โดย ASTVผู้จัดการรายวัน 3 พฤษภาคม 2557 06:08 น.
“ประยุทธ์ จันทร์โอชา” หุ้นส่วนคนสำคัญแห่ง Oxford Deal?
http://www.manager.c...D=9570000049096
บทความจั่วหัวถึงประยุทธ์ หน้าปกก็ประยุทธ์ แต่เนื้อความด่าอภิสิทธิ์คนเดียวความยาวหลายหน้า
เช่น
เนื่องเพราะปฏิบัติการอภิสิทธิ์ภายใต้รหัส Oxford Deal ล้มเหลวไม่เป็นท่า และสังคมได้เห็นแล้วว่า นายอภิสิทธิ์มิได้ต้องการที่จะถอนรากถอนโคนระบอบทั้งสิ้นแต่ประการใด
ดังนั้น ความรับผิดชอบเดียวที่นายอภิสิทธิ์พึงกระทำก็คือ การประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในทันที ไม่เช่นนั้นแล้ว พรรคประชาธิปัตย์จะได้รับบทเรียนจากความสะเออะครั้งนี้ตอบแทนอย่างสาสมเลยทีเดียว โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานครและภาคใต้
ส่วนปฏิบัติการภายใต้รหัส วันเผด็จศึก ของนายสุเทพที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 14 พฤษภาคม 2557 นั้น เงื่อนปมแห่งความสำเร็จมีเพียงประการเดียวมวลมหาประชาชนออกมามากพอที่จะกดดันให้ทหารตัดสินใจเลือกข้าง แต่ทั้งนี้ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่า “บิ๊กถั่งเช่า” จะเล่นด้วยหรือไม่ ถ้าบีบให้บิ๊กถั่งเช่าให้ยืนอยู่ข้างมวลมหาประชาชนไม่สำเร็จ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จในการถอนรากถอนโคนระบอบทักษิณคงไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ
ที่สำคัญคือ ใครที่คาดหวังว่า ทหารจะทำรัฐประหาร บอกได้เลยว่า ยาก เพราะยังมีอีกหนึ่งช่องที่บิ๊กถั่งเช่าเตรียมไว้คือการประกาศกฎอัยการศึกเพื่อควบคุมสถานการณ์ จากนั้นก็นำพาประเทศไปสู่การเลือกตั้งเหมือนดังเช่นที่นายใหญ่คนเสื้อแดงและนายใหญ่พรรคประชาธิปัตย์ต้องการ
ส่วนการปฏิรูป.....มิพักต้องเอ่ยถึง
โดย ASTVผู้จัดการรายวัน 3 พฤษภาคม 2557 06:08 น.
พล.ร.ท.ประทีป ชื่นอารมณ์ 'ออกซฟอร์ดดีล' = การฆ่าตัวตายของอภิสิทธิ์
http://www.manager.c...D=9570000049101
บางคนมองว่างานนี้คุณสุเทพรู้กันกับคุณอภิสิทธิ์ วางเกมแบบแยกกันเดินรวมกันตี
ผมคิดว่าไม่ใช่ เพราะถ้าแยกกันเดินรวมกันตีล่ะก็กำนันสุเทพไม่ควันออกหูอย่างนี้หรอก แปลว่าคุณอภิสิทธิ์เดินเกมโดยไม่ได้บอกให้คุณสุเทพรู้แม้แต่น้อย
อะไรที่ทำให้เชื่อว่าออกซฟอร์ดดีลมีความเป็นไปได้
เหตุผลที่ผมเชื่อว่าออกซฟอร์ดดีลมีความเป็นไปได้เพราะมีองค์ประกอบเหล่านี้ครบ ได้แก่ 1.เคยมีการเจรจาระหว่างพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทย 2.มีตัวกลางในการเจรจา 3.มีความสมประโยชน์กันของทั้งสองพรรค และ 4.แหล่งข่าวที่ให้ข้อมูลมีความน่าเชื่อถือ
สำหรับประเด็นที่ 1 เราจะเห็นว่าที่ผ่านมาเคยมีการเจรจาระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์มาหลายครั้งแล้ว อาทิ สมัยที่คุณอภิสิทธิ์เป็นนายกฯได้มีการประกาศโรดแม็พกำหนดการเลือกตั้งในวันที่ 24 พ.ย.2553 เพื่อแลกกับการสลายการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง ครั้งนั้นมีการเจรจากันว่าถ้ารัฐบาลประชาธิปัตย์ยุบสภาและกำหนดวันเลือกตั้งใหม่แล้ว เสื้อแดงต้องกลับบ้านนะ นอกจากนั้นยังมีการเจรจาให้รัฐบาลประชาธิปัตย์ปล่อยตัวนายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ และ นพ.เหวง โตจิราการ2 แกนนำเสื้อแดงที่ถูกตั้งข้อหาก่อการร้าย แล้วต่อมาก็มีการปล่อยตัวสองคนนี้จริงๆ , ต่อมาเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.2555 เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ในขณะนั้นขึ้นปราศรัยบนเวทีที่มีนบุรีว่าคุณทักษิณส่งคนมาติดต่อให้พรรคประชาธิปัตย์ไปร่วมกับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยมีตัวกลางในการเจรจาครั้งนั้นเป็นสองหญิงผู้สูงศักดิ์ กับหนึ่งชายชั้นสูง
ล่าสุด เมื่อวันที่ 26 มี.ค.2557คุณศิริโชค โสภา ไปออกรายการเถียงให้รู้เรื่อง ทางสถานีไทยพีบีเอส โดยคุณศิริโชคพูดชัดเจนว่าขณะนี้มีผู้ใหญ่เขาคุยกันอยู่ ซึ่งก็หมายถึงผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทย ซึ่งเนื้อหาในการคุยนั้นคุณทักษิณมีเงื่อนไขอยู่ 3 ข้อ คือ 1.คุณทักษิณต้องรอดพ้นจากคดีทุกคดี 2.คุณทักษิณต้องได้ทรัพย์สินที่ถูกยึดทรัพย์ไปคืน และ3.คุณยิ่งลักษณ์ซึ่งเป็นรักษาการนายกรัฐมนตรีต้องไม่มีความผิดใดๆ ซึ่งแสดงว่าเมื่อเร็วๆนี้ผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ก็ยังมีการพูดคุยกันเพื่อต่อรองผลประโยชน์ทางการเมือง เพราะฉะนั้นออกฟอร์ดดีลมันจึงมีความเป็นไปได้สูง เพราะที่ผ่านมามันมีการเจรจาระหว่างพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทยมาหลายครั้ง แล้วครั้งนี้เกมเจรจาทางการเมืองทำไมจะเกิดขึ้นไม่ได้
แปลว่าต้องมีตัวกลางในการเจรจาด้วย
เป็นที่รับทราบกันโดยทั่วไปว่าพรรคประชาธิปัตย์ให้ใครเป็นคนเจรจาความการเมืองกับพรรคการเมืองต่างๆบ้าง คนแรกก็คือ คุณกรณ์ จาติกวณิช คนที่สอง คุณกอรปศักดิ์ สภาวสุ และคนที่สาม มรว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าพรรคประชาธิปัตย์ใช้ 3 คนนี้เจรจาความเมืองกับพรรคการเมืองต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง เพราะฉะนั้นก็มีความเป็นไปได้ที่ออกซฟอร์ดดีลครั้งนี้จะมีตัวกลางในการเจรา แต่ผมก็ไม่ได้ฟันธงว่าใครเป็นตัวกลางในการเจรจาครั้งนี้นะ
แล้วเรื่องการสมประโยชน์ที่ว่า เขาสมประโยชน์กันอย่างไร
งานนี้ชัดเจนว่ามันมีปรากฏการณ์ที่สมประโยชน์ระหว่างทั้งสองพรรค เพราะแน่นอนว่าการเจรจาความบ้านความเมืองระหว่างพรรคการเมืองมันต้องเจือสมประโยชน์กัน ซึ่งก็คือปรากฏการณ์อภิสิทธิ์นั่นเอง โดยทั่วไปคนก็รู้กันว่าคุณอภิสิทธิ์ต้องการให้มีการเลือกตั้ง แต่การเลือกตั้งในขณะที่ยังไม่มีการปฏิรูปมันขัดแย้งกับแนวทางของ กปปส. นอกจากนั้นปรากฏการณ์นี้ก็ยังสอดคล้องกับกุญแจ 5 ดอก ที่ คุณนพดล ปัทมะ ทนายความประจำตัวของคุณทักษิณ เสนอว่าต้องมีการเลือกตั้ง มีปฏิญญาระหว่างพรรคการเมือง เมื่อได้รับเลือกเป็นรัฐบาลแล้วก็เป็นรัฐบาลในช่วงสั้นๆ มีการตั้งสภาปฏิรูป และมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เสร็จแล้วก็ยุบสภา มีการเลือกตั้งกันใหม่ ซึ่งมันสอดคล้องกันเลยกับการเดินเกมของคุณอภิสิทธิ์ แล้วถามว่ามันสอดคล้องกับพรรคเพื่อไทยไหม ชัดเจนเลย หลังจากคุณอภิสิทธิ์ออกมาเคลื่อนไหว คุณยิ่งลักษณ์ก็ให้สัมภาษณ์สนับสนุนแนวคิดของคุณอภิสิทธิ์ กระทั่งกลายเป็นพาดหัวข่าวว่า “ปูให้กำลังใจมาร์ค” แทบไม่ต้องอธิบายเลยว่ามันสมประโยชน์กันหรือไม่ แรกๆลิ่วล้อพรรคเพื่อไทยก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์คุณอภิสิทธิ์บ้าง แต่พอได้สัญญาณจากผู้ใหญ่ในพรรค พวกนี้ก็เงียบหมด
นอกจากนั้นมันก็มีสัญญาณอย่างอื่นอีก เมื่อวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา คุณเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ นำทีมข้าราชการรดน้ำขอพรจากคุณทักษิณผ่านสไกป์ ทางคุณอภิสิทธิ์ก็ส่งสัญญาณมาเลยว่าให้เลิกอาฆาต จองเวร ต้องเจรจากับทุกฝ่าย และพร้อมเสียสละ แล้ววันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา คุณทักษิณก็ประกาศออกมาชัดเจนว่ายอมให้ตระกูลชินวัตรเลิกเล่นการเมือง หลังจากนั้นคุณอภิสิทธิ์ก็บอกว่าวันที่ 25 เม.ย.จะเริ่มต้นเดินเกม ซึ่งมันชี้ชัดว่าปรากฏการณ์ของฝ่ายคุณทักษิณและปรากฏการณ์ของคุณอภิสิทธิ์มันสอดรับกันหมดเลย ปรากฏการณ์อภิสิทธิ์มันเอื้อประโยชน์กับพรรคเพื่อไทยด้วย ปรากฏการณ์อภิสิทธิ์เนี่ยมันเป็นปรากฏการณ์ที่เรียกว่าเดินเข้าร่องตีนของทักษิณ
แปลว่าการเลือกตั้งนำไปสู่ผลประโยชน์ของทั้งสองพรรค
ใช่ครับ คุณยิ่งลักษณ์ก็พูดชัดว่าให้เข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งแล้วค่อยปฏิรูป คุณอภิสิทธิ์ก็พูดในทำนองนี้เพียงแต่ว่าใช้วาทะกรรมที่ไม่โจ่งแจ้ง โดยบอกว่าขอให้มีการปฏิรูปภายใต้รัฐธรรมนูญและอย่าตั้งเงื่อนไขว่าต้องปฏิรูปก่อนหรือหลังการเลือกตั้ง พูดง่ายๆก็คือเลือกตั้งก่อนแล้วค่อยปฏิรูป ถามว่าถ้าเลือกตั้งแล้วใครได้ประโยชน์ โอกาสที่ทักษิณจะได้ประโยชน์มีสูง เพราะทั้งทักษิณและทาง กปปส.เองเชื่อว่าหากเกิดการเลือกตั้งในระยะเวลาอันใกล้ในช่วง 1-2 ปีนี้ เพื่อไทยก็มีโอกาสที่จะชนะการเลือกตั้งอีกเพราะเขาสามารถใช้กลไกรัฐทำประโยชน์ในเรื่องนี้ได้ นอกจากนั้นวัฒนธรรมการเลือกผู้แทนมันฝั่งแน่นลงไปแล้วว่าชาวบ้านเขาเลือกผู้แทนที่เอาผลประโยชน์มาล่อ ซึ่งดัชนีที่ชี้ว่าการเลือกตั้ง ส.ส.ในระยะเวลาอันใกล้นี้พรรคเพื่อไทยจะได้เสียงข้างมากก็คือผลการเลือกตั้ง ส.ว.ที่ผ่านมาซึ่งจะเห็นว่า ส.ว.ที่ได้รับเลือกส่วนใหญ่เป็นคนของพรรคเพื่อไทย
แล้วก็อย่างที่คุณไพศาล พืชมงคล วิเคราะห์ไว้ว่า ในมุมมองของคุณทักษิณเนี่ยให้คุณอภิสิทธิ์เป็นนายกฯดีกว่าได้นายกฯจากมาตรา 7 ซึ่งเขาไม่รู้ว่าเป็นใคร เพราะกึ๋นของคุณอภิสิทธิ์เราก็เห็นมาแล้วว่าเป็นนายกฯมา 3 ปี เขาก็ยังยอมสยบต่อเสื้อแดง ยอมเจรจาปล่อยตัวเสื้อแดงที่ถูกข้อหาก่อการร้าย
แหล่งข่าวที่ให้ข้อมูลเรื่องนี้ต้องมีความใกล้ชิดกับฝ่ายการเมือง
ผมไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าแหล่งข่าวของผมเป็นใคร บอกได้แต่เพียงว่าเป็นบุคคลที่มีเครดิตทางสังคม และที่ผ่านมาข้อมูลต่างๆที่ผมเคยได้ก็ไม่เคยผิดไปจากความเป็นจริง
คิดว่าปรากฏการณ์อภิสิทธิ์ส่งผลกระทบต่อบ้านเมืองอย่างไร
สถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ชี้ชัดว่าพรรคประชาธิปัตย์มีแนวทางมุ่งสู่การเลือกตั้งเช่นเดียวกับพรรคเพื่อไทย ตามที่เราได้เห็นปรากฏการณ์อภิสิทธิ์และออกซฟอร์ดดีลซึ่งสอดคล้องกันมาก ซึ่งสิ่งเหล่านี้ผมว่ามันขัดแย้งกับทิศทางการแก้ไขปัญหาของประเทศซึ่งมันจำเป็นต้องปฏิรูปก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง ส่วนจะทำได้หรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง และที่สำคัญปรากฏการณ์ออกซฟอร์ดดีลขัดแย้งกับทิศทางการขับเคลื่อนของ กปปส.อย่างชัดเจน ซึ่งมันจะทำให้สถานการณ์บ้านเมืองสับสนวุ่นวายและส่งผลกระทบกับประเทศชาติ
ทำไมคุณอภิสิทธิ์ถึงกล้าตัดสินใจโดยไม่ประเมินความรู้สึกของมวลชน
ก็ต้องย้อนกลับไปดูว่าคุณอภิสิทธิ์มีความคิดอะไรที่ผิดปกติหรือเปล่า มันคงต้องมีสัญญาณบางอย่างที่คุณอภิสิทธิ์ได้รับมาทำให้กล้าตัดสินใจ เพราะการลงทุนของคุณอภิสิทธิ์ครั้งนี้เป็นการลงทุนที่สูงมาก หมายถึงการชี้อนาคตของตัวเองเลยทีเดียว ผมว่างานนี้คุณอภิสิทธิ์ฆ่าตัวตายชัดๆ ถ้าเกมนี้เป็นไปอย่างที่ประเมินนะคุณอภิสิทธิ์อาจจะต้องหลุดจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่งั้นล่มจมทั้งพรรคแน่ ผมว่าที่คุณอภิสิทธิ์กล้าทำอย่างนี้เพราะแนวทางการปฏิรูปมันขัดกับผลประโยชน์ของนักการเมือง
แสดงว่าการปฏิรูปทำให้พรรคการเมืองเสียผลประโยชน์ทุกพรรค
ใช่ครับ พรรคประชาธิปัตย์เองก็ไม่แฮปปี้กับแนวทางนี้ ถ้าพูดกันตรงๆแนวทางของคุณสุเทพถือว่าเป็นแนวทางที่สาหัสสากันซึ่งนักการเมืองรับไม่ได้
*****************************************************
จะสังเกตว่า 2 บทความ โพสต์ลงวันเดียวกัน เวลาเดียวกันเป๊ะ
Edited by ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่, 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 18:11.
เดี๋ยวนี้ทีมแป๊ะเขาต้องพึ่งมุก "ใครๆก็รู้" บ่อยขึ้น...
