Jump to content


Photo
- - - - -

เอาใจช่วยกันหน่อยครับพี่น้อง-วัชรพลขึงขัง ปฏิรูปตำรวจ ยึดโยง‘ปชช.’


  • Please log in to reply
13 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 18:50

http://www.thaipost....ws/280514/90922

 

"วัชรพล" อ้างปฏิรูปตำรวจตามข้อเรียกร้อง ปชช. ยึดโครงสร้างลดอำนาจ "ผบ.ตร." กระจายลงหน่วยปฏิบัติ เล็งแก้ กม.ตั้ง บช.เป็นนิติบุคคล ไม่ฟันธงขึ้นชั้นกระทรวง ปัดลอกพิมพ์เขียว กปปส. ขู่! ลูกน้องใครเกียร์ว่างโดนเด้งแน่ "รองโฆษก สตช." ย้ำยังใช้ชื่อเรียก "ตำรวจ" เหมือนเดิม

 

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) วันที่ 27 พ.ค. พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. กล่าวถึงการปฏิรูปตำรวจปรับสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นกระทรวงรักษาความปลอดภัยสาธารณะ และปรับกองบัญชาการเป็นกรมต่างๆ ว่า ข้อเรียกร้องของประชาชนในช่วงที่ผ่านมา นอกจากการปฏิรูปการเมือง การปกครอง ยังเรียกร้องการปฏิรูปตำรวจ อยากเห็นตำรวจกระจายอำนาจ จึงคิดทำอย่างไรถึงจะกระจายอำนาจตามข้อเรียกร้องของประชาชนได้ โดยให้หน่วยงานดูแลพื้นที่มีอำนาจบริหารจัดการได้เบ็ดเสร็จ ซึ่งหากเป็นนิติบุคคลได้จะสามารถตั้งงบประมาณได้ มีงบประมาณ คน เครื่องมือ และการบริหารจัดการเองได้ สามารถกำหนดตัวชี้วัดตามปัจจัยคุกคามในพื้นที่ได้เอง

 

พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า ปัจจุบันทุกอย่างรวมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่แนวคิดในอนาคตเมื่อกองบัญชาการ (บช.) ต่างๆ เป็นนิติบุคคล ส่วนบังคับบัญชาของ ตร.ที่เป็นส่วนอำนวยการใหญ่ มี ผบ.ตร.อยู่ จะเป็นเพียงหน่วยสนับสนุนประสานงาน คิดเรื่องยุทธศาสตร์ วางแผนการสนับสนุนงบประมาณในภาพรวม ผบ.ตร.จะถูกลดอำนาจเล็กลง จะไม่ใช้ ผบ.กองกำลัง จะเป็นการกระจายอำนาจให้หน่วยปฏิบัติมีอำนาจเบ็ดเสร็จ
"เป็นแนวทางที่คิดสอดคล้องกับการบริหารราชการแผ่นดิน ตามพระราชบัญญัติบริหารราชการแผ่นดิน หรือพระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับกระทรวง ทบวง กรม เป้าหมายคือกระจายอำนาจ ลดลง ไม่ได้ใหญ่โตขึ้น ผบ.ตร.ก็จะเล็กลง ส่วนจะเปลี่ยนชื่อหรือไม่ก็ต้องรอดู เมื่อเรามีแนวทางกระจายอำนาจหน่วยปฏิบัติต่างๆ ให้มีอิสระ ก็ต้องดูว่าจะเป็นรูปแบบใด โครงสร้างจะเป็นเหมือนกระทรวงหรือไม่ อาจไม่ใช่ก็ได้ เพียงแต่กฎหมายจะเขียนชัดว่าให้กองบัญชาการเป็นนิติบุคคล" พล.ต.อ.วัชรพลกล่าว

 

รักษาการ ผบ.ตร. กล่าวว่า กฎหมายเดิม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 เขียนไว้ในเรื่องกระจายอำนาจ แต่เขียนว่า ผู้บัญชาการ (ผบช.) เสมือนอธิบดี ผบ.ตร.เสมือนปลัดกระทรวง ทุกวันนี้การกระจายอำนาจจึงยังไม่ชัดเจน เพราะยังเสมือน ดังนั้นการแก้ไขกฎหมาย ปรับโครงสร้างครั้งนี้ จึงทำให้ถึงที่สุดกระจายอำนาจไม่รวมศูนย์อีกต่อไป

 

ถามว่า โครงสร้างใหม่จะเป็นเหมือนกระทรวงที่มีกรมต่างๆ ผบ.ตร.เป็นปลัดกระทรวงหรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า โครงสร้างเป็นไปได้หลายแบบ โดยมีโจทย์ว่าทำอย่างไรให้ บช.ต่างๆ เช่น นครบาล ภาค 1 มีอำนาจบริหารคนและงบประมาณได้เอง มีตัวชี้วัดของหน่วยเอง เพราะแต่ละหน่วยปัจจัยคุกคามต่างกัน มองว่าหากเป็นนิติบุคคลบริหารได้เอง ก็จะดูแลประชาชนได้ตรงกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่

 

ซักว่า แนวคิดการปฏิรูปตำรวจเหมือนที่ กปปส. พูดบนเวทีอาจถูกมองว่าเป็นการรับลูกทำเพื่อสนองแนวคิดหรือไม่นั้น รักษาการ ผบ.ตร.กล่าวว่า จะเป็นแนวคิดของใครก็ตาม ขอแค่สิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เช่นเดียวกัน เราอยากเห็นการเมืองการปกครองที่ดี มีคุณธรรม ทุกคนอาสาเข้ามาบริหารปกครองประเทศ ตำรวจก็ต้องเป็นตำรวจของประชาชน นี่ไม่ใช่ความคิดของใคร แต่เป็นความคิดของพี่น้องประชาชน

 

เมื่อถามว่า การปฏิรูปครั้งนี้จะแก้ปัญหาการเมืองล้วงลูกได้หรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า การเมืองการปกครองเป็นของคู่กัน นักการเมืองที่เป็นคนดี มีความพร้อมเสียสละเข้ามาเป็นนักการเมืองทำหน้าที่นิติบัญญัติ บริหาร ก็หวังว่าเข้ามาทำอย่างไรให้สังคมรุ่งเรือง ประชาชนมั่นคงกินดูอยู่ดีปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน ตำรวจทหารก็เป็นกลไกรัฐบาล การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นเป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการ อยากเห็น ไม่ได้ตอบโจทย์ใครเปลี่ยนเพื่อการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 เพื่อแข่งกับคนทั้งโลก

 

พล.ต.อ.วัชพลกล่าวถึงการโยกย้ายตำรวจจำนวนมากช่วงนี้ว่า เวลานี้ต้องการความสามัคคี ต้องช่วยกันทำงาน ปัญหาความแตกต่างแก้ไขได้ระดับหนึ่งแล้ว ใครทำหน้าที่เต็มที่ก็ยังสามารถปฏิบัติต่อได้ แต่หากละเลยต้องโยกย้ายสับเปลี่ยนไป

 

"เรื่องที่ พล.ต.ท.วันชัย ถนัดกิจ รักษาการ ผบช.ภ.5 ออกคำสั่งให้ พล.ต.ต.กริช กิตติลือ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ช่วยราชการฯ ตามคำแนะนำของแม่ทัพภาคที่ 3 ก่อนมีการถอนคำสั่งในเวลาต่อมา เพราะการได้ข้อมูลก็ต้องตรวจสอบ ห้วงนี้ข้อมูลข่าวสารมากมาย จึงจำเป็นต้องตรวจสอบเพื่อความเป็นธรรม หากไม่ชัดเจน ข้อมูลไม่ชัด ก็สร้างความหวั่นไหว ตอนนี้ให้ทำหน้าที่ไป วันนี้ พล.ต.ต.กริชยังทำหน้าที่ผู้การฯ เชียงใหม่อยู่ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ต้องแจ้งแม่ทัพภาคที่ 3 เชื่อว่าเข้าใจ" รักษาการ ผบ.ตร.กล่าว

 

พล.ต.ต.อนุชา รมยะนันทน์ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงเพิ่มเติมถึงแนวคิดการจัดปฏิรูปแนวตำรวจว่า ขอยืนยันผู้บังคับบัญชายังไม่มีแนวคิดเปลี่ยนชื่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือจัดตั้งเป็นกระทรวงรักษาความสงบเรียบร้อยภายในตามที่มีข่าวออกไปก่อนหน้านี้ โดยยังคงมีตำรวจคอยดูแลความปลอดภัยให้ประชาชน และใช้ชื่อ "ตำรวจ" ในการปฏิบัติราชการเหมือนเดิม

 

"มีความเป็นไปได้ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะสังกัดกระทรวง หรือ หน่วยงานอื่น ซึ่งเดิมสำนักงานตำรวจแห่งชาติเองก็เคยสังกัดกระทรวงมหาดไทยมาแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหรือเป็นไปไม่ได้" พล.ต.ต.อนุชากล่าว
รองโฆษก สตช.กล่าวว่า แนวคิดการปฏิรูปตำรวจ เป็นไปเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนที่อยากเห็นการกระจายอำนาจลงไปในพื้นที่ให้มากขึ้น การบังคับบัญชาสั่งการต่างๆ จะเป็นไปด้วยความรวดเร็วมากขึ้น แต่องค์กรตำรวจยังคงมีความเป็นเอกภาพเหมือนเดิม เพราะในระดับนโยบาย หรือยุทธศาสตร์หลักๆ ยังคงอยู่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มั่นใจว่าจะไม่ถูกแทรกแซงจากอำนาจหรือการเมืองท้องถิ่นอย่างแน่นอน.


gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#2 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 18:52

"เรื่องที่ พล.ต.ท.วันชัย ถนัดกิจ รักษาการ ผบช.ภ.5 ออกคำสั่งให้ พล.ต.ต.กริช กิตติลือ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ช่วยราชการฯ ตามคำแนะนำของแม่ทัพภาคที่ 3 ก่อนมีการถอนคำสั่งในเวลาต่อมา"

 

 

 

ตกลงคอนเฟิร์มแล้วครับ คำสั่งออกมาแล้วว่าเด้ง

http://webboard.seri...-ตำรวจมะเขือเท/


gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#3 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

ตอบ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 18:56

เห็นผ่านๆ ตา ในกระทู้คุณ redfrog ว่าจะให้การแต่งตั้งผ่าน กตร โยกย้ายก็ผ่าน กตร แต่ที่ผมเห็น กตร ปี 54 ที่ไอ่เหลิมเป็นประธาน คัดสรรมาจากพวกแม้วทั้งนั้น เลยสงสัยว่า ใครแต่งตั้ง กตร 



#4 กีรเต้

กีรเต้

    เราเป็นอย่างไร เรารู้ตัวเอง

  • Validating
  • PipPipPipPipPip
  • 6,208 posts

ตอบ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 18:57

:huh:

อ่านหัวข้อ นึกว่าพี่น้องซอยวัชรพล

:lol: :lol:

 

ไปละ


ถึงสูงศักดิ์อัครฐานสักปานไหน.ถึงวิไลเลิศฟ้าสง่าศรี..ถึงเก่งกาจฉลาดกล้าปัญญาดี..ถ้าไม่มี "คุณธรรม" ก็ต่ำคน.... พระราชนิพนธ์ในล้นเกล้า รัชกาลที่ ๕ "   https://www.facebook...akwarakfromyala   https://www.facebook.com/NARAPEACE

 

 


#5 Abraxas

Abraxas

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,064 posts

ตอบ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 19:09

สำนักงานตำรวจมีกรมกองเยอะแยะไปหมด

น่าจะแยกไปเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปราม ตามสังกัดในกระทรวงต่างๆ

 

ตำรวจเศรษฐกิจ น่าจะไปอยู่กับการคลัง ไปเป็นจนท.ปราบปรามคดีเศรษกิจ ฯลฯ



#6 SKV24

SKV24

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 143 posts

ตอบ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 20:04

ผมหวังว่า คสช จะปฏิรูป ตำรวจ สำเร็จ...กู้ศักดิ์ศรีตำรวจกลับมา และทำให้องค์กรตำรวจ เป็นผู้พิทักสันติราษฎร์ที่แท้จริง...ภาพพจน์ตำรวจไทยในปัจจุปัน เป็นเสมือน มาเฟียในเครื่องแบบ ที่ทำหน้าที่ รับใช้ปกป้องนักการเมืองและผู้มีอิทธิพลเท่านั้น...และรีดไถประชาชน....ประชาชนส่วนใหญ่เอือมระอา...  



#7 ter162525

ter162525

    มหาอำมาตย์ใต้พระบาทตลอดกาล

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,077 posts

ตอบ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 20:39

ไปให้กำลังใจท่านหน่อยไหมล่ะ อิอิอิ


บรรพชนเป็นพยาน ข้าลูกหลานแผ่นดินท่าน ขอสาปส่ง มันผู้ใด ทรยศ คดโกงชาติ ขายแผ่นดิน ขอให้มันบรรลัย อย่าได้มีสุขในแผ่นดินนี้ เดินเหยียบไปในถิ่นใด ขอให้มันร้อนรนดังถูกเพลิงเผา มันผู้ใด คิดล้มล้างกษัตริย์ผู้ทรงทศพิธ ของให้มันผู้นั้นเกิดเป็นคนอนาถทุกชาติไป

#8 คนไทยคนหนึ่ง

คนไทยคนหนึ่ง

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,626 posts

ตอบ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 05:03

วสิษฐ เดชกุญชร (Vasit Dejkunjorn)  
 
ปฏิรูปตำรวจ : ปัญหาโลกแตก (1)
16 เมษายน 2014 เวลา 10:11 น.

 

ปฏิรูปตำรวจ :
ปัญหาโลกแตก (1)                                                                                  โดย
วสิษฐ เดชกุญชร

                อาชีพตำรวจเป็นอาชีพที่อาภัพที่สุดอาชีพหนึ่ง  คนที่ตะเกียกตะกายอยากเป็นตำรวจนั้น โดย
หลักการก็คือผู้ที่รักการผจญภัย
เต็มใจที่จะเสี่ยงชีวิตเสี่ยงอันตรายเพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของ
ผู้อื่นให้พ้นจากโจรภัย 
ตำรวจจึงควรเป็นผู้ที่ชาวบ้านรัก แต่เอาเข้าจริง ๆ
ตำรวจกลับเป็นผู้ที่คนส่วน มากเกลียดกลัว ไม่อยากเข้าใกล้ 
ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะตำรวจเป็นจำนวนไม่น้อยใช้ตำแหน่งหน้าที่ของตน หากินโดยมิชอบ
รีดไถบังคับเอาทรัพย์เอาประโยชน์แม้จากสุจริตชนที่ไม่มีความผิด

                ตำรวจถูกรังเกียจอยู่แล้ว
เมื่อเอาตำรวจไปใช้ในรูปของการบังคับ เช่นในการปราบจลาจลหรือ ควบคุมฝูงชน
อย่างที่รัฐบาลเคยทำมาแล้ว ประชาชนจึงยิ่งรังเกียจตำรวจมากขึ้น  รัฐบาลหลายชุด พยายามที่จะแก้ไขหรือปฏิรูปตำรวจ
แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ

                ในเดือนพฤศจิกายน
พ.ศ.2549 สมัยที่ พล.อ. สุรยุทธ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี  ผมได้รับ
แต่งตั้งให้เป็นประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบงานตำรวจ  คณะกรรมการชุดนั้นเป็นชุดใหญ่ มี จำนวนกรรมการถึง
28 คน 
มีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ทั้งในและนอกราชการร่วมเป็นกรรมการหลายคน
รวมทั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติด้วย  แบ่งออกเป็นคณะอนุกรรมการ
4-5 คณะตามลักษณะของงาน  ก่อนการประชุมมีการสำรวจและรับฟังความเห็นของประชาชนทั่วประเทศ  คณะกรรมการใช้เวลา ประชุมอยู่ประมาณหนึ่งปีก็ทำงานเสร็จ
โดยร่างเป็นกฎหมาย 2 ฉบับเสนอนายกรัฐมนตรี 
ฉบับหนึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติฉบับที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน  อีกฉบับหนึ่งเป็นร่างกฎหมายว่า ด้วยคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องทุกข์เกี่ยวกับตำรวจ  นายกรัฐมนตรีนำร่างกฎหมายทั้งสองฉบับ ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา
เมื่อคณะรัฐมนตรีเห็นชอบแล้วจึงส่งไปให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา
ก่อนที่จะเสนอรัฐสภา   

                ความพยายามของคณะกรรมการพัฒนาระบบงานตำรวจนั้น
พอเริ่มต้นก็ได้รับการคัดค้านเสีย แล้ว 
ผู้คัดค้านก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นตำรวจนั่นเอง การคัดค้านทำอย่างเป็นล่ำเป็นสัน
ในเดือนกรกฎาคม 2550
พันตำรวจเอกผู้เป็นตัวตั้งตัวตีในการคัดค้านทำหนังสือประท้วงถึงและขอเข้าพบนายกรัฐมนตรี  นายกรัฐมนตรียอมให้คณะผู้คัดค้านเข้าพบ
และยอมให้มีการแก้ไขในคณะกรรมการกฤษฎีกา 
ผู้บัญชา การตำรวจแห่งชาติจึงแต่งตั้งคณะทำงาน มี พล.ต.อ.สวัสดิ์
อมรวิวัฒน์ เป็นประธาน ยกร่างกฎหมาย เสนอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา แข่งกันกับร่างของคณะกรรมการพัฒนาระบบงานตำรวจ  ในที่สุดคณะกรรมการกฤษฎีกาจึงได้ร่างกฎหมายสุดท้าย
(อันเป็นผลของการยำใหญ่ร่างทั้งของคณะ กรรมการพัฒนาระบบงานตำรวจแห่งชาติและร่างของคณะผู้คัดค้าน)  ซึ่งรัฐบาลได้เสนอให้สภานิติ บัญญัติพิจารณาเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน
2550

                ในขณะเดียวกัน
ผู้คัดค้านยังทำการรณรงค์อย่างแข็งขัน ด้วยการวิ่งเต้นขอพบสมาชิกสภานิติ
บัญญัติแห่งชาติ เพื่อผลักดันให้ช่วยคัดค้านร่างกฎหมายตำรวจ
และเมื่อปรากฏว่าสภารับหลักการและ
ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นเพื่อพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนั้น
ผู้คัดค้านก็ยื่นคำร้องต่อศาลปกครอง กลาง ขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินและสั่งคุ้มครองชั่วคราว
แต่ศาลยกคำร้อง ด้วยเหตุผลว่าเป็นอำนาจของ
คณะรัฐมนตรีที่จะเสนอร่างให้สภาพิจารณาได้

 

                จะเป็นเพราะการคัดค้านอย่างสุดเหวี่ยงหรือไม่ก็ตาม
ประจวบกับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จะหมดอายุลง
และสภายุติไม่รับพิจารณาร่างกฎหมายต่อไปอีกในตอนปลายเดือนธันวาคม 2550
ความพยายามที่จะปฏิรูปตำรวจในสมัยของรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์
จึงจบลงเพียงเท่านั้น

                หลังจากนั้น
พันตำรวจเอกผู้เป็นตัวตั้งตัวตีในการคัดค้านการปฏิรูปตำรวจได้ออกหนังสือเวียน
ถึงตำรวจตั้งแต่ระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติลงไปจนถึงสารวัตรทั่วประเทศ  นอกจากจะ
ประณามคณะกรรมการพัฒนาระบบงานตำรวจด้วยถ้อยคำหยาบคายแล้ว
ผู้ออกหนังสือเวียนยังขอรับ บริจาคเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการ
“ล้มการปรับโครงสร้างตำรวจ” โดยอ้างว่าได้ออกเงินส่วนตัวไปแล้ว กว่าหนึ่งแสนบาท  มีผู้บริจาคเงินตามที่ขอหลายสิบราย รวมเป็นเงินหลายแสนบาท  ผู้บริจาคบางคนก็ คือผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
รองผู้บัญชาการ ตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจภาค (ในสมัยนั้น) หลายคน  บางคนเป็นกรรมการอยู่ในคณะกรรมการพัฒนาระบบงานตำรวจด้วย

                พอถึง
พ.ศ.2552 สมัยรัฐบาลที่มีคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี
คุณอภิสิทธิ์ก็แต่งตั้ง ผมให้เป็นประธานคณะกรรมการปฏิรูปงานตำรวจอีก  แต่คราวนี้รัฐบาลกำหนดอายุของตนเองไว้เพียง
หนึ่งปี ก่อนที่จะยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้งทั่วไป  คณะกรรมการจึงมิได้มีการเสนอการปฏิรูปใหม่ แต่
ได้หยิบยกเอาบางประเด็นของการปฏิรูปเดิมเสนอนายกรัฐมนตรีเป็นประเด็น ๆ ไป
และแทนที่จะนำเข้า สภาผู้แทนราษฎร
คุณอภิสิทธิ์ก็รับเอาข้อเสนอบางข้อที่ท่านเห็นชอบไปสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้
รับปฏิบัติ ในฐานะที่ท่านเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ  สมัยนั้นจึงมีการ “ปฏิรูป”
ตำรวจอยู่บ้างในบางด้าน

                ในเดือนกรกฎาคม
พ.ศ.2556 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งแต่งตั้งพันตำรวจ
เอกผู้เป็นตัวตั้งตัวตีในการคัดค้านการปฏิรูปตำรวจเมื่อปี 2550-2551
เป็นประจำสำนักเลขาธิการนายก รัฐมนตรี 
ถึงตอนนั้นผมจึงได้เข้าใจว่าการปฏิรูปตำรวจที่แล้วมาไม่สำเร็จเพราะใครและเพราะอะไร.

               

ที่มา : https://www.facebook...151955809951296


ประชาธิปไตย คือการที่ฟังเสียงส่วนน้อย แต่ทำเพื่อคนส่วนใหญ่ประชาธิปไตยต้องมีศีลธรรมเป็นรากฐาน ไม่อย่างนั้นจะเป็นประชาธิปไตยไม่ได้ เมื่อไม่มีศีลธรรมเป็นพื้นฐานแล้ว ระบบประชาธิปไตยนั่นแหละ จะเป็นระบบที่เลวร้ายที่สุด

#9 SKV24

SKV24

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 143 posts

ตอบ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 06:44

# 8

 

เห็นด้วยกับบทความใน กระทู้ที่ 8 ครับ ว่าการต่อต้านจาก ตำรวจต้องมีสูงแน่...ถ้าให้รัฐบาลพลเรือนทำก็ ไม่มีทางสำเร็จ...คนที่จะทำได้ ก็คงมีแต่ทหาร+มวลชนเท่านั้นเท่านั้น ที่จะต่อสู้กับตำรวจได้...เพราะตำรวจคงจะกลัวแต่ทหาร...แต่มวลชนจะเป็นตัวเร่งและเป็นผู้สร้างความชอบธรรมให้ทหารปฏิรูปตำรวจ...

 

การที่ตำรวจใส่เกียร์ว่างในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยปล่อยให้ มีประชาชนบาดเจ็บ 800 คน เสียชีวิต 28 คน โดยไม่ป้องปราม หรือจำกุมคนร้าย ปล่อยให้อาวุธสงครามแพร่ขยายไปทั่วประเทศ...บาปครับนี้ ตำรวจทุกคนต้องรับผิดชอบ รับผิดชอบโดยการร่วมมือปฏิรูปองค์กรตำรวจ ให้ทำหน้าที่ให้สมกับเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์...แต่ถ้ามีการขัดขืนการปฏิรูปรอบนี้ ประชาชนผู้ที่บาดเจ็บและญาติของผู้เสียชีวิต รวมถึงคนที่ไม่เห็นด้วยกับตำรวจ ก็คงต้องออกโรงมาต่อสู้กับตำรวจอีกรอบละครับ...



#10 ชายน้ำ

ชายน้ำ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,256 posts

ตอบ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 07:19

ผมเชื่อว่าร่างกม.ปรับปรุงสตช. หากตำรวจต่อต้านต้องเป็นร่างฯที่ดีต่อประเทศชาติแน่ๆ

 

พ.ต.อ.ที่ท่านพล.ต.อ.วสิษฐกล่าวถึง นามสกุล"สอดใส่"หรือเปล่าหนอ



#11 test

test

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 216 posts

ตอบ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 11:19

คนที่จะปฏิรูปตำรวจได้ดีที่สุด ก็ คือตำรวจที่ดีกับภาคประชาชน นี่แหล่ะ
ทหารเป็นเพียงช่วยกำจัดตำรวจเลวๆ ที่เห็นแก่ตัวเอง รับใช้นักการเมืองอย่างน่าเกลียดออกไป
เพราะงานตำรวจมันซับซ้อนมาก ยิ่งปัจจุบันโจร มันค่อนข้างไฮเทคมาก
สุดท้ายแล้วพอเหตุการณ์สงบ ผมว่า คสช คงมอบการปฏิรูปตำรวจให้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ไปดูแล

#12 kritz

kritz

    เกรียนบอร์ด

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,388 posts

ตอบ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 11:23

ปัญหาเรื่องปฏิรูปตำรวจมีคนช่วยเยอะแยะเต็มบ้านเต็มเมือง ไม่ใช่เรื่องอื่นไกลเลย แค่มี "ความกล้า" เป็นพอ

แต่นั่นก็ล่ะ คนจะทำ "กล้า" หรือเปล่า ...?!?!?!



#13 แม้ว ม.7

แม้ว ม.7

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,237 posts

ตอบ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 11:26

น่าจะตั้ง กรมตำรวจจับตำรวจ มีหน้าที่จับตำรวจคอรัปชั่นโดยตรง เป็นองค์กรอิสระขึ้นตรงกับศาลยุติธรรม ให้ศาลหาหัวหน้าให้องค์กร :mellow:

 

แล้ววัฒนธรรมซื้อขายตำแหน่งที่เริ่มจากยุคไอ้แม้ว เลิกได้ซะที ศักดิ์ศรีตำรวจมันละลายไปกับเงินซื้อขายตำแหน่งแล้ว

 

post-8119-0-80058600-1380944949.jpg


Edited by แม้ว ม.7, 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 11:28.

พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้พูดตัดพ้อกับคนที่เดินทางไปพบว่า “พรรคเพื่อไทยมีคนเก่งๆ เยอะ ทั้งนักวิชาการ ด็อกเตอร์ ทูต แต่ไม่กล้าออกมาสู้ คนหน้าตาดีไม่ออกมา พวกที่ออกมาหน้าตาไม่ค่อยดี ไม่เหมือนกับพรรคประชาธิปัตย์ ฝ่ายตรงข้าม คนมีความรู้ นักวิชาการออกมาเยอะแยะเลย คนจริงใจกับผมมันน้อย วางยาผม เพราะตัวเองอยากอยู่นานๆ เห็นว่านายกฯ ไม่แข็ง แต่ท่านนายกฯ ก็ดี แต่คนรอบข้างไม่เป็นการเมือง ผมส่งคนเป็นการเมืองไปนายกฯ ก็ไม่เอา ผมก็สงสารนายกฯ จึงไม่อยากจู้จี้ แต่คนที่เมืองไทยมันไม่ได้ดั่งใจ” 

http://astv.mobi/AlgEYM7

แปลสั้นๆ เขาด่าไอ้เสร่อแกนนำแดงว่า"โง่แต่ขยัน"


#14 RiDKuN_user

RiDKuN_user

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,167 posts

ตอบ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 11:33

ต้องรีบทำโดยด่วน ถ้าทำสำเร็จ ให้ตำรวจขึ้นกับท้องถิ่นได้ในที่สุด

ต่อไปก็ไม่มีทางที่จะทำย้อนกลับได้แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลกี่สิบล้านเสียงก็ตาม  -_-


" ชีวิตผมไม่เคยกลัวอะไรทั้งนั้น ผมกลัวอย่างเดียว...กลัวจะถูกมองว่า 'ขายชาติ' " - The Last Tycoon

~ ทักษิณตาย เสรีไทยไชโย ~




ผู้ใช้ 0 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 0 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน