288 replies to this topic

[ssa]

== ข้อความถูกระงับโดยผู้ดูแล == โกหกอีกแล้ว
ระยะสั้น...

ตอนหาเสียงไม่มีระยะสั้น

เจอแล้วครับ ระยะสั้นๆ




นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ว่า ที่ประชุม กบง.มีมติให้กู้เงินจากสถาบันการเงินในประเทศเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงวงเงิน 1 หมื่นล้านบาทภายในปีนี้ เพื่อชดเชยเม็ดเงินที่หายไปจากการลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของเบนซิน 91 และ 95 ซึ่งขณะนี้สถานะกองทุนน้ำมันฯ ติดลบอยู่กว่า 1,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม จากการที่ราคาน้ำมันตลาดโลกมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะขาลงอันเนื่องจากเศรษฐกิจยุโรป และสหรัฐชะลอตัว กบง.ก็เตรียมพิจารณาที่จะเก็บเงินจากเบนซิน 91เบนซิน 95 และดีเซลเข้ากองทุนน้ำมันฯ อีกครั้ง เพื่อไม่ให้ประชาชนใช้น้ำมันอย่างฟุ่มเฟือย ส่วนจะเริ่มเก็บเมื่อใดต้องขอหารือกับนายกรัฐมนตรีก่อน

“การกู้เงินครั้งนี้เป็นการกู้เงินในระยะสั้นๆ เนื่องจากราคาน้ำมันโลกมีแนวโน้มขาลง ซึ่งเดิม กพช. ได้อนุมัติกรอบวงเงินไว้ 2 หมื่นล้านบาท แต่จะกู้เพียง 1 หมื่นล้านบาท เพราะคิดว่าเงินกู้ก้อนนี้จะนำมาเสริมสภาพคล่องกองทุนน้ำมันฯ ในระยะสั้นเท่านั้น โดยจะเสนอให้คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ หรือ กพช. พิจารณาในการประชุมวันที่ 30 กันยายนนี้ เพื่อดำเนินการต่อไป” นายพิชัยกล่าว

กู้เงินระยะสั้นกับลดราคาน้ำมันระยะสั้นมันเรื่องเดียวกันหรือไง
และกู้เงินระยะสั้นพูดตอนหาเสียงหรือไง

สองเรื่องที่เป็นคนละเรื่องและคนละเวลามันเอามาบอกเป็นเรื่องเดียวกัน

== ข้อความถูกระงับโดยผู้ดูแล ==

Edited by คนกวาดขยะ, 4 April 2012 - 23:25.

[annykun]

พวกเสื้อแดงมักโจมตี ว่าราคานำ้มันโลกถูกแต่ทำไมนำ้มันในประเทศแพง ในตอนที่มาร์คเก็บเงินเข้ากองทุนนำ้มัน
แต่ราคานำ้มันที่พวกเขาเอามาอ้าง คือ ราคานำ้มันเบนซิน ที่ส่วนมากมักใช้ในรถยนต์ส่วนบุคคล ซึ่งมีผลน้อยมากกับอุตสาหกรรม
มีผลน้อยมากต่อระบบเศรษฐกิจ มีผลน้อยต่อราคาสิ้นค้าอุปโภคบริโภค และที่สำคัญไม่ได้ทำให้ราคานำ้มันที่ใช้กับเครื่องมือทางการเกษตร
แพงขึ้นแต่อย่างใด เพราะเครื่องมือเหล่านั้นส่วนใหญ่ใช้นำ้มันดีเซลไม่ใช่เบนซิน

ตามหลักการของกองทุนนำ้มันแล้ว มีจุดประสงค์เพื่อ เก็บภาษีนำ้มันเบนซินเพิ่มตอนราคานำ้มันโลกถูก เพื่ออุ้มนำ้มันดีเซลและแก็สที่สำคัญ
ต่ออุตสหกรรมและระบบเศรษฐกิจมากกว่า ตามหลักการนี้ ผมไม่เห็นว่ามาร์คจะทำผิดพลาดตรงไหน มันก็ถูกแล้วนิที่ผู้ใช้นำ้มันเบนซิน
จะต้องจ่ายแพงกว่าปรกติในช่วงนำ้มันถูก เพื่อหาเงินเข้ากองทุนนำ้มัน เวลานำ้มันแพงจะได้ใช้เงินกองทุนมา อุ้มไว้ไม่ใช้ราคานำ้มัน
แพงมากเกินไป จนกระทบระบบเศรษฐกิจและเกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชน

พรรคเพื่อไทย ไปบิดเบือน หลอกประชาชนรากหญ้าว่ามาร์คทำนำ้มันแพงเพื่ออุ้มนายทุน ทั้งๆที่นำ้มันที่พวกรากหญ้าใช้กันเป็นนำ้มันดีเซลที่แทบไม่ได้
รับผลกระทบเลย นำ้มันที่พวกเขาจำเป็นต้องใช้ก็ไม่ได้แพงขึ้น! แถมยังมั่วไปโยงอีกว่าข้าวของที่แพงเป็นเพราะมาร์คขึ้นราคานำ้มัน ทำให้เกิดเหตุการณ์
นำ้มันปาล์ม ข้าวยากหมากแพง บลาๆๆ ทั้งๆที่ตอนนั้น สาเหตุที่แท้จริงเป็นเพราะนำ้ท่วม ทำให้ขาดแคลนวัตถุดิบทางการเกษตรแท้ๆ

ตอนนี้เป็นไงล่ะ นำ้ท่วมหนักกว่าสมัยมาร์คทำให้ของแพงหนักกว่าเดิม ซ้ำร้ายราคานำ้มันโลกยังพุ่งสูง โดยไม่มีกองทุนนำ้มันช่วย นำ้มันเลยแพงมโหราณ
กระทบอุตสาหกรรม ราคาข้าวของก็แพงขึ้นบวกเข้าไปอีก ยังไม่จบนะ ค่าแรง 300+ ปริญญาตรี 15000 จะกระหน่ำซำ้เติมจนข้าวของยังจะแพงขึ้นได้อีกเยอะ

จะเอาอยู่มั้ย?

Edited by annykun, 15 March 2012 - 15:02.

[Morgan]

Hentaiใช้วิชากระบือศาสตร์อีกแล้ว
ตอบแบบกระบือถูๆไถๆตลอดเลยนะเอ็ง

[นิจนิรันดร์]

วันนี้ (15/3/55) ก็มีข่าวว่า
กบง.รีดเงินคืนกองทุนตามคาด เบนซิน-แก๊สโซฮอล์ขึ้นพรวด1บาท

กบง.อนุมัติเก็บ เงินน้ำมัน เบนซินเข้ากองทุนน้ำมันเบนซิน91-95 เพิ่มอีกลิตรละ 1 บาท ไม่รวมแก๊สโซฮอล์ อี 20 อี 85 มีผลหลังเที่ยงคืนวันนี้
นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติให้เก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อ เพลิง สำหรับน้ำมันเบนซิน 91 และน้ำมันเบนซิน 95 และ เพิ่มอีกลิตรละ 1 บาท มีผลหลังเที่ยงคืนวันนี้ ทั้งนี้ ไม่รวมแก๊สโซฮอล์อี 20 และอี 85 และนำมันดีเซล
ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำ มันเบนซิน 91 เบนซิน และเบนซิน 95 เพิ่มขึ้นอีกลิตรละ 1 บาท หลังเที่ยงคืนวันนี้
การเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันครั้งนี้ทำให้กองทุนน้ำมันมีรายได้เพิ่ม 9 ล้านบาทต่อวัน จากปัจจับันที่กองทุนมีฐานะ ติดลบอยู่ 21,137 ล้านบาท

http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/business/business/20120315/441859/%E0%B8%94%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%99!%E0%B8%81%E0%B8%9A%E0%B8%87.%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B8%8B%E0%B8%B4%E0%B8%9991-95%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A11%E0%B8%9A.-%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99.html

ขึ้นอีกแล้ว
อำมาตย์ว่าไง

[เพื่อนร่วมชาติ]

อืม ช่วงน้ำมันไม่แพง มันหยุดเก็บเงินเข้ากองทุน

พอช่วงน้ำมันแพง มันเก็บเพิ่ม ให้แพงหนักขึ้นไปอีก

[aumstar]

กราฟราคา

[DarkSwan]

วันนี้ (15/3/55) ก็มีข่าวว่า
กบง.รีดเงินคืนกองทุนตามคาด เบนซิน-แก๊สโซฮอล์ขึ้นพรวด1บาท

กบง.อนุมัติเก็บ เงินน้ำมัน เบนซินเข้ากองทุนน้ำมันเบนซิน91-95 เพิ่มอีกลิตรละ 1 บาท ไม่รวมแก๊สโซฮอล์ อี 20 อี 85 มีผลหลังเที่ยงคืนวันนี้
นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติให้เก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อ เพลิง สำหรับน้ำมันเบนซิน 91 และน้ำมันเบนซิน 95 และ เพิ่มอีกลิตรละ 1 บาท มีผลหลังเที่ยงคืนวันนี้ ทั้งนี้ ไม่รวมแก๊สโซฮอล์อี 20 และอี 85 และนำมันดีเซล
ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำ มันเบนซิน 91 เบนซิน และเบนซิน 95 เพิ่มขึ้นอีกลิตรละ 1 บาท หลังเที่ยงคืนวันนี้
การเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันครั้งนี้ทำให้กองทุนน้ำมันมีรายได้เพิ่ม 9 ล้านบาทต่อวัน จากปัจจับันที่กองทุนมีฐานะ ติดลบอยู่ 21,137 ล้านบาท

http://www.bangkokbi...1%E0%B8%99.html

ขึ้นอีกแล้ว
อำมาตย์ว่าไง

อำมาตย์ยังสบายดีครับ

[Eyey]

อ้างมา

เช่น การอุ้มราคาน้ำมันดีเซลไว้ที่ลิตรละ 30 บาท ที่ นายกฯอภิ-สิทธิ์ อ้างว่าเพื่อตรึงการขึ้นค่าขนส่งและราคาสินค้า โดยใช้เงินกองทุนน้ำมัน 30,000 กว่าล้านบาท ถ้าไม่พอจะลดภาษีสรรพสามิตอีก ซึ่งเป็นการบริหารจัดการที่ไม่ถูกต้อง และไม่เป็นธรรม เพราะเอาเงินกองทุนของผู้ใช้น้ำมันเบนซินไปอุ้มผู้ใช้น้ำมันดีเซล

คำถามก็คือ เมื่อเงินกองทุนน้ำมันถูกใช้จนหมด ลดภาษีสรรพสามิตแล้วก็ยังตรึงไม่อยู่ เพราะราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกขึ้นไปเรื่อยๆ ถึงเวลานั้น คนไทยอาจต้องจ่ายค่าน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ลองนึกดูสภาพบ้านเมืองเวลานั้นจะเป็นอย่างไร มันเดือดร้อนยิ่งกว่าการค่อยๆรับภาระที่ไม่รู้กี่เท่า

แต่ นักการเมืองมาแล้วก็ไป ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร


http://webcache.goog...h&ct=clnk&gl=th



ตอนนี้ท่านก็ไปแล้ว และก็ไม่ได้รับผิดชอบอะไรตามเคย....

รับผิดชอบอะไรหรือครับ...
ก็สิ่งที่ท่านหลอกคนไทยทั้งชาติให้คิดว่า ค่าพลังงานนั้นไม่แพง ไงครับ...

ก็ตอนนี้ไงคะ เงินกองทุนติดลบ สภาพบ้านเมืองเป้นไงคะ ราคาข้าวแกงไปเท่าไหร่แล้ว

ทำไมถึงไม่คิดว่าการที่มีกองทุนมันช่วยให้ราคาไม่เหวี่ยงมาก แต่ถ้าราคาน้ำมันมันพุ่งจริงๆ (เช่นเกิดสงครามอีก) มันก็ต้องขึ้นค่ะ แต่การที่มีกองทุน มันจะค่อยๆปรับขึ้นค่ะ ไม่ใช่ขึ้นแบบนี้

ใครเหรอคะที่หลอกว่าพลังงานไทยไม่แพง? บอกชื่อมันมาเลยค่ะ คนไทยเติมน้ำมันโดยรู้สึกว่าแพงทั้งนั้นค่ะ แต่อย่างน้อยตอนสมัยอภิสิทธิ์ มันก็ไม่ได้รู้สึกว่าเดี๋ยวก็ขึ้นๆ แบบอตอนนี้ รัฐก็บอกอยู่ว่าที่เบนซินเนี่ยไม่เกิน 30 นะ เพราะว่ามีการอุ้มบลาๆๆๆ เค้าไม่ได้บอกว่า ใช้ไปเลยพี่น้องรัฐจ่ายให้ซะหน่อย (30 ก็ยังแพงนะ)

การที่เอาภาษีคนรวยไปอุ้มคนจนมันก็ถูกนี่คะ ไม่งั้นทำไมคนเงินเดือนสูงๆต้องเสียภาษีฐานสูง ทำไมคนใช้ของฟุ่มเฟือยต้องจ่ายภาษีสรรพสามิต

ใช่พรรคเพื่อไทยหรือเปล่าคะ ที่หลอกประชาชนว่ากองทุนน้ำมันไม่ดี ถ้ายกเลิกแล้วน้ำมันจะถูกลง ที่หลอกประชาชนว่าเอาภาษีเบนซินไปอุ้มดีเซลไม่ดี (ทั้งๆที่เวลาของมันขึ้นราคา มันเลือกขึ้นแต่คนรวยหรือเปล่าคะ จะเงินเดือนเท่าไหร่ถ้าซ้อข้าวแกงร้านเดียวกัน สั่งเหมือนกันก็จ่ายเท่ากัน) และที่บอกว่าระยะสั้น (บอกตอนไหนวะ)

ใช่เฮนไตหรือเปล่าคะ ที่หลอกตัวเองอยุ่ว่ารัฐบาลปูทำถูกแล้ว มาถูกทางแล้ว

[วรวรรธก์ สุขใส]

อันนี้ผมเดานะล้วนๆ แบบไม่มีข้อมูล น่าจะเป็นเพราะใช้แนวทางแตกต่างกันรึเปล่าครับ รัฐใช้แนวทางการอัดพลังงานทดแทนเข้าสู่ระบบ เหมือนว่าช่วงนั้นราคายางพารา(ถูกใช้ทดแทนบางส่วนของผลิตภัณฑ์ซึ่งได้จากปิโตเลียม ซึ่งยังถูกควบคุมโดยรัฐอยู่) น้ำมันปาล์มถูกน้ำมาทำ ไบโอดีเซลมากขึ้น ทำให้ผลผลิตที่มีอยู่อย่างคงที่มีราคาค่อยๆ สูงขึ้นเพราะเป็นที่ต้องการของตลาด อีกทั้งราคาของปิโตเลียมค่อนข้างสูงทำให้ ทั้งในสองยุคทำให้มีโอกาสที่จะปั่นราคาได้ อภิสิทธ์ก็บิดเบือนราคาตลาดเมื่อกันนะผมว่า ถ้ามีเรื่องอะไรที่ทำให้ราคาของสินค้า(ยางพาราพุ่งจาก120 เป็น 200 บาทต่อกิโลกรัม คนภาคอื่นๆ ไม่มีน้ำมันที่ใช้ทำอาหาร) สูงขึ้นได้อย่างรวดเร็วถ้าไม่ใช่โกงอย่างหนัก(เรียกเก็บกำไรเกินควร) กักตุนสินค้า(ทำให้เกิดความรู้สึกขาดแคลน) กำหนดราคาปลอม(ตั้งไว้ล่วงหน้าเพื่อคนจะได้ตุน) ก็คงเป็นต้องใช้มันอย่างมากจนขาดตลาด

[kritja]

http://www.eppo.go.t...rice/index.html
ตามลิงค์ครับ

[overtherainbow]

อืม ช่วงน้ำมันไม่แพง มันหยุดเก็บเงินเข้ากองทุน

พอช่วงน้ำมันแพง มันเก็บเพิ่ม ให้แพงหนักขึ้นไปอีก

เหมือนเขื่อนเลย
ตอนที่ตื่นตกใจว่าน้ำจะท่วม ก็ปล่อยน้ำออกมา ลืมไปว่ามีคิวแล้งหนักหนาก่อนจะท่วม

และก็เหมือนการสั่งให้เปิดประตูระบายน้ำ ช่วงน้ำทะเลสูง จะโชว์ว่ากทม ไม่รู้จักเปิดระบายน้ำออกไป ผลคือน้ำทะเลก็เข้ามาแทนที่จะออกไป

ไม่รู้กรรมของใคร

[zigaratte]

บริหารห่วยของจริงต้องพ่อมรึงโว้ยไอ้ เห็นจิ๋ม บริหารจนติดลบเป็นหมื่นเป็นแสนล้าน ต้องมาตามใช้หนี้กันจนถึง รบ.คมช. มายุค อภส.นั่นแหละถึงจะค่อยมีเงินมากพอให้ประคองราคาน้ำมัน

แต่ต้องแลกกับการที่***หางแดงบ่นอีกว่า น้ำมันโลกถูกทำไมราคาน้ำมันไม่ลดลงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง 555%+

[noslipme]

ยังไม่พอหรอก ถ้าตามข่าวที่ค่อยๆตอดออกมาเรื่อยๆจะรู้ว่าแค่นี้ยังไม่ใช่เป้าที่จะต้องเพิ่มในราคาน้ำมัน
กองทุนยังต้องเพิ่ม ภาษีสรรพมิตยังรอเพิ่มจ่อแถวต่อไปอีก ต่อให้เกิดปาฏิหารย์พรุ่งนี้ราคาน้ำมันตลาดโลกลดฮวบฮาบ
ราคาน้ำมันในประเทศก็จะยังไม่มีทางลงไปได้ง่ายๆ อ่อ ยังไม่ได้บวกเป้าหมายกำไรที่ ปตท ประกาศไว้อีกนะ

[DeeJai20]

กระทู้แทงใจแดงมากกกกกกก
แดง สรท แก้ข่าวหน่อย
ห้ามอ้างอำมาตย์แกล้ง

[ตามงคล]

http://webboard.seri...ใครคนหนึ่ง-ซึ่/

[พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน]

คนกลางที่แดงแจ๋ที่สุดและวิศวกรจอมขมิบทำให้เราได้เห็นความจริงว่า

คนชอบโกหก มักเลือก พรรคที่ชอบโกหก

[peoplepolitics]

คุณ"ดราม่า" ดูข้อมูลผิด ราคาน้ำมันที่ปรากฏ 110 ที่ เมษา เป็นราคาส่งมอบล่วงหน้า หากจะรู้ราคาจริง ต้องไปดูเดือนพฤษภา ซึ่งวันที่ 5-6 พฤษภา ก็คือราคาของน้ำมััน 110 ที่คุณเอามา และ110 มันราคาเฉลี่ยทั้งเดือน คุณไม่ควรเอาราคาน้ำมันของสหรัฐมาเทียบ เพราะของไทยใช้ราคาน้ำมันดิบดูไบ และราคาหน้าปั้มของไทยจะอ้างอิง ราคาตลาดสิงคโปร์ ไม่ว่าเบนซินหรือดีเซล หากจะเปรียบเทียบกันจริงๆ ลองเอาน้ำมันวันที่ 14 มี.ค. 12 ไปเทียบกับ 6 พ.ค. 11 แล้วจะรู้ว่าราคาจริงมันเท่าไหร่ http://www.eppo.go.t...rice/index.html เอาเว็บนี้ไปดูด้วย http://www.iwebgas.com/oil/oil.html และที่ราคา 105 วันนี้ มันเป็นราคาส่งมอบเดือนหน้า หากอยากรู้ราคาเดือนมีนาฯ ต้องไปดูราคาเดือนก่อนถึงจะถูก หรือจะดูให้ชัดมากที่สุดคือ เอาราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน เมษา 2011 ของสิงคโปร์ มาเทีียบกับ ราคาส่ิงมอบเดือนมีนา ของปี 2012 นี้

Edited by peoplepolitics, 17 March 2012 - 03:12.

[Shart]

เพราะแดงโง่

[serithai11]

โดนปล้นกลางแดด

ตามนั้นครับ บริษัทน้ำมัน มันยังฟาดกำไรกันไม่พอ

[wewe]

ทู้ฝังควาย

[55555]

มันจะไม่แพงได้ไง.....

ก็เครื่องมือที่มีอยู่ ไม่ว่า จะเป็น กองทุนน้ำมัน....ภาษีสรรพสามิต....เอาไปใช้แก้แหแบบลิง จนเกลี้ยง...เพราะความขี้คุยไม่ลืมหูลืมตา

แบบว่า ขอให้ได้คะแนนไว้ก่อน เศรษฐกิจชิบหายค่อยว่ากัน....แบบนี้แหละที่แมงสาป ทำไม่เป็น...

น้ำมันไม่มีความแน่นอนเรื่องราคา อยู่แล้ว.....ถ้าไม่มีเครื่องมือดังกล่าว...จะเอาอะไรไปรักษาเสถียรภาพ

เค้าพูดกันจนปากจะฉีกถึงหูก่อนมันจะยกเลิกกองทุน ลดภาษีสรรพสามิต..

เค้าเตือนกันแล้ว...เวลามันลดราคาน้ำมัน....สินค้าอุปโภค บริโภค ก็ไม่ได้ลดตาม

แต่พอเวลาที่ราคาน้ำคุมไม่อยู่.....สินค้า บริการต่าง ๆ เดินเรียงแถวขี้นราคา..

นโยบายแบบนี้ มีเหตุผลให้คิดได้ 2 อย่าง....ไม่โง่เป็นควาย ก็คิดชั่วให้ประเทศชาติล่มจม

ใครช่วยเอาไมค์ไปจ่อปากไอ้ 2 สูงที

..

Edited by 55555, 17 March 2012 - 08:25.

[SUPER@]

อ่านความเห็นแต่ละท่านผมแทบอยากจะลาออกจากบริษัทฯเลย(แต่กลัวครอบครัวอดตาย)
รู้สึกว่าตนเองมีส่วนร่วมในการทำร้ายประเทศ...จิตตกเลยผม

แต่สาบานเลยว่าครั้งแรกที่เข้ามาทำงานภูใจมาก ภูมิใจในแง่ที่เป็นคนหนึ่งที่ช่วยค้นหาพลังงานเพื่อชาติ
แต่ตอนนี้ความรู้สึกมันตรงกันข้ามเลย

[evomans136]

ดูให้ดีดีครับว่ายุคใครน้ำมันดิบในตลาดโลกแพงกว่ากันจะบอกยุคอภิสิทธิ์ผมไม่เถียงแล้วทำไมน้ำมันรัฐบาลปูแพงกว่าผมให้เวลาคิดครับ






สังเกตุให้ดีนะครับยุคมาร์คแรกๆน้ำมันถูกมากครับเขาเลยเก็บเงินเข้ากองทุนได้และขายน้ำมันไดในราคาถูกแต่มาตอนหลังๆยุคมาร์คน้ำมันเริ่มแพงครับ

แล้วบอกว่ามาร์คไม่อุ้มน้ำมันไม่จริงเลยครับมาร์คใช้เงินจากกองทุนอุ้มน้ำมันดีเซลจนเงินจะหมดกองทุนครับ

มารัฐบาลปูกองทุนน้ำมันแทบหมดครับไปหาข้อมูลไดแล้วน้ำมันราคาไม่ลดเลยครับมีช่วงแรกๆที่มัน ประมาณ 85

ช่วงนั้นจำได้น้ำมันราคาถูกครับคนเห่ไปเติมจนมันขึ้นมาอีก เป็น 97 - 100 ในเวลาอันสั้น + เงินกองทุนน้ำมันแทบไม่เหลืออยู่แล้วครับมันจึงส่งผลทุกวันครับ





มองให้กว้างๆหน่อยครับก่อจะวิจารณ์

[evomans136]

เอามาให้อ่านเล่นๆแก้เครียดครับ


อื้อฉาว !! รัฐบาลเด็ก "มาร์ค" ... 4 เดือน ถลุงเงินกองทุนน้ำมัน 2.8 หมื่นล้านเกลี้ยง
อื้อฉาวและมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางกับการใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของรัฐบาลของ "นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน เนื่องจากเงินที่สะสมไว้ 28,000 ล้านบาทตั้งแต่สมัยนายปิยสัวส์ดิ์ อัมระนันท์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานในยุครัฐบาลคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ( คมช.) เพื่อใช้ในการดูแลกลไกราคาพลังงานถูกใช้เกลี้ยงในพริบตาเพียงระยะเวลา 4 เดือนเท่านั้น
ผลงานรัฐบาลชุดนี้โดดเด่นที่การจ่ายเงิน แต่ไม่ชำนาญด้านการหาเงิน ส่งผลให้กองทุนน้ำมันฯ ในวันนี้เหลือเงินสดอยู่เพียง 4,000 ล้านบาท ซึ่งยังไม่ได้หักรวมหนี้ต่าง ๆ ที่เจ้าหนี้รอแบมือทวงเงินอยู่กว่า 4,000 ล้านบาทต่อเดือน และต้องใช้พยุงราคาน้ำมันดีเซล 1,671 ล้านบาทต่อเดือน เท่ากับวันนี้ความเป็นจริงของกองทุนน้ำมันฯมีสภาพติดลบไปแล้วกว่า 1,600 ล้านบาทต่อเดือน แต่ที่รัฐบาลพยายามประกาศว่ายังมีเงินเหลืออยู่เพื่อพยุงราคาดีเซลจนถึงรัฐบาลชุดหน้านั้น ก็เกิดจากการเบี้ยวจ่ายเงินเจ้าหนี้นั่นเอง
และเจ้าหนี้รายใหญ่คือ บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน)นั่นเอง ที่ตามทวงหนี้ 2 ก้อนใหญ่ๆ จากกองทุนน้ำมันฯ คือ หนี้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว(แอลพีจี) 2,900 ล้านบาทต่อเดือน และก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์(เอ็นจีวี) 300- 400 ล้านบาทต่อเดือน ยังไม่นับรวมที่กองทุนน้ำมันฯต้องตามชดเชยราคาพลังงานทดแทนอื่นๆ อีก
เนื่องด้วยกระทรวงพลังงานเห็นว่า ปตท. เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่ต้องปฏิบัติตามนโยบายรัฐ ดังนั้นรัฐบาลจึงเห็นว่าสามารถถ่วงเวลาจ่ายหนี้ไปก่อนได้ และภาระหนักก็ตกกับ ปตท.ที่ขณะนี้แบกรับภาระการชดเชยแอลพีจีไปแล้วเกือบ 10,000 ล้านบาท และเอ็นจีวีอีกเกือบ 20,000 ล้านบาท สำหรับเงินกองทุนน้ำมันฯที่หมดไปกับมาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตรต่อลิตรของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์นั้น เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2553 จนถึงวันนี้ใช้เงินพยุงราคาดีเซลไปแล้วทั้งสิ้น 23,301 ล้านบาท
ทั้งนี้ กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงตั้งขึ้นช่วงปี 2523 - 2524 เพื่อใช้เป็นเครื่องมือชั่วคราวในการทยอยปรับเปลี่ยนราคาน้ำมันให้เป็นไปตามสภาพเศรษฐกิจในขณะนั้น โดยใช้วิธีดังนี้คือ เมื่อราคาน้ำมันแพง ก็เอาเงินกองทุนฯไปพยุงราคาไว้ไม่ให้ขึ้นราคาอย่างรวดเร็ว แต่จะค่อยๆ ทยอยขึ้นราคาน้ำมันทีละนิดเพื่อให้ประชาชนได้ปรับตัว แต่เมื่อราคาน้ำมันถูกลง ประชาชนยังคงต้องใช้น้ำมันราคาสูงไปสักระยะเพื่อเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯก่อน
ต่อมาเกิดวิกฤติราคาน้ำมันโลกครั้งที่ 1 ระหว่างปี 2522 - 2529 ราคาน้ำมันพุ่งจาก 7 บาทต่อลิตร เป็น 13.45 บาทต่อลิตร ต่อมาประเทศไทยพบก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยปี 2524 และไทยเริ่มผลิตแอลพีจีได้เป็นครั้งแรก มีการส่งเสริมใช้แอลพีจีในรถยนต์ โดยรัฐบาลอนุมัติให้ขึ้นราคาน้ำมันเบนซินสูงสุดตามตลาดโลกสมัยนั้น 13.45 บาทต่อลิตร แต่ตรึงราคาแอลพีจี 6 บาทต่อลิตร เมื่อมีทางเลือกในการใช้พลังงานแล้วรัฐบาลต่อมาจึงประกาศลอยตัวราคาน้ำมันในปี 2532
ผลจากการลอยตัวทำให้ไม่ต้องใช้กลไกกองทุนน้ำมันฯ จนเมื่อราคาน้ำมันกลับมาสูงอีกครั้งสมัยนายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี พ.ศ. 2533-2534 ประชาชนแห่มาใช้แอลพีจีอย่างหนัก และรัฐบาลต้องแบกรับภาระชดเชยแอลพีจีเป็นครั้งแรก ดังนั้นเมื่อประกาศลอยตัวราคาน้ำมันไปแล้วทำให้ไม่สามารถเรียกเก็บเงินจากผู้ใช้น้ำมันเข้ากองทุนฯได้ ขณะที่ต้องมีภาระชดเชยแอลพีจี ส่งผลให้กองทุนน้ำมันฯติดลบเป็นครั้งแรก 10,000 ล้านบาท และต้องกู้เงินจากธนาคารมาชำระหนี้แอลพีจี
ต่อมายุค พล.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีปี 2540 ได้จัดการเคลียร์ปัญหากองทุนน้ำมันฯจนกลับมาเป็นบวก ด้วยการขึ้นราคาแอลพีจี 3 บาทต่อกิโลกรัม และไม่แทรกแซงราคาน้ำมัน แต่แล้วก็เกิดวิกฤติราคาน้ำมันโลกอีกครั้งสมัยรัฐบาลทักษิณ2 ในปี 2548 - 2549 มีการนำเงินไปพยุงราคาดีเซลจนกองทุนติดลบเป็นครั้งที่ 2 ถึง 90,000 ล้านาท จนสมัยนายปิยสวัสดิ์ มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานในยุครัฐบาล คมช. แก้ไขปัญหาจนกองทุนน้ำมันเป็นบวกกว่า 30,000 ล้านบาท
และแล้วก็มาสู่ยุคนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีคนล่าสุด ที่ทำให้ตัวเลขทางบัญชีกองทุนน้ำมันฯกลับกลายเป็นลบ นับเป็นครั้งที่ 3 ตั้งแต่จัดตั้งกองทุนน้ำมันฯขึ้นมา ปัญหาที่ถมทับกองทุนน้ำมันฯในขณะนี้คือ การพยุงราคาแอลพีจีมานานและรัฐบาลไม่กล้าขยับขึ้นราคาแอลพีจีในประเทศ โดยยังตรึงไว้ 330 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน ขณะที่ราคาตลาดโลกพุ่งไป 930 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน ที่ผ่านมามีการพยายามจะปรับขึ้นราคาแอลพีจีเป็นระบบขั้นบันได หรือทยอยปรับขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้เริ่มรับรู้ราคาพลังงานจริงที่เกิดขึ้น แต่หลายรัฐบาลไม่กล้า เนื่องจากหวั่นปัญหาคะแนนเสียงทางการเมือง
จนปัญหาด้านราคาเอ็นจีวีมาซ้ำเติม เพราะรัฐบาลตรึงราคาอีกเช่นกันที่ 8.50 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ราคาจริงขึ้นไป 13 - 14 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้ภาระเพิ่มพูน และบวกภาระการชดเชยราคาดีเซลเข้าไปอีก ท้ายที่สุดกองทุนน้ำมันฯหนีไม่พ้นกลับมาเป็นหนี้ต้องกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินมาใช้หนี้ค้างชำระต่างๆ อีกครั้ง
รัฐบาลยุคนายอภิสิทธิ์ โชคร้ายตรงที่ราคาพลังงานมาปรับสูงขึ้นเกือบทุกอย่าง แต่แล้วก็ไม่มีวิธีการแก้ปัญหาใดๆ ออกมา มีเพียงแต่พยุงราคาเพียงอย่างเดียว จนประชาชนผู้ใช้น้ำมันดีเซลยังไม่ตระหนักรับรู้ว่า ราคาน้ำมันโลกสูงต้องร่วมมือกันประหยัดแล้ว แต่ผู้ใช้น้ำมันเบนซินคงทราบดี เนื่องจากเงินทุกบาทที่จ่ายไปกับการซื้อน้ำมันเบนซินต้องจ่ายเพิ่มไปยังกองทุนน้ำมันฯด้วย และกองทุนน้ำมันฯก็นำไปพยุงราคาให้กับผู้ใช้ดีเซล เอ็นจีวี แอลพีจี เท่ากับวันนี้ผู้ใช้น้ำมันเบนซิน เป็นผู้เสียสละอย่างจำใจ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ดีเซล เอ็นจีวี และแอลพีจี ได้มีพลังงานใช้ราคาถูกกันต่อไป ในการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) ที่มี น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ยังคงยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้มีเงินสดพอที่จะพยุงราคาน้ำมันดีเซลต่อไปจนยุบสภาและรอรัฐบาลชุดหน้ามาบริหารจัดการภาระหนี้กองทุนน้ำมันฯ แทน
เป็นอันว่า รัฐบาลชุดนี้ใช้เงินหมดแล้ว ใครมาเป็นรัฐบาลชุดหน้าก็แก้ปัญหาไปก็แล้วกัน..... ก็ได้แต่หวังว่ารัฐบาลชุดหน้าจะมีกึ๋นในการบริหารจัดการพลังงานของประเทศได้ดีกว่าทุกวันนี้

http://www.matubhum.or.th/main/content.php?page=sub&category=11&id=2467

[Charlie]

สมมุติ ในเมื่อรู้ว่ากองทุนจะหมดแล้วยกเลิกทามไม แล้วก็เก็บเข้าก่อนทุนอีกที บ้ารึป่าว ดูไม่เป็นเหตุเป็นผลกันเลย
ผมว่าการบริหารความสมดุลของระบบมันเป็นหน้าที่อยู่แล้วนะ แล้วที่แพงอยู่ตอนนี้มันเป็นหน้าที่ใครต้องรับผิดชอบ รัฐบาลเก่าหรอ
ใช้ งบประมาณยังไม่ถูกจุดเลย ทำแต่เรื่องที่ไม่เกิดประโยชน์อย่างจริงจังเลยบ จำได้ว่าตอนเพิ่งจะเข้ามาใหม่ แม่งก็จะเอาเงินคลงคลังไปถลุงแล้ว
แล้วก็อภิมหาโครตกู้อีก เห็นแล้วเหนื่อยใจ แล้วเท่าที่รู้รัฐบาลก่อนก็เหลือเงินไว้ให้เยอะนะ แต่รัฐบาลนี้มันรู้จักแต่ใช้ไม่รู้จักหาเลย

[ดราม่า]

ดูให้ดีดีครับว่ายุคใครน้ำมันดิบในตลาดโลกแพงกว่ากันจะบอกยุคอภิสิทธิ์ผมไม่เถียงแล้วทำไมน้ำมันรัฐบาลปูแพงกว่าผมให้เวลาคิดครับ






สังเกตุให้ดีนะครับยุคมาร์คแรกๆน้ำมันถูกมากครับเขาเลยเก็บเงินเข้ากองทุนได้และขายน้ำมันไดในราคาถูกแต่มาตอนหลังๆยุคมาร์คน้ำมันเริ่มแพงครับ

แล้วบอกว่ามาร์คไม่อุ้มน้ำมันไม่จริงเลยครับมาร์คใช้เงินจากกองทุนอุ้มน้ำมันดีเซลจนเงินจะหมดกองทุนครับ

มารัฐบาลปูกองทุนน้ำมันแทบหมดครับไปหาข้อมูลไดแล้วน้ำมันราคาไม่ลดเลยครับมีช่วงแรกๆที่มัน ประมาณ 85

ช่วงนั้นจำได้น้ำมันราคาถูกครับคนเห่ไปเติมจนมันขึ้นมาอีก เป็น 97 - 100 ในเวลาอันสั้น + เงินกองทุนน้ำมันแทบไม่เหลืออยู่แล้วครับมันจึงส่งผลทุกวันครับ





มองให้กว้างๆหน่อยครับก่อจะวิจารณ์

คุณกล้ามั๊ยครับ ถ้าข้อมูลมีว่ารัฐบาลมาร์กเหลือ กองทุนน้ำมันให้ปูจำนวนมาก คุณจะเลิกเป็นเสื้อแดงแล้วหันมาด่าทักษิณ

[evomans136]

รัฐบาลปูเข้ามากองทุนก็แทบไม่เหลือแล้วครับเพราะรัฐบาลมาร์คทะลุงเกือบหมดโดยไปอุ้มครับย้ำว่าไปอุ้ม

มารัฐบาลปูน้ำมันก็ไม่ได้ถูกครับเฉลี่ย 85 เมื่อเปรียบเทียบกับมาร์ค ช่วงแรกๆประมาณ 75

รัฐบาลปูไม่เก็บเข้ากองทุนถึงเก็บก็เก็บน้อยมากน้ำมันเลยไปตามกลไกตลาดช่วงนั้น

แล้วตอนขึ้นมา 87 รัฐบาลปูก็ไม่มีเงินไปอุ้มเหมือนมาร์คแล้วครับเพราะกองทุนน้ำมันมันไม่เหลือ

เลยปล่อยไปตามกลไกตลาดถ้ารัฐบาลปูเก็บเหมือนมาร์คช่วงเเรกๆที่น้ำมันถูก

ป่านนี้ได้เห็นน้ำมันลิตรละ 45 ไปนานแล้วครับ




จะว่าเหมือนมาร์ควางระเบิดไว้ก็ได้ครับที่ทะลุงกองทุนน้ำมันตามข่าวที่ผมเอามาแปะ

[evomans136]

ไปหามาครับ

[ดราม่า]

ไปหามาครับ

เรื่องอะไรที่ผมจะไปหามาฟรีๆ

คุณก็กล้ามั๊ยละ ที่จะเปลี่ยนจากแดงเป็นสลิ่มหันมาด่าทักษิณ ถ้าผมมีข้อมูลว่ามาร์กกองทุนน้ำมันเป็นบวกและเหลือเยอะให้ปู

[evomans136]

อื้อฉาว !! รัฐบาลเด็ก "มาร์ค" ... 4 เดือน ถลุงเงินกองทุนน้ำมัน 2.8 หมื่นล้านเกลี้ยง
อื้อฉาวและมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางกับการใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของรัฐบาลของ "นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน เนื่องจากเงินที่สะสมไว้ 28,000 ล้านบาทตั้งแต่สมัยนายปิยสัวส์ดิ์ อัมระนันท์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานในยุครัฐบาลคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ( คมช.) เพื่อใช้ในการดูแลกลไกราคาพลังงานถูกใช้เกลี้ยงในพริบตาเพียงระยะเวลา 4 เดือนเท่านั้น
ผลงานรัฐบาลชุดนี้โดดเด่นที่การจ่ายเงิน แต่ไม่ชำนาญด้านการหาเงิน ส่งผลให้กองทุนน้ำมันฯ ในวันนี้เหลือเงินสดอยู่เพียง 4,000 ล้านบาท ซึ่งยังไม่ได้หักรวมหนี้ต่าง ๆ ที่เจ้าหนี้รอแบมือทวงเงินอยู่กว่า 4,000 ล้านบาทต่อเดือน และต้องใช้พยุงราคาน้ำมันดีเซล 1,671 ล้านบาทต่อเดือน เท่ากับวันนี้ความเป็นจริงของกองทุนน้ำมันฯมีสภาพติดลบไปแล้วกว่า 1,600 ล้านบาทต่อเดือน แต่ที่รัฐบาลพยายามประกาศว่ายังมีเงินเหลืออยู่เพื่อพยุงราคาดีเซลจนถึงรัฐบาลชุดหน้านั้น ก็เกิดจากการเบี้ยวจ่ายเงินเจ้าหนี้นั่นเอง
และเจ้าหนี้รายใหญ่คือ บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน)นั่นเอง ที่ตามทวงหนี้ 2 ก้อนใหญ่ๆ จากกองทุนน้ำมันฯ คือ หนี้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว(แอลพีจี) 2,900 ล้านบาทต่อเดือน และก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์(เอ็นจีวี) 300- 400 ล้านบาทต่อเดือน ยังไม่นับรวมที่กองทุนน้ำมันฯต้องตามชดเชยราคาพลังงานทดแทนอื่นๆ อีก
เนื่องด้วยกระทรวงพลังงานเห็นว่า ปตท. เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่ต้องปฏิบัติตามนโยบายรัฐ ดังนั้นรัฐบาลจึงเห็นว่าสามารถถ่วงเวลาจ่ายหนี้ไปก่อนได้ และภาระหนักก็ตกกับ ปตท.ที่ขณะนี้แบกรับภาระการชดเชยแอลพีจีไปแล้วเกือบ 10,000 ล้านบาท และเอ็นจีวีอีกเกือบ 20,000 ล้านบาท สำหรับเงินกองทุนน้ำมันฯที่หมดไปกับมาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตรต่อลิตรของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์นั้น เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2553 จนถึงวันนี้ใช้เงินพยุงราคาดีเซลไปแล้วทั้งสิ้น 23,301 ล้านบาท
ทั้งนี้ กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงตั้งขึ้นช่วงปี 2523 - 2524 เพื่อใช้เป็นเครื่องมือชั่วคราวในการทยอยปรับเปลี่ยนราคาน้ำมันให้เป็นไปตามสภาพเศรษฐกิจในขณะนั้น โดยใช้วิธีดังนี้คือ เมื่อราคาน้ำมันแพง ก็เอาเงินกองทุนฯไปพยุงราคาไว้ไม่ให้ขึ้นราคาอย่างรวดเร็ว แต่จะค่อยๆ ทยอยขึ้นราคาน้ำมันทีละนิดเพื่อให้ประชาชนได้ปรับตัว แต่เมื่อราคาน้ำมันถูกลง ประชาชนยังคงต้องใช้น้ำมันราคาสูงไปสักระยะเพื่อเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯก่อน
ต่อมาเกิดวิกฤติราคาน้ำมันโลกครั้งที่ 1 ระหว่างปี 2522 - 2529 ราคาน้ำมันพุ่งจาก 7 บาทต่อลิตร เป็น 13.45 บาทต่อลิตร ต่อมาประเทศไทยพบก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยปี 2524 และไทยเริ่มผลิตแอลพีจีได้เป็นครั้งแรก มีการส่งเสริมใช้แอลพีจีในรถยนต์ โดยรัฐบาลอนุมัติให้ขึ้นราคาน้ำมันเบนซินสูงสุดตามตลาดโลกสมัยนั้น 13.45 บาทต่อลิตร แต่ตรึงราคาแอลพีจี 6 บาทต่อลิตร เมื่อมีทางเลือกในการใช้พลังงานแล้วรัฐบาลต่อมาจึงประกาศลอยตัวราคาน้ำมันในปี 2532
ผลจากการลอยตัวทำให้ไม่ต้องใช้กลไกกองทุนน้ำมันฯ จนเมื่อราคาน้ำมันกลับมาสูงอีกครั้งสมัยนายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี พ.ศ. 2533-2534 ประชาชนแห่มาใช้แอลพีจีอย่างหนัก และรัฐบาลต้องแบกรับภาระชดเชยแอลพีจีเป็นครั้งแรก ดังนั้นเมื่อประกาศลอยตัวราคาน้ำมันไปแล้วทำให้ไม่สามารถเรียกเก็บเงินจากผู้ใช้น้ำมันเข้ากองทุนฯได้ ขณะที่ต้องมีภาระชดเชยแอลพีจี ส่งผลให้กองทุนน้ำมันฯติดลบเป็นครั้งแรก 10,000 ล้านบาท และต้องกู้เงินจากธนาคารมาชำระหนี้แอลพีจี
ต่อมายุค พล.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีปี 2540 ได้จัดการเคลียร์ปัญหากองทุนน้ำมันฯจนกลับมาเป็นบวก ด้วยการขึ้นราคาแอลพีจี 3 บาทต่อกิโลกรัม และไม่แทรกแซงราคาน้ำมัน แต่แล้วก็เกิดวิกฤติราคาน้ำมันโลกอีกครั้งสมัยรัฐบาลทักษิณ2 ในปี 2548 - 2549 มีการนำเงินไปพยุงราคาดีเซลจนกองทุนติดลบเป็นครั้งที่ 2 ถึง 90,000 ล้านาท จนสมัยนายปิยสวัสดิ์ มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานในยุครัฐบาล คมช. แก้ไขปัญหาจนกองทุนน้ำมันเป็นบวกกว่า 30,000 ล้านบาท
และแล้วก็มาสู่ยุคนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีคนล่าสุด ที่ทำให้ตัวเลขทางบัญชีกองทุนน้ำมันฯกลับกลายเป็นลบ นับเป็นครั้งที่ 3 ตั้งแต่จัดตั้งกองทุนน้ำมันฯขึ้นมา ปัญหาที่ถมทับกองทุนน้ำมันฯในขณะนี้คือ การพยุงราคาแอลพีจีมานานและรัฐบาลไม่กล้าขยับขึ้นราคาแอลพีจีในประเทศ โดยยังตรึงไว้ 330 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน ขณะที่ราคาตลาดโลกพุ่งไป 930 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน ที่ผ่านมามีการพยายามจะปรับขึ้นราคาแอลพีจีเป็นระบบขั้นบันได หรือทยอยปรับขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้เริ่มรับรู้ราคาพลังงานจริงที่เกิดขึ้น แต่หลายรัฐบาลไม่กล้า เนื่องจากหวั่นปัญหาคะแนนเสียงทางการเมือง
จนปัญหาด้านราคาเอ็นจีวีมาซ้ำเติม เพราะรัฐบาลตรึงราคาอีกเช่นกันที่ 8.50 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ราคาจริงขึ้นไป 13 - 14 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้ภาระเพิ่มพูน และบวกภาระการชดเชยราคาดีเซลเข้าไปอีก ท้ายที่สุดกองทุนน้ำมันฯหนีไม่พ้นกลับมาเป็นหนี้ต้องกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินมาใช้หนี้ค้างชำระต่างๆ อีกครั้ง
รัฐบาลยุคนายอภิสิทธิ์ โชคร้ายตรงที่ราคาพลังงานมาปรับสูงขึ้นเกือบทุกอย่าง แต่แล้วก็ไม่มีวิธีการแก้ปัญหาใดๆ ออกมา มีเพียงแต่พยุงราคาเพียงอย่างเดียว จนประชาชนผู้ใช้น้ำมันดีเซลยังไม่ตระหนักรับรู้ว่า ราคาน้ำมันโลกสูงต้องร่วมมือกันประหยัดแล้ว แต่ผู้ใช้น้ำมันเบนซินคงทราบดี เนื่องจากเงินทุกบาทที่จ่ายไปกับการซื้อน้ำมันเบนซินต้องจ่ายเพิ่มไปยังกองทุนน้ำมันฯด้วย และกองทุนน้ำมันฯก็นำไปพยุงราคาให้กับผู้ใช้ดีเซล เอ็นจีวี แอลพีจี เท่ากับวันนี้ผู้ใช้น้ำมันเบนซิน เป็นผู้เสียสละอย่างจำใจ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ดีเซล เอ็นจีวี และแอลพีจี ได้มีพลังงานใช้ราคาถูกกันต่อไป ในการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) ที่มี น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ยังคงยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้มีเงินสดพอที่จะพยุงราคาน้ำมันดีเซลต่อไปจนยุบสภาและรอรัฐบาลชุดหน้ามาบริหารจัดการภาระหนี้กองทุนน้ำมันฯ แทน
เป็นอันว่า รัฐบาลชุดนี้ใช้เงินหมดแล้ว ใครมาเป็นรัฐบาลชุดหน้าก็แก้ปัญหาไปก็แล้วกัน..... ก็ได้แต่หวังว่ารัฐบาลชุดหน้าจะมีกึ๋นในการบริหารจัดการพลังงานของประเทศได้ดีกว่าทุกวันนี้




อย่างนี้เรียกว่าวางระเบิดเปล่าครับ

Edited by evomans136, 4 April 2012 - 23:44.

[Vote Only]

ก็ในยุคของ ยิ่งเพี้ยน

พี่ กี้ร์ เค้าเล่นประกาศว่า จะทำให้กรุงเทพฯ กลายเป็นทะเลเพลิงนี่คับ (สงสัยพวกเค้ากักตุนน้ำมันไว้ ใครไม่ยอมเค้าก็สั่ง เผา เผาาาาาา เลยพี่น้อง)

[baezae]

ดูให้ดีดีครับว่ายุคใครน้ำมันดิบในตลาดโลกแพงกว่ากันจะบอกยุคอภิสิทธิ์ผมไม่เถียงแล้วทำไมน้ำมันรัฐบาลปูแพงกว่าผมให้เวลาคิดครับ






สังเกตุให้ดีนะครับยุคมาร์คแรกๆน้ำมันถูกมากครับเขาเลยเก็บเงินเข้ากองทุนได้และขายน้ำมันไดในราคาถูกแต่มาตอนหลังๆยุคมาร์คน้ำมันเริ่มแพงครับ

แล้วบอกว่ามาร์คไม่อุ้มน้ำมันไม่จริงเลยครับมาร์คใช้เงินจากกองทุนอุ้มน้ำมันดีเซลจนเงินจะหมดกองทุนครับ

มารัฐบาลปูกองทุนน้ำมันแทบหมดครับไปหาข้อมูลไดแล้วน้ำมันราคาไม่ลดเลยครับมีช่วงแรกๆที่มัน ประมาณ 85

ช่วงนั้นจำได้น้ำมันราคาถูกครับคนเห่ไปเติมจนมันขึ้นมาอีก เป็น 97 - 100 ในเวลาอันสั้น + เงินกองทุนน้ำมันแทบไม่เหลืออยู่แล้วครับมันจึงส่งผลทุกวันครับ





มองให้กว้างๆหน่อยครับก่อจะวิจารณ์

ตัวเลขที่เอามาเป็นกราฟของ Cushing ซึ่งเป็นตลาดซื้อขายล่วงหน้า ถ้าเข้าไปดูตามลิงค์จะเห็นว่า เค้าระบุไว้ว่าเป็น Cushing, Crude oil price future contract

http://www.eia.gov/d...pet&s=rclc1&f=m

มาดูราคาจริงชัด ๆ



จะเห็นได้ว่า ณ ช่วงเวลาเดียวกัน จากข้อมูลตลาด Cushing เหมือนกัน ราคาจริงของเมื่อเดือนเมษาปีที่แล้ว สูงกว่าของปีนี้ ในขณะที่น้ำมันขายในประเทศเราในปีนี้กลับแพงกว่าปีที่แล้ว

ส่วนนี่เป็นตัวเลขกองทุนน้ำมัน

http://www.efai.or.t...port-cash08.pdf

จากตารางจะเห็นว่า เมื่อยุบสภาตอน พค. มีเงินในกองทุนคงเหลืออยู่ที่ ๒ หมื่น ๔ พันล้านบาท และเมื่อมาดูช่วงก่อนหน้า ไม่ว่าจะปี ๕๒ หรือ ปี ๕๓ เมื่อสิ้นปี ตัวเลขในกองทุนน้ำมันอยู่ในระดับ ๓ หมื่น โดยประมาณ ซึ่งหมายความว่ามีการจัดเก็บอย่างเป็นระบบ กล่าวคือรักษาสถานะของกองทุนให้อยู่ในระดับที่มีเงินมาหมุนเวียนในขณะน้ำมันแพงได้โดยกองทุนไม่ติดลบ และไม่ได้ทำกำไรอะไรกับเมื่อยามน้ำมันถูก

ฐานะกองทุนปี ๕๒

http://www.efai.or.t...oi_dec_2552.pdf สิ้นปีมีฐานะอยู่ที่ บวก ๒ หมื่น ๘ พันล้าน

ฐานะกองทุนปี ๕๓

http://www.efai.or.t...l31_12_53_1.pdf สิ้นปีมีฐานะอยู่ที่ บวก ๓ หมื่น ๕ พันล้าน

จะเห็นได้ว่า การที่เก็บเงินเข้ากองทุนไว้ระดับ ๓ หมื่นล้าน มามีผลดีตอนที่ราคาน้ำมันโลกพุ่งขึ้นสูง ช่วงเมษายนปี ๕๔ ที่สามารถตรึงราคาน้ำมันไว้ได้ และฐานะกองทุนน้ำมันก็ยังเป็นบวกได้อยู่ แม้จะลดลงไปในเดือน มิถุนา จนแตะระดับ ๑ หมื่น ๓ พันล้าน แต่ก็เริ่มกระเตื้องขึ้นเมื่อราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลง

สิ้นเดือน สค. หลังจากรัฐบาลปัจจุบันและนายกหัวกลวงเริ่มบริหารประเทศ พร้อมนโยบายเลิกเก็บเงินเข้ากองทุน (แบบหลอก ๆ) มีอยู่ที่ ๑ หมื่น ๗ พันล้าน หลักจากนั้นก็สาละวันเตี้ยลงเรื่อย ๆ จนฐานะกองทุนเมื่อ ๑ เมษายน ๒๕๕๕ ติดลบอยู่ที่เกือบ ๒ หมื่น ๓ พันล้าน

http://www.efai.or.t...heoil-money.htm

นาย evo จะบิดเบือนข้อมูลก็ให้มันน้อย ๆ หน่อย ของพวกนี้มันหาได้ง่าย ๆ

Edited by baezae, 5 April 2012 - 02:45.

[evomans136]

ภาพคุณไม่ขึ้นครับ

ถ้าจะบอกทำไมเดือนนั้นปีที่แล้วน้ำมันแพงกว่าแต่ขายได้ถูกกว่า

เดือนนี้ปีนี้ไม่ได้ครับ

ต้องเอาราคาน้ำมันดิบรอบๆเดือนนั้นว่าราคาเท่าไรแล้วเอาราคามาเฉลี่ยกันซิงี้

สังเกตุไมว่ายุคมาร์คราคาน้ำมันดิบเมื่อเอามาบวกกันแล้วหารตามจำนวนเดือน

ถือว่าถูกกว่ายิ่งลักษณ์ต้องคิดงี้ครับ

ถ้าในอนาคตมีเดือนหนึ่งน้ำมันดิบยิ่งลักษณ์แพงขึ้นสัก120ดอลล่า

แล้วราคาน้ำมันกลั่นแล้วยัง 35 บาทแค่เดือนเดียวผมก็อ้างได้ดิ



สังเกตุให้ดีครับทำไม่ มิถุนายน 54 - สิงหา 54 ทำไมกองทุนมันลดฮวบๆเลย

ใครรักษาการณ์วางยาเปล่า

Edited by evomans136, 5 April 2012 - 01:08.

[baezae]

ภาพคุณไม่ขึ้นครับ

ถ้าจะบอกทำไม่เดือนนั้นปีที่แล้วมันถูกกว่าเดือนนี้ปีนี้ไม่ได้ครับ

ต้องเดือนรอบๆเดือนนั้นว่าราคาเท่าไรแล้วมาเฉลี่ยกันซิงี้

ถ้าในอนาคตมีเดือนหนึ่งน้ำมันยิ่งลักษณ์ลงเหลือ 20 บาทแค่เดือนเดียวผมก็อ้างได้ดิ


สังเกตุให้ดีครับทำไม่ มิถุนายน 54 - สิงหา 54 ทำไมกองทุนมันลดฮวบๆเลย

ใครรักษาการณ์วางยาเปล่า

วางยาอีกละ? คิดไม่ออก ยอมรับไม่ได้ว่ารัฐบาลหน้าโง่บริหารไม่เป็นก็ว่าเค้าวางยา

วางยาภาษาอะไร เงินที่มันลดฮวบฮาบไปตอนเหลือ ๑ หมื่น ๓ พันล้าน ถึงกระเตื้องมาเป็น ๑ หมื่น ๗ พันล้านได้ในตอนสิงหา?

ดูเทรนด์ราคาสัมพันธ์กับเงินในกองทุนก็ชัดเจนว่า เมื่อราคาน้ำมันขึ้น ก็ต้องเอาเงินไปชดเชยเยอะ เพื่อรักษาระดับราคาในประเทศ เมื่อราคามันลดก็เก็บเข้าชดเชยใหม่ เงินมันเลยเพิ่มขึ้นมาได้ ซึ่งก็เก็บเข้าไปเพื่อรองรับการที่น้ำมันในตลาดโลกจะพุ่งขึ้นสูงอีกครั้งในอนาคต ซึ่งแนวโน้มมันก็เป็นแบบนั้น

ในขณะที่ฐานะกองทุนหลังรัฐบาลหน้าโง่เข้ามามีแต่สาละวันเตี้ยลง ไม่มีเพิ่มขึ้นเลย

[evomans136]

เอาไปดูครับน้ำมันรัฐบาลมาร์คก็แพงขึ้นเรื่อยๆตามราคาน้ำมันโลกเหมือนกันครับ

http://www.pttplc.co...ce-bangkok.aspx

[evomans136]

สังเกตุสิครับ เดือนหกที่ เหลือ 13000 ล้าน ราคาน้ำมันไม่ได้ขึ้นนะครับแถมลดลงจากเดือน 4-5 ที่แพงๆด้วย

ทำไมมันหายได้ละครับไม่สงสัยเหรอ

[evomans136]

ที่มี น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ยังคงยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้มีเงินสดพอที่จะพยุงราคาน้ำมันดีเซลต่อไปจนยุบสภาและรอรัฐบาลชุดหน้ามาบริหารจัดการภาระหนี้กองทุนน้ำมันฯ แทน

Edited by evomans136, 5 April 2012 - 01:23.

[baezae]

สังเกตุสิครับ เดือนหกที่ เหลือ 13000 ล้าน ราคาน้ำมันไม่ได้ขึ้นนะครับแถมลดลงจากเดือน 4-5 ที่แพงๆด้วย

ทำไมมันหายได้ละครับไม่สงสัยเหรอ

คิดว่าราคาตลาดโลกที่มันโดดช่วงเดือนมีนา-พฤษภาน่ะ มันกระทบอยู่ ๒ เดือน? แถมหลังจากนั้นไม่ได้ถูกไปกว่าก่อนมันขึ้นเลย ตัวเลขจากตารางที่นายอีโวเอามาโพสต์เองก็บอกอยู่

อย่างตอนมีนาที่ราคาโดดขึ้นมากว่าร้อยละ ๓๐ กองุทนกว่าจะลดลงฮวบก็ปาไปโน่น พฤษภา ในขณะที่พอราคาเริ่มปรับลด ก็สามารถเก็บคืนมาได้เดือนละ ๒ พันล้านโดยเฉลี่ย หลังจากที่เอาไปชดเชยหนัก ๆ มาก่อนหน้านั้น

แล้วค่าน้ำมันที่เอามาให้ดูน่ะ ได้เปรียบเทียบกับราคาตลาดโลกหรือเปล่า ว่าสัดส่วนการขึ้นมันเป็นอย่างไร หรือสักแต่ดู ๆ เออ ขึ้น ๆ

ยกตัวอย่าง ปี ๕๔
.........................................กุมภา-มีนา(ร้อยละ)...............................มีนา-เมษา(ร้อยละ)

ตลาดโลก..................................๑๔.๗๕..................................................๖.๘๕

ดีเซล(อภิสิทธิ์)..............................๐.........................................................๐ (จากกลางเดือนด้วยน้ำมันบูลดีเซล)


ปี ๕๕
.........................................กุมภา-มีนา(ร้อยละ)...............................มีนา-เมษา(ร้อยละ)

ตลาดโลก..................................๑๐(โดยประมาณ)....................................-๔.๖

ดีเซล(ยิ่งลักษณ์)..............................๓.๒....................................................๐ (จากกลางเดือนด้วยน้ำมันบูลดีเซล)

สวนทางกันแปลก ๆ ว่าไหม?

[baezae]

ที่มี น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ยังคงยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้มีเงินสดพอที่จะพยุงราคาน้ำมันดีเซลต่อไปจนยุบสภาและรอรัฐบาลชุดหน้ามาบริหารจัดการภาระหนี้กองทุนน้ำมันฯ แทน

ภาระหนี้ส้นเท้าอะไรละครับ? ตัวเลขจากฐานะของกองทุนในลิงค์ที่ให้มาบอกอยู่ว่าเป็นบวก กระทั่งรัฐบาลหน้าโง่เข้ามาก็ยังเป็นบวก

มีแต่สมัยไอ้หน้าเหลี่ยมนั่นแหละที่ทิ้งภาระหนี้กองทุนน้ำมันไว้ให้รัฐบาลต่อไปมารับภาระ ตอนนี้รัฐบาลหน้าโง่โดยนายกหัวกลวง ก็เจริญตามรอยไม่ผิดเพี้ยนเลย

หน้าด้านบิดเบือนข้อมูลตัวเลข แล้วยังมีหน้ามาโยนขี้ให้รัฐบาลก่อน ทั้งที่รัฐบาลหน้าโง่ที่ตนสนับสนุนไม่มีปัญญาบริหาร

Edited by baezae, 5 April 2012 - 01:45.

[aumstar]

ใช่มาร์ค วางยาทั้งน้ำในเขื่อน ล่าสุดที่ตรวจเจอเรื่องกองทุนน้ำมัน

[evomans136]

น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

รัฐมนตรีสมัยใครครับพูดเองด้วยผมไม่ได้ใส่สีตีไข่เองนะ

Edited by evomans136, 5 April 2012 - 01:48.

[baezae]

น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

รัฐมนตรีสมัยใครครับพูดเองด้วยผมไม่ได้ใส่สีตีไข่เองนะ

แล้วมันมีภาระหนี้หรือเปล่า?

กองทุนติดลบหรือ?

บิดเบือน ไม่ได้ดูข้อมูลจริง ยังหน้าด้านไปได้อีกนะ

คำที่เค้าให้สัมภาษณ์น่ะ ตั้งแต่เดือน กพ. กลางเดือนโน่น ซึ่งเห็นอยู่ว่า ณ เดือน พค. ฐานะกองทุนเป็นอย่างไร ซึ่งหมายความว่าบริหารจัดการได้ ไม่เป็นหนี้

[Kyubey]

สรุป รัฐบาลนี้ทำงานไม่เป็นครับ...

[evomans136]

เขาก็บอกแล้วว่าแนวโน้มติดลบเพราะมันลดมาทุกเดือนครับกองทุนน้ำมัน

[baezae]

เขาก็บอกแล้วว่าแนวโน้มติดลบเพราะมันลดมาทุกเดือนครับกองทุนน้ำมัน

แล้วมันติดลบไหม?

และอันที่จริงถ้าสนใจดูตัวเลขสักหน่อยจะเห็นว่ามันเพิ่งมาลดเอาเดือนพฤษภาหลักจากที่ราคาน้ำมันโลกพุ่งสูงมาตั้งแต่มีนา ก่อนหน้านั้นฐานะทรงตัวอยุ่ที่ ๓ หมื่น ๕ พันล้านโดยประมาณมาตั้งแต่ตุลาปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นปีงบประมาณ

ไม่สนใจจะดูแม้แต่ตัวเลขนี่นา ดำน้ำไปเรื่อย บิดเบือนไปเรื่อย

[evomans136]

แล้วทำไมรัฐมนตรี สมัย นั้นพูดอย่างนั้นละครับ ถ้าไม่มีแนวโน้มจะติดลบอะ

ให้ความกระจ่างหน่อยครับ

[baezae]

แล้วทำไมรัฐมนตรี สมัย นั้นพูดอย่างนั้นละครับ ถ้าไม่มีแนวโน้มจะติดลบอะ

ให้ความกระจ่างหน่อยครับ

เห็นเทรนด์ราคาน้ำมันไหม ปีก่อน ๆ หน้าเป็นอย่างไร ตารางที่เอามาแปะเองก็มีบอกอยู่

ถ้าให้มองในแง่ร้ายก็คือ เค้าไม่มั่นใจว่าจะประคองไว้อยู่ แต่ด้วยการบริหารนโยบายกองทุน การจัดเก็บอย่างเป็นระบบ มันเลยมีเงินเหลือพอชดเชย แถมส่งต่อให้รัฐบาลปัจจุบันได้หมื่นห้าพันล้านด้วยซ้ำ

แล้วจะมามั่วบอกเป็นหนี้ ติดลบได้อย่างไร ในเมื่อความเป็นจริงมันไม่ได้ติดลบ?

[evomans136]

เอาครับไม่เถียงแล้วครับผมขอดูราคาน้ำมันอีกสักระยะละกันว่าจะเป็นไงต่อ

[evomans136]

ผมไปเจอข้อมูลน่าสนใจครับ

ณ สิ้นวันที่ 1 เมษายน 2555 กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มีฐานะ ติดลบ สุทธิ 22,834 ล้านบาท ซึ่งเป็นการติดลบเพิ่มขึ้นจากสิ้นเดือน กุมภาพันธ์ 2555 จำนวน 4,136 ล้านบาทเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของ อัตราเงินชดเชย LPG นำเข้าจากต่างประเทศ ที่สูงขึ้นตามราคาตลาดโลก และปริมาณการนำเข้า LPG ในเดือนมีนาคม 2555 สูงขึ้นกว่าเดือนก่อน และการที่กองทุนฯ ยังมีภาระชดเชยราคาสำหรับ พลังงานอื่นๆ เป็นรายวัน สูงกว่าการเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนฯ

[evomans136]

อยากให้ไปศึกษาการนำเข้า lpg ด้วยครับ