นั่นสิครับ มันเป็นเส้นทางที่เดินเรือเป็นประจำด้วย ทัศนวิสัยก็ปรกติ ไม่น่าจะชนอะไรได้เลย แต่ผู้โดยสารก็บอกได้ยินเสียงดังก่อนเรือจะหยุดและเอียงจมลง
กัปตันที่หนีออกมาได้ก็ไม่ยังเห็นมีข่าวว่าให้สัมภาษณ์อะไร
ู^
^
กัปตันควรโดนโทษหนักที่สุด เพราะละทิ้งหน้าที่ และทรยศต่อจรรยาวิชาชีพ
ส่วนเส้นทางเดือนเรือ เจอข่าวที่บอกว่ากัปตันออกนอกเส้นทางเอง เพราะต้องทำเวลา
http://www.oknation....4/04/17/entry-5
จากคำบอกเล่าของผู้รอดชีวิต เรือเซโวลออกจากท่าเรืออินชอนในเวลา 21.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น และออกนอกเส้นทาง เมื่อเวลา 08.52 น. หรือ 3 นาทีก่อนที่เรือจะอับปาง ส่วนทีมช่วยเหลือไปถึงเรือเมื่อเวลา 09.30 น. เนื่องจากเจออุปสรรคคลื่นลมแรง
ตอนที่เรือจม ไฟฟ้าในเรือถูกตัด และบางคนบอกได้ยินเหมือนเสียงเรือชนกับหินดังสนั่น ส่วนสาเหตุที่ออกนอกเส้นทาง น่าจะมาจากการพยายามทำเวลาชดเชยที่ออกจากท่าล่าช้า
นายลี จุน ซุค กัปตันวัย 69 ปี ถูกระบุว่า ชำนาญเส้นทางมา 8 ปี และมารับเวรขับเรือแทนเพื่อนที่ลาพักร้อน และบริษัทต้นสังกัดยืนยันว่าเขาเป็น 1 ใน 3 กัปตันที่เก่งสุด
น้ำหนักแค่นี้ไม่มีผลหรอกครับ ดูเฟอรี่เกาะสมุย-พงันดิ เล็กกว่านี้เยอะ บรรทุกสิบล้อขนหินดินทราย รถแบคโฮเกือบร้อยคันสบายๆ
แต่ที่สูญเสียคนมาก น่าจะเป็นเพราะคนตกใจไม่กล้าออกจากห้องโดยสาร และน้ำอากาศเย็น
ว่าแต่ ....ทำไมถึงจมได้ล่ะ
พบหลักฐานโศกนาฎกรรมเรือเกาหลีอับปาง เพราะเชื่อคำสั่งที่ให้อยู่กับที่
โศกนาฎกรรมที่สร้างความตกตะลึงไปทั่วประเทศเกาหลีใต้ กรณีเรือโดยสารเซโวลอับปาง ที่อาจคร่าชีวิตเด็กนักเรียนมัธยมหลายร้อยคน ได้ผสมผสานทั้งอารมณ์โกรธแค้นและหลักฐานที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ว่า ผู้โดยสารจำนวนมากถูกปฏิเสธโอกาสที่เหมาะสมในการหลบหนีออกจากเรือที่กำลังจะจมได้
ผู้รอดชีวิตจำนวนมาก ได้บอกเล่าเรื่องราวที่ตอกย้ำความจริงที่ว่า ผู้โดยสารได้รับคำสั่งซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้นั่งอยู่กับที่ หรือไม่ก็ในห้องโดยสาร ตอนที่เรือเริ่มมีปัญหาในตอนแรก และคนที่เชื่อฟังก็พบว่า หนทางหนีรอดที่พอจะเป็นไปได้ของพวกเขา กลับกลายเป็นหนทางอันตราย เมื่อเรือเริ่มอีกวูบไปอีกด้านหนึ่ง ก่อให้เกิดบรรยากาศที่โกลาหล
ผู้รอดชีวิตคนหนึ่ง บอกว่า เขาพยายามช่วยนักเรียนมัธยมประมาณ 30 คน ที่ไม่สามารถออกมาจากห้องโถงที่โล่งแจ้ง กว้าง บนชั้นที่ 4 ของเรือได้ และตัวเขาเองก็ปีนไปหาเด็ก ๆ ได้ เพราะทุกอย่างเอียบวูบหมด
นอกจากนี้ ตอนที่เรือเริ่มจม พวกเด็ก ๆ ก็ไม่ที่จะเกาะหรือยึดไว้ และไม่สามารถปีนขึ้นไปบนส่วนที่อยู่สูงขึ้นไปได้ เขาใช้สายดับเพลิงช่วยเด็กได้เพียงบางคน เพราะเด็กมีจำนวนมาก เขาไม่สามารถช่วยได้ทั้งหมด
เด็กที่รอดชีวิตคนหนึ่ง บอกว่า ผู้โดยสารส่วนใหญ่ไม่ยอมลุกจากที่นั่ง นานประมาณ 30 ถึง 40 นาที หลังจากเรือเริ่มมีปัญหา เพราะเชื่อคำสั่งของลูกเรือที่พูดซ้ำซากว่า ไม่ให้ลุกไปไหนจนเขาต้องต้องถามตัวเองว่า เขาไม่ควรจะลุกหรือ ไม่ควรพยายามจะหนีออกไปหรือ
มีหญิงวัย 61 ปีคนหนึ่ง บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ที่เขารอดชีวิตมาได้ ก็เพราะไม่เชื่อคำสั่งให้นั่งอยู่ในห้องโดยสาร ที่เธอเห็นแล้วว่า น้ำกำลังไหลทะลักเข้าไป เธอจึงตัดสินใจว่ายน้ำและปีนขั้นบนชั้นที่สูงกว่า ก่อนจะออกไปที่หน้าต่าง ที่หลายคนกำลังเกาะอยู่
เรื่องของระเบียบวินัยที่เข้มงวดในระบบการศึกษาของเกาหลีใต้ และการไม่กล้าละเมิดคำสั่งทำให้ผู้สังเกตการณ์ สามารถสรุปได้ว่า นักเรียนมัธยมที่เป็นผู้โดยสารส่วนใหญ่ในเรือ ที่ล้วนแต่เป็นวัยรุ่น อาจจะเชื่อฟังทุกคำสั่งโดยไม่กล้าปริปากถาม
นักเรียนคนหนึ่ง เปิดเผยต่อ MBCTV ว่า ถ้าได้รับคำสั่งให้กระโดดลงน้ำเร็วกว่านี้ หลายคนก็จะสามารถกระโดดลงจากเรือได้ทันท่วงที แต่ส่วนใหญ่อยู่กับที่เพราะทำตามคำสั่ง
การตั้งข้อสันนิษฐานว่า น่าจะมีเด็กสามารถหนีออกจากเรือได้เป็นจำนวนมากกว่านี้ ยิ่งสร้างความโกรธแค้นให้กับบรรดาญาติของผู้สูญหาย และโหมกระพือความไม่พอใจของสาธารณชนของประเทศที่ไม่เคยเจอหายนะร้ายแรงขนาดนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเกี่ยวข้องกับระบบสาธารณูปโภคด้านการขนส่งที่ได้ชื่อว่าทันสมัย และมีประสิทธิภาพ
.
ชาวเกาหลีใต้ส่วนใหญ่ เชื่อว่า เหตุการณ์ในทำนองนี้ ควรจะเกิดขึ้นในประเทศที่ล้าหลังกว่า ยกเว้นกรณีที่เกิดไฟไหม้ที่สถานีรถไฟใต้ดิน เมื่อปี 2546 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 192 คน และหลังจากนั้น ก็ไม่เคยมีอุบัติเหตุร้ายแรงอีกเลยในรอบเกือบ 2 ทศวรรษ ส่วนเมื่อปี 2538 เคยเกิดเหตุห้างสรรพสินค้าถล่มในกรุงโซล ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 500 คน และเมื่อปี 2536 เคยเกิดเหตุเรือโดยสารล่ม มีผู้เสียชีวิตเกือบ 300 คน