12 replies to this topic

[แม่ลูกหนึ่ง]

เพื่อนเราเงินเข้าบัญชี 1 แสนบาทครบๆ ตอนต้นปี เค้าดีใจ พาเราไปเลี้ยงข้าว.... ตอนกินข้าว เราก็เลยมาคิดว่า แล้วทำไมไม่เอาเงินไปจ่ายชาวนาก่อน (ว่ะ) กะชาวนา เมิงเอาข้าวเค้ามา แต่ไม่จ่ายเงินเค้า พอรถคันแรก เมิงไม่ได้เอี้ยไรจากเค้าเลย (ภาษีสรรถสามิตก็ไม่ได้) แต่เมิงจ่ายตรงจริงไรจริง

ใครพอทราบเหตุผล บอกหน่อย จะเอามาลบล้างความรู้สึกเกลียดอิปู (ที่ตอนนี้มีมากเหลือเกิน)

[chaidan]

เขาดูว่าใครมีปากมีเสียงมากกว่ากันครับ
ใครที่ดูแล้วน่าจะมีปากมีเสียงมากกว่า ก็จ่ายก่อน
คิดแค่นั้นแหล่ะครับ

[แม่ลูกหนึ่ง]

เขาดูว่าใครมีปากมีเสียงมากกว่ากันครับ
ใครที่ดูแล้วน่าจะมีปากมีเสียงมากกว่า ก็จ่ายก่อน
คิดแค่นั้นแหล่ะครับ

ลืมไป ชาวนาใช้ FB กะ Twister ไม่เป็น ขออภัยท่าน 

[oneclick999]

ถ้าเอาเงินมาจ่ายชาวนา ไม่เอาไปจ่ายภาษีรถ คนก็บ่นอีกแหล่ะ (เคยฟังเพลง คนไม่ใช่ทำอะไรก็ผิด มะ)

[spiritie]

ถ้าเอาเงินมาจ่ายชาวนา ไม่เอาไปจ่ายภาษีรถ คนก็บ่นอีกแหล่ะ (เคยฟังเพลง คนไม่ใช่ทำอะไรก็ผิด มะ)

มันก็ต้องจ่ายทั้งสองนั้นแหละ

[สมชัย พิชัย]

รถคันแรกเป็นการคืนภาษี

 

ส่วนโครงการจำนำเป็นการควักภาษี

[แม่ลูกหนึ่ง]

 

ถ้าเอาเงินมาจ่ายชาวนา ไม่เอาไปจ่ายภาษีรถ คนก็บ่นอีกแหล่ะ (เคยฟังเพลง คนไม่ใช่ทำอะไรก็ผิด มะ)

มันก็ต้องจ่ายทั้งสองนั้นแหละ

 

ต้องจ่ายทั้ง 2 และต้องจ่ายชาวนาก่อน แล้วค่อยจ่ายรถคันแรก นี่ทำกลับกัน ความคิดและการตัดสินใจ วิ่งไปที่เท้าเหรอค่ะ

[หงส์เฒ่าเสาร์ธรรม]

http://www.manager.c...D=9570000002796

 

ฟันธงทิ้งสิทธิรถคันแรก 1 แสนราย คลังโล่งเซฟเงินได้กว่าหมื่นล้าน

 

“สรรพสามิต” คาด ปชช.ทิ้งสิทธิโครงการ “รถคันแรก” ทะลุ 1 แสนราย คาดช่วยลดภาระงบประมาณได้กว่า 1 หมื่นล้านบาท พร้อมดำเนินคดีผู้กระทำผิดเงื่อนไข 4-5 ราย ขณะที่ธุรกิจรถเช่าปี 57 ส่อเค้าซึมหนัก

นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ขณะนี้ยอดผู้จองสิทธิในโครงการรถยนต์คันแรกที่ยังค้างอีก 1.2 แสนราย จากจำนวนผู้ได้รับสิทธิ 1.247 ล้านราย หรือคิดเป็นเงิน 9.13 หมื่นล้านบาท เชื่อว่าประมาณ 1 แสนราย ได้ทิ้งใบจองแล้ว เนื่องจากที่ผ่านมา ค่ายรถยนต์ขนาดใหญ่ได้ทำการปิดบัญชี รวมทั้งผู้จองสิทธิบางรายเปลี่ยนใจไปซื้อรถใหม่ที่มีโปรโมชันที่น่าสนใจกว่า หรือบางรายจองไว้หลายยี่ห้อ และรับรถไปแล้วโดยไม่ได้ยกเลิกอีกยี่ห้อหนึ่ง

โดยที่ผ่านมา กรมสรรพสามิตได้หารือกับผู้ประกอบการ และตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ (ดีลเลอร์) ที่ไม่ได้กำหนดเวลารับรถไว้ในเอกสาร จึงให้ทำจดหมายไปสอบถามผู้จองว่ายังยืนยันจะรับรถหรือไม่ หากผู้จองไม่มารับรถยนต์ตามกำหนดให้ถือว่าสละสิทธิ รวมถึงกรมก็ได้ส่งข้อความไปถึงผู้ขอใช้สิทธิเช่นเดียวกัน แม้ปัจจุบันจะมีตัวเลขรับรถยนต์ยังเคลื่อนไหวอยู่เดือนละ 4-5 พันราย แต่เชื่อว่าประมาณ 1 แสนราย ได้ตัดสินใจทิ้งใบจองแล้ว ซึ่งคาดว่าในสิ้นเดือน ม.ค.ปีนี้ น่าจะได้ข้อสรุปของโครงการทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม มองว่าผู้สละสิทธิรถยนต์คันแรกประมาณ 1 แสนรายนั้น ถือเป็นไปตามการคาดการณ์ที่คาดว่าจะมีผู้จองสิทธิยกเลิกใช้สิทธิในโครงการดังกล่าวอยู่ที่ 10% ซึ่งจะช่วยลดรายจ่ายในโครงการดังกล่าวกว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยปีงบประมาณ 2558 กรมสรรพสามิต คาดว่าจะต้องตั้งงบประมาณจ่ายคืนอีก 1 หมื่นล้านบาท จากก่อนหน้านี้ที่ตั้งงบประมาณปี 2555-2556 อยู่ที่ 3 หมื่นล้านบาท และงบประมาณปี 2557 อยู่ที่ 4 หมื่นล้านบาท โดยล่าสุด เมื่อวันที่ 8 ม.ค.2557 มีผู้ได้รับเงินคืนจากโครงการไปแล้ว 7 แสนราย คิดเป็นเงิน 5 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ กรณีผู้รับรถไปแล้วและยังถือครองสิทธิไม่ครบ 1 ปี ยังไม่ได้รับเงินคืนไม่เกิน 100,000 แสนบาท จากกรมสรรพสามิตนั้น หากกระทำผิดเงื่อนไข หรือรถถูกยึดจะไม่ส่งผลกระทบต่อกรมสรรพสามิต แต่หากเป็นกรณีที่ถือครองรถยนต์ครบ 1 ปี และได้รับเงินคืนจากกรมสรรพสามิตไปแล้ว ผู้ซื้อจึงจะต้องนำเงินมาคืนกรมสรรพสามิต โดยขณะนี้มีผู้ที่ได้รับเงินจากกรมสรรพสามิตไปแล้ว แต่ทำผิดเงื่อนไข ซึ่งมีทั้งหมด 500-600 ราย ซึ่งได้นำเงินส่งเงินคืนให้กรมแล้ว ส่วนการกรณีฟ้องร้องอยู่ที่ 4-5 ราย ซึ่งได้ให้กรมบัญชีกลางดำเนินการแล้ว

ด้านนายนที วรรธนะโกวินท์ อุปนายกสมาคมรถเช่าไทย และกรรมการผู้จัดการ บริษัท แจแปนเร้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดรถเช่าในปี 2556 ที่ผ่านมาหดตัวลงประมาณ 10-15% โดยมีผลมาจากปัจจัยด้านการเมืองที่ผันผวน ทำให้นักท่องเที่ยวลดลง และนักลงทุนบางส่วนมีการชะลอแผนงานที่จะลงทุนในประเทศไทย นอกจากนั้นแล้ว ยังมีปัจจัยเรื่องรถคันแรกที่ผู้บริโภคหันไปใช้รถส่วนตัวแทนที่จะเช่ารถท่องเที่ยว

“ตามปกติธุรกิจรถเช่าจะเติบโตประมาณปีละ 7-12% แต่ในปีที่ผ่านมา มีปัจจัยกระทบหลายประการ และเราก็มีการพูดคุยกับผู้ประกอบการในธุรกิจรถเช่าทั้งในระยะสั้น และระยะยาว พบว่าหลายรายมีการปรับลดเป้าหมายลงเล็กน้อย รวมไปถึงมีการทำธุรกิจกันอย่างระมัดระวัง และมีผู้ประกอบการรายย่อยหลายๆ รายที่ต้องปิดตัวลงไป เนื่องจากไม่สามารถแข่งขันได้”

ขณะที่ภาพรวมตลาดรถเช่าในปี 2557 ยังคงประเมินสถานการณ์ไม่ได้ เนื่องจากต้องรอดูปัจจัยด้านการเมืองว่าจะยืดเยื้อหรือไม่ อย่างไรก็ตาม คาดว่าตลาดยังคงชะลอตัวต่อเนื่อง
 

[ต้นหอม]

เพื่อให้ความยุติธรรมกับรัฐบาล จริงๆมันก็คนละกรอบวงเงินกัน แต่ที่มันมีปัญหาคือจำนำข้าวมันเกินกรอบห้าแสนล้านแล้ว และรัฐบาลชุดที่ผ่านมาไม่ได้ขยายวงเงินไว้ แต่ก็อย่างว่าโครงการหายนะแบบนี้มันไม่ควรมีอีกมันควรต้องหยุดด้วยตัวมันเอง ไม่ควรยื่นมือเข้าไปแก้ปัญหาถ้ารัฐบาลยังไม่ยอมรับความจริง

[kritz]

เรื่องนโยบายรถคันแรก มันมีปัญหาแต่เฉพาะ

1. รถล้นถนน(ไม่มีการวางแผนจราจร เน้นขายประชานิยมชนชั้นกลาง)

2. จอดเกะกะขวางทาง(ไม่ตรวจความพร้อมของผู้ซื้อ)

3. ใช้น้ำมันเยอะมากขึ้น ฮั้วกับผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่(ไม่อยากเขียนปตท. เดี๋ยวแม่มพาวกไปปฏิรูปอีก)

4. รัฐไม่สามารถเก็บรายได้จากภาษีสรรพสามิตได้

5. ค่ายรถยนต์ได้ประโยชน์(โดยเฉพาะโตต้า) แต่ในทางกลับกัน ก็สามารถสร้างรายได้ให้แรงงานได้ระดับหนึ่งนะ

 

แค่นั้นแหละครับ เป็นนโยบายที่ฟุ้งเฟ้อ เอาไว้ด่ากล้อมๆ แกล้มๆ ก็พอครับ โครงการนี้สมประโยชน์ก็เฉพาะโตต้ากับผู้ค้าน้ำมัน นอกนั้นไม่มีอะไรในกอไผ่(เท่าที่ภูมิผมรับทราบมา)

 

ส่วนเงินที่โอนคืนมาให้ผู้ซื้อ ก็เงินของผู้ซื้อเองนั่นแหละครับ รัฐแค่ยกเลิกการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตจากค่ายรถยนต์ที่ขายออกไปเท่านั้นเอง คือ ไม่ได้ชักเบี้ยออกจากหน้าตัก ได้กำไรเข้ารัฐก็นิดๆ หน่อยๆ

[หงส์เฒ่าเสาร์ธรรม]

http://www.manager.c...D=9570000002796

 

ฟันธงทิ้งสิทธิรถคันแรก 1 แสนราย คลังโล่งเซฟเงินได้กว่าหมื่นล้าน

 

“สรรพสามิต” คาด ปชช.ทิ้งสิทธิโครงการ “รถคันแรก” ทะลุ 1 แสนราย คาดช่วยลดภาระงบประมาณได้กว่า 1 หมื่นล้านบาท พร้อมดำเนินคดีผู้กระทำผิดเงื่อนไข 4-5 ราย ขณะที่ธุรกิจรถเช่าปี 57 ส่อเค้าซึมหนัก

นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ขณะนี้ยอดผู้จองสิทธิในโครงการรถยนต์คันแรกที่ยังค้างอีก 1.2 แสนราย จากจำนวนผู้ได้รับสิทธิ 1.247 ล้านราย หรือคิดเป็นเงิน 9.13 หมื่นล้านบาท เชื่อว่าประมาณ 1 แสนราย ได้ทิ้งใบจองแล้ว เนื่องจากที่ผ่านมา ค่ายรถยนต์ขนาดใหญ่ได้ทำการปิดบัญชี รวมทั้งผู้จองสิทธิบางรายเปลี่ยนใจไปซื้อรถใหม่ที่มีโปรโมชันที่น่าสนใจกว่า หรือบางรายจองไว้หลายยี่ห้อ และรับรถไปแล้วโดยไม่ได้ยกเลิกอีกยี่ห้อหนึ่ง

โดยที่ผ่านมา กรมสรรพสามิตได้หารือกับผู้ประกอบการ และตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ (ดีลเลอร์) ที่ไม่ได้กำหนดเวลารับรถไว้ในเอกสาร จึงให้ทำจดหมายไปสอบถามผู้จองว่ายังยืนยันจะรับรถหรือไม่ หากผู้จองไม่มารับรถยนต์ตามกำหนดให้ถือว่าสละสิทธิ รวมถึงกรมก็ได้ส่งข้อความไปถึงผู้ขอใช้สิทธิเช่นเดียวกัน แม้ปัจจุบันจะมีตัวเลขรับรถยนต์ยังเคลื่อนไหวอยู่เดือนละ 4-5 พันราย แต่เชื่อว่าประมาณ 1 แสนราย ได้ตัดสินใจทิ้งใบจองแล้ว ซึ่งคาดว่าในสิ้นเดือน ม.ค.ปีนี้ น่าจะได้ข้อสรุปของโครงการทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม มองว่าผู้สละสิทธิรถยนต์คันแรกประมาณ 1 แสนรายนั้น ถือเป็นไปตามการคาดการณ์ที่คาดว่าจะมีผู้จองสิทธิยกเลิกใช้สิทธิในโครงการดังกล่าวอยู่ที่ 10% ซึ่งจะช่วยลดรายจ่ายในโครงการดังกล่าวกว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยปีงบประมาณ 2558 กรมสรรพสามิต คาดว่าจะต้องตั้งงบประมาณจ่ายคืนอีก 1 หมื่นล้านบาท จากก่อนหน้านี้ที่ตั้งงบประมาณปี 2555-2556 อยู่ที่ 3 หมื่นล้านบาท และงบประมาณปี 2557 อยู่ที่ 4 หมื่นล้านบาท โดยล่าสุด เมื่อวันที่ 8 ม.ค.2557 มีผู้ได้รับเงินคืนจากโครงการไปแล้ว 7 แสนราย คิดเป็นเงิน 5 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ กรณีผู้รับรถไปแล้วและยังถือครองสิทธิไม่ครบ 1 ปี ยังไม่ได้รับเงินคืนไม่เกิน 100,000 แสนบาท จากกรมสรรพสามิตนั้น หากกระทำผิดเงื่อนไข หรือรถถูกยึดจะไม่ส่งผลกระทบต่อกรมสรรพสามิต แต่หากเป็นกรณีที่ถือครองรถยนต์ครบ 1 ปี และได้รับเงินคืนจากกรมสรรพสามิตไปแล้ว ผู้ซื้อจึงจะต้องนำเงินมาคืนกรมสรรพสามิต โดยขณะนี้มีผู้ที่ได้รับเงินจากกรมสรรพสามิตไปแล้ว แต่ทำผิดเงื่อนไข ซึ่งมีทั้งหมด 500-600 ราย ซึ่งได้นำเงินส่งเงินคืนให้กรมแล้ว ส่วนการกรณีฟ้องร้องอยู่ที่ 4-5 ราย ซึ่งได้ให้กรมบัญชีกลางดำเนินการแล้ว

ด้านนายนที วรรธนะโกวินท์ อุปนายกสมาคมรถเช่าไทย และกรรมการผู้จัดการ บริษัท แจแปนเร้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดรถเช่าในปี 2556 ที่ผ่านมาหดตัวลงประมาณ 10-15% โดยมีผลมาจากปัจจัยด้านการเมืองที่ผันผวน ทำให้นักท่องเที่ยวลดลง และนักลงทุนบางส่วนมีการชะลอแผนงานที่จะลงทุนในประเทศไทย นอกจากนั้นแล้ว ยังมีปัจจัยเรื่องรถคันแรกที่ผู้บริโภคหันไปใช้รถส่วนตัวแทนที่จะเช่ารถท่องเที่ยว

“ตามปกติธุรกิจรถเช่าจะเติบโตประมาณปีละ 7-12% แต่ในปีที่ผ่านมา มีปัจจัยกระทบหลายประการ และเราก็มีการพูดคุยกับผู้ประกอบการในธุรกิจรถเช่าทั้งในระยะสั้น และระยะยาว พบว่าหลายรายมีการปรับลดเป้าหมายลงเล็กน้อย รวมไปถึงมีการทำธุรกิจกันอย่างระมัดระวัง และมีผู้ประกอบการรายย่อยหลายๆ รายที่ต้องปิดตัวลงไป เนื่องจากไม่สามารถแข่งขันได้”

ขณะที่ภาพรวมตลาดรถเช่าในปี 2557 ยังคงประเมินสถานการณ์ไม่ได้ เนื่องจากต้องรอดูปัจจัยด้านการเมืองว่าจะยืดเยื้อหรือไม่ อย่างไรก็ตาม คาดว่าตลาดยังคงชะลอตัวต่อเนื่อง
 

 

สรรพสามิต ดีใจจนออกนอกหน้า ที่มีคนทิ้งสิทธิ์ มากมายเช่นนี้

[แม่ลูกหนึ่ง]

ตอนนี้มีกระแสครอบครัวของคนซื้อรถคันแรก ไม่พอใจ กปปส เนื่องจากได้รับการล้างสมองว่า ถ้ารัฐบาลนี้ออก จะไม่ได้เงินรถคันแรก (แหล่งข่าวลูกสาวเสื้อแดงบอกมา)

[แม้ว ม.7]

เพื่อนเราเงินเข้าบัญชี 1 แสนบาทครบๆ ตอนต้นปี เค้าดีใจ พาเราไปเลี้ยงข้าว.... ตอนกินข้าว เราก็เลยมาคิดว่า แล้วทำไมไม่เอาเงินไปจ่ายชาวนาก่อน (ว่ะ) กะชาวนา เมิงเอาข้าวเค้ามา แต่ไม่จ่ายเงินเค้า พอรถคันแรก เมิงไม่ได้เอี้ยไรจากเค้าเลย (ภาษีสรรถสามิตก็ไม่ได้) แต่เมิงจ่ายตรงจริงไรจริง

ใครพอทราบเหตุผล บอกหน่อย จะเอามาลบล้างความรู้สึกเกลียดอิปู (ที่ตอนนี้มีมากเหลือเกิน)

 

เปรียเหมือนลูกค้าเอาเงินมาให้100บาท คุณคืนเงินลูกค้า80บาทเป็นโปรโมชั่น

 

ชาวนาเปรียบเหมือนมาขอเงิน100บาท ในขณะที่ในกระเป๋าคุณไม่มีเงินซักบาท

 

 

 

อนึ่ง รถคันแรก มีรายจ่ายตามมาที่เข้ารัฐคือ ภาษีรถประจำปี ภาษีน้ำมัน ซ่อมแซมต่างๆก็มีภาษีมูลค่าเพิ่มแบบจุกจิก

 

แต่จำนำข้าวมีแต่รายจ่าง ค่าเช่าโกดังเก็บข้าว ค่าเสื่อมราคา ค่าหาลูกค้าซื้อข้าว รายจ่ายจุกจิกไม่มีกำไร

Edited by แม้ว ซอยตัน, 10 February 2014 - 15:42.