'ศาลรธน.'เชือด!รบ.ยิ่งลักษณ์ เสียงข้างมากชี้ขาด'มาตรา 190'ขัด'รัฐธรรมนูญ' ม.3-ม.68
วันที่ 8 ม.ค.57 เวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญว่า การไต่สวนคำร้องที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งความเห็นของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 154 วรรคหนึ่ง (1) ว่า ร่างการออก ร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ หรือร่างพ.ร.บ. กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 169 วรรคหนึ่ง และมาตรา 170 หรือตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญหรือไม่
โดยที่คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนเวลา10.00 น. ได้มีพยานทั้งฝ่ายผู้ร้องและผู้ถูกร้องต่างทยอยเดินทางมา ได้แก่ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายกรณ์ จาติกวนิช อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ นายวิรัตน์ กัลยาศิริ เเละนายราเมศ รัตนเชวง ทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา นางสุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี พร้อมด้วยพยานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ นายชนรรค์ พุทธมิลินประทีบ รองผอ.สำนักงบประมาณ น.ส.จุฬารัตน์ สุธีสร ผอ.สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ นายดิสทัต โหตระกิตย์ รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า บรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้ายังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยังไม่มีผู้ชุมนุมกลุ่มใดเดินทางมาให้กำลังใจหรือคัดค้าน ในขณะที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.ทุ่งสองห้องกว่า 50 นาย คอยดูแลรักษาความปลอดภัยโดยรอบอาคารสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ
ล่าสุด เมื่อเวลา 11.10 น. องค์คณะตุลาการได้ออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนผู้ร้อง และผู้ถูกร้อง รวมถึงพยานในคำร้องที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งความเห็นของสมาชิกรัฐสภาขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 154 วรรคหนึ่ง (1) ว่า ร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 169 วรรคหนึ่ง และมาตรา 170 หรือตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยศาลได้ตั้ง 2 ประเด็นในการไต่สวน คือ กระบวนการตราชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และเนื้อหาตราขึ้นโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
โดยศาลได้เริ่มไต่สวนในประเด็นกระบวนการตราชอบกฎหมายก่อน ซึ่งมี น.ส.รังสิมา รอดรัศมี อดีต ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้ที่บันทึกคลิปวิดีโอนายนริศร ทองธิราช อดีตส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย กระทำการเสียบบัตรลงคะแนนแทน ส.ส.คนอื่น โดยน.ส.รังสิมา กล่าวยืนยันขณะเปิดหลักฐานคลิปวิดีโอเสียบบัตรแทนกัน ว่า ภาพในคลิปวิดีโอเป็นนายนริศร ที่เสียบัตรลงคะแนนแทน ส.ส.คนอื่น ในการลงมติวาระ 2 ของการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ เมื่อวันที่ 20 ก.ย.56 ทั้งนี้ ตนได้ติดตามพฤติกรรมการเสียบบัตรแทน ส.ส.คนอื่นของนายนริศรมากว่า 2 ปี และพยายามแจ้งให้ประธานในที่ประชุมสภารับทราบ แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจ จึงต้องหาวิธีถ่ายคลิปเป็นหลักฐาน อย่างไรก็ตาม ภายหลังตนได้มาเป็นพยานว่า นายนริศรเป็นผู้เสียบบัตรแทน เมื่อครั้งการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มาส.ว. นายนริศรก็ไม่เคยมาต่อว่า ตนหรือเข้าแจ้งความฐานที่ตนกล่าวหาให้เสียหาย
ขณะที่ นายนริศรก็ให้ถ้อยคำยอมรับว่า เป็นบุคคลที่ปรากฏในภาพ ที่ผ่านมาพกบัตรหลายใบ เนื่องจากเป็นคนขี้ลืม และมักทำบัตรหายบ่อยครั้ง ส่วนตัวมีบัตร 3-5 ใบ รวมทั้งเมื่อเสียบบัตรลงคะแนนแล้ว เครื่องลงคะแนนไม่บันทึกเป็นคะแนนจึงต้องนำบัตรสำรองเสียบอีกหลายครั้ง แต่ยืนยันไม่เคยกดบัตรลงคะแนนแทนสมาชิกคนใด รวมทั้งเห็นว่า การที่ตนเองใช้บัตรของตัวเองเสียบลงคะแนนหลายครั้งไม่ได้เป็นการฉ้อฉล หรือทุจริต และไม่มั่นใจว่าภาพที่ปรากฏในคลิปวิดีโอเป็นวันที่มีการลงมติร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้หรือไม่
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ให้ถ้อยคำยืนยันว่า บัตรที่นายนริศรใช้ลงคะแนนเป็นบัตรจริงไม่ใช่บัตรสำรอง เพราะมีรูปถ่ายชัดเจน เนื่องจากลักษณะของบัตรจริงกับบัตรสำรองแตกต่างกัน บัตรจริงจะมีรูปประจำตัวสมาชิก ส่วนบัตรสำรองจะเป็นสีชมพูไม่มีรูปประจำตัวสมาชิก นอกจากนี้ การที่นายนริศร อ้างว่า มีบัตรสำรองหลายใบ ก็เป็นไปไม่ได้ เพราะหากสมาชิกทำบัตรหาย ทางสภาผู้แทนราษฎรจะออกบัตรสำรองให้มา 1 ใบ เมื่อไปแจ้งและลงบันทึกไว้ ซึ่งตนคิดว่า น่าจะสามารถนำหลักฐานการแจ้งบันทึกทำบัตรใหม่หรือขอบัตรสำรองได้ และหากทำบัตรประจำตัวใหม่ หมายเลขประจำบัตรก็จะเป็นคนละหมายเลขกับบัตรเดิมที่ทำหาย และในความเป็นจริงหากบัตรลงคะแนนเป็นของสมาชิกคนนั้นที่เสียบเกินกว่าหนึ่งครั้ง เครื่องลงคะแนนก็จะไม่ขานเป็นคะแนนซ้ำ เพราะก่อนที่ตนจะแนะนำให้ น.ส.รังสิมา ถ่ายคลิปวิดีโอเป็นหลักฐานนั้น พวกตนได้เคยลองเสียบบัตรของสมาชิกทั้ง 2 ใบแล้ว ปรากฏว่า เครื่องเสียบบัตรสามารถบันทึกการลงคะแนนได้ ดังนั้น ที่นายนริศรอ้างว่า บัตรที่เสียบหลายครั้งเป็นของตัวเองนั้นไม่เป็นความจริง
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลได้พักการไต่สวนในช่วงเช้า เวลา 12.15 น. พร้อมนัดผู้ร้อง ผู้ถูกร้องและพยานเข้าไต่สวนอีกครั้งในเวลา 13.30 น. โดยจะเป็นการไต่สวนในประเด็นเนื้อหาของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวที่ตราขึ้นโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคดีแก้ม.190
เมื่อเวลา 17.00 น. ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า กระบวนการแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ขัดรัฐธรรมนูญ ม.3-ม.68
http://www.komchadlu...Ta5s14.facebook
Edited by wat, 8 January 2014 - 17:41.