ผมได้อ่านบทสัมภาษณ์ผู้บริหารชินคอร์ปกับเอไอเอสแล้วแอบซึ้ง ปกติไม่ชอบทักษิณ เคยคิดจะไปย้ายค่ายตามแกนนำด้วย แต่พอมาเจอบทสัมภาษณ์นี้ก็ชะงัก รู้สึกได้ถึงความจริงใจของผู้บริหารนะ เกิดวิกฤตขนาดนี้ยังยืนเป็นหลักให้พนักงานอยู่ได้
จากที่อ่าน ต้องขอชื่นชมในวิสัยทัศน์ของผู้บริหารทั้ง 2 ท่าน ที่ยอมรับและเคารพการตัดสินใจของมวลชน วางใจให้เป็นกลางที่สุดท่ามกลางสภาวะที่ทางเอไอเอส ต้องโดนผู้ชุมนุมกดดันในหลายๆทาง หรือในประเด็นที่ถูกพาดพิงว่าเอไอเอสมีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลของทักษิณ ชินวัตรก็ตาม ด้วยเหตุผลที่ว่า
“พนักงานของที่นี่ต้องถือว่าลูกค้าเป็นผู้มีอุปการคุณ ลูกค้าจะรับเอาความคิดทางการเมืองข้างใดเป็นหลักนั้น เป็นสิทธิของลูกค้า เป็นเรื่องที่เราต้องเคารพ แต่ความคิดทางการเมืองที่ก่อให้เกิดความรู้สึกทางลบต่อเรา เป็นเรื่องที่สำคัญและต้องรีบแก้ไข เพราะบริษัทตั้งอยู่ได้ด้วยมวลชนหรือประชาชนที่ใช้บริการของเรา”
นายวิเชียร เมฆตระการ ผู้บริหารเอไอเอสยังได้ตอบในประเด็นเรื่องหุ้นที่หลายคนเข้าใจว่าเป็นของทักษิณด้วยว่า “ณ วันนี้ เราไม่ได้เกี่ยวข้องกับอดีตผู้ถือหุ้นแล้ว อันนี้ชัดเจนมาก ที่ผ่านมาเราปฏิเสธได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เคยถือหุ้นเอไอเอสมาก่อน แต่วันนี้ ไม่มีผู้ถือหุ้นเก่าถือหุ้นอยู่แล้ว” และการที่เอไอเอสเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ฯ ทำให้ข้อมูลทุกอย่างเป็นที่เปิดเผย สามารถตรวจสอบได้ไม่ยาก
และที่ผ่านมา จากที่เราเห็นกัน ทางผู้บริหารก็พยายามจะหาช่องทางชี้แจงกับทุกคนแทนพนักงานของเอไอเอส ในสิ่งที่พวกเขาเป็น ในสิ่งที่พวกเขามุ่งมั่นตั้งใจและเห็นการบริการลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญ พร้อมทั้งยินดีที่จะเปิดใจเคลียร์กับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณในทุกประเด็นด้วยตนเอง
การที่ผู้บริหารออกมาเปิดใจกันขนาดนี้ ถือว่าเอไอเอสเขาชัดเจนและจริงใจมากครับ พร้อมที่จะให้ทุกคนได้พิสูจน์ความจริงตลอด ยังไงก็เอาใจช่วยให้ทุกคนและประเทศชาติผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้นะครับ
ใจจริงก็อยากเอามาให้อ่านมากกว่านี้ แต่มันยาวมาก อยากให้ทุกคนอ่านเองครับ ที่นี่ >>http://www.thairath.co.th/column/eco/ecoscoop/407098