มันมีจุดอ่อนตรงที่ นักการเมืองไม่รู้ว่าจะไปสนับสนุนอย่างไรมากกว่า ครับ
ความจริงเขาก็มีนโยบายสนับสนุนอยู่นะครับ เห็นหน่วยราชการโดยเฉพาะ
หน่วยงานด้านเกษตรกรรมนี่ จะเยอะหน่อยที่เข้าไปสนับสนุน แต่มันเป็นการ
เข้าไปสนับสนุนในเรื่องของ รูปแบบ มากกว่า เช่น เขาทำนาอยู่ ก็เข้าไปสนับสนุน
ว่า ถ้าเขาจะอยู่ได้โดยมีรายได้พอกินพอใช้ ไม่ควรทำนาอย่างเดียวควรทำแบบ
ไรนาสวนผสม อะไรทำนองนั้นแหละ
ดูแล้วมันก็ได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้าง แต่ที่ไม่ได้ผลนั้น มันไม่ใช่เพราะรูปแบบมันไม่
ถูกต้อง รูปแบบนั้นมันถูกต้องแต่คนที่ทำไม่มีจิตสำนึกในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง
เพราะนิสัยเหมือนเดิม เคยฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม ใช้จ่ายเกินตัวอย่างไร ก็ใช้อยู่อย่างนั้น
เคยเล่นหวยเล่นแชร์ กินเหล้าเมายาอยู่อย่างไรก็กินอยู่อย่างนั้น เปลี่ยนแค่รูปแบบ
การทำนาเท่านั้น แบบนี้ยังไงมันก็ไม่พอเพียงครับ
เศรษฐกิจพอเพียง มันเป็นเรื่องของจิตสำนึกครับ เศรษฐี ร้อยล้าน พันล้าน หมื่นล้าน
ก็ใช้ชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียงได้ คนจนดักดานก็ใช้ชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียงได้
ไม่ใช่จนดักดานแต่ใฝ่ฝันฟุ้งเฟ้ออยากได้รถเบนซ์ มาขับ หรือรวยล้นฟ้า แต่ งกแบบขี้
ไม่ให้หมากิน แถมยังเอารัดเอาเปรียบคนอื่นอยู่ตลอดเวลาแบบไอ้เหลี่ยม ถ้าคิดแบบนี้
มันก็ไม่ใช่เศรษฐกิจพอเพียง
ที่สำคัญก็คือ ข้าราชการที่จะออกไปส่งเสริมชาวบ้านให้เขาใช้ชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง
ก็ต้องเข้าใจก่อนว่าจะไปส่งเสริมเขาอย่างไร เพราะเท่าที่เห็นส่วนใหญ่จะเอารูปแบบไปให้
แต่จิตสำนึกไม่เปลี่ยน ซึ่งมันก็เป็นเรื่องยากครับ เพราะข้าราชการเองก็ยังไม่ใช้ชีวิตแบบ
เศรษฐกิจพอเพียงเลย แค่นางยิ่งลักษณ์ออกนโยบายรถคันแรกมาเท่านั้น ก็วิ่งไปจองกันจน
เป็นหนี้หัวโตอยู่ทุกวันนี้แหละครับ