Jump to content


Photo
- - - - -

ทำไมถึงมีคนสนับสนุนให้ทำแท้ง?


  • Please log in to reply
91 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 แม้ว ม.7

แม้ว ม.7

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,237 posts

ตอบ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 18:06

พอดีอ่านข่าวเรื่องตู้ทิ้งเด็ก แล้วเห็นความเห็นนี้

 

 

fd1vbf.jpg

 

ผมว่าเราควรให้โอกาสคนนะ อย่างน้อยเด็กที่เกิดมาเขาอาจมีชาตาที่ดี เป็นกำลังสำคัญของชาติ

 

ถ้าเราอยู่ในท้องและแม่จะฆ่าเรา แล้วเราสื่อสารได้คงมีทางเลือกสองทาง

1. บอกแม่ว่าขอโอกาสหนูเกิดเถอะ แม่จะไม่เลี้ยงก็ไม่เป็นไร

 

2. ฆ่าหนูทิ้งเหอะ หนูอยากตาย!

 

 

 


พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้พูดตัดพ้อกับคนที่เดินทางไปพบว่า “พรรคเพื่อไทยมีคนเก่งๆ เยอะ ทั้งนักวิชาการ ด็อกเตอร์ ทูต แต่ไม่กล้าออกมาสู้ คนหน้าตาดีไม่ออกมา พวกที่ออกมาหน้าตาไม่ค่อยดี ไม่เหมือนกับพรรคประชาธิปัตย์ ฝ่ายตรงข้าม คนมีความรู้ นักวิชาการออกมาเยอะแยะเลย คนจริงใจกับผมมันน้อย วางยาผม เพราะตัวเองอยากอยู่นานๆ เห็นว่านายกฯ ไม่แข็ง แต่ท่านนายกฯ ก็ดี แต่คนรอบข้างไม่เป็นการเมือง ผมส่งคนเป็นการเมืองไปนายกฯ ก็ไม่เอา ผมก็สงสารนายกฯ จึงไม่อยากจู้จี้ แต่คนที่เมืองไทยมันไม่ได้ดั่งใจ” 

http://astv.mobi/AlgEYM7

แปลสั้นๆ เขาด่าไอ้เสร่อแกนนำแดงว่า"โง่แต่ขยัน"


#2 kanokporn

kanokporn

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,330 posts

ตอบ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 18:11

ความเชื่อทางพุทธ ถ้าไปทำหรือมีส่วนร่วมสนับสนุน จะเป็นกรรมที่ทำให้ชีวิตเจอมรสุมเยอะมาก หากินไม่ขึ้น เขาว่างั้นกันนะ



#3 Kaizer

Kaizer

    Warlord

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,317 posts

ตอบ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 18:16

*
POPULAR

ประหยัดค่าหมึกปรินเตอร์ครับ


สละชีพเพื่อหลักธรรมคือคำขวัญ

 

ฆ่าคนเพื่อชิงอำนาจคือวิธีการ

 

ส่วนลิ่วล้อที่ส่งไปตายก็คือตัวหมากแห่งคุณธรรม


#4 หมาต๋า

หมาต๋า

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 337 posts

ตอบ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 18:21

ความเชื่อทางพุทธ ถ้าไปทำหรือมีส่วนร่วมสนับสนุน จะเป็นกรรมที่ทำให้ชีวิตเจอมรสุมเยอะมาก หากินไม่ขึ้น เขาว่างั้นกันนะ

คุณค่าของชีวิต ตอน 1 : การทำแท้งเป็นบาปหรือไม่ 
 
คุณตื่นนอนกลางดึก หูคุณแว่วเสียงบางอย่าง คุณรู้ว่าไม่ใช่เสียงพายุหิมะแน่ คุณลุกขึ้นจากเตียง คุณมองออกไปนอกหน้าต่าง ข้างนอกบ้านหิมะกำลังตกหนัก คุณเดินลงไปที่ชั้นล่าง คุณพบว่ามีชายแปลกหน้าคนหนึ่งนอนอยู่ในห้องรับแขก คุณถามเขาว่า "คุณเข้ามายังบ้านของฉันทำไม?" เขาตอบว่า "เพราะประตูเปิดอยู่"
 
คุณบอกเขาว่า "แต่นี่เป็นบ้านของฉัน คุณไม่มีสิทธิ์เข้ามาในบ้านของคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต" เขาตอบว่า "ก็บ้านของคุณอบอุ่นดี"
 
คุณบอกให้เขาออกไปจากบ้านคุณเสีย เขาบอกว่า "ผมออกไปไม่ได้หรอก ขืนออกไปตอนนี้ ผมก็หนาวตายข้างนอกนั่นสิ"
 
คุณบอกว่า "แต่ฉันมีสิทธิเป็นเจ้าของบ้านนี้" เขาตอบว่า "ผมก็มีสิทธิในการมีชีวิต ถ้าผมออกไปข้างนอกแล้วตาย คุณก็ต้องเข้าคุกเพราะฆ่าผมตายทางอ้อม"
 
 
เรื่องที่เล่ามานี้มิใช่เรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับใคร มันเป็นตัวอย่างที่นักวิวาทะปัญหาเรื่องการทำแท้งมักยกมาเปรียบเทียบ
 
เจ้าของครรภ์ (บ้าน) มีสิทธิ์ในร่างกายของตนเองจริงหรือไม่? มีเสรีภาพในการทำแท้งเด็กในท้อง (ไล่คนแปลกหน้าออกจากบ้าน) หรือไม่?
 
การทำแท้งเป็นประเด็นถกกันมานาน เป็นประเด็นร้อนในสังคมทั่วโลก บ่อยครั้งถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง และเป็นเรื่องที่จะถกกันไปอีกนานแสนนาน ตราบที่ผู้หญิงตั้งท้องได้และไม่ทุกคนที่อยากมีลูก โดยสองค่ายความคิด : Pro-choice กับ Pro-life
 
Pro-choice เห็นว่ามนุษย์สมควรมีเสรีภาพในการเลือก หญิงเจ้าของครรภ์จึงมีสิทธิ์ตัดสินว่าจะอุ้มท้องหรือไม่ รัฐไม่มีสิทธิ์เหนือสิ่งที่เกิดในภายในมดลูกของหญิงคนนั้น
 
Pro-life เห็นว่าชีวิตมนุษย์แม้ในรูปของตัวอ่อนย่อมมีค่า เมื่อสิ่งมีชีวิตเกิดขึ้นมาแล้ว แม้ว่ามันอยู่ในรูปของตัวอ่อน ก็มีสิทธิที่จะอยู่ในโลกนี้ ไม่มีใครมีสิทธิที่จะทำลายมันโดยพลการ เพราะการทำลายตัวอ่อนก็คือฆาตกรรม
 
นี่จึงเป็นวิวาทะของสองซีกความคิดต่อสองสาระที่ต่างก็สำคัญต่อมนุษย์ ?: ชีวิตกับเสรีภาพ
 
 
 
ตัวเลขของการทำแท้งทั่วโลกในปัจจุบันคือประมาณ 46 ล้านครั้ง และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ประเทศที่มีอัตราการทำแท้งสูงมากๆ มิใช่ประเทศเสรีนิยม หากเป็นประเทศสังคมนิยม เช่น รัสเซีย เวียดนาม ในตัวเลข 46 ล้านรายนี้ มีเพียง 26 ล้านรายที่ทำแท้งอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ตัวเลขขององค์การสหประชาชาติชี้ว่า การทำแท้งกว่า 88 เปอร์เซ็นต์เกิดขึ้นก่อนตัวอ่อนอายุ 12 สัปดาห์
 
ไม่ว่าความเห็นของชาวโลกต่อเรื่องนี้เป็นอย่างไร ประวัติศาสตร์ของโลกก็บันทึกชัดว่า การทำแท้งในสมัยโบราณไม่เป็นเรื่องวุ่นวายเหมือนปัจจุบัน ทั้งนี้เพราะผู้คนสมัยนั้นยังไม่รู้รายละเอียดของการปฏิสนธิ ยิ่งไม่รู้พัฒนาการของตัวอ่อนในแต่ละขั้น จวบจนเมื่อโลกประดิษฐ์กล้องจุลทรรศน์และเรารู้ว่า ชีวิตเกิดจากการผสมระหว่างอสุจิกับไข่ มุมมองเกี่ยวกับชีวิตก็เปลี่ยนไป ความคิดต่อต้านการทำแท้งขยายวงกว้างออกไป แต่ละสังคม แต่ละประเทศมีมุมมองต่างกัน และความเห็นเรื่องนี้แปรต่างกันไปตามความเชื่อ วิธีการใช้ชีวิต วัฒนธรรม ฯลฯ
 
ในศตวรรษที่ 19 ประเทศส่วนใหญ่ในโลกห้ามการทำแท้ง จนถึงศตวรรษที่ 20 หลายประเทศจึงเริ่มอนุญาตให้ทำแท้งได้โดยไม่มีบทลงโทษ ประเทศแรกๆ ที่อนุญาตการทำแท้งอย่างถูกกฎหมาย ได้แก่ สหภาพโซเวียต (พ.ศ. 2462) เยอรมนี (พ.ศ. 2478) สวีเดน (พ.ศ. 2481)
 
สำหรับทัศนคติการทำแท้งในประเทศไทยเป็นเรื่องค่อนข้างแปลก เพราะในสมัยโบราณเรามองว่าการทำแท้งเป็นเรื่องธรรมดา สังคมยอมรับการตัดสินใจของสตรีเป็นใหญ่ คนโบราณมองว่านี่เป็นสิทธิของหญิง การทำแท้งได้กลายเป็นสิ่ง 'ผิด' เมื่อกฎหมายไทยเดินตามหลังประเทศที่ 'ศิวิไลซ์' ทางตะวันตก
 
กฎหมายตราสามดวงของไทยโบราณไม่เอาผิดหญิงที่ทำให้ตัวเองแท้งลูก หมวดพระอัยการทาสในกฎหมายตราสามดวงมาตรา 94 แบ่งการตั้งครรภ์ออกเป็นสองช่วง ช่วงสามเดือนแรกเรียก 'เขตรักษาท้อง' ช่วงสามเดือนจนครบกำหนดเรียก 'ทศมาส' ทารกที่คลอดหรือแท้งในช่วงหลังนี้ ไม่ว่าเด็กที่คลอดจะรอดหรือตาย ให้ถือว่าเป็นการคลอดทั้งสิ้น 
 
 
 
นอกจากการทำแท้งเพราะความพลาดพลั้งแล้ว ยังมีการทำแท้งเพราะเพศของตัวอ่อนด้วย
 
ในบางประเทศเช่นจีน อินเดีย การทำแท้งตัวอ่อนเพศหญิงสูงกว่าชายหลายเท่า เพราะสังคมไม่นิยมทารกหญิง วัฒนธรรมของชาวจีนนิยมเด็กชายมากกว่าเด็กหญิง เพราะเด็กชายจะเป็นผู้สืบแซ่ต่อไป การจบแซ่ที่รุ่นใดถือว่าเป็นเรื่องอัปมงคลของตระกูลนั้น ทว่าเมื่อพลเมืองจีนสูงถึงหลักพันล้าน ความจำเป็นที่ต้องควบคุมจำนวนประชากรจึงเกิดขึ้น โดยการออกนโยบาย 'ครอบครัวเดียว ลูกคนเดียว' ขณะที่ค่านิยมทารกเพศชายยังไม่หมดสิ้นไป จึงมีรายงานการทำแท้งไปจนถึงการฆ่าเด็กทารกหญิงที่เพิ่งเกิดเสมอๆ
 
ในประเทศอินเดีย บางพิธีกรรมทางความตายต้องใช้ญาติที่เป็นชายเท่านั้น ทำให้ทารกชายเป็นที่นิยมมากกว่า เทคโนโลยีการตรวจเพศในตัวอ่อนกลายเป็นดาบสองคม เมื่อคนใช้มันเพื่อจุดประสงค์ในการรู้เพศของตัวอ่อน และทำลายตัวอ่อนที่เป็นหญิง
 
โฆษณาในยุคทศวรรษ 1970-1980 ในอินเดียตีพิมพ์ว่า "ลงทุน 500 รูปี (เป็นค่าตรวจสอบเพศเด็ก) ในวันนี้ จะประหยัดเงินห้าหมื่นรูปี (ค่าสินสอดที่ฝ่ายหญิงให้ฝ่ายชาย) ภายหลัง" ตัวเลขบ่งว่าในช่วง ค.ศ. 1985-2005 ตัวอ่อนเพศหญิงถูกทำลายไปราวสิบล้านชีวิต จนในปี ค.ศ. 1994 รัฐบาลอินเดียต้องห้ามการตรวจเพศเด็กโดยสิ้นเชิง
 
เรื่องนี้ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องดีหรือร้ายสำหรับหญิง เพราะมันกลายเป็นกรรมตามสนองครอบครัวที่นิยมเพศชาย นั่นคือเมื่อมีชายมาก หญิงน้อย ทำให้หญิงสามารถเลือกคู่ครองได้มากกว่าชาย! 
 
 
 
อย่างไรก็ตาม เรื่องกฎหมายอาจไม่ใช่ประเด็นสำคัญเท่าบริบททางสังคมและศีลธรรม เพราะการทำแท้งก้าวไกลกว่า 'ผิดกฎหมาย-ถูกกฎหมาย' มันข้ามไปยังประเด็นของ บาป-ไม่บาป, ภาระสังคม, คุณค่าของชีวิต, ความรับผิดชอบของปัจเจกและสังคม ไปจนถึงขอบเขตของเสรีภาพ
 
มีคำถามมากมายในการถกเรื่องการทำแท้ง : การฆ่าทารกที่เกิดแล้วกับการทำลายตัวอ่อนต่างกันหรือไม่ ในเมื่อทั้งคู่ก็ยังไม่สามารถมีชีวิตรอดด้วยตัวเอง? การทำลายตัวอ่อนที่มีอายุสองเดือนกับสามเดือน สี่เดือน ห้าเดือน เจ็ดเดือน... ต่างกันอย่างไร? ที่จุดใดเราเรียกมันว่าเป็น 'ฆาตกรรม' ? รัฐใช้สิทธิอะไรในการห้ามหรืออนุญาตการทำแท้ง ในเมื่อรัฐธรรมนูญเน้นเรื่องเสรีภาพของมนุษย์? การบังคับให้หญิงอุ้มท้องทั้งที่ไม่ต้องการเด็กนั้นเป็นเรื่องแย่หรือดี? หากการทำแท้งตัวอ่อนที่เกิดจากการข่มขืนไม่ผิดหรือไม่บาป ทำไมการทำแท้งตัวอ่อนอื่นๆ จึงผิดหรือบาป? อะไรคือบรรทัดฐาน? ทำไมสังคมยอมรับการทำแท้งของหญิงที่ถูกข่มขืนและการทำแท้งตัวอ่อนเพื่อรักษา ชีวิตแม่ว่าไม่ผิด ไม่บาป ทั้งที่เป็นการทำลายชีวิตตัวอ่อนชนิดเดียวกัน? หรือเพราะแม่มีชีวิตก่อนจึงมีคุณค่ามากกว่า? เปรียบเทียบได้กับกรณีเมื่อเรือโดยสารล่ม คนที่ลงเรือชูชีพก่อนมีสิทธิ์รอดชีวิตมากกว่าคนที่มาทีหลัง?
 
การทำแท้งเป็นเรื่องผิดหรือไม่ บาปหรือไม่ เป็นคำถามที่อยู่ในพื้นที่สีเทา เพราะเราไม่สามารถหามาตรอะไรมาวัดว่า การกระทำหนึ่งถูกหรือผิด (ที่สำคัญคือ อะไรคือถูก? อะไรคือผิด?) หรือจะใช้มุมมองไหนเป็นหลัก มุมมองของแม่? ของหมอ? ของผู้รักษากฎหมาย? ของสังคม? ของศาสนา? ของธรรมชาติ?
 
ประเด็นการถกยังลามไปเชื่อมกับศาสนา บางศาสนาเช่นคริสต์นิกายคาทอลิกห้ามการคุมกำเนิด ในอีกหลายศาสนา การทำแท้งถูกตราว่าเป็นบาปมหันต์ ขณะที่ฝ่าย Pro-choice ชี้ว่า การปล่อยให้เด็กเกิดมาโดยไม่พร้อม ทำให้เด็กถูกทอดทิ้ง ไร้การศึกษา กระทั่งอดตาย อาจเป็นบาปมหันต์กว่า สถิติเด็กมีปัญหาเพราะเกิดมาโดยไม่พร้อมและเป็นภาระสังคมนั้นสูงขึ้นในทุก สังคม ในหลายกรณีแม่เด็กได้ 'คลอดแล้วเผ่น' ทิ้งเด็กไว้เป็นภาระต่อสังคม และทิ้งรอยบาดแผลในใจเด็กไปตลอดชีวิต
 
 
 
คาร์ล ซาแกน นักคิด นักเขียน นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกัน ตั้งคำถามในหนังสือ Billions and Billions ว่า "อะไรคือความรับผิดชอบของเราต่อคนอื่นๆ ? สมควรเพียงใดที่เราจะยินยอมให้รัฐรุกล้ำเข้าในเรื่องส่วนตัวของชีวิตของเรา? ขอบเขตของเสรีภาพอยู่แค่ไหน? อะไรคือความหมายของความเป็นมนุษย์?"
 
คาร์ล ซาแกน ชี้ว่า 'ชีวิต' มิได้เกิดเมื่อมีการปฏิสนธิ หากแต่ย้อนหลังกลับไปตั้งแต่ต้นกำเนิดของชีวิต ทั้งนี้เพราะชีวิตเป็นสายโซ่ที่ไหลต่อเนื่องไม่ขาดตอนมาตั้งแต่กำเนิดโลก เมื่อหลายพันล้านปีก่อน มันเป็นห่วงโซ่ที่ย้อนเชื่อมไปยังต้นกำเนิดของเผ่าพันธุ์มนุษย์หลายแสนปีมา แล้ว ดังนั้นไข่และตัวสเปอร์มก็มีชีวิต และถ้าใช้ 'ชีวิต' เป็นมาตรวัด เราก็มีคำถามต่อไปว่า การสำเร็จความใคร่ของชายเป็นการฆาตกรรมหมู่หรือไม่? เช่นเดียวกับการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่มีการปฏิสนธิ เพราะทุกครั้งที่มีการหลั่ง จะมีตัวสเปอร์มหลายร้อยล้านตัวที่ตายไปเพราะไม่ได้ปฏิสนธิ การใช้ยาคุมกำเนิดเป็นการฆ่าทางอ้อมหรือไม่? ฝันเปียกเป็นการฆ่าโดยไม่เจตนาหรือไม่? การมีประจำเดือนของสตรีซึ่งเป็นการทำลายไข่ เป็นการฆาตกรรมหรือไม่? เพราะทุกเดือนที่ไข่ไม่ได้รับการปฏิสนธิ ก็เท่ากับว่าไข่ใบนั้นถูกปล่อยให้ตายไป ตลอดทั้งชีวิตของแต่ละคน มีตัวสเปอร์มหรือไข่ตายไปนับไม่ถ้วน เหล่านี้คือ 'ชีวิต' ทั้งนั้นมิใช่หรือ?
 
มองในมุมของธรรมชาติ มีหลักฐานชัดเจนว่าธรรมชาติสร้างชีวิตมาเกินจำนวนเสมอ เพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อาหาร เช่น จำนวนกวางในป่ามีมากพอที่หลังจากเป็นอาหารของสิงโตแล้ว ยังสืบเผ่าพันธุ์ต่อไปได้ จำนวนปลาแซลมอนในทะเลมีมากพอให้หลังจากเป็นอาหารแก่ฝูงหมีแล้ว ยังเหลือพอสืบสายพันธุ์ ฯลฯ เป็นเช่นนี้ทั้งบนแผ่นดิน บนท้องฟ้า ใต้ดิน ใต้น้ำ
 
คำถามคือ การรักษาชีวิตโดยไม่ดูตาม้าตาเรืออาจเป็นการทำลายสมดุลธรรมชาติหรือไม่ หากมนุษย์รักษาชีวิตจนวันหนึ่งประชากรล้นโลก และทำให้ห่วงโซ่อาหารของทั้งโลกถูกทำลาย ทำให้อาหารไม่พอจนคนตายเพราะอดอาหาร? 
 
(ยังมีต่อ) 
 
 
วินทร์ เลียววาริณ
 
www.winbookclub.com
 
26 เมษายน 2551 


#5 winwin191

winwin191

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,520 posts

ตอบ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 18:25

หมอ รพ.ใหญ่ๆของรัฐ เดือนนึงก็ทำไปไม่รู้กี่ศพ(เฉพาะโดนข่มขืน) ทำเพราะเป็นหน้าที่อย่างนี้บาปไหม
คนเก่งเป็นง่าย คนดีเป็นยาก

#6 kim

kim

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,724 posts

ตอบ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 18:25

จีนไง ทำแท๊งค์เยอะน่าจะที่สุดในโลกแล้ว



#7 kanokporn

kanokporn

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,330 posts

ตอบ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 18:28

 

ความเชื่อทางพุทธ ถ้าไปทำหรือมีส่วนร่วมสนับสนุน จะเป็นกรรมที่ทำให้ชีวิตเจอมรสุมเยอะมาก หากินไม่ขึ้น เขาว่างั้นกันนะ

คุณค่าของชีวิต ตอน 1 : การทำแท้งเป็นบาปหรือไม่ 
 

วินทร์ เลียววาริณ
 
www.winbookclub.com
 
26 เมษายน 2551 

 

ยาว เราไม่อ่านหรอก ไม่ชอบวินทร์ด้วย  ส่วนตัวอิชั้นชอบ ไพบูลย์ วงศ์เทศ วาณิช จรุงกิจอนันต์ ไรงี้ ตลกดี

แนวๆ ปรัชญาชีวิต ขี้เกียจอ่าน เน้นบันเทิงค่ะ



#8 kanokporn

kanokporn

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,330 posts

ตอบ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 18:31

เรายังสงสัยอยู่ว่า ลูกที่อนุมัติให้คุณหมอถอดสายออกซิเจนพ่อ+แม่ตัวเอง เพราะไม่อยากให้ทรมาน อาจจะเข้าข่าย อนันตริยกรรม ด้วยล่ะ



#9 DarkSwan

DarkSwan

    Reporter Activated

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,689 posts

ตอบ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 18:42

 

ความเชื่อทางพุทธ ถ้าไปทำหรือมีส่วนร่วมสนับสนุน จะเป็นกรรมที่ทำให้ชีวิตเจอมรสุมเยอะมาก หากินไม่ขึ้น เขาว่างั้นกันนะ

 
 
มองในมุมของธรรมชาติ มีหลักฐานชัดเจนว่าธรรมชาติสร้างชีวิตมาเกินจำนวนเสมอ เพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อาหาร เช่น จำนวนกวางในป่ามีมากพอที่หลังจากเป็นอาหารของสิงโตแล้ว ยังสืบเผ่าพันธุ์ต่อไปได้ จำนวนปลาแซลมอนในทะเลมีมากพอให้หลังจากเป็นอาหารแก่ฝูงหมีแล้ว ยังเหลือพอสืบสายพันธุ์ ฯลฯ เป็นเช่นนี้ทั้งบนแผ่นดิน บนท้องฟ้า ใต้ดิน ใต้น้ำ
 
คำถามคือ การรักษาชีวิตโดยไม่ดูตาม้าตาเรืออาจเป็นการทำลายสมดุลธรรมชาติหรือไม่ หากมนุษย์รักษาชีวิตจนวันหนึ่งประชากรล้นโลก และทำให้ห่วงโซ่อาหารของทั้งโลกถูกทำลาย ทำให้อาหารไม่พอจนคนตายเพราะอดอาหาร? 
 
26 เมษายน 2551 

 

 

มนุษย์ ไม่สามารถเปรียบกับเผ่าพันธุ์อื่นได้ครับ ไม่ว่าจะเป็นผู้ล่า หรือผู้ถูกล่า

เพราะมนุษ์ เป็น Omni  คือ กินทั้งพืชและสัตว์เป็นอาหาร อยู่จุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหาร ไม่มีอะไรมากินมนุษย์อีก

นอกจากจุลินทรีย์ ฯลฯ ที่จะยอ่ยสลายโปรตีนในร่างกายตอนเราตายแล้วเท่านั้น

 

ดังนั้น จะเอามาตรฐาน สัตว์อื่นมาอ้างอิงไมไ่ด้เลย

ถ้าจะบอกว่า ควบคุมปริมาณประชากรด้วยการทำแท้ง แล้วไม่ผิด งั้น ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์แบบ เขมรแดง หรือ ฮิตเลอร์ ก็อ้างได้เหมือนกันสิ

 

ผมไม่เห็นด้วยกับการทำแท้งครับ ง่ายๆ ผมว่า มันเป็นบาป การที่เราทำลายชีวิตที่เกิดมาจากตัวเราและคนที่เรารักได้อย่างง่ายดาย จะทำให้เราไม่เห็นคุณค่าของชีวิตอื่นๆ อีกเลย แบบนั้นเรียกว่ายังมีสามัญสำนึกของมนุษย์อีกหรือ

 

ทางที่ถูกต้องคือ การคุมกำเนิดให้ดี มีเครื่องป้องกัน หรืออยากได้ลูกเพศไหน ก็ไปทำกิฟท์ หรือ อย่างอื่นเอาสิครับ ฝั่งตัวอ่อน หรืออะไรก็แล้วแต่สมัยนี้มันทำได้อยู่แล้ว

 

อีกอย่าง การแท้ง ถือว่า เป็นการผิดพลาดของธรรมชาติการให้กำเนิด มันส่งผลเสียต่อแม่เด็กแน่นอนครับ ไม่มากก็น้อย นั่นทำลายชีวิตที่จะเกิดใหม่ และทำร้ายฝ่ายหญิงอีกด้วย ถ้าเค้าเป็นคนที่เรารัก เราจะอยากทำร้ายเขาอย่างนั้นหรือ?

 

ยกเว้นกรณีเดียวที่ผมเห็นใจ และอะลุ่มอะล่วยเห็นด้วยในเรื่องของการทำแท้ง ก็คือ กรณีที่ ฝ่ายหญิงถูกข่มขืนกระทำชำเรา แล้วเกิดตั้งครรภ์ครับ 

อันนั้นผมถือว่า เป็นสิทธิ์ของฝ่ายหญิงเต็มที่ ที่จะตัดสินใจทำแท้งหรือไม่ เพราะไม่ได้เกิดจากความตั้งใจ และ เป็นผู้รับเคราะห์

กรณีนี้ จะไม่สนับสนุน  แต่ก็ไม่คัดค้านครับ  แค่จะแนะนำให้คิดให้ดีๆ ว่าจะให้เค้าเกิดมาหรือจะทำแท้ง เลือกให้ดี จะได้ไม่เสียใจในภายหลัง

-_-


Edited by DarkSwan, 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 18:43.

ถ้าอยากได้ความเท่าเทียม

ก็ปีนป่ายขึ้นไปให้อยู่เทียบเท่ากับคนอื่นเค้า

อย่าได้กระชากฉุดให้คนอื่นเขาลงมาตกต่ำเท่ากับตน


#10 butadad

butadad

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,119 posts

ตอบ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 18:42

*
POPULAR

ตอนแรกผมก็ไม่ทำแท้งนะ  แต่ปั้มน้ำต่อตรงมันไม่ดี  เลยต้องทำแท้งครับ


Edited by butadad, 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 21:52.


#11 แม้ว ม.7

แม้ว ม.7

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,237 posts

ตอบ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 18:43

ความเชื่อทางพุทธ ถ้าไปทำหรือมีส่วนร่วมสนับสนุน จะเป็นกรรมที่ทำให้ชีวิตเจอมรสุมเยอะมาก หากินไม่ขึ้น เขาว่างั้นกันนะ

คุณค่าของชีวิต ตอน 1 : การทำแท้งเป็นบาปหรือไม่ 
 
คุณตื่นนอน
คำถามคือ การรักษาชีวิตโดยไม่ดูตาม้าตาเรืออาจเป็นการทำลายสมดุลธรรมชาติหรือไม่ หากมนุษย์รักษาชีวิตจนวันหนึ่งประชากรล้นโลก และทำให้ห่วงโซ่อาหารของทั้งโลกถูกทำลาย ทำให้อาหารไม่พอจนคนตายเพราะอดอาหาร? 
 
(ยังมีต่อ) 
 
 
วินทร์ เลียววาริณ
 
www.winbookclub.com
 
26 เมษายน 2551

วินทร์ก็แก่แล้ว จะอยู่ทำไมให้รกโลก ฆ่าตัวตายไปซะสิ

หมาต๋าอยู่มาก็นานพอแล้วฆ่าตัวตายไปเหอะ โลกจะได้สะอาดขึ้น

ถ้าผมคิดอย่างนี้จะถูกมั๊ย

พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้พูดตัดพ้อกับคนที่เดินทางไปพบว่า “พรรคเพื่อไทยมีคนเก่งๆ เยอะ ทั้งนักวิชาการ ด็อกเตอร์ ทูต แต่ไม่กล้าออกมาสู้ คนหน้าตาดีไม่ออกมา พวกที่ออกมาหน้าตาไม่ค่อยดี ไม่เหมือนกับพรรคประชาธิปัตย์ ฝ่ายตรงข้าม คนมีความรู้ นักวิชาการออกมาเยอะแยะเลย คนจริงใจกับผมมันน้อย วางยาผม เพราะตัวเองอยากอยู่นานๆ เห็นว่านายกฯ ไม่แข็ง แต่ท่านนายกฯ ก็ดี แต่คนรอบข้างไม่เป็นการเมือง ผมส่งคนเป็นการเมืองไปนายกฯ ก็ไม่เอา ผมก็สงสารนายกฯ จึงไม่อยากจู้จี้ แต่คนที่เมืองไทยมันไม่ได้ดั่งใจ” 

http://astv.mobi/AlgEYM7

แปลสั้นๆ เขาด่าไอ้เสร่อแกนนำแดงว่า"โง่แต่ขยัน"


#12 DarkSwan

DarkSwan

    Reporter Activated

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,689 posts

ตอบ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 18:45

ประหยัดค่าหมึกปรินเตอร์ครับ

 

ตอนแรก งงๆ นะฮะ ตอนนี้เข้าใจแระ  มาแล้วเดียวกับ "ซึ้ง" เลย

:lol:


ถ้าอยากได้ความเท่าเทียม

ก็ปีนป่ายขึ้นไปให้อยู่เทียบเท่ากับคนอื่นเค้า

อย่าได้กระชากฉุดให้คนอื่นเขาลงมาตกต่ำเท่ากับตน


#13 Huligan

Huligan

    ดาวพยศนภา

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,880 posts

ตอบ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 18:53

ผมนี่แหละเห็นด้วย ที่แม่มีสิทธิ์จะเลือกได้...แต่ให้อยู่ในวินิจฉัยแพทย์

เพราะผมถือหลักให้ความสำคัญกับสิทธิของแม่(ซึ่งเป็นบุคคลจริงๆตามหลักกฎหมายสากล)มากกว่าตัวอ่อนที่ไม่ต่างกับหนอน(ช่วง 3 เดือนแรก)!

ผมไม่สนใจหลักศาสนาที่พิสูจน์ไม่ได้ ไอ้เรื่องวิญญาณมาจุติ อะไรพรรค์นั้น 

 

ถ้ามองแบบชีววิทยา 

มองแง่กายภาพ เอมบริโอ 3 เดือนแรก มีปมประสาทไม่ต่างกับหนอน ยังไม่มีสมอง จะเรียกว่ามันเท่ากับคนได้งัย?

หรือถ้ามองในแง่ที่ว่า มันมีโอกาสพัฒนาไปเป็นคนได้(แม้ตอนนี้จะไม่เป็น)...งั้นการชักเว่าถือเป็นการฆ่าคนมั้ย?


Edited by Huligan, 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 19:16.

ทฤษฎีของ เดล คาเนกี ใช้กับเหิ้ยหางแดงไม่ได้*สิ่งที่มองไม่เห็นใช่ว่าจะไม่มีอยู่จริง แต่สิ่งที่มองเห็นได้นั้นน่าเชื่อถือมากกว่า*

#14 ลุงเชย

ลุงเชย

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 249 posts

ตอบ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 18:55

 

ประหยัดค่าหมึกปรินเตอร์ครับ

 

ตอนแรก งงๆ นะฮะ ตอนนี้เข้าใจแระ  มาแล้วเดียวกับ "ซึ้ง" เลย

:lol:

 

ขอถอดฟันปลอมหัวเราะหน่อย กั๊กๆๆ ทำแท้งค์ประหยัดค่าหมึก



#15 Solid Snake

Solid Snake

    แดงกำมะลอ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,892 posts

ตอบ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 18:57

 

 

ประหยัดค่าหมึกปรินเตอร์ครับ

 

ตอนแรก งงๆ นะฮะ ตอนนี้เข้าใจแระ  มาแล้วเดียวกับ "ซึ้ง" เลย

:lol:

 

ขอถอดฟันปลอมหัวเราะหน่อย กั๊กๆๆ ทำแท้งค์ประหยัดค่าหมึก

 

นึกว่าเอาไว้ใส่น้ำ

all%20stainless.jpg



#16 Huligan

Huligan

    ดาวพยศนภา

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,880 posts

ตอบ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 18:58

เอาล่ะ...ถ้าไม่อยากให้ทำก็ไม่ว่ากัน แต่ควรหาทางออกให้แม่ของเด็กบ้าง กรณีที่ยังเรียนไม่จบ

ให้เขาหรือครอบครัวมีสิทธิ์เลือกเอง ว่าจะเรียนต่อหรือจะไปเลี้ยงลูก

ไม่ใช่แม่ม...เอาจารีตไร้สาระไปตัดสิน ไล่ออกจากสถานศึกษาอย่างเดียว>>บ้ารึเปล่าวะ?

คนท้องมาเรียน มันก็เดือดร้อนตัวเขาคนเดียวอยู่แล้ว ไม่ได้เดือดร้อนคนรอบข้างสักหน่อย>>โรงเรียนไปเศือกอะไรด้วยวะ?  <_<

 

สันดารสังคมชอบบูชายัญ โดยไม่คิดแก้ปัญหา นอกจากสำเร็จความใคร่ทางศีลธรรมไปวันๆ

ถุยยยยยย...


Edited by Huligan, 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 19:00.

ทฤษฎีของ เดล คาเนกี ใช้กับเหิ้ยหางแดงไม่ได้*สิ่งที่มองไม่เห็นใช่ว่าจะไม่มีอยู่จริง แต่สิ่งที่มองเห็นได้นั้นน่าเชื่อถือมากกว่า*

#17 ลุงเชย

ลุงเชย

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 249 posts

ตอบ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 18:58

ทำแท้งเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้คนที่ไม่รู้คุณค่าชีวิต คนรักสนุกและคนเลวที่รังแกผู้หญิงไร้ทางสู้



#18 Huligan

Huligan

    ดาวพยศนภา

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,880 posts

ตอบ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 19:06

ผมชอบคอมเม้นต์นี้ในหว้ากอ มันโดนใจดี!

 

เพราะคติพุทธฝังหัวแบบ คห 127 นะสิครับ คุณถึงให้ความสำคัญของก้อนเนื้อที่ยังพึ่งตัวเองไม่ได้ ประสาทสัมผัส

ยังไม่เจริญพอรับรู้อะไรได้เลย ว่าเป็นมนุษย์เรียบร้อยแล้ว (กรณีทำแท้งในเดือนแรกๆ)เพราะนิยามพุทธว่า เมื่อแม่มีระดู 
พ่อแม่มีเพศสัมพันธ์ มีวิญญาณมาสิง ก็เป็นมนุษย์แล้ว 
 
คุณกลับให้ความสำคัญก้อนเนื้อขนาดนี้มากกว่าชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่มีตัวตนตามกฎหมายมาเป็นสิบๆ ปี มีสมอง
เจริญพอจะรับรู้ความเครียดความกดดันที่จะต้องตั้งครรภ์โดยไม่พร้อม ต้องยอมเสียอนาคต เสียโอกาสต่างๆ ในชีวิต
ตัวเองเพื่อก้อนเนื้อก้อนหนึ่งอย่างนั้นเหรอ
 
เอางี้ ลองพิจารณาเรื่องทำแท้งอีกครั้ง โดยเอาศีลธรรมทางศาสนาโยนลงถังขยะ เอาความเชื่อเหนือธรรมชาติทิ้งไปซะ
ไม่เอาบาปบุญ ไม่เอานรกสวรรค์ ไม่เอากฎแห่งกรรม ไม่เอาชาตินี้ชาติหน้ามาคิด แล้วถามว่าการที่ผู้หญิงคนหนึ่งไป
ทำแท้งได้แบบถูกกฎหมาย จะส่งผลเสียทางสังคม ทางเศรษฐกิจอะไรบ้าง ทั้งระยะสั้นระยะยาว แล้วเทียบกับผลเสีย
ที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะยอมมีลูกโดยไม่พร้อม แล้วลองอภิปรายดู 
 
จากคุณ : Geneticist

 

 

 

สิ่งที่คนไทยควรเรียนรู้อย่างหนึ่งคือ ให้ถามตัวเองว่าเราเป็นประเทศประชาธิปไตยที่ให้อิสระกับทุกความเชื่อ หรือเราเป็นประเทศเทวธิปไตย (Theocracy)ที่มีพุทธศาสนาควบคุมรัฐ ถ้าตอบข้อแรกเรื่องทำแท้งเสรีก็เป็นไปได้ ถ้าเป็นข้อสองก็ให้เลิกหลอกตัวเองซะทีว่าเราอยู่ในประเทศที่มีเสรีภาพในการนับถือศาสนา แล้วพวกเราที่สนับสนุนการทำแท้งเสรี จะได้เลิกพูดกัน

ในรัฐที่เป็นประชาธิปไตยแบบ Secular การเมืองกับศาสนาแยกกันสมบูรณ์ ไม่ได้แปลว่ารัฐต้องต่อต้านศาสนา แต่ห้ามต่อต้าน หรือสนับสนุนศาสนาใดๆก็ตาม ปล่อยให้เป็นเรื่องของประชาชน รัฐห้ามยุ่ง ดังนั้นรัฐก็ห้ามออกกฎหมายควบคุมประชาชนโดยอ้างความเชื่อของศาสนาใด ศาสนาหนึ่ง ลัทธิใด ลัทธิหนึ่ง

จากคุณ : Geneticist
เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 09:06:01


Edited by Huligan, 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 19:12.

ทฤษฎีของ เดล คาเนกี ใช้กับเหิ้ยหางแดงไม่ได้*สิ่งที่มองไม่เห็นใช่ว่าจะไม่มีอยู่จริง แต่สิ่งที่มองเห็นได้นั้นน่าเชื่อถือมากกว่า*

#19 DarkSwan

DarkSwan

    Reporter Activated

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,689 posts

ตอบ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 19:11

 

ผมชอบคอมเม้นต์นี้ในหว้ากอ มันโดนใจดี!

 

สิ่งที่คนไทยควรเรียนรู้อย่างหนึ่งคือ ให้ถามตัวเองว่าเราเป็นประเทศประชาธิปไตยที่ให้อิสระกับทุกความเชื่อ หรือเราเป็นประเทศเทวธิปไตย (Theocracy)ที่มีพุทธศาสนาควบคุมรัฐ ถ้าตอบข้อแรกเรื่องทำแท้งเสรีก็เป็นไปได้ ถ้าเป็นข้อสองก็ให้เลิกหลอกตัวเองซะทีว่าเราอยู่ในประเทศที่มีเสรีภาพในการนับถือศาสนา แล้วพวกเราที่สนับสนุนการทำแท้งเสรี จะได้เลิกพูดกัน

ในรัฐที่เป็นประชาธิปไตยแบบ Secular การเมืองกับศาสนาแยกกันสมบูรณ์ ไม่ได้แปลว่ารัฐต้องต่อต้านศาสนา แต่ห้ามต่อต้าน หรือสนับสนุนศาสนาใดๆก็ตาม ปล่อยให้เป็นเรื่องของประชาชน รัฐห้ามยุ่ง ดังนั้นรัฐก็ห้ามออกกฎหมายควบคุมประชาชนโดยอ้างความเชื่อของศาสนาใด ศาสนาหนึ่ง ลัทธิใด ลัทธิหนึ่ง

จากคุณ : Geneticist
เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 09:06:01

 

 

กรณีทำแท้งนี่ ถ้าไม่อ้างเรื่องศาสนา จะมองว่าเป็นการฆาตกรรมได้ไหมครับ?

หรือว่า ไม่ได้ เพราะยังไม่รู้เดียงสา เป็นก้อนเนื้อตัวอ่อน ซึ่งยังไม่มีรูปลักษณ์และคุณลักษณะของความเป็นมนุษย์หรือบุคคล

สงกะสัย

 

:mellow: /


ถ้าอยากได้ความเท่าเทียม

ก็ปีนป่ายขึ้นไปให้อยู่เทียบเท่ากับคนอื่นเค้า

อย่าได้กระชากฉุดให้คนอื่นเขาลงมาตกต่ำเท่ากับตน


#20 อู๋ ฮานามิ

อู๋ ฮานามิ

    สมาชิกหน้าเก่า

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,018 posts

ตอบ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 19:14

 
ตอนนี้ ประเทศไทยมีตัวบทกฎหมายที่อนุญาตให้ยุติการตั้งครรภ์ได้ แต่ไม่ใช่ว่าจะทำได้ทุกกรณีค่ะ จะทำได้คือ 1.ถ้าผู้หญิงคนนั้นมีปัญหาสุขภาพกาย ถ้าท้องต่อแล้วตัวผู้หญิงจะมีปัญหา เขาก็มีสิทธิขอยุติการตั้งครรภ์ได้ 2.ถ้าผู้หญิงคนนั้นอายุต่ำกว่า 15 ปี สามารถขอยุติการตั้งครรภ์ได้เหมือนกัน เพราะตามกฎหมาย อายุต่ำกว่า 15 ถือว่าถูกล่อลวงหรือถูกข่มขืนหมดเลย 3.กรณีถูกข่มขืนหรือถูกล่อลวง ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ และ 4.ผู้หญิงที่มีปัญหาทางใจหรือเครียดอย่างรุนแรง จนมีแนวโน้มว่าจะส่งผลต่อตัวคุณแม่ ตัวอ่อนในครรภ์
       
        ส่วนใหญ่ ปัญหาของผู้หญิงที่ขอเข้ามายุติการตั้งครรภ์ ถือว่าเข้าข่ายหลักเกณฑ์นี้ทั้งหมดเลย ถือเป็นการยุติการตั้งครรภ์โดยเป็นไปตามกฎหมายรองรับ แต่ไม่อยากให้ใช้คำว่า “ทำแท้งเสรี” เลยค่ะ เพราะมันให้อารมณ์เหมือนการค้าเสรี ซื้อขายได้เท่าไหร่ก็ได้ ไม่ต้องมีภาษี ซึ่งมันไม่ใช่ แท้งเสรีมันน่าจะใช้กับการทำแท้งเถื่อนมากกว่า ที่ไม่พิจารณาเลยว่าคุณจะมีอายุครรภ์เท่าไหร่ มีปัญหาอะไรมาไม่สนใจ เราทำให้หมดเลย แต่ที่ทางเครือข่ายประสานงานกันอยู่ทุกวันนี้ เรายังทำตามข้อกำหนดเรื่องของอายุครรภ์อยู่มาก” ทัศนัย ขันตยาภรณ์ เจ้าหน้าที่องค์การแพธ (PATH) ผู้ประสานงานเครือข่ายท้องไม่พร้อม เจาะลึกรายละเอียดให้ฟัง

 

 

 

http://www.manager.c...D=9560000125665


ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด

 

เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ


#21 Huligan

Huligan

    ดาวพยศนภา

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,880 posts

ตอบ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 19:21

 

 

ผมชอบคอมเม้นต์นี้ในหว้ากอ มันโดนใจดี!

 

สิ่งที่คนไทยควรเรียนรู้อย่างหนึ่งคือ ให้ถามตัวเองว่าเราเป็นประเทศประชาธิปไตยที่ให้อิสระกับทุกความเชื่อ หรือเราเป็นประเทศเทวธิปไตย (Theocracy)ที่มีพุทธศาสนาควบคุมรัฐ ถ้าตอบข้อแรกเรื่องทำแท้งเสรีก็เป็นไปได้ ถ้าเป็นข้อสองก็ให้เลิกหลอกตัวเองซะทีว่าเราอยู่ในประเทศที่มีเสรีภาพในการนับถือศาสนา แล้วพวกเราที่สนับสนุนการทำแท้งเสรี จะได้เลิกพูดกัน

ในรัฐที่เป็นประชาธิปไตยแบบ Secular การเมืองกับศาสนาแยกกันสมบูรณ์ ไม่ได้แปลว่ารัฐต้องต่อต้านศาสนา แต่ห้ามต่อต้าน หรือสนับสนุนศาสนาใดๆก็ตาม ปล่อยให้เป็นเรื่องของประชาชน รัฐห้ามยุ่ง ดังนั้นรัฐก็ห้ามออกกฎหมายควบคุมประชาชนโดยอ้างความเชื่อของศาสนาใด ศาสนาหนึ่ง ลัทธิใด ลัทธิหนึ่ง

จากคุณ : Geneticist
เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 09:06:01

 

 

กรณีทำแท้งนี่ ถ้าไม่อ้างเรื่องศาสนา จะมองว่าเป็นการฆาตกรรมได้ไหมครับ?

หรือว่า ไม่ได้ เพราะยังไม่รู้เดียงสา เป็นก้อนเนื้อตัวอ่อน ซึ่งยังไม่มีรูปลักษณ์และคุณลักษณะของความเป็นมนุษย์หรือบุคคล

สงกะสัย

 

:mellow: /

 

 

มองได้ครับ...ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล

แต่ผมไม่เห็นด้วยที่จะเอาความเชื่อทางศาสนา(ที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ในทางรูปธรรม)>>> ไปบังคับใช้ในรูปอำนาจรัฐ!

คือถ้าคุณจะรังเกียจ จะเลิกคบ จะประณามการกระทำเช่นนั้น ฯลฯ นั่นก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลครับ ถ้าคุณมีความเชื่อเช่นนั้น


Edited by Huligan, 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 19:22.

ทฤษฎีของ เดล คาเนกี ใช้กับเหิ้ยหางแดงไม่ได้*สิ่งที่มองไม่เห็นใช่ว่าจะไม่มีอยู่จริง แต่สิ่งที่มองเห็นได้นั้นน่าเชื่อถือมากกว่า*

#22 kanokporn

kanokporn

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,330 posts

ตอบ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 19:23

พวกเอทิสต์ที่เข้ามาดิ้นในพันทิปเป็นผู้ชายนิ ไม่มีประสบการณ์ขึ้นขาหยั่งถูกขูดมดลูกเอง ก็พิมพ์เอามันส์กันไป เราว่าคงสยดสยองไม่แพ้การคลอดลูก ส่วนมากผู้หญิงที่ไปทำจะเป็นโรคซึมเศร้าตามมา ไม่ค่อยมีนะ ที่ยังเสริง สดชื่นเหมือนเดิม



#23 Huligan

Huligan

    ดาวพยศนภา

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,880 posts

ตอบ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 19:24

คอมเม้นต์นึงจากอาจารย์เชน(ในบอร์ดเก่า) นี่ก็โดนใจผมอีกเหมือนกัน

http://forum.seritha...php?f=2&t=28885

 

Chenhero wrote:

มีแต่คนออกมาโชว์เทพ โชว์ความใจกว้าง เมื่อมีอุบัติเหตุเรื่องใต้สะดือ
"สมัยนี้เปิดกว้างแล้ว ห้ามกันไม่ได้ ควรสอนให้รู้จักป้องกัน"
"เป็นเรื่องธรรมดา ใครๆก็ควรจะยืดอกพกถุง"
ใช่ครับ สำหรับคนที่พร้อมสนุก พวกนี้ไม่ต้องรอให้ท่านออกมาโชว์เทพหรอกครับ เค้าปกป้องตัวเองอย่างดี
 
แต่ว่ามีคนบางพวกที่เค้าไม่สนใจเรื่องนี้ กำลังถูกคุกคาม
เด็กหญิงบางคนไม่เคยสำส่อน ไม่คิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องหลัก บางคนจินตนาการถึงวันแต่งงานอันงดงาม
จึงไม่ทันป้องกันตัวเอง โดยส่วนใหญ่มักถูกจู่โจมแบบไม่ตั้งตัว ไม่รู้เท่าทันเด็กที่โตกว่า หรือผู้ใหญ่บางคน
พวกเค้าจึงไม่จำเป็นต้องพกถุง(ก็ไม่ได้คิดไปมีอะไรกับใครอยู่แล้ว) ตกเป็นเหยื่อ
พอผ่านเหตุการณ์อันเลวร้าย อาจจะจากคนที่เพิ่งรู้จักหรือจากคนที่กำลังดูใจอยู่ 
ก็ถูกกล่อมด้วยเพลงจากนักร้องดัง "เสียตัวอย่าเสียใจ"
ได้แต่โทษตัวเอง ไม่รู้จักระวังตัว
 
ส่วนผู้ชายเห็นนักวิชาการคนบันเทิง สร้างค่านิยมส่วนตัวผ่านสื่อ "เสรีภาพทางเซ็กซ์คือสิทธิ์ส่วนบุคคล" นึกว่าเป็นค่านิยมส่วนรวม
ประกอบกับแรงขับทางเพศ จึงมักคิดเข้าข้างตัวเองว่ากำลังเล่นบทเคน ธีรเดช "ปล้ำก่อนแล้วขอโทษทีหลัง ทำตัวดีๆ เด๋วนางเองก็เห็นใจยกโทษให้เอง"
แน่ละคนรับบทนางเอกไม่ได้เตรียมตัวเพื่อถูกกระทำชำเรา จะเอาถุงที่ใหนล่ะ
 
ทุกอย่างจึงลงเอยที่ คลีนิคทำแท้ง
 
ถูกต้องที่เราควรสอนความรู้เรื่องเพศให้กับเยาวชนของเรา แต่สิ่งที่เราไม่ได้ทำคือ สอนทักษะการใช้ชีวิต
ความรู้เรื่องเพศจึงไม่ใช่แค่เรื่องอวัยวะ หรือการมีเซ็กซ์
แต่ควรจะบอกลูกหลานเราให้รู้ถึงมุมมองของคนวัยต่างๆ 
มุมมองของผู้ชาย 
มุมมองของผู้หญิง 
มุมมองของคนรักสนุก 
มุมมองของคนอยากมีครอบครัวที่อบอุ่น 
รวมทั้งมุมมองของสังคม
ไม่งั้นเราก็จะเห็นข่าวแบบนี้อีก แต่เปลี่ยนเป็นพื้นที่อื่นเท่านั้น 
ตราบใดที่ยังมีผู้ใหญ่โชว์เกรียนผ่านจอทีวีพูดไปยิ้มไป "คนรุ่นใหม่ควรรู้จักป้องกัน ไปไหนมาไหนก็พกถุงติดตัว" อุตส่าห์เป็นนักวิชาการพูดได้แค่นี้ ใครก็พูดเป็นฟะ

 


Edited by Huligan, 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 19:30.

ทฤษฎีของ เดล คาเนกี ใช้กับเหิ้ยหางแดงไม่ได้*สิ่งที่มองไม่เห็นใช่ว่าจะไม่มีอยู่จริง แต่สิ่งที่มองเห็นได้นั้นน่าเชื่อถือมากกว่า*

#24 Huligan

Huligan

    ดาวพยศนภา

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,880 posts

ตอบ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 19:27

พวกเอทิสต์ที่เข้ามาดิ้นในพันทิปเป็นผู้ชายนิ ไม่มีประสบการณ์ขึ้นขาหยั่งถูกขูดมดลูกเอง ก็พิมพ์เอามันส์กันไป เราว่าคงสยดสยองไม่แพ้การคลอดลูก ส่วนมากผู้หญิงที่ไปทำจะเป็นโรคซึมเศร้าตามมา ไม่ค่อยมีนะ ที่ยังเสริง สดชื่นเหมือนเดิม

 

ก็ผมบอกว่าเป็นสิทธิของ ญ.คนนั้นงัยครับ...มีแพทย์ให้คำแนะนำผลดีผลเสียที่อาจเกิดขึ้นได้

แล้วให้ ญ.คนนั้นเลือกตัดสินใจชั่งน้ำหนักเอง ว่าจะเอาอย่างไรต่อ หมอไม่ได้บังคับว่าต้องทำ

ส่วนผลที่ตามมาเป็นอย่างไร ต้องไปสำรวจสถิติในประเทศที่เขาเปิดกว้างเรื่องนี้ครับ(ถ้าผลมันแย่จริงๆผมยินดีรับฟัง) 

ไม่ใช่เอาตัวอย่างในเมืองไทย(ที่เป็นคลีนิคเถื่อนไม่ถูกหลักอนามัย+พยายามปิดกั้นมุมมองทางศาสนา)


Edited by Huligan, 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 19:29.

ทฤษฎีของ เดล คาเนกี ใช้กับเหิ้ยหางแดงไม่ได้*สิ่งที่มองไม่เห็นใช่ว่าจะไม่มีอยู่จริง แต่สิ่งที่มองเห็นได้นั้นน่าเชื่อถือมากกว่า*

#25 kanokporn

kanokporn

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,330 posts

ตอบ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 19:39

 

พวกเอทิสต์ที่เข้ามาดิ้นในพันทิปเป็นผู้ชายนิ ไม่มีประสบการณ์ขึ้นขาหยั่งถูกขูดมดลูกเอง ก็พิมพ์เอามันส์กันไป เราว่าคงสยดสยองไม่แพ้การคลอดลูก ส่วนมากผู้หญิงที่ไปทำจะเป็นโรคซึมเศร้าตามมา ไม่ค่อยมีนะ ที่ยังเสริง สดชื่นเหมือนเดิม

 

ก็ผมบอกว่าเป็นสิทธิของ ญ.คนนั้นงัยครับ...มีแพทย์ให้คำแนะนำผลดีผลเสียที่อาจเกิดขึ้นได้

แล้วให้ ญ.คนนั้นเลือกตัดสินใจชั่งน้ำหนักเอง ว่าจะเอาอย่างไรต่อ หมอไม่ได้บังคับว่าต้องทำ

ส่วนผลที่ตามมาเป็นอย่างไร ต้องไปสำรวจสถิติในประเทศที่เขาเปิดกว้างเรื่องนี้ครับ(ถ้าผลมันแย่จริงๆผมยินดีรับฟัง) 

ไม่ใช่เอาตัวอย่างในเมืองไทย(ที่เป็นคลีนิคเถื่อนไม่ถูกหลักอนามัย+พยายามปิดกั้นมุมมองทางศาสนา)

 

เราว่าคุณจริงจังกับเรื่องนี้เกินไป เรื่องศาสนาเป็นสิทธิส่วนบุคคล ใครจะเชื่อหรือไม่ ไม่มีผลกับชีวิตใคร (ทางพุทธการประณามใครก็ถือว่าบาปแล้ว)

แล้ว คนท้อง และคนที่ทำแท้งมา ในสายตาของคนทั่วไป เป็นคนที่มีร่างกายเปราะบาง ดูอ่อนล้า น่าเห็นใจ ไม่มีใครใจร้ายด่าว่าหรอกคุณ

คุณโพสต์ซะดูเก็บกด เหมือนเอทิสต์พวกนั้นเลย อิชั้นเฉยๆ กับเรื่องนี้นะ มันเป็นสิทธิส่วนตัว เป็นกรรมส่วนตัว ใครจะถือดีมาว่าใครได้ล่ะ :)



#26 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

ตอบ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 19:45

ถ้ารู้จักคุมกำเนิด ก็ไม่ต้องทำแท้งครับ แต่ผมเคยได้ยินสาวใจแตกแถวบ้าน มันพูดกันว่า มันไม่ให้ผัวมันใส่ถุงยาง เพราะเหมือนรังเกียจมัน???? เลยมีลูกตั้งแต่อายุ 16  :lol:



#27 134340

134340

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 387 posts

ตอบ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 20:39

ผมชอบคอมเม้นต์นี้ในหว้ากอ มันโดนใจดี!
 

สิ่งที่คนไทยควรเรียนรู้อย่างหนึ่งคือ ให้ถามตัวเองว่าเราเป็นประเทศประชาธิปไตยที่ให้อิสระกับทุกความเชื่อ หรือเราเป็นประเทศเทวธิปไตย (Theocracy)ที่มีพุทธศาสนาควบคุมรัฐ ถ้าตอบข้อแรกเรื่องทำแท้งเสรีก็เป็นไปได้ ถ้าเป็นข้อสองก็ให้เลิกหลอกตัวเองซะทีว่าเราอยู่ในประเทศที่มีเสรีภาพในการนับถือศาสนา แล้วพวกเราที่สนับสนุนการทำแท้งเสรี จะได้เลิกพูดกัน
ในรัฐที่เป็นประชาธิปไตยแบบ Secular การเมืองกับศาสนาแยกกันสมบูรณ์ ไม่ได้แปลว่ารัฐต้องต่อต้านศาสนา แต่ห้ามต่อต้าน หรือสนับสนุนศาสนาใดๆก็ตาม ปล่อยให้เป็นเรื่องของประชาชน รัฐห้ามยุ่ง ดังนั้นรัฐก็ห้ามออกกฎหมายควบคุมประชาชนโดยอ้างความเชื่อของศาสนาใด ศาสนาหนึ่ง ลัทธิใด ลัทธิหนึ่ง

จากคุณ : Geneticist
เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 09:06:01

 
กรณีทำแท้งนี่ ถ้าไม่อ้างเรื่องศาสนา จะมองว่าเป็นการฆาตกรรมได้ไหมครับ?
หรือว่า ไม่ได้ เพราะยังไม่รู้เดียงสา เป็นก้อนเนื้อตัวอ่อน ซึ่งยังไม่มีรูปลักษณ์และคุณลักษณะของความเป็นมนุษย์หรือบุคคล
สงกะสัย
 
:mellow: /

ในทางกฏหมายต้องมีการ "คลอดออกจากครรภ์มารดา" และ "อยู่รอดเป็นทารก" จึงจะถือว่ามีสภาพบุคคลครับ
ดังนั้นการทำแท้งจึงไม่นับเป็นการฆาตกรรม และมีการบัญญัติความผิดในการทำแท้งไว้ต่างหากในประมวลกฏหมายอาญา
ส่วนเรื่องมุมมองก็อยู่ที่แต่ละคนจะคิดยังไงหละครับ

โดยส่วนตัว ผมว่าปัญหาการทำแท้งในบ้านเราไม่ได้อยู่ที่ตัวกฏหมายครับ แต่อยู่ที่ทัศนคติและค่านิยมของสังคมมากกว่า
เพื่อนผม 2 คน ตั้งท้องตอนเรียนอยู่ปี 1 คนหนึ่งเลือกทำแท้งแล้วเรียนต่อ ส่วนอีกคนเลือกลาออกจากมหาวิทยาลัยและตัดขาดจากกลุ่มเพื่อนเก่าไปเลย
ผมเองไม่ได้รู้สึกว่าการตัดสินใจของใครถูก-ผิด หรือดีกว่าอีกคนหนึ่ง
แต่ชีวิตของทั้งสองคนนี้จะไม่ถูกกระทบกระเทือนเลย ถ้าสังคมบ้านเราไม่ได้มีทัศนคติแย่ๆ ต่อคนที่ท้องในวัยเรียน/ท้องก่อนแต่ง

สิ่งที่ควรจะทำก็คือ ให้ความรู้ความเข้าใจ และสร้างค่านิยม safe sex อย่างที่ สสส. พยายามทำนั่นแหละครับ (ยืดอก พกถุง, เซ็กซ์วัยรุ่นเลือกได้ ฯลฯ)
จึงจะแก้ปัญหาได้ยั่งยืนที่สุด

Edited by 134340, 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 20:41.


#28 แม้ว ม.7

แม้ว ม.7

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,237 posts

ตอบ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 20:49

ผมไม่ได้พูดในแนวศาสนา ไม่ได้พูดในแง่กฎหมาย ไม่ได่พูดในแง่สังคม

แต่ผมพูดในแง่ให้โอกาสคนๆหนึ่งได้เกิดมา

เพียงแต่บางความเห็นบอกว่าทารกไม่นับเป็นคนฆ่าทิ้งได้

งั้นถ้ามีคนวางยาคุณจนสมองเบลอ ผู้ดูแลคุณคงมีสิทธิฆ่าคุณทิ้งได้ด้วยหรือ

ผมว่าลองมองในแง่ที่ว่า ถ้าเลือกได้คุณอย่ามีชีวิตและเติบโตมั๊ย(ถ้าคำตอบคือไม่ ผมก็แปลกใจที่คุณไม่ฆ่าตัวตายไปซะ)

Edited by แม้ว ม.7, 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 20:50.

พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้พูดตัดพ้อกับคนที่เดินทางไปพบว่า “พรรคเพื่อไทยมีคนเก่งๆ เยอะ ทั้งนักวิชาการ ด็อกเตอร์ ทูต แต่ไม่กล้าออกมาสู้ คนหน้าตาดีไม่ออกมา พวกที่ออกมาหน้าตาไม่ค่อยดี ไม่เหมือนกับพรรคประชาธิปัตย์ ฝ่ายตรงข้าม คนมีความรู้ นักวิชาการออกมาเยอะแยะเลย คนจริงใจกับผมมันน้อย วางยาผม เพราะตัวเองอยากอยู่นานๆ เห็นว่านายกฯ ไม่แข็ง แต่ท่านนายกฯ ก็ดี แต่คนรอบข้างไม่เป็นการเมือง ผมส่งคนเป็นการเมืองไปนายกฯ ก็ไม่เอา ผมก็สงสารนายกฯ จึงไม่อยากจู้จี้ แต่คนที่เมืองไทยมันไม่ได้ดั่งใจ” 

http://astv.mobi/AlgEYM7

แปลสั้นๆ เขาด่าไอ้เสร่อแกนนำแดงว่า"โง่แต่ขยัน"


#29 Bourne

Bourne

    สายลับ ๆ ล่อ ๆ หัดเกรียน

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,471 posts

ตอบ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 21:02

แต่ไอ่เด็กที่ได้เกิดเพราะถุงยางแตก แล้วโตขึ้นมาป่วนบอร์ดเหมือนพวกควายแดงหลายตัวบนบอร์ดนี้ ผมว่า ถ้ารู้ล่วงหน้า ก็น่าทำแท้งนะ
ในสังคมจริง ไอ่พวกนี้ไม่มีใครเป็นคนดีหรอก
ภาระกิจหลักของผมบนบอร์ดเสรีไทย คือ ด่าควายครับ เรื่องคิดต่างผมรับได้ แต่เรื่องคิดชั่วผมรับไม่ไหวครัช

#30 pop2518

pop2518

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 941 posts

ตอบ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 21:07

การทำแท้งเป็นสิทธิส่วนบุคคลก็จริง แต่ถ้าปล่อยเสรี ผมว่าจะมีผลเสียต่อสังคมมากกว่าผลดี วัยรุ่น จะละเลยที่จะป้องกัน และอาจจะสำส่อนมากขึ้น มโนธรรมก็จะถดถอย ต่อไปคนก็จะเห็นว่า การทำให้ชีวิตหนึ่งตาบไปเป็นเพียงเรื่องเล็กๆ ส่วนตัวก็ไม่เห็นด้วย ถ้าจะให้ทำแท้งได้อย่างเสรี แม้จะอยู่ในโลกประชาธิปไตยห่าเหวอะไรก็ตาม

#31 temp

temp

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,682 posts

ตอบ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 21:45

ไม่ต้องศาสนาก็ได้ครับ

ถามใจตัวเอง/สัญชาติญาณ/สันดานดิบ

 

sperm%E0%B8%9B%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%ไข่อยู่ไหนว๊าาา?

ovum2er1iylr1.jpgเจอเนื้อคู่แร้วเว้ยยย

zygotezygote.jpg f..f...fusion!!

embryo

allStagesButtons.gif

go on.....

 

fetus

Embryo_and_Fetal_Growth.jpg

.....and so on

 

 

 

ถ้าจะอิงกฎหมายซักหน่อย ก็ลองดูแค่ "คลอดออกจากครรภ์มารดา"และ"อยู่รอดเป็นทารก"

แต่ละรูปเนี่ย มันไกลไหม นานไหม หรือใกล้เคียงไหม มีเงื่อนไขอีกแค่ไหน 'ความน่าจะเป็น'ที่จะเดินทางไปถึงจุดที่"คลอดออกจากครรภ์มารดา"และ"อยู่รอดเป็นทารก"

 

ใจใครใจมันครับ ให้น้ำหนักกันเอง ใกล้ไกลเร็วช้าสูงต่ำดำขาวอ้วนผอม มาตรฐานตัวใครตัวมันครับ


Edited by temp, 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 17:14.

ควายตัวนี้สีขาว


#32 phoosana

phoosana

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 7,687 posts

ตอบ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 21:57

ทำแท้งเสรีก็ไม่พ้นหมอ เคยถามหมอไหมว่าอยากทำหรือเปล่า หรือว่าคนพูดจะลงมือทำเอง :lol:


We love fender.

#33 hinotori

hinotori

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,899 posts

ตอบ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 22:06

ทำแท้งเสรีเหรอ  มันก็แค่ข้ออ้างของพวกมักง่ายนั่นแหละ (ไม่นับถูกข่มขืนกับเด็กไม่สมบูรณ์นะ)

 

โอเค ถ้าตัดเรื่องบาปบุญคุณโทษออกไป เพื่อเปิดโอกาศให้พวกมักง่ายได้หายใจบ้าง มันต้องดูย้อนกลับไปถึงต้นเหตุเลยทีเดียว

 

ลองไล่ time line ก็จะได้ดังนี้

 

1. ทำไมถึงท้อง  คำตอบคือ ก็มีเพศสัมพันธ์กันไง

 

2. พอมีเพศสัมพันธ์แล้ว ท้องขึ้นมา เกิดไม่พอใจ อยากเอาเด็กออก ถามกลับว่าทำไมถึงไม่คุมกำเนิด

 

3. ก็หาข้ออ้างสารพัดสารเพเพื่อที่จะเอาเด็กออกให้ได้ ถามกลับว่า ชีวิตที่ปฏิสนธิในครรภ์แล้วเนี่ย เขาควรมีสิทธ์ในชีวิตของเขาเองไม๊

 

4. ก็ยังอ้างเหตุในการเป็นเจ้าของชีวิตในท้องตัวเอง จะเลี้ยงก็ได้ จะทำแท้งก็ได้ ถามกลับว่า ใครเป็นคนผิด ต้นเหตุเกิดจากใคร

 

5. ถามต่อได้เลยว่า ชีวิตในท้องนั้น ทำไมจะต้องมารับผิดในความผิดของผู้เป็นมารดาและบิดา จนถึงขั้น ถูกทำลายชีวิต

 

    จะเอาเหตุผลอะไรมาอ้างก็แล้วแต่ การทำแท้งเสรี จะทำให้สังคมเสื่อมทรามลง คุณค่าในชีวิตของคนจะลดลง 

 

    ชายหญิงจะมีแต่ความมักง่ายและมั่วสุมกันมากขึ้น  ต้องการแบบนั้นกันจริงๆหรือ



#34 ถั่งเช่า ตรา ควายธนูแดง

ถั่งเช่า ตรา ควายธนูแดง

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,683 posts

ตอบ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 22:11

คืออย่าทำแท้งเลยครับ

สอนให้เค้าเป็นคนดี อย่าเกิดมาเหมือนแม้ว ตู่ เต้น ยิ่งเละ และเสื้อแดงทุกคนนะครับ

เกิดมาให้รักแผ่นดินเกิด ทำความดี อย่าคิดทำเลว อย่าสร้างปัญหาให้กับสังคมก็พอแล้วครับ



#35 แม้ว ม.7

แม้ว ม.7

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,237 posts

ตอบ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 22:18

ทำแท้งเสรีเหรอ  มันก็แค่ข้ออ้างของพวกมักง่ายนั่นแหละ (ไม่นับถูกข่มขืนกับเด็กไม่สมบูรณ์นะ)

 

โอเค ถ้าตัดเรื่องบาปบุญคุณโทษออกไป เพื่อเปิดโอกาศให้พวกมักง่ายได้หายใจบ้าง มันต้องดูย้อนกลับไปถึงต้นเหตุเลยทีเดียว

 

ลองไล่ time line ก็จะได้ดังนี้

 

1. ทำไมถึงท้อง  คำตอบคือ ก็มีเพศสัมพันธ์กันไง

 

2. พอมีเพศสัมพันธ์แล้ว ท้องขึ้นมา เกิดไม่พอใจ อยากเอาเด็กออก ถามกลับว่าทำไมถึงไม่คุมกำเนิด

 

3. ก็หาข้ออ้างสารพัดสารเพเพื่อที่จะเอาเด็กออกให้ได้ ถามกลับว่า ชีวิตที่ปฏิสนธิในครรภ์แล้วเนี่ย เขาควรมีสิทธ์ในชีวิตของเขาเองไม๊

 

4. ก็ยังอ้างเหตุในการเป็นเจ้าของชีวิตในท้องตัวเอง จะเลี้ยงก็ได้ จะทำแท้งก็ได้ ถามกลับว่า ใครเป็นคนผิด ต้นเหตุเกิดจากใคร

 

5. ถามต่อได้เลยว่า ชีวิตในท้องนั้น ทำไมจะต้องมารับผิดในความผิดของผู้เป็นมารดาและบิดา จนถึงขั้น ถูกทำลายชีวิต

 

    จะเอาเหตุผลอะไรมาอ้างก็แล้วแต่ การทำแท้งเสรี จะทำให้สังคมเสื่อมทรามลง คุณค่าในชีวิตของคนจะลดลง 

 

    ชายหญิงจะมีแต่ความมักง่ายและมั่วสุมกันมากขึ้น  ต้องการแบบนั้นกันจริงๆหรือ

 

เห็นด้วยกับข้อ5ครับ ถ้าสังคมชาชินกับการฆ่าทารกในท้องแล้ว การฆ่าคนที่เป็นส่วนเกินสังคมอื่นๆก็จะมากขึ้น


พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้พูดตัดพ้อกับคนที่เดินทางไปพบว่า “พรรคเพื่อไทยมีคนเก่งๆ เยอะ ทั้งนักวิชาการ ด็อกเตอร์ ทูต แต่ไม่กล้าออกมาสู้ คนหน้าตาดีไม่ออกมา พวกที่ออกมาหน้าตาไม่ค่อยดี ไม่เหมือนกับพรรคประชาธิปัตย์ ฝ่ายตรงข้าม คนมีความรู้ นักวิชาการออกมาเยอะแยะเลย คนจริงใจกับผมมันน้อย วางยาผม เพราะตัวเองอยากอยู่นานๆ เห็นว่านายกฯ ไม่แข็ง แต่ท่านนายกฯ ก็ดี แต่คนรอบข้างไม่เป็นการเมือง ผมส่งคนเป็นการเมืองไปนายกฯ ก็ไม่เอา ผมก็สงสารนายกฯ จึงไม่อยากจู้จี้ แต่คนที่เมืองไทยมันไม่ได้ดั่งใจ” 

http://astv.mobi/AlgEYM7

แปลสั้นๆ เขาด่าไอ้เสร่อแกนนำแดงว่า"โง่แต่ขยัน"


#36 Quezonla

Quezonla

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 259 posts

ตอบ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 22:18

ถ้าลองไปหา คลิบวีดิโอเกี่ยวกับการทำแท้งมาดูนะ (มีเกลื่อนกลาดเว็บเต็มไปหมด) 
จะรู้ว่าการทำแท้งมันคือการฆ่าคนดีๆนี่เอง บางคลิบนี่จะเห็นทารกดิ้นรนกระเสือกกระสนหนีตายอยู่ในครรภ์เลย
ไม่กล้าดูวีดิโอจริงๆหรอก แต่มันจะมีบทสรุปบรรยายประกอบ ก็อ่านเอา
ทีนี้จะฆ่าในช่วงไหน ใครถึงจะทำใจได้ มันก็ขึ้นอยู่กับสภาวะจิตและเวรกรรมของแต่ละบุคคล

การแก้ปัญหาเรื่องนี้ ถ้าแก้แต่ต้นเหตุย่อมจะถูกต้อง ถ้าปลายเหตุแล้วก็ไม่ควรฆ่า มันจะสะเทือนไปถึงจิตวิญญานของคนเป็นแม่ด้วยนะ
 



#37 chackrapbong

chackrapbong

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,057 posts

ตอบ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 22:27

ความเชื่อทางพุทธ ถ้าไปทำหรือมีส่วนร่วมสนับสนุน จะเป็นกรรมที่ทำให้ชีวิตเจอมรสุมเยอะมาก หากินไม่ขึ้น เขาว่างั้นกันนะ

กรรมที่เป็นกุศลหรืออกุศล  อยู่ที่เจตนา เป็นสำคัญ

องค์ของปาณาติบาตนั้นมี  ๕  อย่าง   คือ

๑.  สัตว์มีชีวิต                     

๒.  รู้ว่าสัตว์มีชีวิต                     

๓.  มีจิตคิดฆ่า                     

๔.  มีความพยายาม                     

๕.  สัตว์ตายด้วยความพยายามนั้น


Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy


#38 MIRO

MIRO

    Praise the Sun

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,883 posts

ตอบ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 22:30

ใครจะอยากเป็นเด็กคนนั้น..?


The most valuable things in life are not measured in monetary terms.

The really important things are not houses and lands, stocks and bonds, automobiles and real estate,

but friendships, trust, confidence, empathy, mercy, love and faith.


#39 เสือยิ้มยาก

เสือยิ้มยาก

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,695 posts

ตอบ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 23:16

ให้เป็นดุลยพินิจของหมอดีกว่าครับ เพื่อความสบายใจของทุกคน

เพราะถ้าไปทำโดยพลการ ผมว่ามันจะเป็นตราบาปในใจตลอดชีวิตน่ะ


        shotgun.gif       d444.gif        cheesy.gif

 


#40 ฺำBery

ฺำBery

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 131 posts

ตอบ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 23:42

ให้เป็นดุลยพินิจของหมอดีกว่าครับ เพื่อความสบายใจของทุกคน

เพราะถ้าไปทำโดยพลการ ผมว่ามันจะเป็นตราบาปในใจตลอดชีวิตน่ะ

 

เห็นด้วยค่ะ ลิเบอรัลว่อนน่าบี เอาทุกประเด็นที่จะเหมือนประเทศตะวันตก เรื่องสิทธิสตรีเสรีภาพในร่างกาย

เรื่องสิทธิของเพศที่สาม สิทธิเด็ก หลายๆสิทธิทั้งหลาย :wacko:  แต่ไม่เคยสอนให้คนรู้จักหน้าที่ของตัวเอง

ถ้าคนเรารู้จักหน้าที่ของตัวเอง รู้จักบทบาทของตัวเอง เรื่องอย่างนี้คงไม่เกิดขึ้น … อย่างสมัยก่อน ๕๐ กว่าปีก่อน

เรื่องการข่มขืน การทำแท้งน้อยมาก คนไทยยังไม่รู้จักสิทธิของตัวเองสักเท่าไร แต่รู้ว่าอะไรควร อะไรไม่ควร  :wub:

 

ประเทศไทยเราส่วนใหญ่คนนับถือศาสนาพุทธ สอนเรื่องการเดินในสายกลาง … การต่อต้านการทำแท้ง

การต่อต้านเพศที่สามไม่รุนแรงอย่างประเทศตะวันตก หรือประเทศทางลาตินอเมริกาที่เป็นคาธอลิค

การทำแท้งยังแอบทำกันตามคลินิคเถื่อนมาก ซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิตของผู้หญิง … แต่ถ้าสอนเรื่องเพศศึกษา

เรื่องการคุมกำเหนิดจะช่วยในเรื่องนี้มาก … ยกเว้นบางกรณีที่ถูกข่มขืน  :( เรื่องอย่างนี้ต้องอยู่ในดุลยพินิจของหมอค่ะ


Edited by ฺำBery, 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 23:43.


#41 เสือยิ้มยาก

เสือยิ้มยาก

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,695 posts

ตอบ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 23:52

ความวุ่นวายในบ้านเมือง (ทุกเรื่อง)ส่วนหนึ่ง มาจากการมีคนกลุ่มหนึ่งที่จิตใจ ไม่มีธรรมะ เมตตาสงสาร ผมไม่รู้ว่าจะเรียกอะไร คือไม่รู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ

มันก็เลยพผิดเพี้ยนไปหมด คือทุกคนอ้างว่า การกระทำของตัวเองนั้นถูกต้อง ดีแล้ว ชอบธรรมแล้ว สมควรแล้ว ทั้งๆที่มันผิด นานๆเข้ากลายเป็นค่านิยมในสังคมนั้นๆ

 

เคยเห็นรถเหยียบเด็กที่เป็รคลิปจากจีน คันแล้วคันเล่าไม่มีใครสนใจแม้จะย้ายเด็กไปไว้ริมถนน หรือแค่ส่งสัญญาณห้ามรถ หรือตะโกนบอกคนใกล้ๆ มันน่าเหลือเชื่อมาก

ผมว่าภาพแบบนั้นจะมีมากขึ้น ถ้าผู้คนมีจิตใจที่โหดเหี้ ยม ไม่ละอายต่อบาป ลำพังแค่นี้ยังมีข่าวฆ่ากรรมมากมาย เพราะนอกจากไม่กลัวคุกแล้ว ก็ไม่กลัวบาปกรรมด้วย


        shotgun.gif       d444.gif        cheesy.gif

 


#42 อู๋ ฮานามิ

อู๋ ฮานามิ

    สมาชิกหน้าเก่า

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,018 posts

ตอบ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 23:58

ความวุ่นวายในบ้านเมือง (ทุกเรื่อง)ส่วนหนึ่ง มาจากการมีคนกลุ่มหนึ่งที่จิตใจ ไม่มีธรรมะ เมตตาสงสาร ผมไม่รู้ว่าจะเรียกอะไร คือไม่รู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ

มันก็เลยพผิดเพี้ยนไปหมด คือทุกคนอ้างว่า การกระทำของตัวเองนั้นถูกต้อง ดีแล้ว ชอบธรรมแล้ว สมควรแล้ว ทั้งๆที่มันผิด นานๆเข้ากลายเป็นค่านิยมในสังคมนั้นๆ

 

เคยเห็นรถเหยียบเด็กที่เป็รคลิปจากจีน คันแล้วคันเล่าไม่มีใครสนใจแม้จะย้ายเด็กไปไว้ริมถนน หรือแค่ส่งสัญญาณห้ามรถ หรือตะโกนบอกคนใกล้ๆ มันน่าเหลือเชื่อมาก

ผมว่าภาพแบบนั้นจะมีมากขึ้น ถ้าผู้คนมีจิตใจที่โหดเหี้ ยม ไม่ละอายต่อบาป ลำพังแค่นี้ยังมีข่าวฆ่ากรรมมากมาย เพราะนอกจากไม่กลัวคุกแล้ว ก็ไม่กลัวบาปกรรมด้วย

 

รวมถึงการเอาความเมตตาสงสารมาหาแดรกแบบพวกมิจฉาชีพด้วย เช่น แกล้งทำเป็นรถเสีย หลอกให้เราไปช่วย แล้วทำร้ายร่างกาย ชิงทรัพย์เรา ฯลฯ

คนเลยหวาดระแวงไม่กล้าช่วยเหลือใคร 

 

มูลนิธิที่ออกเรี่ยไรทำบุญ ผมบอกตรงๆ เลยว่าไม่แน่ใจ และสงสัย ถ้าผมจะช่วยบริจาคผมไปช่วยถึงที่ทำการมูลนิธิก็ได้ 

เพื่อนผมก็เป็นเฮียร่วม เคยบอกว่า ไอ้คนพวกนี้ทำให้วงการเสื่อมเสีย 


Edited by อู๋ ฮานามิ ประธาน กปปส., 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 00:00.

ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด

 

เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ


#43 Huligan

Huligan

    ดาวพยศนภา

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,880 posts

ตอบ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 23:59

เรายังสงสัยอยู่ว่า ลูกที่อนุมัติให้คุณหมอถอดสายออกซิเจนพ่อ+แม่ตัวเอง เพราะไม่อยากให้ทรมาน อาจจะเข้าข่าย อนันตริยกรรม ด้วยล่ะ

 

อันนี้ผมเห็นด้วยเต็มที่ว่ามีสิทธิ์อนุมัติให้ถอด ถ้าพูดตรงๆมันคือ Passive ยูธานาเซีย 

กรณีทำแท้งอาจมีคนมาถกประเด็นได้ เพราะมองในแง่นึงมันเป็นการกระทำแบบ Active

แต่กรณีถอดสาย ลองคิดง่ายๆถ้าไม่มีวิทยาการต่ออายุพวกนี้ หรือหาอุปกรณ์ใส่สายไม่ได้แต่ทีแรก เขาก็ตายอยู่ดี

เลี้ยงเซลล์คัลเจอร์ที่ไร้อนาคตเอาไว้?เพียงเพราะเหตุผลทางศีลธรรม?ด้วยงบประมาณมหาศาล? สู้เอางบนั้นไปเลี้ยงเด็กปกติที่มีอนาคตได้หลายสิบคนเลย :P


Edited by Huligan, 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 00:00.

ทฤษฎีของ เดล คาเนกี ใช้กับเหิ้ยหางแดงไม่ได้*สิ่งที่มองไม่เห็นใช่ว่าจะไม่มีอยู่จริง แต่สิ่งที่มองเห็นได้นั้นน่าเชื่อถือมากกว่า*

#44 เสือยิ้มยาก

เสือยิ้มยาก

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,695 posts

ตอบ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 00:05

 

ความวุ่นวายในบ้านเมือง (ทุกเรื่อง)ส่วนหนึ่ง มาจากการมีคนกลุ่มหนึ่งที่จิตใจ ไม่มีธรรมะ เมตตาสงสาร ผมไม่รู้ว่าจะเรียกอะไร คือไม่รู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ

มันก็เลยพผิดเพี้ยนไปหมด คือทุกคนอ้างว่า การกระทำของตัวเองนั้นถูกต้อง ดีแล้ว ชอบธรรมแล้ว สมควรแล้ว ทั้งๆที่มันผิด นานๆเข้ากลายเป็นค่านิยมในสังคมนั้นๆ

 

เคยเห็นรถเหยียบเด็กที่เป็รคลิปจากจีน คันแล้วคันเล่าไม่มีใครสนใจแม้จะย้ายเด็กไปไว้ริมถนน หรือแค่ส่งสัญญาณห้ามรถ หรือตะโกนบอกคนใกล้ๆ มันน่าเหลือเชื่อมาก

ผมว่าภาพแบบนั้นจะมีมากขึ้น ถ้าผู้คนมีจิตใจที่โหดเหี้ ยม ไม่ละอายต่อบาป ลำพังแค่นี้ยังมีข่าวฆ่ากรรมมากมาย เพราะนอกจากไม่กลัวคุกแล้ว ก็ไม่กลัวบาปกรรมด้วย

 

รวมถึงการเอาความเมตตาสงสารมาหาแดรกแบบพวกมิจฉาชีพด้วย เช่น แกล้งทำเป็นรถเสีย หลอกให้เราไปช่วย แล้วทำร้ายร่างกาย ชิงทรัพย์เรา ฯลฯ

คนเลยหวาดระแวงไม่กล้าช่วยเหลือใคร 

 

มูลนิธิที่ออกเรี่ยไรทำบุญ ผมบอกตรงๆ เลยว่าไม่แน่ใจ และสงสัย ถ้าผมจะช่วยบริจาคผมไปช่วยถึงที่ทำการมูลนิธิก็ได้ 

เพื่อนผมก็เป็นเฮียร่วม เคยบอกว่า ไอ้คนพวกนี้ทำให้วงการเสื่อมเสีย 

อันนี้น่ากลัว

แบบนี้ไม่ได้กินผมหลอก พระนั่งรอตักบาตรทุกวันหน้าตลาด ผมไม่เคยใส่บาตรให้มันเลย ก็มึงเล่นนั่งเวียนเทียนเอาของเก่ามาขาย จนร้านค้ารวยไปแล้วมั้ง

มันมีหลายมิติ แต่มุมนี้ต้องระวัง แบบนี้ใจบุญอย่างเดียวไม่ได้ ต้องฉลาดด้วย ไม่งั้นมีเณรคำอีกหลายตัว


        shotgun.gif       d444.gif        cheesy.gif

 


#45 ฺำBery

ฺำBery

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 131 posts

ตอบ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 00:22

เรื่องของเรื่องก็คือคนไม่รู้จักหน้าที่และบทบาทของตัวเอง ว่าอะไรควร อะไรไม่ควร

จะอะไรก่อนหลัง ถ้าทำสิ่งนี้แล้วอะไรจะตามมา  :mellow: ประเทศตะวันตกอย่างอเมริกาเรื่องทำแท้ง

เป็นประเด็นร้อนมากหลายปีแล้วยังหาข้อสรุปไม่ได้ … ฝ่ายสิทธิสตรีก็สนับสนุนเพราะถือว่าเป็นเสรีภาพส่วนบุคคล

…. ฝ่ายที่เคร่งศาสนาก็จะรนณรงค์เรื่องการทำแท้งว่าเป็นบาป หลายคลีนิคถูกวางระเบิด หมอต้องย้ายหรือปิดคลินิคไป

พวกเด็กวัยรุ่นอเมริกาที่รักสนุกจะตั้งท้องเป็นแม่วัยรุ่นเยอะมาก รัฐบาลท้องถิ่นจะมีโปรแกรมอบรมเรื่องแม่วัยรุ่นให้

…. เด็กฝรั่งส่วนใหญ่เมื่อตั้งท้องเขาจะไม่คิดทำแท้งเหมือนเด็กไทย  :wub: เขาจะเลี้ยงดูเด็กคนนั้นไปตามความสามารถ

ที่จะเลี้ยงได้ และบางรายก็ไม่แคร์ว่าพ่อของเด็กจะมาช่วยดูแลหรือไม่ … อันนี้เห็นได้ชัดเจนว่าด็กของเขามีความรับผิดชอบ

มากกว่าเด็กของเรา แม่วัยรุ่นบางรายไม่สามารถเลี้ยงดูเด็กได้ก็ให้เอเยนซี่ติดต่อคนที่จะรับไปเป็นบุตรบุญธรรม

เรื่องคลอดลูกแล้วทิ้งในโรงพยาบาลไม่มีให้เห็น  ^_^ แม่คนไหนที่เอาลูกไปทิ้งจะมีความผิดร้ายแรงมาก  :o

 

…. จะเห็นได้ว่าคนของเขามีความรับผิดชอบมากกว่าคนของเราเยอะ และอีกอย่างเขาก็มีระบบช่วยเหลือแม่วัยรุ่นด้วย

และมีหน่วยงานคอยให้คำแนะนำ และถ้าแม่คนไหนไม่มีความสามารถที่จะเลี้ยงเด็กได้ ก็ให้คนรับไปเป็นบุตรบุญธรรม


Edited by ฺำBery, 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 03:31.


#46 สยาม

สยาม

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 745 posts

ตอบ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 00:56

เอาล่ะ...ถ้าไม่อยากให้ทำก็ไม่ว่ากัน แต่ควรหาทางออกให้แม่ของเด็กบ้าง กรณีที่ยังเรียนไม่จบ

ให้เขาหรือครอบครัวมีสิทธิ์เลือกเอง ว่าจะเรียนต่อหรือจะไปเลี้ยงลูก

ไม่ใช่แม่ม...เอาจารีตไร้สาระไปตัดสิน ไล่ออกจากสถานศึกษาอย่างเดียว>>บ้ารึเปล่าวะ?

คนท้องมาเรียน มันก็เดือดร้อนตัวเขาคนเดียวอยู่แล้ว ไม่ได้เดือดร้อนคนรอบข้างสักหน่อย>>โรงเรียนไปเศือกอะไรด้วยวะ?  <_<

 

สันดารสังคมชอบบูชายัญ โดยไม่คิดแก้ปัญหา นอกจากสำเร็จความใคร่ทางศีลธรรมไปวันๆ

ถุยยยยยย...

 

ทางออกก็คือการป้องกัน การคุมกำเนิดไงครับ

บอกและทราบกันมานานแล้ว



#47 ฺำBery

ฺำBery

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 131 posts

ตอบ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 05:17

เอาล่ะ...ถ้าไม่อยากให้ทำก็ไม่ว่ากัน แต่ควรหาทางออกให้แม่ของเด็กบ้าง กรณีที่ยังเรียนไม่จบ

ให้เขาหรือครอบครัวมีสิทธิ์เลือกเอง ว่าจะเรียนต่อหรือจะไปเลี้ยงลูก

ไม่ใช่แม่ม...เอาจารีตไร้สาระไปตัดสิน ไล่ออกจากสถานศึกษาอย่างเดียว>>บ้ารึเปล่าวะ?

คนท้องมาเรียน มันก็เดือดร้อนตัวเขาคนเดียวอยู่แล้ว ไม่ได้เดือดร้อนคนรอบข้างสักหน่อย>>โรงเรียนไปเศือกอะไรด้วยวะ?  <_<

 

สันดารสังคมชอบบูชายัญ โดยไม่คิดแก้ปัญหา นอกจากสำเร็จความใคร่ทางศีลธรรมไปวันๆ

ถุยยยยยย...

 

 

ไม่จำเป็นต้องถ่มถุยกับสิ่งที่คุณไม่เห็นด้วยหรอก ตัวคุณเองยังไม่บอกเลยว่าจะแก้ปัญหานี้ยังไง ?

คนอื่นๆเขาบอกถึงปัญหา … ถ้าเปรียบเทียบเด็กไทยกับเด็กอเมริกันเรื่องแม่วัยรุ่น … เด็กอเมริกันมีความรับผิดชอบมากกว่า

มีเหตุผลมากกว่า เป็นผู้ใหญ่มากกว่า เด็กวัยรุ่นอเมริกันที่ตั้งท้องเพราะอยากมีลูก บางคนก็ไม่แคร์พ่อของเด็ก

เด็กอเมริกันส่วนใหญ่จะไม่ทำแท้ง จะเลี้ยงลูกเอง ถ้าเลี้ยงไม่ได้จะติดต่อเอเยนซี่ให้คนมารับเป็นบุตรบุญธรรม

… และทางรัฐบาลท้องถิ่นของอเมริกันจะมีหน่วยงานที่ให้คำปรึกษาพ่อแม่วัยรุ่น  :wub: ขณะที่เมืองไทยไม่มี

นโยบายของรัฐบาลอเมริกันทั้งรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นก็รณรงค์ในเรื่องการตั้งท้องในวัยเรียน

 

มาดูเมืองไทยระบบบ้านเราไม่เหมือนระบบบ้านเขา ก็ทำเท่าที่ทำได้ก็คือการให้ความรู้ในเรื่องเพศศึกษา

ซึ่งเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม เพราะบ้านเราถ้าตั้งท้องขึ้นมาก็ต้องลาออกจากโรงเรียน

…​แต่ถ้าเด็กคนนั้นอยากเรียนต่อ ก็มีโรงเรียนทางเลือกให้ สอบเทียบ กศน.ก็สามารถเรียนในระดับอุดมศึกษาได้

รามคำแหง ราชภัฎ สุโขทัย … หรือถ้าเด็กคนนั้นอยากเรียนวิชาชีพ ก็มีโรงเรียนเยอะแยะให้เลือก

เรียนเสริมสวย ทำอาหาร คอมพิวเตอร์ ฯลฯ สารพัด

 

ที่สำคัญทางบ้านต้องคอยช่วยเหลือสนับสนุนด้วยความเข้าใจ ไม่ใช่ดุด่าว่ากล่าวซ้ำเติม

สมัยสัก ๕๐ กว่าปีก่อน คนไทยไม่รู้จักสิทธิหรอก แต่รู้จักว่าหน้าที่ว่าอะไรควร อะไรไม่ควร วัยไหนควรทำอะไร

เพราะคนสมัยก่อนผูกพันธ์กับศาสนาทั้งทฤษฎีและปฏิบัติสอดคล้องกัน … ไม่เหมือนคนสมัยนี้ที่นับถือศาสนาแต่เปลือก

 

ปัญหาตั้งท้องในวัยเรียนที่สำคัญคือพ่อแม่ผู้ปกครอง สภาพแวดล้อม เพื่อนๆ … ผู้ปกครองควรจะคุยกับเด็กได้ทุกเรื่อง

เด็กสามารถปรึกษาเรื่องต่างๆได้ ไม่ว่าเรื่องการเรียน การคบเพื่อน การมีแฟน เรื่องบันเทิง ฯลฯ การมีกิจกรรมร่วมกัน

เช่น การทำกับข้าวร่วมกัน การทำความสะอาดบ้านร่วมกัน การทำสวนครัวปลูกผักร่วมกัน กิจกรรมเหล่านี้จะช่วยให้

ครอบครัวสนิทสนมกันเข้าใจกันมากขึ้น … ปัญหาต่างๆก็จะลดลง … ทุกอย่างเริ่มที่สถาบันครอบครัวค่ะ  :)

 

… ดิฉันเคยอ่านเจอในแวปดูดวง ธรรมะ แวปหนึ่งค่ะ ประมาณ ๓,๔ ปีมาแล้ว มีคนเขียนเล่าประสบการณ์ในชีวิตให้ฟัง

ว่าทำไมเธอจึงมาสนใจธรรมะ  :wub: เธอบอกว่าตอนเป็นวัยรุ่นเธอเกเรมาก ใช้ยาเสพติด ท้องในวัยเรียน ทำแท้ง

จนพ่อแม่เอาไม่ไหวแล้ว ก็พาเธอมาปรึกษาพระ หลวงพ่อก็บอกกับพ่อแม่ของเธอว่า …​" มึนต้องยกมันให้เป็นลูกกลู มึนเอามันไม่อยู่หรอก " ...

จากนั้นท่านก็ให้เธอไปปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ วิปัสนา … แค่นั้นแหละภาพที่ออกมาตั้งแต่เล็กจนโต เหมือนภาพที่ออกมาทางทีวี

ภาพที่เธอใช้ยาเสพติดตั้งท้อง ทำให้พ่อแม่เสียใจ  :o  :ph34r: เธอน้ำตาไหลออกมาสำนึกตัวได้ ก้มกราบพ่อแม่ขออภัยในสิ่งที่ทำมา ...

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเธอกลับตัวกลับใจเป็นคนดีและเข้าวัดเข้าวา ...

 

นี่แหละคือบทบาทของศาสนาที่ช่วยแก้ไขปัญหาสังคม ไม่ใช่สำเร็จความใคร่ทางศีลธรรมไปวันๆ

บางทีก็สงสารเสรีนิยม ลิเบอรัลว่อนน่าบี ของไทยเอามากๆ … ตามฝรั่งทุกอย่าง แต่ไม่เคยอยู่เมืองฝรั่ง

ไม่เคยรู้เรื่องสังคมไทยเลย แล้วมาด่าว่าคนที่คิดต่างจากตัวเอง  B)



#48 ต้นหอม

ต้นหอม

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,472 posts

ตอบ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 07:48

ถ้าปล่อยให้เด็กเกิดมาโดยไร้ความรับผิดชอบก็น่าจะไม่ต่างจากการทำแท้งนะ ไม่ทำแท้งแต่ทำร้าย ทิ้งๆขว้างๆ ปล่อยเป็นภาระพ่อแม่ปู่ย่าตายาย สรุปก็คือทำบาปอยู่ดี ทำบาปนานกว่าด้วย ควรเน้นเรื่องความรับผิดชอบต่อตัวเด็กมากกว่าไปเน้นบุญบาปการทำแท้ง


มันจะทำให้เราคิดก่อนพูดได้ดีขึ้น เมื่อเชื่อว่าคำพูดที่ออกไปเหล่านั้นคือคำที่เราจะได้ยินเองในอนาคต

และถ้าเราจะทำดีได้มากขึ้น เมื่อเชื่อว่าเราจะได้เจอสิ่งดีๆในอนาคต

แม้ว่าวันนี้เราจะยังไม่เห็นว่ามันดีอย่างไรแต่อย่างน้อยทำให้เราผ่านวันนี้ไปได้อย่างราบรื่น


#49 Manners

Manners

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 623 posts

ตอบ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 09:06

ผมเชื่อว่า ความเป็นแม่ของผู้หญิงจะเกิดขึ้นต่อเมื่อตั้งใจจะมีบุตร 

การมีบุตร ต้องมีความพร้อม ในหลายๆส่วน 

หากในกรณีผิดพลาด หรือไม่ตั้งใจ จะแก้ไขอย่างไร

เด็ก ก็คือเด็ก ย่อมทำผิดพลาดได้มาก เพราะเขาเหล่านั้นยังไม่ใช่ผู้ใหญ่

เด็กอายุ15-16 คิดว่าสมควรมีบุตรหรือไม่? หากมีแล้ว เชื่อว่าทั้ง3ชีวิต มีโอกาศน้อยมากที่จะมีชีวิตที่ดี

เด็กที่เกิดมาแล้ว ไม่ได้รับการเลี้ยงดูที่ดีพอ มีโอกาศเท่าไร ที่จะเป็นปชช.ที่ดีของชาติ

ที่แน่ๆ คุณจะไม่ใช่คนที่จะดูแลเด็กเหล่านั้น หรือรับผิดชอบ ต่อสิ่งที่ทารกเหล่านั้นจะกระทำ

ส่วนเรื่องบาปกรรม เป็นเรื่องของคนที่กระทำ ไม่เกี่ยวกับสังคมทางโลก 

เมื่อเราๆ ไม่ได้รับผลหรือรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้น เราก็ไม่น่าจะมีสิทธิ์ ในการตัดสินใจเหล่านั้น

 

ไม่ได้สนับสนุนให้คนทำแท้ง แต่ก็เห็นใจกับคนที่ตัองตัดสินใจทำ และคิดว่าเศษฐกิจบ้านเราก็ไม่สามารถจะดูแลทารกเหล่านั้นให้ดีได้

 

ปล.หากเด็กเหล่านั้นกระทำความผิด จะอ้างว่าเพราะไม่มีคนเลี้ยงดู เขาต้องหาทางมีชีวิตรอดเอง จะทำให้เขาเหล่านั้นพ้นผิดได้หรือเปล่า

คนเราฆ่าสิ่งมีชีวิตอยู่ทุกวัน เพื่อความอยู่รอดของเรา แต่กลับไม่มีโทษเพียงเพราะสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นไม่ใช่คน มันเป็นถูกต้องไหม?



#50 Shariff

Shariff

    สมาชิกหน้าตาดี

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,802 posts

ตอบ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 09:42

เช้าๆผมไปหาซื้อขนมไทย ปาท่องโก๋ ข้าวต้ม อะไรที่อยากจะกินก็แล้วแต่

 

ผมจะเจอน้องข้าวนอกนาคนนึง อายุประมาณ 6ขวบ 

 

กำลังนั่งกินอาหารเช้ากับแม่ ซึ่งทำอาชีพสาวบาร์(อาชีพที่ใครๆก็รู้ว่าอาชีพอะไร)

 

ผมไม่รู้ว่าน้องคนนี้ หลับรอตอนแม่ทำงาน หรือนั่งฟังเพลงกันไป แล้วมานอนพร้อมแม่ตอนกลางวัน

 

ก็ไม่ทราบได้

 

 

 

ใจนึงผมก็นึกว่า เด็กคนนี้ก็ยังดีที่ไม่โดนแม่ทิ้ง

 

แต่ยังไงการที่เด็ก6ขวบ ต้องมาอยู่กับบรรยากาศแบบนี้มันก็น่าสงสารอยู่ดี

 

 

 

 

ผมไม่รู้ครับ ระหว่างเด็กคนนี้ตายไปเพราะโดนทำแท้ง

 

โดนแม่ทิ้ง

 

แม่เลี้ยงดูโดยพาไปอยู่ในสถานที่อโคจร(ซึ่งเสี่ยงที่จะโตไปแล้วเป็นอย่างแม่)

 

 

อย่างไหนมันจะเลวร้ายกว่ากัน


Edited by Shariff, 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 09:46.

"การปลดปล่อยตัวเองออกจากความเป็นทาสทางความคิดมิใช่ใครอื่น, มีแต่เราเท่านั้นที่จะต้องกระทำ "จากเพลง Redemption song.




ผู้ใช้ 0 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 0 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน