ผมไม่แคร์นะ ว่าประเทศไทยจะปกครองด้วยระบอบอะไร
แต่ยังต้องมีสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ตามสี
ธงไตรรงค์อยู่เ้หมือนเดิม
ผมไม่แคร์นะ ถ้าทหารจะออกมาทำรัฐประหารอีกซักร้อยครั้ง
ก็ได้ เพราะหลายครั้งที่ผ่านมาเงื่อนไขก็สมควรที่จะทำรัฐประหาร
ซะเหลือเกิน โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ แต่ถ้าคิดจะทำในครั้งต่อไป
ต้องทำให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด ไม่หน่อมแน้มเหมือนคราวที่แล้ว
ผมไม่แคร์นะ ถ้าระบอบใหม่คือระบอบเผด็จการมีทหารเป็นผู้นำ
แต่ผมต้องสามารถวิพากวิจารณ์ได้ ต้องมีสิทธิเสรีภาพในทุกๆ ด้าน
เหมือนเดิม และผู้นำจะต้องไม่โกงกิน ต้องถูกตรวจสอบโดยองค์กร
อิสระ หรือแม้กระทั่งประชาชนได้
ผมไม่แคร์นะ ถ้าระบอบใหม่คือระบอบอำมาตย์อย่างที่แกนนำควายแดง
ได้พยายามเห่าหอนเป่าหูควายแดงอยู่เสมอมาว่ามีอยู่จริง ซึ่งถ้าระบอบ
นี้มีอยู่จริง และลองเล่นคิดเล่นๆ ว่าผมคืออำมาตย์คนนั้น ผมคงจะสั่งเก็บ
พวกมันตั้งแต่ในวันแรกๆ แล้ว ผมคงจะไม่ปล่อยให้มันสามารถเหิมเกริม
เผาเมือง และจะไม่ปล่อยให้มันมาเป็นอำมาตย์กร่างทำน้ำท่วมอยู่อย่างนี้หรอก
ผมไม่แคร์นะ กับคำว่าประชาธิปไตย ซึ่งในวันนี้ ผมคิดว่าคำๆ นี้
มีไว้ให้แกนนำควายแดงเอาไปเป่าหูควายแดงมากกว่า ซึ่งในวันนี้
ไม่ีมีค่าอะไรสำหรับผมแล้ว เพราะคำๆ นี้ได้ถูกนำไปใช้ในทางที่
ผิด และทำให้เกิดมีควายแดงเข้าใจคำนี้ผิดๆ จนมันไร้ค่าไปแล้ว
สิ่งที่ผมแคร์คือ สิทธิเสรีภาพในการดำรงชีวิตประจำวัน ต้องมีอยู่อย่างเดิม
ผมสามารถวิพากวิจารณ์ผู้นำได้เหมือนเดิม ทำมาหากินอย่างสุจริตได้
แบบเดิม มีชีวิตเหมือนเคยๆ
สิ่งที่ผมแคร์คือ ผู้นำจะต้องไม่คอรัปชั่นเหมือน ทักษิณ ชินวัตร
ไม่่ปั้นน้ำเป็นตัวเหมือน ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่โกหกเก่งเหมือน
เฉลิม อยู่บำรุง ไม่โงเง่าเหมือน สุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล,
ปลอดประสพ สุรัสสวดี ไม่ทำตัวเป็นคางคกขึ้นวอเป็นอำมาตย์
รุ่นใหม่อย่าง จตุพร พรหมพันธ์, ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ไม่พยายาม
สร้างความแตกแยกอย่าง กอแก้ว พิกุลทอง ไม่เป็นคนเห็นแก่ตัว
เหมือน บรรหาร ศิลปอาชา ไม่นิ่งนอนใจพวกที่หมิ่นสถาบัน
พระมหากษัตริย์เช่นเดียวกับ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ
สิ่งที่ผมแคร์คือ ถ้ายังมีระบบรัฐสภาอยู่ ขอให้ยกเลิกเอกสิทธิ์
ของ สส. ซะ ไอ้พวกเวรตะไลจะได้เลิกโกหกในสภาซะที
ผมเห็นด้วย ระบบ อะไรก็ได้ ที่ ประโยชน์ของประชาชนเป็ฯใหญ่ ไม่ใช่ประชาชนเป็นใหญ่