ในวันที่เกิดเหตุรุนแรงที่สนามไทย-ญี่ปุ่น ปรากฎชายชุดดำจำนวนหนึ่งอยู่บนหลังอาคาร 3 ชั้นกระทรวงแรงงาน วันทำงานต่อมา ข้าราชการกระทรวงแรงงาน เข้าไปในอาคารถึงกับพะงักเมื่อ สถานที่ทำงานถูกรือค้นทำลาย และทรัพย์สินมีค่าหลายรายการทั้งของหลวง และของข้าราชการ สูญหาย แต่พบอุปกรณ์ป้องกันตัวของตำรวจ ชุดตำรวจ และรองเท้าตำรวจ ถูกถอดทิ้งไว้ดูต่างหน้า
ก่อนหน้านี่ ตำรวจ ทั้งหมดบอกว่าเป็นฝีมือของชายชุดดำ ที่ลักลอบขึ้นไป ตอนนี้เมื่อ พล.ต.อ. อดุลย์ ออกมายอมรับแล้วว่า ชายชุดดำ ดังกล่าวเป็นตำรวจ
นั่นแสดงว่าตำรวจชุดนั้นได้ ร่วมกันปล้นทรัพย์ใช่หรือไม่ เมื่อพยานหลักฐานชัดอย่างงี้แล้ว ตำรวจที่ขึ้นไปอยู่ปฏิบัติหน้าที่บนตึกในวันนั้นคงหนีไม่พ้น คำถามคือ แล้วตำรวจ สน.ดินแดง จะดำเนินการอย่างไรกับตำรวจที่ปล้นทรัพย์หลวงและประชาชนในครั้งนี้ เพราะนี้มันเป็นคดีอาญา ม. 340 หลายบท โทษสูงสุดถึงประหารชีวิต เลยนะ
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 ระบุไว้ดังนี้
ผู้ใด ชิงทรัพย์ โดยร่วมกัน กระทำความผิดด้วยกัน ตั้งแต่ สามคน ขึ้นไป ผู้นั้น กระทำความผิด ฐานปล้นทรัพย์ ต้องระวางโทษ จำคุกตั้งแต่ สิบปี ถึง สิบห้าปี และ ปรับตั้งแต่ สองหมื่นบาท ถึง สามหมื่นบาท
ถ้า ในการปล้นทรัพย์ ผู้กระทำ แม้แต่คนหนึ่งคนใดมี อาวุธ ติดตัวไปด้วย ผู้กระทำ ต้องระวางโทษ จำคุกตั้งแต่ สิบสองปี ถึง ยี่สิบปี และ ปรับตั้งแต่ สองหมื่นสี่พันบาท ถึง สี่หมื่นบาท
ถ้า การปล้นทรัพย์ เป็นเหตุให้ ผู้อื่น รับอันตรายสาหัส ผู้กระทำ ต้องระวางโทษ จำคุกตลอดชีวิต หรือ จำคุกตั้งแต่ สิบห้าปี ถึง ยี่สิบปี
ถ้า การปล้นทรัพย์ ได้กระทำโดย แสดงความทารุณ จนเป็นเหตุให้ ผู้อื่น รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ใช้ปืนยิง ใช้วัตถุระเบิด หรือ กระทำทรมาน ผู้กระทำ ต้องระวางโทษ จำคุกตลอดชีวิต หรือ จำคุกตั้งแต่ สิบห้าปี ถึง ยี่สิบปี
ถ้า การปล้นทรัพย์ เป็นเหตุให้ ผู้อื่น ถึงแก่ความตาย ผู้กระทำ ต้องระวางโทษ ประหารชีวิต