Jump to content


Photo
- - - - -

ใช้โจรไล่โจรมันดีหรือ

กาสรแดง ล้มเจ้า

  • Please log in to reply
104 replies to this topic

#51 ant

ant

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,081 posts

Posted 23 December 2013 - 19:09

ปฏิรูปก่อนก่อดี แต่ไม่ใช่ มี Hidden Agenda

 

ที่สุเทพออกมาตอนนี้ ทั้งเหลือง ทั้งแดงก็รู้ทั้งนั้นว่าเพราะอะไร

 

คนกลางมาจากไหน รัฐบาลตั้งก็จะบอกว่าเอียง

 

กปปส ตั้ง มันจะไม่เอียงไปทาง ปชป หรือ

ผมเคยดูมวย หรือฟุตบอล...เวลาเขาจะจัดการแข่งขันเขาจะตกลกติกาก่อนแข่ง แล้วให้ผู้เข้าแข่งขันยอมรับกติกานั้นๆก่อน แล้วจึเข้าแข่งขันนะครับ

ข้อไหนมีส่วนบกพร่องเขาก็จะปรับใหม่เรื่อยๆ

เรื่องนี้..ก็น่าจะแก้ไขกติกาให้ทุกฝ่ายยอมรับก่อนแล้วค่อยมาแข่งขันกัน...น่าจะดีนะครับ

 

ที่คุณว่า....

คนกลางมาจากไหน รัฐบาลตั้งก็จะบอกว่าเอียง

 

กปปส ตั้ง มันจะไม่เอียงไปทาง ปชป หรือ

 

ผมเข้าใจว่าคุณไม่ได้ติดตามแนวคิดของ กปปส.ที่เสนอไว้  ยังไงลองกลับไปศึกษาแนวคิดของเขาอีกครั้งก็ดีนะครับ


ตราบที่สูอยู่-กิน..แผ่นดินไทย ตราบโคตรเหง้าสูใช้แผ่นดินนี้ตราบศพสูฝังใต้..ไทยปฐพี สูไม่มีสิทธิ์ยํ่ายี.." พระเจ้าแผ่นดิน "

#52 คน กทม.

คน กทม.

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 219 posts

Posted 23 December 2013 - 19:11

Ricebeanoi

 

หากนับผลงานรักชาติปากมัน ของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)ที่นับว่า คลาสสิคที่สุดในประวัติศาสตร์ของพรรคเก่าแก่แห่งนี้

เรื่องที่ต้องติดอันดับต้นๆ เลย ก็ต้องเป็น กรณี สปก 4-01” ที่เป็นการโกงที่ดินเกษตรกรเพื่อไปให้กับ ผู้ใกล้ชิดคนในพรรคจนกลายเป็นตราประทับ ยี่ห้อ ประชาธิปัตย์ที่ชัดเจน

กระทั่ง รัฐบาลชวน หลีกภัย (ชวน 1)” ถึงขนาดต้อง ยุบสภาหนีความอับอาย !

 

หลังการเลือกตั้งกันยายน 2535 “พรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดย ชวน หลีกภัยหัวหน้าพรรค ปชป. ขณะนั้นขึ้นดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีสมัยแรก (ชวน 1)
แม้ ชวนจะพยายามรักษาภาพของความซื่อสัตย์สุจริตและสร้างภาพนายกรัฐมนตรีผู้สมถะ จากสตอรีย์ เช่าบ้านอยู่ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย ยันได้เป็น นายกฯ
แต่ก็ไม่สามารถปิดบัง ร่องรอยแห่งการทุจริต ของคนในพรรค ปชป.ได้ โดยเฉพาะเมื่อ ชวนตัดสินใจผลักดัน สุเทพ เทือกสุบรรณเป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และเร่งดำเนินการนโยบาย ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเพื่อมอบให้ เกษตรกร” 

 

แต่นายสุเทพกลับใช้อำนาจและช่องโหว่ของกฎหมาย แปรรูป ที่ดินสปก 4-01 ที่จะต้องแจกเอกสารสิทธิ์ให้กับเกษตรกร  เอาไปให้กับ ทศพร เทพบุตรสามีของ อัญชลี วานิช เทพบุตร (อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) ซึ่งขณะนั้นเป็น เลขานุการของ นายสุเทพกว่า 98 ไร่ 1 งาน 7 ตารางวา

รวมไปถึง บรรดาผู้มีอันจะกินในจังหวัดภูเก็ตและพื้นที่ภาคใต้อีกหลายคน ที่มีความสนิทสนมและให้การสนับสนุน นายสุเทพในเส้นทางการเมือง เป็นจำนนวนหลายร้อยไร่ !!!
ทั้งๆที่บุคคลเหล่านั้นไม่ได้เป็น เกษตรกรตามที่กฎหมายบัญญัติ !

 

สปก 4-01” จึงกลายเป็นผลงานอัปยศของ พรรคประชาธิปัตย์ที่แสดงให้เห็นความหน้ามืดโกงได้แม้กระทั่ง ที่ดินหลวง”- กินได้ แม้กระทั่ง ที่ดินของคนยากคนจน

เพียงเพื่อต้องการที่จะสนองประโยชน์ให้กับ พวกพ้องและ บริวารของ นายสุเทพ”!

 

ซึ่งสุดท้ายเรื่องก็ลุกลามกลายเป็นสิ่งที่สังคมจับตาและออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมของการกระทำดังกล่าว
โดยเฉพาะในประเด็นที่ ฝ่ายรัฐบาลปชป.พยายามยืนยันว่า ผู้มีอันจะกินที่ได้รับที่ดิน สปก.ไปนั้น คือ เกษตรกรตามที่กฎหมายบัญญัติ

ตั้งแต่ตัว นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รมช.เกษตรฯ ไปจนถุึง  ชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี ที่ยืนยันความถูกต้องเสียงแข็ง  

และยังรวมไปถึง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะโฆษกรัฐบาลชวน 1 ที่ร่วมด้วยช่วยกันยืนยันหนักแน่นว่า การกระทำของนายสุเทพ ที่แจกเอกสารสิทธิ์ สปก 4-01 สำหรับเกษตรให้กับ พวกพ้องตัวเองนั้น เป็นการกระทำที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว  !
เดือดร้อนถึงขั้น ชวน หลีกภัยนายกรัฐมนตรี ต้องส่งเรื่องให้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความความหมายของคำว่า เกษตรกร” !
กระทั่ง พรรคชาติไทยนำโดย บรรหาร ศิลปะอาชาและ เนวิน ชิดชอบรวบรวมเสียง ส.ส.ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาลชวน หลีกภัยในประเด็น การแจกเอกสารสิทธิ์ที่ดิน สปก.4-01

 

จนสุดท้าย นายชวน หลีกภัยต้องตัดสินใจ ยุบสภาเพราะไม่สามารถชี้แจง การทุจริตที่เกิดขึ้นให้สังคมมีความกระจ่างชัดเจน
แม้หลังจากนั้น พรรคประชาธิปัตย์จะยังยืนยันตลอดเวลาว่าการโกงที่ดินของเกษตรกร ไปให้กับพวกพ้องครั้งนั้น เป็นสิ่งที่ ถูกต้อง” !
แต่ก็ไม่สามารถหนีความจริงได้ เมื่อศาลฎีกามีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2550 ในคดีหมายเลขดำที่ 1765/2541 และคดีหมายเลขแดงที่ 1485/2544 ให้นายทศพร เทพบุตร จำเลย (สามีนางอัญชลี วานิช เทพบุตร) ออกจากที่ดิน สปก. ที่ครอบครองมายาวนานกว่า 12 ปี เนื้อที่ 98 ไร่ 1 งาน 7 ตารางวา เนื่องจาก จำเลยไม่ได้เป็นเกษตรกรจริง !
ซึ่งน่าสังเกตว่า นอกจาก พรรคประชาธิปัตย์จะไม่ยอมรับ การโกงของตัวเองว่าเป็น การกระทำผิดแล้ว บุคคลต่างๆที่มีชื่อเกี่ยวข้องกับกระบวนการกินคลาสสิคครั้งนั้น พรรคประชาธิปัตย์ก็ยังคงเชิดชู เป็นนักการเมืองระดับแถวหน้าและ คนดีของพรรคต่อไป
ไม่ว่าจะเป็น ชวน หลีกภัยที่ยังคงเป็น ผู้นำทางจิตวิญญาณของ ปชป.
สุเทพ เทือกสุบรรณก็ก้าวสู่ เลขาธิการพรรค ปชป.และได้เป็นถึง รองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะในเวลาต่อมา
ส่วน อัญชลี วานิช เทพบุตรภรรยาของ ทศพร เทพบุตรกระโดดจาก เลขานุการของ นายสุเทพขึ้นเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรีใน รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
และคนสุดท้าย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะโฆษกรัฐบาลชวน 1 ต่อมาก็ขึ้นเป็น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และก้าวขึ้นเป็น นายกรัฐมนตรีหลังสลับขั้วทางการเมืองปี 2551

 

โดยที่ บุคคลเหล่านี้ไม่ได้ ละอายต่อ ประชาชน”  ที่พวกเขาร่วมกันปล้นครั้งนั้น แม้แต่น้อย !!!

 

พระนครสาส์น



#53 pinkpanda

pinkpanda

    คุ้กกี้เกลียดควายแดงค่ะ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,600 posts

Posted 23 December 2013 - 19:13

รู้แระ อ่านพระนครสาส์นนี่เอง 

 

 

เจ้าหนูจำไม 



#54 Ricebeanoil

Ricebeanoil

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,320 posts

Posted 23 December 2013 - 19:14

Ricebeanoi

 

หากนับผลงานรักชาติปากมัน ของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)ที่นับว่า คลาสสิคที่สุดในประวัติศาสตร์ของพรรคเก่าแก่แห่งนี้

เรื่องที่ต้องติดอันดับต้นๆ เลย ก็ต้องเป็น กรณี สปก 4-01” ที่เป็นการโกงที่ดินเกษตรกรเพื่อไปให้กับ ผู้ใกล้ชิดคนในพรรคจนกลายเป็นตราประทับ ยี่ห้อ ประชาธิปัตย์ที่ชัดเจน

กระทั่ง รัฐบาลชวน หลีกภัย (ชวน 1)” ถึงขนาดต้อง ยุบสภาหนีความอับอาย !

 

หลังการเลือกตั้งกันยายน 2535 “พรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดย ชวน หลีกภัยหัวหน้าพรรค ปชป. ขณะนั้นขึ้นดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีสมัยแรก (ชวน 1)
แม้ ชวนจะพยายามรักษาภาพของความซื่อสัตย์สุจริตและสร้างภาพนายกรัฐมนตรีผู้สมถะ จากสตอรีย์ เช่าบ้านอยู่ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย ยันได้เป็น นายกฯ
แต่ก็ไม่สามารถปิดบัง ร่องรอยแห่งการทุจริต ของคนในพรรค ปชป.ได้ โดยเฉพาะเมื่อ ชวนตัดสินใจผลักดัน สุเทพ เทือกสุบรรณเป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และเร่งดำเนินการนโยบาย ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเพื่อมอบให้ เกษตรกร” 

 

แต่นายสุเทพกลับใช้อำนาจและช่องโหว่ของกฎหมาย แปรรูป ที่ดินสปก 4-01 ที่จะต้องแจกเอกสารสิทธิ์ให้กับเกษตรกร  เอาไปให้กับ ทศพร เทพบุตรสามีของ อัญชลี วานิช เทพบุตร (อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) ซึ่งขณะนั้นเป็น เลขานุการของ นายสุเทพกว่า 98 ไร่ 1 งาน 7 ตารางวา

 

รวมไปถึง บรรดาผู้มีอันจะกินในจังหวัดภูเก็ตและพื้นที่ภาคใต้อีกหลายคน ที่มีความสนิทสนมและให้การสนับสนุน นายสุเทพในเส้นทางการเมือง เป็นจำนนวนหลายร้อยไร่ !!!
ทั้งๆที่บุคคลเหล่านั้นไม่ได้เป็น เกษตรกรตามที่กฎหมายบัญญัติ !

 

สปก 4-01” จึงกลายเป็นผลงานอัปยศของ พรรคประชาธิปัตย์ที่แสดงให้เห็นความหน้ามืดโกงได้แม้กระทั่ง ที่ดินหลวง”- กินได้ แม้กระทั่ง ที่ดินของคนยากคนจน

เพียงเพื่อต้องการที่จะสนองประโยชน์ให้กับ พวกพ้องและ บริวารของ นายสุเทพ”!

 

ซึ่งสุดท้ายเรื่องก็ลุกลามกลายเป็นสิ่งที่สังคมจับตาและออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมของการกระทำดังกล่าว
โดยเฉพาะในประเด็นที่ ฝ่ายรัฐบาลปชป.พยายามยืนยันว่า ผู้มีอันจะกินที่ได้รับที่ดิน สปก.ไปนั้น คือ เกษตรกรตามที่กฎหมายบัญญัติ

ตั้งแต่ตัว นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รมช.เกษตรฯ ไปจนถุึง  ชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี ที่ยืนยันความถูกต้องเสียงแข็ง  

และยังรวมไปถึง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะโฆษกรัฐบาลชวน 1 ที่ร่วมด้วยช่วยกันยืนยันหนักแน่นว่า การกระทำของนายสุเทพ ที่แจกเอกสารสิทธิ์ สปก 4-01 สำหรับเกษตรให้กับ พวกพ้องตัวเองนั้น เป็นการกระทำที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว  !
เดือดร้อนถึงขั้น ชวน หลีกภัยนายกรัฐมนตรี ต้องส่งเรื่องให้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความความหมายของคำว่า เกษตรกร” !
กระทั่ง พรรคชาติไทยนำโดย บรรหาร ศิลปะอาชาและ เนวิน ชิดชอบรวบรวมเสียง ส.ส.ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาลชวน หลีกภัยในประเด็น การแจกเอกสารสิทธิ์ที่ดิน สปก.4-01

 

 

จนสุดท้าย นายชวน หลีกภัยต้องตัดสินใจ ยุบสภาเพราะไม่สามารถชี้แจง การทุจริตที่เกิดขึ้นให้สังคมมีความกระจ่างชัดเจน
แม้หลังจากนั้น พรรคประชาธิปัตย์จะยังยืนยันตลอดเวลาว่าการโกงที่ดินของเกษตรกร ไปให้กับพวกพ้องครั้งนั้น เป็นสิ่งที่ ถูกต้อง” !
แต่ก็ไม่สามารถหนีความจริงได้ เมื่อศาลฎีกามีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2550 ในคดีหมายเลขดำที่ 1765/2541 และคดีหมายเลขแดงที่ 1485/2544 ให้นายทศพร เทพบุตร จำเลย (สามีนางอัญชลี วานิช เทพบุตร) ออกจากที่ดิน สปก. ที่ครอบครองมายาวนานกว่า 12 ปี เนื้อที่ 98 ไร่ 1 งาน 7 ตารางวา เนื่องจาก จำเลยไม่ได้เป็นเกษตรกรจริง !
ซึ่งน่าสังเกตว่า นอกจาก พรรคประชาธิปัตย์จะไม่ยอมรับ การโกงของตัวเองว่าเป็น การกระทำผิดแล้ว บุคคลต่างๆที่มีชื่อเกี่ยวข้องกับกระบวนการกินคลาสสิคครั้งนั้น พรรคประชาธิปัตย์ก็ยังคงเชิดชู เป็นนักการเมืองระดับแถวหน้าและ คนดีของพรรคต่อไป
ไม่ว่าจะเป็น ชวน หลีกภัยที่ยังคงเป็น ผู้นำทางจิตวิญญาณของ ปชป.
สุเทพ เทือกสุบรรณก็ก้าวสู่ เลขาธิการพรรค ปชป.และได้เป็นถึง รองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะในเวลาต่อมา
ส่วน อัญชลี วานิช เทพบุตรภรรยาของ ทศพร เทพบุตรกระโดดจาก เลขานุการของ นายสุเทพขึ้นเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรีใน รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
และคนสุดท้าย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะโฆษกรัฐบาลชวน 1 ต่อมาก็ขึ้นเป็น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และก้าวขึ้นเป็น นายกรัฐมนตรีหลังสลับขั้วทางการเมืองปี 2551

 

โดยที่ บุคคลเหล่านี้ไม่ได้ ละอายต่อ ประชาชน”  ที่พวกเขาร่วมกันปล้นครั้งนั้น แม้แต่น้อย !!!

 

พระนครสาส์น

 

ศาลฏีกาพิพากษาขับสามีอัญชลีพ้นที่ดินส.ป.ก.ภูเก็ต

 

โดย คม ชัด ลึก วัน ศุกร์ ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2550 02:54 น.    

 

ศาลฎีกาอ่านคำพิพากษา ยืนตามศาลอุธรณ์ ขับทศพร เทพบุตร สามี อัญชลีอดีต ส.ส.ภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมพวก ออกจากที่ดิน ส.ป.ก. ชี้ขาดคุณสมบัติ

เมื่อ 10.00 น. วันที่ 7 มิ.ย.50 ที่บัลลังก์ 2 ศาลจังหวัดภูเก็ต นายมนตรี สาโรช พร้อมด้วยนายสมศักดิ์ ลักษณะสมบูรณ์ ผู้พิพากษาศาลจังหวัดภูเก็ต ได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาลฏีการะหว่าง สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ สปก.มอบหมายพนักงานอัยการจังหวัดภูเก็ตเป็นโจทก์ฟ้อง นายทศพร เทพบุตร (สามีนางอัญชลี วานิช เทพบุตร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ภูเก็ต และอดีตส.ส.ภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ ) จำเลย คดีหมายเลขดำที่ 1765/2541 และคดีหมายเลขแดงที่ 1485/2544 เพื่อขับไล่ออกจากที่ดิน

 

ทั้งนี้สปก.ภูเก็ตได้ยื่นฟ้องนายทศพร โดยฟ้องว่า นายทศพรได้ยื่นคำขอเข้าทำประโยชน์ในที่ดินเขตปฏิรูปที่ดิน โดยครอบครองอยู่ตั้งแต่ปี 2532 เนื้อที่ 98 ไร่ 1 งาน 7 ตารางวา ตามเอกสาร สปก.4-01 ก. เลขที่ 140 อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยอ้างว่าประกอบอาชีพเกษตร ทำสวนผลไม้และปลูกยางพารา หลังจากนั้นได้รับการร้องเรียน ว่านายทศพรขาดคุณสมบัติ จากนั้นทางสปก.ได้มีการตรวจสอบคุณสมบัติ ทราบว่า นายทศพรมีที่ดินเป็นของตนเอง 97 ไร่ 3 งาน 30 ตรว.และประกอบอาชีพอื่นๆ โดยเป็นผู้บริหารนิติบุคคลประเภทห้างหุ้นส่วนจำกัดและบริษัทจำนวน 6 แห่ง มีการลงทุนเป็นเงิน 55,320,000 บาท

 

คณะกรรมการ สปก.อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 19 และมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2518 มีมติให้เพิกถอนหนังสืออนุญาต ให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินของนายทศพร โดยมอบหมายให้เลขาธิการ สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเพิกถอนหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินตามคำสั่งสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมที่ 257/2538 ลงวันที่ 18 เม.ย.2538 โดยนายทศพรได้อุทธรณ์คำสั่งเพิกถอนดังกล่าว อ้างว่าคำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามอุทธรณ์ของนายทศพร ลงวันที่ 24 พ.ค.2538 แต่นายทศพรไม่ได้ไปให้ถ้อยคำต่อพนักงานตามที่กำหนด คณะกรรมการ สปก.จึงมีมติไม่รับการพิจารณาอุทธรณ์ เนื่องจากนายทศพรไม่ได้เป็นเกษตรกร จึงไม่มีสิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ตามรายงานการประชุมของคณะกรรมการ สปก.ครั้งที่ 4/2539 ลงวันที่ 4 พ.ย.2539 สปก.ภูเก็ตจึงแจ้งให้นายทศพรและบริวารออกจากที่ดินของ สปก.ตามหนังสือลงวันที่ 14 มี.ค.2540 แต่นายทศพรและบริวารเพิกเฉย หลังจากที่มีการตรวจสอบคุณสมบัติต่างๆแล้ว สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมหรือ สปก.ได้ฟ้องร้องผู้ที่ถูกเพิกถอนเอกสารสิทธิ

แต่ในการฟ้องร้องศาลนั้นศาลชั้นต้นนั้น ทางศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง จากนั้น สปก.ได้อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ โดยให้นายทศพรและบริวารออกไปจากที่ดิน สปก.ดังกล่าว จากนั้นนายทศพรได้ฎีกา โดยศาลฎีกาวินิจฉัยว่าตามที่นายทศพรอ้างว่าที่ดินพิพาทเดิมเป็นของนายจรัญ ตุ้งกู ซึ่งได้ครอบครองที่พิพาทมาตั้งแต่ปี 2499 และได้โอนให้จำเลยเข้าครอบครองทำประโยชน์ ตั้งแต่ปี 2532 เป็นต้นมา สปก.ไม่มีสิทธิขับไล่จำเลยและบริวารออกไปจากที่ดินดังกล่าวนั้น

ศาลฎีกาเห็นว่าการจะได้ที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมายนั้น ได้มีบัญญัติวไว้ในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 มาตรา 5 ว่าให้ผู้ที่ครอบครองที่ดินอยู่ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ โดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินต้องแจ้งการครอบครองที่ดินต่อนายอำเภอท้องที่ภายใน 180 วันนับแต่วันที่พระราชบัญญัติน้ใช้บังคับมาตรา 1 บุคคลที่จะมีกรรมสิทธิ์ที่ดินจะต้องได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ตามบทกฎหมาย ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับและมาตรา 4 บุคคลได้มาซึ่งสิทธิครอบครองในที่ดินก่อนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับให้มีสิทธิครอบครองสืบไปและคุ้มครองตลอดถึงผู้รับโอนด้วย

 

แต่กรณีของนายจรัญได้ครอบครองที่ดินพิพาทสืบต่อมาจากบิดาของนายจรัญ ซึ่งครอบครองในปี 2499 อันเป็นเวลาภายหลังพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 ประกาศใช้แล้วและไม่ปรากฏว่าได้ครอบครองที่ดินโดยชอบตามบทกฎหมายใด การครอบครองของนายจรัญจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ที่ดินจึงไม่ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของนายจรัญ

 

นอกจากนี้ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 2 ยังบัญญัติว่าที่ดินซึ่งมิได้เป็นกรรมสิทธิ์ของบุคคลใด ให้ถือว่าเป็นของรัฐ ดังนั้นที่ดินที่นายจรัญครอบครองจึงต้องถือว่าเป็นที่ดินของรัฐอยู่ นายทศพรรับโอนมาจากนายจรัญ จึงไม่มีสิทธิ์ดีกว่า โจทก์หรือ สปก.จึงมีสิทธิ์นำที่ดินดังกล่าวมาปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได้

ส่วนนายทศพรเป็นเกษตรกรตามความหมายแห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2516 หรือไม่นั้น มาตรา 4 ให้คำนิยามไว้ว่า เกษตรกร หมายความว่าผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลักและให้หมายความรวมถึงบุคคลผู้ยากจนหรือผู้จบการศึกษาทางเกษตรกรรมหรือผู้เป็นบุตรของเกษตรกร ซึ่งไม่มีที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเป็นของตนเองและประสงค์จะประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก

 

แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่านายทศพรมีที่ดินอยู่ที่ใน ต.ไม้ขาว อ.ถลางจำนวน 3 แปลง อยู่ใน ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ตอีก 22 แปลงกับมีชื่อเป็นกรรมการบริษัท เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัด นายทศพรจึงไม่ใช่ผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก และไม่ใช่ผู้ที่ไม่มีที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเป็นของตนเองและประสงค์จะประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก นายทศพรจึงไม่ใช่เกษตรกรตามความหมายของพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2516 โดย สปก.หรือโจทก์มีสิทธิ์นำที่ดินพิพาทมาปฏิรูปที่ดินได้ โดยศาลฎกีกาพิพากษายืน

 

สำหรับปัญหาที่ดินสปก. 4-01 ในภูเก็ตเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2537 เมื่อนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รมต.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในขณะนั้น ได้เดินทางมามอบเอกสารที่ดินส.ป.ก.ให้กับเกษตกรผู้ยากไร้ที่ดินทำกินจำนวน 592 แปลง จำนวน 489 ราย พื้นที่ 10,000 กว่า ไร่ ทั้งพื้นที่ป่าเขาสามเหลี่ยม ป่าเทือกเขากมลา และป่าเทือกเขานาคเกิด และจากการตรวจสอบพบว่า มีตระกูลใหญ่ในจังหวัดภูเก็ตจำนวน 11 ตระกูล ที่ได้รับเอกสารสิทธิดังกล่าว ประกอบด้วย ตระกูลเทพบุตร, ศรีแสนสุชาติ, หงษ์หยก, ถาวรว่องวงค์, ประจันทบุตร , สุขศิริสัมพันธ์, เอกวานิช, ตันติวิท, ทองตัน, อมรไพโรจน์, กี่สิ้น จากนั้นทางจังหวัดภูเก็ตได้ตั้งกรรมการขึ้นมาสืบสวนข้อเท็จจริง และตรวจสอบคุณ สมบัติผู้ที่ได้รับสิทธิ์ ส.ป.ก.4-01 รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงมาตรวจสอบที่ดินส.ป.ก.4-01 ในภูเก็ตมาโดยตลอด

 

จากนั้นในวันที่ 17 เมษายน 2538 คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดภูเก็ต ได้มีมติเพิกถอนเอกสารในที่ดินส.ป.ก.ที่แจกให้นายทุนจำนวน 8 ราย เพราะขาดคุณสมบัติ ตามที่คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความ

 

ประกอบด้วย นายบันลือ ตันติวิท จำนวน 1 แปลงเนื้องที่ 69 ไร่ นายบุ่นเก้ง ศรีแสนสุชาติ จำนวน 2 แปลง จำนวนเนื้อที่ 89 ไร่นายเจริญ ถาวรว่องงวศ์ จำนวน 4 แปลง เนื้อที่ 15 ไร่ นายทศพร เทพบุตร จำนวน 1 แปลง เนื้อที่ 98 ไร่ นายสุทิน เทพบุตร จำนวน 2 แปลง 37 ไร่ นายณรงค์ นพดารา 1 แปลง จำนวน 21 ไร่ นายหัตถ์ กตัญชลีกุล จำนวน 2 แปลง เนื้อที่ 29 ไร่ และนายธเนศ เอกวานิช จำนวน 1 แปลง เนื้อที่ 6 ไร่ ที่เหลือยังไม่ถูกเพิกถอน 2 ราย คือนายเปี่ยน กี่สิ้น และนายสุรศักดิ์ หงษ์หยก หลังจากที่มีการตรวจสอบคุณสมบัติต่างๆ แล้ว ทางสปก.ได้ฟ้องร้องผู้ที่ถูกเพิกถอนเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.จำนวน 24 ราย ซึ่งศาลได้ตัดสินไปแล้วบางส่วน ซึ่งมี 2-3 คดีเท่านั้นที่สปก.เป็นผู้ชนะ นอกจากนั้นแพ้ทั้งหมด และทางส.ป.ก.ได้อุธรณ์คำสั่งศาลเพื่อพิจารณายื่นฟ้องใหม่ดังกล่าว

 

สำหรับกรณีที่สปก.ยื่นฟ้องนายทศพร เทพบุตร เพื่อให้ออกจากการครอบครองที่ดิน สปก. 4-01 นั้น ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง จากนั้น สปก.ได้อุทธรณ์คำสั่งศาล เพื่อให้มีการพิจารณายื่นฟ้องใหม่ เมื่อวันที่ 28 เม.ย.47 จากนั้นศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษากลับ ให้นายทศพรและบริวารออกจากที่ดิน สปก.4-01 โดยนายทศพรได้ยื่นฎีกาต่อ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.50 ศาลจังหวัดภูเก็ตได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาพิพากษายืนคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ขับไล่นายทศพรและบริวารออกจากที่ดิน สปก.4-01 ก.เลขที่ 140 อ.เมือง จ.ภูเก็ต เนื้อที่ 98 ไร่ 1 งาน 7 ตรว.

 

http://news.sanook.c...itic_143298.php

 

 

 

สุเทพโกงตรงไหน ???????? ที่ศาลตัดสินแล้ว

 

ศาลตัดสินว่าสุเทพโกง หรือ นายจรัญไม่มีสิทธิครอบครองที่ดิน ??????


Edited by Ricebeanoil, 23 December 2013 - 19:19.

เถียงกับความจริง เถียงให้ตายก็ไม่มีทางชนะ

#55 คน กทม.

คน กทม.

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 219 posts

Posted 23 December 2013 - 19:14

เด๋วไปประชุมออนไลน์กับเพื่อนก่อนครับ อันนี้ไม่เกี่ยวกับการเมือง

 

ใจเย็นๆ กันหน่อย



#56 ประชาราบ

ประชาราบ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 621 posts

Posted 23 December 2013 - 19:18

ปฏิรูปก่อนก่อดี (1)แต่ไม่ใช่ มี Hidden Agenda

 

ที่สุเทพออกมาตอนนี้ ทั้งเหลือง ทั้งแดงก็รู้ทั้งนั้นว่าเพราะอะไร(2)

 

คนกลางมาจากไหน รัฐบาลตั้งก็จะบอกว่าเอียง

 

กปปส ตั้ง มันจะไม่เอียงไปทาง ปชป หรือ(3)

 

มามะมาคุยกันดีๆ  :lol: 

 

(1) ถ้าดีแล้วจะค้านทำมัย ถ้าคิดว่าปฎิรูปดีจะกลัวอะไร? ถ้าออกมามีอะไรแอบแผงก็โดนประชาชนออกไปไล่ ดูกรณีพรบ.เหม่าเข่งอุ้มโจร  รัฐบานมันมั่นใจมากเหิมเกริม ออกโดยไม่ฟังเสียงค้านผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง นักวิชาการ ฝ่ายค้าน แม้กระทั้งพวกเสื้อแดงเอง ก็เลยถูกไล่จากทุกฝ่ายจนต้องถอนร่างออกทั้งหมดแม้ที่ถูกทูลเกล้าไปแล้ว(ที่บอกตลอดว่าขอคืนไม่ได้) ถ้ากำนันมีอะไรแอบแฝงผมคนหนึ่งก็จะออกไปไล่และคนอื่นๆอีกหลายคนก็คงเช่นกัน

 

(2) ออกมาเพราะอะไรผมยังไม่รู้ นอกจากระบบมันเหลวแหลก สภาไม่เป็นสภา นักการเมืองไม่มีอิสระในการออกเสียงลงคะแนน ดีไม่ว่าตามดี เลวไม่ว่าตามเลว อย่างนี้ประชาธิปไตยมาครึ่งทาง คือมาได้เฉพาะการคัดเลือกตัวแทนประชาชน แต่ไม่สามารถทำตัวให้อิสระในการลงมติได้สมกับที่ประชาชนมอบหมายหน้าที่ฝากให้รับผิดชอบบ้านเมือง ในการปกครอง ในการออกกฎหมายต่างๆ ไม่คำนึงถึงสิทธิประโยชน์ที่จะพึงมีแก่ประชาชน แล้วหากไม่ใช่ตามนี้คุณเขียนมาชัดๆคืออะไรที่คุณว่ามา แม้คุณคิดเอาเอง ฟังเขาเล่ามา ลือมา ว่ามาเลยอย่างลูกผู้ชาย ตอบแค่นี้คงตอบได้นะ  :lol: 

 

(3) เขายังไม่ได้ตั้งอะไรมาเลยนี่รัฐบาลรักษาการอะไรนี่ หรือคุณมีโผก็เอาออกมาให้ดู ถ้ามันเลวผมจะออกไปกับพวกคุณช่วยไล่มันเลย

 

 

ผมตอบคุณจริงจังนะ :lol: 

 

กรุณาตอบกลับด้วยอย่างผู้มีการศึกษาหรือไพร่ทาสก็ได้ไม่ว่ากัน  :D 

 

 

 

หมายเหตุ: แก้สีข้อความ


Edited by ประชาราบ, 23 December 2013 - 23:05.


#57 wisary

wisary

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 998 posts

Posted 23 December 2013 - 19:19

Ricebeanoi

 

หากนับผลงานรักชาติปากมัน ของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)ที่นับว่า คลาสสิคที่สุดในประวัติศาสตร์ของพรรคเก่าแก่แห่งนี้

เรื่องที่ต้องติดอันดับต้นๆ เลย ก็ต้องเป็น กรณี สปก 4-01” ที่เป็นการโกงที่ดินเกษตรกรเพื่อไปให้กับ ผู้ใกล้ชิดคนในพรรคจนกลายเป็นตราประทับ ยี่ห้อ ประชาธิปัตย์ที่ชัดเจน

กระทั่ง รัฐบาลชวน หลีกภัย (ชวน 1)” ถึงขนาดต้อง ยุบสภาหนีความอับอาย !

 

หลังการเลือกตั้งกันยายน 2535 “พรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดย ชวน หลีกภัยหัวหน้าพรรค ปชป. ขณะนั้นขึ้นดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีสมัยแรก (ชวน 1)
แม้ ชวนจะพยายามรักษาภาพของความซื่อสัตย์สุจริตและสร้างภาพนายกรัฐมนตรีผู้สมถะ จากสตอรีย์ เช่าบ้านอยู่ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย ยันได้เป็น นายกฯ
แต่ก็ไม่สามารถปิดบัง ร่องรอยแห่งการทุจริต ของคนในพรรค ปชป.ได้ โดยเฉพาะเมื่อ ชวนตัดสินใจผลักดัน สุเทพ เทือกสุบรรณเป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และเร่งดำเนินการนโยบาย ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเพื่อมอบให้ เกษตรกร” 

 

แต่นายสุเทพกลับใช้อำนาจและช่องโหว่ของกฎหมาย แปรรูป ที่ดินสปก 4-01 ที่จะต้องแจกเอกสารสิทธิ์ให้กับเกษตรกร  เอาไปให้กับ ทศพร เทพบุตรสามีของ อัญชลี วานิช เทพบุตร (อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) ซึ่งขณะนั้นเป็น เลขานุการของ นายสุเทพกว่า 98 ไร่ 1 งาน 7 ตารางวา

 

รวมไปถึง บรรดาผู้มีอันจะกินในจังหวัดภูเก็ตและพื้นที่ภาคใต้อีกหลายคน ที่มีความสนิทสนมและให้การสนับสนุน นายสุเทพในเส้นทางการเมือง เป็นจำนนวนหลายร้อยไร่ !!!
ทั้งๆที่บุคคลเหล่านั้นไม่ได้เป็น เกษตรกรตามที่กฎหมายบัญญัติ !

 

สปก 4-01” จึงกลายเป็นผลงานอัปยศของ พรรคประชาธิปัตย์ที่แสดงให้เห็นความหน้ามืดโกงได้แม้กระทั่ง ที่ดินหลวง”- กินได้ แม้กระทั่ง ที่ดินของคนยากคนจน

เพียงเพื่อต้องการที่จะสนองประโยชน์ให้กับ พวกพ้องและ บริวารของ นายสุเทพ”!

 

ซึ่งสุดท้ายเรื่องก็ลุกลามกลายเป็นสิ่งที่สังคมจับตาและออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมของการกระทำดังกล่าว
โดยเฉพาะในประเด็นที่ ฝ่ายรัฐบาลปชป.พยายามยืนยันว่า ผู้มีอันจะกินที่ได้รับที่ดิน สปก.ไปนั้น คือ เกษตรกรตามที่กฎหมายบัญญัติ

ตั้งแต่ตัว นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รมช.เกษตรฯ ไปจนถุึง  ชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี ที่ยืนยันความถูกต้องเสียงแข็ง  

และยังรวมไปถึง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะโฆษกรัฐบาลชวน 1 ที่ร่วมด้วยช่วยกันยืนยันหนักแน่นว่า การกระทำของนายสุเทพ ที่แจกเอกสารสิทธิ์ สปก 4-01 สำหรับเกษตรให้กับ พวกพ้องตัวเองนั้น เป็นการกระทำที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว  !
เดือดร้อนถึงขั้น ชวน หลีกภัยนายกรัฐมนตรี ต้องส่งเรื่องให้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความความหมายของคำว่า เกษตรกร” !
กระทั่ง พรรคชาติไทยนำโดย บรรหาร ศิลปะอาชาและ เนวิน ชิดชอบรวบรวมเสียง ส.ส.ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาลชวน หลีกภัยในประเด็น การแจกเอกสารสิทธิ์ที่ดิน สปก.4-01

 

 

จนสุดท้าย นายชวน หลีกภัยต้องตัดสินใจ ยุบสภาเพราะไม่สามารถชี้แจง การทุจริตที่เกิดขึ้นให้สังคมมีความกระจ่างชัดเจน
แม้หลังจากนั้น พรรคประชาธิปัตย์จะยังยืนยันตลอดเวลาว่าการโกงที่ดินของเกษตรกร ไปให้กับพวกพ้องครั้งนั้น เป็นสิ่งที่ ถูกต้อง” !
แต่ก็ไม่สามารถหนีความจริงได้ เมื่อศาลฎีกามีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2550 ในคดีหมายเลขดำที่ 1765/2541 และคดีหมายเลขแดงที่ 1485/2544 ให้นายทศพร เทพบุตร จำเลย (สามีนางอัญชลี วานิช เทพบุตร) ออกจากที่ดิน สปก. ที่ครอบครองมายาวนานกว่า 12 ปี เนื้อที่ 98 ไร่ 1 งาน 7 ตารางวา เนื่องจาก จำเลยไม่ได้เป็นเกษตรกรจริง !
ซึ่งน่าสังเกตว่า นอกจาก พรรคประชาธิปัตย์จะไม่ยอมรับ การโกงของตัวเองว่าเป็น การกระทำผิดแล้ว บุคคลต่างๆที่มีชื่อเกี่ยวข้องกับกระบวนการกินคลาสสิคครั้งนั้น พรรคประชาธิปัตย์ก็ยังคงเชิดชู เป็นนักการเมืองระดับแถวหน้าและ คนดีของพรรคต่อไป
ไม่ว่าจะเป็น ชวน หลีกภัยที่ยังคงเป็น ผู้นำทางจิตวิญญาณของ ปชป.
สุเทพ เทือกสุบรรณก็ก้าวสู่ เลขาธิการพรรค ปชป.และได้เป็นถึง รองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะในเวลาต่อมา
ส่วน อัญชลี วานิช เทพบุตรภรรยาของ ทศพร เทพบุตรกระโดดจาก เลขานุการของ นายสุเทพขึ้นเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรีใน รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
และคนสุดท้าย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะโฆษกรัฐบาลชวน 1 ต่อมาก็ขึ้นเป็น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และก้าวขึ้นเป็น นายกรัฐมนตรีหลังสลับขั้วทางการเมืองปี 2551

 

โดยที่ บุคคลเหล่านี้ไม่ได้ ละอายต่อ ประชาชน”  ที่พวกเขาร่วมกันปล้นครั้งนั้น แม้แต่น้อย !!!

 

พระนครสาส์น

ปปช. 9-0 ว่าไม่ผิด ยังอุตส่าห์ยกมาได้อีกเนอะ



#58 ที่บ้านเคร่งเรื่องมารยาท

ที่บ้านเคร่งเรื่องมารยาท

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 775 posts

Posted 23 December 2013 - 19:26

แต่ที่มันไม่ไปไหนซะที ก็เพราะไอ้คนรุ่นเรานี่แหละ ชอบเป็นเบี้ยให้เกมอำนาจ

 

 

 

เม-ริงรู้จักกรูเหรอถึงมาตีเนียนว่า "เรา" กรูไม่ได้เป็นเพื่อนเม-ริง...จบนะ


Edited by ที่บ้านเคร่งเรื่องมารยาท, 23 December 2013 - 19:28.


#59 GKTH

GKTH

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 243 posts

Posted 23 December 2013 - 19:27

คำพิพากกษาสิครั นี่เข้ใจระบบยุติธรรมป่ะ?

#60 ไทยไม่ทน

ไทยไม่ทน

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,381 posts

Posted 23 December 2013 - 19:29

 

Ricebeanoi

 

หากนับผลงานรักชาติปากมัน ของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)ที่นับว่า คลาสสิคที่สุดในประวัติศาสตร์ของพรรคเก่าแก่แห่งนี้

เรื่องที่ต้องติดอันดับต้นๆ เลย ก็ต้องเป็น กรณี สปก 4-01” ที่เป็นการโกงที่ดินเกษตรกรเพื่อไปให้กับ ผู้ใกล้ชิดคนในพรรคจนกลายเป็นตราประทับ ยี่ห้อ ประชาธิปัตย์ที่ชัดเจน

กระทั่ง รัฐบาลชวน หลีกภัย (ชวน 1)” ถึงขนาดต้อง ยุบสภาหนีความอับอาย !

 

หลังการเลือกตั้งกันยายน 2535 “พรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดย ชวน หลีกภัยหัวหน้าพรรค ปชป. ขณะนั้นขึ้นดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีสมัยแรก (ชวน 1)
แม้ ชวนจะพยายามรักษาภาพของความซื่อสัตย์สุจริตและสร้างภาพนายกรัฐมนตรีผู้สมถะ จากสตอรีย์ เช่าบ้านอยู่ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย ยันได้เป็น นายกฯ
แต่ก็ไม่สามารถปิดบัง ร่องรอยแห่งการทุจริต ของคนในพรรค ปชป.ได้ โดยเฉพาะเมื่อ ชวนตัดสินใจผลักดัน สุเทพ เทือกสุบรรณเป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และเร่งดำเนินการนโยบาย ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเพื่อมอบให้ เกษตรกร” 

 

แต่นายสุเทพกลับใช้อำนาจและช่องโหว่ของกฎหมาย แปรรูป ที่ดินสปก 4-01 ที่จะต้องแจกเอกสารสิทธิ์ให้กับเกษตรกร  เอาไปให้กับ ทศพร เทพบุตรสามีของ อัญชลี วานิช เทพบุตร (อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) ซึ่งขณะนั้นเป็น เลขานุการของ นายสุเทพกว่า 98 ไร่ 1 งาน 7 ตารางวา

 

รวมไปถึง บรรดาผู้มีอันจะกินในจังหวัดภูเก็ตและพื้นที่ภาคใต้อีกหลายคน ที่มีความสนิทสนมและให้การสนับสนุน นายสุเทพในเส้นทางการเมือง เป็นจำนนวนหลายร้อยไร่ !!!
ทั้งๆที่บุคคลเหล่านั้นไม่ได้เป็น เกษตรกรตามที่กฎหมายบัญญัติ !

 

สปก 4-01” จึงกลายเป็นผลงานอัปยศของ พรรคประชาธิปัตย์ที่แสดงให้เห็นความหน้ามืดโกงได้แม้กระทั่ง ที่ดินหลวง”- กินได้ แม้กระทั่ง ที่ดินของคนยากคนจน

เพียงเพื่อต้องการที่จะสนองประโยชน์ให้กับ พวกพ้องและ บริวารของ นายสุเทพ”!

 

ซึ่งสุดท้ายเรื่องก็ลุกลามกลายเป็นสิ่งที่สังคมจับตาและออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมของการกระทำดังกล่าว
โดยเฉพาะในประเด็นที่ ฝ่ายรัฐบาลปชป.พยายามยืนยันว่า ผู้มีอันจะกินที่ได้รับที่ดิน สปก.ไปนั้น คือ เกษตรกรตามที่กฎหมายบัญญัติ

ตั้งแต่ตัว นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รมช.เกษตรฯ ไปจนถุึง  ชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี ที่ยืนยันความถูกต้องเสียงแข็ง  

และยังรวมไปถึง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะโฆษกรัฐบาลชวน 1 ที่ร่วมด้วยช่วยกันยืนยันหนักแน่นว่า การกระทำของนายสุเทพ ที่แจกเอกสารสิทธิ์ สปก 4-01 สำหรับเกษตรให้กับ พวกพ้องตัวเองนั้น เป็นการกระทำที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว  !
เดือดร้อนถึงขั้น ชวน หลีกภัยนายกรัฐมนตรี ต้องส่งเรื่องให้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความความหมายของคำว่า เกษตรกร” !
กระทั่ง พรรคชาติไทยนำโดย บรรหาร ศิลปะอาชาและ เนวิน ชิดชอบรวบรวมเสียง ส.ส.ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาลชวน หลีกภัยในประเด็น การแจกเอกสารสิทธิ์ที่ดิน สปก.4-01

 

 

จนสุดท้าย นายชวน หลีกภัยต้องตัดสินใจ ยุบสภาเพราะไม่สามารถชี้แจง การทุจริตที่เกิดขึ้นให้สังคมมีความกระจ่างชัดเจน
แม้หลังจากนั้น พรรคประชาธิปัตย์จะยังยืนยันตลอดเวลาว่าการโกงที่ดินของเกษตรกร ไปให้กับพวกพ้องครั้งนั้น เป็นสิ่งที่ ถูกต้อง” !
แต่ก็ไม่สามารถหนีความจริงได้ เมื่อศาลฎีกามีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2550 ในคดีหมายเลขดำที่ 1765/2541 และคดีหมายเลขแดงที่ 1485/2544 ให้นายทศพร เทพบุตร จำเลย (สามีนางอัญชลี วานิช เทพบุตร) ออกจากที่ดิน สปก. ที่ครอบครองมายาวนานกว่า 12 ปี เนื้อที่ 98 ไร่ 1 งาน 7 ตารางวา เนื่องจาก จำเลยไม่ได้เป็นเกษตรกรจริง !
ซึ่งน่าสังเกตว่า นอกจาก พรรคประชาธิปัตย์จะไม่ยอมรับ การโกงของตัวเองว่าเป็น การกระทำผิดแล้ว บุคคลต่างๆที่มีชื่อเกี่ยวข้องกับกระบวนการกินคลาสสิคครั้งนั้น พรรคประชาธิปัตย์ก็ยังคงเชิดชู เป็นนักการเมืองระดับแถวหน้าและ คนดีของพรรคต่อไป
ไม่ว่าจะเป็น ชวน หลีกภัยที่ยังคงเป็น ผู้นำทางจิตวิญญาณของ ปชป.
สุเทพ เทือกสุบรรณก็ก้าวสู่ เลขาธิการพรรค ปชป.และได้เป็นถึง รองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะในเวลาต่อมา
ส่วน อัญชลี วานิช เทพบุตรภรรยาของ ทศพร เทพบุตรกระโดดจาก เลขานุการของ นายสุเทพขึ้นเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรีใน รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
และคนสุดท้าย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะโฆษกรัฐบาลชวน 1 ต่อมาก็ขึ้นเป็น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และก้าวขึ้นเป็น นายกรัฐมนตรีหลังสลับขั้วทางการเมืองปี 2551

 

โดยที่ บุคคลเหล่านี้ไม่ได้ ละอายต่อ ประชาชน”  ที่พวกเขาร่วมกันปล้นครั้งนั้น แม้แต่น้อย !!!

 

พระนครสาส์น

 

ศาลฏีกาพิพากษาขับสามีอัญชลีพ้นที่ดินส.ป.ก.ภูเก็ต

 

โดย คม ชัด ลึก วัน ศุกร์ ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2550 02:54 น.    

 

ศาลฎีกาอ่านคำพิพากษา ยืนตามศาลอุธรณ์ ขับทศพร เทพบุตร สามี อัญชลีอดีต ส.ส.ภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมพวก ออกจากที่ดิน ส.ป.ก. ชี้ขาดคุณสมบัติ

เมื่อ 10.00 น. วันที่ 7 มิ.ย.50 ที่บัลลังก์ 2 ศาลจังหวัดภูเก็ต นายมนตรี สาโรช พร้อมด้วยนายสมศักดิ์ ลักษณะสมบูรณ์ ผู้พิพากษาศาลจังหวัดภูเก็ต ได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาลฏีการะหว่าง สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ สปก.มอบหมายพนักงานอัยการจังหวัดภูเก็ตเป็นโจทก์ฟ้อง นายทศพร เทพบุตร (สามีนางอัญชลี วานิช เทพบุตร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ภูเก็ต และอดีตส.ส.ภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ ) จำเลย คดีหมายเลขดำที่ 1765/2541 และคดีหมายเลขแดงที่ 1485/2544 เพื่อขับไล่ออกจากที่ดิน

 

ทั้งนี้สปก.ภูเก็ตได้ยื่นฟ้องนายทศพร โดยฟ้องว่า นายทศพรได้ยื่นคำขอเข้าทำประโยชน์ในที่ดินเขตปฏิรูปที่ดิน โดยครอบครองอยู่ตั้งแต่ปี 2532 เนื้อที่ 98 ไร่ 1 งาน 7 ตารางวา ตามเอกสาร สปก.4-01 ก. เลขที่ 140 อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยอ้างว่าประกอบอาชีพเกษตร ทำสวนผลไม้และปลูกยางพารา หลังจากนั้นได้รับการร้องเรียน ว่านายทศพรขาดคุณสมบัติ จากนั้นทางสปก.ได้มีการตรวจสอบคุณสมบัติ ทราบว่า นายทศพรมีที่ดินเป็นของตนเอง 97 ไร่ 3 งาน 30 ตรว.และประกอบอาชีพอื่นๆ โดยเป็นผู้บริหารนิติบุคคลประเภทห้างหุ้นส่วนจำกัดและบริษัทจำนวน 6 แห่ง มีการลงทุนเป็นเงิน 55,320,000 บาท

 

คณะกรรมการ สปก.อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 19 และมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2518 มีมติให้เพิกถอนหนังสืออนุญาต ให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินของนายทศพร โดยมอบหมายให้เลขาธิการ สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเพิกถอนหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินตามคำสั่งสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมที่ 257/2538 ลงวันที่ 18 เม.ย.2538 โดยนายทศพรได้อุทธรณ์คำสั่งเพิกถอนดังกล่าว อ้างว่าคำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามอุทธรณ์ของนายทศพร ลงวันที่ 24 พ.ค.2538 แต่นายทศพรไม่ได้ไปให้ถ้อยคำต่อพนักงานตามที่กำหนด คณะกรรมการ สปก.จึงมีมติไม่รับการพิจารณาอุทธรณ์ เนื่องจากนายทศพรไม่ได้เป็นเกษตรกร จึงไม่มีสิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ตามรายงานการประชุมของคณะกรรมการ สปก.ครั้งที่ 4/2539 ลงวันที่ 4 พ.ย.2539 สปก.ภูเก็ตจึงแจ้งให้นายทศพรและบริวารออกจากที่ดินของ สปก.ตามหนังสือลงวันที่ 14 มี.ค.2540 แต่นายทศพรและบริวารเพิกเฉย หลังจากที่มีการตรวจสอบคุณสมบัติต่างๆแล้ว สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมหรือ สปก.ได้ฟ้องร้องผู้ที่ถูกเพิกถอนเอกสารสิทธิ

แต่ในการฟ้องร้องศาลนั้นศาลชั้นต้นนั้น ทางศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง จากนั้น สปก.ได้อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ โดยให้นายทศพรและบริวารออกไปจากที่ดิน สปก.ดังกล่าว จากนั้นนายทศพรได้ฎีกา โดยศาลฎีกาวินิจฉัยว่าตามที่นายทศพรอ้างว่าที่ดินพิพาทเดิมเป็นของนายจรัญ ตุ้งกู ซึ่งได้ครอบครองที่พิพาทมาตั้งแต่ปี 2499 และได้โอนให้จำเลยเข้าครอบครองทำประโยชน์ ตั้งแต่ปี 2532 เป็นต้นมา สปก.ไม่มีสิทธิขับไล่จำเลยและบริวารออกไปจากที่ดินดังกล่าวนั้น

ศาลฎีกาเห็นว่าการจะได้ที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมายนั้น ได้มีบัญญัติวไว้ในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 มาตรา 5 ว่าให้ผู้ที่ครอบครองที่ดินอยู่ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ โดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินต้องแจ้งการครอบครองที่ดินต่อนายอำเภอท้องที่ภายใน 180 วันนับแต่วันที่พระราชบัญญัติน้ใช้บังคับมาตรา 1 บุคคลที่จะมีกรรมสิทธิ์ที่ดินจะต้องได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ตามบทกฎหมาย ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับและมาตรา 4 บุคคลได้มาซึ่งสิทธิครอบครองในที่ดินก่อนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับให้มีสิทธิครอบครองสืบไปและคุ้มครองตลอดถึงผู้รับโอนด้วย

 

แต่กรณีของนายจรัญได้ครอบครองที่ดินพิพาทสืบต่อมาจากบิดาของนายจรัญ ซึ่งครอบครองในปี 2499 อันเป็นเวลาภายหลังพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 ประกาศใช้แล้วและไม่ปรากฏว่าได้ครอบครองที่ดินโดยชอบตามบทกฎหมายใด การครอบครองของนายจรัญจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ที่ดินจึงไม่ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของนายจรัญ

 

นอกจากนี้ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 2 ยังบัญญัติว่าที่ดินซึ่งมิได้เป็นกรรมสิทธิ์ของบุคคลใด ให้ถือว่าเป็นของรัฐ ดังนั้นที่ดินที่นายจรัญครอบครองจึงต้องถือว่าเป็นที่ดินของรัฐอยู่ นายทศพรรับโอนมาจากนายจรัญ จึงไม่มีสิทธิ์ดีกว่า โจทก์หรือ สปก.จึงมีสิทธิ์นำที่ดินดังกล่าวมาปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได้

ส่วนนายทศพรเป็นเกษตรกรตามความหมายแห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2516 หรือไม่นั้น มาตรา 4 ให้คำนิยามไว้ว่า เกษตรกร หมายความว่าผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลักและให้หมายความรวมถึงบุคคลผู้ยากจนหรือผู้จบการศึกษาทางเกษตรกรรมหรือผู้เป็นบุตรของเกษตรกร ซึ่งไม่มีที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเป็นของตนเองและประสงค์จะประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก

 

แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่านายทศพรมีที่ดินอยู่ที่ใน ต.ไม้ขาว อ.ถลางจำนวน 3 แปลง อยู่ใน ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ตอีก 22 แปลงกับมีชื่อเป็นกรรมการบริษัท เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัด นายทศพรจึงไม่ใช่ผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก และไม่ใช่ผู้ที่ไม่มีที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเป็นของตนเองและประสงค์จะประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก นายทศพรจึงไม่ใช่เกษตรกรตามความหมายของพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2516 โดย สปก.หรือโจทก์มีสิทธิ์นำที่ดินพิพาทมาปฏิรูปที่ดินได้ โดยศาลฎกีกาพิพากษายืน

 

สำหรับปัญหาที่ดินสปก. 4-01 ในภูเก็ตเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2537 เมื่อนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รมต.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในขณะนั้น ได้เดินทางมามอบเอกสารที่ดินส.ป.ก.ให้กับเกษตกรผู้ยากไร้ที่ดินทำกินจำนวน 592 แปลง จำนวน 489 ราย พื้นที่ 10,000 กว่า ไร่ ทั้งพื้นที่ป่าเขาสามเหลี่ยม ป่าเทือกเขากมลา และป่าเทือกเขานาคเกิด และจากการตรวจสอบพบว่า มีตระกูลใหญ่ในจังหวัดภูเก็ตจำนวน 11 ตระกูล ที่ได้รับเอกสารสิทธิดังกล่าว ประกอบด้วย ตระกูลเทพบุตร, ศรีแสนสุชาติ, หงษ์หยก, ถาวรว่องวงค์, ประจันทบุตร , สุขศิริสัมพันธ์, เอกวานิช, ตันติวิท, ทองตัน, อมรไพโรจน์, กี่สิ้น จากนั้นทางจังหวัดภูเก็ตได้ตั้งกรรมการขึ้นมาสืบสวนข้อเท็จจริง และตรวจสอบคุณ สมบัติผู้ที่ได้รับสิทธิ์ ส.ป.ก.4-01 รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงมาตรวจสอบที่ดินส.ป.ก.4-01 ในภูเก็ตมาโดยตลอด

 

จากนั้นในวันที่ 17 เมษายน 2538 คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดภูเก็ต ได้มีมติเพิกถอนเอกสารในที่ดินส.ป.ก.ที่แจกให้นายทุนจำนวน 8 ราย เพราะขาดคุณสมบัติ ตามที่คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความ

 

ประกอบด้วย นายบันลือ ตันติวิท จำนวน 1 แปลงเนื้องที่ 69 ไร่ นายบุ่นเก้ง ศรีแสนสุชาติ จำนวน 2 แปลง จำนวนเนื้อที่ 89 ไร่นายเจริญ ถาวรว่องงวศ์ จำนวน 4 แปลง เนื้อที่ 15 ไร่ นายทศพร เทพบุตร จำนวน 1 แปลง เนื้อที่ 98 ไร่ นายสุทิน เทพบุตร จำนวน 2 แปลง 37 ไร่ นายณรงค์ นพดารา 1 แปลง จำนวน 21 ไร่ นายหัตถ์ กตัญชลีกุล จำนวน 2 แปลง เนื้อที่ 29 ไร่ และนายธเนศ เอกวานิช จำนวน 1 แปลง เนื้อที่ 6 ไร่ ที่เหลือยังไม่ถูกเพิกถอน 2 ราย คือนายเปี่ยน กี่สิ้น และนายสุรศักดิ์ หงษ์หยก หลังจากที่มีการตรวจสอบคุณสมบัติต่างๆ แล้ว ทางสปก.ได้ฟ้องร้องผู้ที่ถูกเพิกถอนเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.จำนวน 24 ราย ซึ่งศาลได้ตัดสินไปแล้วบางส่วน ซึ่งมี 2-3 คดีเท่านั้นที่สปก.เป็นผู้ชนะ นอกจากนั้นแพ้ทั้งหมด และทางส.ป.ก.ได้อุธรณ์คำสั่งศาลเพื่อพิจารณายื่นฟ้องใหม่ดังกล่าว

 

สำหรับกรณีที่สปก.ยื่นฟ้องนายทศพร เทพบุตร เพื่อให้ออกจากการครอบครองที่ดิน สปก. 4-01 นั้น ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง จากนั้น สปก.ได้อุทธรณ์คำสั่งศาล เพื่อให้มีการพิจารณายื่นฟ้องใหม่ เมื่อวันที่ 28 เม.ย.47 จากนั้นศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษากลับ ให้นายทศพรและบริวารออกจากที่ดิน สปก.4-01 โดยนายทศพรได้ยื่นฎีกาต่อ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.50 ศาลจังหวัดภูเก็ตได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาพิพากษายืนคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ขับไล่นายทศพรและบริวารออกจากที่ดิน สปก.4-01 ก.เลขที่ 140 อ.เมือง จ.ภูเก็ต เนื้อที่ 98 ไร่ 1 งาน 7 ตรว.

 

http://news.sanook.c...itic_143298.php

 

 

 

สุเทพโกงตรงไหน ???????? ที่ศาลตัดสินแล้ว

 

ศาลตัดสินว่าสุเทพโกง หรือ นายจรัญไม่มีสิทธิครอบครองที่ดิน ??????

 

 

พี่น้องเสื้อแดงเค้ามองว่าศาลเอียงครับ อย่าพูดให้เหนื่อยเลย สหาย


llllllllllllllllllllllllllllll

llllllllllllllllllllllllllllll

llllllllllllllllllllllllllllll

 


#61 Ricebeanoil

Ricebeanoil

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,320 posts

Posted 23 December 2013 - 19:31

 

 

Ricebeanoi

 

หากนับผลงานรักชาติปากมัน ของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)ที่นับว่า คลาสสิคที่สุดในประวัติศาสตร์ของพรรคเก่าแก่แห่งนี้

เรื่องที่ต้องติดอันดับต้นๆ เลย ก็ต้องเป็น กรณี สปก 4-01” ที่เป็นการโกงที่ดินเกษตรกรเพื่อไปให้กับ ผู้ใกล้ชิดคนในพรรคจนกลายเป็นตราประทับ ยี่ห้อ ประชาธิปัตย์ที่ชัดเจน

กระทั่ง รัฐบาลชวน หลีกภัย (ชวน 1)” ถึงขนาดต้อง ยุบสภาหนีความอับอาย !

 

หลังการเลือกตั้งกันยายน 2535 “พรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดย ชวน หลีกภัยหัวหน้าพรรค ปชป. ขณะนั้นขึ้นดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีสมัยแรก (ชวน 1)
แม้ ชวนจะพยายามรักษาภาพของความซื่อสัตย์สุจริตและสร้างภาพนายกรัฐมนตรีผู้สมถะ จากสตอรีย์ เช่าบ้านอยู่ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย ยันได้เป็น นายกฯ
แต่ก็ไม่สามารถปิดบัง ร่องรอยแห่งการทุจริต ของคนในพรรค ปชป.ได้ โดยเฉพาะเมื่อ ชวนตัดสินใจผลักดัน สุเทพ เทือกสุบรรณเป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และเร่งดำเนินการนโยบาย ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเพื่อมอบให้ เกษตรกร” 

 

แต่นายสุเทพกลับใช้อำนาจและช่องโหว่ของกฎหมาย แปรรูป ที่ดินสปก 4-01 ที่จะต้องแจกเอกสารสิทธิ์ให้กับเกษตรกร  เอาไปให้กับ ทศพร เทพบุตรสามีของ อัญชลี วานิช เทพบุตร (อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) ซึ่งขณะนั้นเป็น เลขานุการของ นายสุเทพกว่า 98 ไร่ 1 งาน 7 ตารางวา

 

รวมไปถึง บรรดาผู้มีอันจะกินในจังหวัดภูเก็ตและพื้นที่ภาคใต้อีกหลายคน ที่มีความสนิทสนมและให้การสนับสนุน นายสุเทพในเส้นทางการเมือง เป็นจำนนวนหลายร้อยไร่ !!!
ทั้งๆที่บุคคลเหล่านั้นไม่ได้เป็น เกษตรกรตามที่กฎหมายบัญญัติ !

 

สปก 4-01” จึงกลายเป็นผลงานอัปยศของ พรรคประชาธิปัตย์ที่แสดงให้เห็นความหน้ามืดโกงได้แม้กระทั่ง ที่ดินหลวง”- กินได้ แม้กระทั่ง ที่ดินของคนยากคนจน

เพียงเพื่อต้องการที่จะสนองประโยชน์ให้กับ พวกพ้องและ บริวารของ นายสุเทพ”!

 

ซึ่งสุดท้ายเรื่องก็ลุกลามกลายเป็นสิ่งที่สังคมจับตาและออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมของการกระทำดังกล่าว
โดยเฉพาะในประเด็นที่ ฝ่ายรัฐบาลปชป.พยายามยืนยันว่า ผู้มีอันจะกินที่ได้รับที่ดิน สปก.ไปนั้น คือ เกษตรกรตามที่กฎหมายบัญญัติ

ตั้งแต่ตัว นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รมช.เกษตรฯ ไปจนถุึง  ชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี ที่ยืนยันความถูกต้องเสียงแข็ง  

และยังรวมไปถึง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะโฆษกรัฐบาลชวน 1 ที่ร่วมด้วยช่วยกันยืนยันหนักแน่นว่า การกระทำของนายสุเทพ ที่แจกเอกสารสิทธิ์ สปก 4-01 สำหรับเกษตรให้กับ พวกพ้องตัวเองนั้น เป็นการกระทำที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว  !
เดือดร้อนถึงขั้น ชวน หลีกภัยนายกรัฐมนตรี ต้องส่งเรื่องให้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความความหมายของคำว่า เกษตรกร” !
กระทั่ง พรรคชาติไทยนำโดย บรรหาร ศิลปะอาชาและ เนวิน ชิดชอบรวบรวมเสียง ส.ส.ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาลชวน หลีกภัยในประเด็น การแจกเอกสารสิทธิ์ที่ดิน สปก.4-01

 

 

จนสุดท้าย นายชวน หลีกภัยต้องตัดสินใจ ยุบสภาเพราะไม่สามารถชี้แจง การทุจริตที่เกิดขึ้นให้สังคมมีความกระจ่างชัดเจน
แม้หลังจากนั้น พรรคประชาธิปัตย์จะยังยืนยันตลอดเวลาว่าการโกงที่ดินของเกษตรกร ไปให้กับพวกพ้องครั้งนั้น เป็นสิ่งที่ ถูกต้อง” !
แต่ก็ไม่สามารถหนีความจริงได้ เมื่อศาลฎีกามีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2550 ในคดีหมายเลขดำที่ 1765/2541 และคดีหมายเลขแดงที่ 1485/2544 ให้นายทศพร เทพบุตร จำเลย (สามีนางอัญชลี วานิช เทพบุตร) ออกจากที่ดิน สปก. ที่ครอบครองมายาวนานกว่า 12 ปี เนื้อที่ 98 ไร่ 1 งาน 7 ตารางวา เนื่องจาก จำเลยไม่ได้เป็นเกษตรกรจริง !
ซึ่งน่าสังเกตว่า นอกจาก พรรคประชาธิปัตย์จะไม่ยอมรับ การโกงของตัวเองว่าเป็น การกระทำผิดแล้ว บุคคลต่างๆที่มีชื่อเกี่ยวข้องกับกระบวนการกินคลาสสิคครั้งนั้น พรรคประชาธิปัตย์ก็ยังคงเชิดชู เป็นนักการเมืองระดับแถวหน้าและ คนดีของพรรคต่อไป
ไม่ว่าจะเป็น ชวน หลีกภัยที่ยังคงเป็น ผู้นำทางจิตวิญญาณของ ปชป.
สุเทพ เทือกสุบรรณก็ก้าวสู่ เลขาธิการพรรค ปชป.และได้เป็นถึง รองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะในเวลาต่อมา
ส่วน อัญชลี วานิช เทพบุตรภรรยาของ ทศพร เทพบุตรกระโดดจาก เลขานุการของ นายสุเทพขึ้นเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรีใน รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
และคนสุดท้าย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะโฆษกรัฐบาลชวน 1 ต่อมาก็ขึ้นเป็น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และก้าวขึ้นเป็น นายกรัฐมนตรีหลังสลับขั้วทางการเมืองปี 2551

 

โดยที่ บุคคลเหล่านี้ไม่ได้ ละอายต่อ ประชาชน”  ที่พวกเขาร่วมกันปล้นครั้งนั้น แม้แต่น้อย !!!

 

พระนครสาส์น

 

ศาลฏีกาพิพากษาขับสามีอัญชลีพ้นที่ดินส.ป.ก.ภูเก็ต

 

โดย คม ชัด ลึก วัน ศุกร์ ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2550 02:54 น.    

 

ศาลฎีกาอ่านคำพิพากษา ยืนตามศาลอุธรณ์ ขับทศพร เทพบุตร สามี อัญชลีอดีต ส.ส.ภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมพวก ออกจากที่ดิน ส.ป.ก. ชี้ขาดคุณสมบัติ

เมื่อ 10.00 น. วันที่ 7 มิ.ย.50 ที่บัลลังก์ 2 ศาลจังหวัดภูเก็ต นายมนตรี สาโรช พร้อมด้วยนายสมศักดิ์ ลักษณะสมบูรณ์ ผู้พิพากษาศาลจังหวัดภูเก็ต ได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาลฏีการะหว่าง สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ สปก.มอบหมายพนักงานอัยการจังหวัดภูเก็ตเป็นโจทก์ฟ้อง นายทศพร เทพบุตร (สามีนางอัญชลี วานิช เทพบุตร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ภูเก็ต และอดีตส.ส.ภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ ) จำเลย คดีหมายเลขดำที่ 1765/2541 และคดีหมายเลขแดงที่ 1485/2544 เพื่อขับไล่ออกจากที่ดิน

 

ทั้งนี้สปก.ภูเก็ตได้ยื่นฟ้องนายทศพร โดยฟ้องว่า นายทศพรได้ยื่นคำขอเข้าทำประโยชน์ในที่ดินเขตปฏิรูปที่ดิน โดยครอบครองอยู่ตั้งแต่ปี 2532 เนื้อที่ 98 ไร่ 1 งาน 7 ตารางวา ตามเอกสาร สปก.4-01 ก. เลขที่ 140 อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยอ้างว่าประกอบอาชีพเกษตร ทำสวนผลไม้และปลูกยางพารา หลังจากนั้นได้รับการร้องเรียน ว่านายทศพรขาดคุณสมบัติ จากนั้นทางสปก.ได้มีการตรวจสอบคุณสมบัติ ทราบว่า นายทศพรมีที่ดินเป็นของตนเอง 97 ไร่ 3 งาน 30 ตรว.และประกอบอาชีพอื่นๆ โดยเป็นผู้บริหารนิติบุคคลประเภทห้างหุ้นส่วนจำกัดและบริษัทจำนวน 6 แห่ง มีการลงทุนเป็นเงิน 55,320,000 บาท

 

คณะกรรมการ สปก.อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 19 และมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2518 มีมติให้เพิกถอนหนังสืออนุญาต ให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินของนายทศพร โดยมอบหมายให้เลขาธิการ สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเพิกถอนหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินตามคำสั่งสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมที่ 257/2538 ลงวันที่ 18 เม.ย.2538 โดยนายทศพรได้อุทธรณ์คำสั่งเพิกถอนดังกล่าว อ้างว่าคำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามอุทธรณ์ของนายทศพร ลงวันที่ 24 พ.ค.2538 แต่นายทศพรไม่ได้ไปให้ถ้อยคำต่อพนักงานตามที่กำหนด คณะกรรมการ สปก.จึงมีมติไม่รับการพิจารณาอุทธรณ์ เนื่องจากนายทศพรไม่ได้เป็นเกษตรกร จึงไม่มีสิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ตามรายงานการประชุมของคณะกรรมการ สปก.ครั้งที่ 4/2539 ลงวันที่ 4 พ.ย.2539 สปก.ภูเก็ตจึงแจ้งให้นายทศพรและบริวารออกจากที่ดินของ สปก.ตามหนังสือลงวันที่ 14 มี.ค.2540 แต่นายทศพรและบริวารเพิกเฉย หลังจากที่มีการตรวจสอบคุณสมบัติต่างๆแล้ว สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมหรือ สปก.ได้ฟ้องร้องผู้ที่ถูกเพิกถอนเอกสารสิทธิ

แต่ในการฟ้องร้องศาลนั้นศาลชั้นต้นนั้น ทางศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง จากนั้น สปก.ได้อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ โดยให้นายทศพรและบริวารออกไปจากที่ดิน สปก.ดังกล่าว จากนั้นนายทศพรได้ฎีกา โดยศาลฎีกาวินิจฉัยว่าตามที่นายทศพรอ้างว่าที่ดินพิพาทเดิมเป็นของนายจรัญ ตุ้งกู ซึ่งได้ครอบครองที่พิพาทมาตั้งแต่ปี 2499 และได้โอนให้จำเลยเข้าครอบครองทำประโยชน์ ตั้งแต่ปี 2532 เป็นต้นมา สปก.ไม่มีสิทธิขับไล่จำเลยและบริวารออกไปจากที่ดินดังกล่าวนั้น

ศาลฎีกาเห็นว่าการจะได้ที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมายนั้น ได้มีบัญญัติวไว้ในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 มาตรา 5 ว่าให้ผู้ที่ครอบครองที่ดินอยู่ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ โดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินต้องแจ้งการครอบครองที่ดินต่อนายอำเภอท้องที่ภายใน 180 วันนับแต่วันที่พระราชบัญญัติน้ใช้บังคับมาตรา 1 บุคคลที่จะมีกรรมสิทธิ์ที่ดินจะต้องได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ตามบทกฎหมาย ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับและมาตรา 4 บุคคลได้มาซึ่งสิทธิครอบครองในที่ดินก่อนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับให้มีสิทธิครอบครองสืบไปและคุ้มครองตลอดถึงผู้รับโอนด้วย

 

แต่กรณีของนายจรัญได้ครอบครองที่ดินพิพาทสืบต่อมาจากบิดาของนายจรัญ ซึ่งครอบครองในปี 2499 อันเป็นเวลาภายหลังพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 ประกาศใช้แล้วและไม่ปรากฏว่าได้ครอบครองที่ดินโดยชอบตามบทกฎหมายใด การครอบครองของนายจรัญจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ที่ดินจึงไม่ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของนายจรัญ

 

นอกจากนี้ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 2 ยังบัญญัติว่าที่ดินซึ่งมิได้เป็นกรรมสิทธิ์ของบุคคลใด ให้ถือว่าเป็นของรัฐ ดังนั้นที่ดินที่นายจรัญครอบครองจึงต้องถือว่าเป็นที่ดินของรัฐอยู่ นายทศพรรับโอนมาจากนายจรัญ จึงไม่มีสิทธิ์ดีกว่า โจทก์หรือ สปก.จึงมีสิทธิ์นำที่ดินดังกล่าวมาปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได้

ส่วนนายทศพรเป็นเกษตรกรตามความหมายแห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2516 หรือไม่นั้น มาตรา 4 ให้คำนิยามไว้ว่า เกษตรกร หมายความว่าผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลักและให้หมายความรวมถึงบุคคลผู้ยากจนหรือผู้จบการศึกษาทางเกษตรกรรมหรือผู้เป็นบุตรของเกษตรกร ซึ่งไม่มีที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเป็นของตนเองและประสงค์จะประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก

 

แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่านายทศพรมีที่ดินอยู่ที่ใน ต.ไม้ขาว อ.ถลางจำนวน 3 แปลง อยู่ใน ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ตอีก 22 แปลงกับมีชื่อเป็นกรรมการบริษัท เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัด นายทศพรจึงไม่ใช่ผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก และไม่ใช่ผู้ที่ไม่มีที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเป็นของตนเองและประสงค์จะประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก นายทศพรจึงไม่ใช่เกษตรกรตามความหมายของพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2516 โดย สปก.หรือโจทก์มีสิทธิ์นำที่ดินพิพาทมาปฏิรูปที่ดินได้ โดยศาลฎกีกาพิพากษายืน

 

สำหรับปัญหาที่ดินสปก. 4-01 ในภูเก็ตเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2537 เมื่อนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รมต.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในขณะนั้น ได้เดินทางมามอบเอกสารที่ดินส.ป.ก.ให้กับเกษตกรผู้ยากไร้ที่ดินทำกินจำนวน 592 แปลง จำนวน 489 ราย พื้นที่ 10,000 กว่า ไร่ ทั้งพื้นที่ป่าเขาสามเหลี่ยม ป่าเทือกเขากมลา และป่าเทือกเขานาคเกิด และจากการตรวจสอบพบว่า มีตระกูลใหญ่ในจังหวัดภูเก็ตจำนวน 11 ตระกูล ที่ได้รับเอกสารสิทธิดังกล่าว ประกอบด้วย ตระกูลเทพบุตร, ศรีแสนสุชาติ, หงษ์หยก, ถาวรว่องวงค์, ประจันทบุตร , สุขศิริสัมพันธ์, เอกวานิช, ตันติวิท, ทองตัน, อมรไพโรจน์, กี่สิ้น จากนั้นทางจังหวัดภูเก็ตได้ตั้งกรรมการขึ้นมาสืบสวนข้อเท็จจริง และตรวจสอบคุณ สมบัติผู้ที่ได้รับสิทธิ์ ส.ป.ก.4-01 รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงมาตรวจสอบที่ดินส.ป.ก.4-01 ในภูเก็ตมาโดยตลอด

 

จากนั้นในวันที่ 17 เมษายน 2538 คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดภูเก็ต ได้มีมติเพิกถอนเอกสารในที่ดินส.ป.ก.ที่แจกให้นายทุนจำนวน 8 ราย เพราะขาดคุณสมบัติ ตามที่คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความ

 

ประกอบด้วย นายบันลือ ตันติวิท จำนวน 1 แปลงเนื้องที่ 69 ไร่ นายบุ่นเก้ง ศรีแสนสุชาติ จำนวน 2 แปลง จำนวนเนื้อที่ 89 ไร่นายเจริญ ถาวรว่องงวศ์ จำนวน 4 แปลง เนื้อที่ 15 ไร่ นายทศพร เทพบุตร จำนวน 1 แปลง เนื้อที่ 98 ไร่ นายสุทิน เทพบุตร จำนวน 2 แปลง 37 ไร่ นายณรงค์ นพดารา 1 แปลง จำนวน 21 ไร่ นายหัตถ์ กตัญชลีกุล จำนวน 2 แปลง เนื้อที่ 29 ไร่ และนายธเนศ เอกวานิช จำนวน 1 แปลง เนื้อที่ 6 ไร่ ที่เหลือยังไม่ถูกเพิกถอน 2 ราย คือนายเปี่ยน กี่สิ้น และนายสุรศักดิ์ หงษ์หยก หลังจากที่มีการตรวจสอบคุณสมบัติต่างๆ แล้ว ทางสปก.ได้ฟ้องร้องผู้ที่ถูกเพิกถอนเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.จำนวน 24 ราย ซึ่งศาลได้ตัดสินไปแล้วบางส่วน ซึ่งมี 2-3 คดีเท่านั้นที่สปก.เป็นผู้ชนะ นอกจากนั้นแพ้ทั้งหมด และทางส.ป.ก.ได้อุธรณ์คำสั่งศาลเพื่อพิจารณายื่นฟ้องใหม่ดังกล่าว

 

สำหรับกรณีที่สปก.ยื่นฟ้องนายทศพร เทพบุตร เพื่อให้ออกจากการครอบครองที่ดิน สปก. 4-01 นั้น ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง จากนั้น สปก.ได้อุทธรณ์คำสั่งศาล เพื่อให้มีการพิจารณายื่นฟ้องใหม่ เมื่อวันที่ 28 เม.ย.47 จากนั้นศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษากลับ ให้นายทศพรและบริวารออกจากที่ดิน สปก.4-01 โดยนายทศพรได้ยื่นฎีกาต่อ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.50 ศาลจังหวัดภูเก็ตได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาพิพากษายืนคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ขับไล่นายทศพรและบริวารออกจากที่ดิน สปก.4-01 ก.เลขที่ 140 อ.เมือง จ.ภูเก็ต เนื้อที่ 98 ไร่ 1 งาน 7 ตรว.

 

http://news.sanook.c...itic_143298.php

 

 

 

สุเทพโกงตรงไหน ???????? ที่ศาลตัดสินแล้ว

 

ศาลตัดสินว่าสุเทพโกง หรือ นายจรัญไม่มีสิทธิครอบครองที่ดิน ??????

 

 

พี่น้องเสื้อแดงเค้ามองว่าศาลเอียงครับ อย่าพูดให้เหนื่อยเลย สหาย

 

 

ไม่ได้พูดเพื่อเปลี่ยนความคิดใครครับ เพียงแค่ทดสอบพื้นฐานความคิดของใครบางคน


เถียงกับความจริง เถียงให้ตายก็ไม่มีทางชนะ

#62 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

Posted 23 December 2013 - 19:31

สุเทพไม่ยอมคุยกับรัฐบาล แล้วมันจะจบยังไง


ตกลงคุณสุเทพเคยต้องความผิดคดีอะไรครับ คุณถึงกล่าวหาว่าเค้าเป็นโจร

หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#63 คนกินข้าว

คนกินข้าว

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,422 posts

Posted 23 December 2013 - 19:34

จขกท สับสนในความคิดตัวเอง บอกว่า

"...นักการเมืองไม่มีคนดีหรอกครับ อย่าอยู่ในโลกแบบ แอปสแตร็กเลย

 

ออกไปเลือกตั้งเถอะ คนชาติตะวันตก กว่าประชาธิปไตยจะเข้าที่ใช้เวลาเป็นร้อยปี

พวกเราพอมันจะเข้าที่ก็ไปหลงเชื่อนักการเมืองเฮโลกันไป สร้างสถานการณ์ให้ทหารออกมา

 

ที่เราต้องทำคือ ไม่ใช่ล้มรัฐบาลแบบนี้ แต่ออกไปเลือกคนดี...."

 

....จะเอาคนดีที่ไหนมาให้เลือกเล่าพ่อคุณ


"การเมือง เป็นเรื่องผลประโยชน์ส่วนตน ผลประโยชน์ประชาชน เป็นข้ออ้าง"

#64 Ricebeanoil

Ricebeanoil

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,320 posts

Posted 23 December 2013 - 20:01

เมื่อไหร่สุเทพจะกลายเป็นโจรซักทีน้า ตื่นเต้นๆ  :lol:  :lol:  :lol: 


เถียงกับความจริง เถียงให้ตายก็ไม่มีทางชนะ

#65 ถึงจะบิ่นแต่ยังคม

ถึงจะบิ่นแต่ยังคม

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,106 posts

Posted 23 December 2013 - 20:16

ตกลงกระทู้ปิดแล้วเหรอครับ ว๊า มาไม่ทันเลยไม่รู้ความจริงเลยว่า ลุงกำนันผิดหรือเปล่า 

^_^  :P  :D 

อ้อ ลืมไปประชุมออนไลน์ยังไม่เลิกเนอะ


ครั้งได้สวมเครื่องแบบ ได้ติดพระปรมาภิไธยย่อ ภปร ที่หน้าอกด้านขวา จนถังวันนี้ไม่ได้สวมเครื่องแบบแล้ว แต่พระปรมาภิไธยย่อ ภปร ยังคงตรึงอยู่ที่หน้าอกด้านขวาตลอดเวลา

#66 Charlie

Charlie

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,449 posts

Posted 23 December 2013 - 20:20

บางทีคนกลางนี้ยิ่งกว่ากระหรี่อีกนะ
โดนขมขืนไม่พอยังแถมตังให้โจรมาปล้นต่ออีก
ทั้งๆ ที่บอกและรู้ว่าเค้าโกงแท้ๆ

อนาถจริงๆ.....

Edited by Charlie, 23 December 2013 - 20:22.

คนดีจริงไม่โกงที่วัด ไม่ยุแยงให้คนแตกแยก ไม่หลอกคนอื่นให้มารับเคราะห์ตายแทน


#67 tonythebest

tonythebest

    สมาชิกขั้นสูง 178 เซนติเมตร

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,595 posts

Posted 23 December 2013 - 20:22

ย้ายจากตรังมาอยู่ กทม


ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ

 

 

 

เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน

จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน


#68 JohnLocke

JohnLocke

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 103 posts

Posted 23 December 2013 - 21:04

พรบนิรโทษแค่คิดจะออกก็เลวแล้ว  เหยียบศพคนเสื้อแดงเพื่อตัวเอง

ถ้านิรโทษกรรมชาวบ้านที่ถูกหลอกมาติดคุกอยู่ ย่อมสามารถทำได้   แม้แต่ปชปยังเห็นด้วย

แต่พวก จรรไร หวังจะได้เงินคืน+นิรโทษคดีของแกนนำที่ไปสั่งเผาบ้านเผาเมือง รวมทั้งคดีตั้งแต่ปี47ของทักษิน

อันนี้ก็มหาโจรในคราบรัฐบาลแล้ว  ทำผิดแก้กฏหมายล้างผิดให้ตนเอง ไม่มีประเทศไหนทำแบบนี้ ถึงเมกาจะปั้นทักษินมาเป็นตัวแทนของระบบทุนนิยม  บอกตรงๆหนุนยากมาก ก็เลวซะหาข้อดีเขียนสนับสนุนไม่ได้เลย  ได้แต่ทำเรื่องเงียบปิดข่าวไปวันๆ

 

พอศาลตัดสินว่าไปแก้รัฐธรรมนูญผิด

รัฐบาลประธานสภา สส สว นิติเรด แถลงข่าวไม่รับอำนาจศาล !!!

ทำตัวเหนือกฏหมาย หาได้ที่ไหนในโลก 

 

บอกตรงๆถ้าปชปทำแบบ พรรคเผาไทยทำ ผมก็จะออกมาขับไล่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับสีเสื้อหรือพรรคการเมืองแล้ว

สลิ่มทักษิน ยังไม่เรียนรู้เรื่องนี้ยึดติดเกี่ยวกับเหลือง ปชป ไม่ทราบถึงที่มาของการชุมนุมหรือทราบแล้วแต่ทำใจรับไม่ได้กลับไปถามคลังสมองของพวกคุณนิติเรดว่าคิดออกมาได้อย่างไร(ไม่รับอำนาจศาล ไม่รับอำนาจรัฐธรรมนูญที่มาจากการปฏิวัติทั้งที่พวกคุณได้อำนาจมาจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้


Edited by JohnLocke, 23 December 2013 - 21:05.

สัญญาประชาคม ผู้ปกครองควรตระหนักถึง สิทธิบางประการที่ผู้อยู่ใต้ปกครอง (ประชาคม) ได้ยอมสละไป

มิใช่นำอำนาจนั้นไปแสวงหาผลประโยชน์เพื่อตนเองและพรรคพวกของตน ละเมิดกฏระเบียบของสังคม


#69 Huligan

Huligan

    ดาวพยศนภา

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,880 posts

Posted 23 December 2013 - 21:06

เมื่อก่อนผมก็เคยเป็น>>กลัวเตะหมูเข้าปากหมา เช่นกรณี คมช.รัฐประหาร

แต่สุดท้าย คมช.เองก็ไม่สามารถครอบงำการเมืองได้นาน อย่างที่นักวิชาการบางคนกลัว...แม้จะมีรถถังก็เหอะ

เพราะโครงสร้างสังคมมันไม่ได้เป็นเหมือนปี 2534 แล้ว...ประชาชนจับจ้องอยู่ตลอดเวลา

(ตรงนี้ผมเห็นด้วยกับบทวิเคราะห์ของ อ.เสกสรรค์ ในหนังสือ ค.คน ฉบับเมษายน 50 มาก)

 

หรือจะกลัวหมาจนปล่อยให้หมูมันสวาปามทรัพย์หมด?

ถ้าวันนึงหมาขึ้นมามีอำนาจ แล้วมันเหิมเกริมขึ้นมาในระดับเดียวกัน คุิดว่าจะไม่มีใครกล้าออกมาเตะหมาหรือ?


ทฤษฎีของ เดล คาเนกี ใช้กับเหิ้ยหางแดงไม่ได้*สิ่งที่มองไม่เห็นใช่ว่าจะไม่มีอยู่จริง แต่สิ่งที่มองเห็นได้นั้นน่าเชื่อถือมากกว่า*

#70 55555

55555

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,795 posts

Posted 23 December 2013 - 21:15

เดี๋ยวนี้คนถอดเสื้อแดงมาเป็นคนกลางเยอะ

 

พอเขียนเสร็จ ไปเปลี่ยนเสื้อแดงกลับมาใส่ใหม่

 

:lol: 


Edited by 55555, 23 December 2013 - 21:26.


#71 Ricebeanoil

Ricebeanoil

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,320 posts

Posted 23 December 2013 - 22:57

อีก 1 ชั่วโมงก็จะเที่ยงคืนแล้ว เมื่อไหร่สุเทพจะกลายเป็นโจรซักทีเนี่ย

คนอะไรมันจะผ่องแผ้วสดใสประมาณนั้น 

"องค์ปฎิมายังราคิน คนเดินดินฤๅจะสิ้นคำนินทา" 

ให้กำลังใจเจ้าของกระทู้ลากไส้สุเทพ เอาความชั่วช้ามันประจานให้รู้สิ้นทั้ง 3 โลกเลย

สู้ๆ นะครับ เจ้าของกระทู้  :lol:  :lol:  :lol:

 

ปล. เดี๋ยวครบ 24 ชั่วโมง จะมาทวงอีกที


เถียงกับความจริง เถียงให้ตายก็ไม่มีทางชนะ

#72 เพื่อนร่วมชาติ

เพื่อนร่วมชาติ

    พรานล่าปูไปรยา

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 7,788 posts

Posted 23 December 2013 - 23:22

ควายนับถือศาสนาชินวัตรไม่สนใจคำพิพากษา

 

เชื่อแต่ใบบอก  :D  :D  :D


ประชาธิปไตยก็เหมือนส้วมสาธารณะแบบนั่งเต็มตูด ควายนับถือศาสนาชินวัตรใช้แล้วสกปรกชิบเป๋ง


#73 คน กทม.

คน กทม.

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 219 posts

Posted 23 December 2013 - 23:35

พรุ่งนี้่มาต่อ ง่วงแล้ว เพิ่งประชุมเสร็จ

 

ปล. นายคนที่ใช้คำว่า เพื่อนร่วมชาติคน

 

ที่ว่าคนอื่นควาย ถามว่าเมื่อกี้คุณ ขี้เป็นหญ้าหรือเปล่า

 

หากมีปัญญาเขียนแค่นี้ อย่าเขียนมาเลยครับ ผมสมัครเข้ามาถกกับกูรู

 

ไม่ใช่ประเภท มีมิจฉาทิฏฐิบังตา อ่านบทความครบหรือเปล่าก็ไม่รู้

 

แดกด่วนแบบนี้แล้วจะไปโค่นทักษิณได้ยังไง



#74 wisary

wisary

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 998 posts

Posted 23 December 2013 - 23:38

พรุ่งนี้่มาต่อ ง่วงแล้ว เพิ่งประชุมเสร็จ

 

ปล. นายคนที่ใช้คำว่า เพื่อนร่วมชาติคน

 

ที่ว่าคนอื่นควาย ถามว่าเมื่อกี้คุณ ขี้เป็นหญ้าหรือเปล่า

 

หากมีปัญญาเขียนแค่นี้ อย่าเขียนมาเลยครับ ผมสมัครเข้ามาถกกับกูรู

 

ไม่ใช่ประเภท มีมิจฉาทิฏฐิบังตา อ่านบทความครบหรือเปล่าก็ไม่รู้

 

แดกด่วนแบบนี้แล้วจะไปโค่นทักษิณได้ยังไง

อ้าวเห้ย เล่นอย่างนี้เลยหรือ กลับมาด้วยนะ

พร้อมกับข้อมูลโจรไล่โจรของคุณ 


Edited by wisary, 23 December 2013 - 23:46.


#75 คน กทม.

คน กทม.

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 219 posts

Posted 23 December 2013 - 23:38

55555 ผมมีเสื้อแดงเยอะแยะ ใส่ตีกอล์ฟ แต่ไม่เคยมีเสื้อแดงของ นปช สักตัว

 

ทักษิณก็ไม่ได้โยนเงินมาให้สักบาท

 

อย่าจมปลักสิครับ

 

หากคุณอยากชนะทักษิณเด้ดขาด อย่าหลอกตัวเอง

 

ว่ามีแต่รากหญ้าที่เอาทักษิณ

 

ไอ้ที่เลือกผู้ว่า มันแพ้กันแค่นั้น มันบ่งบอกอะไร



#76 คน กทม.

คน กทม.

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 219 posts

Posted 23 December 2013 - 23:40

wisary กลับสิ แต่ผมไม่ถกพวกเขียนด่า 2 บันทัดนะครับ

 

พวกคุณเป็นบ้าอะไรกัน เขียนกลางๆ ยังไม่ทันไร

 

พอเห็นไม่เอากับสุเทพ ก็ด่าซะงั้น



#77 คน กทม.

คน กทม.

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 219 posts

Posted 23 December 2013 - 23:41

เพิ่งวางสาย skype กับเพื่อน ง่วงแล้ว

 

พวกท่านก็ควรนอนก่อน แล้วมาคุยกันแบบปัญญาชน



#78 Stargate-1

Stargate-1

    SG-1

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,578 posts

Posted 23 December 2013 - 23:44

ไอ้ที่เลือกผู้ว่า มันแพ้กันแค่นั้น มันบ่งบอกอะไร

มันบ่งบอกว่า เช็มขัดสั้น คาดว่าคนจะมาลงคะแนนให้ปชป.ไม่เกินล้าน เหมือนที่ทหารใหญ่ คิดไว้เลย :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:


Edited by Stargate-1, 24 December 2013 - 09:51.

Tam-mic-ra ฟันธง!  คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ .....  คิดครับคิด  :lol:   จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96  ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง   แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3


#79 wisary

wisary

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 998 posts

Posted 23 December 2013 - 23:44

wisary กลับสิ แต่ผมไม่ถกพวกเขียนด่า 2 บันทัดนะครับ

 

พวกคุณเป็นบ้าอะไรกัน เขียนกลางๆ ยังไม่ทันไร

 

พอเห็นไม่เอากับสุเทพ ก็ด่าซะงั้น

โจรไล่โจร นะครับ อย่าลืม 

สิ่งที่คุณต้องพิสูจน์คือ สุเทพเป็นโจรนะครับ



#80 the mask

the mask

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 43 posts

Posted 23 December 2013 - 23:56

ผมคนหนึ่งเห็นด้วยกับคุณ   รัฐบาลตั้งมันก็เอียง   ถ้า กปปส.ตั้งมันก็ต้องเอียงเหมือนกัน  

 

    ถ้าจะมาปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง   จะเอาใครมาปฎิรูปแล้วคนที่จะมาปฏิรูปใครเป็นคนคัดสรรหามา  นี่แหล่ะที่มันเป็นปัญหา

 

    ยิ่งตอนแรกที่กำนันสุเทพบอก ให้กปปส.มีส่วนจัดการด้วย  ตอนนั้นถึงได้โดน สปป.เค้าสวนมา    



#81 alucardx

alucardx

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 323 posts

Posted 24 December 2013 - 00:09

พรุ่งนี้่มาต่อ ง่วงแล้ว เพิ่งประชุมเสร็จ

 

ปล. นายคนที่ใช้คำว่า เพื่อนร่วมชาติคน

 

ที่ว่าคนอื่นควาย ถามว่าเมื่อกี้คุณ ขี้เป็นหญ้าหรือเปล่า

 

หากมีปัญญาเขียนแค่นี้ อย่าเขียนมาเลยครับ ผมสมัครเข้ามาถกกับกูรู

 

ไม่ใช่ประเภท มีมิจฉาทิฏฐิบังตา อ่านบทความครบหรือเปล่าก็ไม่รู้

 

แดกด่วนแบบนี้แล้วจะไปโค่นทักษิณได้ยังไง

 

 

55555 ผมมีเสื้อแดงเยอะแยะ ใส่ตีกอล์ฟ แต่ไม่เคยมีเสื้อแดงของ นปช สักตัว

 

ทักษิณก็ไม่ได้โยนเงินมาให้สักบาท

 

อย่าจมปลักสิครับ

 

หากคุณอยากชนะทักษิณเด้ดขาด อย่าหลอกตัวเอง

 

ว่ามีแต่รากหญ้าที่เอาทักษิณ

 

ไอ้ที่เลือกผู้ว่า มันแพ้กันแค่นั้น มันบ่งบอกอะไร

 

 

wisary กลับสิ แต่ผมไม่ถกพวกเขียนด่า 2 บันทัดนะครับ

 

พวกคุณเป็นบ้าอะไรกัน เขียนกลางๆ ยังไม่ทันไร

 

พอเห็นไม่เอากับสุเทพ ก็ด่าซะงั้น

 

 

เพิ่งวางสาย skype กับเพื่อน ง่วงแล้ว

 

พวกท่านก็ควรนอนก่อน แล้วมาคุยกันแบบปัญญาชน

 

 

เพิ่งประชุมเสร็จ ง่วงแล้วก็ไม่เป็นไรครับ พิมพ์มาซะขนาดนี้ ยังง่วงต่อก็ง่วงไปครับ แต่ยัง skype แล้ววางหู ก็คงเพลียจริง

 

เอ้า อย่างนี้ครับ ผมไม่รู้จะเรียกว่าปัญญาชนรึเปล่า (แต่ช่างเหอะ) แต่คนที่นี่ก็ไม่ได้สักแต่ด่า อย่างคุณ Ricebeanoil ก็ถามคุณมาตลอด ว่าสุเทพเป็นโจรยังไง

 

รอคำตอบพรุ่งนี้นะครับ อยากรู้เหมือนกันครับ เคลียร์ๆกันไปเลยครับ



#82 เส้นใหญ่ไม่งอก

เส้นใหญ่ไม่งอก

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,033 posts

Posted 24 December 2013 - 00:15

พรุ่งนี้่มาต่อ ง่วงแล้ว เพิ่งประชุมเสร็จ

 

ปล. นายคนที่ใช้คำว่า เพื่อนร่วมชาติคน

 

ที่ว่าคนอื่นควาย ถามว่าเมื่อกี้คุณ ขี้เป็นหญ้าหรือเปล่า

 

หากมีปัญญาเขียนแค่นี้ อย่าเขียนมาเลยครับ ผมสมัครเข้ามาถกกับกูรู

 

ไม่ใช่ประเภท มีมิจฉาทิฏฐิบังตา อ่านบทความครบหรือเปล่าก็ไม่รู้

 

แดกด่วนแบบนี้แล้วจะไปโค่นทักษิณได้ยังไง

 

คุณนี่ขี้ง่วง นอนเร็ว อนามัยจัดเหมือนนายลีขี้กากเลยอ่ะ :D

 

ว่าแต่กระมู้นี้ยังกลางไม่พอนะ พรุ่งนี้ตื่นขึ้นมาเปลี่ยนล็อคอินซะแล้วกลับมาใหม่นะ :P



#83 JohnLocke

JohnLocke

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 103 posts

Posted 24 December 2013 - 00:34

เขาก็บอกแล้วนิไม่เคยเป็นกลาง เขายืนข้างความถูกต้อง ศีลธรรมและความดีงาม

กฏหมายรัฐธรรมนูญมีรากฐานมาจากจารีตประเพณี เป็นคำมั่นสัญญาที่ยึดถือธรรมเนียมปฏิบัติมาตั้งแต่อดีต

 

รากเดิมของกฏหมายมาจากกฏของหมู่บ้าน ค่อยๆพัฒนากลายเป็น กฏหมายแน่นอนในสมัยกรีซเพียงเพราะยึดแต่กฏหมายผู้ปกครองบ้าอำนาจทำลายประเทศพังพินาศโดยอ้างเพียงกฏหมาย ซึ่งในตอนนั้นผู้ปกครองขาดคุณธรรมและจริตธรรม

 

รัฐบาลปัจจุบันยิ่งหลงมัวเมาในอำนาจ ขัดกับกฏหมาย ขัดจารีตประเพณี ขัดกับสัญญาประชาคมภายใต้ชื่อรัฐธรรมนูญ หรือก็คือทรราชดีๆนิเอง

 

ผลงาน2ปีของรัฐบาลทำอะไรให้ประเทศไทยบ้างนอกจากแก้รัฐธรรมนูญกับสร้างหนี้ให้คนไทยหาเงินเข้ากระเป๋าพวกพ้องของตน

หากคนมีจิตสำนึกที่ดีรักชาติศาสน์กษัตริย์อย่างประชาชนทั่วไปก็ย่อมคิดได้  ไม่ใช่เรื่องที่เข้าใจยากอะไร รัฐบาลนี่ดีหรือเลว ทำถูกหรือทำผิด 


สัญญาประชาคม ผู้ปกครองควรตระหนักถึง สิทธิบางประการที่ผู้อยู่ใต้ปกครอง (ประชาคม) ได้ยอมสละไป

มิใช่นำอำนาจนั้นไปแสวงหาผลประโยชน์เพื่อตนเองและพรรคพวกของตน ละเมิดกฏระเบียบของสังคม


#84 คนสึ่งตึง

คนสึ่งตึง

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 485 posts

Posted 24 December 2013 - 01:19

มาดูความเห็นมาเรื่อยๆ
ดูเหมือนเรื่องเช็คช่วยชาติยังไงพิกล ฮาฮ่า
แม้จะเปลี่ยนแนวไปยังไง มันก็เข้าอีหรอบเดิม
"สันดอนขุดง่าย แต่สันดานมันขุดยาก"

#85 แสงธูป

แสงธูป

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 753 posts

Posted 24 December 2013 - 01:29

แนวคุณแสงธูปก็ดี
 
เอาไว้พวกฮาร์ดคอ เลิกก่อกวนแล้ว คุยกัน

คุณเล่นตั้งกระทู้แบบรุนแรงทั้งที่เพิ่งมาใหม่แถมเนื้อหามันขัดแย้งกันด่าทั้งสองฝ่ายแต่เหมือนจะด่าอีกฝ่ายมากกว่า บอกว่านักการเมืองไม่ดีแต่บอกให้ไปเลือกคนดี มันทำให้คิดไปได้ว่าคุณเข้ามาป่วน(ถ้าคุณไล่หาดูจะพบว่ามีน้องใหม่เขามาตั้งกระทู้แบบไร้สาระตีเนียนใส่ร้ายแยอะ)แต่เห็นแก่ที่เราก็เป็นน้องใหม่เหมือนกันผมจะคุยกับคุณ "ผมคิดว่าการเกิดขึ้นได้ของกปปสนั้นไม่ใช่เพราะเขาชอบพรรคประชาธิปัตย์หรอกครับแต่เป็นเพราะเขาไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลต่างหากไม่ว่าจะเป็นพรบนิรโทษแบบสุดซอย การกู้ต่างๆ จำนำข้าวที่ขาดทุน และที่ผมไม่อาจจะรับได้คือการหมิ่นสถาบันซึ่งเขาไม่ยอมรับแต่มันมีอยู่จริงล่าสุดก็ตั้งอาชีวะ ส่วนคุณสุเทพนั้นเขาก็พูดไว้แล้วว่าอดีตของเขาก็ปล่อยให้เป็นกรรมของเขาไปแต่ตอนนี้เขาขอมาทำงานเพื่อประชาชน ถ้าคุณไม่ลำเอียงจริงผมอยากขอให้คุณมองคุณสุเทพในฐานะคนที่ประสานให้คนมีความคิดเดียวกันมารวมกันอย่ามองเขาในฐานะนักการเมืองเพราะเขาบอกแล้วว่าเขาจะไม่เล่นการเมืองอีกต่อไป(อย่าบอกน่ะว่าอาจมีผลประโยชน์ทับซ้อน)หลังจากนั้นคุณลองฟังแนวคิดของกปปสดูว่าพวกเราต้องการอะไร กปปสไม่ใช่เสียงของคนทั้งชาติแต่ก็ดังพอให้คนทั้งชาติได้ยิน กปปสชุมนุมอย่างสันติมาตลอดเพราะฉนั้นการที่คุณบอกว่าใช้โจรไล่โจรนั้นมันไม่ถูกต้อง อีกอย่างคุณสุเทพไม่ได้เป็นคนใช้มวลชนแต่มวลชนเป็นคนใช้คุณสุเทพต่างหาก

#86 Shariff

Shariff

    สมาชิกหน้าตาดี

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,802 posts

Posted 24 December 2013 - 08:05

ข้างบนทั้งหมด คุณกำลังทำลายแนวร่วมที่เขาไม่เอาทักษิณ

 

แต่เป็นคนไทยที่รักชาติแบบตรงไป ตรงมา กันไปอย่างน่าเสียดาย

 

ผมจะโพสเรื่อยๆ ไม่หยุดหย่อน เพื่อให้คนไทยกลางๆ ที่รักชาติจริงๆ

 

และยืนอยู่บนตรรกะที่ถูกต้องได้อ่านกันเรื่อยๆ

 

ที่ผมไม่เห็นด้วยคือที่พูดว่า มวลมหาชน

 

ไล่ยิ่งลักษณ์แล้วไง 400 คนมาจากไหน

 

ให้โจรอีกก๊กตั้ง แล้วมันจะปฏิรูปตรงไหน

 

 

ไอ้บ้า  ตอนเลือกตั้ง กทม.เป็นอะไรนะ กองเชียร์ สุหฤท

 

ตอนต้านเขื่อนแม่วงก์เป็นไรอีกนะ เยอะจัดจำไมไ่ด้

 

แต่อย่างหนึ่งนะที่เมื่อก่อนทำบ่อยมากตอนใช้ร่าง marklover

 

สมาชิกฝ่ายประชาธิปไตย เห็นด้วยกับการต้านรัฐประหารกระบอกปืนไหมครับ


Edited by Shariff, 24 December 2013 - 08:06.

"การปลดปล่อยตัวเองออกจากความเป็นทาสทางความคิดมิใช่ใครอื่น, มีแต่เราเท่านั้นที่จะต้องกระทำ "จากเพลง Redemption song.

#87 Somebody

Somebody

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,938 posts

Posted 24 December 2013 - 09:14

ไหนล่ะ หลักฐานว่ากำนันเป็นโจร

ทีไอ้แม้วมีหมายจับ ศาลตัดสืนแล้ว เจือกมองไม่เห็น

#88 พอล คุง

พอล คุง

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,014 posts

Posted 24 December 2013 - 09:19

คนไทยก็เป็นซะเงี้ย ชอบอะไรที่มันแดกด่วน พอเห็นไม่เข้าท่าก็อยากจะเปลี่ยนแบบเร็วๆ

พอมีคนมานำก็กลายเป็นฮีโร่ ไม่สนใจวิธีการ ประเทศมันก็อยู่ของมันมาอย่างนี้นานแล้ว

นักการเมืองก็โกงกินกันมานานแล้ว เพียงแต่ปรับเปลี่ยนไปตามกระแสโลกาภิวัฒน์

แต่ก่อน รุ่นเก่ากินกันมาหลายสิบปี หลายตระกูล

พอมายุคทักษิณ ทุนใหม่กินมาไม่กี่ปี ก็เลยโดนพวกที่กินมาก่อนรุมกินโต๊ะ

 

คนไทยที่ทำงานออฟฟิส เย็นกลับไปดูละคร นักศึกษาที่เดินสยาม

ถูกอาจารย์ กับสื่อเก่าหัวเก่า ที่ยึดโยงกับระบอบคอนเซอร์เวทีพก็หลงเชื่อจิตวิทยามวลชนตื้นๆ..... เฮ้อ

 

นักการเมืองไม่มีคนดีหรอกครับ อย่าอยู่ในโลกแบบ แอปสแตร็กเลย

 

ออกไปเลือกตั้งเถอะ คนชาติตะวันตก กว่าประชาธิปไตยจะเข้าที่ใช้เวลาเป็นร้อยปี

พวกเราพอมันจะเข้าที่ก็ไปหลงเชื่อนักการเมืองเฮโลกันไป สร้างสถานการณ์ให้ทหารออกมา

 

ที่เราต้องทำคือ ไม่ใช่ล้มรัฐบาลแบบนี้  แต่ออกไปเลือกคนดี

ให้ความรู้ประชาชนว่า การเลือกคนดี คนมีความรู้เป็นอย่างไร มีประโยชน์กับประเทศชาติอย่างไร

 

การปฏิรูปการเมือง ไม่มีใครไม่เห็นด้วย แต่ กปปส ไม่ใช่ตัวแทนของคนทั้งชาติ

แน่นอนใน 3-4 ปี อาจยังไม่เห็นผล

ต้องรอการผลัดใบของคนรุ่นใหม่

 

แต่ที่มันไม่ไปไหนซะที ก็เพราะไอ้คนรุ่นเรานี่แหละ ชอบเป็นเบี้ยให้เกมอำนาจ

 

อยากถามคำเดียวว่า ทำไม รบ ให้นักโทษหนีคดี อย่างทักษิณ เป็นคนบงการ รบ ได้

 

วานตอบที

 

:D  :D  :D  :D


ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ

 


#89 MuuSang

MuuSang

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,604 posts

Posted 24 December 2013 - 09:34

คุณมีความคิดชนิดที่ ไม่ไว้ใจคนอื่น

อาจเพราะเคยโดนพวกเดียวกันหลอก


แม้นใครรัก รักมั่ง ชัง ชังตอบ

#90 55555

55555

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,795 posts

Posted 24 December 2013 - 09:39

ผมคนหนึ่งเห็นด้วยกับคุณ   รัฐบาลตั้งมันก็เอียง   ถ้า กปปส.ตั้งมันก็ต้องเอียงเหมือนกัน  

 

    ถ้าจะมาปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง   จะเอาใครมาปฎิรูปแล้วคนที่จะมาปฏิรูปใครเป็นคนคัดสรรหามา  นี่แหล่ะที่มันเป็นปัญหา

 

    ยิ่งตอนแรกที่กำนันสุเทพบอก ให้กปปส.มีส่วนจัดการด้วย  ตอนนั้นถึงได้โดน สปป.เค้าสวนมา    

 

 

กปปส. ตั้ังมันจะเอียงยังไง

 

ประชาชนก็ได้ประโยชน์

 

เพราะ กปปส. จ้องลดอำนาจนักการเมือง

 

แล้ว กปปส. ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร เพราะ คนเข้ามาต้องงดการเมือง 5 ปี

 

:D 



#91 GKTH

GKTH

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 243 posts

Posted 24 December 2013 - 09:44

55555 ผมมีเสื้อแดงเยอะแยะ ใส่ตีกอล์ฟ แต่ไม่เคยมีเสื้อแดงของ นปช สักตัว

 

ทักษิณก็ไม่ได้โยนเงินมาให้สักบาท

 

อย่าจมปลักสิครับ

 

หากคุณอยากชนะทักษิณเด้ดขาด อย่าหลอกตัวเอง

 

ว่ามีแต่รากหญ้าที่เอาทักษิณ

 

ไอ้ที่เลือกผู้ว่า มันแพ้กันแค่นั้น มันบ่งบอกอะไร

 

บ่งบอกว่า "กูไม่ยอม" ครับผม  :)



#92 เพื่อนร่วมชาติ

เพื่อนร่วมชาติ

    พรานล่าปูไปรยา

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 7,788 posts

Posted 24 December 2013 - 09:57

ควายนับถือศาสนาชินวัตรมีหลักฐานว่าสุเทพเป็นโจร คือใบบอก

 

อยากหัวเราะเป็นภาษาควายนับถือศาสนาชินวัตร แต่ทำไม่เป็นว่ะ


ประชาธิปไตยก็เหมือนส้วมสาธารณะแบบนั่งเต็มตูด ควายนับถือศาสนาชินวัตรใช้แล้วสกปรกชิบเป๋ง


#93 พิฆาตอสูร

พิฆาตอสูร

    พอจะทนเสื้อแดงได้นิดๆ

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,786 posts

Posted 24 December 2013 - 10:08

อ่านแล้วขำ  มีแต่ต่อล้อต่อเถียง  ข้อมูลไม่เอามาอภิปราย

 

ทำให้นึกถึง คนจำพวกหนึ่งที่บอกว่า.......

 

จะมาให้ความรู้แก่เสรีไทย :lol:


ฟ้าสีทองผ่องอำไพ  ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน


#94 annykun

annykun

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,567 posts

Posted 24 December 2013 - 11:23

มันฟังเหมือนชาวนาในยุค 3 ก๊ก  ที่ไม่สนใจห่านอะไร  ทำไร่ทำนาอย่างเดียว  แต่ไม่พ้นโดนเค้ากวาดต้อนไปรบ  สุดท้ายก็ตายห่านอยู่ดี


คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของผู้ชนะสงคราม  คือ   ความแข็งแกร่ง และ อุดมการณ์ที่สอดคล้องกับความเป็นจริง

คุณธรรมที่พร้ำสอน  ล้วนเป็นสิ่งที่จำเป็นรองลงมา   ส่วน  ประชาธิปไตยน่ะรึ  เอาเข้าจริงๆ  สำคัญอันใด?? 

 


#95 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

Posted 24 December 2013 - 12:04

..... อยากให้ไปถาม รัฐบาลนี้ว่า.. ทำไมไม่รับอำนาจ-

 

คำตัดสินของ..ศาล รธน.. แล้วเขาใช้อะไรเป็นหลัก

 

ปกครองประเทศ.? ใช้หลักอะไร ยุบสภาฯ.ใช้หลัก-

 

อะไร.? เลือกตั้งใหม่. ทำไมไม่พูดกันที่...ต้นเหตุ...

 

หรือว่า กฏหมาย รัฐธรรมนูญ..จะเอามาอ้างเพื่อให้

 

ประโยชน์ตนเท่านั้น.....???????????



#96 nf9

nf9

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 588 posts

Posted 24 December 2013 - 12:42

แทน  เทือกสุบรรณ....กรรมของเวร   จะโยงถึงพ่อให้ได้ว่างั้น  อีกอย่างตอนนี้อยู่ในชั้นสืบพยานนี่  อาทิตย์นึงอยู่ราชดำเนินซะ4วัน 

 

เจ้าตัวประกาศสู้คดีไม่หนี  ผลออกมายังไง ตาแทนบอกยอมรับอำนาจศาลแน่นวล

 

สรุป..สุเทพติดคดีใช่ปะ  :P



#97 Ricebeanoil

Ricebeanoil

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,320 posts

Posted 24 December 2013 - 18:24

ครบ 24 ชั่วโมงแล้ว ขอทวงถามหลักฐานความเป็นโจรของสุเทพจากเจ้าของกระทู้ครับ


เถียงกับความจริง เถียงให้ตายก็ไม่มีทางชนะ

#98 อิสระเสรีชน

อิสระเสรีชน

    ทักษิณ เมื่อไหร่ตาย 5555

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,244 posts

Posted 24 December 2013 - 18:31

ครบ 24 ชั่วโมงแล้ว ขอทวงถามหลักฐานความเป็นโจรของสุเทพจากเจ้าของกระทู้ครับ

 

ท่าน จขกท น่าจะไปเกิดใหม่แล้วละครับผม

 

แถวๆราชดำเนินกระมัง :) :D :P


"ไม่มีพระราชาองค์ใด ยิ่งใหญ่เทียบเท่าเสมอเหมือน พระราชาของพวกเราปวงชนชาวไทย"

 

 Long Live My King

 

....................................................


#99 คน กทม.

คน กทม.

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 219 posts

Posted 25 December 2013 - 19:54

มาแล้วครับท่าน ขอบอกว่า เว็ปท่านเข้าช้ามาก กด รีเฟรชหลายทีมาก หลังจากไปนอน วันรุ่งขึ้นมีงานด่วนเลย

 

เดี๋ยวขออ่านข้างบนก่อน เยอะจัด ตอบไม่ครบอย่าว่า

 

จะตอบเฉพาะที่น่าสนใจและไม่ถ่อย

 

กระทู้ธรรมดา ไม่เห็นมีอะไร ทำไมมันติดดาวได้(วะ)



#100 คน กทม.

คน กทม.

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 219 posts

Posted 25 December 2013 - 19:55

จะยังไม่ตั้งกระทู้ใหม่ เพราะผมรู้ทันว่า พวกท่านเป็นเจ้าแห่งการเหน็บแนม จะหาว่าทิ้งกระทู้






1 user(s) are reading this topic

0 members, 1 guests, 0 anonymous users