ถามไปเลยว่า บุญ คืออ่ะไร
มีวิธีให้เพื่อนสนิทหรือคนในครอบครัวเลิกบ้าธรรมกายไหมครับ
#51
Posted 28 February 2014 - 13:18
- RiDKuN_user likes this
#53
Posted 28 February 2014 - 13:23
ความไม่รู้ ความกลัวทำให้คนหลงไปได้ง่าย ๆ
ด้วยการเอานรกมาขู่ เอาสวรรค์มาล่อ
ระดับของการสร้างบุญกุศล ได้แก่ ทาน ศีล สมาธิ
ทาน คือ การให้ หรือการบริจาค เป็นทานในระดับต่ำสุด หากได้ไปสวรรค์ก็ได้ไปแค่สวรรค์ชั้นต่ำสุด
ธรรมกาย เน้นการบริจาค เน้นการให้ทาน เน้นวัตถุนิยม เน้นความร่ำรวย ไม่ใช่แนวทางของพุทธศาสนาที่สอนให้ละกิเลสเลย
ผมนึกได้
การที่ลัทธินี้สอนให้คนสะสมบุญเพื่อสร้างสวรรค์วิมานในชาติหน้า นี่เดียรถีย์ 3 เด้งเลยนะครับ
เด้งแรก สอนให้คนสะสม แทนที่จะสอนให้ละตามเจตนาพระพุทธองค์
เด้งสอง สอนให้คนโลภอยากได้ แทมนที่จะสอนให้คนเสียสละ ตามเจตนาพระพุทธองค์
เด้งสุดท้าย สอนให้คนหมกมุ่นกับอนาคตที่ไม่รู้จะเกิดหรือเปล่า แถมยังมาไม่ถึง คือสวรรค์
แทนที่จะสอนให้คนดึงจิตกลับมา อยู่กับปัจจุบันขณะ ตามเจตนาพระพุทธองค์
นรก นรก นรก จริงๆไอ้พวกนี้
- -3-, พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน, อู๋ ฮานามิ and 3 others like this
#54
Posted 28 February 2014 - 13:38
ธรรมกายหากินและเติบใหญ่ได้ทุกวันนี้ เพราะหากินกับกิเลสของคน
คนที่เสพติดธรรมกายจะเป็นคนที่หิวบุญ อยากสะสมบุญไว้หลังตาย
ธรรมกายแทนที่จะสอนให้ลด ละ เลิก กลับสอนให้สะสม
ความจริงความหิวบุญ อยากทำดีเพื่อให้ได้บุญเป็นสิ่งที่ดี
แต่บุญของธรรมกายสามารถซื้อหาได้ เอาเงินมาแลกได้
ทำให้สาวกของธรรมกายต้องตะเกียกตะกายหาเงินมาซื้อบุญ
บุญที่ซื้อด้วยเงินกลับไม่ทำให้ตาสว่าง ไม่เห็นถูกเห็นผิด
สส เผาไทยเขตดุสิตเป็นตัวอย่างที่ชัดเจน
- ชาวสวน and ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ like this
#56
Posted 28 February 2014 - 14:15
ธรรมกายหากินและเติบใหญ่ได้ทุกวันนี้ เพราะหากินกับกิเลสของคน
เหมือนแม้วเป๊ะเลยนะครับ "หาเสียงกับกิเลสคน"
- พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน, Bayonet and ชาวสวน like this
#59
Posted 28 February 2014 - 14:21
#60
Posted 28 February 2014 - 14:24
จะมีคนบ้าขนาดหนักหรือไม่ โกงคนอื่น เพื่อไปบริจาคให้วัดธรรมโกย
- พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน, Bayonet, ชาวสวน and 2 others like this
#61
Posted 28 February 2014 - 14:31
ลงขันจ้างหนุ่มขายน้ำหล่อ ๆ ไปใกล้ชิดนะจ๊ะ แล้วอัดคลิปเผยแพร่ครับ
เอางั้นเลยหรอ จ้างผมมั้ย dark tall and handsome
#62
Posted 28 February 2014 - 14:39
โชคดีที่ครอบครัวผม ญาติๆ หรือคนรู้จักไม่ได้ลุ่มหลงไปกับลัทธินี้
โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าสติเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แม้จะหลุดเข้าไปในวังวนดูดเงินแบบนั้นแล้ว หากมีสติไตร่ตรองอยู่บ้างก็คงเข้าใจ
แต่ก็อย่างว่าแหละ เราเป็นคนนอกก็อาจคิดว่าการหักดิบกับลัทธินี้เป็นเรื่องง่ายก็ได้
#63
Posted 28 February 2014 - 15:30
ผมเองสมัยวัยรุ่นก็เคยเข้าไปคลุกคลี่กับธรรมกายทั้งสองสาย
เคยบวชโครงการธรรมทายาทด้วย
แต่เมื่อได้เรียนอภิธรรม เบื้องต้นให้เข้าใจ(แบบปุถุชน)เรื่อง จิต เจตสิก รูป นิพพาน
ผมไม่สนใจธรรมกายอีกเลย
- ช่วยเตือน สติ พวกผมหน่อย and kanokporn like this
“ ...คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา ,
ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา ยามเมื่อฟ้าสีทองผ่องอำไพ “
#64
Posted 28 February 2014 - 18:04
...
มีปัญหาด้านเงินทองพอมีเงินเท่าไร
ก็เอาไปทำบุญ แทบทุกอีเว้นท์ โดยมีความเชื่อว่าจะได้ใช้ในชาติหน้า
ตอนนี้หลงหัวปักหัวปำ ลำพังเงินที่ใช้กินก็ไม่ค่อยจะมีกัน สงสารก็แต่ทั้ง
ป้าและแฟนเพื่อน ผมเคยลองคุยกับเพื่อนเรื่องนี้มันด่าเลย มันบอกอะไร
...
อย่าไปคิดมากอย่างน้อยเขาก็ได้บุญ ไม่มากก็น้อย
วิธีการทำบุญในพระพุทธศาสนาเรียกว่า บุญกิริยาวัตถุ ในพระไตรปิฎกระบุไว้ 3 อย่าง ได้แก่
1.ทานมัย คือการบริจาคทรัพย์สิ่งของแก่ผู้ที่ควรให้
2.ศีล คือการสำรวมกาย วาจา ใจ ให้สงบเรียบร้อย ไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ตนเองและผู้อื่น
3.ภาวนา คือการสวดมนต์ ทำสมาธิ อ่านหนังสือธรรมะ ฯลฯ
ความไม่รู้ ความกลัวทำให้คนหลงไปได้ง่าย ๆ
ด้วยการเอานรกมาขู่ เอาสวรรค์มาล่อ
ระดับของการสร้างบุญกุศล ได้แก่ ทาน ศีล สมาธิ
ทาน คือ การให้ หรือการบริจาค เป็นทานในระดับต่ำสุด หากได้ไปสวรรค์ก็ได้ไปแค่สวรรค์ชั้นต่ำสุด
ธรรมกาย เน้นการบริจาค เน้นการให้ทาน เน้นวัตถุนิยม เน้นความร่ำรวย ไม่ใช่แนวทางของพุทธศาสนาที่สอนให้ละกิเลสเลย
จริงอยู่ว่าการให้ทานคือหนึ่งในการสร้างบารมี (อย่างอื่นคือศีลและภาวนา) เพื่อที่สุดแล้วจะได้เข้าถึงพระนิพพาน แต่ทานแบบธรรมกายเป็นทานแบบหวังผล เป็นทานที่เจือด้วยยาพิษคือความหลง อานิสงค์ที่ได้ไม่มากอย่างที่คิดหรอกครับ คนทานล้านบาทแต่หวังไปสวรรค์ กับคนทานเงินในกระเป๋าทั้งหมดที่มีอยู่ 20 บาทโดยไม่หวังผลใดๆ สองคนนี้ใครได้บุญมากกว่ากัน
บุญคือสภาวะที่จิตสะอาดครับ พระท่านว่าการทำบุญเหมือนเอาตะกร้าไปตักน้ำไม่ได้น้ำแต่ตะกร้า (จิต) สะอาดขึ้น ทำบุญหวังผลก็เหมือนเอาตะกร้าไปตักน้ำปลักควายมันจะสะอาดขึ้นไหม
ที่นี้มาที่ธรรมกาย ออกตัวก่อนว่าผมไม่เคยเข้าวัดนี้ เลยไม่ทราบการสอนทำสมาธิของเขา แต่ผมอ่านวิธีสะกดจิตหมู่จากการเทศน์ของหลวงพ่อพุธแล้ว คนไปวัดนี้อาจอยู่ในข่ายนี้ก็เป็นได้
http://www.dharma-ga...-hist-01-06.htm
"มาภายหลังหลวงพ่อมาคิดว่า หลักจิตหลักใจของเราก็มี คือสมาธิแบบพระพุทธเจ้า ก็เลยเลิกสิ่งเหล่านั้น แล้วก็มาปฏิบัติทางสายของพระพุทธเจ้าอย่างเดียว แล้วการสะกดจิตก็ไม่ได้ทำแล้วเดี๋ยวนี้ ทีนี้เพราะอาศัยมรดกที่ท่านมอบให้ เวลานี้เขาสอนกรรมฐานกันสำนักไหน สอนแบบไหน ๆ พอฟังแล้ว หลวงพ่อรู้หมดว่า สำนักนี้เล่นสะกดจิต สำนักนี้เล่นสายตรง พวกเล่นสะกดจิตนี้เขาจะมีอาจารย์ควบคุมให้บริกรรมภาวนาอย่างนี้ ให้ทำจิตอย่างนั้น ให้น้อมไปอย่างนี้ ๆ เพราะฉะนั้นการปฏิบัติสมาธิแบบพระพุทธเจ้านี้ คือสร้างจิตให้เป็นอิสระไม่ตกอยู่ใต้อำนาจของสิ่งใด อย่างไรก็ตามวิชาเหล่านี้เป็นเพียงเครื่องเล่นเท่านั้น เมื่อสอนแนวปฏิบัติทางจิตแล้ว หลวงพ่อจะย้ำการปฏิบัติเพื่อความเป็นอิสระของจิต หลวงพ่อวางแนวให้คนทั้งหลายปฏิบัตินี้ เป็นแนวทางที่ปฏิบัติให้ทุกคนสร้างจิตของตนให้มีพลังเป็นอิสระของตัวเอง ไม่ตกอยู่ใต้อำนาจของใครทั้งสิ้น"
ส่วนวิธีแก้ไขสำหรับผู้ที่ติดงอมแงม แนะนำให้ชวนเขาไปฝึกที่วัดที่ฝึกเจริญสติที่ปฏิบัติแบบจริงจัง พระหรือครูฝึกต้องโหดพอสมควร หนึ่งในวัดที่ผมแนะนำคือวัดป่าโสมพนัส สกลนคร เป็นการฝึกแนวหลวงพ่อเทียนที่เน้นเดินจงกรม สร้างจังหวะต่อเนื่องกัน 7 วัน ผลคือสติจะดีขึ้น คนเราถ้าสติดีขึ้นเขาก็หลุดออกมาจากความหลงได้เอง ยังมีอีกหลายวัดครับที่มี course แบบนี้ วัดวะภูแก้ว โคราช ที่ ดร. ดาราวรรณ เป็นครูฝึกก็ดี แต่ปัญหาหลักคงอยู่ที่ว่าจะกล่อมให้เขาไปได้อย่างไร แต่ที่ผมมั่นใจคือ เมื่อสติกลับคืนมาทุกอย่างจะดีเอง
- คนกินข้าว likes this
#65
Posted 28 February 2014 - 19:05
ศรัทธา และ ความเชื่อ เป็น สิ่งที่ยาก จะ ลบล้าง-เปลี่ยนแปลง ครับ เรื่องที่เจ้าของกระทู้ เล่าให้ฟังมานี้
ทำให้ ตะนิ่นตาญี นึกถึง ทฤษฎี ของ ปราชญ์ฟารั้ง Karl Marx อย่างที่เขาเรียกกันว่า Dialectic Materialism หรือ ติ๊ก-ติ๊ก ลิซึ่ม
ถ้าเป็น ภาษาไทย ก็ เห็นจะต้อง ดัดจริต ใช้คำว่า "วิภาษวิธีทางวัตถุ" ไอ้ตัววิภาษวิธีทางวัตถุ นี้ ก็คือ
การผลักดันด้วยพลังทางวัตถุ เขียนอย่างนี้ยังดูว่ายากเกินไป อย่างนั้น ขอเรียกมั่วมั่วไปก่อนว่า วัตถุนิยม ก็แล้วกัน
หลักการณ์ที่สำคัญ ของ ไอ้เจ้า ติ๊ก-ติ๊ก ลิซึ่ม นี่ก็คือ การเปลี่ยแปลงทางสังคม ทั้ง ความคิด-รูปแบบ-เนื้อหา-สาระ
ไม่ว่าจะเป็น สถาบันต่างต่าง ครอบครัว-ศาสนา-การศึกษา-ชาติ หรือ แม้กระทั่ง ศิลปะ-วัฒนธรรม
Marx เชื่อว่า สิ่งเหล่านี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นได้ ด้วย แรงผลักดัน ทาง วัตถุ พูดให้ฟังง่ายก็คือ ความละโมภ ของ มนุษย์ นั่นเอง
เจ้าของกระทู้ และ เพื่อนเพื่อน ครับ สิ่งที่ ธรรมกาย พยายามบอกก็คือ สวรรค์ นั้น ซื้อได้ ขอเพียง คุณมี สตางค์ มากพอ ที่จะซื้อ
นี่คือ ความเปลี่ยนแปลง ครับ เป็น การเปลี่ยนแปลง ทาง ศาสนา ที่ใช้เวลามายาวนานมากแล้ว ไม่ใช่พึ่งเกิดขึ้น
ธรรมกาย แต่เดิมนั้น หากใครเคยไปจะเห็นว่ามีการนำเสนอ ภาพ ของ นรก ใน ชั้นต่างต่าง ให้ คนที่เข้าไป หวาดกลัว
ดูเผินเผินก็น่าจะดีอยู่หรอกครับ หาก จะเป็นการบอกให้คนทำ ความดี ละ ความชั่ว แต่ พอนานนานเข้ากลายเป็นว่า
ความดี ไม่ต้องทำก็ได้ ทำชั่ว หาเงิน มา ซื้อ สวรรค์ ก็ได้เหมือนกัน สิ่งเหล่านี้ เมื่อ สั่งสม มา นานเข้า-นานเข้า
จากคำสั่งสอนเดิม ให้ ละวาง ใน ตัณหา และ อุปทาน กลับกลายเป็น ให้ ยึดเอาไว้ อย่าปล่อยนะ
ถามว่า ก็ เห็น สะ-โจ๋งครึ่ม อย่างนี้แล้ว ทำไมจึงยังมีคนอีกจำนวนหนึ่งไป หลงยึด ใน ตัณหา และ อุปทาน ที่ ธรรมกาย สร้างขึ้นมาอีกล่ะ?
ตรงนี้ตอบได้ไม่ต้องคิด เพราะ มันง่ายครับ ง่าย กว่า ทำความดี รักษา ศีล ให้ ครบ ห้าประการ
อีกทั้ง นี่ยังเป็นสิ่งที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติ ของ มนุษย์ เสียอีกด้วย...ธรรมชาติ ของ มนุษย์ คือ อะไร? ตัณหา และ ความกระหาย ครับ เพื่อนเพื่อน ครับ
เป๊ะ-เป๊ะ เลยใช่ไหมครับเพื่อนเพื่อนครับ ธรรมกาย เอา ตัณหา และ ความกระหาย มาเล่น กับ คน...คน ที่ ไม่อาจรักษาศีลให้ครบ ๕ ประการได้ครับ
กลับมาที่คำถาม ของ คุณ templar มี วิธี ให้ รู้ สำนึกหรือไม่ ส่วนตัวแล้ว ตะนิ่นตาญี ไม่มี ความสามารถ เช่น ท่านครูใหญ่ เทศนา ได้ ไม่ถึง ๕ นาที
จาก โจรร้าย กลายเป็น อรหันต์ ได้ทันตา ไม่เชื่อก็ดู องคุลีมาน สิครับ ซึ่งนั่นก็คือ เมตตา ของ องค์สัมมาสัมพุทธเจ้า นั้น ยิ่งใหญ่ เสียเหลือเกิน
ด้วย เมตตา นี้ เอง จึงทำให้ โจรร้าย กลายเป็น อรหันต์ ได้ ดังนั้น สิ่งที่ ตะนิ่นตาญี อยากจะแนะนำ เจ้าของกระทู้ คุณ templar นั่นก็คือ
เมตตา ครับ พิจารณา เพื่อน ของ คุณ templar อย่าง เมตตา...ส่วนจะ เมตตา อย่างไรนั้น บอกไม่ได้เหมือนกันครับ
ทราบแต่ว่า เมตตา ในทาง พุทธ นั้น ไม่ใช้แค่ โยน เศษข้าวเหลือในจาน ให้ นก-กา-หมา กิน หรอกนะครับ
ตะนิ่นตาญี
วันศุกร์ที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๗
เวลา ๑๙.๐๔ นาฬิกา
- ช่วยเตือน สติ พวกผมหน่อย, Duke_th1, ชาวสวน and 4 others like this
#66
Posted 28 February 2014 - 19:05
เพื่อนคนนี้คบมานานแล้วครับ ตั้งแต่เรียนที่มหาลัย มันอยู่ชมรมพุทธศาสน์
ส่วนอีกคนเป็นลุงที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกับพ่อ แต่ปัญหาที่เจอเหมือนกันคือ
ป้า(คนที่เป็นแฟนลุง) และ แฟนเพื่อน มีปัญหาด้านเงินทองพอมีเงินเท่าไร
ก็เอาไปทำบุญ แทบทุกอีเว้นท์ โดยมีความเชื่อว่าจะได้ใช้ในชาติหน้า
ตอนนี้หลงหัวปักหัวปำ ลำพังเงินที่ใช้กินก็ไม่ค่อยจะมีกัน สงสารก็แต่ทั้ง
ป้าและแฟนเพื่อน ผมเคยลองคุยกับเพื่อนเรื่องนี้มันด่าเลย มันบอกอะไร
ที่ไม่เห็น มันไม่ได้แปลว่าไม่มี เราทำไปเราใช้ในชาติหน้าได้ (นึกในใจ
มึงเอาชาตินี้ให้รอดก่อนดีไหม)
คหสต. เรื่องทำบุญเป็นเรื่องที่ดีนะ แต่ทำไมต้องทำกับวัดที่รวยขนาดนั้นด้วย
แถมหลายอย่างที่พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนไว้
มีวิธีให้เพื่อนสนิทหรือคนในครอบครัวเลิกบ้าธรรมกายไหมครับ
ตอบ: มี
มีความจริงเกี่ยวกับ วัดพระธรรมกาย ที่คนทั่วไป ไม่รู้ อีกมาก และ หนึ่ง ในนั้น คือ การที่มีคนไหล ออกจาก วัดพระธรรมกาย อย่างมากมาย และ วัดพระธรรมกาย กำลังอยู่ในสภาวะ ขาดเงินสด นั่นเอง
ที่ทุกคนเห็นวัดพระธรรมกาย กำลัง ดิ้นเฮือก อยู่ทุกวันนี้ เพราะ เหตุจากการที่ คนไหลออกจากระบบ อย่างมากนั่นเอง
เมื่อมีคนไหลออกจากระบบของวัดพระธรรมกายมาก และ มากกว่า ไหลเข้า นั่นคือ มีวิธีมากมาย อย่างที่ถาม
ป.ล. 1 กระแสไหลออก ไม่มีคนเห็น ไม่มีคนโพส เพราะเป็นเรื่อง วงใน คนก็เลยเห็นแต่ คนเข้าไป
ป.ล. 2 การขาดกระแสเงินสด ของวัดพระธรรมกาย มีมากแบบน่าเป็นห่วง จนวัดพระธรรมกาย ต้องดิ้น ทุกวิธีทาง เป็นมาตั้งแต่ ปี 2554 ด้วยหลายเหตุผล .................. เรื่อง มัน ยาว
ท่าน templar อยากรู้ วิธี จริงๆ หรือ แค่ บ่นๆๆ ไป งั้นๆ
- ประชาราบ, ตะนิ่นตาญี and ชาวสวน like this
ชอบเข้ามาอ่าน
เพราะความเห็นของบางคน
ช่างโง่และทุเรศสิ้นดี
#67
Posted 28 February 2014 - 19:14
ถ้าพระไตรปิฏกเป็นตัวบทกฏหมาย พระพุทธเจ้าบอกว่า อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ซึ่งอนัตตาแปลว่า ไม่ใช่ตัวตน ไม่เที่ยง
แต่ธรรมกายบอกว่า อนิจจัง ทุกขัง อัตตา ซึ่งอัตตาแปลว่าเป็นตัวตน เที่ยงแท้แน่นอน แค่นี้มันก็ขัดหลักกฏหมายชัดเจน ไม่ต่างอะไรกับพวกกบฏ
ขออภัยท่าน aukkara
เข้าใจว่า ท่านคง คิดจะพิมพ์ คำว่า .....................
แต่ธรรมกาย บอกว่า นิจจัง สุขขัง อัตตา ใช่ไหม
แต่มือไปพิมพ์ อีกอย่าง =====> อนิจจัง ทุกขัง อัตตา
เพราะคำว่า นิจจัง สุขขัง อัตตา คือสิ่งที่ พระวัดพระธรรมกาย ไม่ว่ารูปไหน ก็เชื่อและ สอนแบบนี้
ชอบเข้ามาอ่าน
เพราะความเห็นของบางคน
ช่างโง่และทุเรศสิ้นดี
#68
Posted 28 February 2014 - 19:16
รังเกียจธรรมกายมากอ่ะ
ตอนแรกที่รู้จักผ่านๆ หู ก็เหรอ วัดดัง ?
ต้องบริจาคเงินเยอะๆ ถึงจะได้บุญ
บอกตรงๆ เอาเงินพ่อแม่ไปหาของอะไรอร่อยๆ กินดีกว่า
- ซีมั่น โลช่า likes this
#69
Posted 28 February 2014 - 19:16
เจ้าของเนเจอร์กิฟ ศิษย์ ธรรมกาย
เจ้าของแลนด์แอนเฮ้า ศิษย์ํ ธรรมกาย
อดีตเจ้าของดีแทค ก็ศิษย์ธรรมกาย
#70
Posted 28 February 2014 - 19:21
ถ้าได้วิธีแล้ว วานสะกิดบอกผมนิดนึงนะครับ
เผื่อผมจะเอาไปประยุกต์ใช้ ไปเปลี่ยนความเชื่อ ของเพื่อนเสื้อแดง
ที่มัวแต่หลงงมงาย หลงรัก เทิดทูน ท่านเทพเจ้าทักษิณของผมบ้าง
คงยากและสายไปแล้ว
เพราะที่วัดพระธรรมกาย หลังจาก ช่วยพรรคเพื่อไทย ให้มาเป็นรัฐบาล ก็มี โครงการต่อเนื่อง ที่น้อยคนจะได้รู้ ก็คือ
โครงการ ดูด เสื้อแดง เป็น เสื้อขาว ................. เพื่อเป็น Parallel Source / Force
มีพระที่รับผิดชอบโครงการ ไม่กี่รูป
ในปี หรือ 2 ปีที่ผ่านมา เป็น Pilot Project เพื่อก้าวเข้าสู่ โครงการเต็มรูปแบบ
Edited by Kenta, 28 February 2014 - 19:23.
- ประชาราบ likes this
ชอบเข้ามาอ่าน
เพราะความเห็นของบางคน
ช่างโง่และทุเรศสิ้นดี
#71
Posted 28 February 2014 - 19:24
สันติอโศก คนเขาก็รักเหมือนกันนะ ไม่ไปบอกหน่อยละ
#72
Posted 28 February 2014 - 19:25
"ความเชื่อ" เปลี่ยนยากครับ เพราะมันมีพลัง ถ้าจะเปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยนด้วยสิ่งที่มีพลังมากกว่ามัน
"ประสบการณ์"??
ผมว่า ความรู้สึกของคนที่เลิกกินเนื้อสัตว์เพราะ "ศาสนาสอนว่าเป็นบาป" กับเพราะ "เคยเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในโรงฆ่าสัตว์" น่าจะต่างกันมากโข
#73
Posted 28 February 2014 - 19:27
ไม่มีวิธี หรอกครับ คุณ templar
เปรียบไป ก็เหมือนกับ คุณพยายาม
กล่อมเสื้อแดง ให้ไปชุมนุม กับ กปปส อะ
คือ มันเป็นไปไม่ได้
ผมไม่ได้ ไม่คิด นะครับ
แต่เพราะผมคิด แล้วต่างหาก ว่าเป็นไปไม่ได้
คือเรื่องบางเรื่อง ต้องทำใจยอมรับครับ
เมียของเขา หรือ ป้าคนนั้น
ถือซะว่า ทำกรรม มาก็แล้วกันครับ
บางอย่างที่คุณ templar พอช่วยได้
เช่น ไปเยี่ยม ก็หยิบของติดมือ ไปให้
เป็นกำลังใจให้ ผมว่า นั่นดีพอ แล้วนะครับ
" อย่า " เสียเวลา ไปกล่อม เด็ดขาด
ของแบบนี้ ต้องให้ เวลา เป็นเครื่องพิสูจน์ นะครับ
ถ้าคุณไปพูด มีแต่ จะทำให้
ความตั้งใจเขา แกร่งกล้าขึ้น
เพราะเขาจะคิดว่า คุณเป็น " มาร "
ที่มาทดสอบ ความตั้งใจ บรรลุธรรม ( โง่ ๆ )
ของเขา
เชื่อผม ไม่มีอะไรดีไปกว่า
การช่วยเหลือ ทางอ้อม
ของแบบนี้ ถ้าไม่เข้าใจ ด้วยตัวเอง
ต่อให้คุณใช้ วาจาหว่านล้อม
ใช้ ผู้ที่มีเกียรติ ที่สุด มาอ้างอิง
มันก็ไม่ทำให้ " ทิฐิ " ของเขา ลดไปได้
หรอกครับ ของแบบนี้ ผมเห็นมา ด้วยตาเลย
ดังนั้น บอกตัวเองครับ อย่าไปยุ่ง
เยี่ยม มาก
ชอบเข้ามาอ่าน
เพราะความเห็นของบางคน
ช่างโง่และทุเรศสิ้นดี
#75
Posted 28 February 2014 - 19:35
ผมว่าต้องแล้วแต่ผลบุญและเวรกรรมของแต่ละคนจริงๆ
บางคนศรัทธาธรรมกายแต่เดินอยู่สายกลางๆไม่สุดโด่ง ผมก็เห็นว่าเขาเป็นคนดีทั้งต่อตัวเองครอบครัวและสังคม
ส่วนพวกสุดโด่งนี่ก็อย่างที่เราเห็นๆกัน
อีกพวกหนึ่งเข้าไปสัมผัสแต่สักพักรู้ว่าไม่ใช่ก็ถอยออกมา
แต่มีบางคนถึงย้ายสำนักแต่ก็ไม่มีพัฒนาการ เช่นที่ย้ายจากสำนักธรรมกายไปอยู่กับมิตซูโอะเป็นต้น
ชอบ วิธีคิด และ วิธีตอบ
ชอบเข้ามาอ่าน
เพราะความเห็นของบางคน
ช่างโง่และทุเรศสิ้นดี
#77
Posted 28 February 2014 - 19:37
พาไปหาท่าน ว.วชิรเมธี ซิครับ
ผมพา ย่า ไปหามาแล้ว "หายขาด" ชัวร์
แค่เปลี่ยน จากจริต หนึ่ง ไปเป็นอีก จริตหนึ่ง
เห็นด้วยครับ
ด้วยความเคารพ.. การนับถือศาสนาเดี๋ยวนี้แทบจะกลายเป็นแฟชั่นไปแล้ว หนึ่งชีวิตมีได้หลายศาสนา หลายสำนัก
ศาสนาที่แท้จริงควรจะมีแค่ "หนึ่งศาสนา" สำหรับ "หนึ่งชีวิต" มิใช่หรือ
- ช่วยเตือน สติ พวกผมหน่อย likes this
#78
Posted 28 February 2014 - 19:48
เจ้าของเนเจอร์กิฟ ศิษย์ ธรรมกาย
เจ้าของแลนด์แอนเฮ้า ศิษย์ํ ธรรมกาย
อดีตเจ้าของดีแทค ก็ศิษย์ธรรมกาย
แลนด์แอนเฮ้าส์เป็นลูกศิษย์ หรือ เป็นลูกหนี้เงินกู้กันแน่ เห็นกู้ไปเยอะนะ ตอนต้มยำกุ้ง เอาไปสร้างบ้านเสร็จก่อนขาย
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#79
Posted 28 February 2014 - 19:52
สันติอโศก คนเขาก็รักเหมือนกันนะ ไม่ไปบอกหน่อยละ
สันติอโศกแยกนิกายไปแล้ว ไม่ต่างอะไรกับนิกายมหายาน หรือวัชรยาน แล้วธรรมกายแยกไปรึยัง
- พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน likes this
#80
Posted 28 February 2014 - 19:55
พาไปหาท่าน ว.วชิรเมธี ซิครับ
ผมพา ย่า ไปหามาแล้ว "หายขาด" ชัวร์
แค่เปลี่ยน จากจริต หนึ่ง ไปเป็นอีก จริตหนึ่ง
เห็นด้วยครับ
ด้วยความเคารพ.. การนับถือศาสนาเดี๋ยวนี้แทบจะกลายเป็นแฟชั่นไปแล้ว หนึ่งชีวิตมีได้หลายศาสนา หลายสำนัก
ศาสนาที่แท้จริงควรจะมีแค่ "หนึ่งศาสนา" สำหรับ "หนึ่งชีวิต" มิใช่หรือ
เมื่อการตลาด และ การสื่อสารการตลาด เข้ามามีบทบาท กับการพระศาสนา และ องค์กรพระพุทธศาสนา และ มาที่ พระแต่ละรูป
จริงๆ แล้ว ควรก้าวข้าม วัดพระธรรมกาย และ พระรูปอื่นๆ เพื่อ ให้หยุดที่ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ถ้าจะพูดภาษาบ้านๆ ก็สามารถเปรียบได้ว่า ...................................
มันมีการตลาดสมัยใหม่ มาตั้งแต่ สมัยพุทธกาล ทั้ง Needs / Customer-Oriented / Distribution Channel เป็นต้น แต่ไม่ใช่ในแบบ ที่เห็นเป็นอยู่ ในแบบปัจจุบัน
ชอบเข้ามาอ่าน
เพราะความเห็นของบางคน
ช่างโง่และทุเรศสิ้นดี
#81
Posted 28 February 2014 - 19:59
พาไปหาท่าน ว.วชิรเมธี ซิครับ
ผมพา ย่า ไปหามาแล้ว "หายขาด" ชัวร์
แค่เปลี่ยน จากจริต หนึ่ง ไปเป็นอีก จริตหนึ่ง
เห็นด้วยครับ
ด้วยความเคารพ.. การนับถือศาสนาเดี๋ยวนี้แทบจะกลายเป็นแฟชั่นไปแล้ว หนึ่งชีวิตมีได้หลายศาสนา หลายสำนัก
ศาสนาที่แท้จริงควรจะมีแค่ "หนึ่งศาสนา" สำหรับ "หนึ่งชีวิต" มิใช่หรือ
เมื่อการตลาด และ การสื่อสารการตลาด เข้ามามีบทบาท กับการพระศาสนา และ องค์กรพระพุทธศาสนา และ มาที่ พระแต่ละรูป
จริงๆ แล้ว ควรก้าวข้าม วัดพระธรรมกาย และ พระรูปอื่นๆ เพื่อ ให้หยุดที่ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ถ้าจะพูดภาษาบ้านๆ ก็สามารถเปรียบได้ว่า ...................................
มันมีการตลาดสมัยใหม่ มาตั้งแต่ สมัยพุทธกาล ทั้ง Needs / Customer-Oriented / Distribution Channel เป็นต้น แต่ไม่ใช่ในแบบ ที่เห็นเป็นอยู่ ในแบบปัจจุบัน
แถม "กาลามสูตร" ให้ด้วยครับ
แต่ละข้อเอามาทำตลาดได้ทั้งนั้น
#82
Posted 28 February 2014 - 20:11
สันติอโศก คนเขาก็รักเหมือนกันนะ ไม่ไปบอกหน่อยละ
สันติอโศกเขาแยกลัทธิไปแล้วครับ ถ้าธรรมกายแยกออกไปแบบสันติอโศกไม่มาแอบอยู่ในพุทธเถรวาทคงไม่ถูกวิจารณ์มากขนาดนี้หรอกครับ ว่าแต่กล้าแยกไหมหล่ะ
- พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน and Bookmarks like this
#83
Posted 28 February 2014 - 20:19
รังเกียจธรรมกายมากอ่ะ
ตอนแรกที่รู้จักผ่านๆ หู ก็เหรอ วัดดัง ?
ต้องบริจาคเงินเยอะๆ ถึงจะได้บุญ
บอกตรงๆ เอาเงินพ่อแม่ไปหาของอะไรอร่อยๆ กินดีกว่า
น่าเศร้ามากที่พวกติดลัทธิธรรมกาย ผลาญเงินพ่อแม่ครอบครัวเอาไปให้ธรรมกายหมด ครอบครัวเดือดร้อนทั่วหน้าด้วยสิครับ
โดยอ้่างว่า "เอาบุญมาฝาก"
เอ่อ...บุญมันฝากกันได้ด้วยหรือ?
แถมล้วงเอาเงินพ่อแม่ไปให้วัดโดยไม่ได้ขออนุญาตเนี่ยนะ.................. อึ้งครับ
- ซีมั่น โลช่า likes this
#84
Posted 28 February 2014 - 20:44
ในการบริหาร จัดการ โครงการต่างๆของวัด........ สิ่งที่วัดแสวงหา คือ 3 ท
1. ทีม ( บุคลากร หมายถึง สมาชิก 3 อาศรม เพิ่มเติมถึง อาสาสมัคร และ ผู้นำบุญ เป็นต้น )
2. ทุน ( งบประมาณในโครงการต่างๆ )
3. ที่ ( สำนักงานของวัด และ ศูนย์อบรม / ปฎิบัติธรรม ในพื้นที่ต่างๆ )
เราจะเห็นกิจกรรมที่ เอา ทีม(เก่า) มาหา ทีม(ใหม่) และ เอา ทีม(เก่า) มาหา ทุน(ใหม่)
เราจะเห็นกิจกรรมที่ เอา ทุน(เก่า) มาหา ทีม(ใหม่) และ เอา ทุน(เก่า) มาหา ทุน(ใหม่)
และเมื่อปัจจัยใดปัจจัยหนึ่ง สะดุดลง ..... ก็จะกระทบปัจจัยอื่นๆ เป็นห่วงโซ่ ต่อไป
เอา 3ท มาทำไม =====> เงินบริจาค และ สิ่งที่หลายท่านพูดถึง " คนเข้าวัด "
ขอ สรุป ผลลัพธ์ โดยรวม ก่อนที่จะกล่าวต่อไป ดังนี้ ........
1. คนเข้าวัด ลดลง ทุกรายการ ที่กล่าว ข้างต้น
2. คนเข้าวัด ลดลง บางรายการ เป็นการลดลง ในอัตราที่ .......... "น่า ตก ใจ"
3. บางรายการ จนถึง ตอนนี้ ยังไม่สามารถดำเนินการต่อ
ขอเพิ่ม ภาพรวมของวัด ให้ทุกคนได้เข้าใจ ดังนี้ ........
คนกรุง ========> หา เงิน เข้าวัด (เป็นหลัก)
คนต่างจังหวัด ========> หา คน เข้าวัด (เป็นหลัก)
ผลการดำเนินงาน 1 : บวชพระ 2 ปี 4 รุ่น คือ บวชพระภาคฤดูร้อน 53 ถึง บวชเข้าพรรษา 54
* บวชพระฤดูร้อน 53 = 35,790 คน
* บวชพระเข้าพรรษา 53 = 19,037 คน
* บวชพระฤดูร้อน 54 = 14,818 คน
* บวชพระเข้าพรรษา 54 = 10,936 คน
จาก 35,790 คน ในปี 2553 มาสู่ 10,936 คน ในปี 2554
จากโครงการบวชพระ 100,000 รูป =======> ทำได้แค่ระดับ 10%
ผลการดำเนินงาน 2: บวชอุบาสิกาแก้ว จำนวน 6 รุ่น
โครงการนี้ ทางวัด ตั้งใจประโคม ให้เป็นโครงการใหญ่ ขนาดจะจัด "เดือนละครั้ง" ในปี 2554 ที่ผ่านมา
แต่พอเริ่มโครงการได้ไม่เท่าไหร่ ............. หน่วยงานของวัดด้วยกันเอง (ต่างสำนัก) ก็ "สอย" โครงการนี้ "ร่วง" แบบไม่เห็นอนาคต จนถึงปัจจุบันนี้
จากโครงการเดือนละครั้ง แปลงร่าง มาเป็น ปฎิบัติธรรม 3 วัน 7 วัน + บัตรลดราคา ปฎิบัติธรรมพิเศษ
จากโครงการเดือนละครั้ง เหลือเพียง 2 ครั้งต่อปี คือ ก่อนบวชพระฤดูร้อน + ก่อนบวชพระเข้าพรรษา เพื่อจุดมุ่งหมายหลัก คือ ...............................
ให้อุบาสิกาแก้ว เป็น เครื่องมือ ในการหาคนมาบวช (พูดง่ายๆ ..... ปฎิบัติธรรม เพื่อ ไปหา คนมาบวชพระ)
* อบรมอุบาสิกาแก้ว รุ่น 3 ปี 2553 (รุ่น 1 ล้านคน) = 128,801 คน
* อบรมอุบาสิกาแก้ว รุ่น 4 ปี 2554 (รุ่น 1 ล้านคน) = 67,361 คน
* อบรมอุบาสิกาแก้ว รุ่น 6 ปี 2554 = 53,768 คน
ผลการดำเนินงาน 3: จำนวนสาธุชนมาวัดวันอาทิตย์ต้นเดือน
วันอาทิตย์ต้นเดือน เป็นงานบุญที่มี พิธีบูชาข้าวพระ ซึ่งเป็นงานบุญใหญ่สำหรับ ชาววัด ซึ่งจัดเดือนละครั้งเท่านั้น
ดังนั้น ขอให้เข้าใจก่อนว่า ........ ถ้าหากใครไม่ ตาย ...... ชาววัด ก็จะมางานวันอาทิตย์ต้นเดือนให้ได้
* จำนวนสาธุชนมาวัด วันอาทิตย์ต้นเดือน เฉลี่ย รายเดือน ปี 2553 = 25,000 คน
* จำนวนสาธุชนมาวัด วันอาทิตย์ต้นเดือน เฉลี่ย รายเดือน ปี 2554 = 20,000 คน
ลดลง เฉลี่ยรายเดือน = 5,000 คน ....................... คนเข้าวัด มากขึ้น จริงเหรอ
ขนาดกลุ่มที่ ภักดีต่อองค์กรที่สุด จะเป็นจะตายต้องมาให้ได้ รวมถึง Promotion รถรับ-ส่ง ฟรี + ข้าวฟรี ยังลดลง ............ นี่สิ น่าตกใจ
คำถาม:
ผลกระทบ จากกลุ่ม ตัวจริง เสียงจริง ที่ภักดีองค์กรที่สุด หายไป จำนวนมากขนาดนี้ ในวันที่เป็น วันระดมทุน ของวัด คือ อะไร ????
คำตอบ:
เงินบริจาคที่หายไป
- ประชาราบ, ก๊องส์ไข่กวน and ซีมั่น โลช่า like this
ชอบเข้ามาอ่าน
เพราะความเห็นของบางคน
ช่างโง่และทุเรศสิ้นดี
#86
Posted 28 February 2014 - 21:09
พาไปหาท่าน ว.วชิรเมธี ซิครับ
ผมพา ย่า ไปหามาแล้ว "หายขาด" ชัวร์
แค่เปลี่ยน จากจริต หนึ่ง ไปเป็นอีก จริตหนึ่ง
ผมเข้าใจผู้สูงอายุ โดยเฉพาะย่าของผม ท่านเป็นคนหัวโบราญ ลูกหลานพูดน่ะแกไม่ฟังหรอก แต่ถ้าเป็นพระล่ะก็แกนั่งฟังตาแป๋วทีเดียว
ผมนั้นรู้ว่าถ้าตัวผมพูดเองอะไรจะเกิดขึ้น และตัวผมเองก็พูดไม่เก่ง จึงอาศัย ท่าน ว.วชิรเมธี ตัวผมเองก็นั่งฟังอยู่ใกล้ๆ สิ่งที่ท่านพูดก็แค่หยิบ
ยกเอาคำสอน ขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า มาพูดให้ย่าผมฟังเท่านั้น ไม่ได้เอามาเปรียบเทียบกับวัดจานบิน ไม่เอ่ยถึงเลยด้วยซ้ำ
ทุกวันนี้ ย่าผมเลิกไปวัดนี้แล้ว และก็ไม่ได้ผูกประจำวัดไหนด้วย ถ้าจะทำบุญก็วัดใกล้ๆบ้าน หรือไม่ก็ไปกับญาติที่ต่างจังหวัดเท่านั้น
สิ่งที่ผมได้ยินวันนั้น น่าจะเรียกว่า การเรียกสติกลับมามากกว่า
- panda likes this
#87
Posted 28 February 2014 - 22:01
ศรัทธา และ ความเชื่อ เป็น สิ่งที่ยาก จะ ลบล้าง-เปลี่ยนแปลง ครับ เรื่องที่เจ้าของกระทู้ เล่าให้ฟังมานี้
ทำให้ ตะนิ่นตาญี นึกถึง ทฤษฎี ของ ปราชญ์ฟารั้ง Karl Marx อย่างที่เขาเรียกกันว่า Dialectic Materialism หรือ ติ๊ก-ติ๊ก ลิซึ่ม
ถ้าเป็น ภาษาไทย ก็ เห็นจะต้อง ดัดจริต ใช้คำว่า "วิภาษวิธีทางวัตถุ" ไอ้ตัววิภาษวิธีทางวัตถุ นี้ ก็คือ
การผลักดันด้วยพลังทางวัตถุ เขียนอย่างนี้ยังดูว่ายากเกินไป อย่างนั้น ขอเรียกมั่วมั่วไปก่อนว่า วัตถุนิยม ก็แล้วกัน
หลักการณ์ที่สำคัญ ของ ไอ้เจ้า ติ๊ก-ติ๊ก ลิซึ่ม นี่ก็คือ การเปลี่ยแปลงทางสังคม ทั้ง ความคิด-รูปแบบ-เนื้อหา-สาระ
ไม่ว่าจะเป็น สถาบันต่างต่าง ครอบครัว-ศาสนา-การศึกษา-ชาติ หรือ แม้กระทั่ง ศิลปะ-วัฒนธรรม
Marx เชื่อว่า สิ่งเหล่านี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นได้ ด้วย แรงผลักดัน ทาง วัตถุ พูดให้ฟังง่ายก็คือ ความละโมภ ของ มนุษย์ นั่นเอง
เจ้าของกระทู้ และ เพื่อนเพื่อน ครับ สิ่งที่ ธรรมกาย พยายามบอกก็คือ สวรรค์ นั้น ซื้อได้ ขอเพียง คุณมี สตางค์ มากพอ ที่จะซื้อ
นี่คือ ความเปลี่ยนแปลง ครับ เป็น การเปลี่ยนแปลง ทาง ศาสนา ที่ใช้เวลามายาวนานมากแล้ว ไม่ใช่พึ่งเกิดขึ้น
ธรรมกาย แต่เดิมนั้น หากใครเคยไปจะเห็นว่ามีการนำเสนอ ภาพ ของ นรก ใน ชั้นต่างต่าง ให้ คนที่เข้าไป หวาดกลัว
ดูเผินเผินก็น่าจะดีอยู่หรอกครับ หาก จะเป็นการบอกให้คนทำ ความดี ละ ความชั่ว แต่ พอนานนานเข้ากลายเป็นว่า
ความดี ไม่ต้องทำก็ได้ ทำชั่ว หาเงิน มา ซื้อ สวรรค์ ก็ได้เหมือนกัน สิ่งเหล่านี้ เมื่อ สั่งสม มา นานเข้า-นานเข้า
จากคำสั่งสอนเดิม ให้ ละวาง ใน ตัณหา และ อุปทาน กลับกลายเป็น ให้ ยึดเอาไว้ อย่าปล่อยนะ
ถามว่า ก็ เห็น สะ-โจ๋งครึ่ม อย่างนี้แล้ว ทำไมจึงยังมีคนอีกจำนวนหนึ่งไป หลงยึด ใน ตัณหา และ อุปทาน ที่ ธรรมกาย สร้างขึ้นมาอีกล่ะ?
ตรงนี้ตอบได้ไม่ต้องคิด เพราะ มันง่ายครับ ง่าย กว่า ทำความดี รักษา ศีล ให้ ครบ ห้าประการ
อีกทั้ง นี่ยังเป็นสิ่งที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติ ของ มนุษย์ เสียอีกด้วย...ธรรมชาติ ของ มนุษย์ คือ อะไร? ตัณหา และ ความกระหาย ครับ เพื่อนเพื่อน ครับ
เป๊ะ-เป๊ะ เลยใช่ไหมครับเพื่อนเพื่อนครับ ธรรมกาย เอา ตัณหา และ ความกระหาย มาเล่น กับ คน...คน ที่ ไม่อาจรักษาศีลให้ครบ ๕ ประการได้ครับ
กลับมาที่คำถาม ของ คุณ templar มี วิธี ให้ รู้ สำนึกหรือไม่ ส่วนตัวแล้ว ตะนิ่นตาญี ไม่มี ความสามารถ เช่น ท่านครูใหญ่ เทศนา ได้ ไม่ถึง ๕ นาที
จาก โจรร้าย กลายเป็น อรหันต์ ได้ทันตา ไม่เชื่อก็ดู องคุลีมาน สิครับ ซึ่งนั่นก็คือ เมตตา ของ องค์สัมมาสัมพุทธเจ้า นั้น ยิ่งใหญ่ เสียเหลือเกิน
ด้วย เมตตา นี้ เอง จึงทำให้ โจรร้าย กลายเป็น อรหันต์ ได้ ดังนั้น สิ่งที่ ตะนิ่นตาญี อยากจะแนะนำ เจ้าของกระทู้ คุณ templar นั่นก็คือ
เมตตา ครับ พิจารณา เพื่อน ของ คุณ templar อย่าง เมตตา...ส่วนจะ เมตตา อย่างไรนั้น บอกไม่ได้เหมือนกันครับ
ทราบแต่ว่า เมตตา ในทาง พุทธ นั้น ไม่ใช้แค่ โยน เศษข้าวเหลือในจาน ให้ นก-กา-หมา กิน หรอกนะครับ
ตะนิ่นตาญี
วันศุกร์ที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๗
เวลา ๑๙.๐๔ นาฬิกา
คงไม่ขนาดว่ามีเมตตาไรอย่างที่ท่านว่าหรอกครับ
แต่แค่รำคาญเวลาเจอหน้ากันพูดแต่เรื่องนี้ เพื่อนในรุ่นเดียวกันก็เริ่มเบื่อ
แต่เพราะมันเป็นคนดี และรักเพื่อน
ขอบคุณทุกท่านที่เสนอแนะ เพราะสิ่งเหล่านี้อาจทำให้อย่างน้อย
ความลุ่มหลงเจือจางลงสัก 1 ใน 3 ก็คงดีมากแล้ว
- ตะนิ่นตาญี likes this
อย่ามาเห่าว่ากรูมาจากการเลือกตั้ง เพราะการเลือกตั้งไม่ใช่ทุกอย่างของประชาธิปไตย
การตรวจสอบบ้านเมืองอย่างเข้มข้น ทั้งฝ่ายนิติบัญญัติและตุลาการ จำเป็นสำหรับประเทศไทย
สิ่งที่บ่งบอกว่าประเทศไหนพัฒนาแล้วไม่ได้ดูที่ มีตึกสูงมากเท่าไร มีห้างเยอะไหม มีจีดีพีสูงแค่ไหน
แต่ดูที่การศึกษา และ คุณภาพของบุคลากรภายในประเทศ
#88
Posted 28 February 2014 - 22:15
ทำบุญเพื่อบำรุงศาสนา ไม่ใช่ทำบุญเพื่อการเลี้ยงกิเลส อยากขึ้นสวรรค์ อยากรวย อยากนู่นนี่นั่นจนเบียดเบียนตัวเอง
- ช่วยเตือน สติ พวกผมหน่อย likes this
ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด
เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ
#89
Posted 1 March 2014 - 08:08
ท่านลองหาหนังสือวิจารณ์ธรรมกายมาให้เพื่อนอ่านดูสิครับ คนโดนเป่าหูมากๆ มันก็ต้องมีระแวงกันมั่งสิน่า
#90
Posted 1 March 2014 - 08:51
ประมาณว่าจัดทริปสร้างพระประทานทุกเดือน จ่ายเงินเพื่อสะสมบารมี ดูชะตาให้ได้ด้วย จัดประกอบพิธีบูชา บวงสรวงพร้อม
เคยเห็นมันมาท่องคาถาบวงสรวง ลากตั้งแต่พระพุทธเจ้ายันพระมหากษัตริย์มารับของเซ่นไหว้มัน ทำยังกับลัทธิผี เสร็จแล้วก็ถวายเพลพระแบบประกอบงานมันแบบแกนๆ
เสร็จแล้วมันก็รับซองไป
คนเชื่อก็แนะนำให้ผมไปไหว้มันนะ มันมองหน้าผมแล้วบอกอาจารย์ก็เลือกลูกศิษย์นะ (พวกนี้จะเลือกเจ้าของกิจการ เน้นผู้หญิง รวยๆ)
หลังๆ แม่งเป็นนายหน้าขายที่ด้วย 55555
Edited by renton, 1 March 2014 - 08:53.
#91
Posted 1 March 2014 - 08:52
คุณ Kenta ข้อมูลน่าสนใจดีจัง(ทุกความเห็น) ไม่ทราบว่าไปเอามาจากไหนหรือว่าทำงานให้ธรรมกายครับ
#92
Posted 1 March 2014 - 09:41
สันติอโศก คนเขาก็รักเหมือนกันนะ ไม่ไปบอกหน่อยละ
ถึงบางอย่างผมจะไม่ค่อยเห็นด้วยกับทางสันติอโศก แต่การปฏิบัติตนนั้นกระทำเหมือนพระทุกอย่าง
ถือศีล 227 ข้อ แถมการปฏิบัติบางอย่างหนักหน่วงและเคร่งกว่าพระบางวัดเสียอีก
แล้วอีกอย่าง ท่านเหล่านั้นก็ประกาศแยกตัวเป็นอิสระออกจากมหาเถรสมาคมแล้ว
เพราะต้องการต่อสู้ตามแนวทางของตน เพื่อไม่ต้องการให้ศาสนาต้องแปดเปื้อน
แต่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมบางที่ยังเรียกตัวเองว่าเป็นวัดอยู่ ทั้ง ๆ ที่บิดเบือนคำสั่งสอน
และหลักพุทธปฏิบัติ มันมีเหรอทำบุญด้วยเส้นบะหมี่แล้วได้สร้อยทองเส้นบะหมี่
มันอยู่ในบทไหนที่พระพุทธเจ้า แสดงธรรมเทศนาครับ
หรือแค่อีเว้นท์หาเงินเข้าวัดโดยวิธีแห่งความลุ่มหลง
สรุปแล้วคนจนนี่ลงนรกอย่างเดียวเลย ต้องเอาตังค์ไปซื้อทองหล่อหลวงปู่
บริจาคบ้านเพื่อให้มีบ้านอยู่บนสวรรค์ บริจาคที่ดินเพื่อจองพื้นที่บนสวรรค์
ผมว่าถ้าหลวงปู่สดท่านยังอยู่ ท่านคงเสียใจมากที่มีคนเอาท่านมาหากินแบบนี้
อย่ามาเห่าว่ากรูมาจากการเลือกตั้ง เพราะการเลือกตั้งไม่ใช่ทุกอย่างของประชาธิปไตย
การตรวจสอบบ้านเมืองอย่างเข้มข้น ทั้งฝ่ายนิติบัญญัติและตุลาการ จำเป็นสำหรับประเทศไทย
สิ่งที่บ่งบอกว่าประเทศไหนพัฒนาแล้วไม่ได้ดูที่ มีตึกสูงมากเท่าไร มีห้างเยอะไหม มีจีดีพีสูงแค่ไหน
แต่ดูที่การศึกษา และ คุณภาพของบุคลากรภายในประเทศ
#93
Posted 1 March 2014 - 09:49
..... ลัทธิ จานผี.... ท่านอาจารย์ คึกฤทธิ์..
พูดไว้ นานแล้ว...ว่าจะมีปัญหา...แต่ทั้ง
มหาเถรสมาคม..กรมการ ศาสนา เฉยเมย
เลยเป็นเช่น ทุกวันนี้......น่าจะเกินเยียวยา..
- ตะนิ่นตาญี and ซีมั่น โลช่า like this
#94
Posted 1 March 2014 - 10:14
คุณ Kenta ข้อมูลน่าสนใจดีจัง(ทุกความเห็น) ไม่ทราบว่าไปเอามาจากไหนหรือว่าทำงานให้ธรรมกายครับ
รู้สึก แปลกๆ กับการใช้คำพูดของท่านในการถาม
แต่ก็พอตอบท่านได้บ้าง คร่าวๆ ว่า ......................
ข้อมูลเหล่านั้น จะมีของจริงได้ ก็แค่ ต้องรู้จัก ตัวจริงให้เยอะ ต้องอ่านให้เยอะๆ ต้องคิดเองเป็นให้เยอะๆ
แค่นี้ก่อนแล้วกัน
ในประเทศไทย ไม่มีใครมีข้อมูล ของวัดพระธรรมกาย กว้างและลึก เท่าเรา
- ประชาราบ likes this
ชอบเข้ามาอ่าน
เพราะความเห็นของบางคน
ช่างโง่และทุเรศสิ้นดี
#95
Posted 1 March 2014 - 10:23
รังเกียจธรรมกายมากอ่ะ
ตอนแรกที่รู้จักผ่านๆ หู ก็เหรอ วัดดัง ?
ต้องบริจาคเงินเยอะๆ ถึงจะได้บุญ
บอกตรงๆ เอาเงินพ่อแม่ไปหาของอะไรอร่อยๆ กินดีกว่า
น่าเศร้ามากที่พวกติดลัทธิธรรมกาย ผลาญเงินพ่อแม่ครอบครัวเอาไปให้ธรรมกายหมด ครอบครัวเดือดร้อนทั่วหน้าด้วยสิครับ
โดยอ้่างว่า "เอาบุญมาฝาก"
เอ่อ...บุญมันฝากกันได้ด้วยหรือ?
แถมล้วงเอาเงินพ่อแม่ไปให้วัดโดยไม่ได้ขออนุญาตเนี่ยนะ.................. อึ้งครับ
บุญจริงๆ เอามาเป็นขอฝากได้ครับ อันนี้ พระพุทธเจ้าตรัสเรื่องกุศลขอการอนุโมทนา ไว้ การอนุโมทนา คือการชื่นชมยินดี เหมือรเราชื่นชมยินดีที่ได้รับของฝาก แต่การอนุโมทนาเป็นการชื่นชมยินดีในการทำบุญทำกุศลของผู้อื่น เราก็จะได้ ผลบุญกุศลด้วย
- ช่วยเตือน สติ พวกผมหน่อย likes this
#96
Posted 1 March 2014 - 10:40
คุณ Kenta ข้อมูลน่าสนใจดีจัง(ทุกความเห็น) ไม่ทราบว่าไปเอามาจากไหนหรือว่าทำงานให้ธรรมกายครับ
รู้สึก แปลกๆ กับการใช้คำพูดของท่านในการถาม
แต่ก็พอตอบท่านได้บ้าง คร่าวๆ ว่า ......................
ข้อมูลเหล่านั้น จะมีของจริงได้ ก็แค่ ต้องรู้จัก ตัวจริงให้เยอะ ต้องอ่านให้เยอะๆ ต้องคิดเองเป็นให้เยอะๆ
แค่นี้ก่อนแล้วกัน
ในประเทศไทย ไม่มีใครมีข้อมูล ของวัดพระธรรมกาย กว้างและลึก เท่าเรา
ขออภัยที่เขียนสั้นไปหน่อย เลยดูกำกวมไป
น่าจะใช้ว่า"เคย"ทำงานให้ธรรมกาย หรือ"เคย" เป็นลูกศิษย์ เลยรู้ลึกครับ
- ช่วยเตือน สติ พวกผมหน่อย likes this
#97
Posted 1 March 2014 - 10:50
จะมีคนบ้าขนาดหนักหรือไม่ โกงคนอื่น เพื่อไปบริจาคให้วัดธรรมโกย
รู้สึกว่าพวกชั่ว โกง จั ญไร ในยุคปัจจุบันนี้ ล้วนเป็นสาวกที่มี ทำมะกายกับทักษิณเป็นศูนย์กลางนะ
และอย่าได้แปลกใจที่ DSI ทำคดี สหกรณ์ยูเนี่ยน ได้หวานเย็น+อืดเป็นเรือเกลือ ทั้ง ๆ ที่ยอดความเสียหายสูง มีคนเดือนร้อนเป็นพัน เป็นหมื่น
ขนาดแจ้งข้อหาดำเนินคดีแล้ว ศุภชัย ยังทะลึ่งได้รับเลือกตั้งกลับมาเป็นทีมบริหารสหกรณ์ได้ใหม่ ลอกวงจรอุบาทว์แบบการเมืองไทยไปเด๊ะเลย
..... ลัทธิ จานผี.... ท่านอาจารย์ คึกฤทธิ์..
พูดไว้ นานแล้ว...ว่าจะมีปัญหา...แต่ทั้ง
มหาเถรสมาคม..กรมการ ศาสนา เฉยเมย
เลยเป็นเช่น ทุกวันนี้......น่าจะเกินเยียวยา..
สันติอโศก คนเขาก็รักเหมือนกันนะ ไม่ไปบอกหน่อยละ
สันติ อโศกเขาแยกลัทธิไปแล้วครับ ถ้าธรรมกายแยกออกไปแบบสันติอโศกไม่มาแอบอยู่ในพุทธเถรวาทคงไม่ถูกวิจารณ์มาก ขนาดนี้หรอกครับ ว่าแต่กล้าแยกไหมหล่ะ
จะให้ ทำมะกาย แยกลัทธิไปเดี๋ยววัดและพระผู้ใหญ่ที่ได้รับอุดหนุนจากอีเวนท์ต่าง ๆ ของวัดจานบิน ก็ออกมาเดินขบวนประท้วงกันน่ะซิ
เหมือนนโยบายประชานิยม ที่สาวกหลายตัวบอกว่า "ตาสว่างแล้ว" รู้ว่าเป็นยาพิษ รู้ว่าไม่ดี
แต่จะให้เลิกง่าย ๆ ได้ไง ลงแดงตายเลยนะนั่น
#98
Posted 1 March 2014 - 11:23
คุณ Kenta ข้อมูลน่าสนใจดีจัง(ทุกความเห็น) ไม่ทราบว่าไปเอามาจากไหนหรือว่าทำงานให้ธรรมกายครับ
รู้สึก แปลกๆ กับการใช้คำพูดของท่านในการถาม
แต่ก็พอตอบท่านได้บ้าง คร่าวๆ ว่า ......................
ข้อมูลเหล่านั้น จะมีของจริงได้ ก็แค่ ต้องรู้จัก ตัวจริงให้เยอะ ต้องอ่านให้เยอะๆ ต้องคิดเองเป็นให้เยอะๆ
แค่นี้ก่อนแล้วกัน
ในประเทศไทย ไม่มีใครมีข้อมูล ของวัดพระธรรมกาย กว้างและลึก เท่าเรา
ขออภัยที่เขียนสั้นไปหน่อย เลยดูกำกวมไป
น่าจะใช้ว่า"เคย"ทำงานให้ธรรมกาย หรือ"เคย" เป็นลูกศิษย์ เลยรู้ลึกครับ
วันนี้ เรามีธุระสำคัญทั้งวัน
ไว้กลับมาจะเขียนให้ท่านอ่าน .............. ถ้าท่านยังอยากอ่าน
ช่วย Post ว่า ถ้าท่านยังอยากอ่าน ..... ท่านอยากอ่านที่ webboard หรือ ที่ inbox message
- ประชาราบ and ทั้งรู้ก็รัก like this
ชอบเข้ามาอ่าน
เพราะความเห็นของบางคน
ช่างโง่และทุเรศสิ้นดี
#99
Posted 1 March 2014 - 11:32
แม่ชีปัดระเบิด ไม่รู้คนอื่นเชื่อหรือเปล่า แต่เพื่อนผมมันเชื่อสนิทใจนะเรื่องนี้
ผมเปิดให้มันดู มันแย้งผมกลับ แล้วถามผมว่า
"มึงเกิดทันเหรอ"
Edited by templar, 1 March 2014 - 11:33.
อย่ามาเห่าว่ากรูมาจากการเลือกตั้ง เพราะการเลือกตั้งไม่ใช่ทุกอย่างของประชาธิปไตย
การตรวจสอบบ้านเมืองอย่างเข้มข้น ทั้งฝ่ายนิติบัญญัติและตุลาการ จำเป็นสำหรับประเทศไทย
สิ่งที่บ่งบอกว่าประเทศไหนพัฒนาแล้วไม่ได้ดูที่ มีตึกสูงมากเท่าไร มีห้างเยอะไหม มีจีดีพีสูงแค่ไหน
แต่ดูที่การศึกษา และ คุณภาพของบุคลากรภายในประเทศ
#100
Posted 1 March 2014 - 11:34
วันนี้ เรามีธุระสำคัญทั้งวันรู้สึก แปลกๆ กับการใช้คำพูดของท่านในการถาม
คุณ Kenta ข้อมูลน่าสนใจดีจัง(ทุกความเห็น) ไม่ทราบว่าไปเอามาจากไหนหรือว่าทำงานให้ธรรมกายครับ
แต่ก็พอตอบท่านได้บ้าง คร่าวๆ ว่า ......................
ข้อมูลเหล่านั้น จะมีของจริงได้ ก็แค่ ต้องรู้จัก ตัวจริงให้เยอะ ต้องอ่านให้เยอะๆ ต้องคิดเองเป็นให้เยอะๆ
แค่นี้ก่อนแล้วกัน
ในประเทศไทย ไม่มีใครมีข้อมูล ของวัดพระธรรมกาย กว้างและลึก เท่าเรา
ขออภัยที่เขียนสั้นไปหน่อย เลยดูกำกวมไป
น่าจะใช้ว่า"เคย"ทำงานให้ธรรมกาย หรือ"เคย" เป็นลูกศิษย์ เลยรู้ลึกครับ
ไว้กลับมาจะเขียนให้ท่านอ่าน .............. ถ้าท่านยังอยากอ่าน
ช่วย Post ว่า ถ้าท่านยังอยากอ่าน ..... ท่านอยากอ่านที่ webboard หรือ ที่ inbox message
อยากครับ
คุณ Kenta ตั้งเป็นกระทู้ใหม่เลยก็ดีครับ
ผมเสนอชื่อกระทู้(ล่วงหน้า) "ล้วงลับวัดธรรมกาย"
หมายเหตุ: ลืมโค้ทครับ
Edited by ประชาราบ, 1 March 2014 - 11:38.
0 user(s) are reading this topic
0 members, 0 guests, 0 anonymous users