้สิทธิแก่ประชาชนที่มีคุณภาพเท่านั้น ซึ่งได้แก่ ผู้ที่มีความสามารถในการรับข้อมูลข่าวสาร และไม่มีผลประโยชน์มาเกี่ยวข้อง เช่น ผู้เสียภาษี, ปัญญาชน และ ประชาชนทั่วไปที่ตื่นรู้ทางการเมือง(ด้วยวิธีสอบคัดเลือก) คนเหล่านี้จะสามารถเลือกรัฐบาลด้วยความเป็นกลาง ไม่เอาใจคนรวยหรือคนจนมากเกินไป คำนึงถึงความถูกต้องและผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก ดังจะเห็นได้จากประวัติศาสตร์ทางการเมืองที่ผ่านมา เช่น การคัดค้าน พรบ.นิรโทษกรรม, การเลือกคุณรสนา โตสิตระกูลเป็น สว.,และ การออกมาชุมนุมต่อต้านรัฐบาล

 

รายละเอียดทั้งหมด https://www.change.o...ีสิทธิเลือกตั้ง

 

 

ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรกับวิธีนี้
 


Edited by arch_freeman, 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 08:12.

ประชาชนต้องใช้นักการเมืองเป็นเครื่องมือ ไม่ใช่ตกเป็นเครื่องมือของนักการเมือง

#28 สิงห์สนามซ้อม

สิงห์สนามซ้อม

    คนดีไม่กลัวการตรวจสอบ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,757 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 08:24

ผมว่า ตำรวจ กับ กกต. ต้องบังคับใช้กฏหมายครับ ถ้าจะทำลายระบบทักษิณ


" ประกาศบอยคอต ช่อง 3 ไม่ว่าจะข่าว ละคร หรือการ์ตูนลูก  กรูไม่ดู !!! "


#29 Manners

Manners

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 623 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 08:29

ความคิดใหม่ๆมันก็ดี แต่มันก็จะไม่ได้ผลเหมือนเดิม

ของเดิมที่มีอยู่ มันไม่ดีจริงหรือ หรือ มันไม่ได้ผลเพราะเราไม่สามารถนำมาใช้ได้เต็มที่ เพราะจนท.ไม่เอาจริง จนท.เองก็ถูกซื้อด้วย

ตย.ที่เห็น การไม่สวมหมวกกันน็อก รถบรรทุกน้ำหนักเกิน มอร์เตอร์ไซไม่วิ่งเลนซ้าย เด็กขายของตามไฟแดง มันผิดกฎหมายทั้งสิ้นแต่มันมีให้เห็นทุกวัน

จนท.ข้าราชการที่ดีก็มี แต่เมื่อเข้าจะทำดีเขาก็เดือดร้อน มันมีอะไรปกป้องเขาไหม? ระบบทางกฎหมายก็ช้ามาก เช่นกรนีคุณถวิน เปลี่ยนสี

เมื่อทำสิ่งที่ดีที่ถูกต้องแล้ว มันไม่ควรเดือดร้อน 

 

เมื่อพูดถึงอเมริกา อีกอย่างที่ต่างคือ เขาได้เลือกส.ส. และเขาได้เลือกคณะรมต.และประธานาธิบดีด้วย คนลงสมัครเขาต้องแสดงคณะที่จะเข้ามาทำงานกับเขาด้วย

เราคงไม่เลือกหาก คณะทำงานไม่มีคุณภาพ เช่นเอาคนที่ไม่มีความรู้เรื่องการแพทย์หรือยามาเป็นรมต.สาธารณะสุข หรือรมต.ต่างประเทศควรรู้ว่า"เขมร"อยู่ในเอเซีย 

เราไม่เคยได้เลือกนายกฯหรือรู้ว่าใครจะมาเป็นผู้บริหารประเทศ เราได้แต่เลือกฝ่ายนิติฯ แต่ไม่ได้เลือกฝ่ายบริหาร  อันนี้คือสิ่งที่ขาด



#30 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 08:55

ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ควรเป็นผู้มีสำนึกต่อส่วนรวม เช่น ผู้เสียภาษีเงินได้, ผู้บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ต่าง ๆ, อาสาสมัคร ฯลฯ

นอกเหนือจากข้างบนใครอยากมีสิทธิ์เลือกตั้งต้องจ่ายค่าเข้าเลือกตั้ง เป็นเงินประมาณเท่าที่จ่ายเงินซื้อเสียงกันปัจจุบัน

สรุป ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งควรเห็นแก่ส่วนรวม ไม่งั้นก็เห็นแก่เงินตัวมันที่จ่ายค่าเลือกตั้ง

จะได้รู้สึกหวงแหนห่วงใยดูแลเงินที่นักการเมืองจะเอาไปใช้ในโครงการต่าง ๆ

ผมเห็นด้วยครับ 



#31 นายตัวเกร็ง

นายตัวเกร็ง

    Monkey Godfather Lv.3

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,901 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 09:20

 

ผมเคยเขียนไปแล้วนะวิธีที่ง่ายกว่าการคัดกรองด้วยวุฒิการศึกษาหรือการเสียภาษีมันมีวิธีที่ง่ายกว่านั้นคือ
เปลี่ยนบัตรลงคะแนนเลือกตั้งจากการทำสัญลักษณ์กากบาทอย่างเดียวให้เป็นการเขียนชื่อตัวบรรจง

ทั้งชื่อผู้สมัคร และพรรคที่ตัวเองเลือก รักกันจริงๆคงเขียนชื่อกันไม่ผิดละมั้ง?

กระทู้ :
http://webboard.seri...นนเสียงเลือกตั/
 

 

 

เหมือนจะมีบางประเทศก็ใช้รูปแบบนี้ใช่ไหมครับ 

 

น่าสนใจดี

 

ญี่ปุ่น อีกหนึ่งต้นแบบของนักการเมืองหน้าบาง
อาจจะเพราะวิธีนี้ด้วยจึงทำให้นักการเมืองเขาตรหนักว่าคนที่เลือกเขา

เลือกเพราะรู้จักเขาจริงๆ เพราะญี่ปุ่นยังใช้ตัวอักษรจีน(คันจิ)ในการเขียนชื่อ
ซึ่งมันค่อนข้างยาก ถ้าไม่รักกันจริงคงไม่จดจำชื่อตัวคันจิมาเขียนเพื่อลงคะแนนหรอก
หากทำผิด ทำเรื่องน่าขายหน้าขึ้นมา เราเลยเห็นเขารับผิดชอบด้วยการลาออกบ่อยๆนั่นแหละครับ


เขียนเรื่องการเมือง : ดราม่า ,เขียนเรื่องสังคม : ดราม่า เขียนเรื่องบันเทิง : ดราม่า
แต่พอโพสเรื่องหื่น : มีความเห็นเป็นไปทางเดียวกันเสมอ >3<


#32 ไทยไม่ทน

ไทยไม่ทน

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,381 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 09:26

ระบบน่ะดีครับ

 

แต่ปัญหาของระบบ เกิดจาก "คน" ครับ


llllllllllllllllllllllllllllll

llllllllllllllllllllllllllllll

llllllllllllllllllllllllllllll

 


#33 พอล คุง

พอล คุง

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,014 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 09:37

 

 

ผมเคยเขียนไปแล้วนะวิธีที่ง่ายกว่าการคัดกรองด้วยวุฒิการศึกษาหรือการเสียภาษีมันมีวิธีที่ง่ายกว่านั้นคือ
เปลี่ยนบัตรลงคะแนนเลือกตั้งจากการทำสัญลักษณ์กากบาทอย่างเดียวให้เป็นการเขียนชื่อตัวบรรจง

ทั้งชื่อผู้สมัคร และพรรคที่ตัวเองเลือก รักกันจริงๆคงเขียนชื่อกันไม่ผิดละมั้ง?

กระทู้ :
http://webboard.seri...นนเสียงเลือกตั/
 

 

 

เหมือนจะมีบางประเทศก็ใช้รูปแบบนี้ใช่ไหมครับ 

 

น่าสนใจดี

 

ญี่ปุ่น อีกหนึ่งต้นแบบของนักการเมืองหน้าบาง
อาจจะเพราะวิธีนี้ด้วยจึงทำให้นักการเมืองเขาตรหนักว่าคนที่เลือกเขา

เลือกเพราะรู้จักเขาจริงๆ เพราะญี่ปุ่นยังใช้ตัวอักษรจีน(คันจิ)ในการเขียนชื่อ
ซึ่งมันค่อนข้างยาก ถ้าไม่รักกันจริงคงไม่จดจำชื่อตัวคันจิมาเขียนเพื่อลงคะแนนหรอก
หากทำผิด ทำเรื่องน่าขายหน้าขึ้นมา เราเลยเห็นเขารับผิดชอบด้วยการลาออกบ่อยๆนั่นแหละครับ

 

 

เห็นด้วยเลยครับ 

 

คนไทยส่วนใหญ่ บางทียังไม่รู้เลยว่า คนที่จะมาเป็นนายก ชื่ออะไรอ่ะ

 

คราวก่อน เสือแดงยังไม่รู้เลยว่า หัวหน้าพรรคที่ตัวเองเลือก ชื่ออะไรเลย

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา


ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ

 


#34 Tek

Tek

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 6 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 09:43

แก้ไม่ได้หรอกตราบใดที่คนไทยยังยึดติดกับคำว่าพวกพ้องอยู่ ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่การขายเสียงหรอก ทุกพรรคมีการซื้อเสียงหมดนะละ ปัจุบันตัวผมเองผมก็รับเงิน ตั้งแต่เลือก ผู้ใหญ่บ้าน สท สจ สส ผมรับเงินมาไม่รู้เท่าใหร่แล้ว ล่าสุด เลือกผู้ใหญ่บ้าน ให้กันหัวละพัน ผู้สมัคร2คน ผมก็รับมาทั้ง2 นะละ รับเงินแล้วก็กางดออกเสียงมีไรมะ ผมอยู่ชลบุรี เลือก สส คราวล่าสุดทำมัยพลังชลถึงเข้าวิน เมื่อ ปชป=500 พท=300 พ.ชล=500 เพราะคำว่าพรรคนี้พวกเรา แจกเงินเหมือนกันแต่ใช่ว่าจะชนะ. คนใต้ส่วนใหญ่เลือก ปชป เพราะความคิดที่ว่าพรรคนี้พวกเรา. คนอีสาน/เหนือ เลือก พทเพราะความคิดที่ว่าพรรคนี้พวกเรา สส.เป็นใครมาจากใหนบ้านอยู่ตรงใหนนิสัยใจคอจริงๆเป็นอย่างไรใครจะไปรู้จัก ไม่มีใครรู้หรอกว่าใครเป็นใครทำอะไรมา ลองเอาเงินไปหว่านให้คนที่มีพรรคอยู่ในใจแล้วซิ ซัก3พันก็ได้ไม่มีใครไม่รับเงินหรอกของฟรี แต่ตอนกานี้ซิคิดว่าจะเลือกตรงกับเงินที่ให้ซักกี่รายเชียว ตราบใดที่ระบบคัดสรร สส. ในประเทศไทยยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าคนที่จะเข้ามาไม่โกงไม่เอารัดเอาเปรียบในภายหลังได้ละก็ ระบบการเลือก สส. ที่มาการพรรคการเมืองที่จัดตั้งโดยคนของถิ่นกูก็จะยังวนเวียนต่อไป ยังไงซะแทนที่จะมาจำกัดสิทธ์ จำกัดความคิด วิธีนี้ผมก็ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ( ผมอยากให้ มีการยุบพรรคการเมืองทุกพรรค สส.เก่าเป็นและครอบครัว2ชั่วชั้นหมดสิทธ์ทุก4ปี แล้วมีแต่ผู้สมัครอิสระมาสมัคร สส. แทน หาเสียงกันโดยตั้งเวทีกลางปราศัยเท่านั้น ดูซิระบบเล่นพรรคเล่นพวกยังจะมีอีกรึเปล่า)

#35 SINANJU

SINANJU

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 683 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 09:44

ผมไม่เห็นด้วยอย่างมากถึงมากที่สุด ในเรื่องที่เราจะถีบคนจนออกจากระบอบประชาธิปไตย และยึดสิทธิพื้นฐานของเค้า ประเด็นปัญหามีสองส่วนที่ทำให้เกิดปัญหานี้ คือ

1. คนจนบางคน(ไม่มีกินแค่ปัจจัยสี่ยังไม่ครบเลย)ที่ไม่เข้าใจสิทธิของเค้าจริงๆ กับบางคนที่หัวอ่อน เลือกตามผู้หลักผู้ใหญ่

2. นักการเมืองชั่ว

 

ถ้าจะแก้อย่างที่ท่านรู้ท่านมุ่งไปแก้ที่ 1) เพื่อจำกัดสิทธิเค้า แต่สำหรับผม ผมขอเลือกสองครับ

 

อันนี้ตอบคร่าวๆครับ ปัญหาแก้รายละเอียดจริงๆตอนนี้ยังคิดไม่ออกครับ



#36 ToraKun

ToraKun

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 14 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 10:06

ผมเสนอให้ทำแบบญี่ปุ่นจะช่วยได้ส่วนนึงครับ คือเปลี่ยนจากกากบาทมาเป็นเขียนชื่อ นามสกุลของคนที่เราเลือก
พร้อมนโยบายที่สส คนนั้นเสนอ ใครที่เขียนผิดก็ถือว่าบัตรเสียไป จะช่วยได้มากครับ



#37 กล้ากันเกรา

กล้ากันเกรา

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 70 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 10:27

ระยะสั้นๆนี้ควร รณรงค์ให้คนมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งกันมากๆจะง่ายกว่านะครับ เพราะคนที่ไม่ได้ใช้สิทธิ์ดูจากคราวที่แล้วยังมีอยู่มาก
อาจจะพลิกเหมือนที่ดอนเมือก็ได้

#38 เพื่อนร่วมชาติ

เพื่อนร่วมชาติ

    พรานล่าปูไปรยา

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 7,788 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 10:27

ผมมีข้อเสนอที่อาจจะง่ายกว่า และยอมรับได้กว้างขวางกว่า

 

คือขยายขอบเขตของคนที่ถูกตัดสิทธิ

 

เวลานี้นักโทษในคุกไม่มีสิทธิ์อยู่แล้ว (ถูกตัดสิทธิ)

 

เพียงแค่เราขยายการตัดสิทธินี้ไปถึงความผิดอื่น ๆ ที่แสดงถึงความไม่รับผิดชอบต่อส่วนรวม

 

เช่น ขับรถฝ่าไฟแดง ทิ้งขยะเรี่ยราด ดื่มแล้วขับ แข่งรถบนทางหลวง ฯลฯ

 

ทำแบบนี้เราก็จะลดคะแนนไร้คุณภาพลงไปได้เยอะ ขณะเดียวกันก็เป็นแรงจูงใจให้คนรับผิดชอบต่อส่วนรวมไปในตัว


ประชาธิปไตยก็เหมือนส้วมสาธารณะแบบนั่งเต็มตูด ควายนับถือศาสนาชินวัตรใช้แล้วสกปรกชิบเป๋ง


#39 renton

renton

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 105 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 10:30

เดี๋ยวคงมีผู้สมัครเปลี่ยนชื่อ-นามสกุลเป็น "ปะสิด ไชหัว" "ปะชา เจอดี" "แดง วงหวัด" แล้วค่อยเปลี่ยนกลับทีหลัง 


Edited by renton, 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 10:31.


#40 พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน

พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,450 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 10:38

อีกปัญหาของการเลือกตั้งแบบไทยๆ คือ ... ช่วงเลือกตั้งนี่มีผี มีกาฝาก มาอยู่ในทะเบียนบ้านกันหลายหลังเลย  :lol:


อยากรู้ว่าประชาธิปไตยไทยเป็นแบบไหน ให้ดูการใช้รถใช้ถนนรู้จักกันแต่สิทธิ แต่ไม่เคยรู้จักหน้าที่ ในการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่วางไว้

#41 tow

tow

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 74 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 10:44

มีการจัดสอบ สส. ก่อนสมัครได้ไหมอ่ะ ?? แบบ กพ. ของราชการน่ะ แบบว่าใครอยากสมัคร สส. ต้องผ่านการสอบ สส. ภาค ก. ก่อนถึงจะสมัครได้ ใครสอบไม่ผ่านไม่มีสิทธิลงสมัคร...ส่วนใครอยากเป็นรัฐมนตรีก็ไปสอบภาค ข. ที่กระทรวงต่างๆจัดขึ้นทิ้งไว้ซะ ใครสอบผ่านกระทรวงไหนถึงจะมีสิทธิมีโอกาสได้รับเลือกเป็นรัฐมนตรีกระทรวงนั้นๆได้...อย่างน้อยจะได้ไม่มีการเอาพวกไม่มีความรู้ความสามารถไปเป็น สส. เป็นรัฐมนตรี...



#42 หงส์เฒ่าเสาร์ธรรม

หงส์เฒ่าเสาร์ธรรม

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,408 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 10:45

นอกจากลงคะแนนเลือกตั้ง สส ของเขตตัวเองแล้ว

 

   ยังต้องมีการลงคะแนน ไม่ไว้วางใจ ถอดถอน สส. ของตัวเอง เป็นประจำทุกปี หรือแล้วแต่กรณีที่มีผู้ร้องเรียน


จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ ... ศีลธรรม เป็นกรอบรักษาจินตนาการให้ดำรงอยู่ด้วยความดีงาม... -_- 


#43 หลงฮู้เช็ง

หลงฮู้เช็ง

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 328 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 10:50

หากจะให้ทุกคนมีสิทธิ์มีเสียงเท่าเทียมกัน  ก็ต้องกำจัดระบบหัวคะแนน  ผู้มีอิทธิพลก่อนครับ  ปัญหาไม่ได้อยู่ที่คนมีการศึกษาหรือไม่หรอก

แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า  ทำอย่างไร  จึงจะให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทุกคน  ลงคะแนนได้โดยอิสระ  กระบวนการเลือกตั้ง  ก็ต้องโปร่งใสตั้งแต่ลงคะแนน

ไปถึงนับคะแนนด้วย แบบก่อนนับคะแนนบ๊วย  กำลังนับไฟดับ พอไฟติดพรึ่บ คะแนนนำขาดลอย  อย่างนี้ต้องเลือกตั้งใหม่ ไม่ใช่ปล่อยไป



#44 nhum

nhum

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,056 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 10:50

ให้ประชาชนตัดสินเมื่อจบอภิปรายไม่ไว้วางใจน่าจะดีนะ

#45 เปลี่ยนDisplay Nameได้แล้ว

เปลี่ยนDisplay Nameได้แล้ว

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,768 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 10:59

เรื่องตัดสิทธิชาวบ้านผมไม่เห็นด้วยนะ ในตอนนี้ต้องยอมรับความเป็นจริงที่ว่าในการเลือกตั้ง เสียงส่วนใหญ่จะต้องไปทางแดงแน่ๆ

ความจริงแล้วถ้ามีโอกาสจึงควรแก้กฎหมายอุดช่องโหว่ที่ทำให้นัการเมืองสามารถโกงกินได้ง่ายๆมากกว่านะ



#46 น้ำเต้า

น้ำเต้า

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 35 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 11:04

ปี 2475 มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 4.3 ล้าน ปี 54 มี 35 ล้าน แต่รูปแบบการปกครองยังเหมือนเดิม อำนาจรวมศูนย์อยู่ที่เดียว ศูนย์กลางอำนาจไม่อาจตอบสนองความต้องการให้แต่ละท้องถิ่นพอใจได้ ผมคิดว่ากระจายอำนาจน่าจะเป็นทางออกที่ดี



#47 GuoJia

GuoJia

    Siam

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,463 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 11:10

คนจนไม่ถูกถีบออกจากระบบ แต่คนไม่มีจิตสำนึกต่อส่วนรวมต้องถูกถีบออกจากระบบ

คนจน คนไม่มีเงิน ยังเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ถ้าเขาเหล่านั้นเป็นผู้ทำสาธารณประโยชน์ ยกตัวอย่างเช่น

- ปราชญ์ชาวบ้าน มีความรู้สอนวิธีทำกิน ทำการเกษตรต่าง ๆ โดยไม่คิดเงิน

- ผู้ไม่สามารถจ่ายภาษีโดยตรงเพราะรายได้ต่อปีไม่ถึง หรือยกเว้นตาม กม. สามารถทำสาธารณประโยชน์ได้ เช่น ไปร่วมโครงการปลูกป่า, ช่วยเหลือสังคม ดูแลคนพิการ ชราภาพเด็กด้อยโอกาส, บริจาคโลหิต , ช่วยงานบรรเทาสาธารณภัย กู้ภัย ฯลฯ เป็นต้น (ช่วยกันคิดว่าอะไรเข้าเกณฑ์และตรวจสอบได้)

- บุคคลสมัครเข้าเป็นทหาร โดยไม่ต้องจับใบดำใบแดง

ฯลฯ

 

แบ่งชนชั้นเฉพาะการเลือกตั้ง

สิทธิพื้นฐานประชาชนคนไทยทุกคนได้รับเหมือนเดิม


Edited by GuoJia, 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 11:13.

“ ...คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา ,

ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา ยามเมื่อฟ้าสีทองผ่องอำไพ “


#48 เส้นใหญ่ไม่งอก

เส้นใหญ่ไม่งอก

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,033 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 11:24

จะตัดสิทธิ์ใครก็คงไม่ดี หรือจะให้สอบคัดเลือกรับสิทธิ์ก็คงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

 

ถ้าจะให้คัดเลือกผู้สมัครผู้แทนให้เป็นคนมีคุณภาพก่อน จะใช้วิธีไหนที่ไม่จำกัดสิทธิ์ (เพราะใครจะไปยอมรับว่าตัวเองไม่มีคุณภาพ)

 

วิธีแก้สำหรับประเทศไทยทำได้ยากและถ้าจะทำ อาจต้องใช้เวลาตลอดชีวิตของเราซึ่งอาจไม่ได้ผลด้วยซ้าไป

 

การเขียนชื่อ นามสกุลเต็มของผู้สมัครน่าจะเป็นวิธีเบื้องต้นที่ดีที่สุดตอนนี้

 

ผมสนับสนุนวิธีนี้ครับ



#49 ครูทองมา

ครูทองมา

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 16 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 11:24

ไม่เห็นด้วยครับ

ต้องแก้ที่ตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งครับ บกพร่อง(แม้)โดยสุจริต ก้อต้องเอาไปประหารครับ

สรุป แก้ที่ระบบ ยุติธรรมครับ กกต/ตุลาการ ต้อง เที่ยงธรรม รวดเร็ว

#50 มีการศึกษา

มีการศึกษา

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 9 posts

ตอบ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 11:29

ถ้าจะพูดง่าย ๆ นะว่า   จะแยกแยะระหว่าง  คน และ ควาย ยังไงดี?






ผู้ใช้ 3 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 3 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน