แต่ที่อาจารย์ว่าไว้ ก็น่าใส่ใจพิจารณา...
รศ.มานิตย์ จุมปา อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงแนวทางที่อาจจะเกิดขึ้นได้กับการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนญ กรณี พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้าน
------------------------------------------------------------
ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัย ออกมาใน 3 แนวทาง คือ
1.ศาลมีมติเห็นว่า ร่างพ.ร.บ. กู้เงิน 2 ล้านล้านของรัฐบาลตราขึ้นโดยถูกต้องด้วยกฏหมายทุกประการ ก็จะเข้าสู่กระบวนการส่งคืนประธานรัฐสภา เพื่อให้นายกรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าถวายให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ทรงลงพระปรมาภิไธย ภายใน 20 วัน
2.ถ้า ศาลเห็นว่า ร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้าน ขัดในส่วนของกระบวนการตราพระราชบัญญัติ เช่น กรณี ส.ส.เสียบบัตรแทนกัน ซึ่งถ้าหากศาลมองว่าเป็นสาระสำคัญก็จะทำให้ พ.ร.บ.ทั้งฉบับตกไป ในเชิงของกระบวนการ
3.เนื้อหาของตัวร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้าน ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะสามารถแยกเป็น
3.1 เห็นว่าเนื้อหาที่ขัดไม่ใช่มาตราสำคัญ
3.2.ศาลเห็นว่ามาตราที่ขัดเป็นสาระสำคัญ ก็จะทำให้ พ.ร.บ. ทั้งฉบับตกไปเช่นกัน แต่ทั้งนี้ก็เป็นไปได้ว่าทั้งกระบวนการและเนื้อหาก็ไม่ชอบด้วยกฎหมายทั้งคู่
เมื่อถามว่ารัฐบาลจะต้องรับผิดชอบอย่างไรหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยมาเป็นผลลบต่อรัฐบาล?
รศ.มานิตย์ขอแยกเป็น 2 กรณี คือ
กรณีที่ 1.การรับผิดชอบทางการเมือง ซึ่งไม่มีเขียนไว้ในตัวบทกฎหมายว่าจะต้องรับผิดชอบอย่างไร แต่ถ้ากฎหมายใดเป็นนโยบายสำคัญแล้วไม่ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภา นายกรัฐมนตรีควรจะแสดงสปิริตทางการเมืองด้วยการลาออกจากตำแหน่งทันที
กรณีที่ 2 รับผิดชอบตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญมาตรา 270 ซึ่งนำมาจากกระบวนการของอเมริกา หรือ ที่เรียกว่า ระบบอิมพิชเมนต์ Impeachment คือการที่ศาลเห็นว่า ผู้ใดมีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติส่อไปในทางทุจริตต่อหน้าที่ ส่อว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ส่อว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฎิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง วุฒิสภามีอำนาจถอดถอนผู้นั้นออกจากตำแหน่งได้
แต่เมื่อถามว่าขณะนี้นายกรัฐมนตรี ก็อยู่ในสถานรักษาการแล้วจะมีผลอย่างไร?
อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ กล่าวว่า ก็ต้องออกจากตำแหน่งทันที แม้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญจะบอกว่าต้องปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมี ครม.ชุดใหม่มารับช่วงต่อก็ตาม แต่รองนายกรัฐมนตรีสามารถขึ้นมาปฏิบัติตำแหน่งแทนได้เพื่อให้นโยบายต่างๆ ของรัฐสามารถดำเนินการต่อไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
ขณะที่มีข้อสงสัยว่า แล้วถ้า พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านฉบับนี้ตกไป จะสามารถนำมากลับมาได้อีกหรือไม่?
รศ.มานิตย์ ตอบข้อสงสัยทันทีว่า กรณีนี้จะต้องเป็นเฉพาะในส่วนที่ศาลวินิจฉัยว่า พ.ร.บ. กู้เงิน 2 ล้านล้าน ขัดกับรัฐธรรมนูญ เฉพาะในส่วนของกระบวนการเท่านั้น “ย้ำ” กระบวนการเท่านั้น เช่น หากศาลวินิจฉัยว่า การที่ ส.ส.เสียบบัตรแทนกัน ถือเป็นกระบวนการที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ก็นำกลับมาพิจารณาใหม่ให้บริสุทธิ์โปร่งใสตามขั้นตอนได้ คือการนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม. นำเสนอผ่านรัฐสภา ลงมติรับหลักการ ลงมติวาระ 1 2 3 และในส่วนของ ส.ว. เหมือนปกติทุกขั้นตอน ส่วนการที่ยังไม่มีสมาชิกรัฐสภาก็ไม่ถือว่าเป็นปัญหา เพราะกฎหมายไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ดังนั้น พ.ร.บ.ฉบับนี้ จึงสามารถรอจนกว่าจะมีสภาได้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า รัฐบาลชุดใหม่จะนำขึ้นมาเสนออีกหรือไม่
https://www.facebook...korn?ref=stream