น่าเชื่อตายเลยครับ ควายเท่านั้นที่เชื่อวาทกรรม “มอบตัว” .. ลีลา “กบฏผายลม”!!
“สุเทพ เทือกสุบรรณ” ออกมา “ขีดเส้นเผด็จศึก” ประกาศยกระดับเรียกระดมพล “กปปส.” อ้างว่าจะทำ
“สงครามครั้งสุดท้าย” อีกครั้ง โดยเลื่อน…เลื่อน…เลื่อน มาเป็น 26 พฤษภาคม 2557 !
โดยครั้งนี้ทำเหมือนจะมีแผนการเป็นระบบ-ระเบียบ เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับมวลชน
ด้วยการเรียกประชุมกลุ่มเครือข่ายรัฐวิสาหกิจในช่วง 10.00 น. วันที่ 18 พฤษภาคม 2557 ซึ่งจะเป็น “กองกำลังหลัก”
ในการปฏิบัติการ “สงครามครั้งสุดท้าย”
จากนั้นวันเดียวกันเวลา 14.00 น.ก็จะเรียกประชุมอดีตข้าราชการเกษียณอายุ มาประชุม
เพื่อหารือถึง “วิธีการ” เข้าแทรกแซงการบริหารงานของภาครัฐ
แล้วช่วงเช้าวันที่ 19 พฤษภาคม 2557 ก็จะเริ่มปฏิบัติการตามที่ได้วางแผนกันไว้ทันที เพื่อ
“ปิดเกม-ล้มประชาธิปไตย” ให้ได้ภายในวันที่ 26 พฤษภาคม 2557
โดยประกาศเอาไว้ด้วยว่า หากวันที่ 26 พฤษภาคม 2557 ยังไม่สามารถโค่นรัฐบาล
ล้มประชาธิปไตยได้ ก็จะ “มอบตัว” ในวันที่ 27 พฤษภาคม 2557 ทันที !!
ฟังเผินๆ การที่ “แกนนำม็อบ” ประกาศท้าเดิมพัน “ปฏิบัติการ” กับ “อิสรภาพ”
ด้วยการ “มอบตัว” นั้นอาจจะทำให้ “มวลชน กปปส.” เคลิ้มไปกับ “คำพูด” ของ คนอย่าง “สุเทพ เทือกสุบรรณ”
ดีไม่ดีอาจจะพาลหลงไปว่าเป็น “ประกาศิต” ที่น่าประหวั่นพรั่นพรึง
แต่หากพิจารณาข้อมูลที่ผ่านมาดีๆ จะพบว่า “คำพูด” ของ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” แทบจะไม่มีความน่าเชื่อถือใดๆ
ไม่ว่าจะเป็นการ “ประกาศชัยชนะ” ที่อาจจะพุ่งสูงเฉียด 10 ครั้ง แต่กลับไม่เคยชนะได้อย่างแท้จริง
หรือจะเป็นการ “ยกระดับการต่อสู้” ที่มีผู้บันทึกเอาไว้ว่ามากกว่า 30 ครั้ง แต่ก็ยังไม่ทำให้ประสบความสำเร็จได้
รวมไปถึงคำพูดประเภท “กำหนดวัน-จบให้ได้” ที่อาจจะไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง แต่ปัจจุบัน “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ก็ยังไมเคยจบได้ตามคำที่พูด !!!
ดังนั้นการที่ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ประกาศว่า “หากไม่สำเร็จจะเข้า “มอบตัว” ในวันอังคารที่ 27 พฤษภาคม” ทันที…จึงน่าสนใจ “แกนนำม็อบ กปปส.-อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และ อดีตรองนายกรัฐมนตรี รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ไปจนถึง “กำนันเก๊” คนนี้ว่าจะ “รักษาคำพูด” ได้สักครั้งหรือไม่ ???
จากการตรวจสอบคำปราศรัย ของ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ทั้งหมด ตั้งแต่ “เป่านกหวีด” ระดมพลชุมนุมม็อบประชาธิปัตย์ ที่สถานีรถไฟสามเสน เมื่อ 31 ตุลาคม 2556 จนถึงวันที่มีประกาศว่าจะ “มอบตัว” ครั้งล่าสุดวันที่ 17 พฤษภาคม 2557 พบว่า “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ได้ประกาศเอาไว้ก่อนหน้านี้จำนวนมาก
ซึ่ง “คำพูด”เหล่านี้กำลังรอให้ผู้ลั่นวาจา “รักษาคำพูด” ให้ได้สักครั้ง !!!
โดย 26 พฤศจิกายน 2556 “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ขึ้นปราศรัยที่เวทีกระทรวงการคลัง ภายหลังพามวลชนบุกยึดสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง โดยระบุว่า “เมื่อตำรวจไปขอหมายจับมาได้ ผมก็จะขอมอบตัวกับตำรวจ แต่ผมขอเวลาตอนนี้ผมยังไม่ว่าง ผมยังยุ่งอยู่”
จากนั้น 6 ธันวาคม 2556 “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ขึ้นปราศรัยเวทีศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ ปลุกระดมให้ประชาชนมาร่วมปฏิบัติการณ์บุกทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 9 ธันวาคม 2556 โดยระบุว่าเป็นการเดินทางไกลครั้งสุดท้าย โดยอ้างว่า “ขอวันเดียว เพื่อพิสูจน์อนาคตประเทศไทย” โดยระบุว่า “ไม่ต้องมีใครมาค่อนแคะ ไม่ต้องมีใครมานินทา ผมและเพื่อนๆ ไม่ต้องการเอาชีวิตของประชาชน เอาความทุกข์ยากของประชาชนไปลงทุนมากกว่านี้อีกแล้ว เห็นใจพี่น้องแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าคนไทยไม่ออกมาช่วยกัน ผมและเพื่อน ยอมไปมอบตัว ติดคุกทั้งชีวิตข้อหากบฏ ให้มันรู้แล้วไปเลย คือ ถ้าแพ้มัน พี่น้องครับ มีชีวิตเป็นข้าทาสของมันอยู่ในสังคม กับติดคุก เหมือนกัน ไม่มีอะไรต่างกัน ตัดสินใจแล้ว เอากันวันที่ 9ตกลงนะครับพี่น้องครับ 09.39 นาที วันจันทร์ที่ 9 รู้กัน แพ้หรือชนะ รู้กัน วันนั้นแหละครับ ตัดสินกันแน่นอน”
สุดท้ายเมื่อผ่านวันที่ 9 ธันวาคม 2556 ตามที่ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” นัดหมายว่าเป็น “วันตัดสินอนาคตประเทศไทย” ก็กลายเป็นวันที่ 10 ธันวาคม 2556 “วันรัฐธรรมนูญ” ซึ่งไม่ได้มีปฏิกิริยาใดๆ จาก “แกนนำ กปปส.” เหมือนที่ “สุเทพ เทือกสุบรรณ”ได้ประกาศเอาไว้ …และสุดท้ายทุกอย่างก็ผ่านไป ราวกับว่า “คำพูด” ของ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” คือการ “ผายลม” ครั้งหนึ่ง !!
กระทั่ง 29 ธันวาคม 2556 สุเทพ เทือกสุบรรณ ก็ขึ้นปราศรัยเวทีถนนราชดำเนิน อีกครั้ง โดยระบุว่า “หลังเทศกาลปีใหม่มีการนัดหมายวันปฏิบัติการครั้งใหญ่ทั่วประเทศที่ชัดเจน โดยมีเป้าหมายคือการปิดกรุงเทพมหานคร และขอให้ชาวกรุงเทพฯ เตรียมตัวให้เสร็จสิ้นภายในสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม” โดยระบุในการปราศรัยครั้งเดียวกันว่า “เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจแล้วก็จะเข้ามอบตัวทันที” !!
แต่กระนั้นเมื่อข้ามพ้นปีเก่า 2556 จวบจนกระทั่งปีใหม่ 2557 และผ่านพ้นปฏิบัติการ กปปส. “ชัตดาวน์กรุงเทพฯ” สู่ “รีสตาร์ทประเทศไทย”..ก็ยังไม่ปรากฏว่า “สุเทพ เทือกสุบรรณ” จะปฏิบัติตามคำพูดเหล่านั้นแม้แต่ครั้งเดียว
ซ้ำร้ายหลังจากนั้น คำว่า “มอบตัว” ก็ถูก “สุเทพ เทือกสุบรรณ” นำมาใช้อีกหลายครั้ง ในประเด็นที่ “ไม่ได้เป็นสาระ-ประโยชน์” กับสถานการณ์ และดูเหมือนเป็นเพียงการพูด “สนุกปาก” ไปวันๆ เท่านั้น
โดยเมื่อ 19 กุมภาพันธ์ 2557 ซึ่ง “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ขณะเคลื่อนพลไปชุมนุมปิดหน้าสโมสรตำรวจ และขึ้นปราศรัยโจมตีการทำงานของ “ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง” ด้วยการระบุว่า “มาชกกันตัวต่อตัวดีกว่า หากตนเองแพ้จะยอมมอบตัว”
อีกครั้งในวันที่ 9 เมษายน 2557 “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ซึ่งได้เข้าพบ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม ที่กระทรวงกลาโหม จากนั้นกลับไปขึ้นเวทีสวนลุมพินี พร้อมปราศรัยถึงบรรยากาศการพูดคุยว่า “วันนี้ผมเรียนกับท่านปลัดกระทรวงกลาโหมไปเลย ว่าท่านปลัดกระทรวงกลาโหม ฟังผมให้ดีก็แล้วกัน คนอย่างเรามวลมหาประชาชน สู้แล้วรู้แพ้รู้ชนะ ออกมาคราวนี้ถ้าแพ้ ผมยอมมอบตัว”
ทั้งหมดคือ “คำพูด” ของ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ที่ยังไม่เคย “ทำจริง” ได้สักครั้ง !!
…มูลค่าราคา เทียบได้ แค่ “ผายลม” ไปวันๆ
http://www.phranakor...bhand/3417.html
สาวก ลูกหาบ สุเทพ ทำไมถึงได้รักหลงศรัทธา เชื่อลมตดของสุเทพได้ เมื่อไรจะตาสว่างเสียที
อ้อเรื่องที่กำนันรักษาคำพูดคือ ไม่เอานิรโทษกรรม นี่ครับชัยชนะแรก
ตกลงนายเวรจะไม่รับผิดชอบคำพูดตัวเองใช่มั้ยครับ
Edited by JSN, 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 15:38.
