77 ความเห็นในกระทู้นี้

[Cool012]

ผมอยากบอกว่า เศรษฐกิจพอเพียง เป็นทางรอดของเศรษฐกิจโลกครับ....

 

 

 

เป็นแนวทางเศรษฐกิจที่ทันสมัยที่สุด ซึ่งหลายๆประเทศมหาอำนาจ นำไปปรับใช้ อย่างจริงจังแล้วครับ

 

ตามนั้น ถ้าใครตามเศรษฐกิจโลกดีๆ จะเห็นว่า เศรษฐกิจพอเพียงคือทางรอดของภาวะทุนนิยมที่ครอบโลกใบนี้อยู่

ในหลวงท่านถึงบอกว่าไม่ใช่ของเล่น มันไม่ใช่การไม่ใช่เงิน มานั่งกินข้าวคลุกน้ำปลา หรือการไม่ต้องซื้อรถ

นั่นเป็นพวกขาดปัญญา 

[PeaceMan]

ผมมองว่า เศรษฐกิจพอเพียงเป็นปรัชญา ที่พระราชทานเพื่อให้ประชาชนนำมาปรับใช้เอง โดยไม่เกี่ยวกับรัฐบาล
แล้วผมก็ยังมองว่า รัฐบาลไม่ควรเข้ามาชี้นำหรือแทรกแซงระบบเศรษฐกิจ มีหน้าที่แค่ดูแลช่วยเหลือ
จึงสรุปว่าการที่ไม่มีรัฐบาลไหนทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง ก็เป็นเรื่องเหมาะสมแล้วครับ 
เพราะไม่น่าจะเป็นหน้าที่โดยตรงของรัฐบาล

ใน sector เกษตรกรรม...การที่ รัฐจะไม่เข้ามาเเทรกเเซง ด้วยวิธีผิดๆเช่น จำนำข้าว นี่ผมเห็นด้วย...เเต่ในเรื่อง"การลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต" (ที่เป็นหนึ่งในkeyหลักที่จะทำให้เกษตรพอเพียงมีประสิทธิภาพ)...เช่นส่งเสริมเกษตรอินทรีย์...ระบบชลประทาน...โฉนดชุมชน...การสนับสนุนเงินทุนส่งเสริมให้นำระบบเกษตรทฤษฎีใหม่ ตัวอย่างเช่น "หนึ่งไร่หนึ่งเเสน"มาทดลองวิจัยเเละนำเสนอให้เป็นรูปธรรม...สนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของชุมชนท้องถิ่นต่อยอดเชื่อมต่อกับ otopเป็น...เรื่องที่ภาครัฐควรเข้ามาดำเนินการอย่างจริงจังเเละจริงใจ ตั้งเเต่ต้นทางถึงปลายทาง

ไม่ใช่คนในภาครัฐติด conflict of intererest กับเจ้าสัวเเละพ่อค้า ยา อาหารสัตว์เเละปุ๊ยเคมี ที่สร้างหนี้สินให้ชาวนา เช่นทุกวันนี้

[Afrikaan]

ไม่ต้องอ้างโน่นอ้างนี่หรอก สลิ่มกรุงเทพฯ เนี่ยละตัวไม่พอเพียงเลยละ

[คนทุกที่]

ไม่ต้องอ้างโน่นอ้างนี่หรอก สลิ่มกรุงเทพฯ เนี่ยละตัวไม่พอเพียงเลยละ

เขาถามว่าทำไมนักการเมืองไม่ส่งเสริมเศรษฐกิจพอเพียง เกี่ยวอะไรกับสลิ่ม ตกวิชาภาษาไทยใช่ไหมเราน่ะ

[เสือยิ้มยาก]

ไม่ต้องอ้างโน่นอ้างนี่หรอก สลิ่มกรุงเทพฯ เนี่ยละตัวไม่พอเพียงเลยละ

นั่นมันเรื่องส่วนบุคคล ใครทำใครได้

เขามองในภาครัฐ ที่ดูเหมือนจะไม่ให้ความสำคัญและเดินผิดทางตลอด จนประชาชนเดือดร้อนไม่จบสิ้น

 

แล้วเอ็งเป็นสลิ่มจังหวัดไหนล่ะ คงจะร่ำรวยดีแล้วซินะ

[kokkai]

 

ผมมองว่า เศรษฐกิจพอเพียงเป็นปรัชญา ที่พระราชทานเพื่อให้ประชาชนนำมาปรับใช้เอง โดยไม่เกี่ยวกับรัฐบาล
แล้วผมก็ยังมองว่า รัฐบาลไม่ควรเข้ามาชี้นำหรือแทรกแซงระบบเศรษฐกิจ มีหน้าที่แค่ดูแลช่วยเหลือ
จึงสรุปว่าการที่ไม่มีรัฐบาลไหนทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง ก็เป็นเรื่องเหมาะสมแล้วครับ 
เพราะไม่น่าจะเป็นหน้าที่โดยตรงของรัฐบาล

ใน sector เกษตรกรรม...การที่ รัฐจะไม่เข้ามาเเทรกเเซง ด้วยวิธีผิดๆเช่น จำนำข้าว นี่ผมเห็นด้วย...เเต่ในเรื่อง"การลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต" (ที่เป็นหนึ่งในkeyหลักที่จะทำให้เกษตรพอเพียงมีประสิทธิภาพ)...เช่นส่งเสริมเกษตรอินทรีย์...ระบบชลประทาน...โฉนดชุมชน...การสนับสนุนเงินทุนส่งเสริมให้นำระบบเกษตรทฤษฎีใหม่ ตัวอย่างเช่น "หนึ่งไร่หนึ่งเเสน"มาทดลองวิจัยเเละนำเสนอให้เป็นรูปธรรม...สนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของชุมชนท้องถิ่นต่อยอดเชื่อมต่อกับ otopเป็น...เรื่องที่ภาครัฐควรเข้ามาดำเนินการอย่างจริงจังเเละจริงใจ ตั้งเเต่ต้นทางถึงปลายทาง

ไม่ใช่คนในภาครัฐติด conflict of intererest กับเจ้าสัวเเละพ่อค้า ยา อาหารสัตว์เเละปุ๊ยเคมี ที่สร้างหนี้สินให้ชาวนา เช่นทุกวันนี้

 

 

เห็นด้วยสุดๆครับ

 

[blue]

มันมีจุดอ่อนตรงที่ นักการเมืองไม่รู้ว่าจะไปสนับสนุนอย่างไรมากกว่า ครับ

 

ความจริงเขาก็มีนโยบายสนับสนุนอยู่นะครับ เห็นหน่วยราชการโดยเฉพาะ

หน่วยงานด้านเกษตรกรรมนี่ จะเยอะหน่อยที่เข้าไปสนับสนุน แต่มันเป็นการ

เข้าไปสนับสนุนในเรื่องของ รูปแบบ มากกว่า เช่น เขาทำนาอยู่ ก็เข้าไปสนับสนุน

ว่า ถ้าเขาจะอยู่ได้โดยมีรายได้พอกินพอใช้ ไม่ควรทำนาอย่างเดียวควรทำแบบ

ไรนาสวนผสม อะไรทำนองนั้นแหละ

 

ดูแล้วมันก็ได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้าง แต่ที่ไม่ได้ผลนั้น มันไม่ใช่เพราะรูปแบบมันไม่

ถูกต้อง รูปแบบนั้นมันถูกต้องแต่คนที่ทำไม่มีจิตสำนึกในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง

เพราะนิสัยเหมือนเดิม เคยฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม ใช้จ่ายเกินตัวอย่างไร ก็ใช้อยู่อย่างนั้น

เคยเล่นหวยเล่นแชร์ กินเหล้าเมายาอยู่อย่างไรก็กินอยู่อย่างนั้น เปลี่ยนแค่รูปแบบ

การทำนาเท่านั้น แบบนี้ยังไงมันก็ไม่พอเพียงครับ

 

เศรษฐกิจพอเพียง มันเป็นเรื่องของจิตสำนึกครับ เศรษฐี ร้อยล้าน พันล้าน หมื่นล้าน

ก็ใช้ชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียงได้ คนจนดักดานก็ใช้ชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียงได้

ไม่ใช่จนดักดานแต่ใฝ่ฝันฟุ้งเฟ้ออยากได้รถเบนซ์ มาขับ หรือรวยล้นฟ้า แต่ งกแบบขี้

ไม่ให้หมากิน แถมยังเอารัดเอาเปรียบคนอื่นอยู่ตลอดเวลาแบบไอ้เหลี่ยม ถ้าคิดแบบนี้

มันก็ไม่ใช่เศรษฐกิจพอเพียง

 

ที่สำคัญก็คือ ข้าราชการที่จะออกไปส่งเสริมชาวบ้านให้เขาใช้ชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง

ก็ต้องเข้าใจก่อนว่าจะไปส่งเสริมเขาอย่างไร เพราะเท่าที่เห็นส่วนใหญ่จะเอารูปแบบไปให้

แต่จิตสำนึกไม่เปลี่ยน ซึ่งมันก็เป็นเรื่องยากครับ เพราะข้าราชการเองก็ยังไม่ใช้ชีวิตแบบ

เศรษฐกิจพอเพียงเลย แค่นางยิ่งลักษณ์ออกนโยบายรถคันแรกมาเท่านั้น ก็วิ่งไปจองกันจน

เป็นหนี้หัวโตอยู่ทุกวันนี้แหละครับ

[annykun]

มันเป็นนามธรรมและเข้าใจยากครับ  สำหรับเราๆท่านๆ  มันไม่ยากหรอก  แต่สำหรับรากหญ้า  จนๆ  การศึกษาต่ำ  ลองถามดูสิ  

มากกว่าครึ่งเข้าใจ  แค่ว่า  ประหยัด  อดมื้อกินมื้อ   

Edited by annykun, 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 23:19.

[chackrapbong]

มันเป็นนามธรรมและเข้าใจยากครับ  สำหรับเราๆท่านๆ  มันไม่ยากหรอก  แต่สำหรับรากหญ้า  จนๆ  การศึกษาต่ำ  ลองถามดูสิ  

มากกว่าครึ่งเข้าใจ  แค่ว่า  ประหยัด  อดมื้อกินมื้อ   

ผมได้ยิน วัยรุ่น พูดกันว่า อย่าเว่อร์

นี้ก็เข้าใจ ได้ครับ

[kokkai]

มันเป็นนามธรรมและเข้าใจยากครับ  สำหรับเราๆท่านๆ  มันไม่ยากหรอก  แต่สำหรับรากหญ้า  จนๆ  การศึกษาต่ำ  ลองถามดูสิ  

มากกว่าครึ่งเข้าใจ  แค่ว่า  ประหยัด  อดมื้อกินมื้อ   

 

ผมเลยอยากให้นักการเมืองไทย สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชน

 

อุดหนุน ส่งเสริม ประชาสัมพันธ์ อย่างจริงจัง

 

เราใกล้เกลือกินด่างกันแท้ๆ มัวหลงติดลัทธิทุนนิยม จนพาประเทศลงเหว

[ฺำBery]

ไร่นาสวนผสมเศรษฐกิจพอเพียง 

 

[ฺำBery]

มาร์ติน วิลเลอร์ … เมื่อฝรั่งสอนผม จากบล็อค โอเคเนชั่น oknation.net  

http://www.oknation....t.php?id=484723

 

Edited by ฺำBery, 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 07:01.

[สมพร แสงฟ้า]

เป็นสิ่งดีครับ แต่คนที่เรียกร้อง ต้องทำเป็นตัวอย่างให้ได้ตามที่สอน ไม่ใช่เอาแต่เรียกร้อง

ลองสังเกตุ ลูกหลานของคนที่ย้ำแต่เรื่องนี้  ส่งลูกไปเรียนเมืองนอกตั้งแต่ชั้นเตรียมอุดมศึกษา

การเรียนเมืองไทย มันไม่พอเพียง

ต่างจากพวกรากหญ้า อย่างมากถ้าลูกหลานเรียนเก่ง ก็ไปเมืองนอกชั้นปริญาโท

 

ฟ้าหญิงทุกพระองค์  ต่างเรียนอุดมศึกษาในไทย พระองค์ทรงได้ทำตนเป็นตัวอย่างในสิ่งที่พระองค์ท่านได้ประทานสอน

[ฺำBery]

มาร์ติน วิลเลอร์ " พลังหัวใจพอเพียง " ณ.เขื่อนสิริกิติ์ ๑๗ ก.ค. ๒๕๕๖  

 

[baboon]

จุดอ่อนคือมันไม่อยู่ในตำราฝรั่ง ไม่เป็นทฤษฎีที่คิดโดยฝรั่ง ไม่เป็นอินเตอร์

สันดานคนไทยคือการเลียนแบบต้องให้ตะวันตกจูงจมูกเท่านั้น อย่างเช่นเรื่องวาทกรรมการพัฒนา

คงต้องรอให้ต่างชาติเอาไปเขียนตำราแล้วกลับมาสอนคนไทย ให้คนไทยต้องอ่านจากภาษาอังกฤษคงจะเริ่มดัง

[ฺำBery]

ปราชญ์เดินดิน  " มาร์ติน วิลเลอร์ " ฝรั่งหัวใจอิสาน ตอนที่ ๑ 

 

ปราชญ์เดินดิน " มาร์ติน วิลเลอร์ " ฝรั่งหัวใจอิสาน ตอนที่ ๒

 

[ฺำBery]

มาร์ติน วิลเลอร์ ฝรั่งที่หันหลังให้ทุนนิยมมาทำนาในเมืองไทย  ในคลิปนี้นาทีที่ ๔๕.๔๐ มาร์ตินจะพูดถึงจุดอ่อนและจุดแข็งของเมืองไทย

….. จุดอ่อนของเมืองไทยคือ คนไทยไม่เข้าใจการพัฒนาในระบบทุนนิยม  ว่าเป็นยังไงกันแน่ ? คิดว่าฝรั่งทุกคนรวยหมด

คิดว่าการพัฒนาในระบบทุนนิยมทำให้คนรวยขึ้น ซึ่งไม่จริงเลย … คนไทยส่วนใหญ่ไม่เข้าใจประเทศที่พัฒนามานานแล้ว อย่าง

อังกฤษ สหรัฐ ประเทศแบบนี้มีปัญหาเยอะมาก แต่คนไทยไม่เข้าใจ … นี่คืิิอจุดอ่อน … คนไทยสนใจเมืองนอก ไม่ได้สนใจประเทศไทย

 

 

…. ส่วนจุดแข็งมี ๓ เรื่อง คือชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ มาร์ตินคิดว่านี่คือจุดแข็งของประเทศไทย  ที่อุดมสมบูรณ์มาก

เมืองไทยมีที่ดินเยอะมาก มีแสงแดดเยอะ มีน้ำเยอะ แสดงว่าทำการเกษตรได้ เหลือ แจกได้ด้วย ขายก็ได้ นี่คือ " พลังแผ่นดิน "

ประเทศไทยอุดมสมบูรณ์

[kim]

ก็นักการเมืองมันอยู่แบบร่ำรวย ฟุ้งเฟ้อ จู่มาบอกให้อยู่แบบพอเพียง มันจะไปอิ่มท้องมันได้ไง ซื้อเฟอร์รารี่ได้ไหม ซื้อเพชรพลอยกระเป๋าหลุลย์ได้ไหม มันก็เอาตัวไปเทียบกับเบื้องสูงว่าอยู่แบบนั้นได้ ข้าต้องอยู่แบบนั้นได้เหมือนกันนั้นแหละ

[ฺำBery]

(ต่อค่ะ ) … พระมหากษัตริย์ ตอนแรกเขาก็ไม่เข้าใจ เพราะในอังกฤษไม่นิยมสถาบัน … เมื่อเขาเข้ามาอยู่ในประเทศไทย

เขาบอกว่าคนไทยโชคดีมากๆ ที่มีในหลวงเป็นผู้นำ  เพราะว่าพระองค์ท่านทำงานหนักมากเพื่อช่วยให้คน

คิดได้ อยู่ได้ … ประเทศอื่นไม่ค่อยมีกษัตริย์แล้วนะ คนไทยโชคดีจริงๆ 

…. ปัญหาของคนไทยคือ นับถือในหลวงแต่ไม่ยอมปฏิบัติตามท่าน พระองค์บอกเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงมานานแล้ว

แต่คนไทยไม่รู้จักคำว่าพอเพียง …​ถ้าทุกคนคิดและทำตามในหลวง ก็ช่วยประเทศให้อยู่ได้

เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงเป็นเรื่องของ … " พลังแผ่นดิน " …​ ทำได้เฉพาะประเทศไทย ทำที่อื่นไม่ได้

เพราะไม่มีทรัพยากรธรรมชาติ ไม่มีที่ดิน … คนไทยโชคดี ได้แผ่นดินที่ดี และผู้นำที่ดีด้วย 

…​ศาสนาพุทธ มีความสำคัญมากสำหรับคนไทย คนไทยควรสนใจศาสนาพุทธให้มาก

ไม่ใช่แค่ไหว้พระแค่นั้น ไม่พอ … อยู่ที่การปฏิบัติด้วย  มักน้อย สันโดษ พอเพียง ธรรมะคือธรรมชาติ

พึ่งตนเองได้ เป็นปรัชญาของศาสนาพุทธ … ศาสนาพุทธออกแบบมาเหมาะสมสำหรับคนบ้านนอก

ให้เราใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติได้ โดยไม่ทำลายธรรมชาติ 

…. ๓ เรื่องง่ายๆ แผ่นดิน พระมหากษัตริย์ ศาสนา 

ทุกวันเด็กร้องเพลงชาติเคารพเสาธงแล้วลืมไป ต้องช่วยให้เด็กคิดได้

….​นี่คือจุดแข็งของประเทศไทย …. 

ผมเป็นฝรั่งคุณก็นั่งฟังผม ถ้าผมเป็นชาวบ้านธรรมดา คุณไม่สนใจหรอก 

…. คุณโชคดีมากที่เกิดในประเทศไทย ไม่ต้องไปรบกับใคร ไม่ต้องไปเบียดเบียนคนอื่น กินอิ่ม มีเหลือ แจกด้วย

คนไทยมีแผ่นดินอุดมสมบูรณ์ มีพระมหากษัตริย์ มีศาสนา พยายามรักษาเอาไว้

 

 

[Maratiraj_]

จุดอ่อนคือมันไม่อยู่ในตำราฝรั่ง ไม่เป็นทฤษฎีที่คิดโดยฝรั่ง ไม่เป็นอินเตอร์

สันดานคนไทยคือการเลียนแบบต้องให้ตะวันตกจูงจมูกเท่านั้น อย่างเช่นเรื่องวาทกรรมการพัฒนา

คงต้องรอให้ต่างชาติเอาไปเขียนตำราแล้วกลับมาสอนคนไทย ให้คนไทยต้องอ่านจากภาษาอังกฤษคงจะเริ่มดัง

คือบ้านเรางะ เข้าใจว่าอยากพัฒนาก็ต้องเลียนแบบประเทศมหาอำนาจ

 

แต่พวกประเทศมหาอำนาจมันล้วนเกิดมาจากการมีศักยภาพที่โลกต้องพรั่นพรึง แล้วสามารถใช้ศักย์ภาพเหล่านั้นมาสร้างอำนาจต่อรองในเวลาทีโลกได้

 

ผมเองก็มองไม่เห็นเหมือนกันว่าเราเองจะเอาอะไรมามาสร้างศักยภาพที่โลกต้องพรั่นพรึงได้

Edited by Maratiraj_, 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 19:16.

[kokkai]

จุดอ่อนคือมันไม่อยู่ในตำราฝรั่ง ไม่เป็นทฤษฎีที่คิดโดยฝรั่ง ไม่เป็นอินเตอร์

สันดานคนไทยคือการเลียนแบบต้องให้ตะวันตกจูงจมูกเท่านั้น อย่างเช่นเรื่องวาทกรรมการพัฒนา

คงต้องรอให้ต่างชาติเอาไปเขียนตำราแล้วกลับมาสอนคนไทย ให้คนไทยต้องอ่านจากภาษาอังกฤษคงจะเริ่มดัง

 

มีอยู่สองอย่าง(ในหลายๆอย่าง)ที่ผมนึกเสียดายมาก

 

ถ้ามันสูญหายไปจากประเทศไทย เพราะมัวหลงติดยึดกับตำราฝรั่ง

 

***ตำราแพทย์แผนโบราณ มีโรคหลายอย่างที่รักษาแผนปัจจุบันแล้วไม่หาย แต่หายได้โดยยาแผนโบราณ

 

(แต่ต้องเอาเฉพาะที่ดีจริงๆนะครับ ไม่ใช่แบบหาความแน่นอนไม่ได้)

 

***ตำรานวดแผนไทย ปัจจุบันมีหลายสำนักจนไม่รู้ว่าอันไหนดีจริง

 

ทำให้คนไข้ไม่มั่นใจ ต้องวิ่งไปหาแพทย์แผนปัจจุบัน

 

มีน้องผู้ชายคนหนึ่งอายุประมาณ 27-28 ปีเล่นบาสเก็ตบอล แล้วเอ็นหัวเข่าฉีก

 

ไปรพ.เอกชน เขาใส่เฝือกคลุมทั้งเข่ายาวเกือบ 2 ฟุต แล้วนัดวันผ่าตัด

 

น้องเขามาถามหมอนวดแผนไทยที่ผมใช้บริการประจำ(ผมนวดคลายเส้นปกติ)

 

น้องเขาถามว่าหมอรักษาให้เขาได้ไหม หมอนวดบอกว่าถ้าไม่ใช่กระดูกแตกหรือร้าว แต่เป็นเรื่องเส้นเอ็น หมอรักษาให้ได้

 

น้องเขาบอกว่ารพ.เอ๊กซเรย์แล้ว กระดูกไม่แตกไม่ร้าว หมอนวดเลยบอกว่าถ้าเชื่อใจหมอ ให้ตัดเฝือกออกแล้วจะรักษาให้

 

น้องเขายอมตัดเฝือกทิ้ง แล้วรักษากับหมอนวด ผมไม่รู้ว่าใช้เวลากี่วัน แต่น้องคนนั้นหายเป็นปกติ กลับไปเล่นบาสเก็ตบอลได้เหมือนเดิม

 

ผมรู้เรื่องนี้เพราะน้องเขากลับมานวดคลายเส้น ระหว่างรอคิวเลยนั่งคุยกัน

[ParaDon]

โครงการ ฝนหลวง ของดีมีประโยชน์แท้ พวกนักการเมืองทุกพรรค มันไม่เคยคิดเหลียวแล

 

จนต่างชาติเขาก็อปเอาไปต่อยอดใช้ประเทศเขาแล้ว มันยังไม่สำนึกอีก

Edited by ParaDon, 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 19:44.

[Maratiraj_]

 

จุดอ่อนคือมันไม่อยู่ในตำราฝรั่ง ไม่เป็นทฤษฎีที่คิดโดยฝรั่ง ไม่เป็นอินเตอร์

สันดานคนไทยคือการเลียนแบบต้องให้ตะวันตกจูงจมูกเท่านั้น อย่างเช่นเรื่องวาทกรรมการพัฒนา

คงต้องรอให้ต่างชาติเอาไปเขียนตำราแล้วกลับมาสอนคนไทย ให้คนไทยต้องอ่านจากภาษาอังกฤษคงจะเริ่มดัง

 

มีอยู่สองอย่าง(ในหลายๆอย่าง)ที่ผมนึกเสียดายมาก

 

ถ้ามันสูญหายไปจากประเทศไทย เพราะมัวหลงติดยึดกับตำราฝรั่ง

 

***ตำราแพทย์แผนโบราณ มีโรคหลายอย่างที่รักษาแผนปัจจุบันแล้วไม่หาย แต่หายได้โดยยาแผนโบราณ

 

(แต่ต้องเอาเฉพาะที่ดีจริงๆนะครับ ไม่ใช่แบบหาความแน่นอนไม่ได้)

 

***ตำรานวดแผนไทย ปัจจุบันมีหลายสำนักจนไม่รู้ว่าอันไหนดีจริง

 

ทำให้คนไข้ไม่มั่นใจ ต้องวิ่งไปหาแพทย์แผนปัจจุบัน

 

มีน้องผู้ชายคนหนึ่งอายุประมาณ 27-28 ปีเล่นบาสเก็ตบอล แล้วเอ็นหัวเข่าฉีก

 

ไปรพ.เอกชน เขาใส่เฝือกคลุมทั้งเข่ายาวเกือบ 2 ฟุต แล้วนัดวันผ่าตัด

 

น้องเขามาถามหมอนวดแผนไทยที่ผมใช้บริการประจำ(ผมนวดคลายเส้นปกติ)

 

น้องเขาถามว่าหมอรักษาให้เขาได้ไหม หมอนวดบอกว่าถ้าไม่ใช่กระดูกแตกหรือร้าว แต่เป็นเรื่องเส้นเอ็น หมอรักษาให้ได้

 

น้องเขาบอกว่ารพ.เอ๊กซเรย์แล้ว กระดูกไม่แตกไม่ร้าว หมอนวดเลยบอกว่าถ้าเชื่อใจหมอ ให้ตัดเฝือกออกแล้วจะรักษาให้

 

น้องเขายอมตัดเฝือกทิ้ง แล้วรักษากับหมอนวด ผมไม่รู้ว่าใช้เวลากี่วัน แต่น้องคนนั้นหายเป็นปกติ กลับไปเล่นบาสเก็ตบอลได้เหมือนเดิม

 

ผมรู้เรื่องนี้เพราะน้องเขากลับมานวดคลายเส้น ระหว่างรอคิวเลยนั่งคุยกัน

 

มันดีมากจนถึงขั้น พวกต่างชาติอยากขโมยภูมิปัญญานี้ ไปเป็นของตนเองเลยละ

[GuoJia]

ทำนาพอเพียง ปีละครั้ง..ได้เป็นล้าน

http://www.thairath..../content/349302

โดย เพ็ญพิชญา เตียว 6 มิ.ย. 2556 05:15

 

 

 

ในขณะที่ชาวนาส่วนใหญ่พากันบ่น...ทำนาปีมีแต่หนี้กับซัง ทำนาปรังมีแต่ซังกับหนี้ เรียกร้องรอความช่วยเหลือจากภาครัฐตลอดเวลา
แต่ ชาวนาแห่งทุ่งกุลาร้องไห้ นายช่วย  สาสุข บ้านโพนละมั่ง ต.หินกอง อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ สาขาอาชีพทำนา ประจำปี 2556...กลับมอง คิด และปฏิบัติตรงกันข้าม

ไม่พึ่งรอคอยความช่วยเหลือ จากภาครัฐ ไม่เอาข้าวไปจำนำ แถมยังปลูกข้าวในที่นา 53 ไร่ แค่ปีละ 1 ครั้ง คำว่ามีแต่หนี้กับซังไม่มีในสารบบ...ปีๆหนึ่ง มีรายได้แค่ล้านเดียวเอง

“ผม ไม่ได้ทำอะไรมาก แค่ทำตามอย่างที่พ่อหลวงบอก คือ พอเพียง ปลูกข้าวเก็บไว้กินเอง มีเหลือแล้วถึงเอาไปขาย ไม่เหมือนคนอื่น มีเท่าไรก็เอาไปขายไปจำนำหมด จะกินก็ต้องซื้อ จะปลูกก็ต้องซื้อเมล็ดพันธุ์ แล้วจะไปเหลืออะไร ส่วนผมไม่ต้องซื้อสักอย่าง

 

และข้าวที่เหลือจากกิน เวลาจะเอาไปขายผมก็ไม่ทำเหมือนคนอื่น แทนที่จะเอาไปขายโรงสีแล้วถูกกดราคา ผมเอาข้าวเปลือกมาสีเอง ใส่ถุงบรรจุเอง เอาไปขายเอง ผมทำข้าวหอมมะลิอินทรีย์ไม่ใช้เคมี ขายได้ กก.ละ 50 บาท และยังทำข้าวพันธุ์พื้นเมือง 101 สายพันธุ์ สีเสร็จแล้วเอามาผสมรวมกันขายได้ กก.ละ 150 บาท”

นี่แหละความลับของ รายได้ปีละล้าน แต่จะทำอย่างนี้ได้ ลุงช่วย บอกว่า นอกจากจะต้องรู้จักพอเพียงและพึ่งพาตัวเองแล้ว ชาวนาจะต้องขวนขวายหาความรู้ด้วย อย่างการเพาะขยายเมล็ดพันธุ์ ทำปุ๋ยอินทรีย์เอง

“เพราะต้นทุนการปลูกข้าวหนักสุดคือ ปุ๋ย ถ้าใช้เคมีต้องเอาเงินไปซื้อๆ มีแต่เงินออกตลอด แล้วไหนจะต้องใส่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่แปลงนาเรามีทั้งซัง หญ้า วัว ควาย เอามาทำปุ๋ยได้ วัวควาย 4 ตัว สามารถทำปุ๋ยใส่นา ได้ 30 ไร่ แต่ต้องขยัน เอาผักโป่ง (ผักตบชวา) ใส่รถมากองสับโยนทิ้งเข้าไป พอได้ 4 วัน เอาปูนขาวโรย ใส่น้ำหมัก ทำไปเรื่อยๆให้ทั่ว 30 ไร่ ถึงเวลาไถก็เอารถเหล็กลงก่อน หน้าดินเริ่มนิ่มถึงเอาวัวควายลงไปย่ำเทือก ทำผสมกันไปแบบนี้ นอกจากวัวควาย ไม่เหนื่อย มันยังถ่ายลงนากลายเป็นปุ๋ย ไม่ต้องไปหาซื้อเคมีให้ยุ่งยากเปลืองเงิน”

เรื่องเมล็ดพันธุ์ก็เช่น กันไปอบรมที่ศูนย์วิจัยข้าวอุบลราชธานี นอกจากจะทำเองเป็น ยังทำขายให้ชาวนาในชุมชนได้อีก กก.ละ 30 บาท...เลยทำให้ต้นทุนการทำนาของ ลุงช่วย เหลืออยู่แค่ไร่ละ 1,850 บาท ในขณะที่คนอื่นต้องใช้ทุนปาเข้าไปถึง 5-6 พันบาท ต้นทุนต่ำสีข้าวขายเองได้ราคาสูง...เงินล้านเลยแค่เอื้อมหยิบเท่า นั้นเอง.

[kokkai]

ทำนาพอเพียง ปีละครั้ง..ได้เป็นล้าน

http://www.thairath..../content/349302

โดย เพ็ญพิชญา เตียว 6 มิ.ย. 2556 05:15

 

 

 

ในขณะที่ชาวนาส่วนใหญ่พากันบ่น...ทำนาปีมีแต่หนี้กับซัง ทำนาปรังมีแต่ซังกับหนี้ เรียกร้องรอความช่วยเหลือจากภาครัฐตลอดเวลา
แต่ ชาวนาแห่งทุ่งกุลาร้องไห้ นายช่วย  สาสุข บ้านโพนละมั่ง ต.หินกอง อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ สาขาอาชีพทำนา ประจำปี 2556...กลับมอง คิด และปฏิบัติตรงกันข้าม

ไม่พึ่งรอคอยความช่วยเหลือ จากภาครัฐ ไม่เอาข้าวไปจำนำ แถมยังปลูกข้าวในที่นา 53 ไร่ แค่ปีละ 1 ครั้ง คำว่ามีแต่หนี้กับซังไม่มีในสารบบ...ปีๆหนึ่ง มีรายได้แค่ล้านเดียวเอง

“ผม ไม่ได้ทำอะไรมาก แค่ทำตามอย่างที่พ่อหลวงบอก คือ พอเพียง ปลูกข้าวเก็บไว้กินเอง มีเหลือแล้วถึงเอาไปขาย ไม่เหมือนคนอื่น มีเท่าไรก็เอาไปขายไปจำนำหมด จะกินก็ต้องซื้อ จะปลูกก็ต้องซื้อเมล็ดพันธุ์ แล้วจะไปเหลืออะไร ส่วนผมไม่ต้องซื้อสักอย่าง

 

และข้าวที่เหลือจากกิน เวลาจะเอาไปขายผมก็ไม่ทำเหมือนคนอื่น แทนที่จะเอาไปขายโรงสีแล้วถูกกดราคา ผมเอาข้าวเปลือกมาสีเอง ใส่ถุงบรรจุเอง เอาไปขายเอง ผมทำข้าวหอมมะลิอินทรีย์ไม่ใช้เคมี ขายได้ กก.ละ 50 บาท และยังทำข้าวพันธุ์พื้นเมือง 101 สายพันธุ์ สีเสร็จแล้วเอามาผสมรวมกันขายได้ กก.ละ 150 บาท”

นี่แหละความลับของ รายได้ปีละล้าน แต่จะทำอย่างนี้ได้ ลุงช่วย บอกว่า นอกจากจะต้องรู้จักพอเพียงและพึ่งพาตัวเองแล้ว ชาวนาจะต้องขวนขวายหาความรู้ด้วย อย่างการเพาะขยายเมล็ดพันธุ์ ทำปุ๋ยอินทรีย์เอง

“เพราะต้นทุนการปลูกข้าวหนักสุดคือ ปุ๋ย ถ้าใช้เคมีต้องเอาเงินไปซื้อๆ มีแต่เงินออกตลอด แล้วไหนจะต้องใส่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่แปลงนาเรามีทั้งซัง หญ้า วัว ควาย เอามาทำปุ๋ยได้ วัวควาย 4 ตัว สามารถทำปุ๋ยใส่นา ได้ 30 ไร่ แต่ต้องขยัน เอาผักโป่ง (ผักตบชวา) ใส่รถมากองสับโยนทิ้งเข้าไป พอได้ 4 วัน เอาปูนขาวโรย ใส่น้ำหมัก ทำไปเรื่อยๆให้ทั่ว 30 ไร่ ถึงเวลาไถก็เอารถเหล็กลงก่อน หน้าดินเริ่มนิ่มถึงเอาวัวควายลงไปย่ำเทือก ทำผสมกันไปแบบนี้ นอกจากวัวควาย ไม่เหนื่อย มันยังถ่ายลงนากลายเป็นปุ๋ย ไม่ต้องไปหาซื้อเคมีให้ยุ่งยากเปลืองเงิน”

เรื่องเมล็ดพันธุ์ก็เช่น กันไปอบรมที่ศูนย์วิจัยข้าวอุบลราชธานี นอกจากจะทำเองเป็น ยังทำขายให้ชาวนาในชุมชนได้อีก กก.ละ 30 บาท...เลยทำให้ต้นทุนการทำนาของ ลุงช่วย เหลืออยู่แค่ไร่ละ 1,850 บาท ในขณะที่คนอื่นต้องใช้ทุนปาเข้าไปถึง 5-6 พันบาท ต้นทุนต่ำสีข้าวขายเองได้ราคาสูง...เงินล้านเลยแค่เอื้อมหยิบเท่า นั้นเอง.

 

 

เกษตรกร ถ้ารู้จักค้าขายด้วยจะเพิ่มมูลค่าผลผลิตของตัวเอง

 

แต่คนไทยมักจะอาย ถ้าต้องขายสินค้าตัวเองในตลาด

 

ยอมขายส่งให้พ่อค้าแม่ค้าในราคาถูกๆ โดนกดราคาก็ยอม

 

เราต้องพยายามปรับเปลี่ยนทัศนคติอันนี้ซะด้วย จะช่วยได้เยอะเลยครับ

[kokkai]

ไม่ต้องอ้างโน่นอ้างนี่หรอก สลิ่มกรุงเทพฯ เนี่ยละตัวไม่พอเพียงเลยละ

 

[เสือยิ้มยาก]

 

ทำนาพอเพียง ปีละครั้ง..ได้เป็นล้าน

http://www.thairath..../content/349302

โดย เพ็ญพิชญา เตียว 6 มิ.ย. 2556 05:15

 

 

 

ในขณะที่ชาวนาส่วนใหญ่พากันบ่น...ทำนาปีมีแต่หนี้กับซัง ทำนาปรังมีแต่ซังกับหนี้ เรียกร้องรอความช่วยเหลือจากภาครัฐตลอดเวลา
แต่ ชาวนาแห่งทุ่งกุลาร้องไห้ นายช่วย  สาสุข บ้านโพนละมั่ง ต.หินกอง อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ สาขาอาชีพทำนา ประจำปี 2556...กลับมอง คิด และปฏิบัติตรงกันข้าม

ไม่พึ่งรอคอยความช่วยเหลือ จากภาครัฐ ไม่เอาข้าวไปจำนำ แถมยังปลูกข้าวในที่นา 53 ไร่ แค่ปีละ 1 ครั้ง คำว่ามีแต่หนี้กับซังไม่มีในสารบบ...ปีๆหนึ่ง มีรายได้แค่ล้านเดียวเอง

“ผม ไม่ได้ทำอะไรมาก แค่ทำตามอย่างที่พ่อหลวงบอก คือ พอเพียง ปลูกข้าวเก็บไว้กินเอง มีเหลือแล้วถึงเอาไปขาย ไม่เหมือนคนอื่น มีเท่าไรก็เอาไปขายไปจำนำหมด จะกินก็ต้องซื้อ จะปลูกก็ต้องซื้อเมล็ดพันธุ์ แล้วจะไปเหลืออะไร ส่วนผมไม่ต้องซื้อสักอย่าง

 

และข้าวที่เหลือจากกิน เวลาจะเอาไปขายผมก็ไม่ทำเหมือนคนอื่น แทนที่จะเอาไปขายโรงสีแล้วถูกกดราคา ผมเอาข้าวเปลือกมาสีเอง ใส่ถุงบรรจุเอง เอาไปขายเอง ผมทำข้าวหอมมะลิอินทรีย์ไม่ใช้เคมี ขายได้ กก.ละ 50 บาท และยังทำข้าวพันธุ์พื้นเมือง 101 สายพันธุ์ สีเสร็จแล้วเอามาผสมรวมกันขายได้ กก.ละ 150 บาท”

นี่แหละความลับของ รายได้ปีละล้าน แต่จะทำอย่างนี้ได้ ลุงช่วย บอกว่า นอกจากจะต้องรู้จักพอเพียงและพึ่งพาตัวเองแล้ว ชาวนาจะต้องขวนขวายหาความรู้ด้วย อย่างการเพาะขยายเมล็ดพันธุ์ ทำปุ๋ยอินทรีย์เอง

“เพราะต้นทุนการปลูกข้าวหนักสุดคือ ปุ๋ย ถ้าใช้เคมีต้องเอาเงินไปซื้อๆ มีแต่เงินออกตลอด แล้วไหนจะต้องใส่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่แปลงนาเรามีทั้งซัง หญ้า วัว ควาย เอามาทำปุ๋ยได้ วัวควาย 4 ตัว สามารถทำปุ๋ยใส่นา ได้ 30 ไร่ แต่ต้องขยัน เอาผักโป่ง (ผักตบชวา) ใส่รถมากองสับโยนทิ้งเข้าไป พอได้ 4 วัน เอาปูนขาวโรย ใส่น้ำหมัก ทำไปเรื่อยๆให้ทั่ว 30 ไร่ ถึงเวลาไถก็เอารถเหล็กลงก่อน หน้าดินเริ่มนิ่มถึงเอาวัวควายลงไปย่ำเทือก ทำผสมกันไปแบบนี้ นอกจากวัวควาย ไม่เหนื่อย มันยังถ่ายลงนากลายเป็นปุ๋ย ไม่ต้องไปหาซื้อเคมีให้ยุ่งยากเปลืองเงิน”

เรื่องเมล็ดพันธุ์ก็เช่น กันไปอบรมที่ศูนย์วิจัยข้าวอุบลราชธานี นอกจากจะทำเองเป็น ยังทำขายให้ชาวนาในชุมชนได้อีก กก.ละ 30 บาท...เลยทำให้ต้นทุนการทำนาของ ลุงช่วย เหลืออยู่แค่ไร่ละ 1,850 บาท ในขณะที่คนอื่นต้องใช้ทุนปาเข้าไปถึง 5-6 พันบาท ต้นทุนต่ำสีข้าวขายเองได้ราคาสูง...เงินล้านเลยแค่เอื้อมหยิบเท่า นั้นเอง.

 

 

เกษตรกร ถ้ารู้จักค้าขายด้วยจะเพิ่มมูลค่าผลผลิตของตัวเอง

 

แต่คนไทยมักจะอาย ถ้าต้องขายสินค้าตัวเองในตลาด

 

ยอมขายส่งให้พ่อค้าแม่ค้าในราคาถูกๆ โดนกดราคาก็ยอม

 

เราต้องพยายามปรับเปลี่ยนทัศนคติอันนี้ซะด้วย จะช่วยได้เยอะเลยครับ

 

ทำนาปีละครั้ง ได้เป็นล้าน!!

 

นี่ถือว่าธรรมดา ลองคิดดูว่าปลูกข้าวแค่ 5-6 เดือน แล้วที่ดินยังว่างอีก 5-6 เดือนใน 1 ปี แสดงว่าช่วงที่ว่างทำนาก็ปลูกถั่ว ปลูกผักระยะสั้นได้

แล้วถ้าแกแบ่งที่ดิน ไปทำอย่างอื่นด้วย ตามแนวเกษตรทฤษฎีใหม่ใร่นาสวนผสม เรียกว่าเดินเข้าในสวนเหมือนเข้าห้างฯ แก่จะได้มากกว่า 1 ล้าน

 

นี่ไม่ได้ว่าแกขี้เกียจนะเพียงแต่แค่ยกตุ๊กตา คนมีที่ทำกิน ไม่กี่ไร่ ถ้ารู้จักใช้ให้เกิดประโยชน์หมั่นศึกษาหาความรู้ก็จะพัฒนาต่อยอดไปเรื่อยๆ

เพราะการทำเกษตรให้อยู่รอดในยุคทุนนิยม ไม่ใช่มีที่ดิน 50 ไร่ก็ปลูกอ้อยทั้งหมด ปลูกมันสำปะหลังทั้งหมด ปลูกข้าวโพดทั้งหมด ฯลฯ พอเก็บเกี่ยวที แทบไม่พอใช้หนี้ปุ๋ย

 

ไม่รู้ตอนนี้เลิกบูมไปรึยัง แถวอิสานบ้านผม แห่กันปลูกไม้ยูคา แห่กันปลูกยางพารากันเต็มพื้นที่...แล้วไง ตอนนี้ประกาศขายที่ดินที่ปลูกยาง ปลูกยูคาไว้ แมวที่ไหนจะไปซื้อ

แล้วทะลึ่งไปปลูกยูคา พืชทำลายหน้าดินตัวฉกาจ ขนาดประเทศลาวยังห้ามปลูก แต่ประเทศไทยดันมีโฆษณาชวนคนปลูกออกทีวีทุกวัน ...ปลูกเสร็จ เจ้าของสวนมารับจ้าง กทม.

[ชายน้ำ]

คนที่ไม่ชอบทฤษฏีเศรษฐกิจพอเพียงมีทั้งนักการเมือง พ่อค้า และข้าราชการที่ได้ประโยชน์จากการทำให้คนไม่ยินดีกับสิ่งที่พอเหมาะพอควร

 

 

ที่เห็นชัดๆคือไอ้เจ้าของ"ทิกซาลี ส็องสุง" (ทฤษฎีสองสูง)

 

 

ตอนนี้แม่งรวยใหญ่และคนไทยยากจนลง แม่งเลิกพูดถึงไอ้ทฤษฎีบัดซบของมันไปแล้ว