มุมส่วนตัวน่ะค่ะ...
สถานการณ์ 2 อาทิตย์ก่อนผลทางคดีจะมีความชัดเจน ทุกอย่างอยู่เหนือการคาดเดา
นปช จะออกมากน้อยแค่ไหน..(ซึ่งดูจากการซ้อมมา 2-3 ครั้ง บวกกับสังเวยแนวร่วม
อย่างโกตี๋ ตั้งอาชีวะ หรือเหตุการณ์ถล่มขวัญชัย..คิดว่าคงไม่มากไปกว่านั้น )
แต่ก็ประมาทไม่ได้ เพราะเป็นการดิ้นเฮือกสุดท้ายของทักษิณและสาวก อาจจะเกิด
เหตุเทหมดหน้าตัก แลกกันหมัดต่อหมัด เหล่าฮาร์ดคอร์เงียบผิดปกติ ส่งแต่แรมโบ้
ออกมาแย้ว ๆ อยู่หน้าจอ...อะไรก็เกิดขึ้นได้
ในขณะเดียวกัน...การปฏิรูป ซึ่งเป็นแนวทางการเคลื่อนไหวของ กปปส วางไว้
ซึ่งดูเหมือนว่าจะได้รับเสียงตอบรับจากหลาย ๆ ฝ่าย
แต่...ก็ไม่มีความคืบหน้า ยังมองไม่เห็นจุดเริ่มต้นที่เป็นรูปธรรม ถึงแม้ว่ารูปแบบ
และแนวทางเริ่มจะมองเห็นบางแล้ว แม้จะไม่ 100% ก็ตาม ถึงกระนั้น ถ้าทุกอย่าง
ยังเป็นเพียงแค่แนวทางที่ถูกเขียนอยู่บนกระดาษ...มันก็จะเป็นเพียงนโยบาย เป็น
เพียงแนวทาง เป็นเพียงความคิด...ซึ่งจะสำเร็จไม่ได้ ถ้าไม่เริ่มลงมือกระทำ
นั้นก็หมายความว่า...การเคลื่อนไหวของคุณอภิสิทธิ์ ในครั้งนี้ เป็นการแสวงหา
จุดร่วมจากกลุ่มใหญ่ ๆ ที่พอจะมีพูดคุยกันได้ ที่ไม่ใช่คู่ขัดแย้งโดยตรง ถือเป็น
การเริ่มต้น เป็นอารัมภบท...เป็นคำนำ เป็นคำนิยม เป็นบทวิจารณ์ ก่อนที่จะ
เริ่มต้นเข้าสู่เนื่อหาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ตามลำดับ
ส่วนที่ว่า...กลุ่มใดที่จะให้คำนิยมเป็นกลุ่มแรก...
ประเด็นนี้..คงต้องย้อนไปดูสถานการณ์ ดูตัวแปร ดูจุดเสี่ยงที่น่าจะเป็นจุดเริ่มต้น
ของสถานการณ์ความวุ่นวายที่อาจจะเกิดขึ้น...จัดไปตามความสำคัญก่อน-หลัง
การเคลื่อนไหวของคุณอภิสิทธิ์ จึงเป็นเพียงผู้นำสาร รับสาร ด้วยเหตุและผล
บนพื้นฐานของสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ภายใต้ความเชื่อที่ว่า ทุกคนอยากเห็น
ทางออกของประเทศ ที่มิใช่บนความสูญเสีย..ที่อาจจะเกิดขึ้น หรือ ไม่เกิดขึ้น
อยากที่ใครจะคาดเดา...
คุณอภิสิทธิ์ จึงไม่ใช่คนกลาง..เพราะในอีกสถานะหนึ่ง ก็คือ คู่ขัดแย้งร่วม ที
ไม่สามารถปฏิเสธได้..
คุณอภิสิทธิ์จะไม่ได้อยู่ในฐานะที่เรียกร้อง ต่อรอง ไม่ว่าจะมีผลประโยชน์ร่วม
หรือไม่ ซึ่งประเด็นนี้...คุณอภิสิทธิ์น่าจะทราบดี..
นั่นก็หมายความว่า...
หากการเคลื่อนไหวครั้งนี้จบลงด้วยการต่อรอง คุณอภิสิทธิ์ จะตกเป็นจำเลย
ของสังคมทันที แบบที่เรียกว่า...ขุดหลุมฝังตัวเอง...
ส่วนผู้ที่รับหน้าที่เขียนบทวิจารณ์ ก็คงจะเห็นกันอยู่แล้ว สาวกทักษิณที่กลัว
ว่าจะเสียผลประโยชน์ และ กลุ่มที่รอเสี้ยมอยู่อย่างกระอักกระอ่วน
ส่วนที่ว่า..
ใคร กลุ่มใด จะเป็นผู้เริ่มต้นเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปอย่างเป็นรูปธรรม ตามแนว
ทาง แนวนโยบาย ในแผ่นกระดาษ ให้เป็นรูปเป็นร่างอย่างถูกต้องตาม รธน
รองรับ
คงหนีไม่พ้น...กกต หรือ สว...ในฐานะที่เป็นองค์กรตาม รธน ที่มีอำนาจเต็ม
ภายใต้สถานการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เพื่อขจัดปัญหาข้อโต้แย้งที่อาจจะ
เกิดขึ้นได้
เพื่อให้การปฏิรูปที่เกิดขึ้น..เป็นการปฏิรูปที่อยู่ภายใต้ รธน และเป็นที่ยอมรับ
จากนานาอารย
ก็ต้องรอดูกันต่อว่า...การเริ่มต้นลงมือกระทำ จะได้รับการตอบรับหรือไม่
การที่จะปฏิเสธ ไม่ให้นักการเมือง ไม่ให้ทักษิณ ไม่ให้กลุ่ม นปช หรือกลุ่มใด
กลุ่มหนึ่งเข้าร่วมการปฏิรูป ถ้าจะมองตามสิทธิพื้นฐานแล้ว ก็เป็นไปได้ยาก
แต่สิ่งที่พอจะกระทำได้ คือ ให้การเข้าร่วมของแต่ละกลุ่มอยู่ภายใต้กรอบ
ของ รธน ภายใต้กรอบกฎหมาย จะเรียกร้องเพื่อจุดประสงค์ใด จุดประสงค์
หนึ่ง เพื่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือ เพื่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ไม่ได้
กลุ่มที่คาดว่าจะสร้างปัญหา..จึงเป็นกลุ่มสุดท้าย....เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้
ทุกอย่างจบลง ก่อนที่จะเริ่มต้น
การปูทางไปสู่การปฏิรูปอย่างตามรูป...ไม่ใช่เรื่องง่าย..แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก
ถ้าค่อย ๆ เทพื้น อัดดิน ลงเสาเข็มให้มั่นคง..เลือกแผ่นกระเบื้อง แผ่นอิฐ
อย่างรอบคอบ ให้มีรอยบิ่น รอยร้าว น้อยที่สุด...
ทางเดินที่ปู ก็สำเร็จได้ไม่ยาก....