Jump to content


Photo
- - - - -

ทำไมน้ำมันตลาดโลกยุคอภิสิทธิ์แพงกว่า แต่ขายน้ำมันในประเทศได้ถูกกว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์?


This topic is in the process of being archived.
288 ความเห็นในกระทู้นี้

#101 evomans136

evomans136

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 112 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 02:53

Posted Image ซีรีย์เกาหลี หนังเกาหลี
http://lpgaustralia....dustry_data.php


สังเกตุได้ว่าที่ผมทำสีแดงไว้จะแพงผิดปกติครับแพงก้าวกระโดดอาจเป็นสาเหตุหนึ่งครับ

Edited by evomans136, 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 03:02.


#102 irq5

irq5

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,222 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 03:01

ซ้ำ

Edited by irq5, 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 03:02.


#103 nolifelover

nolifelover

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 27 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 03:06

ผมไปเจอข้อมูลน่าสนใจครับ

ณ สิ้นวันที่ 1 เมษายน 2555 กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มีฐานะ ติดลบ สุทธิ 22,834 ล้านบาท ซึ่งเป็นการติดลบเพิ่มขึ้นจากสิ้นเดือน กุมภาพันธ์ 2555 จำนวน 4,136 ล้านบาทเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของ อัตราเงินชดเชย LPG นำเข้าจากต่างประเทศ ที่สูงขึ้นตามราคาตลาดโลก และปริมาณการนำเข้า LPG ในเดือนมีนาคม 2555 สูงขึ้นกว่าเดือนก่อน และการที่กองทุนฯ ยังมีภาระชดเชยราคาสำหรับ พลังงานอื่นๆ เป็นรายวัน สูงกว่าการเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนฯ


ผมว่าคุณงงกับคำตอบคุณเองแล้วละครับ ตอนนี้ที่พยายามอธิบายกันอยู่คือ กองทุนน้ำมันยังเหลือมาให้รัฐบอลนี้บริหาร แต่ ตัวรัฐบาลเองกลับบริหารไม่เป็นทำเอาน้ำมันแพงแถมกองทุนน้ำมันติดลบไปสองหมื่นกว่าล้าน ถามว่าแบบนี้บริหารเป็นไหม

#104 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 03:08

ผมไปเจอข้อมูลน่าสนใจครับ

ณ สิ้นวันที่ 1 เมษายน 2555 กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มีฐานะ ติดลบ สุทธิ 22,834 ล้านบาท ซึ่งเป็นการติดลบเพิ่มขึ้นจากสิ้นเดือน กุมภาพันธ์ 2555 จำนวน 4,136 ล้านบาทเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของ อัตราเงินชดเชย LPG นำเข้าจากต่างประเทศ ที่สูงขึ้นตามราคาตลาดโลก และปริมาณการนำเข้า LPG ในเดือนมีนาคม 2555 สูงขึ้นกว่าเดือนก่อน และการที่กองทุนฯ ยังมีภาระชดเชยราคาสำหรับ พลังงานอื่นๆ เป็นรายวัน สูงกว่าการเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนฯ


ก็ดันไปหยุดเก็บเงินเข้ากองทุน ทั้งที่ราคาน้ำมันโลกกำลังปรับตัวสูงขึ้นตามภาวะความต้องการ เงินมันก็เลยติดลบต่อเนื่อง

ปีที่แล้วมีนา ราคาโพรเพนอยู่ที่ 1.4 และ เมษาขึ้นเป็น 1.45 เหรียญต่อแกลลอน ราคาบิวเทนก็ไม่ทิ้งกันเท่าไร

ปีนี้ราคาเมื่อสิ้นเดือนมีนาอยู่ที่ 1.28 เหรียญต่อแกลลอน

http://www.indexmund...opane&months=60

ปริมาณการนำเข้า lpg ปี 54 จนสิ้นเดือน พค. อยู่ที่เฉลี่ยเดือนละ 9 หมื่น 2 พันตันต่อเดือน

ส่วนปีนี้เกินไปไกล คืออยู่ที่ แสนห้าโดยประมาณ เพราะปตท. ลดกำลังการผลิต

เห็น ๆ อยู่ว่าการยกเลิกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันในภาวะแบบนี้ มีแต่ทำให้ราคาสูง และฐานะกองทุนติดลบ เพราะยังต้องคอยชดเชยอยู่เรื่อย ๆ

บริหารงานไม่เป็น ยังหน้ามึนทำไปเรื่อย

Edited by baezae, 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 03:13.

ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#105 evomans136

evomans136

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 112 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 03:13


ผมไปเจอข้อมูลน่าสนใจครับ

ณ สิ้นวันที่ 1 เมษายน 2555 กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มีฐานะ ติดลบ สุทธิ 22,834 ล้านบาท ซึ่งเป็นการติดลบเพิ่มขึ้นจากสิ้นเดือน กุมภาพันธ์ 2555 จำนวน 4,136 ล้านบาทเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของ อัตราเงินชดเชย LPG นำเข้าจากต่างประเทศ ที่สูงขึ้นตามราคาตลาดโลก และปริมาณการนำเข้า LPG ในเดือนมีนาคม 2555 สูงขึ้นกว่าเดือนก่อน และการที่กองทุนฯ ยังมีภาระชดเชยราคาสำหรับ พลังงานอื่นๆ เป็นรายวัน สูงกว่าการเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนฯ


ผมว่าคุณงงกับคำตอบคุณเองแล้วละครับ ตอนนี้ที่พยายามอธิบายกันอยู่คือ กองทุนน้ำมันยังเหลือมาให้รัฐบอลนี้บริหาร แต่ ตัวรัฐบาลเองกลับบริหารไม่เป็นทำเอาน้ำมันแพงแถมกองทุนน้ำมันติดลบไปสองหมื่นกว่าล้าน ถามว่าแบบนี้บริหารเป็นไหม


กองทุนเชื้อเพลิงกับน้ำมันมันอันเดียวกันครับมีผลกระทบต่อกัน

Edited by evomans136, 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 03:15.


#106 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 03:19



ผมไปเจอข้อมูลน่าสนใจครับ

ณ สิ้นวันที่ 1 เมษายน 2555 กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มีฐานะ ติดลบ สุทธิ 22,834 ล้านบาท ซึ่งเป็นการติดลบเพิ่มขึ้นจากสิ้นเดือน กุมภาพันธ์ 2555 จำนวน 4,136 ล้านบาทเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของ อัตราเงินชดเชย LPG นำเข้าจากต่างประเทศ ที่สูงขึ้นตามราคาตลาดโลก และปริมาณการนำเข้า LPG ในเดือนมีนาคม 2555 สูงขึ้นกว่าเดือนก่อน และการที่กองทุนฯ ยังมีภาระชดเชยราคาสำหรับ พลังงานอื่นๆ เป็นรายวัน สูงกว่าการเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนฯ


ผมว่าคุณงงกับคำตอบคุณเองแล้วละครับ ตอนนี้ที่พยายามอธิบายกันอยู่คือ กองทุนน้ำมันยังเหลือมาให้รัฐบอลนี้บริหาร แต่ ตัวรัฐบาลเองกลับบริหารไม่เป็นทำเอาน้ำมันแพงแถมกองทุนน้ำมันติดลบไปสองหมื่นกว่าล้าน ถามว่าแบบนี้บริหารเป็นไหม


กองทุนเชื้อเพลิงกับน้ำมันมันอันเดียวกันครับมีผลกระทบต่อกัน


เห็นแนวโน้มปีก่อน ๆ หน้า ก็น่าจะพอบอกได้่แล้วว่าระดับราคาเชื้อเพลิงต่าง ๆ จะเป็นเช่นไร มากขึ้นน้อยลงขนาดไหนในเดือนต่าง ๆ

นี่หมายความว่าคณะทำงานปัจจุบันไม่ได้มีการศึกษาข้อมูล แนวโน้ม หรือการเตรียมแผนงานอะไรเลย สักแต่ทำงานไป ตัวเลขก็ติดลบหนักขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่ปีก่อนหน้าที่ราคาเชื้อเพลิงสูงกว่านี้ กองทุนกลับไม่ติดลบแถมเหลือส่งต่อให้ด้วยซ้ำ
ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#107 evomans136

evomans136

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 112 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 03:22

Posted Image


ผมว่าถึงจะเก็บตอน สิงหา กันยา ตุลา ช่วงที่น้ำมันอยู่ที่ 85-86 ดอลล่าก็ไม่ช่วยอะไรมากหรอกครับแค่ 3 เดือน

ตอน พฤศจิกายน น้ำมัน ก็ขึ้นเกือบร้อยแล้วครับ ต้องไปดูอีก ตอนกุมภา มีนา น้ำมันมันเท่าไรถ้า มันสูง มันก็ติดลบเป็นธรรมดาครับ

+กับ lpg ที่แพงขึ้น คนใช้มากขึ้นสารพัด

#108 evomans136

evomans136

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 112 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 03:25

อย่าลืมครับไม่ติดลบแต่จาก 34000 ล้าน ก็ เหลือ 17000 ล้านครับ ในเวลารวดเร็วด้วย

มันเป็นตัวบ่งชี้้อยู่แล้วครับว่ามันจะลดไปอีกเพราะน้ำมันมันลดราคามาแค่ 3 เดือนต่อจากนั้นก็ขึ้นหลัก 100 อีก

#109 evomans136

evomans136

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 112 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 03:26

ถ้า กุมภา มีนา ยังหลักร้อยผมไม่สงสัยหรอกทำไมติดลบ

เจอ lpg เดือน กุมภา มีนา เข้าไปอีก มันต้องติดลบเป็นธรรมดาครับ


ไปนอนนะครับราตรีสวัส

Edited by evomans136, 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 03:28.


#110 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 03:29

Posted Image


ผมว่าถึงจะเก็บตอน สิงหา กันยา ตุลา ช่วงที่น้ำมันอยู่ที่ 85-86 ดอลล่าก็ไม่ช่วยอะไรมากหรอกครับแค่ 3 เดือน

ตอน พฤศจิกายน น้ำมัน ก็ขึ้นเกือบร้อยแล้วครับ ต้องไปดูอีก ตอนกุมภา มีนา น้ำมันมันเท่าไรถ้า มันสูง มันก็ติดลบเป็นธรรมดาครับ

+กับ lpg ที่แพงขึ้น คนใช้มากขึ้นสารพัด


อ้างแบบนี้ยิ่งแสดงถึงความไร้ความสามารถของรัฐบาลนี้เลย

ช่วงมิถุนา ถึง สิงหา ปี ๕๔ รัฐบาลรักษาการณ์เก็บเงินเข้าได้เพิ่มเดือนละ ๒ พันล้านบาท ในขณะที่ราคาช่วงตุลาถึงธันวาที่ราคาไล่เลี่ยไม่ต่างกันมาก รัฐบาลปัจจุบันมีแต่ติดลบมากขึ้นเรื่อย ๆ

แล้วจากเทรนด์ในไตรมาสที่สอง เปรียบเทียบ ๒ ทีล่าสุด ก็เห็นได้ชัดว่าราคาของปีนี้ต่ำกว่าเฉลี่ยของปีที่แล้วอีก แต่ราคาขายในประเทศกลับแพงกว่า

แสดงชัดว่าการดำเนินนโยบายกองทุนน้ำมันผิดพลาดมาตั้งแต่เริ่มเข้ามา พอจะแก้ไขก็ไม่มีปัญญา ได้แต่หลอกประชาชนไปวัน ๆ
ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#111 evomans136

evomans136

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 112 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 03:37

ครับสมมุติเก็บได้ 2000 ล้านต่อเดือน

3 เดือนที่น้ำมันถูกในสมัยปู ก็เก็บได้ประมาณ 6000 ล้าน

จาก 17000+6000 ก็ จะเท่ากับ 23000 ล้าน

แต่ยุคอภิสิทธิ์เจอน้ำมันแพง 3 เดือนก็ลบไปจาก 34000 ล้านเหลือ 17000 ล้าน

เฉลี่ยก็ขาดทุนไปเดือนละ 5 พันล้านกว่าๆ

รัฐบาลปูเจอน้ำมันแพงไป 5 เดือน มันก็ต้องติดลบซิครับ เจอ lpg เข้าไปอีก

Edited by evomans136, 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 03:38.


#112 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 03:38

อย่าลืมครับไม่ติดลบแต่จาก 34000 ล้าน ก็ เหลือ 17000 ล้านครับ ในเวลารวดเร็วด้วย

มันเป็นตัวบ่งชี้้อยู่แล้วครับว่ามันจะลดไปอีกเพราะน้ำมันมันลดราคามาแค่ 3 เดือนต่อจากนั้นก็ขึ้นหลัก 100 อีก


อ่านดี ๆ หลังจากลบไปเหลือ ๑.๓ หมื่นล้่าน มันเพิ่มมาเดือนละ ๒ พันล้าน แปลว่าแนวโน้มมันเพิ่มมากขึ้น

ต่อให้ราคามันพุ่งขึ้นอีกที หากยังคงเดินหน้าเก็บเพื่อพยุงราคาต่อไป กองทุนก็ยังสามารถประคองไปได้ อาจจะมีเงินเหลือน้อยลง แต่ไม่ถึงกับติดลบ

แต่นี่แค่สิ้นมกรา ติดลบไปแล้ว ๑.๗ หมื่นล้าน หมายความว่าจากสิงหาถึงมกรา ระยะเวลาแค่ ๕ เดือน ผลาญกองทุนไป ๓.๔ หมื่นล้าน ทั้งที่ราคาไม่ได้สูงไปกว่าช่วงมกราถึงพฤภาของปี ๕๔ เลย ในขณะที่ช่วงต้นปี รัฐบาลที่แล้วประคองฐานะอยู่ที่บวกมาตลอด มาลดแค่เดือนเดียวแล้วก็ประคองตัวกลับมาได้อีก ส่วนรัฐบาลหน้าโง่ปัจจุบัน ทำลดต่อเนื่อง

การดูแนวโน้มราคา การคาดการณ์ การตัดสินใจบริหาร ผิดพลาดไปหมด

แอลพีจีปีก่อนหน้าน่ะ แพงกว่านะ การนำเข้ามากขึ้นจริง แต่ไม่ใช่ว่าแผนการนำเข้าจะบอกวันนี้พรุ่งนี้เพิ่มเลยที่ไหน เค้าต้องวางแผนกันมาก่อนเป็นเดือน ๆ ปี ๆ ทั้งนั้น

นี่ก็แสดงอีกว่าไม่ได้ตระเตรียมอะไรเลย ทั้งที่มีเวลาเตรียมงานอย่างน้อย ๆ ครึ่งปีก่อนที่ราคาแอลพีจีจะพุ่งขึ้นสูง

สรุป บริหารงานไม่เป็น ได้แต่โยนความผิดให้รัฐบาลที่แล้ว กลไกราคาโลก ผิดคนอื่นหมดยกเว้นตัวเอง
ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#113 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 03:45

ครับสมมุติเก็บได้ 2000 ล้านต่อเดือน

3 เดือนที่น้ำมันถูกในสมัยปู ก็เก็บได้ประมาณ 6000 ล้าน

จาก 17000+6000 ก็ จะเท่ากับ 23000 ล้าน

แต่ยุคอภิสิทธิ์เจอน้ำมันแพง 3 เดือนก็ลบไปจาก 34000 ล้านเหลือ 17000 ล้าน

เฉลี่ยก็ขาดทุนไปเดือนละ 5 พันล้านกว่าๆ

รัฐบาลปูเจอน้ำมันแพงไป 5 เดือน มันก็ต้องติดลบซิครับ เจอ lpg เข้าไปอีก



ดูดี ๆ มันลดแค่เดือนเดียว เพราะต้องชดเชยหนักจากที่สะสมมาก่อนหน้า และถ้าเอาดูเทรนด์ ๕ เดือนนับจากมกราถึงพฤษภา ราคาปีที่แล้วแพงกว่าปีนี้ ทั้งแอลพีจีและน้ำมันดิบ แถมถ้าเอาจริง ๆ ไปถึงเดือนเจ็ดด้วยซ้ำ

ในขณะที่รัฐบาลปัจจุบัน ราคาน้ำมันแพงอีกทีช่วงพฤศจิกายนไปแล้ว แต่บริหารไม่เป็น ทำงานไม่เป็น ระงับการเก็บเงินหวังเอาใจฐานเสียง แต่ไม่ดูความมั่นคงของฐานะกองทุน เงินมันเลยร่อยหรอไป

ไม่ต้องอะไรมาก ในขณะที่แนวโน้มราคาช่วงสิงหา กันยา ตุลา ประคองตัวที่ระดับใกล้เคียงกัน กลางกันยาปีที่แล้ว รัฐบาลปัจจุบันทำกองทุนน้ำมันเหลือแค่ ๖๐๐ ล้าน ลดจาก ๑.๗ หมื่นล้านในเวลาเดือนเดียว ทั้งที่ราคาปรับลงและประคองตัวมาโดยตลอด

http://www.thaipost....ws/190911/45223

พอมาตุลาปั๊บ ฐานะติดลบ ๑,๓๐๐ ล้าน

http://202.44.52.249...ail.aspx?id=242

ทำไมติดลบหนักขึ้น ทั้งที่ราคาก็ต่ำและประคองตัวมาตั้งแต่สิงหาคม?

ถามหน่อยเถอะ ไม่อายบ้างหรือ ทีแรกก็โบ้ยว่ารัฐบาลก่อนให้มาติดลบ แล้วก็โบ้ยวางยา นี่ก็อ้างนั่นอ้างนี่ ทั้งที่ตัวเลขก็บอกชัดว่า การบริหารไม่ได้เรื่อง ไร้ความสามารถ

Edited by baezae, 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 03:57.

ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#114 evomans136

evomans136

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 112 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 03:50

http://www.efai.or.t...port-cash08.pdf

สังเกตุดูดีๆครับยุคมาร์ค มค-พค 54 ก็แทบจะเก็บเงินเข้ากองทุนไม่ได้เหมือนกันครับ

และเจอน้ำมันแพงเข้าไป2เดือน ก็ติดลบไปเดือนละ 10000 ล้านครับ


อีกอย่างต้องดูว่าสมัยยิ่งลักษณ์ น้ำมันดิบ เดือน กุมภา กับ มีนา มันเท่าไร

ถ้ามากกว่าสมัยมาร์ค 110 ดอลล่าละครับ ก็ต้องติดลบเป็นธรรมดา

และผมมั่นใจว่าอยู่ในหลักร้อยดอลล่าแน่นอนเพราะสถานะการณ์อิหร่าน





ไปนอนนะครับเดี๋ยวพรุ่งนี้จะเข้ามาใหม่

Edited by evomans136, 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 03:56.


#115 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 04:11

http://www.efai.or.t...port-cash08.pdf

สังเกตุดูดีๆครับยุคมาร์ค มค-พค 54 ก็แทบจะเก็บเงินเข้ากองทุนไม่ได้เหมือนกันครับ

และเจอน้ำมันแพงเข้าไป2เดือน ก็ติดลบไปเดือนละ 10000 ล้านครับ


อีกอย่างต้องดูว่าสมัยยิ่งลักษณ์ น้ำมันดิบ เดือน กุมภา กับ มีนา มันเท่าไร

ถ้ามากกว่าสมัยมาร์ค 110 ดอลล่าละครับ ก็ต้องติดลบเป็นธรรมดา

และผมมั่นใจว่าอยู่ในหลักร้อยดอลล่าแน่นอนเพราะสถานะการณ์อิหร่าน





ไปนอนนะครับเดี๋ยวพรุ่งนี้จะเข้ามาใหม่


จะเก็บเข้าทำไม ในเมื่ออยู่ในสถานะทีกองทุนมีเงินเหลือพอ รักษาระดับ ๓.๕ หมื่นล้านมาตลอด

หลักการของกองทุนน้ำมัน คือเก็บในช่วงที่ราคาน้ำมันต่ำเพื่อนำไปชดเชยเมื่อราคาน้ำมันสูง และผ่อนการเก็บเมื่อราคาน้ำมันสูงเพื่อไม่ให้กระทบกับราคาภายในประเทศมากเกิน ไม่ได้มุ่งหวังทำกำไรเสียหน่อย เมื่อเก็บได้ระดับที่ปลอดภัย เห็นว่าพอประคองสถานการณ์ได้ก็ต้องบรรเทาการเก็บเงินเข้า

แล้วตารางตัวเองน่ะไม่ได้สนใจดูหรือไงว่ามันไม่ได้แพงแค่ ๒ เดือน มันโดดมาตั้งแต่มีนา จนพฤษภา แล้วจนถึงกรกฎาราคาก็ยังอยู่ที่ ๙๕ เหรียญอยู่เลย

ราคากุมภา มีนาปีนี้ก็อยู่หน้าที่แล้ว ไม่ได้สนใจดูอีก ตอนกุมภาน่ะอยู่ราว ๑๐๐ เหรียญ แล้วก็เด้งมาช่วง ๑๑๐ ช่วงมีนา หลังจากนั้นก็ลดลง ปัจจุบันอยุ่ที่ ๑๐๒

แต่ถามว่าฐานะกองทุนมันเพิ่งมาติดลบหรือ? เปล่า มันติดลบมาตั้งแต่ตุลาโน่น พอสถานะการณ์มันยิ่งแย่ มันเลยหมกเม็ดกันไม่ไหว ต้องกลับมาเก็บกันใหม่ซึ่งก็ตามโปะไอ้ที่ติดลบไปก่อนหน้าไม่ทัน

แสดงให้เห็นว่าไม่ได้วางแผน ไม่ได้เตรียมการ ไม่ได้วางแนวโน้มอะไรเลยอย่างที่เคยบอกไว้ก่อนหน้า

อย่างนี้ไม่เรียกบริหารผิดพลาด บริหารไม่เป็นแล้วเรียกอะไร?

Edited by baezae, 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 04:13.

ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#116 evomans136

evomans136

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 112 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 04:27

ขอตั้งข้อสงสัยก่อนนอนนะครับ

http://www.efai.or.t...port-cash08.pdf

ทำไมช่วงที่ราคาน้ำมันปกติ 81-89 ดอลล่าในสมัย อภิสิทธิ์ แต่ทำไม่อภิสิทธิ์ไม่สามารถเก็บเงินเข้ากองทุนได้เลยอยู่ที่ 34000 35000 ล้านตลอด

แต่ทำไม สมัย อภิสิทธิ์ รักษาการณ์ (ซึ่งไม่มีอำนาจไปยุ่งกับกองทุน) น้ำมันอยู่ที่ 96-97 ดอลล่า รัฐบาลกลับจัดเก็บได้เดือนละ 2000 ล้าน

มันมี some thing wrong เปล่า ให้คิดเองครับ

#117 evomans136

evomans136

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 112 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 04:36


http://www.efai.or.t...port-cash08.pdf

สังเกตุดูดีๆครับยุคมาร์ค มค-พค 54 ก็แทบจะเก็บเงินเข้ากองทุนไม่ได้เหมือนกันครับ

และเจอน้ำมันแพงเข้าไป2เดือน ก็ติดลบไปเดือนละ 10000 ล้านครับ


อีกอย่างต้องดูว่าสมัยยิ่งลักษณ์ น้ำมันดิบ เดือน กุมภา กับ มีนา มันเท่าไร

ถ้ามากกว่าสมัยมาร์ค 110 ดอลล่าละครับ ก็ต้องติดลบเป็นธรรมดา

และผมมั่นใจว่าอยู่ในหลักร้อยดอลล่าแน่นอนเพราะสถานะการณ์อิหร่าน





ไปนอนนะครับเดี๋ยวพรุ่งนี้จะเข้ามาใหม่


จะเก็บเข้าทำไม ในเมื่ออยู่ในสถานะทีกองทุนมีเงินเหลือพอ รักษาระดับ ๓.๕ หมื่นล้านมาตลอด

หลักการของกองทุนน้ำมัน คือเก็บในช่วงที่ราคาน้ำมันต่ำเพื่อนำไปชดเชยเมื่อราคาน้ำมันสูง และผ่อนการเก็บเมื่อราคาน้ำมันสูงเพื่อไม่ให้กระทบกับราคาภายในประเทศมากเกิน ไม่ได้มุ่งหวังทำกำไรเสียหน่อย เมื่อเก็บได้ระดับที่ปลอดภัย เห็นว่าพอประคองสถานการณ์ได้ก็ต้องบรรเทาการเก็บเงินเข้า

แล้วตารางตัวเองน่ะไม่ได้สนใจดูหรือไงว่ามันไม่ได้แพงแค่ ๒ เดือน มันโดดมาตั้งแต่มีนา จนพฤษภา แล้วจนถึงกรกฎาราคาก็ยังอยู่ที่ ๙๕ เหรียญอยู่เลย

ราคากุมภา มีนาปีนี้ก็อยู่หน้าที่แล้ว ไม่ได้สนใจดูอีก ตอนกุมภาน่ะอยู่ราว ๑๐๐ เหรียญ แล้วก็เด้งมาช่วง ๑๑๐ ช่วงมีนา หลังจากนั้นก็ลดลง ปัจจุบันอยุ่ที่ ๑๐๒

แต่ถามว่าฐานะกองทุนมันเพิ่งมาติดลบหรือ? เปล่า มันติดลบมาตั้งแต่ตุลาโน่น พอสถานะการณ์มันยิ่งแย่ มันเลยหมกเม็ดกันไม่ไหว ต้องกลับมาเก็บกันใหม่ซึ่งก็ตามโปะไอ้ที่ติดลบไปก่อนหน้าไม่ทัน

แสดงให้เห็นว่าไม่ได้วางแผน ไม่ได้เตรียมการ ไม่ได้วางแนวโน้มอะไรเลยอย่างที่เคยบอกไว้ก่อนหน้า

อย่างนี้ไม่เรียกบริหารผิดพลาด บริหารไม่เป็นแล้วเรียกอะไร?

โอเคครับอ่านข้ามไปเอาเป็นว่าข้อสังสัยผมหมดแล้วครับ

Edited by evomans136, 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 04:38.


#118 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 04:37

ขอตั้งข้อสงสัยก่อนนอนนะครับ

http://www.efai.or.t...port-cash08.pdf

ทำไมช่วงที่ราคาน้ำมันปกติ 81-89 ดอลล่าในสมัย อภิสิทธิ์ แต่ทำไม่อภิสิทธิ์ไม่สามารถเก็บเงินเข้ากองทุนได้เลยอยู่ที่ 34000 35000 ล้านตลอด

แต่ทำไม สมัย อภิสิทธิ์ รักษาการณ์ (ซึ่งไม่มีอำนาจไปยุ่งกับกองทุน) น้ำมันอยู่ที่ 96-97 ดอลล่า รัฐบาลกลับจัดเก็บได้เดือนละ 2000 ล้าน

มันมี some thing wrong เปล่า ให้คิดเองครับ


จะเก็บทำไม ในเมื่อกองทุนมีเงิน ๓.๕ หมื่นล้าน? มีเงินพอจะประคองสถานการณ์ เก็บให้กองทุนรวย? ในเมื่อมีเงินเพียงพอแล้ว จะเก็บมาก ๆ ให้ประชาชนเดือดร้อนทำไม?

ช่วงรักษาการณ์ ในเมื่อราคามันลดลงแล้ว และสามารถจัดเก็บทดแทนในส่วนที่ร่อยหรอได้ เค้าก็ต้องเก็บเติมเข้าไป เพื่อรองรับสถานการณ์ที่ราคาน้ำมันจะแพงขึ้นได้อีกในอนาคต

แสดงว่า หากราคาน้ำมันมันไม่แพงทะลุหลัก ๑๑๐ จริงๆ และหรือแพงต่อเนื่อง ด้วยระดับฐานะกองทุนที่ ๓.๕ หมื่นล้าน มันสามารถรักษาระดับราคาน้ำมันในประเทศได้ และสามารถเก็บซ่อมได้ทันสำหรับวงจรการขึ้นราคาคราวหน้า

ถามกลับว่า ในขณะที่ราคาน้ำมันถูกลงหลังจากนั้นไปอยู่ที่ระดับ ๘๐ กว่า รัฐบาลปัจจุบันไม่มีการวางแผนการเตรียมไว้ล่วงหน้าเลยหรืออย่างไร ไม่ได้ทราบหรืออย่างไรว่าราคาน้ำมันจะสูงขึ้น จึงไม่มีการเก็บเงินเข้ากองทุนเพื่อชดเชยส่วนที่ร่อยหรอลงไป หรือคิดว่าราคามันจะอยู่ที่เท่านั้นตลอด ทั้งที่เป็นไปไม่ได้?

พอบริหารขาดทุน ก็เอาสันดานเดิมมาใช้ โบ้ยไปเหมือนตอนเรื่องน้ำท่วม
ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#119 เรื่อยๆเอื่อยๆ

เรื่อยๆเอื่อยๆ

    There is a face beneath this mask, but it isn't me.

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,223 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 05:15

ต้องนับถือคุณ baezae ที่ช่วยตอบคำถามมือดี ให้กระจ่างชัดครับ

#120 antiseptic

antiseptic

    น้องใหม่และซิง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,672 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 05:58

เห็นด้วย คุณ baezae สุดยอดจริงๆ
"We all make choices. But in the end, our choices make us."Andrew Ryan

#121 Tam-mic-ra.

Tam-mic-ra.

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,948 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 06:38


ที่มี น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ยังคงยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้มีเงินสดพอที่จะพยุงราคาน้ำมันดีเซลต่อไปจนยุบสภาและรอรัฐบาลชุดหน้ามาบริหารจัดการภาระหนี้กองทุนน้ำมันฯ แทน


ภาระหนี้ส้นเท้าอะไรละครับ? ตัวเลขจากฐานะของกองทุนในลิงค์ที่ให้มาบอกอยู่ว่าเป็นบวก กระทั่งรัฐบาลหน้าโง่เข้ามาก็ยังเป็นบวก

มีแต่สมัยไอ้หน้าเหลี่ยมนั่นแหละที่ทิ้งภาระหนี้กองทุนน้ำมันไว้ให้รัฐบาลต่อไปมารับภาระ ตอนนี้รัฐบาลหน้าโง่โดยนายกหัวกลวง ก็เจริญตามรอยไม่ผิดเพี้ยนเลย

หน้าด้านบิดเบือนข้อมูลตัวเลข แล้วยังมีหน้ามาโยนขี้ให้รัฐบาลก่อน ทั้งที่รัฐบาลหน้าโง่ที่ตนสนับสนุนไม่มีปัญญาบริหาร


เอ..
ผมเพิ่งมาอ่านศึกษาตามๆไปด้วย แล้วก็ชักจะ งงๆ
ท่านผู้สุดยอดช่วยอธิบายตัวสีแดงๆที่ผมเน้นข้างบนหน่อย

ไปดูงบฐานะการเงิน ณ. วันที่ 30 มิ.ย 2549 ตามลิ๊งล่างนี้กันนะ สมัยปลายยุคทักษิณ

http://www.efai.or.t...oil30-06-49.pdf


อันนี้ ณ. วันที่ 30 ก.ย 2549
http://www.efai.or.t...oil30_10_49.pdf มีสินทรัพย์สุทธิ 53,884,673,448.13 บาท

"คนพาลไร้สติ มักสร้างเรื่องและหลักฐานเท็จโกหก เพื่อคอยใส่ร้ายอีกฝ่ายหนึ่งเสมอ" :unsure:

 

นาย ''Starเก๋ง'' ฟันธง!  รถเก๋งขับมายิงเสื้อแดง :lol:      http://webboard.seri...แค/#entry842224   ;      http://webboard.seri...-25#entry408954


#122 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 06:41

ต้องขอบคุณสำหรับกำลังใจครับ ซึ่งความจริงเป็นข้อมูลทั่วไป

สรุปให้ในเรปเดียว

๑. ธันวาคมปี ๕๒ ฐานะเงินสดกองทุนน้ำมันสุทธิอยู่ที่ ๒ หมื่น ๘ พันล้านบาท http://www.efai.or.t...oi_dec_2552.pdf

๒. ธันวาคมปี ๕๓ ฐานะเงินสดกองทุนน้ำมันสุทธิอยู่ที่ ๓ หมื่น ๕ พันล้านบาท http://www.efai.or.t...l31_12_53_1.pdf และคงอยู่ในระดับนี้จนกระทั่ง เมษายน ๒๕๕๔

๓. พฤษภาคมปี ๕๔ หลังจากราคาน้ำมันพุ่งขึ้นตลอดมาตั้งแต่ต้นปี และประคองมาจนหมดเมษา เมื่อหมดพฤษภา เงินสดกองทุนน้ำมันเหลืออยู่ที่ ๑ หมื่น ๓ พันล้านบาท อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นเมื่อราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลง ก็ได้มีการเก็บเพิ่มอีกราวเดือนละ ๒ พันล้านบาท แม้จะอยู่ในช่วงยุบสภา (พค ถึง สค) http://www.efai.or.t...port-cash08.pdf

๔. เมื่อสิงหาคม ๕๔ เมื่อรัฐบาลปัจจุบันเข้ารับหน้าที่ มีเงินสดกองทุนน้ำมันสุทธิอยู่ที่ ๑ หมื่น ๗ พันล้านบาท http://www.efai.or.t...port-cash08.pdf และมีฐานะสุทธิอยู่ที่ ๑ พันล้านบาท http://www.eppo.go.t.../kbg/kbg-91.htm

๕. สิ้นกันยายน ๕๔ หลังจากแสดงปาหี่ลดราคาน้ำมัน งดเก็บเงินเข้ากองทุน ฐานะกองทุนน้ำมันหดไปเหลือ ๖๐๐ ล้านบาท และติดลบ ๑ พัน ๓ ร้อยล้านบาท ในเดือนตุลาคมตามลำดับ ทั้งที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลง http://www.thaipost....ws/190911/45223 (กันยายน) http://202.44.52.249...ail.aspx?id=242 (ตุลาคม)

๖. ธันวาคม ๕๔ หลังจากราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งขึ้นอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน และปาหี่จบลง สถานะกองทุนน้ำมันสุทธิติดลบที่ ๑ หมื่น ๒ พันล้านบาท http://www.eppo.go.t.../kbg/kbg-95.htm (เรื่องที่ ๓ ในสาระสำคัญข้อที่ ๓)

๗. มกราคม ๕๕ ติดลบเพิ่มเป็น ๑ หมื่น ๕ พันล้าน และเพิ่มเป็น ๑ หมื่น ๗ พันล้านในกลางเดือนกุมภาพันธ์http://www.efai.or.t...ney11012555.htm


๘. ณ วันที่ ๑ เมษายน สถานะกองทุนติดลบที่ ลบ ๒ หมื่น ๒ พันล้านบาท พร้อมกับราคาน้ำมันที่สูงขึ้น (แต่ควายไม่รู้สึก) http://www.efai.or.t...heoil-money.htm

ค่อนข้างมั่นใจว่า อีกไม่กี่วัน ในปลักควายไหนสักปลัก(หรือหลายปลัก) จะมีการนำตัวเลขไปบิดเบือนว่า รัฐบาลที่แล้ววางยา ไม่ยอมเก็บเงินเพิ่มช่วงต้นปี ๕๔ และใช้เงินไปเกือบหมดตอนพฤษภาคม จนรัฐบาลนี้เหลือเงินไม่พอ (ส่งให้ ๑ หมื่น ๗ พันล้าน แต่แม่งผลาญเกือบหมดในเดือนเดียว แถมตอนที่รัฐบาลสมชายส่งให้รัฐบาลอภิสิทธิ์ มีอยู่แค่ ๘ พันล้าน แถมพร้อมกับเศรษฐกิจห่วย ๆ เงินคงคลังติดก้นหม้อ) ทำนองเดียวกับตอนน้ำท่วมที่หาว่าอภิสิทธิ์กักน้ำ

แบบเดียวทีเคยเกิดกับตารางดัชนีเศรษฐกิจที่เคยร่วมกับคุณพิงค์ และคุณมหาอสุรา ทำขึ้นสมัยบอร์ดเก่านั่นแล

Edited by baezae, 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 07:42.

ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#123 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 06:47



ที่มี น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ยังคงยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้มีเงินสดพอที่จะพยุงราคาน้ำมันดีเซลต่อไปจนยุบสภาและรอรัฐบาลชุดหน้ามาบริหารจัดการภาระหนี้กองทุนน้ำมันฯ แทน


ภาระหนี้ส้นเท้าอะไรละครับ? ตัวเลขจากฐานะของกองทุนในลิงค์ที่ให้มาบอกอยู่ว่าเป็นบวก กระทั่งรัฐบาลหน้าโง่เข้ามาก็ยังเป็นบวก

มีแต่สมัยไอ้หน้าเหลี่ยมนั่นแหละที่ทิ้งภาระหนี้กองทุนน้ำมันไว้ให้รัฐบาลต่อไปมารับภาระ ตอนนี้รัฐบาลหน้าโง่โดยนายกหัวกลวง ก็เจริญตามรอยไม่ผิดเพี้ยนเลย

หน้าด้านบิดเบือนข้อมูลตัวเลข แล้วยังมีหน้ามาโยนขี้ให้รัฐบาลก่อน ทั้งที่รัฐบาลหน้าโง่ที่ตนสนับสนุนไม่มีปัญญาบริหาร


เอ..
ผมเพิ่งมาอ่านศึกษาตามๆไปด้วย แล้วก็ชักจะ งงๆ
ท่านผู้สุดยอดช่วยอธิบายตัวสีแดงๆที่ผมเน้นข้างบนหน่อย

ไปดูงบฐานะการเงิน ณ. วันที่ 30 มิ.ย 2549 ตามลิ๊งล่างนี้กันนะ สมัยปลายยุคทักษิณ

http://www.efai.or.t...oil30-06-49.pdf


อันนี้ ณ. วันที่ 30 ก.ย 2549
http://www.efai.or.t...oil30_10_49.pdf มีสินทรัพย์สุทธิ 53,884,673,448.13 บาท


กะลาอ่านนี่ละกัน

4. ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 10 ตุลาคม 2549 มีเงินสดสุทธิจำนวน 14,441 ล้านบาท มีหนี้สินค้างชำระจำนวน 64,848 ล้านบาท หนี้พันธบัตรจำนวน 26,400 ล้านบาท หนี้เงินกู้สถาบันการเงินจำนวน 24,702 ล้านบาท หนี้เงินชดเชยตรึงราคาค้างชำระจำนวน 1,627 ล้านบาท หนี้ชดเชยราคาก๊าซ LPG จำนวน 11,510 ล้านบาท หนี้เงินคืนกรณีอื่นๆ จำนวน 159 ล้านบาท ดอกเบี้ยค้างจ่ายประจำเดือน 450 ล้านบาท ฐานะกองทุนน้ำมันฯ สุทธิติดลบ 50,407 ล้านบาท และคาดว่าจะมีเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ในเดือนตุลาคมประมาณ 2,500 ล้านบาท และมีรายจ่ายมากกว่ารายรับจำนวน 8,944 ล้านบาท

http://www.eppo.go.t.../kbg/kbg-16.htm (เรื่องที่ ๑ ข้อ ๔)
ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#124 Tam-mic-ra.

Tam-mic-ra.

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,948 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 06:52

นี่ก้ออีกข้อหนึ่ง ช่วยอธิบายหน่อย พอดีไปเจอมา
ข่าวย้อนไปเมื่อวันจันทร์ที่ 11 เมษายน 2011 สมัยมาร์ค

http://www.thannews....-14-&Itemid=407




อุ้มน้ำมันเจ๊ง3พันล. บัญชีหลอกตาหนี้บาน 1.4 หมื่นล้าน
***ติดลบบัญชีกว่า3พันล.
แต่ทั้งนี้ หากมองตัวเลขทางบัญชีจะพบว่า กองทุนน้ำมันฯขณะนี้อยู่ในฐานะติดลบแล้วกว่า 3,000 ล้านบาท เนื่องจากมีตัวเลขหนี้ที่ทางคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ได้เคยมีมติไปแล้วแต่ยังมีการเบิกจ่ายอยู่จำนวน 14,361 ล้านบาท ประกอบด้วยเงินค่าปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์รถแท็กซี่ 1,200 ล้านบาท เงินชดเชยก๊าซแอลพีจีจากโรงกลั่นน้ำมันเพื่อทดแทนการนำเข้า 1,428 ล้านบาท เงินชดเชยการตรึงราคาเอ็นจีวีช่วงเดือนกันยายน 2553 ถึงกุมภาพันธ์ 2554 จำนวน 2,094 ล้านบาท เงินชดเชยการตรึงราคาเอ็นจีวีช่วงเดือนมีนาคมถึงมิถุนายน 2554 จำนวน 1,547 ล้านบาท และเงินชดเชยแอลพีจีนำเข้าช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนมิถุนายน 2554 อีก 8,092 ล้านบาท เมื่อหักจากยอดเงินสดที่มีอยู่เท่ากับว่ากองทุนน้ำมันมีฐานะติดลบแล้ว 3,135 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามดร.ศิวะนันท์กล่าวว่า หากประเมินเงินสดที่มีอยู่ บวกกับเงินที่ไหลเข้ากองทุนน้ำมันฯเดือนละประมาณ 2,100 ล้านบาท และยังสามารถใช้หนี้ที่อยู่ระหว่างการเบิกจ่ายไม่ว่าจะเป็นเงินชดเชยนำเข้าแอลพีจีและเอ็นจีวีและอื่นๆอีกกว่า 7,000 ล้านบาท ยังพอมีระยะเวลาในการเบิกจ่าย 2-6 เดือน ดังนั้น กองทุนน้ำมันฯจะยังสามารถอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลออกไปได้ถึงเดือนกรกฎาคมหรือสิงหาคม 2554 เป็นอย่างช้า หากรัฐบาลไม่มีมาตรการอื่นมาช่วยเสริม


ข่าวว่าถึงสมัยของนายคนนี้น่ะ
Posted Image

"คนพาลไร้สติ มักสร้างเรื่องและหลักฐานเท็จโกหก เพื่อคอยใส่ร้ายอีกฝ่ายหนึ่งเสมอ" :unsure:

 

นาย ''Starเก๋ง'' ฟันธง!  รถเก๋งขับมายิงเสื้อแดง :lol:      http://webboard.seri...แค/#entry842224   ;      http://webboard.seri...-25#entry408954


#125 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 06:58

นี่ก้ออีกข้อหนึ่ง ช่วยอธิบายหน่อย พอดีไปเจอมา
ข่าวย้อนไปเมื่อวันจันทร์ที่ 11 เมษายน 2011 สมัยมาร์ค

http://www.thannews....-14-&Itemid=407




อุ้มน้ำมันเจ๊ง3พันล. บัญชีหลอกตาหนี้บาน 1.4 หมื่นล้าน
***ติดลบบัญชีกว่า3พันล.
แต่ทั้งนี้ หากมองตัวเลขทางบัญชีจะพบว่า กองทุนน้ำมันฯขณะนี้อยู่ในฐานะติดลบแล้วกว่า 3,000 ล้านบาท เนื่องจากมีตัวเลขหนี้ที่ทางคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ได้เคยมีมติไปแล้วแต่ยังมีการเบิกจ่ายอยู่จำนวน 14,361 ล้านบาท ประกอบด้วยเงินค่าปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์รถแท็กซี่ 1,200 ล้านบาท เงินชดเชยก๊าซแอลพีจีจากโรงกลั่นน้ำมันเพื่อทดแทนการนำเข้า 1,428 ล้านบาท เงินชดเชยการตรึงราคาเอ็นจีวีช่วงเดือนกันยายน 2553 ถึงกุมภาพันธ์ 2554 จำนวน 2,094 ล้านบาท เงินชดเชยการตรึงราคาเอ็นจีวีช่วงเดือนมีนาคมถึงมิถุนายน 2554 จำนวน 1,547 ล้านบาท และเงินชดเชยแอลพีจีนำเข้าช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนมิถุนายน 2554 อีก 8,092 ล้านบาท เมื่อหักจากยอดเงินสดที่มีอยู่เท่ากับว่ากองทุนน้ำมันมีฐานะติดลบแล้ว 3,135 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามดร.ศิวะนันท์กล่าวว่า หากประเมินเงินสดที่มีอยู่ บวกกับเงินที่ไหลเข้ากองทุนน้ำมันฯเดือนละประมาณ 2,100 ล้านบาท และยังสามารถใช้หนี้ที่อยู่ระหว่างการเบิกจ่ายไม่ว่าจะเป็นเงินชดเชยนำเข้าแอลพีจีและเอ็นจีวีและอื่นๆอีกกว่า 7,000 ล้านบาท ยังพอมีระยะเวลาในการเบิกจ่าย 2-6 เดือน ดังนั้น กองทุนน้ำมันฯจะยังสามารถอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลออกไปได้ถึงเดือนกรกฎาคมหรือสิงหาคม 2554 เป็นอย่างช้า หากรัฐบาลไม่มีมาตรการอื่นมาช่วยเสริม


ข่าวว่าถึงสมัยของนายคนนี้น่ะ
Posted Image


กะลาเชื่ออะไรดี ข่าว หรือรายงานจากหน่วยงานราชการ?

แล้วได้อ่านจบหรือเปล่าว่า มันมีเงินไหลเข้าอยู่ เพื่อมาชดเชยกับราคาน้ำมันที่สูงขึ้นและเก็บเงินเข้ากองทุนได้น้อยลง ต่อให้ไม่มีมาตราการอะไรรองรับ ยังอยู่ได้จนถึงสิงหาคม

ต่อให้ตัวเลขของกะลาตามข่าวถูก ก็แสดงว่ามีการออกมาตราการที่สามารถรับมือสถานการณ์ได้จนกองทุนกลับมาเป็นบวก จนกระทั่งส่งต่อให้รัฐบาลหน้าโง่ยังบวกเป็นหมื่นล้านให้แสดงปาหี่หลอกควายได้ ๑ เดือนแน่ะ

Edited by baezae, 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 07:03.

ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#126 Tam-mic-ra.

Tam-mic-ra.

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,948 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 07:03

อธิบายอีกหน่อยน่ะ

http://www.suthichai...com/detail/8809

เผยนายกฯ ตีความฐานะกองทุนใหม่
นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน กล่าวว่า การตรึงราคาดีเซลอยู่ที่ 30 บาทไปจนถึงสิ้นเดือนเม.ย.ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี โดยใช้เงินกระแสเงินสดของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง โดยไม่คิดรวมหนี้สินภาระกองทุนมาใช้ในการตรึงราคาดีเซล
เขากล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้เสนอในการหารือว่าให้ตีความฐานะกองทุนสุทธิของกองทุนน้ำมันให้ชัดเจนว่ามีกระแสเงินสดเหลืออยู่เท่าใด ซึ่งกระทรวงพลังงานได้มีการชี้แจงว่ากองทุนมีภาระ 1.4 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นหนี้สินค้างจ่ายเรื่องเอ็นจีวีที่ค้างชำระให้กับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) วงเงิน 5.7 พันล้านบาท เป็นภาระชดเชยเอ็นจีวี 2 บาทต่อกิโลกรัม และภาระการชดเชยการนำเข้าแอลพีจี และเอ็นจีวีจนถึงเดือนมิ.ย.เป็นเงิน 7 พันล้านบาท ขณะที่เงินสดในบัญชีของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีทั้งสิ้นประมาณ 3.5 หมื่นล้านบาท ทำให้เมื่อหักลบจากเงินภาระของกองทุนฯ กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะมีเงินสุทธิอยู่ที่ประมาณ 2.1 หมื่นล้านบาท
"ที่ประชุมมีความเห็นว่าหากพิจารณาถึงกระแสเงินสดที่มีอยู่ โดยยังไม่รวมภาระหนี้สินที่กองทุนน้ำมันฯ มีอยู่ก็จะเพียงพอที่จะตรึงราคาดีเซลต่อไปจนถึงสิ้นเดือนเม.ย. โดยไม่จำเป็นจะต้องกู้เงินเข้ามาเสริมสภาพคล่องของกองทุนในการตรึงราคาดีเซล รวมทั้งไม่จำเป็นที่จะต้องลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันลงด้วย"
เมื่อถามว่าการไม่คิดรวมภาระหนี้สินของกองทุนน้ำมันฯ เป็นการโยนภาระให้กับรัฐบาลชุดต่อไปที่จะต้องแบกรับภาระส่วนนี้หรือไม่ นายแพทย์วรรณรัตน์กล่าวว่า ไม่ขอตอบในส่วนนี้เนื่องจากจะสร้างความสับสนให้กับประชาชนได้




แหม แล้วเวลาตอบ ก็อย่าให้โยนlinkบอกให้ไปอ่านเองสิ่ ก็เป็นสุดยอดแล้วนี่ :)
ก็ช่วยอธิบายหน่อยสิ่น่ะ ว่าอะไรมัันเป็นยังไง เพิ่งมาศึกษาน่ะ

"คนพาลไร้สติ มักสร้างเรื่องและหลักฐานเท็จโกหก เพื่อคอยใส่ร้ายอีกฝ่ายหนึ่งเสมอ" :unsure:

 

นาย ''Starเก๋ง'' ฟันธง!  รถเก๋งขับมายิงเสื้อแดง :lol:      http://webboard.seri...แค/#entry842224   ;      http://webboard.seri...-25#entry408954


#127 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 07:38

อธิบายอีกหน่อยน่ะ

http://www.suthichai...com/detail/8809

เผยนายกฯ ตีความฐานะกองทุนใหม่
นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน กล่าวว่า การตรึงราคาดีเซลอยู่ที่ 30 บาทไปจนถึงสิ้นเดือนเม.ย.ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี โดยใช้เงินกระแสเงินสดของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง โดยไม่คิดรวมหนี้สินภาระกองทุนมาใช้ในการตรึงราคาดีเซล
เขากล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้เสนอในการหารือว่าให้ตีความฐานะกองทุนสุทธิของกองทุนน้ำมันให้ชัดเจนว่ามีกระแสเงินสดเหลืออยู่เท่าใด ซึ่งกระทรวงพลังงานได้มีการชี้แจงว่ากองทุนมีภาระ 1.4 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นหนี้สินค้างจ่ายเรื่องเอ็นจีวีที่ค้างชำระให้กับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) วงเงิน 5.7 พันล้านบาท เป็นภาระชดเชยเอ็นจีวี 2 บาทต่อกิโลกรัม และภาระการชดเชยการนำเข้าแอลพีจี และเอ็นจีวีจนถึงเดือนมิ.ย.เป็นเงิน 7 พันล้านบาท ขณะที่เงินสดในบัญชีของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีทั้งสิ้นประมาณ 3.5 หมื่นล้านบาท ทำให้เมื่อหักลบจากเงินภาระของกองทุนฯ กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะมีเงินสุทธิอยู่ที่ประมาณ 2.1 หมื่นล้านบาท
"ที่ประชุมมีความเห็นว่าหากพิจารณาถึงกระแสเงินสดที่มีอยู่ โดยยังไม่รวมภาระหนี้สินที่กองทุนน้ำมันฯ มีอยู่ก็จะเพียงพอที่จะตรึงราคาดีเซลต่อไปจนถึงสิ้นเดือนเม.ย. โดยไม่จำเป็นจะต้องกู้เงินเข้ามาเสริมสภาพคล่องของกองทุนในการตรึงราคาดีเซล รวมทั้งไม่จำเป็นที่จะต้องลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันลงด้วย"
เมื่อถามว่าการไม่คิดรวมภาระหนี้สินของกองทุนน้ำมันฯ เป็นการโยนภาระให้กับรัฐบาลชุดต่อไปที่จะต้องแบกรับภาระส่วนนี้หรือไม่ นายแพทย์วรรณรัตน์กล่าวว่า ไม่ขอตอบในส่วนนี้เนื่องจากจะสร้างความสับสนให้กับประชาชนได้




แหม แล้วเวลาตอบ ก็อย่าให้โยนlinkบอกให้ไปอ่านเองสิ่ ก็เป็นสุดยอดแล้วนี่ :)
ก็ช่วยอธิบายหน่อยสิ่น่ะ ว่าอะไรมัันเป็นยังไง เพิ่งมาศึกษาน่ะ


หัดอ่านเองย่อยเองมั่งเหอะ กะลาเอ๋ย เผื่อจะหายโง่

ในรายงานการประชุมเค้าก็บอกกระแสเงินสด ฐานะสุทธิหลังจากหักหนี้สินแล้วว่าเหลือเท่าไร

พฤษภาคม หลังเงินสดลดเหลือ ๑.๓ หมื่นแล้ว ฐานะสุทธิเหลือบวก ๔๔๖ ล้าน http://www.eppo.go.t.../kbg/kbg-80.htm

เข้าช่วงสูญญากาศ

มิถุนายน ได้เงินสดมาโปะ ใช้หนี้ พยุงอยู่ที่ ๔๑๒ ล้าน http://www.eppo.go.t.../kbg/kbg-84.htm มีเงินสด ๑.๓ หมื่นล้าน

กรกฎาคม ฐานะสุทธิเริ่มติดลบที่ ๕๒๔ ล้าน http://www.eppo.go.t.../kbg/kbg-89.htm มีเงินสด ๑.๕ หมื่นล้าน

ต้นสิงหาคม ฐานะสุทธิติดลบลดลงเหลือ ๕๕ ล้าน http://www.eppo.go.t.../kbg/kbg-90.htm

ปลายสิงหาคม ก่อนชะลอเก็บเงินเข้ากองทุน ฐานะสุทธิอยู่ที่ ๑ พันล้านบาท http://www.eppo.go.t.../kbg/kbg-91.htm มีเงินสด ๑.๘หมื่นล้าน

มาวันนี้ ฐานะสุทธิติดลบเบาะ ๒.๒ หมื่นล้าน มีสินทรัพย์รวม ๔ พันล้าน http://www.efai.or.t...heoil-money.htm

ไม่ทราบรัฐบาลที่รักของกะลาทำอะไรอยู่ครับ?
ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#128 Tam-mic-ra.

Tam-mic-ra.

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,948 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 07:53


นี่ก้ออีกข้อหนึ่ง ช่วยอธิบายหน่อย พอดีไปเจอมา
ข่าวย้อนไปเมื่อวันจันทร์ที่ 11 เมษายน 2011 สมัยมาร์ค

http://www.thannews....-14-&Itemid=407





กะลาเชื่ออะไรดี ข่าว หรือรายงานจากหน่วยงานราชการ?

แล้วได้อ่านจบหรือเปล่าว่า มันมีเงินไหลเข้าอยู่ เพื่อมาชดเชยกับราคาน้ำมันที่สูงขึ้นและเก็บเงินเข้ากองทุนได้น้อยลง ต่อให้ไม่มีมาตราการอะไรรองรับ ยังอยู่ได้จนถึงสิงหาคม

ต่อให้ตัวเลขของกะลาตามข่าวถูก ก็แสดงว่ามีการออกมาตราการที่สามารถรับมือสถานการณ์ได้จนกองทุนกลับมาเป็นบวก จนกระทั่งส่งต่อให้รัฐบาลหน้าโง่ยังบวกเป็นหมื่นล้านให้แสดงปาหี่หลอกควายได้ ๑ เดือนแน่ะ


คนพูดในข่าว ก็คือ ดร.ศิวะนันท์ ณ นคร ผู้อำนวยการสถาบันบริการกองทุนพลังงาน www.efai.or.th/
กะโหลกจะสนใจจับผิดกันทำไม ว่าข้อมูลมาจาก ข่าว หรือรายงานจากหน่วยงานราชการ?

แล้วที่เถียงมาว่า อยู่ได้จนถึงสิงหาคม อะไรนั่นน่ะ มันก็ข้อมูลจากคนพูดคนเดียวกัน
ตกลงจะเอาไงแน่ คุณกะโหลกจะยึดหลักไหน

"คนพาลไร้สติ มักสร้างเรื่องและหลักฐานเท็จโกหก เพื่อคอยใส่ร้ายอีกฝ่ายหนึ่งเสมอ" :unsure:

 

นาย ''Starเก๋ง'' ฟันธง!  รถเก๋งขับมายิงเสื้อแดง :lol:      http://webboard.seri...แค/#entry842224   ;      http://webboard.seri...-25#entry408954


#129 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 07:59



นี่ก้ออีกข้อหนึ่ง ช่วยอธิบายหน่อย พอดีไปเจอมา
ข่าวย้อนไปเมื่อวันจันทร์ที่ 11 เมษายน 2011 สมัยมาร์ค

http://www.thannews....-14-&Itemid=407





กะลาเชื่ออะไรดี ข่าว หรือรายงานจากหน่วยงานราชการ?

แล้วได้อ่านจบหรือเปล่าว่า มันมีเงินไหลเข้าอยู่ เพื่อมาชดเชยกับราคาน้ำมันที่สูงขึ้นและเก็บเงินเข้ากองทุนได้น้อยลง ต่อให้ไม่มีมาตราการอะไรรองรับ ยังอยู่ได้จนถึงสิงหาคม

ต่อให้ตัวเลขของกะลาตามข่าวถูก ก็แสดงว่ามีการออกมาตราการที่สามารถรับมือสถานการณ์ได้จนกองทุนกลับมาเป็นบวก จนกระทั่งส่งต่อให้รัฐบาลหน้าโง่ยังบวกเป็นหมื่นล้านให้แสดงปาหี่หลอกควายได้ ๑ เดือนแน่ะ


คนพูดในข่าว ก็คือ ดร.ศิวะนันท์ ณ นคร ผู้อำนวยการสถาบันบริการกองทุนพลังงาน www.efai.or.th/
กะโหลกจะสนใจจับผิดกันทำไม ว่าข้อมูลมาจาก ข่าว หรือรายงานจากหน่วยงานราชการ?

แล้วที่เถียงมาว่า อยู่ได้จนถึงสิงหาคม อะไรนั่นน่ะ มันก็ข้อมูลจากคนพูดคนเดียวกัน
ตกลงจะเอาไงแน่ คุณกะโหลกจะยึดหลักไหน


แล้วกะลาเห็นหรือเปล่าว่า การบริหาร เก็บเงินเข้ากองทุนน่ะ มันส่งต่อชนิดที่รัฐบาลปัจจุบันเข้ามาได้สิบวันนิด ๆ ยังไม่ทันทำอะไร มีฐานะสุทธิให้แล้ว ๑ พันล้าน มีเงินสดให้ ๑.๗ หมื่นล้าน

แสดงว่าก่อนหน้าเค้ามีมาตราการแก้ไขภาวะที่กองทุนมีฐานะแย่ลง ราคาน้ำมันสูงขึ้น เตรียมไว้ให้รัฐบาลที่รักของกะลาเรียบร้อย

แล้วรัฐบาลที่รักของกะลาว่าไงจ๊ะ เดือนแรกหายไป ๔๐๐ ล้าน เดือนถัดมาหายอีก ๑ พัน ๔ ร้อยล้าน จนวันนี้หายไปเป็นหมื่นล้าน

ดีใจไหมจ๊ะ รัฐบาลที่รักมีผลงานที่สุดแสนจะน่ารักแบบนี้?
ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#130 ครุฑดำ

ครุฑดำ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,056 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 09:35



http://www.efai.or.t...port-cash08.pdf

สังเกตุดูดีๆครับยุคมาร์ค มค-พค 54 ก็แทบจะเก็บเงินเข้ากองทุนไม่ได้เหมือนกันครับ

และเจอน้ำมันแพงเข้าไป2เดือน ก็ติดลบไปเดือนละ 10000 ล้านครับ


อีกอย่างต้องดูว่าสมัยยิ่งลักษณ์ น้ำมันดิบ เดือน กุมภา กับ มีนา มันเท่าไร

ถ้ามากกว่าสมัยมาร์ค 110 ดอลล่าละครับ ก็ต้องติดลบเป็นธรรมดา

และผมมั่นใจว่าอยู่ในหลักร้อยดอลล่าแน่นอนเพราะสถานะการณ์อิหร่าน





ไปนอนนะครับเดี๋ยวพรุ่งนี้จะเข้ามาใหม่


จะเก็บเข้าทำไม ในเมื่ออยู่ในสถานะทีกองทุนมีเงินเหลือพอ รักษาระดับ ๓.๕ หมื่นล้านมาตลอด

หลักการของกองทุนน้ำมัน คือเก็บในช่วงที่ราคาน้ำมันต่ำเพื่อนำไปชดเชยเมื่อราคาน้ำมันสูง และผ่อนการเก็บเมื่อราคาน้ำมันสูงเพื่อไม่ให้กระทบกับราคาภายในประเทศมากเกิน ไม่ได้มุ่งหวังทำกำไรเสียหน่อย เมื่อเก็บได้ระดับที่ปลอดภัย เห็นว่าพอประคองสถานการณ์ได้ก็ต้องบรรเทาการเก็บเงินเข้า

แล้วตารางตัวเองน่ะไม่ได้สนใจดูหรือไงว่ามันไม่ได้แพงแค่ ๒ เดือน มันโดดมาตั้งแต่มีนา จนพฤษภา แล้วจนถึงกรกฎาราคาก็ยังอยู่ที่ ๙๕ เหรียญอยู่เลย

ราคากุมภา มีนาปีนี้ก็อยู่หน้าที่แล้ว ไม่ได้สนใจดูอีก ตอนกุมภาน่ะอยู่ราว ๑๐๐ เหรียญ แล้วก็เด้งมาช่วง ๑๑๐ ช่วงมีนา หลังจากนั้นก็ลดลง ปัจจุบันอยุ่ที่ ๑๐๒

แต่ถามว่าฐานะกองทุนมันเพิ่งมาติดลบหรือ? เปล่า มันติดลบมาตั้งแต่ตุลาโน่น พอสถานะการณ์มันยิ่งแย่ มันเลยหมกเม็ดกันไม่ไหว ต้องกลับมาเก็บกันใหม่ซึ่งก็ตามโปะไอ้ที่ติดลบไปก่อนหน้าไม่ทัน

แสดงให้เห็นว่าไม่ได้วางแผน ไม่ได้เตรียมการ ไม่ได้วางแนวโน้มอะไรเลยอย่างที่เคยบอกไว้ก่อนหน้า

อย่างนี้ไม่เรียกบริหารผิดพลาด บริหารไม่เป็นแล้วเรียกอะไร?

โอเคครับอ่านข้ามไปเอาเป็นว่าข้อสังสัยผมหมดแล้วครับ


ว๊า...ว่าจะแก้ต่างให้ท่านยิ่งเลอะซะหน่อย หัวเทียนบอดซะก่อน :lol: :lol:

เอ็งขอเป็น"ขี้ข้าโจร" ข้าเลือกเป็น"ข้าธุลีพระบาท" เอ็งขอเป็น"ไพร่" ข้าเลือกเป็น"พสกนิกร"


#131 Charlie

Charlie

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,449 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 09:42

เข้ามาดูเช้าๆ ว่ามีชาบูกันไปถึงไหนแล้ว เปิดข่าวตอนเช้าน้ำมันก็ขึ้นอีก 50 สต.ละ ไม่รู้ว่าพวกชาบูมันเดิมอะไรไปทำงานวะ แค่มองเรื่องการบริหารจัดการผิดพลาดยังไปโทษคนอื่นได้อีก อยุู่ในปลักต่อไปเถอะ รอความซิบหายที่กำลังจะมาเยือน

คนดีจริงไม่โกงที่วัด ไม่ยุแยงให้คนแตกแยก ไม่หลอกคนอื่นให้มารับเคราะห์ตายแทน


#132 ซามูไร ไข่เจียว

ซามูไร ไข่เจียว

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 159 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 09:56

แหมๆมีมุดเข้ารูไปหาเพื่อนมาช่วยนะฮะ ตกลงไม่มีเพื่อนในรูคนไหนรู้จริงเลยใช่ปล่าว ถึงยังไม่มีใครให้ข้อมูลมาโต้แย้ง

http://forum.banrasd...ad.php?tid=5073

#133 Critical

Critical

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 642 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 11:03

เข้ามาดูพวกโง่แต่ขยัน ถึงขั้นเรียกพวกออกมาจากรู ฮ่าๆๆ :lol:
"การยอมรับแนวคิดหนึ่งในวงกว้าง ไม่ได้เป็นสิ่งพิสูจน์ความถูกต้องของความคิดนั้น" - แดน บราวน์, สาส์นลับที่สาบสูญ

#134 evomans136

evomans136

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 112 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 11:34

ไปนอนมาพักหนึ่งกลับมาต่อครับ สมัยปู เข้ามาไม่ใช่ 17000 ล้าน นะครับ


ไปตามข่าวมาเงินสดในบัญชีจริงๆเหลือแค่ 363 ล้านบาท เท่าน้ันครับ ย้ำว่าเงินสด

เพราะไปอุ้มดีเซลครับ

จี้'มาร์ค'ถกด่วนรับมือน้ำมัน อุ้มดีเซลกองทุนใกล้ถังแตก เหลือ7พันล้านพอใช้แค่มี.ค


กบง.มีมติชดเชยน้ำมันดีเซลอีก 50 สตางค์ต่อลิตร กระทบฐานะเงินกองทุนร่อยหรออย่างรวดเร็ว คาดเงินไม่พออุดหนุนถึง เม.ย.แค่ มี.ค.ยังไม่รู้จะพอใช้หรือไม่ 'วรรณรัตน์'นั่งไม่ติด ขอหารือนายกฯ เร่งเรียกประชุม กพช.ด่วน

นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.)วันที่ 4 มีนาคม ว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้เพิ่มเงินชดเชยจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับน้ำมันดีเซลอีกลิตรละ 50 สตางค์ เพื่อไม่ให้ราคาน้ำมันดีเซลปรับสูงเกิน 30 บาทต่อลิตร ส่งผลให้ยอดการชดเชยดีเซลต่อลิตรจาก 4.50 บาท เป็น 5 บาทต่อลิตร

ซึ่งการเพิ่มการชดเชยน้ำมันดีเซลครั้งนี้มีผลทำให้กองทุนน้ำมันฯมีเงินไหลออกเพิ่มเป็น 302 ล้านบาทต่อวัน หรือประมาณ 9,054 ล้านบาทต่อเดือน จากก่อนหน้านี้ไหลออก 247 ล้านบาทต่อวัน หรือ 7,405 ล้านบาทต่อเดือน และตั้งแต่มีการตรึงราคาน้ำมันดีเซลตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2553-4 มีนาคมนี้ กองทุนน้ำมันฯได้จ่ายชดเชยไปแล้วประมาณ 9,026 ล้านบาท ทำให้มีเงินเหลือสุทธิประมาณ 7,000 ล้านบาท ซึ่งจะใช้ได้ไม่ถึงสิ้นเดือนมีนาคมนี้ ดังนั้น ต้องเร่งขอนัดประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี (กพช.) ให้เร็วที่สุด เพื่อหาแนวทางแก้ไขต่อไป

นพ.วรรณรัตน์กล่าวถึงแนวทางแก้ไขว่า มีอยู่ 2 แนวทางเท่านั้น คือ การปรับลดภาษีสรรพสามิต กับการปรับเพิ่มเพดานการตรึงราคาน้ำมันดีเซลจาก 30 บาทต่อลิตร ซึ่งเรื่องนี้ต้องหารือใน กพช.ว่าจะเลือกแนวทางไหน"ก่อนหน้านี้ เรามีแนวทางจะนำรายได้จากค่าภาคหลวงปิโตรเลียมบางส่วนมาใช้ชดเชยส่วนต่างราคานำเข้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี)เพื่อลดภาระกองทุนน้ำมันฯ แต่ต้องผ่านขั้นตอนการแก้ไขกฎหมายซึ่งต้องใช้เวลา 1-2 ปี ส่วนที่รัฐบาลเคยบอกว่าจะจัดสรรงบประมาณให้ใช้สำหรับการตรึงราคาพลังงานต่างๆ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะนำเงินจากที่ใดมาชดเชยภาระกองทุนน้ำมันฯ"

นายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.)กล่าวว่า ที่ประชุม กบง.ได้ให้ สนพ. ทำข้อมูลและศึกษาแนวทางรองรับกรณีเงินกองทุนน้ำมันฯหมดลง เพื่อเสนอข้อมูลต่อ กพช.เนื่องจากราคาน้ำมันตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ภาระการชดเชยของเงินกองทุนน้ำมันฯเพิ่มตาม จนเหลือสุทธิอยู่ที่ 7,000 ล้านบาท ซึ่งจะต้องตัดสินใจในที่ประชุม กพช.ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

นายศิวะนันท์ ณ นคร ผู้อำนวยการสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (องค์การมหาชน) กล่าวแจงรายละเอียดที่กองทุนน้ำมันเหลือเงินสุทธิเพียง 7,000 ล้านบาท ว่าขณะนี้กองทุนน้ำมันฯมีเงินสดในมือเหลืออยู่ประมาณ 14,000-15,000 ล้านบาท เมื่อหักภาระจากโครงการเปลี่ยนแท็กซี่แอลพีจีเป็นเอ็นจีวี 1,200 ล้านบาทและชดเชยก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) 2 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) หรือ 400 ล้านบาทต่อเดือน และชดเชยส่วนต่างแอลพีจีอีก 2,200 ล้านบาทต่อเดือน ก็จะเหลือเงินสุทธิที่ 7,000 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา นายกฯยังยืนยันว่าจะยังคงใช้นโยบายให้กองทุนน้ำมันฯพยุงราคาดีเซลจนถึงสิ้นเดือนเมษายน จากนั้นค่อยเรียกประชุมเพื่อหาแนวทางอื่นๆ เสริมกองทุนน้ำมันฯในการพยุงราคาดีเซลต่อไป จี้พัฒนาที่ราชพัสดุทั่วปท.9หมื่นไร่--จบ--


ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน


http://its.in.th/ind...rticle/6611---7




นี้คือหลักฐานว่าเหลือ 363 ล้าน




รัฐหมดเงินอุ้มราคาน้ำมัน เผยเหลือแค่ 363ล้านบาท


Posted Image

เตรียมปรับขึ้นราคาแอลพีจี และกู้เงินเพิ่ม ขณะที่ปั๊มต่างชาติทยอยขึ้นน้ำมันดีเซลทะลุ 30บาท
15 มิ.ย.54 รายงานข่าวแจ้งว่าวานนี้ (14 มิ.ย.) นายณอคุณ สิทธิพงศ์ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ว่า ที่ประชุมได้รับทราบถึงสถานะกองทุนน้ำมันฯ ที่ยังมีกระแสเงินสดสุทธิอยู่ 363 ล้านบาท
โดยที่ประชุมยังไม่ได้พิจารณาแผนการกู้เงิน 2หมื่นล้านบาท เพื่อนำมาอุ้มราคาน้ำมันในช่วงนี้ เนื่องจากยังคงมีเวลาที่จะติดตามราคาน้ำมันตลาดโลกอยู่ ซึ่งถ้าหากน้ำมันดิบดูไบเกิน 110เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลจริง อาจจำเป็นจะต้องกู้เพิ่ม
นอกจากนี้ยังเตรียมปรับราคาแอลพีจีภาคอุตสาหกรรมเป็น 3บาทต่อกิโลกรัม (กก.)ในวันที่ 1 ก.ค.นี้ ซึ่งจะทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายรับเพิ่มอีกเดือนละ 120ล้านบาทด้วย
นอกจากนี้รายงานยังแจ้งต่ออีกว่า ขณะนี้ราคาน้ำมันดีเซลได้พุ่งทะยานทะลุ30บาทไปแล้ว ภายหลังปั๊มน้ำมันต่างชาติได้ปรับราคาขึ้นตั้งแต่วานนี้โดยเอสโซ่ ปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซล 40สตางค์/ลิตร ทำให้ราคาเท่ากับคาลเท็กซ์และปิโตรนาส ลิตรละ 30.39 บาท ส่วนเชลล์ราคาอยู่ที่ 30.49 บาท/ลิตร
ด้านปตท.และบางจาก ยังตรึงไว้ที่ 29.99 บาท/ลิตรซึ่งค่าการตลาดของปตท.และบางจากเหลือเพียง 40 สตางค์ต่อลิตรเท่านั้น จึงต้องขอรอดูกบง. วันนี้ว่าจะอุดหนุนเพิ่มหรือไม่อย่างไร รวมถึงทิศทางตลาดโลกด้วย


http://news.mthai.co...ews/118308.html

เรื่องที่ 1 : การแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันแพง
สรุปสาระสำคัญ
1. ตามที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2553 และวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 เห็นชอบให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2553 ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2554 นั้น การดำเนินการที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2553 ถึงวันที่ 6 พฤษภาคม 2554 กองทุนน้ำมันฯ ได้จ่ายชดเชยเพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไปแล้วประมาณ 24,005 ล้านบาท โดยฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 13 มิถุนายน 2554 มีฐานะเบื้องต้นสุทธิ 363 ล้านบาท
2. มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2554 เห็นชอบให้ปรับอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันลดลง 5.3050 บาทต่อลิตร จาก 5.3100 บาทต่อลิตร เป็น 0.0050 บาทต่อลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน 2554 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2554 และเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2554 คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติในหลักการให้สถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (องค์การมหาชน) (สบพน.) กู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินในวงเงินประมาณ 20,000 ล้านบาท เพื่อใช้เสริมสภาพคล่องทางการเงินของกองทุนน้ำมันฯ หากราคาน้ำมันปรับเพิ่มสูงขึ้นจนทำให้กองทุนน้ำมันฯ ไม่มีสภาพคล่องที่จะไปชดเชยราคาน้ำมันเชื้อเพลิง
3. สถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกยังคงแกว่งตัวอยู่ในระดับสูง โดย ณ วันที่ 14 มิถุนายน 2554 ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 111.71 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล น้ำมันเบนซินอยู่ที่ 122.01 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 131.32 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่งผลให้ต้นทุนราคาน้ำมันในประเทศสูงขึ้น โดยที่ระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว 29.99 บาทต่อลิตร ค่าการตลาดน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ณ วันที่ 15 มิถุนายน 2554 อยู่ที่ 0.6420 บาทต่อลิตร และค่าการตลาดเฉลี่ย 5 วันทำการ อยู่ที่ 0.7143 บาทต่อลิตร
4. เพื่อเป็นการลดต้นทุนราคาน้ำมัน ฝ่ายเลขานุการฯ จึงขอเสนอปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ สำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็วลง 0.40 บาทต่อลิตร จาก 1.10 บาทต่อลิตร เป็น 0.70 บาทต่อลิตร ส่งผลให้ค่าการตลาดของน้ำมันดีเซลหมุนเร็วอยู่ที่ 1.0420 บาทต่อลิตร และค่าการตลาดเฉลี่ย 5 วันทำการ อยู่ที่ 0.7943 บาทต่อลิตร กองทุนน้ำมันฯ มีเงินไหลออกเพิ่มขึ้น 22 ล้านบาท จากติดลบ 19 ล้านบาทต่อวัน เป็นติดลบ 41 ล้านบาทต่อวัน
มติของที่ประชุม
เห็นชอบให้ปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็วลง 0.40 บาท ต่อลิตร จาก 1.10 บาทต่อลิตร เป็นเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 0.70 บาทต่อลิตร โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน รับไปดำเนินการออกประกาศคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2554 เป็นต้นไป

http://www.eppo.go.t.../kbg/kbg-83.htm


และร้ายกว่านั้นยังยกเว้นภาษีน้ำมันด้วยทำให้รัฐสูญรายได้จากภาษีน้ำมันไป 4.5 หมื่นล้านด้วย

ถ้ามาร์คไม่ลดภาษี ก็จะกลายเป็นเสียกองทุนน้ำมันแทน 4.5 ล้าน ซึ่งจะทำให้กองทุนติด ลบก่อน ถึงยิ่งลักษณ ประมาณ 4.4 หมื่น 9 พัน ล้าน



http://www.108acc.co...4&newsid=266394

แล้วคราวนี้ยิ่งลักษณ์เข้าบริหารก็เลยติดลบไปเรื่อยๆครับเ

จนต้องประกาศกลับมาเก็บภาษีน้ำมันเพื่อให้เป็นไปตามกฎไกตลาด

จึงทำให้ราคาเพิ่มขึ้นมากกว่ารัฐบาลมาร์คเพราะราคาน้ำมันในสมัยนั้นมันบิดเบือนครับเพราะรัฐอุ้ม

http://www.bugaboo.t...9%E0%B9%86.html


จบครับ

Edited by evomans136, 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 11:47.


#135 evomans136

evomans136

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 112 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 11:41

ตอบให้ได้นะครับว่าพ่อมาร์คตัวดีเก่งยังไงครับ

ผมเห็นว่าเก่งแค่เล่นแร่แปลธาตุจากใช้กองทุนน้ำมันเปลี่ยนเป็นผลาญโดยใช้ภาษี

Edited by evomans136, 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 11:45.


#136 Bourne

Bourne

    สายลับ ๆ ล่อ ๆ หัดเกรียน

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,471 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 11:49

ผมไปเจอข้อมูลน่าสนใจครับ

ณ สิ้นวันที่ 1 เมษายน 2555 กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มีฐานะ ติดลบ สุทธิ 22,834 ล้านบาท ซึ่งเป็นการติดลบเพิ่มขึ้นจากสิ้นเดือน กุมภาพันธ์ 2555 จำนวน 4,136 ล้านบาทเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของ อัตราเงินชดเชย LPG นำเข้าจากต่างประเทศ ที่สูงขึ้นตามราคาตลาดโลก และปริมาณการนำเข้า LPG ในเดือนมีนาคม 2555 สูงขึ้นกว่าเดือนก่อน และการที่กองทุนฯ ยังมีภาระชดเชยราคาสำหรับ พลังงานอื่นๆ เป็นรายวัน สูงกว่าการเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนฯ


จริง ๆ ถ้าทุกครั้งที่น้ำมันในประเทศขึ้นราคา คำตอบมีแค่นี้ คือ "ราคาสูงตามตลาดโลก ต้องชดเชย LPG เพิ่มขึ้น ฯลฯ ...blah..blah..blah..."
บอกตรง ๆ โครตห่วย หยั่งงี้ ไม่ต้องมีรัฐบานเลยก็ได้ เพราะบริหารจัดการห่านอะไรไม่เป็นเลยซักอย่าง
รัฐบาลอื่นเค้าก็เจอปัญหาแบบเดียวกันมาแล้วทั้งนั้น ยิ่งรัฐบาลมาร์คเจอหนักกว่านี้อีก

Edited by Bourne, 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 11:50.

ภาระกิจหลักของผมบนบอร์ดเสรีไทย คือ ด่าควายครับ เรื่องคิดต่างผมรับได้ แต่เรื่องคิดชั่วผมรับไม่ไหวครัช

#137 evomans136

evomans136

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 112 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 11:52

ตอบโพสสุดท้ายผมก่อนครับผมอุตสาหาข้อมูลเป็น ชม นะครับ

อย่าออกนอกเรื่อง

#138 evomans136

evomans136

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 112 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 11:55

คุณ baezae มาตอบหน่อยครับ ผมเห็นว่าคุณเป็นคนมีเหตุผลสุดครับ

ถึงจะบิดเบือนก็เหอะ

Edited by evomans136, 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 11:57.


#139 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 11:58

ฐานะเบื้องต้นสุทธิ กับเงินสดสุทธิ มันคนละอย่างกันเน้อ นี่แสดงว่าไปขุดรูหาคำตอบมา แต่ไม่ได้เข้าใจเลยว่า เงินสดที่หมุนเวียนเพื่อนำมาใช้จ่าย กับเงินคงเหลืออันเป็นฐานะกองทุนเป็นอย่างไร ใช่อันเดียวกันหรือเปล่า

จากลิงค์ที่ให้ไปก่อนหน้า http://www.efai.or.t...port-cash08.pdf จะเห็นว่าเงินสดคงเหลือสุทธิ ณ ปลายเดือนมิถุนายน ๒๕๕๔ คือ ๑ หมื่น ๓ พันล้านบาท ซึ่งลดจากเดือนก่อนหน้าคือ ๒ หมื่น ๔ พันล้านบาท โดยมีสถานะกองทุนสุทธิเมื่อวันที่ ๔๑๒ ล้านบาท http://www.eppo.go.t.../kbg/kbg-84.htm ณ วันที่ ๒๐ มิถุนายน

หมายความว่าไง หมายความว่ามีเงินเพื่อนำไปหมุนเวียนได้ ณ ขณะนั้นคือ ๑ หมื่น ๓ พันล้าน ซึ่งหากจะใช้หนี้ที่มีการกู้ยืมหรือหนี้อื่น ๆ ไปในรวดเดียวในครานั้น จะมีเงินเหลือ ๔๑๒ ล้านบาท

แต่ในเมื่อกองทุนน้ำมันมีการจัดเก็บเข้า มีการใช้หนี้ การชดเชยอยู่ตลอด ก็ไม่ได้มีการโปะเงินลงไปทีเดียวเพื่อใช้หนี้ทั้งหมดแล้วเริ่มนับศูนย์ใหม่เสียเมื่อไร เงินที่สามารถหมุนได้จึงถูกส่งไปยังเดือนต่อ ๆ ไป

จะเห็นจากข้อมูลในเดือนถัด ๆ มาว่า การจัดเก็บเงินเข้ามาหมุนเวียนเพิ่มมากขึ้น เพื่อพยุงฐานะสุทธิกองทุนที่ลดน้อยลง จนกระทั่งในวันที่ ๒๖ สิงหาคม ที่รัฐบาลปัจจุบันเข้ามาทำงานได้สิบกว่าวัน ตัวเลขฐานะกองทุนสุทธิอยู่ ๑ พันล้าน และมีเงินสดหมุนเวียนอยู่ที่ ๑ หมื่น ๗ พันล้าน

เปรียบเทียบตัวอย่างง่าย ๆ นะ

นาย ก ทำการลงทุนอย่างหนึ่ง มีทุนหมุนเวียนคือได้รับมาเพื่อใช้จ่ายอยู่ที่ ๕ บาท แต่มันไม่ได้หมายความว่านาย ก จะมีเงิน ๕ บาทสุทธิ ณ ตอนนั้น เมื่อหักจากเงินที่นำมาลงทุนก่อนหน้า ที่ต้องลงทุนล่วงหน้า และที่ต้องใช้หนี้ที่กู้ทุนมา นาย ก อาจจะเหลือฐานะ สุทธิ ๑ บาท ซึ่งหมายความว่า ณ ตอนนั้น นาย ก ยังมีสถานะการเงินเป็นบวกอยู่

แต่ นาย ก ต้องจ่ายเงินทั้งหมดเพื่อใช้หนี้ ใช้ทุนทั้งหมดในตอนนั้นเพื่อให้ตัวเองเหลือ ๑ บาทหรือเปล่า? คำตอบคือไม่ใช่ นาย ก สามารถนำเงิน ๕ บาทนั้นมาหมุน เพื่อสร้างรายได้สำหรับเดือนต่อไป โดยอาจจะเพียงแค่จ่ายทุนสำหรับเดือนหน้า ๑ บาท จ่ายหนี้ ๑ บาท แค่นั้น

วิธีการลงทุนง่าย ๆ เลยนะ

Edited by baezae, 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 12:02.

ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#140 Novice

Novice

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,353 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 12:01

สงสัยพวกแดงตามบอร์ดนี่เป็นเหมือนกันหมดหรือเปล่า คือชอบพูดไอ้เรื่องที่ตัวเองก็ไม่เข้าใจลึกซึ้ง แล้วพอได้ข้อมูลพอจะหักล้างได้ซักอย่างก็ตะลีตะลานเอามาลงเพื่อเยาะเย้ยฝ่ายตรงข้าม

อ่านแล้วเหนื่อยใจ

#141 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 12:05

อ้อ เผื่อไม่ทราบ

ณ ปัจจุบัน เงินหมุนเวียนมีอยู่ ๔ พันล้านนิดหน่อย มีฐานะสุทธิกองทุนอยู่ที่ ติดลบ ๒ หมื่น ๒ พันล้านโน่น

หมายความว่า หากเอาไอ้เงินที่อุตส่าห์กลับมาเก็บเงินเข้ากองทุนใหม่อีกรอบหลังเล่นปาหี่ลดราคาน้ำมันไปใช้หนี้ ใช้ที่ชดเชยทั้งหมดในโครมเดียวแล้วล่ะก็ ประเทศก็จะเป็นหนี้เพิ่มทันที ๒ หมื่น ๒ พันล้านอย่างไร
ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#142 evomans136

evomans136

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 112 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 12:07

งั้นผม เอาบางซิครับ


โดย ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์ 19 มกราคม 2555 11:06 น.
Share
Posted Image โดย...ขุนทอง ลอเสรีวาณิช

ราคาน้ำมันที่ขึ้นเอาๆ อย่างบ้าเลือดตั้งแต้ต้นปีมานี้ นอกเหนือจากเหตุผลในเรื่องราคาน้ำมันตลาดโลกที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนทะลุ100 เหรียญต่อบาร์เรลแล้ว ยังเป็นเพราะรัฐบาลตัดสินใจยกเลิกนโยบาย งดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง จากน้ำมันเบนซิน และน้ำมันดีเซล ตามที่เคยหาเสียงไว้

ตั้งแต่ต้นปีใหม่นี้ ราคาน้ำมันเบนซินถูกปรับขึ้นถึง 5 ครั้ง รวม 3.57 บาทต่อลิตร ส่วนน้ำมันดีเซล ปรับขึ้น 2 ครั้ง รวมราคาที่เพิ่มขึ้นลิตรละ 1.74

การปรับราคาครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา ที่มีการขึ้นราคาน้ำมันเบนซินถึงลิตรละ 1.07 บาท และน้ำมันดีเซลลิตรละ 60 สตางค์ ไม่ใช่ปรับตามราคาน้ำมันในตลาดโลก และต้องปรับ เพื่อเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งอยู่ภาวะถังแตก เงินหมุนเวียนกำลังจะหมดลง ภายในสิ้นเดือนนี้ หากไม่ปรับ ก็ต้องกู้เงินมาใช้ ซึ่งรัฐบาลไม่ต้องการให้กู้ เพราะกำลังล้างบัญชี เคลียร์หนี้สาธารณะให้ต่ำที่สุด ก่อนทึ่จะกู้ก้อนใหม่

การงดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน เป็น 1 ใน 6 นโยบายเร่งด่วนของ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่ใช้ในการหาเสียงและประกาศว่า จะทำทันที หลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เพื่อลดค่าครองชีพของประชาชน

วันที่ 27 สิงหาคม ปีที่แล้ว รัฐบาล โดย คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีมติให้ชะลอการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นชั่วคราว สำหรับน้ำมัน 3 ประเภท คือ น้ำมันเบนซิน 95 ลดการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ลิตรละ 7.50 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่ลดลงแล้วทำให้ราคาน้ำมันเบนซิน 95 ลดลงถึงลิตรละ 8.20 บาท

น้ำมันเบนซิน 91 ลดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ลิตรละ 6.70 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ทำให้ราคาน้ำมันลดลงถึงลิตรละ 7.17 บาท และดีเซลลดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ลิตรละ 2.80 บาทรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ราคาน้ำมันลดลงได้ลิตรละ 3 บาท

การงดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันนี้ ทำให้รายรับของกองทุน ฯหายไปเดือนละ 6,000 ล้านบาท เมื่อหักลบกลกันกับรายได้อื่นๆ และภาระค่าใช้จ่ายแล้ว กองทุนฯจะมีฐานะการเงินติดลบ เดือนละ 3,000 ล้านบาท ในขณะที่มีเงินหมุนเวียนอยู่ 15,000 ล้านบาท ซึ่งจะหมดลงในเดือนนี้ จึงต้องกลับมาเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันอีกครั้งหนึ่ง

ของฟรี ไม่มีในโลกนี้ ทุกอย่างล้วนมีต้นทุน มีราคาที่ต้องจ่าย ราคาน้ำมันที่แพงขึ้นกว่าการเพิ่มขึ้นของราคาในตลาดโลก เป็นเพราะได้บวกเอาต้นทุนของ การดำเนินนโยบายประชานิยม เมื่อสี่เดือนก่อนเข้าไปด้วย และต้นทุนที่จะถูกบวกเข้าไปในราคาน้ำมันทุกลิตร จะเพิม่ขึ้นๆทุกเดือนๆละ 1 บาท จนกว่า ฐานะของกองทุนน้ำมันจะกลับมาเป็นปกติ หรือจะต้องเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อยลิตรละ 5 บาท สำหรับน้ำมันเบนซิน และ 3 บาท สำหรับน้ำมันดีเซล โดยที่ยังไม่รวม ราคาที่ต้องแพงขึ้นตามราคาตลาดโลก รวมทั้ง ภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ลิตรละอีก 5 บาท หากรัฐบาลไม่ต่ออายุมาตรการงดเกเบภาษีสรรสามิตรน้ำมันดีเซลที่จะหมดอายุในสิ้นเดือนนี้

นี่คือ ราคาที่ต้องจ่ายสำหรับนโยบายประชานิยม ที่มีอายุแสนสั้นเพียง 4 เดือน แต่ภาระที่เกิดขึ้น จะตกอยู่กับประชาชนตลอดไป
http://www.manager.c...D=9550000008202

#143 evomans136

evomans136

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 112 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 12:10

ปีใหม่ พ.ศ. 2555 ผ่านไปเพียงแค่ 2 สัปดาห์ มีการปรับราคาน้ำมันเบนซินสูงขึ้นถึง 5 ครั้ง รวมแล้ว น้ำมันเบนซืนแพงขึ้นถึงลิตรละ 3.57 บาทต่อลิตร และมีการปรับราคาน้ำมันดีเซล 2 ครั้ง ทำให้น้ำมันดีเซลมีราคาเพื่มขึ้นลิตรละ 1.74 บาท ทำให้ราคาน้ำมันดีเซล ทะลุลิตรละ 30 บาท ไปอยุ่ที่ ลิตรละ 31.13 บาท

นอกจากนั้น ราคาแก๊สเอ็นจีวี ยังถูกปรับขึ้นอีกกิโลกรัมละ 50 สตางค์ จากกิโลกรัมละ 8.50 บาท เป็นกิโลกรัมละ 9 บาท และจะทยอยขึ้นอีกเดือนละ 50 สตางค์ ในอีก 3 เดือนต่อไป รวมเป็นการขึ้นราคา 2 บาท ต่อ 1 กิโลกรัม ส่วนแอลพีจี ในภาคขนส่งปรับขึ้นกิโลกรัมละ 75 สตางค์

การปรับขึ้นราคาเชื้อเพลิง แบบยกแผงครั้งนี้ มีสาเหตุหลายอย่าง คือ ราคาน้ำมันในตลาดโลก ปรับตัวสูงขึ้น ตามฤดูกาล และสถานการณ์ในอ่าวเปอร์ซียที่ตึงเครียดขึ้น หลังจากการซ้อมรบทางทะเลของอิร่าน การปรับราคาเอ็นจีวี และแอลพีจี ตามความต้องการ ของ ปตท. และ การปรับราคาเพราะรัฐบาลพรรคเพือ่ไทย ยกเลิกนโยบายลดค่าครองชีพประชาชนแบบทันทีทันใด โดยประชาชนไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัว

ส่าเหตุสุดท้ายนี้ ทำให้การปรับราคาน้ำมันครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา ปรับขึ้นสูงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา คือ น้ำมันเบนซินลิตรละ 1 .07 บาท และน้ำมันดีเซลลิตรละ 60 สตางค์ เพราะรัฐบาลแอบฉีกนโยบายเลิกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันทิ้ง แล้วหันมาเก็บเงินเข้ากองทุนฯตามเดิม ไม่ได้เกี่ยวกับ ราคาน้ำมันในตลาดโลกแต่อย่างใด

นอกจาก เก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน จากผู้ใช้น้ำมันเบนซินและ น้ำมันดีเซลแล้ว รัฐบาลยังแอบเก็บเงินเพิ่มจากผู้ใช้แก๊สโซฮอลล์ 95 เพิ่มขึ้นอีก 1 บาทต่อลิตร จาก 0.20 บาท เป็น 1.20 บาทต่อลิตร และ ลดเงินอุดหนุน แก๊สโซฮอล์ 91 ลง ลิตรละ 1 บาท จาก ลิตรละ 1.40 บาท เหลือลิตรละ .40 สตางค์ เดิมได้รับการอุดหนุน 1.40 บาท ก็จะได้รับการอุดหนุนลดลงเหลือ 0.40 บาทต่อลิตร อี 20 เดิมได้รับการอุดหนุน 2.80 บาท อัตราใหม่ลดลงเหลือ 1.80 บาทต่อลิตร

ส่วนน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ อี 85 ซึ่งมีผู้ใช้น้อยมาก ได้รับการอุดหนุนเพิ่มขึ้นลิตรละ 10 สต่างค์ จาก 13.50 บาท เป็น 13.60 บาทต่อลิตร

การงดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน เป็น 1 ใน 6 นโยบายเร่งด่วนของ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่ใช้ในการหาเสียงและประกาศว่า จะทำทันที หลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เพื่อลดค่าครองชีพของประชาชน

วันที่ 27 สิงหาคม ปีที่แล้ว รัฐบาล โดย คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีมติให้ชะลอการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นชั่วคราว สำหรับน้ำมัน 3 ประเภท คือ น้ำมันเบนซิน 95 ลดการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ลิตรละ 7.50 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่ลดลงแล้วทำให้ราคาน้ำมันเบนซิน 95 ลดลงถึงลิตรละ 8.20 บาท

น้ำมันเบนซิน 91 ลดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ลิตรละ 6.70 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ทำให้ราคาน้ำมันลดลงถึงลิตรละ 7.17 บาท และดีเซลลดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ลิตรละ 2.80 บาทรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ราคาน้ำมันลดลงได้ลิตรละ 3 บาท

การงดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันนี้ ทำให้รายรับของกองทุน หายไปเดือนละ 3,000 ล้านบาท เมื่อหักลบกลกันกับรายได้อื่นๆ และภาระค่าใช้จ่ายแล้ว กองทุนฯจะมีฐานะการเงินติดลบ เดือนละ 3,000 ล้านบาท ในขณะที่มีเงินหมุนเวียนอยู่ 15,000 ล้านบาท หากยังงดเก็บเงินเข้ากองทุนฯต่อไป เงินจะหมดในเดือนมกราคมนี้ และจะต้องกู้เงินมาใช้

รัฐบาลจึงแหกตาประชาชนได้เพียง 4 เดือนครึ่งเท่านั้น ว่า จะช่วยลดค่าครองชีพ เพราะต้องหันกลับมาเก็บเงินเข้ากองทุนฯ ที่ถูกนโยบายประชานิยมผลาญจนหมดตัว ตามเดิม แต่ทำเงียบๆ ไม่มีการป่าวประกาศใหญ๋โต เหมือนตอนงดเก็บ การจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมันครั้งนี้ จะทำให้ฐานะของกองทุนน้ำมัน ที่ติดลบวันละ 97.85 ล้านบาท เหลือติดลบวันละ 44.23 ล้านบาท ซึ่งแปลว่า จะต้องมีการขึ้นราคาน้ำมันเบนซิน และดีเซล อีก อย่างน้อยเดือนละ 1 บาท โดยไม่เกี่ยวกับราคาน้ำมันในตลาดโลก จนกว่า กองทุนน้ำมันจะไม่ติดลบ และหากช่วงไหนราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลง ราคาน้ำมันทึ่คนไทยต้องจ่ายจะไม่ลดลง เพราะต้องเก็บเงินเข้ากองทุนฯเพิ่มขึ้น

นี่คือ ความเป็นจริง ที่รัฐบาลไม่กล้ายอกให้ประชาชนรับรู้ นี่คือ การซ้ำเติม ให้ประชาชนต้องยากลำบาก ประสบกับปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น โดยที่รัฐบาลซึ่งโกหกว่า จะกระชากค่าครองชีพของประชาชนให้ลดลงมา ไม่ใส่ใจ เพราะมั่นใจว่า จะอยู่ในอำนาจครบเทอมแน่ จึงแอบฉีกสัญญาประชาคมทิ้ง แล้วโกหกว่า เป็นการปรับโครงสร้างพลังงาน




17/01/2555 17:29:05


http://www.thai-scho...-ID-141174.html

Edited by evomans136, 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 12:13.


#144 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 12:13

งั้นผม เอาบางซิครับ โดย ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์ 19 มกราคม 2555 11:06 น. Share Posted Image โดย...ขุนทอง ลอเสรีวาณิช ราคาน้ำมันที่ขึ้นเอาๆ อย่างบ้าเลือดตั้งแต้ต้นปีมานี้ นอกเหนือจากเหตุผลในเรื่องราคาน้ำมันตลาดโลกที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนทะลุ100 เหรียญต่อบาร์เรลแล้ว ยังเป็นเพราะรัฐบาลตัดสินใจยกเลิกนโยบาย งดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง จากน้ำมันเบนซิน และน้ำมันดีเซล ตามที่เคยหาเสียงไว้ ตั้งแต่ต้นปีใหม่นี้ ราคาน้ำมันเบนซินถูกปรับขึ้นถึง 5 ครั้ง รวม 3.57 บาทต่อลิตร ส่วนน้ำมันดีเซล ปรับขึ้น 2 ครั้ง รวมราคาที่เพิ่มขึ้นลิตรละ 1.74 การปรับราคาครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา ที่มีการขึ้นราคาน้ำมันเบนซินถึงลิตรละ 1.07 บาท และน้ำมันดีเซลลิตรละ 60 สตางค์ ไม่ใช่ปรับตามราคาน้ำมันในตลาดโลก และต้องปรับ เพื่อเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งอยู่ภาวะถังแตก เงินหมุนเวียนกำลังจะหมดลง ภายในสิ้นเดือนนี้ หากไม่ปรับ ก็ต้องกู้เงินมาใช้ ซึ่งรัฐบาลไม่ต้องการให้กู้ เพราะกำลังล้างบัญชี เคลียร์หนี้สาธารณะให้ต่ำที่สุด ก่อนทึ่จะกู้ก้อนใหม่ การงดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน เป็น 1 ใน 6 นโยบายเร่งด่วนของ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่ใช้ในการหาเสียงและประกาศว่า จะทำทันที หลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เพื่อลดค่าครองชีพของประชาชน วันที่ 27 สิงหาคม ปีที่แล้ว รัฐบาล โดย คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีมติให้ชะลอการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นชั่วคราว สำหรับน้ำมัน 3 ประเภท คือ น้ำมันเบนซิน 95 ลดการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ลิตรละ 7.50 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่ลดลงแล้วทำให้ราคาน้ำมันเบนซิน 95 ลดลงถึงลิตรละ 8.20 บาท น้ำมันเบนซิน 91 ลดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ลิตรละ 6.70 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ทำให้ราคาน้ำมันลดลงถึงลิตรละ 7.17 บาท และดีเซลลดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ลิตรละ 2.80 บาทรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ราคาน้ำมันลดลงได้ลิตรละ 3 บาท การงดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันนี้ ทำให้รายรับของกองทุน ฯหายไปเดือนละ 6,000 ล้านบาท เมื่อหักลบกลกันกับรายได้อื่นๆ และภาระค่าใช้จ่ายแล้ว กองทุนฯจะมีฐานะการเงินติดลบ เดือนละ 3,000 ล้านบาท ในขณะที่มีเงินหมุนเวียนอยู่ 15,000 ล้านบาท ซึ่งจะหมดลงในเดือนนี้ จึงต้องกลับมาเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันอีกครั้งหนึ่ง ของฟรี ไม่มีในโลกนี้ ทุกอย่างล้วนมีต้นทุน มีราคาที่ต้องจ่าย ราคาน้ำมันที่แพงขึ้นกว่าการเพิ่มขึ้นของราคาในตลาดโลก เป็นเพราะได้บวกเอาต้นทุนของ การดำเนินนโยบายประชานิยม เมื่อสี่เดือนก่อนเข้าไปด้วย และต้นทุนที่จะถูกบวกเข้าไปในราคาน้ำมันทุกลิตร จะเพิม่ขึ้นๆทุกเดือนๆละ 1 บาท จนกว่า ฐานะของกองทุนน้ำมันจะกลับมาเป็นปกติ หรือจะต้องเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อยลิตรละ 5 บาท สำหรับน้ำมันเบนซิน และ 3 บาท สำหรับน้ำมันดีเซล โดยที่ยังไม่รวม ราคาที่ต้องแพงขึ้นตามราคาตลาดโลก รวมทั้ง ภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ลิตรละอีก 5 บาท หากรัฐบาลไม่ต่ออายุมาตรการงดเกเบภาษีสรรสามิตรน้ำมันดีเซลที่จะหมดอายุในสิ้นเดือนนี้ นี่คือ ราคาที่ต้องจ่ายสำหรับนโยบายประชานิยม ที่มีอายุแสนสั้นเพียง 4 เดือน แต่ภาระที่เกิดขึ้น จะตกอยู่กับประชาชนตลอดไป http://www.manager.c...D=9550000008202


ก็ถูกแล้วไง มีเงินหมุนเวียนอยู่ ๑ หมื่น ๕ พันล้าน ณ ตอนนั้น คือนำไปหมุนได้ด้วยเงินเท่านี้ ซึ่งก็ไม่แปลกหรอก เพราะเค้าเหลือมาให้ตอนสิงหา ๑ หมื่น ๗ พันล้าน

แต่รู้หรือเปล่า ปลายเดือน มกราคมที่ผ่านมาน่ะ ด้วยเงินหมุนเวียน ๑ หมื่น ๕ พันล้าน หากนำไปใช้โปะหนี้หมดทีเดียว ฐานะสุทธิของกองทุนก็ยังติดลบอยู่อีก ลบ ๑ หมื่น ๕ พันล้านแน่ะ

หมายความว่ามีหนี้สินรวม ๆ ทุกอย่างแล้วอยู่ ๓ หมื่นล้าน ซึ่งหนี้ที่งอกมาขนาดนี้น่ะ ก็เพราะมีเงินหมุนเวียน แต่ไม่มีการเก็บเข้าเพิ่มเติม ณ ช่วงเวลาที่จำเป็นต้องเก็บเข้า หนี้มันเลยโตขึ้น ๆ

ไม่ได้เข้าใจจริง ๆ สินะว่า เงินสดหมุนเวียน กับฐานะสุทธิมันต่างกันอย่างไร

Edited by baezae, 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 12:17.

ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#145 evomans136

evomans136

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 112 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 12:14

แปลกนะครับตอนโจมตีใครเอาเรื่องฐานะสุทธิ

แต่ตอนอ้างอ้างเงินหมุนเวียน

Edited by evomans136, 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 12:17.


#146 evomans136

evomans136

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 112 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 12:18

ถ้าเอาตรงๆ มาร์คมีให้ 17000 ล้าน

ตอนนี้เหลือ 15000 ล้าน ไม่เห็นติดลบตรงไหนครับ

#147 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 12:20

แปลกนะครับตอนโจมตีใครเอาเรื่องฐานะสุทธิ แต่ตอนอ้างอ้างเงินหมุนเวียน


ไม่เข้าใจจริง ๆ สินะ

ผมบอกว่าไอ้ที่ติดลบน่ะ ฐานะการเงินสุทธิต่างหาก เงินสดหมุนเวียนปัจจุบันก็ยังมีอยู่ที่ ๔ พันล้าน (หายไปหมื่นกว่าล้าน) ตัวเลขก็เห็น ๆ อยู่ ส่วนฐานะการเงินสุทธิลบจากตอนเข้ามาไป ๒ หมื่น ๑ พันล้าน (เท่านั้นเอง)
ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#148 evomans136

evomans136

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 112 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 12:21

ฐานะเงินสุทธิมาร์คให้มา 363 ล้านครับ

#149 evomans136

evomans136

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 112 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 12:22

เงินสดหมุนเวียน เดือน มกราคม มี 15000 ล้านครับ ไม่ใช่ 4000 ล้าน

#150 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 12:29

ถ้าเอาตรงๆ มาร์คมีให้ 17000 ล้าน ตอนนี้เหลือ 15000 ล้าน ไม่เห็นติดลบตรงไหนครับ


จากลิงค์นี้ ช่องสีเขียว จะเห็นว่าสินทรัพย์ที่เป็นเงินรายได้ค้างยังไม่ได้เข้ามา ณ ๑ เมษายน มันมีอยู่แค่ ๔ พันล้านเท่านั้นแหละ โดยมีเงินฝากธนาคาร (ช่องสีเหลือง) ไปซะ ๒ พันล้าน

http://www.efai.or.t...heoil-money.htm

ถ้านับจากมกราที่มีหมุนอยู่ ๑ หมื่น ๕ พันล้าน มาปัจจุบัน เหลือ ๔ พันล้าน ระยะเวลา ๓ เดือน เงินหมุนเวียนหายไป ๑ หมื่นล้านเลยนะ แถมฐานะสุทธิติดลบจาก ลบ ๑ หมื่น ๕ พัน เป็น ๒ หมื่น ๒ พันล้าน
ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว