ความจริงก็ทราบอยู่บ้างแล้วว่า
แต่ละเรื่องแต่ละคดี ล้วนเป็นที่ต้องพิจารณาว่า
จะนำมาขึ้นกับ DSI หรือไม่ เพราะต้องเป็นคดีพิเศษจริงๆ...
บังเอิญไปอ่านเจอทางFB มา เลยลองหาข่าวเก่าดู ก็พบว่า
"มันเป็นคดีพิเศษ" จริงๆด้วย...
DSIปูพรมค้น13จุดทั่วกรุงจับเซ็กซ์ทอย
'ดีเอสไอ' ปูพรมค้น 13 จุด ทั่วกรุงฯ จับ 'เซ็กซ์ทอย-ยาปลุกเซ็กซ์ปลอม' เครือข่ายร้อยล้าน
28 ก.ค.55 นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ท.ชินโชติ แดงสุริศรี ผบ.สำนักทรัพย์สินทางปัญญา ดีเอสไอ ร่วมกับ พล.ต.ต.วัลลภ ประทุมเมือง ผบก.น.6 พ.ต.อ.ชัยยุทธ เจียรศิริกุล ผกก.สน.จักรวรรดิ ร่วมกันแถลงข่าวผลการตรวจค้นจับกุมสินค้าลามกอนาจารและยาเพิ่มสมรรถภาพทางเพศปลอมหลายประเภท ทั้งหมดลักลอบนำเข้าทางต่างประเทศ หลายหมื่นชิ้น หลังเข้าตรวจค้นห้องพัก ให้เช่าเลขที่ 305 และ503 ชั้น 3 และ5 อาคารไชน่าทาวเวอร์ ย่านเยาวราช เลขที่ 439 ถ.มังกร แขวงและเขตสัมพันธวงศ์
นายธาริต เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สำนักทรัพย์สินทางปัญญา กรมสอบสวนคดีพิเศษได้เข้าตรวจค้นโกดังและสถานที่เก็บสินค้าลามกอนาจาร ยาเพิ่มสมรรถภาพทางเพศปลอม และอุปกรณ์เกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือซึ่งลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศ จำนวน 13 จุด ทั่วกรุงเทพฯ โดยเฉพาะย่านเยาวราช สะพานเหล็ก วัดตึก บางบอน สุขสวัสดิ์ 26 และอิสภาพ 29 จากการตรวจค้นพบสินค้าดังกล่าวเป็นจำนวนมากจึงจับกุมผู้ดูแลในแต่ละแห่งมาได้ 4 คน คือ นายสมพร หล่อนจำปา นายภุชงค์ ไทยสง่า นายวิลัย ชาวสระใคร และนางศิริรัตน์ เทียบบัด มาดำเนินคดี และจะมีการขยายผลไปยังกลุ่มบุคคลที่อยู่เบื้องหลังซึ่งสืบทราบว่าเป็นกลุ่มเครือญาติชาวไทยเชื้อสายจีนที่มีหลักฐานเชื่อมโยงกันทั้งหมด 6 คน โดยคดีนี้เข้าข่ายความผิดในกฎหมายหลายฉบับ เช่น กฎหมายลิขสิทธิ์ เครื่องหมายการค้า กฎหมายอาญา เรื่องสิ่งลามกอนาจาร กฎหมายอาหารและยา และกฎหมายเกี่ยวกับภาษี ทั้งภาษีศุลกากร และภาษีสรรพากร
"เครือข่ายนี้เป็นเครือข่ายใหญ่ในกรุงเทพฯที่เป็นจุดเก็บสต๊อกสินค้าทั้งหมดก่อนจะกระจายไปตามเอเย่นต่างๆ ซึ่งจากการสืบสวน ตรวจสอบกระแสเงินหมุนเวียนในกลุ่มเครือข่ายพบว่ามีเงินหมุนเวียนมากถึงร้อยล้านบาทซึ่งเราจะรวบรวมหลักฐานขยายผลกลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลังเพื่อขุดรากถอนโคน" นายธาริต กล่าว
ด้าน พ.ต.ท.ชินโชติ กล่าวด้วยว่า เจ้าหน้าที่สืบสวนอยู่นานหลายเดือนก่อนจะปฏิบัติการตรวจค้นพร้อมกันในครั้งนี้ โดยสิ่งที่เราตรวจสอบมีทั้งเรื่องการขนส่ง การติดต่อสื่อสาร และการเงินซึ่งพบว่ามีการกระจายสินค้าอย่างเป็นระบบเป็นขบวนการ ทั้งนี้ภายหลังการตรวจค้นครั้งนี้จะสอบสวนขยายผลให้ถึงตัวผู้บงการซึ่งมีกลุ่มผู้ต้องสงสัยอยู่แล้ว โดยจะเน้นตรวจสอบหลักฐานด้านการเงินและภาษีเป็นหลัก
จาก FB
สุดยอดครับ ผมเข้าใจว่า..
"คดีพิเศษ ต้องมีหลักฐาน-ของกลาง ที่ใช้งานได้"...
ไม่รู้ป่านนี้ ของกลาง จะยังมีเหลือให้ตรวจสอบ
และ/หรือ ยังรอทำลายอยู่หรือเปล่า?...
Edited by Suraphan07, 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 11:28.