http://www.thaipost....ws/280514/90922
"วัชรพล" อ้างปฏิรูปตำรวจตามข้อเรียกร้อง ปชช. ยึดโครงสร้างลดอำนาจ "ผบ.ตร." กระจายลงหน่วยปฏิบัติ เล็งแก้ กม.ตั้ง บช.เป็นนิติบุคคล ไม่ฟันธงขึ้นชั้นกระทรวง ปัดลอกพิมพ์เขียว กปปส. ขู่! ลูกน้องใครเกียร์ว่างโดนเด้งแน่ "รองโฆษก สตช." ย้ำยังใช้ชื่อเรียก "ตำรวจ" เหมือนเดิม
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) วันที่ 27 พ.ค. พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. กล่าวถึงการปฏิรูปตำรวจปรับสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นกระทรวงรักษาความปลอดภัยสาธารณะ และปรับกองบัญชาการเป็นกรมต่างๆ ว่า ข้อเรียกร้องของประชาชนในช่วงที่ผ่านมา นอกจากการปฏิรูปการเมือง การปกครอง ยังเรียกร้องการปฏิรูปตำรวจ อยากเห็นตำรวจกระจายอำนาจ จึงคิดทำอย่างไรถึงจะกระจายอำนาจตามข้อเรียกร้องของประชาชนได้ โดยให้หน่วยงานดูแลพื้นที่มีอำนาจบริหารจัดการได้เบ็ดเสร็จ ซึ่งหากเป็นนิติบุคคลได้จะสามารถตั้งงบประมาณได้ มีงบประมาณ คน เครื่องมือ และการบริหารจัดการเองได้ สามารถกำหนดตัวชี้วัดตามปัจจัยคุกคามในพื้นที่ได้เอง
พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า ปัจจุบันทุกอย่างรวมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่แนวคิดในอนาคตเมื่อกองบัญชาการ (บช.) ต่างๆ เป็นนิติบุคคล ส่วนบังคับบัญชาของ ตร.ที่เป็นส่วนอำนวยการใหญ่ มี ผบ.ตร.อยู่ จะเป็นเพียงหน่วยสนับสนุนประสานงาน คิดเรื่องยุทธศาสตร์ วางแผนการสนับสนุนงบประมาณในภาพรวม ผบ.ตร.จะถูกลดอำนาจเล็กลง จะไม่ใช้ ผบ.กองกำลัง จะเป็นการกระจายอำนาจให้หน่วยปฏิบัติมีอำนาจเบ็ดเสร็จ
"เป็นแนวทางที่คิดสอดคล้องกับการบริหารราชการแผ่นดิน ตามพระราชบัญญัติบริหารราชการแผ่นดิน หรือพระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับกระทรวง ทบวง กรม เป้าหมายคือกระจายอำนาจ ลดลง ไม่ได้ใหญ่โตขึ้น ผบ.ตร.ก็จะเล็กลง ส่วนจะเปลี่ยนชื่อหรือไม่ก็ต้องรอดู เมื่อเรามีแนวทางกระจายอำนาจหน่วยปฏิบัติต่างๆ ให้มีอิสระ ก็ต้องดูว่าจะเป็นรูปแบบใด โครงสร้างจะเป็นเหมือนกระทรวงหรือไม่ อาจไม่ใช่ก็ได้ เพียงแต่กฎหมายจะเขียนชัดว่าให้กองบัญชาการเป็นนิติบุคคล" พล.ต.อ.วัชรพลกล่าว
รักษาการ ผบ.ตร. กล่าวว่า กฎหมายเดิม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 เขียนไว้ในเรื่องกระจายอำนาจ แต่เขียนว่า ผู้บัญชาการ (ผบช.) เสมือนอธิบดี ผบ.ตร.เสมือนปลัดกระทรวง ทุกวันนี้การกระจายอำนาจจึงยังไม่ชัดเจน เพราะยังเสมือน ดังนั้นการแก้ไขกฎหมาย ปรับโครงสร้างครั้งนี้ จึงทำให้ถึงที่สุดกระจายอำนาจไม่รวมศูนย์อีกต่อไป
ถามว่า โครงสร้างใหม่จะเป็นเหมือนกระทรวงที่มีกรมต่างๆ ผบ.ตร.เป็นปลัดกระทรวงหรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า โครงสร้างเป็นไปได้หลายแบบ โดยมีโจทย์ว่าทำอย่างไรให้ บช.ต่างๆ เช่น นครบาล ภาค 1 มีอำนาจบริหารคนและงบประมาณได้เอง มีตัวชี้วัดของหน่วยเอง เพราะแต่ละหน่วยปัจจัยคุกคามต่างกัน มองว่าหากเป็นนิติบุคคลบริหารได้เอง ก็จะดูแลประชาชนได้ตรงกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่
ซักว่า แนวคิดการปฏิรูปตำรวจเหมือนที่ กปปส. พูดบนเวทีอาจถูกมองว่าเป็นการรับลูกทำเพื่อสนองแนวคิดหรือไม่นั้น รักษาการ ผบ.ตร.กล่าวว่า จะเป็นแนวคิดของใครก็ตาม ขอแค่สิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เช่นเดียวกัน เราอยากเห็นการเมืองการปกครองที่ดี มีคุณธรรม ทุกคนอาสาเข้ามาบริหารปกครองประเทศ ตำรวจก็ต้องเป็นตำรวจของประชาชน นี่ไม่ใช่ความคิดของใคร แต่เป็นความคิดของพี่น้องประชาชน
เมื่อถามว่า การปฏิรูปครั้งนี้จะแก้ปัญหาการเมืองล้วงลูกได้หรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า การเมืองการปกครองเป็นของคู่กัน นักการเมืองที่เป็นคนดี มีความพร้อมเสียสละเข้ามาเป็นนักการเมืองทำหน้าที่นิติบัญญัติ บริหาร ก็หวังว่าเข้ามาทำอย่างไรให้สังคมรุ่งเรือง ประชาชนมั่นคงกินดูอยู่ดีปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน ตำรวจทหารก็เป็นกลไกรัฐบาล การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นเป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการ อยากเห็น ไม่ได้ตอบโจทย์ใครเปลี่ยนเพื่อการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 เพื่อแข่งกับคนทั้งโลก
พล.ต.อ.วัชพลกล่าวถึงการโยกย้ายตำรวจจำนวนมากช่วงนี้ว่า เวลานี้ต้องการความสามัคคี ต้องช่วยกันทำงาน ปัญหาความแตกต่างแก้ไขได้ระดับหนึ่งแล้ว ใครทำหน้าที่เต็มที่ก็ยังสามารถปฏิบัติต่อได้ แต่หากละเลยต้องโยกย้ายสับเปลี่ยนไป
"เรื่องที่ พล.ต.ท.วันชัย ถนัดกิจ รักษาการ ผบช.ภ.5 ออกคำสั่งให้ พล.ต.ต.กริช กิตติลือ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ช่วยราชการฯ ตามคำแนะนำของแม่ทัพภาคที่ 3 ก่อนมีการถอนคำสั่งในเวลาต่อมา เพราะการได้ข้อมูลก็ต้องตรวจสอบ ห้วงนี้ข้อมูลข่าวสารมากมาย จึงจำเป็นต้องตรวจสอบเพื่อความเป็นธรรม หากไม่ชัดเจน ข้อมูลไม่ชัด ก็สร้างความหวั่นไหว ตอนนี้ให้ทำหน้าที่ไป วันนี้ พล.ต.ต.กริชยังทำหน้าที่ผู้การฯ เชียงใหม่อยู่ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ต้องแจ้งแม่ทัพภาคที่ 3 เชื่อว่าเข้าใจ" รักษาการ ผบ.ตร.กล่าว
พล.ต.ต.อนุชา รมยะนันทน์ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงเพิ่มเติมถึงแนวคิดการจัดปฏิรูปแนวตำรวจว่า ขอยืนยันผู้บังคับบัญชายังไม่มีแนวคิดเปลี่ยนชื่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือจัดตั้งเป็นกระทรวงรักษาความสงบเรียบร้อยภายในตามที่มีข่าวออกไปก่อนหน้านี้ โดยยังคงมีตำรวจคอยดูแลความปลอดภัยให้ประชาชน และใช้ชื่อ "ตำรวจ" ในการปฏิบัติราชการเหมือนเดิม
"มีความเป็นไปได้ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะสังกัดกระทรวง หรือ หน่วยงานอื่น ซึ่งเดิมสำนักงานตำรวจแห่งชาติเองก็เคยสังกัดกระทรวงมหาดไทยมาแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหรือเป็นไปไม่ได้" พล.ต.ต.อนุชากล่าว
รองโฆษก สตช.กล่าวว่า แนวคิดการปฏิรูปตำรวจ เป็นไปเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนที่อยากเห็นการกระจายอำนาจลงไปในพื้นที่ให้มากขึ้น การบังคับบัญชาสั่งการต่างๆ จะเป็นไปด้วยความรวดเร็วมากขึ้น แต่องค์กรตำรวจยังคงมีความเป็นเอกภาพเหมือนเดิม เพราะในระดับนโยบาย หรือยุทธศาสตร์หลักๆ ยังคงอยู่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มั่นใจว่าจะไม่ถูกแทรกแซงจากอำนาจหรือการเมืองท้องถิ่นอย่างแน่นอน.