http://www.thaipost....ws/090314/87196
รัฐบาลลองของ ไม่คืนตำแหน่งเลขาฯ สมช.ให้ "ถวิล" ใน 45 วัน "พงศ์เทพ" อ้างต้องใช้เวลา ศาลปกครองจะมาบังคับไม่ได้ เพื่อไทยขย่มซ้ำ เป็นสิทธิอันชอบธรรมของรัฐบาลที่จะเลือกคนมาทำงาน หากทำตามศาลคงนั่งทำงานกับรัฐบาลของประชาชนผู้รักประชาธิปไตยลำบาก เพราะทำตัวเป็นคอหอย ลูกกระเดือก กับ "มาร์ค-เทพ" ขณะที่ "ถวิล" ยอมรับต้องรื้อ สมช.ใหม่ ปัญหาภาคใต้ไม่เดินตาม "ภราดร"
ภายหลังศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยให้เพิกถอนประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 30 กันยายน 2554 ซึ่งมีผลให้นายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีกลับสู่ตำแหน่ง เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ภายใน 45 วัน ได้ถูกท้าทายจากรัฐบาลอีกครั้ง โดยนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา ปฏิบัติหน้าที่รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่าอาจคืนไม่ทันตามเงื่อนเวลาดังกล่าว
นายพงศ์เทพ ซึ่งเป็นมือกฎหมายของรัฐบาล มีอดีตเป็นผู้พิพากษา อ้างว่าการดำเนินการเรื่องนี้ไม่ทราบเป็นอย่างไร และยังไม่ได้ดูคำพิพากษา เพราะไม่ได้รับผิดชอบตรงส่วนนี้ แต่การคืนตำแหน่งให้นายถวิลนั้น ต้องพิจารณาหลายประเด็นที่เกี่ยวพัน คำสั่งย้อนหลังอย่างไร มีผลกระทบกับใครกี่คน เพราะคนที่มาสวมตำแหน่งนี้มีทั้ง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี และพล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร
"หากขั้นตอนทางกฎหมายไม่สามารถกระทำได้ทันใน 45 วัน ศาลต้องเข้าใจ เพราะกระบวนการต่างๆ ต้องใช้เวลา ศาลจะมาบังคับไม่ได้ " ผู้ปฏิบัติหน้าที่รองนายกรัฐมนตรีกล่าว
ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเคารพคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุด แต่รัฐบาลมีสิทธิอันชอบธรรมที่จะเลือกคนที่เชื่อได้โดยบริสุทธิ์ใจ ว่าจะเข้ามาดูแลงานด้านความมั่นคงให้กับประเทศชาติได้อย่างดีที่สุด
รองโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ลงนามในคำสั่งโยกย้าย พล.ท.สุรพล เผื่อนอัยกา อดีตเลขาฯ สมช. ก่อนที่นายถวิลจะมาทำหน้าที่ ทั้งที่เป็นคนมีความรู้ความสามารถด้านความมั่นคง แต่กลับไม่เคยมีปัญหา เพราะทุกคนต้องปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา ดังนั้นขออย่า 2 มาตรฐาน (อีนี่ตอบมั่ว ก็เขาฟ้องศาลให้คืนตำแหน่งเหมือนกัน แต่มันคงลืมทำการบ้านก่อนพล่าม)
นายอนุสรณ์กล่าวว่า นายถวิลคงนั่งทำงานกับรัฐบาลของประชาชนผู้รักประชาธิปไตยลำบาก เพราะทำตัวเป็นคอหอย ลูกกระเดือกแบบแยกกันไม่ได้ กับนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ในช่วงสถานการณ์ประกาศเขตกระสุนจริง ใช้อาวุธสงครามยิงใส่ประชาชน แทนที่จะกระ***นกระหือรือ กลับมาช่วยงาน ศรส. เอาเวลาไปสู้คดีสลายการชุมนุมปี 53 หรือเอาเวลาไปขึ้นเวที กปปส.จะดีกว่า เพราะเป็นงานประจำและทำได้ดี
รองโฆษกพรรคเพื่อไทยระบุต่ออีกว่า พรรคขอให้กำลังใจและชื่นชมการทำงานของ พล.ท.ภราดร ซึ่งสามารถทำงานได้ดี มีผลงานเป็นที่ประจักษ์มากมาย ทั้งงานด้านความมั่นคงทั่วไป หรือการพูดคุยสันติภาพกับขบวนการก่อความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ รวมถึงเป็นกำลังสำคัญใน ศรส.
ขณะที่นายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศราwww.isranews.org ว่า ยังเร็วเกินไปที่จะคุยเรื่องนี้ แต่ตนได้คุยกับพรรคพวกไว้แล้ว คงต้องปรับการทำงานกันใหม่หมด โดยเฉพาะในเรื่องปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะคนในภาคใต้หลายภาคส่วนรอการเปลี่ยน
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะยกเลิกการพูดคุยสันติภาพกับกลุ่มบีอาร์เอ็นที่ พล.ท.ภราดรไปลงนามไว้หรือไม่ เขาตอบว่า วิธีเดิมคงไม่ได้ คงต้องปรับ แต่คงเร็วไปที่จะพูด ตนขอเวลาอีกสักหน่อย เพราะต้องรอให้นายกฯ คืนตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน
ถามว่า จะมีการเปลี่ยนทีมงานใน สมช.ที่ พล.ท.ภราดรแต่งตั้งมาช่วยงานหรือไม่ นายถวิลตอบว่า มันทำงานด้วยกันไม่ได้อยู่แล้ว เพราะมันไม่ใช่มืออาชีพ มาด้วยวาระแอบแฝง เอาคนเข้ามานั่งทั้งที่ไม่มีประสบการณ์การทำงาน
ซักว่า จะคืนตำแหน่งให้นายสมเกียรติ บุญชู ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในตำแหน่งรองเลขาธิการ สมช.หรือไม่ นายถวิลระบุว่า ควรคืนตำแหน่งให้นายสมเกียรติด้วย เพราะเขาไม่ได้รับความเป็นธรรม ตนก็ต้องคืนความเป็นธรรมให้เขา ถ้าตนไปอยู่แล้วตนก็ต้องทำ แต่ก็ต้องรอให้ ครม.อนุมัติด้วย
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มองว่าคำสั่งของศาลปกครองสูงสุดเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงการใช้อำนาจของรัฐบาลในกระบวนการโยกย้าย ที่ต้องการนำเครือญาติของตนมาดำรงตำแหน่ง ซึ่งกรณีนี้เป็นอุทาหรณ์ของข้าราชการการเมืองที่ไม่ควรใช้อำนาจเพื่อคนในครอบครัวและเพื่อประโยชน์ส่วนตน พร้อมกันนี้ นายองอาจยังตั้งข้อสังเกตว่า ขณะนี้มีหลายหน่วยงานยื่นคำร้องเกี่ยวกับการกระทำที่ผิดกฎหมายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีและคนในรัฐบาล ต่อศาลและองค์กรอิสระ ซึ่งรัฐบาลควรปล่อยให้กระบวนการต่างๆ ดำเนินไปอย่างเป็นอิสระ แต่กลับมีกลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่งคอยข่มขู่คุกคามองค์กรอิสระเหล่านี้ ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ควรปล่อยให้มีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น เพราะจะยิ่งสร้างความขัดแย้งมากขึ้น
วันเดียวกันนี้ พล.ท.ภราดรให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาฯ นายกฯ กำลังประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการยกเลิกหรือถอนคำสั่งแต่งตั้งที่ทำมา แต่อย่างไรก็ตาม การดำเนินการนี้จะไม่มีผลต่อผู้ปฏิบัติในอดีต โดยเฉพาะ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เพราะได้เกษียณอายุราชการไปแล้ว ก็คงมีเพียงตนเอง เนื่องจากยังอยู่ในตำแหน่งอยู่
"ยอมรับว่ากรณีนี้ค่อนข้างสับสนและยุ่งพอสมควร เหมือนเป็นสิ่งที่อยู่ในโลกของความฝัน หรือสมมติ แต่เอามาใช้ในโลกของความเป็นจริง"
เขากล่าวว่า นายถวิลสามารถกลับเข้ามารับตำแหน่งเลขาฯ สมช.ได้ เพราะยังเหลือเวลาอีก 5-6 เดือนกว่าจะเกษียณ สำหรับตน เมื่อนายถวิลกลับมา จะไปอยู่ที่ไหนก็แล้วแต่ รัฐบาลจะตัดสินใจให้ตนไปอยู่ที่ไหน แต่ต้องเป็นระดับ 11 เท่ากัน ถือเป็นระดับบริหาร
"จริงๆ แล้วก็สามารถไปได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นปลัดกระทรวงอื่นๆ หรือที่ปรึกษานายกฯ หรือเลขาฯ ต่างๆ ถ้าในหน่วยงานด้านความมั่นคงเหมือนกัน ก็มีสำนักข่าวกรองฯ ไม่ซีเรียสและไม่ได้เสียความรู้สึก อยู่ที่ไหนก็ได้ เราเป็นข้าราชการ เราเลือกตำแหน่งให้ตัวเองไม่ได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้เลือกให้ ในชีวิตผมได้มีโอกาสเลือกเองเพียงครั้งเดียวคือตอนเป็นนายร้อย ว่าจะไปลงที่ไหน จากนั้นผู้บังคับบัญชาจะเลือกให้หมด จะพอใจหรือไม่ก็ต้องไป" เลขาฯ สมช.กล่าว
ถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะไปรับตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯ ชั่วคราวก่อน รอจนกว่านายถวิลเกษียณอายุราชการเดือนกันยายนนี้ค่อยกลับมา เลขาฯ สมช.กล่าวว่า ไม่ทราบ แล้วแต่นายกฯ อย่างไรก็ตามหากนายถวิลกลับมา ก็ถือว่าจะเข้าไปเป็นกรรมการศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) โดยตำแหน่งอยู่แล้ว แต่เมื่อเข้าไปแล้ว ขะทำงานได้หรือไม่ในท่าทีอย่างนี้ หรือเข้าไปแล้วเขาจะมอบหมายงานให้ทำหรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งต้องแล้วแต่ ผอ.ศรส.