รู้สึกมาร์คช่วงอุ้ม ดีเซล ก็หายไปเป็นหมื่นล้านเหมือนกันครับ
ผมอ่านอยู่แต่หาไม่เจอแล้วรู้สึกจะ 20000 ล้าน นะถ้าจำไม่ผิด
Edited by evomans136, 5 April 2012 - 12:33.
Posted 5 April 2012 - 12:32
Edited by evomans136, 5 April 2012 - 12:33.
Posted 5 April 2012 - 12:32
Posted 5 April 2012 - 12:33
Posted 5 April 2012 - 12:34
ฐานะเงินสุทธิมาร์คให้มา 363 ล้านครับ
Posted 5 April 2012 - 12:36
ไม่แปลกครับหายไป 13000 ล้าน รู้สึกมาร์คช่วงอุ้ม ดีเซล ก็หายไปเป็นหมื่นล้านเหมือนกันครับ ผมอ่านอยู่แต่หาไม่เจอแล้วรู้สึกจะ 20000 ล้าน นะถ้าจำไม่ผิด
Edited by baezae, 5 April 2012 - 12:37.
Posted 5 April 2012 - 12:37
Posted 5 April 2012 - 12:41
Edited by evomans136, 5 April 2012 - 12:42.
Posted 5 April 2012 - 12:45
ที่จะบอกสุดท้ายนี้ ที่รัฐบาลปู แพงกว่า มาร์ค เพราะตอนนี้เลิกอุ้ม(เก็บภาษีน้ำมันเริ่มจากลิตรละ 1 บาท)แล้ว
ปล่อยไปตามกลไกตลาด ที่รัฐบาล อภิสิทธิ์ ถูกกว่านิดหน่อยเพราะอุ้ม น้ำมันอยู่(งดภาษี ลิตรละ 5 บาท)
ไม่เป็นไปตามกลไกตลาด
แค่นี้ละครับใครไม่ get ก้ไม่ต้อง get ผมมาบ่นเฉยๆ
บายครับ
Edited by baezae, 5 April 2012 - 12:46.
Posted 5 April 2012 - 12:49
ที่จะบอกสุดท้ายนี้ ที่รัฐบาลปู แพงกว่า มาร์ค เพราะตอนนี้เลิกอุ้ม(เก็บภาษีน้ำมันเริ่มจากลิตรละ 1 บาท)แล้ว
ปล่อยไปตามกลไกตลาด ที่รัฐบาล อภิสิทธิ์ ถูกกว่านิดหน่อยเพราะอุ้ม น้ำมันอยู่(งดภาษี ลิตรละ 5 บาท)
ไม่เป็นไปตามกลไกตลาด
แค่นี้ละครับใครไม่ get ก้ไม่ต้อง get ผมมาบ่นเฉยๆ
บายครับ
Posted 5 April 2012 - 12:52
ถ้าเอาตรงๆ มาร์คมีให้ 17000 ล้าน ตอนนี้เหลือ 15000 ล้าน ไม่เห็นติดลบตรงไหนครับ
จากลิงค์นี้ ช่องสีเขียว จะเห็นว่าสินทรัพย์ที่เป็นเงินรายได้ค้างยังไม่ได้เข้ามา ณ ๑ เมษายน มันมีอยู่แค่ ๔ พันล้านเท่านั้นแหละ โดยมีเงินฝากธนาคาร (ช่องสีเหลือง) ไปซะ ๒ พันล้าน
http://www.efai.or.t...heoil-money.htm
ถ้านับจากมกราที่มีหมุนอยู่ ๑ หมื่น ๕ พันล้าน มาปัจจุบัน เหลือ ๔ พันล้าน ระยะเวลา ๓ เดือน เงินหมุนเวียนหายไป ๑ หมื่นล้านเลยนะ แถมฐานะสุทธิติดลบจาก ลบ ๑ หมื่น ๕ พัน เป็น ๒ หมื่น ๒ พันล้าน
Edited by evomans136, 5 April 2012 - 12:54.
Posted 5 April 2012 - 12:59
ขอแย้งหน่อยครับ ไอ้ 4000 ล้าน อะมันไม่ใช่เงินหมุนเวียน มันเป็น รายได้สุทธิของเดือนนั้นเอามาลบกับที่ขาดทุนเดือนนั้น 26000 ล้าน ก็จะติดลบไปเพิ่ม 22000 ล้าน เงินหมุนเวียนในบัญชีที่ผมเห็นล่าสุด ก็ 15000 ล้าน เดือน มกราคม ใหม่กว่านั้นผมหาไม่ได้ถ้าเอาตรงๆ มาร์คมีให้ 17000 ล้าน ตอนนี้เหลือ 15000 ล้าน ไม่เห็นติดลบตรงไหนครับ จากลิงค์นี้ ช่องสีเขียว จะเห็นว่าสินทรัพย์ที่เป็นเงินรายได้ค้างยังไม่ได้เข้ามา ณ ๑ เมษายน มันมีอยู่แค่ ๔ พันล้านเท่านั้นแหละ โดยมีเงินฝากธนาคาร (ช่องสีเหลือง) ไปซะ ๒ พันล้าน http://www.efai.or.t...heoil-money.htm ถ้านับจากมกราที่มีหมุนอยู่ ๑ หมื่น ๕ พันล้าน มาปัจจุบัน เหลือ ๔ พันล้าน ระยะเวลา ๓ เดือน เงินหมุนเวียนหายไป ๑ หมื่นล้านเลยนะ แถมฐานะสุทธิติดลบจาก ลบ ๑ หมื่น ๕ พัน เป็น ๒ หมื่น ๒ พันล้าน
Posted 5 April 2012 - 13:01
Posted 5 April 2012 - 13:03
เอ็งขอเป็น"ขี้ข้าโจร" ข้าเลือกเป็น"ข้าธุลีพระบาท" เอ็งขอเป็น"ไพร่" ข้าเลือกเป็น"พสกนิกร"
Posted 5 April 2012 - 13:07
Edited by evomans136, 5 April 2012 - 13:10.
Posted 5 April 2012 - 13:20
ทำใจได้ครับเรื่องนี้ขึ้นอีกเรื่อยๆตามตลาดครับไม่มีอุ้มไม่มีแทรกแซงครับ
ตอนนี้เก็บภาษีแค่ 1 บาท และจะเก็บเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนครบ 5 บาท ตามเดิม
ถ้าราคาน้ำมันโลกไม่ลดลงมีสิทธิถึง 45 บาท และอาจจะ 47
ซึ่งสมัยอภิสิทธิ์ไม่เก็บเลยครับแม้แต่บาททำให้ภาษีน้ำมันหายไป 4.4 หมื่นล้าน
Edited by baezae, 5 April 2012 - 13:28.
Posted 5 April 2012 - 13:28
เอ็งขอเป็น"ขี้ข้าโจร" ข้าเลือกเป็น"ข้าธุลีพระบาท" เอ็งขอเป็น"ไพร่" ข้าเลือกเป็น"พสกนิกร"
Posted 5 April 2012 - 13:40
เอาครับเอาไงก็เอาขี้เกียจเถียงจะอะไรก็เชิญตามสบายครับ
Posted 5 April 2012 - 13:41
Edited by baezae, 5 April 2012 - 13:43.
Posted 5 April 2012 - 13:43
Posted 5 April 2012 - 13:50
คนดีจริงไม่โกงที่วัด ไม่ยุแยงให้คนแตกแยก ไม่หลอกคนอื่นให้มารับเคราะห์ตายแทน
Posted 5 April 2012 - 14:48
Posted 5 April 2012 - 14:51
Edited by ริวมะคุง, 5 April 2012 - 14:51.
Posted 5 April 2012 - 15:10
Posted 5 April 2012 - 15:24
Posted 5 April 2012 - 15:50
ที่จะบอกสุดท้ายนี้ ที่รัฐบาลปู แพงกว่า มาร์ค เพราะตอนนี้เลิกอุ้ม(เก็บภาษีน้ำมันเริ่มจากลิตรละ 1 บาท)แล้ว
ปล่อยไปตามกลไกตลาด ที่รัฐบาล อภิสิทธิ์ ถูกกว่านิดหน่อยเพราะอุ้ม น้ำมันอยู่(งดภาษี ลิตรละ 5 บาท)
ไม่เป็นไปตามกลไกตลาด
แค่นี้ละครับใครไม่ get ก้ไม่ต้อง get ผมมาบ่นเฉยๆ
บายครับ
ถ้าจะพูดถึงอุ้มแล้วบิดเบือนราคาตลาดล่ะก็ ช่วยย้อนกลับไปสมัยทักษิณเลยครับ เป็นคนริเริ่มกองทุนน้ำมัน
ปล. หลังโดนรัฐประหารไป เลยค้นพบว่า ในยุคทักษิณ ฐานะสุทธิกองทุนน้ำมันติดลบอยู่ ๕ หมื่นล้านนะจ๊ะ
Posted 5 April 2012 - 16:38
Posted 5 April 2012 - 16:47
เอาครับเอาไงก็เอาขี้เกียจเถียงจะอะไรก็เชิญตามสบายครับ
Edited by David_GinoLa, 5 April 2012 - 16:48.
Posted 5 April 2012 - 19:02
Edited by evomans136, 5 April 2012 - 19:31.
Posted 5 April 2012 - 19:04
Posted 5 April 2012 - 19:06
Posted 5 April 2012 - 19:29
Posted 5 April 2012 - 19:36
Edited by baezae, 5 April 2012 - 19:47.
Posted 5 April 2012 - 19:48
Edited by evomans136, 5 April 2012 - 19:48.
Posted 5 April 2012 - 19:58
Posted 5 April 2012 - 20:00
ถามคุณ baezae นะครับถ้าจะเอา กระแสเงิน เป็นตัวชี้วัด
สมมุติผมมีเงิน 100000 ล้านเลย แต่ผมสะสมหนี้ ทีละ ล้านๆ ทุกเดือน
ถึงบัญชีผมจะดูดีแต่ผมเป็นหนี้สะสมทุกเดือนไหมครับ
สู้ผมมีแค่ 500 แต่ผมไม่มีหนี้สะสมดีกว่าไหม
หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.
Posted 5 April 2012 - 20:01
ถามคุณ baezae นะครับถ้าจะเอา กระแสเงิน เป็นตัวชี้วัด
สมมุติผมมีเงิน 100000 ล้านเลย แต่ผมสะสมหนี้ ทีละ ล้านๆ ทุกเดือน
ถึงบัญชีผมจะดูดีแต่ผมเป็นหนี้สะสมทุกเดือนไหมครับ
สู้ผมมีแค่ 500 แต่ผมไม่มีหนี้สะสมดีกว่าไหม
Posted 5 April 2012 - 20:04
ถามคุณ baezae นะครับถ้าจะเอา กระแสเงิน เป็นตัวชี้วัด
สมมุติผมมีเงิน 100000 ล้านเลย แต่ผมสะสมหนี้ ทีละ ล้านๆ ทุกเดือน
ถึงบัญชีผมจะดูดีแต่ผมเป็นหนี้สะสมทุกเดือนไหมครับ
สู้ผมมีแค่ 500 แต่ผมไม่มีหนี้สะสมดีกว่าไหม
ผมบอกเอาแค่กระแสเงินวัดหรือ?
และต่อให้เอาฐานะมาเทียบ ต้นเดือนสิงหา ต่อให้ยังว่าอภิสิทธิ์ทำลดไป ยังติดลบ ๕๕ ล้าน แถมฐานะกำลังดีขึ้นเรื่อย ๆ ปลายเดือนมี ๑ พันล้าน
รัฐบาลนี้ติดลบ ๒ หมื่นล้าน? และเอาจริง ๆ แค่เข้ามาบริหาร ๒ เดือน กลายเป็นลบพันล้าน
กระแสเงินต้นสิงหามีอย่างต่ำ ๑ หมื่น ๕ พันล้าน
พอถึงธันวา เหลือ ๖ พันล้าน?
บริหารไม่เป็น เป็นแต่โยนความผิด
Posted 5 April 2012 - 20:15
Posted 5 April 2012 - 20:18
Posted 5 April 2012 - 20:33
Posted 5 April 2012 - 21:15
ผมไม่เคยบอกกองทุนน้ำเพื่อบิดเบือนราคาในประเทศเลยครับ
แต่ อภิสิทธิ์ ใช้การงดการจัดเก็บภาษีน้ำมันลิตรละ 5 บาทซึ่งต้องเข้ากรมสรรพสามิต
ทำให้น้ำมัน ดีเซล ลดลง ลิตร ละ 5 บาท ทำให้สรรพสามิตสูญภาษีไป 4.4 หมื่นล้าน
เป็นการบิดเบือนราคาน้ำมันในตลาด
ส่วนบอกมาร์คเก่งนั้นสมัยมาร์คก็กองทุนน้ำมันก็แทบไม่เหลือเหมือนกันครับเพราะอุ้มดีเซล
มาดูความเคลื่อนไว้บัญชีต่างๆดีกว่าครับ
เรื่องที่ 1 การแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันแพง
สรุปสาระสำคัญ
1. คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2553 มีมติเห็นชอบให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ในวงเงินประมาณ 5,000 ล้านบาท ในการรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็วไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร เป็นการชั่วคราวประมาณ 2 - 3 เดือน โดยมอบหมายคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) รับไปดำเนินการ และถ้าหากราคาน้ำมันตลาดโลกยังปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ และเงินกองทุนน้ำมันฯ ในวงเงิน 5,000 ล้านบาท ไม่เพียงพอ ให้กระทรวงการคลังและกระทรวงพลังงานร่วมกันพิจารณาหาแนวทางการแก้ไขปัญหาเพิ่มเติม และให้นำเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติในการพิจารณาต่อไป
2. ตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2553 ถึง 5 กุมภาพันธ์ 2554 กบง. ได้มีการปรับอัตราเงินชดเชยราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว รวม 6 ครั้ง โดยน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดาได้รับการชดเชยสะสมไปแล้ว 3.15 บาทต่อลิตร น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี5 ได้รับการชดเชยสะสมไปแล้ว 3.05 บาทต่อลิตร และกองทุนน้ำมันฯ ได้จ่ายชดเชยเพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2553 ถึงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 ไปแล้วประมาณ 4,629 ล้านบาท คงเหลือเงิน 371 ล้านบาท จะสามารถใช้ชดเชยราคาน้ำมันดีเซลได้อีกประมาณ 2 วัน (ถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2554)
3. ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2554 มีเงินสดในบัญชี 35,275 ล้านบาท มีหนี้สินกองทุน 11,895 ล้านบาท แยกเป็นหนี้ค้างชำระชดเชย 11,618 ล้านบาท งบบริหารและโครงการซึ่งได้อนุมัติแล้ว 277 ล้านบาท ดังนั้นกองทุนน้ำมันฯ จึงมีฐานะสุทธิ 23,380 ล้านบาท โดยกองทุนน้ำมันฯ มีรายรับรวม
http://www.eppo.go.t...kpc/kpc-134.htm
ดู ฐานะสุทธิไว้นะครับ เพราะผมเอาตัวนี้เป็นตัววัด
กุมภา 2554 มาร์คมี 23380 ล้านบาท
1. ตามที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้มีมติเห็นชอบให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2553 ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2554 การดำเนินการที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2553 ถึง 5 เมษายน 2554 ได้มีการปรับอัตราเงินชดเชยราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว รวม 13 ครั้ง กองทุนน้ำมันฯ ได้จ่ายชดเชยเพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไปแล้วจนถึงวันที่ 7 เมษายน 2554 ประมาณ 19,350 ล้านบาท ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 7 เมษายน 2554 มีเงินสดในบัญชี 34,857 ล้านบาท มีหนี้สินกองทุน 23,255 ล้านบาท แยกเป็นหนี้ค้างชำระชดเชย 22,896 ล้านบาท งบบริหารและโครงการซึ่งได้อนุมัติแล้ว 359 ล้านบาท กองทุนน้ำมันฯ มีฐานะเบื้องต้นสุทธิ 11,602 ล้านบาท โดยยังมีหนี้ที่มีมติไปแล้วแต่ยังไม่มีการเบิกจ่าย 14,361 ล้านบาท แยกเป็น หนี้เงินชดเชยค่าปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์รถแท๊กซี่ 1,200 ล้านบาท หนี้เงินชดเชยก๊าซ LPG จากโรงกลั่น
http://www.eppo.go.th/nepc/kbg/kbg-72.htm
มาเมษายน 2544 มาร์ค มี 11602 บาท
หายไป 11778 ล้านบาท
1. ตามที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2553 และวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 เห็นชอบให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2553 ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2554 นั้น การดำเนินการที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2553 ถึงวันที่ 21 เมษายน 2554 ได้มีการปรับอัตราเงินชดเชยราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว รวม 17 ครั้ง โดยกองทุนน้ำมันฯ ได้จ่ายชดเชยเพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลจนถึงวันที่ 6 พฤษภาคม 2554 ไปแล้วประมาณ 24,005 ล้านบาท
2. กพช. ในการประชุมเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2554 ได้มีมติอนุมัติในหลักการให้สถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (องค์การมหาชน) (สบพน.) กู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน ในวงเงินประมาณ 20,000 ล้านบาท เพื่อใช้เสริมสภาพคล่องทางการเงินของกองทุนน้ำมันฯ หากราคาน้ำมันปรับเพิ่มสูงขึ้นจนทำให้กองทุนน้ำมันฯ ไม่มีสภาพคล่องที่จะไปชดเชยราคาน้ำมันเชื้อเพลิง
3. สถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลก ณ วันที่ 6 พฤษภาคม 2554 ราคาปิดครึ่งวันของน้ำมันดิบดูไบลดลง 8.71 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล จาก 114.74 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 106.03 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และน้ำมันดีเซลลดลง 9.95 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล จาก 135.40 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 125.45 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และคาดการณ์ว่าน้ำมันเบนซินลดลง 9.76 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล จาก 136.32 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 126.54 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล จากราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง ส่งผลให้ต้นทุนราคาน้ำมันปรับลดลง โดยราคาน้ำมัน ณ โรงกลั่นของแก๊สโซฮอล 95 ลดลง 1.16 บาทต่อลิตร ทำให้ค่าการตลาดเพิ่มขึ้นจาก 1.0953 บาทต่อลิตร เป็น 2.3626 บาทต่อลิตร และราคาน้ำมัน ณ โรงกลั่นของน้ำมันดีเซลหมุนเร็วลดลง 1.30 บาทต่อลิตร ค่าการตลาดน้ำมันดีเซลหมุนเร็วเพิ่มขึ้นจาก 1.4060 บาทต่อลิตร เป็น 2.7082 บาทต่อลิตร
4. ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 3 พฤษภาคม 2554 มีเงินสดในบัญชี 34,518 ล้านบาท มีหนี้สินกองทุน 33,548 ล้านบาท แยกเป็นหนี้อยู่ระหว่างการเบิกจ่ายชดเชย 33,340 ล้านบาท งบบริหารและโครงการซึ่งได้อนุมัติแล้ว 207 ล้านบาท กองทุนน้ำมันฯ มีฐานะเบื้องต้นสุทธิ 971 ล้านบาท
http://www.eppo.go.t.../kbg/kbg-76.htm
มาเดือนพฤษภาคม มาร์คเหลือ 971 ล้านบาท
หายไปอีก 10631 ล้านบาท +ของเดิม 11778
10631+11778 = 22409 ล้านบาท
เรื่องที่ 1 การแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันแพง
สรุปสาระสำคัญ
1. ตามที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2553 และวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 เห็นชอบให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็วไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2553 ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2554 นั้น การดำเนินการที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2553 ถึงวันที่ 6 พฤษภาคม 2554 กองทุนน้ำมันฯ ได้จ่ายชดเชยเพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็วไปแล้วประมาณ 24,005 ล้านบาท โดย ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2554 กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มีฐานะเบื้องต้นสุทธิติดลบ 524 ล้านบาท
http://www.eppo.go.t.../kbg/kbg-89.htm
สิ้นสมัยอภิสิทธิกองทุนน้ำมัน มีฐานะเบื่องต้นสุทธิ ติดลบ 524
เพราะมาทำติดลบไป จากเดิมเริ่มแรก มี 23380 ล้านบาท ตอนนี้ติลบ 524 ล้านบาท
เพราะฉนั้นบวกไป 23380+524 = 23904
เพราะฉนั้นมาร์คทำกองทุนน้ำมัน ลดไป 23904 ล้านบาท
คราวนี้มายุคยิ่งลักษณ์ เริ่มต้น ติดลบ 524 ล้านบาท
4.1 ฐานะกองทุนฯ ณ วันที่ 26 กันยายน 2554 มีเงินสดในบัญชี 16,867 ล้านบาท มีหนี้สินกองทุน 18,168 ล้านบาท มีฐานะกองทุนสุทธิติดลบ 1,302 ล้านบาท (รวมเงินฝากโครงการส่งเสริมการปลูกปาล์มน้ำมันจำนวน 500 ล้านบาท)
http://www.eppo.go.t.../kbg/kbg-93.htm
มากันยา จากติดลบ 524 ล้าน เป็นติดลบ 1302 ล้าน
เพราะฉนั้นเอาลบกัน 1302-524 = 778
ยิ่งลักษณ์ ทำกองทุนน้ำมันลดไป 778 ล้านบาท
5. สถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลก ณ วันที่ 10 มกราคม 2555 น้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 110.80 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล น้ำมันเบนซินอยู่ที่ 124.15 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 129.96 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศเป็นดังนี้ น้ำมันเบนซิน 95 ลิตรละ 40.92 บาท น้ำมันเบนซิน 91 ลิตรละ 36.97 บาท น้ำมันแก๊สโซฮอล 95 ลิตรละ 35.69 บาท และน้ำมันดีเซลลิตรละ 29.99 บาท โดยค่าการตลาดน้ำมัน ณ วันที่ 11 สิงหาคม 2554 อยู่ที่ลิตรละ 5.0867, 1.8436, 0.8742 และ 0.8726 บาท ตามลำดับ
6. ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 6 มกราคม 2555 มีเงินสดในบัญชี 3,769 ล้านบาท มีหนี้สินกองทุน 18,319 ล้านบาท แยกเป็นหนี้อยู่ระหว่างการเบิกจ่ายชดเชย 18,165 ล้านบาท งบบริหารและโครงการซึ่งได้อนุมัติแล้ว 154 ล้านบาท กองทุนน้ำมันฯ มีฐานะเบื้องต้นสุทธิติดลบ 14,550 ล้านบาท
http://www.eppo.go.t.../kbg/kbg-98.htm
อันนี้เป็นข้อมูลล่าสุดที่ผมหาได้แล้วครับเพราะ เดือน กพ มีค เมย ผมหาข้อมูลไม่ได้แล้ว
เพราะฉนั้นเดือน มกราคม ยิ่งลักษณติดลบไป 14550
เริ่มรับตำแหน่งยิ่งลักษณ์ ติดลบ 524 เพราะฉนั้นเอามาลบกัน
14550 - 524 = 14026 ล้านบาท
เพราะฉะนั้นยิ่งลักษณ์ทำเงินหายไป 14026 ล้านบาท ใน 6 เดือน จากสิงหาคน - มกราคม
ส่วนมาร์คทำเงินหายไป 23904 ภายใน 6 เดือนเช่นกัน จาก กุมภาพันธ์ - กรกฎาคม
เอาไปเปรียบเทียบดูนะครับว่าในสถานะการณ์เหมือนกันใครบริหารได้ดีกว่า
ส่วนบอกน้ำมันรัฐบาลมาร์คถูกกว่านิดหน่อย
ก็อย่างที่บอกครับ มาร์คอุ้มดีเซลครับ เลย ราคาถูก โดยงดภาษีลิตรละ 5 บาท
ส่วนยิ่งลักษณล่าสุดเริ่มจัดเก็บภาษีเข้ากรมสรรพสามิตแล้วรู้สึกจะ 1 บาท
และขึ้นไปเรื่อยๆตามความเหมาะสมกับราคาน้ำมัน ซึ่งยิ่งลักษณ์ปล่อยน้ำมันไปตามกลไกโดยไม่อุ้มครับ
จบครับ
หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.
Posted 5 April 2012 - 21:49
Edited by evomans136, 5 April 2012 - 21:53.
Posted 5 April 2012 - 22:13
Posted 5 April 2012 - 22:14
ตัวเลขมันบิดเบือนกันไม่ได้อยู่แล้วครับ
ผมก็อธิบายชัดเจนว่า ฐานะสุทธิ ตัวเลขแต่ละช่วงมันเท่าไร
มีตัวเลขในบัญชี 100 ล้าน แต่เป็นหนี้ 1000 ล้าน ผมก็ไม่เอานะครับ
ผักชีโรยหน้า
หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.
Posted 5 April 2012 - 22:18
Posted 5 April 2012 - 22:23
Edited by evomans136, 5 April 2012 - 22:23.
Posted 5 April 2012 - 22:26
แล้วอภิสิทธิ์เป็นหนี้พันล้านตอนไหนครับ?
ตอนยุบสภา สถานะเป็นบวก
ตอนรัฐบาลนี้เข้ามา ลบ ๕๕ ล้านจริง แต่พอผ่านไป ๑๕ วัน ขึ้นเป็นบวกพันล้าน เพราะได้เงินที่รับเข้ามาจากรายได้ต่าง ๆ
ว่าแต่ตอนนี้ ฐานะติดลบ ๒ หมื่นล้าน เงินสดเหลือน้อย อันนี้กระทั่งผักชียังไม่มีโรยหน้าเลย
แต่ทั้งที่เห็นว่ามันเน่า ก็หน้าด้านหน้าทนอวยว่าเก่งอย่างโน้นอย่างนี้ได้นี่ แปลกเนอะ
Red shirts perhaps were not born idiots, but are acting idiotically and will die idiots. What a poor creature!
Red shirts in the cyber world are merely contract posters. These dumb fucks are worthless pieces of shit.
Stupidity and incompetence of the walking botox will run have run Thailand to the ground.
The magnitude of this disaster would have decreased exponentially if proper water management had been applied in time like since the inception of the Bang-Ra-Kum model.
Posted 5 April 2012 - 22:27
เรื่องที่ 1การแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันแพง
สรุปสาระสำคัญ
1. ตามที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2553 และวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 เห็นชอบให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็วไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2553 ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2554 นั้น การดำเนินการที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2553 ถึงวันที่ 6 พฤษภาคม 2554 กองทุนน้ำมันฯ ได้จ่ายชดเชยเพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็วไปแล้วประมาณ 24,005 ล้านบาท โดย ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2554 กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มีฐานะเบื้องต้นสุทธิติดลบ 524 ล้านบาท
Edited by baezae, 5 April 2012 - 22:37.
Posted 5 April 2012 - 22:40
Edited by evomans136, 5 April 2012 - 22:46.