Jump to content


Photo
- - - - -

นี่แหล่ะ ไพร่แดง แท้ๆ ?...


  • Please log in to reply
23 replies to this topic

#1 Suraphan07

Suraphan07

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,016 posts

Posted 17 March 2014 - 14:25

ไปเจอมาที่ FB แดง เห็นเขียนเป็นคำกลอน คล้องจองดี ...

พออ่านๆดูถึงได้รู้...

 

ผมว่า กะลาน่าจะใบใหญ่พอควร เลยยังออกมาไม่ได้... ;)

จับแพะชนแกะ แบบนี้นี่เก่งกันนัก... :unsure:  

 

"องค์กรอิสระ"

Screen Shot 2014-03-17 at 14.23.18.png

https://www.facebook...&type=1

 

เพื่อนๆ พอทราบหรือมีข้อมูล เกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้

ช่วยนำมา "แง้มกะลา" ให้เขาได้เห็นโลกจริงกันบ้าง

ก็ดีน่ะครับ...ถือเป็นวิทยาทาน... ^_^ 

 

 



#2 ม่านน้ำ

ม่านน้ำ

    ผมเพิ่งมาครับ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,373 posts

Posted 17 March 2014 - 14:27

แง้มไม่ไหวครับ กีบควายกดกะลาอยู่


Posted Image


#3 เสือน้อย

เสือน้อย

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,990 posts

Posted 17 March 2014 - 14:36

ระดับนี้แล้ว ...  ปล่อยไปเถอะ


-- อรุณสวัสดิ์ทุกท่าน -- http://www.Arunsawat.com

#4 Suraphan07

Suraphan07

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,016 posts

Posted 17 March 2014 - 14:40

เนี่ยะ...เขาชอบคุยกัน แบบเนี๊ยะ...  :unsure:  :wacko:  :blink: 

 

Screen Shot 2014-03-17 at 14.39.53.png

https://www.facebook...&type=1

 

แบบว่า สั้นๆ

ไม่ต้องใช้สมงสมองอะไรกันมากมาย... :lol:



#5 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

Posted 17 March 2014 - 14:54

จะเปิดกระโหลกแล้วเอาอะไรใส่ลงไปแทนขี้เลี่อยดีล่ะครับ  :lol:



#6 Jump Man

Jump Man

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 154 posts

Posted 17 March 2014 - 15:16

ก็ วรรคสุดท้ายนั้นแหละ ว่ากันเอง ฉันมองแค่ "พวกฉันไหม" ใจลำเอียง 


Edited by Jump Man, 17 March 2014 - 15:33.


#7 serialnu

serialnu

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 772 posts

Posted 17 March 2014 - 15:17

คุ้นๆเคยคุยกันเรื่องกล้องแล้วอ้างว่าฮาร์ดดิกส์ 500G ราคา 8500 แพงสลัดๆ  ผมก็ว่าตอบไป ตอนนั้นแล้วนะว่าถ้าฮาร์ดดิกส์ที่ต้องเขียนไฟล์ตลอด ย้ำว่าเขียนไฟล์ตลอด มันต้องทนสลัดๆเลยฮ่ะ เกรดที่ใช้ทั่วไปอย่างเก่ง 6เดือนฮ่ะ แล้วพวกนี้การประกันคือ  พังปุ๊บต้องเคลมของได้เลย เอามาดองไว้เหมือนประกันรอ 1-3อาทิตย์ไมได้ อีกอย่างสมัยนั้นค่าฮาร์ดดิกส์ผมจำได้ผมซื้อฮิตาชิไปตัว 3390 ฮ่ะ 500G  ยิ่งซีเกตไม่ต้องพูดถึง สมัยนั้นซีเกตแพงสลัดฮ่ะ Wd ยังถูกกว่าเยอะ  ซึ่งสลับกันกับสมัยนี้เลย



#8 phoosana

phoosana

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 7,687 posts

Posted 17 March 2014 - 15:20

ใส่น้ำมันรอนสัน แล้วจุด ดังคำโบราณว่า แสงสว่างเสมอด้วยปัญญาไม่มี


We love fender.

#9 หลวงประดิษฐ ดูมันทำ

หลวงประดิษฐ ดูมันทำ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 836 posts

Posted 17 March 2014 - 15:23

ขอบายครับ ....

ต่อให้เราเลี้ยงอาหารมื้อล่ะเป็นแสน ๆ กับคนพวกนี้ ผมก็ยังคิดว่า เค้าก็จะไม่กินอาหารที่เราเลี้ยงเค้า แต่คนพวกนี้จะกลับไปกินหญ้าแทน

เปรียบเทียบกันง่าย ๆ แค่นี้แหล่ะครับ 
  ยิ่งเป็นหมอด้วย หญ้าที่กินก็คงราคาแพงพอตัว  ^_^  ^_^


คนที่อยากเลือกตั้ง ก็ไม่ต่างอะไรกับ คนที่ต้องการมี เพศสัมพันธ์ ????? ต่อให้เค้ารู้ว่าเมื่อเลือกไปก็เกิดปัญหา

ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับกับการที่มีเพศสัมพันธ์ทั้ง ๆ ที่รู้ว่า กำลัง อึ๊-บ ปี๊ กับคนที่เป็นเอดส์
 


#10 Suraphan07

Suraphan07

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,016 posts

Posted 18 March 2014 - 14:10

จากเฟสไพร่แดง. 

บ่องตงๆ... อ่านรู้เรื่องเฉพาะหัวกระทู้ว่า

"เริ่มวงจรอุบาทว์ อีกรอบ" เท่านั้น จริงๆ...  ;) 

Screen Shot 2014-03-18 at 14.05.26.png

http://forum.banrasd...d.php?tid=35605

 

แถมยังนึกไปถึง วงจรอุบาทว์นี้อีก... ;)  

วงจรอุบาทว์.jpg



#11 temp

temp

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,682 posts

Posted 18 March 2014 - 22:16

ขอบายครับ ....

ต่อให้เราเลี้ยงอาหารมื้อล่ะเป็นแสน ๆ กับคนพวกนี้ ผมก็ยังคิดว่า เค้าก็จะไม่กินอาหารที่เราเลี้ยงเค้า แต่คนพวกนี้จะกลับไปกินหญ้าแทน

เปรียบเทียบกันง่าย ๆ แค่นี้แหล่ะครับ 
  ยิ่งเป็นหมอด้วย หญ้าที่กินก็คงราคาแพงพอตัว  ^_^  ^_^

ขอนอกเรื่องนิดครับ

ไม่ได้พูดถึงหมอคนนี้นะ

บางคนอาจจะชอบกินไส้กรอก-แหนม-ข้าวหลาม <_< 


ควายตัวนี้สีขาว


#12 tommyrocker

tommyrocker

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 152 posts

Posted 18 March 2014 - 22:24

1970530_609801099099987_1132333022_n.png



#13 คลำปม

คลำปม

    สลิ่มเต็มขั้นจ้า

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,657 posts

Posted 18 March 2014 - 22:41

ถังขยะที่ กทม.ซื้อใบละ 2,000 นั้นไม่มีนะครับ

 

มีแต่แบบนี้ 1,194 บาท  สั่งซื้อ 125,000 ใบ

 

9C4EzE.JPG

 

แล้วก็แบบถังใหญ่ชุด 3 ใบแบบใส่รีไซเคิลด้วยรวม 240 ลิตร จำนวน ชุดละ 9,750 บาท ซื้อ 10,240 ใบ

 

225281_616972658328663_427450358_n.jpg

 

เห็นคนเสื้อแดงโจมตีกันเสียปากเปรอะ

 

ราคาสูงหรือไม่ผมไม่อยากวิจารณ์   แต่อย่างน้อยเขาก็เข้าประมูลกันมาถูกต้อง

 

และการถังสั่งฉีดชึ้นมาใหม่แบบนี้  พลาสติกเกรดนี้  ต้องมีหนังสือรับรองจากกระทรวงวิทยาศาสตร์ 

 

i9812.jpg09s13.jpg

 

เงื่อนไขแบบนี้  ราคานี้ ผมก็ว่าไม่น่าเกลียด

 

เพราะถังสีทึบที่เขาขายกันทั่วไปก็ใบละพันกว่า (สีใสแพงกว่ามากครับ)

 

 

ที่สำคัญ อบต.ทุกแห่งจัดซื้อกันก็ใบละเกือบ 2,000 ทั้งนั้น  เสิร์ชหาก็เจอ แต่เสื้อแดงไม่เคยสนใจ

 

ยกตัวอย่างที่นนทบุรี ซื้อ 400 ใบไม่ได้สั่งฉีดใหม่ด้วย

 

ก็ตั้งราคาซื้อใบละ 1,800 บาท

1332422361.jpg

http://www.klongkhwa...-05-31-16-06-18

 

ตามร้านเขาก็ขายกันเกือบ 2,000 (เป็นสีใส 4,500)

http://www.suwannaph...etail&pid=85330

 

เสื้อแดงเลิกจินตนาการเรื่องความโกงไปใหญ่โตเลยครับ  ถ้า กทม.โกงจริง  รัฐบาลเขาเอาตายอยู่แล้ว

(ตอนกล้องดัมมี่ไงครับ  เป็นข่าวใหญ่โตสุดท้ายสอบแล้วก็ไม่ได้ผิดปรกติ)

 

จำนำข้าวน่ะเจ๋งๆ  แต่เสื้อแดงสนใจซะที่ไหน

 

ที่เรื่องไม่เป็นประเด็นก็พยายามใส่ร้ายเสียจริง

 

โฮปเวลล์งี้  ถึงขยะงี้  เสาธงงี้  โรงพักงี้  แต่ละเรื่อง

 

คนที่เขาสนใจหาคำตอบเขาเคลียร์กันไปเป็นชาติ


Edited by คลำปม, 18 March 2014 - 23:41.

วิธีการยุติระบอบทักษิณ

ก็แค่เพียงทำให้คนไทยส่วนใหญ่ "ฉลาด"


#14 แม้ว ม.7

แม้ว ม.7

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,237 posts

Posted 18 March 2014 - 23:28

DSI มีไว้ทำไม ถังขยะ กล้อง โรงพัก ถ้าพวกว่าผิดรัฐบาลก็สั่งธาริตลุยไปเลย

ตกลงไม่ลุยเพราะ?

พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้พูดตัดพ้อกับคนที่เดินทางไปพบว่า “พรรคเพื่อไทยมีคนเก่งๆ เยอะ ทั้งนักวิชาการ ด็อกเตอร์ ทูต แต่ไม่กล้าออกมาสู้ คนหน้าตาดีไม่ออกมา พวกที่ออกมาหน้าตาไม่ค่อยดี ไม่เหมือนกับพรรคประชาธิปัตย์ ฝ่ายตรงข้าม คนมีความรู้ นักวิชาการออกมาเยอะแยะเลย คนจริงใจกับผมมันน้อย วางยาผม เพราะตัวเองอยากอยู่นานๆ เห็นว่านายกฯ ไม่แข็ง แต่ท่านนายกฯ ก็ดี แต่คนรอบข้างไม่เป็นการเมือง ผมส่งคนเป็นการเมืองไปนายกฯ ก็ไม่เอา ผมก็สงสารนายกฯ จึงไม่อยากจู้จี้ แต่คนที่เมืองไทยมันไม่ได้ดั่งใจ” 

http://astv.mobi/AlgEYM7

แปลสั้นๆ เขาด่าไอ้เสร่อแกนนำแดงว่า"โง่แต่ขยัน"


#15 ไทยไม่ทน

ไทยไม่ทน

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,381 posts

Posted 19 March 2014 - 00:56

ขอบายครับ ....

ต่อให้เราเลี้ยงอาหารมื้อล่ะเป็นแสน ๆ กับคนพวกนี้ ผมก็ยังคิดว่า เค้าก็จะไม่กินอาหารที่เราเลี้ยงเค้า แต่คนพวกนี้จะกลับไปกินหญ้าแทน

เปรียบเทียบกันง่าย ๆ แค่นี้แหล่ะครับ 
  ยิ่งเป็นหมอด้วย หญ้าที่กินก็คงราคาแพงพอตัว  ^_^  ^_^

 

เลี้ยงผมได้นะครับ  :D  :D  ผมกินนะ  B)  B)


llllllllllllllllllllllllllllll

llllllllllllllllllllllllllllll

llllllllllllllllllllllllllllll

 


#16 หลวงประดิษฐ ดูมันทำ

หลวงประดิษฐ ดูมันทำ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 836 posts

Posted 19 March 2014 - 01:02

 

ขอบายครับ ....

ต่อให้เราเลี้ยงอาหารมื้อล่ะเป็นแสน ๆ กับคนพวกนี้ ผมก็ยังคิดว่า เค้าก็จะไม่กินอาหารที่เราเลี้ยงเค้า แต่คนพวกนี้จะกลับไปกินหญ้าแทน

เปรียบเทียบกันง่าย ๆ แค่นี้แหล่ะครับ 
  ยิ่งเป็นหมอด้วย หญ้าที่กินก็คงราคาแพงพอตัว  ^_^  ^_^

 

เลี้ยงผมได้นะครับ  :D  :D  ผมกินนะ  B)  B)

 

เปรียบเปรยครับเเหม่ !!! เลี้ยงอาหารเป็นแสน ๆ คงต้องสนับสนุนให้ผมไปโกงชาติแล้วแหล่ะครับแบบนั้น ถึงมีปัญญาเลี้ยง :D  :D  :D  


คนที่อยากเลือกตั้ง ก็ไม่ต่างอะไรกับ คนที่ต้องการมี เพศสัมพันธ์ ????? ต่อให้เค้ารู้ว่าเมื่อเลือกไปก็เกิดปัญหา

ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับกับการที่มีเพศสัมพันธ์ทั้ง ๆ ที่รู้ว่า กำลัง อึ๊-บ ปี๊ กับคนที่เป็นเอดส์
 


#17 ไทยไม่ทน

ไทยไม่ทน

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,381 posts

Posted 19 March 2014 - 01:05

 

 

ขอบายครับ ....

ต่อให้เราเลี้ยงอาหารมื้อล่ะเป็นแสน ๆ กับคนพวกนี้ ผมก็ยังคิดว่า เค้าก็จะไม่กินอาหารที่เราเลี้ยงเค้า แต่คนพวกนี้จะกลับไปกินหญ้าแทน

เปรียบเทียบกันง่าย ๆ แค่นี้แหล่ะครับ 
  ยิ่งเป็นหมอด้วย หญ้าที่กินก็คงราคาแพงพอตัว  ^_^  ^_^

 

เลี้ยงผมได้นะครับ  :D  :D  ผมกินนะ  B)  B)

 

เปรียบเปรยครับเเหม่ !!! เลี้ยงอาหารเป็นแสน ๆ คงต้องสนับสนุนให้ผมไปโกงชาติแล้วแหล่ะครับแบบนั้น ถึงมีปัญญาเลี้ยง :D  :D  :D  

 

 

1369453528-scale-o.jpg


llllllllllllllllllllllllllllll

llllllllllllllllllllllllllllll

llllllllllllllllllllllllllllll

 


#18 คนอีสาน

คนอีสาน

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 658 posts

Posted 19 March 2014 - 01:57

กลอนหรือบานพับนี่ อ่านแล้วง่วง



#19 ดูโอลิมปิก5ปีดีจุงเบย

ดูโอลิมปิก5ปีดีจุงเบย

    สมาชิกชั้นสูงกว่าสูงลิบลิ่ว

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,544 posts

Posted 19 March 2014 - 02:01

พูดเรื่องถังขยะ ทำไมไม่พูดถึงนาฬิกาหนอ :P


เลือกใครก็ได้ ที่ไม่ใช่พรรคพวกแม้วPosted Image

#20 หงส์เฒ่าเสาร์ธรรม

หงส์เฒ่าเสาร์ธรรม

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,408 posts

Posted 19 March 2014 - 06:47

อย่ามัวแต่จมปลัก...

   จะไพร่แท้ ไพร่เทียม ถ้าขยันเรียน ขยันพัฒนา ชีวิตก็เจริญรุ่งเรืองได้ ดูตัวอย่างไว้น่ะ...

 

 

http://hilight.kapook.com/view/76161

 

เจาะใจอดีตเด็กเร่ร่อน ดิ้นรนสู้ชีวิตจนเรียนจบด็อกเตอร์
 
kulchat01.jpg

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ LadyBimbettes สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

          จากเด็กเร่ร่อนที่อาศัยอยู่กับแม่ที่ประกอบอาชีพเก็บขยะขาย ใครจะไปคาคดิดว่า ในอนาคตข้างหน้าเขาจะสามารถคว้าใบปริญญามาให้แม่ได้ชื่นชมสมใจ หนำซ้ำยังเป็นปริญญาเอกที่ทำให้เด็กชายคนนี้ภูมิใจอย่างที่สุดในฐานะด็อกเตอร์ เมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา รายการเจาะใจ ทาง ททบ.5 จึงได้เชิญชายคนนี้มาร่วมพูดคุย ปัจจุบันเขาคืออาจารย์ภาควิชาวิศวอุตสาหการ ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี..."ดร.กุลชาติ จุลเพ็ญ"

          จะว่าไปเรื่องราวของอาจารย์กุลชาติก็เหมือนกับนิยายเรื่องหนึ่งที่เริ่มต้นมาด้วยความยากลำบาก แต่เพราะความพยายามและตั้งใจ ทำให้เขาประสบความสำเร็จในตอนท้าย โดยอาจารย์ เล่าให้ฟังว่า ครอบครัวของเขาเป็นชาวชุมพร เขาจำความได้ตั้งแต่อายุ 3 ขวบ ว่ามีพี่น้องทั้งหมด 5 คน เขาเป็นลูกคนที่ 4 คุณพ่อทำงานเป็นคนขับรถทัวร์ ส่วนคุณแม่เป็นแม่บ้าน ชีวิตในช่วงนั้นมีความสุขมาก แต่หลังจากนั้นได้ 2 ปี พ่อกับแม่ก็มีปัญหาทะเลาะกัน เขาเห็นพ่อใช้ค้อนทุบรูปภาพของตัวเองพร้อมกับประกาศว่า "ต่อจากนี้จะไม่มีพ่ออยู่ในบ้านแล้ว" ก่อนที่พ่อจะพาน้องสาวคนเล็กไปด้วย และไม่กลับมาที่บ้านอีกเลย 

          หลังจากคุณพ่อและคุณแม่ของอาจารย์แยกทางกัน คุณแม่ซึ่งต้องเลี้ยงดูลูก ๆ อีก 4 คน ไม่มีเงินพอจะเช่าบ้านอยู่ต่อ จึงได้ไปเช่าโกดังเก่า ๆ อยู่ ในราคาเดือนละ 350 บาท พร้อมกับออกไปทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟที่ต่างจังหวัด เพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว และส่งเงินกลับมาให้ลูก ๆ เดือนละ 500 บาท เท่ากับว่าในแต่ละเดือน 4 พี่น้องจะมีเงินเหลือใช้เพียงแค่ 150 บาทเท่านั้น

kulchat02.jpg


          อย่างไรก็ตาม หลังจากทนความลำบากได้เพียงไม่กี่เดือน พี่สาวคนโต และพี่ชายของอาจารย์ก็ตัดสินใจหนีออกจากโกดังไปใช้ชีวิตเอาดาบหน้า เหลือเพียงเขากับพี่สาวอีกคนที่ต้องดิ้นรนใช้ชีวิตต่อไป แม้กระทั่งบากหน้าไปขอข้าวข้างบ้านกิน แต่ทำอย่างนี้อยู่เพียงแค่ 2 เดือน ในที่สุด พี่สาวคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ก็หายออกจากบ้านไปอีก ทิ้งอาจารย์ในวัย 6 ขวบ ให้อยู่ที่โกดังเพียงคนเดียว ซึ่งอาจารย์บอกว่า ช่วงนั้นเป็นชีวิตที่มีอิสระมาก เขาเอาแต่นอนทั้งวัน จนหิวถึงได้ลุกไปที่ บขส. เพื่อหาข้าวที่คนกินเหลือประทังความหิว ซึ่งเขาก็ถูกแม่ค้าไล่อยู่บ่อย ๆ จนชิน

          อาจารย์ เล่าต่อว่า ในวัยเด็กเขายังเคยไปเดินเร่ร่อนขอเงินจากผู้โดยสารตามท่ารถ ถ้าได้เงินก็จะนำไปซื้อข้าวกิน บ่าย ๆ ก็ไปเล่นเกมกับเพื่อนตามประสาเด็ก ๆ พอตกเย็นก็กลับไปนอนที่โกดัง แต่อยู่ไปสักพัก โกดังก็ถูกตัดน้ำ ตัดไฟ เพราะไม่มีใครไปจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ แต่อาจารย์ก็ยังคงอยู่ในโกดังแห่งนั้น ไม่ได้อาบน้ำ แปรงฟัน และไม่กล้าไปเรียน เพราะทั้งเนื้อทั้งตัวมีเพียงชุดนักเรียนเพียงชุดเดียว ซึ่งสภาพก็ดูมอมแมม ทำให้เพื่อน ๆ ไม่มีใครกล้าคุยด้วย แต่เขาจะเลือกไปโรงเรียนเฉพาะในวันที่โรงเรียนแจกนมถั่วเหลืองเท่านั้น เพราะช่วยคลายความหิวให้ตัวเองได้

          ตลอดชีวิตในช่วงวัยเด็ก อาจารย์กุลชาติต้องต่อสู้กับชีวิตมาตลอด ทั้งไปขอข้าวกินตามวัด หรือตามงานเทศกาลต่าง ๆ แม้กระทั่งเป็นเด็กเก็บกระทง เด็กรับใช้วิ่งซื้อของ เรียกว่าทำทุกอย่างไม่ต่างจากเด็กจรจัดทั่วไป แต่ถึงชีวิตจะลำบาก ถูกตำรวจจับก็หลายครั้ง เขาก็ไม่คิดย้ายไปอยู่กับเพื่อนเหมือนกับพี่ชายพี่สาวที่หนีไปก่อนหน้านี้ เหตุผลเดียวก็คือ เขาต้องการรอแม่ เพราะกลัววันใดที่แม่กลับมาแล้ว จะไม่เจอลูก ๆ เหลืออยู่เลยแม้แต่คนเดียว

kulchat04.jpg

          และหลังจากใช้ชีวิตเพียงลำพังมา 2 ปี ในที่สุด "แม่" ก็กลับมาจริง ๆ และบอกว่าจะไม่ทิ้งลูกไปอีกแล้ว อาจารย์บอกว่า นี่คือช่วงเวลาที่เขามีความสุขที่สุด แม้จะถูกแม่ตีบ่อย ๆ เพราะติดนิสัยไม่ยอมตื่นไปโรงเรียน แต่เขาก็เข้าใจว่า แม่หวังดีเพราะอยากให้เขามีความรู้ ขณะเดียวกัน เขากับแม่ก็ช่วยกันเก็บขยะขายของหาเงินเลี้ยงชีพไปพร้อม ๆ กัน และแม่ก็พร่ำสอนให้เขาเลิกเป็นขโมย

          เมื่อถามจุดเปลี่ยนของชีวิตที่ทำให้เขาขวนขวายเรียนหนังสือคืออะไร? ดร.กุลชาติ บอกว่า เพราะวันหนึ่งส้วมที่บ้านเต็ม ราดเท่าไหร่ก็ไม่ลง แม่ของเขาตัดสินใจใช้ค้อนทุบบ่อเกรอะด้วยตัวเอง และใช้กระป๋องสีตักสิ่งปฏิกูลยกไปทิ้งทีละถัง ๆ ตลอดทั้งคืน

          "ผมมองเห็นแม่ทำแบบนั้นทั้งคืน ผมคิดในใจว่าท่านยอมทำขนาดนี้เพื่อลูก เขาแค่อยากให้ผมไปเรียนเอง ตีผมทุกวันเพื่อให้ผมไปเรียน ทำไมผมถึงไม่ยอมไป เทียบแล้วแม่ลำบากกว่าเรามาก ก็เลยตั้งเป้าจะไปเรียนให้ได้" อาจารย์กุลชาติ บอก 

          หลังจากนั้น ดร.กุลชาติ ก็ปฏิวัติตัวเองใหม่ ตื่นแต่เช้า ออกไปช่วยแม่เก็บขยะตั้งแต่ตี 4 เสร็จสรรพ 7 โมงเช้าก็ไปเข้าห้องเรียน เพื่อตั้งใจเรียนหนังสือ กระทั่งวันหนึ่งความพยายามของเขาก็ประสบความสำเร็จ เมื่อสามารถสอบได้เป็นที่ 5 ของห้อง จากเดิมที่เคยได้ที่โหล่ และยังได้รับทุนเด็กเรียนดีมาช่วยเหลือ ในตอนนั้น ดร.กุลชาติ ตั้งใจจะเรียนสายอาชีพ เพื่อจะเป็นช่างเชื่อม จะได้หาเงินมาเลี้ยงดูแม่

          ขณะเดียวกัน นอกจากรายการจะได้เชิญ ดร.กุลชาติ มาร่วมพูดคุยแล้ว ยังได้เชิญคุณแม่ของอาจารย์มาเล่าถึงช่วงชีวิตที่ผ่านมาด้วย โดยคุณแม่บุษรี จุลเพ็ญ เล่าว่า ที่เน้นย้ำให้ลูกชายต้องเรียนหนังสือ เพราะถูกคนรอบข้างสบประมาทว่า เธอไม่เอาลูกแล้ว ทำให้ลูกเป็นเด็กจรจัด เธอจึงตั้งใจจะเลี้ยงลูกให้ได้ดี เพื่อลบคำสบประมาทดังกล่าว และสิ่งที่จะทำให้ลูกได้ดีได้ก็คือการเรียนหนังสือ

          คุณแม่บอกอีกว่า คนส่วนใหญ่มองว่า พวกเขาเป็นคนขี้ขโมย ไม่น่าคบหา ซึ่งเธอก็ได้สอนลูกไปว่า ไม่ต้องอายที่คนมองแบบนั้น แต่เราต้องอยู่ให้ได้ เพื่อพิสูจน์ให้พวกเขาเห็นว่า เราไม่ได้เป็นแบบนั้น ลูกแค่เป็นเด็กหลงทางไปชั่วขณะเท่านั้น 

kulchat03.jpg


          แต่ทว่า หลังจากอาจารย์กุลชาติเรียนจบชั้น ปวช. ก็มาพบว่า คุณแม่ป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูกต้องมารักษาตัวที่กรุงเทพมหานคร เหตุการณ์นั้นทำให้เขาตัดสินใจศึกษาระดับชั้น ปวส. ต่อ โดยคิดว่า หากเรียนจบแค่ชั้น ปวช. คงได้เงินเดือนไม่เท่าไหร่ แต่หากเรียนต่อน่าจะได้เงินเดือนมากขึ้น เขาจึงตัดสินใจไปเรียนต่อ ปวส. ที่สงขลา โดยขอให้แม่ช่วยส่งเสียให้เดือนละ 2,000 บาท แต่เมื่อวันหนึ่ง เขารู้ว่าแม่ส่งเงินให้ไม่ไหวแล้ว เขาจึงตัดสินใจไปทำงานกะกลางคืนที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น เพื่อส่งเสียตัวเอง

          ในที่สุด อาจารย์กุลชาติก็เรียนจบชั้น ปวส. แต่มีความคิดจะเรียนต่ออีก 2 ปี เพื่อเอาวุฒิปริญญาตรีด้านวิศวกรรม คุณแม่จึงตัดสินใจไปกู้เงินหมื่นมาจ่ายค่าเทอมให้อาจารย์ได้เรียนวิศวกรรมสมใจ กระทั่งวันหนึ่ง อาจารย์ตัดสินใจเลือกรับทุนของมหาวิทยาลัย เพื่อจะได้เรียนต่อ แต่ต้องแลกกับการใช้ทุนด้วยการเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยที่ตอนนั้นได้เงินเดือนราว ๆ 6 พันกว่าบาท ต่างจากอาชีพวิศวกรที่จะได้เงินเดือนสูงถึง 15,000 บาท แต่อาจารย์ก็ยินยอม เพื่อจะได้มีโอกาสได้เรียนหนังสือให้สูงขึ้น

          หลังจากเรียนจบชั้นปริญญาตรี อาจารย์บอกว่า เป็นความภูมิใจที่สุด เพราะทำให้แม่ได้เห็นภาพเขารับปริญญาจนได้ ขณะที่เด็ก ๆ รุ่นเดียวกันในละแวกบ้านไม่มีใครได้รับปริญญาเลย หลังจากนั้น เขาก็ทำงานเป็นอาจารย์สอนนักศึกษาชั้นปริญญาตรี แต่เพราะตัวเองก็จบชั้นปริญญาตรีเช่นกัน ทำให้วิชาพื้นฐานที่สอนชนกัน จึงตัดสินใจเรียนต่อเพื่อให้มีวุฒิสูงกว่าปริญญาตรี เขาจึงยื่นขอทุนเรียนปริญญาโทจากมหาวิทยาลัย

kulchat05.jpg


          เมื่อเรียนจบปริญญาโทแล้ว ทางมหาวิทยาลัยมีโครงการจะเปิดหลักสูตรปริญญาโทอีก ดังนั้นจึงต้องหาบุคลากรที่มีวุฒิการศึกษาสูงกว่าปริญญาโท เพื่อมาสอนนักศึกษา อาจารย์กุลชาติจึงตัดสินใจรับทุนไปเรียนต่อปริญญาเอกที่ประเทศญี่ปุ่น แต่ก็เจอปัญหาใหญ่ เพราะเขาไม่รู้ภาษาญี่ปุ่นเลย แต่สุดท้ายอาจารย์ก็พยายามขวนขวายจนคว้าปริญญาเอกมาได้สำเร็จ

          ทั้งนี้ อาจารย์ตั้งใจไว้ว่าจะพาแม่มางานรับปริญญาที่ญี่ปุ่นให้ได้ เขาจึงเจียดเงินทุนการศึกษาเก็บไว้เป็นค่าตั๋วเครื่องบิน และค่าอื่น ๆ เพื่อให้แม่เดินทางมาเห็นความสำเร็จของเขา พร้อมกับพาครอบครัวไปเที่ยวด้วยกัน
 
          "วันรับปริญญา ตอนที่ออกมาจากหอประชุม พอเปิดประตูปุ๊บ ผมเห็นแม่ยืนหน้าประตู ความรู้สึกแรกที่อยากเข้าไปทำก็คือ อยากเข้าไปกราบเท้าแม่มาก ที่ผมมาถึงตรงนี้ได้ ถ้าไม่มีแม่วันนั้นที่คอยเคี่ยวเข็ญเรามาขนาดนี้ ผมคงมาไม่ถึงวันนี้ได้ ผมเห็นแม่ปุ๊บ ผมก้มลงกราบเลยคนญี่ปุ่นงงกันหมดว่าเกิดอะไรขึ้น ส่วนแม่ผมก็ร้องไห้ด้วยความซาบซึ้ง" ดร.กุลชาติ เล่าวินาทีแห่งความประทับใจ

f.jpg

          ขณะที่คุณแม่ก็บอกว่า ในวันนั้น น้ำตาที่ไหลออกมาเป็นน้ำตาของความดีใจที่รอมานานหลายปี และเธอก็สอนลูกเสมอว่า คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นได้

          คำสอนของคุณแม่ที่จดจำอยู่ในใจเสมอมา ทำให้ในวันนี้ ดร.กุลชาติ สามารถพิสูจน์ตัวเองให้เห็นแล้วว่า "คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นได้" นี่ไม่ใช่คำพูดที่เกินความจริงเลยแม้แต่น้อย เพราะจากต้นทุนชีวิตติดลบที่ต้องเกิดมากลายเป็นเด็กเร่ร่อน ขออาหารคนอื่นกินประทังหิวไปวัน ๆ แต่มาถึงวันหนึ่ง เขาตัดสินใจเลือกเดินในเส้นทางที่จะเป็นคนดี และใฝ่เรียน ทำให้ ณ วันนี้ เด็กชายเร่ร่อนคนนั้นได้กลายมาเป็น "ดร.กุลชาติ จุลเพ็ญ"

          "มีคนถามผมเยอะว่าชีวิตที่ผ่านมา ผมได้แง่คิดอะไรบ้าง อะไรมันสอนผมบ้าง ผมก็พยายามคิดหาคำตอบให้กับตัวเองเหมือนกันว่าอะไรที่ผมต่างจากคนอื่น ผมมองว่า มันก็คือคำพูดที่ทุกคนเคยได้ยินกันมาเสมอว่า ความลำบากสอนให้คุณอดทน ความลำบากสอนให้คุณพยายาม สอนให้คุณมีเป้าหมายในชีวิต ถ้าไม่ลำบากก็ไม่เจอสิ่งนั้น ผมถือว่าผมโชคดีที่เกิดมาจน ผมขาดโอกาสจากความจน เราต้องสร้างโอกาสให้กับตัวเอง ทำตัวเองให้พร้อม ทำขึ้นมาเองกับมือแล้วมันจะมีความภาคภูมิใจมากกว่า" ...นี่คือเรื่องจริงที่ยิ่งกว่านิยายจากชีวิตของ ดร.กุลชาติ จุลเพ็ญ 


 

จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ ... ศีลธรรม เป็นกรอบรักษาจินตนาการให้ดำรงอยู่ด้วยความดีงาม... -_- 


#21 butadad

butadad

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,119 posts

Posted 19 March 2014 - 07:14

ไมเเข้าใจว่า  ทำไมเพื่อไทยไม่ส่งศาลละครับ  ให้ศาลจัดการดิ



#22 นักรบ ชายขอบ

นักรบ ชายขอบ

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 75 posts

Posted 19 March 2014 - 18:08

มันเคยหาข้อมูลอะไรเองซะที่ไหน แกนนำ แกนตาม เอาอะไรยัดสมองมันก็เชื่อทันที สมที่เป็นควาย



#23 Suraphan07

Suraphan07

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,016 posts

Posted 21 March 2014 - 12:13

เขาว่าว่า "เป็นกันยาก" ไม่ใช่เล่นน่ะ... ;) 

 

อาชีพ ควายแดง ใครว่าง่ายนะ!!!

มิน่าละ.jpg

https://www.facebook...&type=1



#24 PHOENiiX

PHOENiiX

    ปู 4ssโกงชาวนา

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,226 posts

Posted 21 March 2014 - 12:19

ถังขยะใบละ 1194 บาทยังใช้ได้ดีอยู่

 

1365212050-1365037864-o.jpg

 

แต่นาฬิกาในสภาเรือนละ 7 หมืนกว่า

 

เสียไปแล้วเศร้าวะ

 

news04-1.jpg






1 user(s) are reading this topic

0 members, 1 guests, 0 anonymous users