เทคนิคทำอาหารประหยัดและอร่อย ในยุคข้าวยากหมากแพง
#153
ตอบ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 21:09
แหะ แหะ คุณตะนิ่นตาญี ไวปานกามนิตหนุ่ม ตอบอย่างรวดเร็ว แถมตอบถูกเสียด้วย
ยินดีด้วยนะค้าาาาาาาา
วิธีทำ อาหารเพื่อช่วยบรรเทาอาการไอ ง่ายมาก
นำเนื้อหมูที่ไม่ติดมัน จะเป็นส่วนสะโพกหรือสันในก็ได้ (ที่ไม่ใช้หมูติดมัน เพราะมันหมูจะทำให้ระคายคอ กระตุ้นการไอมากขึ้น) มาสับให้ละเอียด
ผักชีหลายๆต้น ตัดรากเก็บไว้ใช้หมักเนื้อสัตว์ หรือใส่แกงจืดก็ได้ นำส่วนลำต้นและใบมาล้างให้สะอาด สับๆๆๆๆๆ รวมกับหมู
นำเจ้าสองลูกข้างบนมาแกะเนื้อออกและสับๆๆๆๆๆให้ละเอียดเช่นกัน
เอาทั้งสามส่วนมาผสมกัน จนได้แบบนี้
- ตะนิ่นตาญี likes this
#154
ตอบ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 21:14
ไม่ต้องปรุงรสใดๆทั้งสิ้น เพราะบ๊วยดอง มีครบสามรส เค็มนำ เปรี้ยวตาม หวานเล็กน้อย
พอสุกแล้ว ยกลงเสิร์ฟ
- ตะนิ่นตาญี likes this
#155
ตอบ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 21:37
ทำไมแกงจืดมันถึงได้น่าเกลียดน่าชังเช่นนี้ ดูสิ!! ฟองฟอดเลย แถมหมูยังแตกกระจายกระจุย ไม่เป็นก้ิอนอีก
ฮ่า ฮ่า ขอบอกว่า เราจงใจนะนั่น
เพราะนี่ไม่ใช่แกงจืดที่ต้องต้มให้น้ำใสแจ๋ว ปั้นหมูสับเป็นลูกๆพอดีคำ
เนื่องจากเด็กน้อยที่บ้านไอ มีอาการระคายคอ เราจึงเลือกที่จะไม่ปั้นหมูสับเป็นก้อน แต่ใช้วิธีละลายเนื้อหมูลงไปในหม้อต้มน้ำบ๊วยแทน
เนื้อหมูสับชิ้นเล็กๆ จิ๋วๆ เด็กน้อยที่เจ็บคอจะได้กลืนลงคอได้ง่ายๆ ไม่ต้องเคี้ยวนานๆให้ระคายคอเพิ่มขึ้น
และที่เห็นในภาพ ว่าเป็นคล้ายฟองขาวๆ ที่จริงไม่ใช่
มันคือเนื้อหมูที่เล็กละเอียดยิบๆจนมองดูคล้ายฟอง
เมื่อต้มเสร็จ เสิร์ฟให้เด็กน้อยรับประทานเปล่าๆจนหมดถ้วย แล้วค่อยตามด้วยอาหารปกติ
บ็วยเค็มมีความเค็มและเปรี้ยว ช่วยกัดเสมหะ
หมู เป็นแหล่งโปรตีนที่ดี ที่คนจีนนิยมนำมาประกอบอาหาร ผู้ป่วยควรรับประทานโปรตีนมากหน่อย เนื่องจากโปรตีน จะถูกนำไปสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย เช่น เม็ดเลือดขาว ร่างกายจะต่อต้านเชื้อโรคได้ดีขึ้น และฟื้นตัวได้เร็ว
ผักชี มีฤทธิ์ช่วยขับเสมหะ มีกลิ่นหอมช่วยชูรสชาติของอาหาร
ในฤดูฝนนี่ ผักชีราคาถูกที่สุด นับว่าธรรมชาติสร้างสมดุลจริงๆ ในเมื่อธรรมชาติก่อให้เกิดฝนโปรยลงมายังผืนดิน เม็ดฝนจากฟากฟ้าได้ดักจับฝุ่นละอองและเชื้อโรค นำพาโรคภัยมาสู่ผู้คน ขณะเดียวกัน เม็ดฝนนี้ ยังได้หล่อเลี้ยงให้พืชผักที่ชอบน้ำเจริญเติบโต งอกงามดี
เมนูนี้ ถ้าใครอยากนำไปรับประทานเป็นแกงจืดก็ย่อมได้ โดยปั้นหมูสับเป็นก้อนๆแทน
- ตะนิ่นตาญี likes this
#156
ตอบ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 21:51
แนะนำให้กลั้วคอด้วยน้ำเกลือวันละหลายๆครั้ง
น้ำเกลือเข้มข้น เค็มปี๋ เป็นน้ำยาบ้วนปากที่ราคาถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพดีมากๆ
เวลากลั้วคอ ควรกลั้วให้ทั่วๆคอ วันละหลายๆครั้งๆละนานๆ
ในแง่วิทยาศาสตร์
เซลล์เชื้อโรคมีปริมาณเกลืออยู่ในเซลล์
เมื่อเรากลั้วคอด้วยน้ำเกลือเค็มๆ
น้ำที่อยู่ในน้ำเกลือ และอยู่ในเซลล์จะเกิดการออสโมซีส
นั่นคือ การที่ น้ำจะเคลื่อนผ่านผนังเซลล์เชื้อโรค จากในเซลล์ที่มีความเข้มข้นของสารละลายต่ำกว่า ไปยังนอกเซลล์ ซึ่งมีความเข้มข้นของสารละลายสูงกว่า จนในที่สุด ความเข้มข้นของสารละลายทั้งสองด้านเท่ากัน
คิดถึงสภาพเชื้อโรคที่ถูกดูดน้ำออกไปจากเซลล์เรื่อยๆๆๆๆ เชื้อโรคจะทนไหวเหรอคะ ได้เหี่ยวตายกันไปเป็นเบือ
ข้อแนะนำนี้มาจากแพทย์ด้านหู คอ จมูก
ลองนำไปใช้เวลาเป็นหวัดเจ็บคอนะคะ
- ตะนิ่นตาญี likes this
#157
ตอบ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 22:21
ขอแนะนำ มะแว้งค่ะ
แก้ไอได้ดี
เสียแต่รสชาติแสนขื่น เฝื่อนเหลือแสน
ผู้ผลิตจึงมักผลิตมะแว้งออกมาในรูปยาแก้ไอน้ำเชื่อม เพื่อกลบรสชาติดังกล่าว
สมุนไพรอีกชนิดหนึ่งที่อยากแนะนำคือ มะขามป้อม
เป็นยาแก้ไอน้ำเชื่อมก็ใช้ได้ผลดีเช่นกัน
จิบๆเรื่อยๆ ช่วยลดไอให้น้อยลง
ส่วนใครที่อยากลองสูตรยาสมุนไพรแบบครบเครื่อง
ขอแนะนำ "ตรีผลา"
ตรี แปลว่า สาม
ผลา แปลว่า ผลไม้
ผลไม้สามอย่างที่มีคุณสมบัติยอดเยี่ยม นำมาทำยานี้ คือ สมอไทย สมอพิเภก และมะขามป้อม
ตำรับยานี้ มีอยู่ในตำรายาไทย ยาอินเดีย ซึ่งสืบทอดมาเป็นพันปี
ตรีผลา ที่ใช้รับประทานในแต่ละฤดู มีผลไม้สามอย่างเหมือนกัน ต่างกันที่อัตราส่วน
การออกฤทธิ์ในการรักษาโรคจึงแตกต่างกัน
มหาพิกัดตรีผลา แก้ในกองวาตะ (ฤดูฝน) มีสัดส่วน ของตัวยาดังนี้
ลูกสมอพิเภก หนัก 4 ส่วน
ลูกสมอไทย หนัก 12 ส่วน
ลูกมะขามป้อม หนัก 8 ส่วน
นำมาต้มในน้ำเดือดนาน 30 นาที ปรุงรสตามชอบ จะดื่มแบบข้น ถ้วยเดียวจบ หรือต้มแบบเจือจาง ไว้จิบตลอดวันก็ได้
ส่วนใครขี้เกียจต้มเอง จะซื้อแบบสำเร็จรูป ซึ่งมีขายทั้งแบบน้ำและแบบแคปซูล
ซึ่งปีสองปีมานี้ ตรีผลาบูมมาก มีผู้ผลิตมาขายเยอะแยะหลายเจ้า
สมัยก่อนเราต้องไปซื้อ ผลไม้ทั้งสามจากร้านเจ้ากรมเป๋อ แถวจักรวรรดิ มาต้มรับประทานเอง
เดี๋ยวนี้สะดวกจะตาย
ส่วนสูตรตรีผลา ที่ใช้ดื่มในหน้าร้อน กับหน้าหนาว ถ้ามีใครสนใจจะนำสูตรมาให้
- ตะนิ่นตาญี likes this
#158
ตอบ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 18:09
เห็น เมนู ปลาหมึกนึ่งมะนาว กับไข่ต้ม ของ คุณ asawinee แล้ว ตะนิ่นตาญี นึกถึง
อาหารจานโปรดขึ้นมาทันที ปลาหมึกน้ำดำ คุณ asawinee เคยทานไหมครับ?
วิธีในปรุงอาหารจานนี้ก็ไม่ยุ่งยากกระไรนัก ขออย่างเดียว ปลาหมึก ต้องสดจริงเท่านั้น
หากขึ้นมาจากทะเลสดๆยิ่งดี จะใช้น้ำจืด หรือน้ำเค็มก็ย่อมได้ ไม่ผิดกติกาใดๆทั้งสิ้น
เมื่อ ต้มน้ำ นั้น แต่พอให้เดือด เดือดแล้วใส่ปลาหมึก ลงไปเท่านั้นเป็นเสร็จพิธี
อย่ารังเกียจว่าน้ำที่ต้ม ปลาหมึก นั้นเป็นสีดำ สิทธิการิยะ ท่านว่าไว้
ยิ่งดำเหมือนศอของ พระศิวะฯ ที่ทรงดื่ม พิษ อันเกิดจากการกวนน้ำทิพย์ ยิ่งดี
ข้าวสวยร้อนๆสักหนึ่งจาน จะทานแต่น้ำก็หวาน จะทานทั้งเนื้อและน้ำ ก็อร่อย ไม่มีเทียม ลองดูสิครับ
แล้ว คุณ asawinee จะติดใจ...
ตะนิ่นตาญี
วันอาทิตย์ที่ ๑๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕
เวลา ๒๒.๔๕ นาฬิกา
ขอบคุณเจ้าของกระทู้คุณasawinee มากค่ะ
ปกติไม่ทำอาหารแต่อ่านเมนูแล้วอยากเข้าครัวขึ้นมาเลย
เข้ามาแชร์ประสบการณ์ค่ะ เมนูปลาหมึกน้ำดำของคุณตะนิ่นตาญี
เคยกินครั้งเดียวตอนไปเสม็ดแล้วกลางคืนออกไปกับเรือไดหมึกค่ะ
เค้าทำให้กินสองเมนูบนเรือ มีปลาหมึกน้ำดำ กับปลาหมึกซาชิมิ
หวานอร่อยมากๆค่ะ
- ตะนิ่นตาญี and asawinee like this
#159
ตอบ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 20:29
เมื่อสักครู่นี้ ตะนิ่นตาญี คุย กับ คุณ-นายตัวเกร็ง ใน Facebook เรื่อง. ปลาต้มมะกอก
ก็เลยวิ่งมาหา ภาพ ที่ เคยลงไว้ ใน กระทู้ นี้ แล้วก็เลยถือโอกาส ขุด กระทู้ นี้ ด้วยเลย
หวังว่าคงจะกรุณานะครับ ขอบพระคุณ คุณasawinee มากครับ
ตะนิ่นตาญี
วันพุธที่ ๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
เวลา ๒๐.๒๙ นาฬิกา
#160
ตอบ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 12:18
ขออนุญาต เจ้าของกระทู้ คุณ asawinee ขุดกระทู้หน่อยเถอะครับ
เมื่อสักครู่นี้ ตะนิ่นตาญี คุย กับ คุณ-นายตัวเกร็ง ใน Facebook เรื่อง. ปลาต้มมะกอก
ก็เลยวิ่งมาหา ภาพ ที่ เคยลงไว้ ใน กระทู้ นี้ แล้วก็เลยถือโอกาส ขุด กระทู้ นี้ ด้วยเลย
หวังว่าคงจะกรุณานะครับ ขอบพระคุณ คุณasawinee มากครับ
ตะนิ่นตาญี
วันพุธที่ ๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
เวลา ๒๐.๒๙ นาฬิกา
ขอบพระคุณหลายๆเด้อค่ะ ที่ช่วยขุดกระทู้
เชิญคุณตะนิ่นตาญีตามสบายเลยค่าาาาาาา
พูดไปก็รู้สึกอายตัวเองที่หายหน้าหายตาไปจากกระทู้นี้
สาเหตุเป็นเพราะ มือถือเจ๊งอ่ะค่ะ
ภาพที่ถ่ายเกี่ยวกับอาหาร พืชผักต่างๆในมือถือไม่สามารถนำมาลงได้
ครั้นเมื่อแก้ปัญหามือถือให้ใช้งานได้ ดันเชื่อมต่อกับโน้ตบุ๊คไม่ได้ซะอีก
โปรแกรมในมือถือมันหายไปซะดื้อๆ
ไหนจะเรื่องอาหารที่ไม่อัพเดตอีก
เลยออกอาการเซ็งตัวเอง
ตอนนี้ก็เลยทู่ซี้ใช้ๆมือถือให้มันเจ๊งๆโทรเข้าโทรออกไม่ได้ (ตามประสาคนงก)
จะได้ซื้อเครื่องใหม่
อีกอย่างนึง ตอนนี้ยุ่งมากถึงมากที่สุด (ตื่นตีสามครึ่งทุกวันเลย )
ไม่มีเวลาถ่ายภาพอาหารที่กำลังทำ
นึกขึ้นได้ทีไร ก็ขี้เกียจตะกายขึ้นบ้านไปเอากล้องถ่ายรูปซะอีก
- ตะนิ่นตาญี and คุณนายนอกบ้าน like this
ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน