กปปส.โคราช ร่วมกับ กปปส.20 จว.อีสาน เปิดเวทีแสดงจุดยืน อีสานหลากสี ไม่ใช่สีแดงสีเดียว เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 13 มี.ค. ที่ห้องประชุมกินรี ชั้น 7 โรงแรมปัญจดารา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายจักริน เชิดฉาย ประธาน กปปส.จังหวัดนครราชสีมา ได้จัดประชุมกลุ่มแกนนำ กปปส. ทั้ง 20 จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในหัวข้อ อีสานหลากสี เพื่อแสดงจุดยืนและยืนยันว่าในพื้นที่ภาคอีสานไม่ใช่พื้นที่สีแดงเพียงสีเดียว แต่เป็นพื้นที่ของทุกคนและทุกสี อีกทั้งเพื่อป้องกันไม่ให้ใครที่คิดจะเข้ามาแบ่งแยกดินแดนของทุกๆคน เพื่อกลับไปทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ของตนเอง และกลุ่ม กปปส.ทุกจังหวัด ในการปกป้องประชาธิปไตย และประเทศชาติที่ไม่สามารถแบ่งแยกได้ ซึ่งภายในการจัดประชุมในครั้งนี้ ยังได้รับเกียรติจาก นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูรณ์ แกนนำ กปปส. ร่วมบรรยายพิเศษในหัวข้อ อวสานทักษิณซึ่งมีแกนนำ กปปส.จาก 20 จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าร่วมรับฟังกันเป็นจำนวนมาก
นายจักริน เชิดฉาย ประธาน กปปส. จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า สำหรับการจัดประชุมในครั้งนี้ เป็นการรวบรวมกลุ่ม กปปส. ในพื้นที่จังหวัดนคราชสีมา และพื้นที่ทางภาคอีสานทั้ง 20 จังหวัด โดยใช้หัวข้อในการจัดประชุมในครั้งนี้คือ อีสานหลากสี เนื่องจากต้องการให้ประชาชนทุกคนได้รับทราบว่า ในพื้นที่ภาคอีสานทั้ง 20 จังหวัด นั้น ไม่ใช่พื้นที่ของคนสีแดงเพียงสีเดียว เพราะทุกพื้นที่ก็จะมีสีต่างๆที่อยู่กันทั่วไป ดังนั้นเพื่อแสดงให้เห็นว่าทุกสีสามารถที่จะอยู่ร่วมกันได้ โดยเฉพาะในพื้นที่จ.นครราชสีมา ที่มีกระแสข่าวว่าเป็นพื้นที่ของคนเสื้อแดง ตนยืนยันว่าจังหวัดนครราชสีมาไม่ใช่พื้นที่คนเสื้อแดง เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่เป็นคนที่จังรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จประเจ้าอยู่หัว และไม่เห็นด้วยกับการแบ่งแยกประเทศไทย
"โดยเฉพาะการที่จะให้พื้นที่จังหวัดนครราชสีมา นั้นเป็นเมืองหลวงของคนเสื้อแดงนั้น ทำให้ทาง กปปส.จังหวัดนครราชสีมา และพื้นที่ทั้ง 20 จังหวัด จำเป็นที่จะต้องออกมาแสดงเจตนารมณ์ที่ไม่เห็นด้วยในการใช้พื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เป็นเมืองหลวงเสื้อแดง ซึ่งผมเองคิดว่าในการจัดกิจกรรมในวันนี้อาจจะเป็นการเริ่มต้นเข้าสู่กระบวนการในการปฏิรูปในภาคประชาชน ที่ได้มีการดำเนินการคู่ขนานกับที่กรุงเทพมหานคร และต่อจากนี้ไปก็จะมีการจัดกิจกรรมเสวนาในทุกๆหัวข้อ ที่จะสามารถในการปฏิรูปประเทศซึ่งไม่จำเป็นที่จะต้องรอส่วนการ ดังนั้นประชาชนในส่วนภูมิภาคก็สามารถที่จะทำร่วมกันได้โดยมีหัวข้อที่คิดว่ามีความเหมาะสม" นายจักริน กล่าว