เหม่..อย่าคิดไปไกลว่าเป็นแนวร่วมกบฏไพร่แดงครับ ไม่ใช่หรอก ฟันธง
แต่พวกเขาแค่ ขอแบ่ง มาร์เก็ตแชร์ ก็เท่านั้น ตกขบวนไปใครเล่าจะเหลียวแล
เรื่องอื่นไปไม่รอด ขอแบ่งสันปันส่วนเรื่องพลังงานก็แล้วกัน อย่างน้อยๆ ก็จะได้เชิดหน้าชูตาแอบอ้างได้บ้าง
"ฉันก็เป็นคนผลักดันการปฏิรูปพลังงานนะเฮ้ย ชาวไทย!!!" เพราะเรื่องพลังงาน มันมีหลายมิติ หลายขุมกำลัง
จะตีแผ่ด้านมืด(หรือเปล่า?)ก็ได้ จะพล่ามด้านสว่างก็หรู จะเขียนด่าเอามันส์ก็ไม่มีคนขัดข้อง
จะแชร์ข้อมูลผิดๆ เทาๆ มัวร์ๆ ไป ก็หาคนตรวจสอบยาก เพราะทุกอย่างมันเลื่อนลอย บนผลประโยชน์ของทุกๆ ฝ่าย
การได้มาซึ่ง "ทุน" สนับสนุน มันมาได้จากหลายๆ ทาง ทั้งฝ่ายสร้างผลประโยชน์
และฝ่ายพยายามสร้างกระแสเพื่อแบล๊คเมล์ผลประโยชน์ มันมีกันทั้งนั้น เรียกว่า "ชั่วกับชั่วกว่า"
มันก็สมประโยชน์กันทุกฝ่ายนั่นแล ไม่เชื่อพ้ม ซื้อสื่อเครือ ASTV Manager มาสักฉบับสิ!!!
เกือบทุกอย่างที่พวกเขาทำ เข้าทางตรีนแดงกับแม้วหมดเลย
ในช่วงจังหวะที่เหมาะเจาะด้วย ทำให้เชื่อยังงั้นจริงๆ ค่ะ
จังหวะน่ะใช่ ไม่ผิดหรอกครับจะเข้าใจไปในทิศทางแบบนี้
ต้องมองในมิติที่ ฝ่ายกบฏไพร่แดงมันแพ้ทุกแนวรบแล้ว จะตายวันตายพรุ่ง ยังไม่รู้ทิศทางเลยด้วยซ้ำ
ดูจากการปรับยุทธศาสตร์พรรค ในข่าวล่าสุด ก็น่าจะอนุมานได้ว่า กำลังพยายามก่อการอีกครั้ง จึงไปตั้งแนวรบมาใหม่เพื่อก่อเหตุ ก่อการณ์อีก
กลับมาที่ฝั่ง กปปส.เอง การขยับตัวของแนวร่วมเครือ ASTV แบบนี้มีนัยสำคัญสิ่งเดียว คือ
ขอแบ่งสันปันส่วนการมีส่วนร่วม-เป็นแกนหลัก แกนใดแกนหนึ่ง ก่อนการประกาศชัยชนะของมวลมหาประชาชนก็เท่านั้นเอง
คนกลุ่มนี้จะพยายามสร้างกระแส ถีบแกนนำฝั่งกำนันให้เป็นจำเลยสังคม พยายามสร้างความคลุมเครือเพื่อชิงมวลชน
ที่ผมกล่าวหา ไม่ใช่เกินเลยหรือไม่มีข้อเท็จจริง แต่ทั้งหน้าข่าวและกลุ่มโซเชียล พวกนี้พยายามรุกขย่มมานานแล้ว ผมขอหยิบยก 3 ข้อหลักๆ ให้ลองพิจารณากันเล่นๆ
1. การกล่าวหาการนำของกำนันสุเทพและแกนนำหัวหอกที่ลาออกจากพรรค ปชป. ว่าพรรคปชป. อยู่เบื้องหลังคอยตีกินผลประโยชน์
ผล คือ ปชป. มีส่วนร่วมน้อยมาก การเข้ามาในพื้นที่ล้วนเป็นการเข้ามาเป็นการส่วนตัวทั้งสิ้น สิ้นข้อสงสัยเรื่องการตีกิน หลังกำนันประกาศก้อง ไม่รับผลประโยชน์ใดๆ (ฝ่าย ASTV ไม่กล้าเล่นเกินเลยประเด็นนี้แน่ๆ ไม่งั้น สนธิ ได้โดนรองเท้าลูบปากไปอีกนาน หลังถ่มน้ำลายแล้วก้มลงไปเลียเสียเอง)
2. การสร้างกระแสปรามาสการนำ การเดิน ท่วงทำนองการเคลื่อนไหวของมวลชน ว่ากำนันยังอ่อนด้อย ต้องขอคำแนะนำจาก สนธิ/จำลอง
ผล คือ กำนันไม่ทำตามข้อเรียกร้อง กุนซือฝ่าย กปปส.เก่งกว่า-เก๋ากว่า-มีหลายคน ได้ทั้งบุ๋นและบู๊ สันติอหิงสายิ่งกว่า ประเด็นนี้ฝั่ง ASTV ที่เคยเดินม๊อบมาก่อน แพ้หลุดลุ่ย
3. การเขียนบทความสบประมาทการเดินหมากของ กปปส. ที่ลากไปเกี่ยวข้องกับฝ่ายทหารหลายครั้งครา เพื่อพยายามชี้โยง แบ่งแยกมวลชนให้มาเข้าฝั่งตน ด้วยบทความอัปยศ สุดแสนน่ารังเกียจ ท่ามกลางการต่อสู้ที่อีกฝ่ายไม่มีแทบเวลาหายใจหายคอ หรือออกมาตอบโต้ ซึ่งการเดินหมากคราวนี้ ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับที่ พธม.193 วัน เคยทำมาเลยสักนิด ต่างกันตรงที่ ฝ่าย กปปส.ล้วนยึดผลประโยชน์ทั้งตรงหน้า(พ่อค้าแม่ค้าที่เริ่มประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางธุรกิจ)และในอนาคต(ที่รัฐต้องเยียวยา หากธุรกิจเขาเสียหายหนัก) จึงอ่อนข้อและปลดล๊อคให้ ด้วยเพราะแนวรบฝั่งกบฏไพร่ป้อแป้แล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องคีโมมะเร็งไพร่อีก ทำให้เกิดช่องโหว่ที่ฝ่าย ASTV ซึ่งทำตัวหน้าด้านหน้าทนมาตลอด เอาช่องลอดนี้ หาเหตุมาโจมตี ว่ามีการเจรจาลับ สมประโยชน์กันระหว่างกำนันสุเทพ ทหารและฝั่งกบฏไพร่
ผล คือ แนวรบก็ยังรบทำลายรากเน่าของต้นไม้พิษระบอบทักษิณต่อไป ไม่ลดละ ไม่หยุดหย่อน พังพาบไปทีละแนวรบ นี่แหละการโค่นล้มของจริง ที่คนหรือมวลชนสาวก ASTV ไม่เคยมองเห็น อาจเพราะตามืดบอด เพราะโดนน้ำลายสาวปานแอนด์เดอะแก๊งค์มากเกินไป
เมื่อสภาพกบฏไพร่แดง เริ่มเห็นชัดแล้วว่าพังทั้งก๊ก ล่มทั้งโคตรกันเห็นๆ มีหลักฐานประจักษ์ชัดแจ้ง ฝ่าย ASTV มีหรือจะรอช้า เมื่อโอกาสเปิด เวทีปฏิรูปจึงเป็นเป้าหมายหลักให้แย่งชิงมวลชนและผลประโยชน์ในห้วงเวลาสุดท้าย ก่อนที่จะไม่มีวันฟื้นคืนกลับมาอีก เรื่องพลังงาน จึงเป็นเรื่องเดียวที่ฝ่าย ASTV สามารถฉกฉวยโอกาสพลิกสถานะได้ นั่นแลจึงเป็นที่มาของ แคมเปญ "ชกใต้เข็มขัด" ของฝั่ง ASTV นำโดย "สาวปานแห่งบ้านพระอาทิตย์" งานถนัดเขาล่ะ "เสี้ยมให้แตกแยก" แล้วครอบงำ ...
ทำมาแล้วนิ ขนาดในองค์กร ASTV เองก็ตามที ไม่เจื้อป๋ม ถามพี่อัญฯ ก็ได้ ...เอ้า!!!
เพิ่มอีกเคส ลองไปดูวิธีหาเสียงของ "พงศา ชูแนม" ดูก็ได้ ช่วงนี้ ASTV พยายามทั้งผลักทั้งดันกันอยู่ งานนี้บอกคำเดียว "น้าพงศา" เสียคนไปเลย หลังๆ ออกแนวโจมตี กปปส.แล้ว เพราะคำยุยุงส่งเสริมของ ASTV นั่นแหละ
Edited by kritz, 21 March 2014 - 10:54.