Jump to content


Photo
- - - - -

ทำไมน้ำมันตลาดโลกยุคอภิสิทธิ์แพงกว่า แต่ขายน้ำมันในประเทศได้ถูกกว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์?


This topic is in the process of being archived.
288 ความเห็นในกระทู้นี้

#151 evomans136

evomans136

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 112 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 12:32

ไม่แปลกครับหายไป 13000 ล้าน

รู้สึกมาร์คช่วงอุ้ม ดีเซล ก็หายไปเป็นหมื่นล้านเหมือนกันครับ

ผมอ่านอยู่แต่หาไม่เจอแล้วรู้สึกจะ 20000 ล้าน นะถ้าจำไม่ผิด

Edited by evomans136, 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 12:33.


#152 Shart

Shart

    Secret Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,093 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 12:32

คือเขาอ่านเนื้อข่าว หรือหลักฐานราชการไม่เป็น
เพราะเขาอ่านแค่หัวข้อข่าว

คุณ baezae ทำใจเถอะ ผมเห็นตอบวนเวียนหลายรอบแล้ว

#153 evomans136

evomans136

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 112 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 12:33

ครับผมไม่รู้เรื่องครับ

จบไหมครับ

#154 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 12:34

ฐานะเงินสุทธิมาร์คให้มา 363 ล้านครับ


๒๖ สิงหา ทำงานได้ ๑๐ วันกว่า มีฐานะสุทธิอยู่ ๑ พันล้านเน้อ ลิงค์อยู่ด้านบน

ปลายกรกฎาฐานะสุทธิน่ะ ติดลบอยู่ที่ ๕๕ ล้น แต่มีเงินหมุนอยู่ที่ ๑ หมื่น ๕ พันล้านนะจ๊ะ

เข้าทำงานวันที่ ๙ อีก ๑๗ วันต่อมา ห้องทำงานยังจัดไม่เสร็จเลยมั้ง มีเงินงอกมาให้อีก ๗ ร้อยล้าน เป็นฐานะสุทธิ เงินหมุน ๑ หมื่น ๗ พันล้าน

หรือถ้าจะเอาแค่จบ พฤษภา คือมีอยุ่ที่ ๔๔๖ ล้าน เงินหมุน ๒ หมื่น ๔ พันล้าน
ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#155 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 12:36

ไม่แปลกครับหายไป 13000 ล้าน รู้สึกมาร์คช่วงอุ้ม ดีเซล ก็หายไปเป็นหมื่นล้านเหมือนกันครับ ผมอ่านอยู่แต่หาไม่เจอแล้วรู้สึกจะ 20000 ล้าน นะถ้าจำไม่ผิด


นี่ เค้ากล้าอุ้มดีเซลจนหายไป ๒ หมื่นล้านน่ะ เพราะเค้ามีเงินหมุนอยู่ ๓ หมื่น ๕ พันล้านนะจ๊ะ แถมฐานะสุทธิยังไม่ติดลบเลยด้วย เพราะพฤษภาคมที่อุ้มดีเซลไป ๒ หมื่น ๔ พันล้านน่ะ ฐานะการเงินสุทธิยังเป็นบวกอยู่ที่ ๔๔๖ ล้านอยู่เลย

http://www.eppo.go.t.../kbg/kbg-80.htm

ไม่ใช่มีอยู่ พัน สองพันล้าน แล้วอุ้มดีเซล ๒ หมื่นล้าน ให้ฐานะสุทธิติดลบเสียเมื่อไร

Edited by baezae, 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 12:37.

ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#156 evomans136

evomans136

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 112 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 12:37

ไม่เถียงแล้วครับคุยกันไม่รู้เรื่อง ง่วง นอนด้วยครับ

เห็นใครดีก็เลือกไปเถอะครับ

บายย

#157 evomans136

evomans136

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 112 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 12:41

ที่จะบอกสุดท้ายนี้ ที่รัฐบาลปู แพงกว่า มาร์ค เพราะตอนนี้เลิกอุ้ม(เก็บภาษีน้ำมันเริ่มจากลิตรละ 1 บาท)แล้ว

ปล่อยไปตามกลไกตลาด ที่รัฐบาล อภิสิทธิ์ ถูกกว่านิดหน่อยเพราะอุ้ม น้ำมันอยู่(งดภาษี ลิตรละ 5 บาท)

ไม่เป็นไปตามกลไกตลาด





แค่นี้ละครับใครไม่ get ก้ไม่ต้อง get ผมมาบ่นเฉยๆ


บายครับ

Edited by evomans136, 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 12:42.


#158 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 12:45

ที่จะบอกสุดท้ายนี้ ที่รัฐบาลปู แพงกว่า มาร์ค เพราะตอนนี้เลิกอุ้ม(เก็บภาษีน้ำมันเริ่มจากลิตรละ 1 บาท)แล้ว

ปล่อยไปตามกลไกตลาด ที่รัฐบาล อภิสิทธิ์ ถูกกว่านิดหน่อยเพราะอุ้ม น้ำมันอยู่(งดภาษี ลิตรละ 5 บาท)

ไม่เป็นไปตามกลไกตลาด





แค่นี้ละครับใครไม่ get ก้ไม่ต้อง get ผมมาบ่นเฉยๆ


บายครับ


ถ้าจะพูดถึงอุ้มแล้วบิดเบือนราคาตลาดล่ะก็ ช่วยย้อนกลับไปสมัยทักษิณเลยครับ เป็นคนริเริ่มกองทุนน้ำมัน

ปล. หลังโดนรัฐประหารไป เลยค้นพบว่า ในยุคทักษิณ ฐานะสุทธิกองทุนน้ำมันติดลบอยู่ ๕ หมื่นล้านนะจ๊ะ

Edited by baezae, 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 12:46.

ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#159 aumstar

aumstar

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,707 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 12:49

ที่จะบอกสุดท้ายนี้ ที่รัฐบาลปู แพงกว่า มาร์ค เพราะตอนนี้เลิกอุ้ม(เก็บภาษีน้ำมันเริ่มจากลิตรละ 1 บาท)แล้ว

ปล่อยไปตามกลไกตลาด ที่รัฐบาล อภิสิทธิ์ ถูกกว่านิดหน่อยเพราะอุ้ม น้ำมันอยู่(งดภาษี ลิตรละ 5 บาท)

ไม่เป็นไปตามกลไกตลาด





แค่นี้ละครับใครไม่ get ก้ไม่ต้อง get ผมมาบ่นเฉยๆ


บายครับ


อยู่นานๆ นะ ขอซัก 500 โพสต์

#160 evomans136

evomans136

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 112 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 12:52

ถ้าเอาตรงๆ มาร์คมีให้ 17000 ล้าน ตอนนี้เหลือ 15000 ล้าน ไม่เห็นติดลบตรงไหนครับ
จากลิงค์นี้ ช่องสีเขียว จะเห็นว่าสินทรัพย์ที่เป็นเงินรายได้ค้างยังไม่ได้เข้ามา ณ ๑ เมษายน มันมีอยู่แค่ ๔ พันล้านเท่านั้นแหละ โดยมีเงินฝากธนาคาร (ช่องสีเหลือง) ไปซะ ๒ พันล้าน

http://www.efai.or.t...heoil-money.htm

ถ้านับจากมกราที่มีหมุนอยู่ ๑ หมื่น ๕ พันล้าน มาปัจจุบัน เหลือ ๔ พันล้าน ระยะเวลา ๓ เดือน เงินหมุนเวียนหายไป ๑ หมื่นล้านเลยนะ แถมฐานะสุทธิติดลบจาก ลบ ๑ หมื่น ๕ พัน เป็น ๒ หมื่น ๒ พันล้าน


ขอแย้งหน่อยครับ ไอ้ 4000 ล้าน อะมันไม่ใช่เงินหมุนเวียน มันเป็น รายได้สุทธิของเดือนนั้นเอามาลบกับที่ขาดทุนเดือนนั้น 26000 ล้าน ก็จะติดลบไปเพิ่ม 22000 ล้าน

เงินหมุนเวียนในบัญชีที่ผมเห็นล่าสุด ก็ 15000 ล้าน เดือน มกราคม ใหม่กว่านั้นผมหาไม่ได้

Edited by evomans136, 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 12:54.


#161 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 12:59

ถ้าเอาตรงๆ มาร์คมีให้ 17000 ล้าน ตอนนี้เหลือ 15000 ล้าน ไม่เห็นติดลบตรงไหนครับ จากลิงค์นี้ ช่องสีเขียว จะเห็นว่าสินทรัพย์ที่เป็นเงินรายได้ค้างยังไม่ได้เข้ามา ณ ๑ เมษายน มันมีอยู่แค่ ๔ พันล้านเท่านั้นแหละ โดยมีเงินฝากธนาคาร (ช่องสีเหลือง) ไปซะ ๒ พันล้าน http://www.efai.or.t...heoil-money.htm ถ้านับจากมกราที่มีหมุนอยู่ ๑ หมื่น ๕ พันล้าน มาปัจจุบัน เหลือ ๔ พันล้าน ระยะเวลา ๓ เดือน เงินหมุนเวียนหายไป ๑ หมื่นล้านเลยนะ แถมฐานะสุทธิติดลบจาก ลบ ๑ หมื่น ๕ พัน เป็น ๒ หมื่น ๒ พันล้าน

ขอแย้งหน่อยครับ ไอ้ 4000 ล้าน อะมันไม่ใช่เงินหมุนเวียน มันเป็น รายได้สุทธิของเดือนนั้นเอามาลบกับที่ขาดทุนเดือนนั้น 26000 ล้าน ก็จะติดลบไปเพิ่ม 22000 ล้าน เงินหมุนเวียนในบัญชีที่ผมเห็นล่าสุด ก็ 15000 ล้าน เดือน มกราคม ใหม่กว่านั้นผมหาไม่ได้


เงินในบัญชีมี ๑๙๐๐ ล้าน เงินที่ยังไม่ได้รับอีก ราว ๑๙๐๐ ล้าน

แล้วมีรายได้ไหนมาหมุนเวียนอีกล่ะครับ?
ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#162 evomans136

evomans136

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 112 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 13:01

เอาครับเอาไงก็เอาขี้เกียจเถียงจะอะไรก็เชิญตามสบายครับ

#163 ครุฑดำ

ครุฑดำ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,056 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 13:03

คนในกระทรวงเค้ามาถกกันใช่ไม๊เนี่ย

ที่แน่ๆจะเก็บไม่เก็บเงินเข้ากองทุนป่าวไม่รู้ แต่น้ำมันแพงขึ้น แล้วก็แทบทุกอาทิตย์ด้วย บริหารจัดการยังไง
เดี๋ยวผู้ส่งออกก็ตายห่านกันหมดหรอก ราคาสูงลิบลิ่วทั้งพลังงาน ทั้งค่าแรง แล้วจะเอาที่ใหนไปแข่งขันกับเค้า :angry: :angry: :angry:

เอ็งขอเป็น"ขี้ข้าโจร" ข้าเลือกเป็น"ข้าธุลีพระบาท" เอ็งขอเป็น"ไพร่" ข้าเลือกเป็น"พสกนิกร"


#164 evomans136

evomans136

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 112 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 13:07

ทำใจได้ครับเรื่องนี้ขึ้นอีกเรื่อยๆตามตลาดครับไม่มีอุ้มไม่มีแทรกแซงครับ

ตอนนี้เก็บภาษีแค่ 1 บาท และจะเก็บเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนครบ 5 บาท ตามเดิม

ถ้าราคาน้ำมันโลกไม่ลดลงมีสิทธิถึง 45 บาท และอาจจะ 47

ซึ่งสมัยอภิสิทธิ์ไม่เก็บเลยครับแม้แต่บาททำให้ภาษีน้ำมันหายไป 4.4 หมื่นล้าน

Edited by evomans136, 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 13:10.


#165 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 13:20

ทำใจได้ครับเรื่องนี้ขึ้นอีกเรื่อยๆตามตลาดครับไม่มีอุ้มไม่มีแทรกแซงครับ

ตอนนี้เก็บภาษีแค่ 1 บาท และจะเก็บเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนครบ 5 บาท ตามเดิม

ถ้าราคาน้ำมันโลกไม่ลดลงมีสิทธิถึง 45 บาท และอาจจะ 47

ซึ่งสมัยอภิสิทธิ์ไม่เก็บเลยครับแม้แต่บาททำให้ภาษีน้ำมันหายไป 4.4 หมื่นล้าน


ดีครับ ข้าวของจะได้แพง ๆ เพราะราคาน้ำมันส่งผลกับราคาสินค้าอยู่แล้ว

ว่าแต่สมัยอภิสิทธิ์ไม่เก็บภาษีน้ำมันเลยหรือ? ผมเพิ่งทราบนะเนี่ย

จำได้ว่าเก็บเบนซินกระจายเพื่อเอามาพยุงดีเซลอันเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และพยุงราคาสินค้า

ว่าแต่ ภาษีน้ำมัน ๔.๔ หมื่นล้านหายไปตอนไหนหรือครับ ทำไมไม่ทราบ เห็นมีแค่ตอนพฤษภาปีที่แล้วที่น้ำมันขึ้นหนัก ๆ ที่เอาไปพยุงดีเซล ๒.๔ หมื่นล้านแล้วเงินหมุนเวียนยังเหลือ ฐานะกองทุนยังเป็นบวกอยู่เลย

อ้อ ผมไปดูมาแล้วนะครับ เงินหมุนเวียนเมษานี้ กองทุนอาจจะมีราว ๓ หมื่นล้านเลยทีเดียวครับ

เพราะเมื่อมีนาที่ผ่านมา เค้าเพิ่งอนุมัติให้กู้เพิ่มในรูปแบบกู้เงินหรือออกตราสารหนี้อีก ๒ หมื่นล้าน เป็นวงเงินกู้ทั้งหมด ๓ หมื่นล้านเอง

เห็นว่าท่าจะไม่พอด้วย

Edited by baezae, 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 13:28.

ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#166 ครุฑดำ

ครุฑดำ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,056 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 13:28

การปล่อยไปตามกลไกตลาดแปลว่าดี หรือแปลว่าเก่งกันนะ
แล้วไอ้ที่บรหารราคาให้ดีกว่ากลไกตลาดนี่เค้าเรียกว่าโง่ หรือเซ่อกันแน่

เพราะตอนปชปบริหารจัดการ ช่วยพยุงภาคขนส่ง ทำให้สินค้าราคาสมดุลย์กับเงินในกระเป๋า
แล้วรัฐบาลเผาไทยปล่อยไปตามราคาตลาด(จอมปลอม)แล้วหนี้ท่วม เค้าเรียกว่าบริหารยังไงหรอ
หรือเพราะไม่มีปัญญาจัดการแก้ปัญหา ไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน ทำงานแบบนี้เค้าเรียกปล่อยไปตามดวง ใช่หรือไม่ :angry: :angry: :angry:

เอ็งขอเป็น"ขี้ข้าโจร" ข้าเลือกเป็น"ข้าธุลีพระบาท" เอ็งขอเป็น"ไพร่" ข้าเลือกเป็น"พสกนิกร"


#167 Novice

Novice

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,353 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 13:40

เอาครับเอาไงก็เอาขี้เกียจเถียงจะอะไรก็เชิญตามสบายครับ


ขี้ใจน้อยอีกรายแล้ว

#168 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 13:41

อ้อ ผมไปหามาเพิ่ม

ฐานะกองทุนน้ำมัน เชื้อเพลิง ล่าสุด (7 ธ.ค.2554) มีกระแสเงินสดอยู่ที่ 6,048 ล้าน บาท แต่มีภาระหนี้สินรวม 18,159 ล้านบาท ส่งผลให้กองทุนน้ำมันฯ ติดลบอยู่ 12,111 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันกองทุนน้ำมันฯ มีเงินไหลเข้าเดือนละ 728 ล้านบาท มีรายจ่ายเดือนละ 3,398 ล้านบาท ทำให้กองทุนน้ำมันติดลบเดือนละ 2,671 ล้านบาท

http://www.khaosod.c...VEE1TVRJMU5BPT0=

ถ้ากระแสเงินสดในเดือน มกราคมมีอยู่ ๑ หมื่น ๕ พันล้านแล้วล่ะก็ มาจากไหนหมื่นล้านเอ่ย?

คำตอบ เพราะหลังจากติดลบเป็นพันล้านเมื่อตอนสิ้นเดือนกันยา ต่อตุลา ฐานะกองทุนติดลบเป็นพันล้าน กบง เลยให้กู้เงินได้ ๑ หมื่นล้าน

พอมามีนา คงร่อยหรอไปน่าดู เลยมีมติให้กู้อีก ๒ หมื่นล้าน ตามที่บอกข้างต้น

Edited by baezae, 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 13:43.

ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#169 Baboonga

Baboonga

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 579 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 13:43

เอ่อ... แปลกใจกับตรรกะแดงแถ แบบ Hentai / evoman136... การพยุงราคาน้ำมันดีเซลดูเหมือนเป็นผลเสียสำหรับประเทศชาติมากในสายตาสองคนนี้ ทั้งๆ ที่พยุงดีเซลได้ข้าวของก็ราคาถูก... (ไม่ต้องไปพูดถึงระดับราคาน้ำมัน หรือ จำนวนเงินกองทุนน้ำมัน)

ผมเข้าใจว่าการปล่อยให้เป็นตามราคาตลาดมันก็ถูกต้อง แต่มันก็ต้องเลือกอันไหนควรปล่อย อันไหนไม่ควรปล่อย... ไม่ใช่เหรอครับ <_<

#170 Charlie

Charlie

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,449 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 13:50

ผมงงว่าทุกวันนี้ปล่อยตามราคาตลาดจริงรึป่าวมากกว่า ดูมันขัดแย้งกับ ความเป็นจริงในระดับนานาประเทศชอบกล

คนดีจริงไม่โกงที่วัด ไม่ยุแยงให้คนแตกแยก ไม่หลอกคนอื่นให้มารับเคราะห์ตายแทน


#171 orogaros

orogaros

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,204 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 14:48

ถ้าอ่านของคุณ baezae หมดก็น่าจะเข้าใจนะครับ ผมว่าคุณ evoman136 ไม่ได้อ่านโดยละเอียดมากกว่า
ถึงยังบอกว่าอภิสิทธิ์อย่างนั้นอย่างนี้ ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงมันผิดพลาดเพราะรัฐบาลยิ่งลักษณ์

#172 ริวมะคุง

ริวมะคุง

    ห้ามให้อาหารสัตว์

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,577 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 14:51

มันผิดพลาดเพราะไปยกเลิกแล้วกลับมาใช้อีกเลยทำให้การเก็บเงินเข้ากองทุนสะดุดไป

ไม่รู้จะพิมพ์ๆยาวๆกันไปทำไม <_<

แต่ไม่เป็นไรคนเสื้อแดงถือว่า ซวยไปไม่ไช่อยู่ที่ฝีมือ เจ๋งหวะเกิดเป็นชินอะไรก็ดีไปหมด

Edited by ริวมะคุง, 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 14:51.

Posted Image

#173 tigermao

tigermao

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,976 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 15:10

ผมว่ารัฐบาลนี้ ผิดพลาดตอนไปลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน 91 กับ 95.
พอดีน้ำมันมาเป็นขาขึ้นพอดี.. ก็เลยซวยไป..

ส่วนโครงสร้างราคาน้ำมัน.. ก็ยังคงไม่เปลี่ยน..นะ.

#174 ซามูไร ไข่เจียว

ซามูไร ไข่เจียว

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 159 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 15:24

ซวยไปนะใช้สำหรับคนไทย ที่มีรัฐบาลโง่ๆ :lol:

#175 puggi

puggi

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,869 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 15:50


ที่จะบอกสุดท้ายนี้ ที่รัฐบาลปู แพงกว่า มาร์ค เพราะตอนนี้เลิกอุ้ม(เก็บภาษีน้ำมันเริ่มจากลิตรละ 1 บาท)แล้ว

ปล่อยไปตามกลไกตลาด ที่รัฐบาล อภิสิทธิ์ ถูกกว่านิดหน่อยเพราะอุ้ม น้ำมันอยู่(งดภาษี ลิตรละ 5 บาท)

ไม่เป็นไปตามกลไกตลาด





แค่นี้ละครับใครไม่ get ก้ไม่ต้อง get ผมมาบ่นเฉยๆ


บายครับ


ถ้าจะพูดถึงอุ้มแล้วบิดเบือนราคาตลาดล่ะก็ ช่วยย้อนกลับไปสมัยทักษิณเลยครับ เป็นคนริเริ่มกองทุนน้ำมัน

ปล. หลังโดนรัฐประหารไป เลยค้นพบว่า ในยุคทักษิณ ฐานะสุทธิกองทุนน้ำมันติดลบอยู่ ๕ หมื่นล้านนะจ๊ะ


จำไม่ผิดติดลบ 98000 ล้านเกือบแสนล้านนะครับ

ที่แสบที่สุด พอถึงเวลาต้องใช้หนี้ ออก หุ้นกู้มา เสนอขาย มันเสือกล็อบบี้พวก นักวิเคราะห์ พวกออกทีวีต่างๆว่า

ไม่ดี มีความเสี่ยงสูง ่รายย่อยไม่กล้าซื้อ สรุป พวกสถาบัน เอาเข้าพอร์ทเกือบหมด ระยำมาก

#176 serithai11

serithai11

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 863 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 16:38

รัฐบาลอภิสิทธิ์ มีกองทุนน้ำมัน แต่ราคาน้ำมันโลกขึ้น ราคาน้ำมันในประเทศก็ขึ้น แต่ไม่บ่อย โดยมีกองทุนน้ำมันเอาไว้ควบคุมการผันผวนของราคาน้ำมันในประเทศ
ไม่ให้มันขึ้นรายวัน รายเดือน เดือนหนึ่งขึ้นราคาน้ำมันสี่ห้ารอบเหมือนสมัยนี้ มันไม่ไหวสำหรับประชาชนและผู้ประกอบการ

กองทุนน้ำมันไม่ได้บิดเบือนราคาน้ำมันอย่างที่เข้าใจ กองทุนน้ำมันสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ อยู่ได้ด้วยการบริหารจัดการที่ดี
ราคาน้ำมันในตลาดโลกขึ้น ก็เอาเงินในกองทุนมาชดเชย
ราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลง ราคาน้ำมันในประเทศจะไม่ลดลงทันที จะเก็บเงินส่วนต่างเข้ากองทุนน้ำมัน
ทำให้กองทุนอยู่ได้

มีบางท่านเข้าใจว่า มีกองทุนน้ำมันเพื่อบิดเบือนราคาน้ำมันในประเทศให้ถูกลง ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
แต่ส่วนหนึ่งเอามาอุดหนุนราคาก๊าซนั้นเป็นความจริง ... อันนี้บิดเบือนจริง แต่ประโยชน์ก็ตกอยู่ที่ประชาชนทุกคนในประเทศ

ทุกวันนี้ขึ้นราคาก๊าซ ราคาน้ำมัน บ่อยมาก ราคาสินค้าอุปโภค บริโภคต่าง ๆ ก็ขึ้น อันที่ไม่ขึ้นก็ลดปริมาณ สรุปมันก็ขึ้นราคาอยู่ดี
สรุปแพงทั้งแผ่นดินจริงๆ

#177 David_GinoLa

David_GinoLa

    สมาชิกระดับไพร่

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,561 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 16:47

เอาครับเอาไงก็เอาขี้เกียจเถียงจะอะไรก็เชิญตามสบายครับ


ขอประกาศชัยชนะและปิดกระทู้อย่างไม่เป็นทางการครับ :D

Edited by David_GinoLa, 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 16:48.

"การเมืองต้องเป็นเรื่องการเสียสละ การเมืองคือภาระของทุกผู้การเมืองเรื่องส่วนรวมร่วมรับรู้ การเมืองต้องต่อสู้เพื่อส่วนรวม"เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์

#178 evomans136

evomans136

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 112 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 19:02

ผมไม่เคยบอกกองทุนน้ำเพื่อบิดเบือนราคาในประเทศเลยครับ

แต่ อภิสิทธิ์ ใช้การงดการจัดเก็บภาษีน้ำมันลิตรละ 5 บาทซึ่งต้องเข้ากรมสรรพสามิต

ทำให้น้ำมัน ดีเซล ลดลง ลิตร ละ 5 บาท ทำให้สรรพสามิตสูญภาษีไป 4.4 หมื่นล้าน

เป็นการบิดเบือนราคาน้ำมันในตลาด




ส่วนบอกมาร์คเก่งนั้นสมัยมาร์คก็กองทุนน้ำมันก็แทบไม่เหลือเหมือนกันครับเพราะอุ้มดีเซล

มาดูความเคลื่อนไว้บัญชีต่างๆดีกว่าครับ




เรื่องที่ 1 การแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันแพง
สรุปสาระสำคัญ
1. คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2553 มีมติเห็นชอบให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ในวงเงินประมาณ 5,000 ล้านบาท ในการรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็วไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร เป็นการชั่วคราวประมาณ 2 - 3 เดือน โดยมอบหมายคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) รับไปดำเนินการ และถ้าหากราคาน้ำมันตลาดโลกยังปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ และเงินกองทุนน้ำมันฯ ในวงเงิน 5,000 ล้านบาท ไม่เพียงพอ ให้กระทรวงการคลังและกระทรวงพลังงานร่วมกันพิจารณาหาแนวทางการแก้ไขปัญหาเพิ่มเติม และให้นำเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติในการพิจารณาต่อไป
2. ตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2553 ถึง 5 กุมภาพันธ์ 2554 กบง. ได้มีการปรับอัตราเงินชดเชยราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว รวม 6 ครั้ง โดยน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดาได้รับการชดเชยสะสมไปแล้ว 3.15 บาทต่อลิตร น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี5 ได้รับการชดเชยสะสมไปแล้ว 3.05 บาทต่อลิตร และกองทุนน้ำมันฯ ได้จ่ายชดเชยเพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2553 ถึงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 ไปแล้วประมาณ 4,629 ล้านบาท คงเหลือเงิน 371 ล้านบาท จะสามารถใช้ชดเชยราคาน้ำมันดีเซลได้อีกประมาณ 2 วัน (ถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2554)
3. ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2554 มีเงินสดในบัญชี 35,275 ล้านบาท มีหนี้สินกองทุน 11,895 ล้านบาท แยกเป็นหนี้ค้างชำระชดเชย 11,618 ล้านบาท งบบริหารและโครงการซึ่งได้อนุมัติแล้ว 277 ล้านบาท ดังนั้นกองทุนน้ำมันฯ จึงมีฐานะสุทธิ 23,380 ล้านบาท โดยกองทุนน้ำมันฯ มีรายรับรวม


http://www.eppo.go.t...kpc/kpc-134.htm



ดู ฐานะสุทธิไว้นะครับ เพราะผมเอาตัวนี้เป็นตัววัด

กุมภา 2554 มาร์คมี 23380 ล้านบาท



1. ตามที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้มีมติเห็นชอบให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2553 ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2554 การดำเนินการที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2553 ถึง 5 เมษายน 2554 ได้มีการปรับอัตราเงินชดเชยราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว รวม 13 ครั้ง กองทุนน้ำมันฯ ได้จ่ายชดเชยเพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไปแล้วจนถึงวันที่ 7 เมษายน 2554 ประมาณ 19,350 ล้านบาท ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 7 เมษายน 2554 มีเงินสดในบัญชี 34,857 ล้านบาท มีหนี้สินกองทุน 23,255 ล้านบาท แยกเป็นหนี้ค้างชำระชดเชย 22,896 ล้านบาท งบบริหารและโครงการซึ่งได้อนุมัติแล้ว 359 ล้านบาท กองทุนน้ำมันฯ มีฐานะเบื้องต้นสุทธิ 11,602 ล้านบาท โดยยังมีหนี้ที่มีมติไปแล้วแต่ยังไม่มีการเบิกจ่าย 14,361 ล้านบาท แยกเป็น หนี้เงินชดเชยค่าปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์รถแท๊กซี่ 1,200 ล้านบาท หนี้เงินชดเชยก๊าซ LPG จากโรงกลั่น

http://www.eppo.go.th/nepc/kbg/kbg-72.htm


มาเมษายน 2544 มาร์ค มี 11602 บาท

หายไป 11778 ล้านบาท



1. ตามที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2553 และวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 เห็นชอบให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2553 ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2554 นั้น การดำเนินการที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2553 ถึงวันที่ 21 เมษายน 2554 ได้มีการปรับอัตราเงินชดเชยราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว รวม 17 ครั้ง โดยกองทุนน้ำมันฯ ได้จ่ายชดเชยเพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลจนถึงวันที่ 6 พฤษภาคม 2554 ไปแล้วประมาณ 24,005 ล้านบาท
2. กพช. ในการประชุมเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2554 ได้มีมติอนุมัติในหลักการให้สถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (องค์การมหาชน) (สบพน.) กู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน ในวงเงินประมาณ 20,000 ล้านบาท เพื่อใช้เสริมสภาพคล่องทางการเงินของกองทุนน้ำมันฯ หากราคาน้ำมันปรับเพิ่มสูงขึ้นจนทำให้กองทุนน้ำมันฯ ไม่มีสภาพคล่องที่จะไปชดเชยราคาน้ำมันเชื้อเพลิง
3. สถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลก ณ วันที่ 6 พฤษภาคม 2554 ราคาปิดครึ่งวันของน้ำมันดิบดูไบลดลง 8.71 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล จาก 114.74 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 106.03 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และน้ำมันดีเซลลดลง 9.95 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล จาก 135.40 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 125.45 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และคาดการณ์ว่าน้ำมันเบนซินลดลง 9.76 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล จาก 136.32 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 126.54 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล จากราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง ส่งผลให้ต้นทุนราคาน้ำมันปรับลดลง โดยราคาน้ำมัน ณ โรงกลั่นของแก๊สโซฮอล 95 ลดลง 1.16 บาทต่อลิตร ทำให้ค่าการตลาดเพิ่มขึ้นจาก 1.0953 บาทต่อลิตร เป็น 2.3626 บาทต่อลิตร และราคาน้ำมัน ณ โรงกลั่นของน้ำมันดีเซลหมุนเร็วลดลง 1.30 บาทต่อลิตร ค่าการตลาดน้ำมันดีเซลหมุนเร็วเพิ่มขึ้นจาก 1.4060 บาทต่อลิตร เป็น 2.7082 บาทต่อลิตร
4. ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 3 พฤษภาคม 2554 มีเงินสดในบัญชี 34,518 ล้านบาท มีหนี้สินกองทุน 33,548 ล้านบาท แยกเป็นหนี้อยู่ระหว่างการเบิกจ่ายชดเชย 33,340 ล้านบาท งบบริหารและโครงการซึ่งได้อนุมัติแล้ว 207 ล้านบาท กองทุนน้ำมันฯ มีฐานะเบื้องต้นสุทธิ 971 ล้านบาท

http://www.eppo.go.t.../kbg/kbg-76.htm

มาเดือนพฤษภาคม มาร์คเหลือ 971 ล้านบาท

หายไปอีก 10631 ล้านบาท +ของเดิม 11778

10631+11778 = 22409 ล้านบาท


เรื่องที่ 1 การแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันแพง
สรุปสาระสำคัญ
1. ตามที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2553 และวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 เห็นชอบให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็วไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2553 ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2554 นั้น การดำเนินการที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2553 ถึงวันที่ 6 พฤษภาคม 2554 กองทุนน้ำมันฯ ได้จ่ายชดเชยเพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็วไปแล้วประมาณ 24,005 ล้านบาท โดย ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2554 กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มีฐานะเบื้องต้นสุทธิติดลบ 524 ล้านบาท

http://www.eppo.go.t.../kbg/kbg-89.htm

สิ้นสมัยอภิสิทธิกองทุนน้ำมัน มีฐานะเบื่องต้นสุทธิ ติดลบ 524

เพราะมาทำติดลบไป จากเดิมเริ่มแรก มี 23380 ล้านบาท ตอนนี้ติลบ 524 ล้านบาท

เพราะฉนั้นบวกไป 23380+524 = 23904

เพราะฉนั้นมาร์คทำกองทุนน้ำมัน ลดไป 23904 ล้านบาท





คราวนี้มายุคยิ่งลักษณ์ เริ่มต้น ติดลบ 524 ล้านบาท



4.1 ฐานะกองทุนฯ ณ วันที่ 26 กันยายน 2554 มีเงินสดในบัญชี 16,867 ล้านบาท มีหนี้สินกองทุน 18,168 ล้านบาท มีฐานะกองทุนสุทธิติดลบ 1,302 ล้านบาท (รวมเงินฝากโครงการส่งเสริมการปลูกปาล์มน้ำมันจำนวน 500 ล้านบาท)

http://www.eppo.go.t.../kbg/kbg-93.htm

มากันยา จากติดลบ 524 ล้าน เป็นติดลบ 1302 ล้าน

เพราะฉนั้นเอาลบกัน 1302-524 = 778

ยิ่งลักษณ์ ทำกองทุนน้ำมันลดไป 778 ล้านบาท



5. สถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลก ณ วันที่ 10 มกราคม 2555 น้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 110.80 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล น้ำมันเบนซินอยู่ที่ 124.15 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 129.96 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศเป็นดังนี้ น้ำมันเบนซิน 95 ลิตรละ 40.92 บาท น้ำมันเบนซิน 91 ลิตรละ 36.97 บาท น้ำมันแก๊สโซฮอล 95 ลิตรละ 35.69 บาท และน้ำมันดีเซลลิตรละ 29.99 บาท โดยค่าการตลาดน้ำมัน ณ วันที่ 11 สิงหาคม 2554 อยู่ที่ลิตรละ 5.0867, 1.8436, 0.8742 และ 0.8726 บาท ตามลำดับ
6. ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 6 มกราคม 2555 มีเงินสดในบัญชี 3,769 ล้านบาท มีหนี้สินกองทุน 18,319 ล้านบาท แยกเป็นหนี้อยู่ระหว่างการเบิกจ่ายชดเชย 18,165 ล้านบาท งบบริหารและโครงการซึ่งได้อนุมัติแล้ว 154 ล้านบาท กองทุนน้ำมันฯ มีฐานะเบื้องต้นสุทธิติดลบ 14,550 ล้านบาท

http://www.eppo.go.t.../kbg/kbg-98.htm


อันนี้เป็นข้อมูลล่าสุดที่ผมหาได้แล้วครับเพราะ เดือน กพ มีค เมย ผมหาข้อมูลไม่ได้แล้ว

เพราะฉนั้นเดือน มกราคม ยิ่งลักษณติดลบไป 14550

เริ่มรับตำแหน่งยิ่งลักษณ์ ติดลบ 524 เพราะฉนั้นเอามาลบกัน

14550 - 524 = 14026 ล้านบาท

เพราะฉะนั้นยิ่งลักษณ์ทำเงินหายไป 14026 ล้านบาท ใน 6 เดือน จากสิงหาคน - มกราคม

ส่วนมาร์คทำเงินหายไป 23904 ภายใน 6 เดือนเช่นกัน จาก กุมภาพันธ์ - กรกฎาคม





เอาไปเปรียบเทียบดูนะครับว่าในสถานะการณ์เหมือนกันใครบริหารได้ดีกว่า


ส่วนบอกน้ำมันรัฐบาลมาร์คถูกกว่านิดหน่อย

ก็อย่างที่บอกครับ มาร์คอุ้มดีเซลครับ เลย ราคาถูก โดยงดภาษีลิตรละ 5 บาท

ส่วนยิ่งลักษณล่าสุดเริ่มจัดเก็บภาษีเข้ากรมสรรพสามิตแล้วรู้สึกจะ 1 บาท

และขึ้นไปเรื่อยๆตามความเหมาะสมกับราคาน้ำมัน ซึ่งยิ่งลักษณ์ปล่อยน้ำมันไปตามกลไกโดยไม่อุ้มครับ




จบครับ

Edited by evomans136, 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 19:31.


#179 Alcoholism

Alcoholism

    น้องเก่า

  • Banned
  • PipPip
  • 137 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 19:04

หน้าแหกหมอไม่รับ อภิสิทธิ์น้ำมันถูก แต่ไปเพิ่มหนี้ให้กองทุนน้ำมัน ซึ่ง บวกลบคูณหาร เสียหายยิ่งกว่ายุค ยิ่งลัก ประเทศเป็นหนี้กว่าเดิม


555

#180 evomans136

evomans136

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 112 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 19:06

นี้คือราคาน้ำมันในยุคต่างๆครับให้เปรียบเทียบกันซึ่งผมแนะนำว่าให้หาช่วงเดือน

ที่ราคาน้ำมันในตลาดดิบใกล้เคียงกันมาเปรียบเทียบกันว่ายุคใคนน้ำมันแพงกว่า

http://www.eppo.go.t...rice/index.html




ใครจะว่าอภิสิทธิ์เก่งแต่ผมคนหนึ่งละที่ว่ามันไม่มีกึ้น

#181 evomans136

evomans136

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 112 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 19:29

อื้อฉาว !! รัฐบาลเด็ก "มาร์ค" ... 4 เดือน ถลุงเงินกองทุนน้ำมัน 2.8 หมื่นล้านเกลี้ยง
อื้อฉาวและมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางกับการใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของรัฐบาลของ "นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน เนื่องจากเงินที่สะสมไว้ 28,000 ล้านบาทตั้งแต่สมัยนายปิยสัวส์ดิ์ อัมระนันท์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานในยุครัฐบาลคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ( คมช.) เพื่อใช้ในการดูแลกลไกราคาพลังงานถูกใช้เกลี้ยงในพริบตาเพียงระยะเวลา 4 เดือนเท่านั้น
ผลงานรัฐบาลชุดนี้โดดเด่นที่การจ่ายเงิน แต่ไม่ชำนาญด้านการหาเงิน ส่งผลให้กองทุนน้ำมันฯ ในวันนี้เหลือเงินสดอยู่เพียง 4,000 ล้านบาท ซึ่งยังไม่ได้หักรวมหนี้ต่าง ๆ ที่เจ้าหนี้รอแบมือทวงเงินอยู่กว่า 4,000 ล้านบาทต่อเดือน และต้องใช้พยุงราคาน้ำมันดีเซล 1,671 ล้านบาทต่อเดือน เท่ากับวันนี้ความเป็นจริงของกองทุนน้ำมันฯมีสภาพติดลบไปแล้วกว่า 1,600 ล้านบาทต่อเดือน แต่ที่รัฐบาลพยายามประกาศว่ายังมีเงินเหลืออยู่เพื่อพยุงราคาดีเซลจนถึงรัฐบาลชุดหน้านั้น ก็เกิดจากการเบี้ยวจ่ายเงินเจ้าหนี้นั่นเอง
และเจ้าหนี้รายใหญ่คือ บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน)นั่นเอง ที่ตามทวงหนี้ 2 ก้อนใหญ่ๆ จากกองทุนน้ำมันฯ คือ หนี้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว(แอลพีจี) 2,900 ล้านบาทต่อเดือน และก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์(เอ็นจีวี) 300- 400 ล้านบาทต่อเดือน ยังไม่นับรวมที่กองทุนน้ำมันฯต้องตามชดเชยราคาพลังงานทดแทนอื่นๆ อีก
เนื่องด้วยกระทรวงพลังงานเห็นว่า ปตท. เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่ต้องปฏิบัติตามนโยบายรัฐ ดังนั้นรัฐบาลจึงเห็นว่าสามารถถ่วงเวลาจ่ายหนี้ไปก่อนได้ และภาระหนักก็ตกกับ ปตท.ที่ขณะนี้แบกรับภาระการชดเชยแอลพีจีไปแล้วเกือบ 10,000 ล้านบาท และเอ็นจีวีอีกเกือบ 20,000 ล้านบาท สำหรับเงินกองทุนน้ำมันฯที่หมดไปกับมาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตรต่อลิตรของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์นั้น เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2553 จนถึงวันนี้ใช้เงินพยุงราคาดีเซลไปแล้วทั้งสิ้น 23,301 ล้านบาท
ทั้งนี้ กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงตั้งขึ้นช่วงปี 2523 - 2524 เพื่อใช้เป็นเครื่องมือชั่วคราวในการทยอยปรับเปลี่ยนราคาน้ำมันให้เป็นไปตามสภาพเศรษฐกิจในขณะนั้น โดยใช้วิธีดังนี้คือ เมื่อราคาน้ำมันแพง ก็เอาเงินกองทุนฯไปพยุงราคาไว้ไม่ให้ขึ้นราคาอย่างรวดเร็ว แต่จะค่อยๆ ทยอยขึ้นราคาน้ำมันทีละนิดเพื่อให้ประชาชนได้ปรับตัว แต่เมื่อราคาน้ำมันถูกลง ประชาชนยังคงต้องใช้น้ำมันราคาสูงไปสักระยะเพื่อเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯก่อน
ต่อมาเกิดวิกฤติราคาน้ำมันโลกครั้งที่ 1 ระหว่างปี 2522 - 2529 ราคาน้ำมันพุ่งจาก 7 บาทต่อลิตร เป็น 13.45 บาทต่อลิตร ต่อมาประเทศไทยพบก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยปี 2524 และไทยเริ่มผลิตแอลพีจีได้เป็นครั้งแรก มีการส่งเสริมใช้แอลพีจีในรถยนต์ โดยรัฐบาลอนุมัติให้ขึ้นราคาน้ำมันเบนซินสูงสุดตามตลาดโลกสมัยนั้น 13.45 บาทต่อลิตร แต่ตรึงราคาแอลพีจี 6 บาทต่อลิตร เมื่อมีทางเลือกในการใช้พลังงานแล้วรัฐบาลต่อมาจึงประกาศลอยตัวราคาน้ำมันในปี 2532
ผลจากการลอยตัวทำให้ไม่ต้องใช้กลไกกองทุนน้ำมันฯ จนเมื่อราคาน้ำมันกลับมาสูงอีกครั้งสมัยนายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี พ.ศ. 2533-2534 ประชาชนแห่มาใช้แอลพีจีอย่างหนัก และรัฐบาลต้องแบกรับภาระชดเชยแอลพีจีเป็นครั้งแรก ดังนั้นเมื่อประกาศลอยตัวราคาน้ำมันไปแล้วทำให้ไม่สามารถเรียกเก็บเงินจากผู้ใช้น้ำมันเข้ากองทุนฯได้ ขณะที่ต้องมีภาระชดเชยแอลพีจี ส่งผลให้กองทุนน้ำมันฯติดลบเป็นครั้งแรก 10,000 ล้านบาท และต้องกู้เงินจากธนาคารมาชำระหนี้แอลพีจี
ต่อมายุค พล.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีปี 2540 ได้จัดการเคลียร์ปัญหากองทุนน้ำมันฯจนกลับมาเป็นบวก ด้วยการขึ้นราคาแอลพีจี 3 บาทต่อกิโลกรัม และไม่แทรกแซงราคาน้ำมัน แต่แล้วก็เกิดวิกฤติราคาน้ำมันโลกอีกครั้งสมัยรัฐบาลทักษิณ2 ในปี 2548 - 2549 มีการนำเงินไปพยุงราคาดีเซลจนกองทุนติดลบเป็นครั้งที่ 2 ถึง 90,000 ล้านาท จนสมัยนายปิยสวัสดิ์ มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานในยุครัฐบาล คมช. แก้ไขปัญหาจนกองทุนน้ำมันเป็นบวกกว่า 30,000 ล้านบาท
และแล้วก็มาสู่ยุคนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีคนล่าสุด ที่ทำให้ตัวเลขทางบัญชีกองทุนน้ำมันฯกลับกลายเป็นลบ นับเป็นครั้งที่ 3 ตั้งแต่จัดตั้งกองทุนน้ำมันฯขึ้นมา ปัญหาที่ถมทับกองทุนน้ำมันฯในขณะนี้คือ การพยุงราคาแอลพีจีมานานและรัฐบาลไม่กล้าขยับขึ้นราคาแอลพีจีในประเทศ โดยยังตรึงไว้ 330 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน ขณะที่ราคาตลาดโลกพุ่งไป 930 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน ที่ผ่านมามีการพยายามจะปรับขึ้นราคาแอลพีจีเป็นระบบขั้นบันได หรือทยอยปรับขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้เริ่มรับรู้ราคาพลังงานจริงที่เกิดขึ้น แต่หลายรัฐบาลไม่กล้า เนื่องจากหวั่นปัญหาคะแนนเสียงทางการเมือง
จนปัญหาด้านราคาเอ็นจีวีมาซ้ำเติม เพราะรัฐบาลตรึงราคาอีกเช่นกันที่ 8.50 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ราคาจริงขึ้นไป 13 - 14 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้ภาระเพิ่มพูน และบวกภาระการชดเชยราคาดีเซลเข้าไปอีก ท้ายที่สุดกองทุนน้ำมันฯหนีไม่พ้นกลับมาเป็นหนี้ต้องกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินมาใช้หนี้ค้างชำระต่างๆ อีกครั้ง
รัฐบาลยุคนายอภิสิทธิ์ โชคร้ายตรงที่ราคาพลังงานมาปรับสูงขึ้นเกือบทุกอย่าง แต่แล้วก็ไม่มีวิธีการแก้ปัญหาใดๆ ออกมา มีเพียงแต่พยุงราคาเพียงอย่างเดียว จนประชาชนผู้ใช้น้ำมันดีเซลยังไม่ตระหนักรับรู้ว่า ราคาน้ำมันโลกสูงต้องร่วมมือกันประหยัดแล้ว แต่ผู้ใช้น้ำมันเบนซินคงทราบดี เนื่องจากเงินทุกบาทที่จ่ายไปกับการซื้อน้ำมันเบนซินต้องจ่ายเพิ่มไปยังกองทุนน้ำมันฯด้วย และกองทุนน้ำมันฯก็นำไปพยุงราคาให้กับผู้ใช้ดีเซล เอ็นจีวี แอลพีจี เท่ากับวันนี้ผู้ใช้น้ำมันเบนซิน เป็นผู้เสียสละอย่างจำใจ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ดีเซล เอ็นจีวี และแอลพีจี ได้มีพลังงานใช้ราคาถูกกันต่อไป ในการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) ที่มี น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ยังคงยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้มีเงินสดพอที่จะพยุงราคาน้ำมันดีเซลต่อไปจนยุบสภาและรอรัฐบาลชุดหน้ามาบริหารจัดการภาระหนี้กองทุนน้ำมันฯ แทน
เป็นอันว่า รัฐบาลชุดนี้ใช้เงินหมดแล้ว ใครมาเป็นรัฐบาลชุดหน้าก็แก้ปัญหาไปก็แล้วกัน..... ก็ได้แต่หวังว่ารัฐบาลชุดหน้าจะมีกึ๋นในการบริหารจัดการพลังงานของประเทศได้ดีกว่าทุกวันนี้

#182 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 19:36

ยังมั่วไม่หายอีก

ต้นเดือนสิงหา ฐานะกองทุนก็เห็นอยู่ว่าลบ ๕๕ ล้าน แต่มีเงินราว ๑ หมื่น ๕ พันล้าน

พอ ๒๖ สิงหา เข้ามาไม่ทันทำงาน กองทุนฐานะ ๑ พันล้าน มีกระแสเงิน ๑ หมื่น ๗ พันล้าน

กระแสเงินสดเทรนด์เพิ่มขึ้นตั้งแต่สิ้นมิถุนายน ถึงกระทั่งสิงหาคม แต่พอเข้ามาดำเนินนโยบาย กระแสเงินสดชะงัก ฐานะกองทุนติดลบหลังผ่านไป ๑ เดือน

ทำเป็นแต่โบ๊ยเนอะ

ข่าวที่ตัวเองเอามาลง เค้าให้สัมภาษณ์มาตั้งแต่เดือนไหน แล้วเงินหมดจริงหรือเปล่าเมื่อรัฐบาลปัจจุบันมารับตำแหน่ง? คำตอบคือไม่ ตัวเลขบอกชัดเจนถึงกระแสเงินสดเกือบ ๒ หมื่นล้าน และฐานะที่มีส่งต่อให้แบบรัฐบาลปัจจุบันไม่ทันทำอะไรก็มีแล้วพันล้าน

และได้อ่านข่าวที่ตัวเองเอามาลงหรือเปล่า ถ้าอภิสิทธิ์แย่จริง หน้าเหลี่ยมที่บูชาเป็นเทพเจ้าน่ะ ส่งต่อกองทุนน้ำมันด้วยตัวเลขติดลบ ๙ หมื่นล้าน

อย่างนี้แปลว่าหน้าเหลี่ยมไร้ความสามารถหรือเปล่า?

แล้วกระทั่งเนื้อข่าวยังระบุอีกว่า รัฐบาลที่แล้วมาเจอราคาน้ำมันสูง และเลือกใช้วิธีพยุงราคา

ส่วนรัฐบาลนี้ ระงับการเก็บเงินแป๊บนึงในเวลาที่ควรเก็บ แล้วก็ต้องมาเก็บอีก ราคาน้ำมันก็เลยตรึงไม่ได้ สรุปเป็นไง ตอนนี้น้ำมันแพง ข้าวของขึ้นราคา

ใครบริหารไม่เป็น? ใครดูแลปากท้องประชาชนไม่เป็น?

ตัวเองยังไม่เข้าใจถึงตัวเลขต่าง ๆ เลย อ่านรายละเอียดเอาเฉพาะแต่ที่ตัวเองชอบใจ

นิสัยแบบนี้ เหมาะนักกับรัฐบาลที่ออกนโยบายหลอกควาย

Edited by baezae, 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 19:47.

ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#183 evomans136

evomans136

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 112 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 19:48

เรื่องที่ 1การแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันแพง
สรุปสาระสำคัญ
1. ตามที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2553 และวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 เห็นชอบให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็วไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2553 ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2554 นั้น การดำเนินการที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2553 ถึงวันที่ 6 พฤษภาคม 2554 กองทุนน้ำมันฯ ได้จ่ายชดเชยเพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็วไปแล้วประมาณ 24,005 ล้านบาท โดย ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2554 กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มีฐานะเบื้องต้นสุทธิติดลบ 524 ล้านบาท



http://www.eppo.go.t.../kbg/kbg-89.htm


ผมเอา ฐานะเบื้องต้นสุทธิ เป็นตัววัดครับเพราะมันแน่นอนกว่าและชัดเจน แต่งบัญชีกันไม่ได้

ที่ถ้าผมว่าทำไมไม่เก็บเข้ากองทุนน้ำมันผมจะบอกว่ามันเป็นนโยบายหาเสียงของเขา





แต่ผมถามว่าใน 6 เดือน ใครทำเงินหายมากกว่ากัน

Edited by evomans136, 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 19:48.


#184 evomans136

evomans136

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 112 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 19:55

ถามคุณ baezae นะครับถ้าจะเอา กระแสเงิน เป็นตัวชี้วัด

สมมุติผมมีเงิน 100000 ล้านเลย แต่ผมสะสมหนี้ ทีละ ล้านๆ ทุกเดือน

ถึงบัญชีผมจะดูดีแต่ผมเป็นหนี้สะสมทุกเดือนไหมครับ

สู้ผมมีแค่ 500 แต่ผมไม่มีหนี้สะสมดีกว่าไหม

Edited by evomans136, 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 19:56.


#185 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 19:58

แสดงว่าไม่ได้อ่านที่ผมเอามาลงก่อนหน้าสินะ เลือกเอาเฉพาะส่วนที่ถูกใจ

เฮ้อ

๙ สิงหา

ตามที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2553 และวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 เห็นชอบให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็วไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2553 ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2554 นั้น การดำเนินการที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2553 ถึงวันที่ 6 พฤษภาคม 2554 กองทุนน้ำมันฯ ได้จ่ายชดเชยเพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็วไปแล้วประมาณ 24,005 ล้านบาท โดย ณ วันที่ 8 สิงหาคม 2554 กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีฐานะเบื้องต้นสุทธิติดลบ 55 ล้านบาท
http://www.eppo.go.t.../kbg/kbg-90.htm

๒๖ สิงหา

ผู้อำนวยการสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (สบพน.) (นายศิวะนันท์ ณ นคร) ได้รายงานฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 26 สิงหาคม 2554 ว่ากองทุนน้ำมันฯ มีฐานะสุทธิประมาณ 1,064 ล้านบาท และคาดว่ากองทุนน้ำมันฯ จะมีสภาพคล่องเป็นบวกจนถึงสิ้นปี 2554 และจะเริ่มติดลบในเดือนมกราคม 2555 ทั้งนี้ สบพน. ได้มีการพิจารณาแนวทางการจัดหาเงินในเบื้องต้นแล้ว

http://www.eppo.go.t.../kbg/kbg-91.htm

เห็นไหมว่า ฐานะกองทุนมันฟื้นขึ้นมาเรื่อย ๆ ในระยะเวลาสั้น ๆ อย่างแค่จาก ๓๑ กรกฎา มา ๙ สิงหา ฐานะติดลบดีขึ้นกว่า ๕๐๐ ล้าน มีเงินในกระแสเงินสด เกือบ ๒ หมื่นล้าน

รายงานวันที่ ๒๖ สิงหายังบอกเลยว่า ด้วยฐานะนี้ กระแสนี้ อยู่ได้ถึงปลายปีโน่น

ถามว่ารัฐบาลปัจจุบันทำอะไร? ทำไมมันอยู่ไม่ได้ ติดลบมาตั้งแต่ตุลา?

บริหารไม่เป็น หาเงินไม่เป็น สักแต่ใช้เงิน ใช้ไม่พอก็กู้?
ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#186 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 20:00

ถามคุณ baezae นะครับถ้าจะเอา กระแสเงิน เป็นตัวชี้วัด

สมมุติผมมีเงิน 100000 ล้านเลย แต่ผมสะสมหนี้ ทีละ ล้านๆ ทุกเดือน

ถึงบัญชีผมจะดูดีแต่ผมเป็นหนี้สะสมทุกเดือนไหมครับ

สู้ผมมีแค่ 500 แต่ผมไม่มีหนี้สะสมดีกว่าไหม


ผมว่าต้องดูให้ดีนะครับ เพราะถ้าคุณมีแค่ 500 เฉยๆ อย่างมากคุณก็ได้แค่กินอาหารอร่อยๆมื้อนึง ทำอะไรนอกจากนั้นไม่ได้แล้ว

แต่ถ้าคุณมีทั้งหนี้และเงินหมุนเวียนเยอะ คุณเอาไปทำอะไรได้อีกเยอะเลย จริงมั้ยครับ??

หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#187 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 20:01

ถามคุณ baezae นะครับถ้าจะเอา กระแสเงิน เป็นตัวชี้วัด

สมมุติผมมีเงิน 100000 ล้านเลย แต่ผมสะสมหนี้ ทีละ ล้านๆ ทุกเดือน

ถึงบัญชีผมจะดูดีแต่ผมเป็นหนี้สะสมทุกเดือนไหมครับ

สู้ผมมีแค่ 500 แต่ผมไม่มีหนี้สะสมดีกว่าไหม


ผมบอกเอาแค่กระแสเงินวัดหรือ?

และต่อให้เอาฐานะมาเทียบ ต้นเดือนสิงหา ต่อให้ยังว่าอภิสิทธิ์ทำลดไป ยังติดลบ ๕๕ ล้าน แถมฐานะกำลังดีขึ้นเรื่อย ๆ ปลายเดือนมี ๑ พันล้าน

รัฐบาลนี้ติดลบ ๒ หมื่นล้าน? และเอาจริง ๆ แค่เข้ามาบริหาร ๒ เดือน กลายเป็นลบพันล้าน

กระแสเงินต้นสิงหามีอย่างต่ำ ๑ หมื่น ๕ พันล้าน

พอถึงธันวา เหลือ ๖ พันล้าน?

บริหารไม่เป็น เป็นแต่โยนความผิด
ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#188 puggi

puggi

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,869 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 20:04


ถามคุณ baezae นะครับถ้าจะเอา กระแสเงิน เป็นตัวชี้วัด

สมมุติผมมีเงิน 100000 ล้านเลย แต่ผมสะสมหนี้ ทีละ ล้านๆ ทุกเดือน

ถึงบัญชีผมจะดูดีแต่ผมเป็นหนี้สะสมทุกเดือนไหมครับ

สู้ผมมีแค่ 500 แต่ผมไม่มีหนี้สะสมดีกว่าไหม


ผมบอกเอาแค่กระแสเงินวัดหรือ?

และต่อให้เอาฐานะมาเทียบ ต้นเดือนสิงหา ต่อให้ยังว่าอภิสิทธิ์ทำลดไป ยังติดลบ ๕๕ ล้าน แถมฐานะกำลังดีขึ้นเรื่อย ๆ ปลายเดือนมี ๑ พันล้าน

รัฐบาลนี้ติดลบ ๒ หมื่นล้าน? และเอาจริง ๆ แค่เข้ามาบริหาร ๒ เดือน กลายเป็นลบพันล้าน

กระแสเงินต้นสิงหามีอย่างต่ำ ๑ หมื่น ๕ พันล้าน

พอถึงธันวา เหลือ ๖ พันล้าน?

บริหารไม่เป็น เป็นแต่โยนความผิด


เหนื่อยหน่อยนะครับ อธิบายกับพวกชอบแถ

#189 Raja22

Raja22

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 622 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 20:15

จนบัดนี้ ในเวป Mthai ควายแดงยังเล่นมุก หนีทหาร 2 สัญชาติ อยู่เลย
เกลียดควาย มีอะไร ป่ะ !!!

#190 โคนัน

โคนัน

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,836 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 20:18

เถียงไปก็เท่านั้น พวกนี้อาการเหวง เห็นเอาข้อมูลมาลงซ้ำไปซ้ำมา ก็เหมือนจะไม่อ่าน ไม่สนใจ เหวงต่อไป

#191 evomans136

evomans136

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 112 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 20:33

เอาเหอะครับรู้อยู่แก่ใจผมไม่เถียงแล้วทางใครทางมัน

#192 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 21:15

ผมไม่เคยบอกกองทุนน้ำเพื่อบิดเบือนราคาในประเทศเลยครับ

แต่ อภิสิทธิ์ ใช้การงดการจัดเก็บภาษีน้ำมันลิตรละ 5 บาทซึ่งต้องเข้ากรมสรรพสามิต

ทำให้น้ำมัน ดีเซล ลดลง ลิตร ละ 5 บาท ทำให้สรรพสามิตสูญภาษีไป 4.4 หมื่นล้าน

เป็นการบิดเบือนราคาน้ำมันในตลาด




ส่วนบอกมาร์คเก่งนั้นสมัยมาร์คก็กองทุนน้ำมันก็แทบไม่เหลือเหมือนกันครับเพราะอุ้มดีเซล

มาดูความเคลื่อนไว้บัญชีต่างๆดีกว่าครับ




เรื่องที่ 1 การแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันแพง
สรุปสาระสำคัญ
1. คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2553 มีมติเห็นชอบให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ในวงเงินประมาณ 5,000 ล้านบาท ในการรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็วไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร เป็นการชั่วคราวประมาณ 2 - 3 เดือน โดยมอบหมายคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) รับไปดำเนินการ และถ้าหากราคาน้ำมันตลาดโลกยังปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ และเงินกองทุนน้ำมันฯ ในวงเงิน 5,000 ล้านบาท ไม่เพียงพอ ให้กระทรวงการคลังและกระทรวงพลังงานร่วมกันพิจารณาหาแนวทางการแก้ไขปัญหาเพิ่มเติม และให้นำเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติในการพิจารณาต่อไป
2. ตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2553 ถึง 5 กุมภาพันธ์ 2554 กบง. ได้มีการปรับอัตราเงินชดเชยราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว รวม 6 ครั้ง โดยน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดาได้รับการชดเชยสะสมไปแล้ว 3.15 บาทต่อลิตร น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี5 ได้รับการชดเชยสะสมไปแล้ว 3.05 บาทต่อลิตร และกองทุนน้ำมันฯ ได้จ่ายชดเชยเพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2553 ถึงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 ไปแล้วประมาณ 4,629 ล้านบาท คงเหลือเงิน 371 ล้านบาท จะสามารถใช้ชดเชยราคาน้ำมันดีเซลได้อีกประมาณ 2 วัน (ถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2554)
3. ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2554 มีเงินสดในบัญชี 35,275 ล้านบาท มีหนี้สินกองทุน 11,895 ล้านบาท แยกเป็นหนี้ค้างชำระชดเชย 11,618 ล้านบาท งบบริหารและโครงการซึ่งได้อนุมัติแล้ว 277 ล้านบาท ดังนั้นกองทุนน้ำมันฯ จึงมีฐานะสุทธิ 23,380 ล้านบาท โดยกองทุนน้ำมันฯ มีรายรับรวม


http://www.eppo.go.t...kpc/kpc-134.htm



ดู ฐานะสุทธิไว้นะครับ เพราะผมเอาตัวนี้เป็นตัววัด

กุมภา 2554 มาร์คมี 23380 ล้านบาท



1. ตามที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้มีมติเห็นชอบให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2553 ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2554 การดำเนินการที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2553 ถึง 5 เมษายน 2554 ได้มีการปรับอัตราเงินชดเชยราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว รวม 13 ครั้ง กองทุนน้ำมันฯ ได้จ่ายชดเชยเพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไปแล้วจนถึงวันที่ 7 เมษายน 2554 ประมาณ 19,350 ล้านบาท ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 7 เมษายน 2554 มีเงินสดในบัญชี 34,857 ล้านบาท มีหนี้สินกองทุน 23,255 ล้านบาท แยกเป็นหนี้ค้างชำระชดเชย 22,896 ล้านบาท งบบริหารและโครงการซึ่งได้อนุมัติแล้ว 359 ล้านบาท กองทุนน้ำมันฯ มีฐานะเบื้องต้นสุทธิ 11,602 ล้านบาท โดยยังมีหนี้ที่มีมติไปแล้วแต่ยังไม่มีการเบิกจ่าย 14,361 ล้านบาท แยกเป็น หนี้เงินชดเชยค่าปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์รถแท๊กซี่ 1,200 ล้านบาท หนี้เงินชดเชยก๊าซ LPG จากโรงกลั่น

http://www.eppo.go.th/nepc/kbg/kbg-72.htm


มาเมษายน 2544 มาร์ค มี 11602 บาท

หายไป 11778 ล้านบาท



1. ตามที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2553 และวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 เห็นชอบให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2553 ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2554 นั้น การดำเนินการที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2553 ถึงวันที่ 21 เมษายน 2554 ได้มีการปรับอัตราเงินชดเชยราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว รวม 17 ครั้ง โดยกองทุนน้ำมันฯ ได้จ่ายชดเชยเพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลจนถึงวันที่ 6 พฤษภาคม 2554 ไปแล้วประมาณ 24,005 ล้านบาท
2. กพช. ในการประชุมเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2554 ได้มีมติอนุมัติในหลักการให้สถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (องค์การมหาชน) (สบพน.) กู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน ในวงเงินประมาณ 20,000 ล้านบาท เพื่อใช้เสริมสภาพคล่องทางการเงินของกองทุนน้ำมันฯ หากราคาน้ำมันปรับเพิ่มสูงขึ้นจนทำให้กองทุนน้ำมันฯ ไม่มีสภาพคล่องที่จะไปชดเชยราคาน้ำมันเชื้อเพลิง
3. สถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลก ณ วันที่ 6 พฤษภาคม 2554 ราคาปิดครึ่งวันของน้ำมันดิบดูไบลดลง 8.71 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล จาก 114.74 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 106.03 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และน้ำมันดีเซลลดลง 9.95 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล จาก 135.40 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 125.45 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และคาดการณ์ว่าน้ำมันเบนซินลดลง 9.76 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล จาก 136.32 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 126.54 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล จากราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง ส่งผลให้ต้นทุนราคาน้ำมันปรับลดลง โดยราคาน้ำมัน ณ โรงกลั่นของแก๊สโซฮอล 95 ลดลง 1.16 บาทต่อลิตร ทำให้ค่าการตลาดเพิ่มขึ้นจาก 1.0953 บาทต่อลิตร เป็น 2.3626 บาทต่อลิตร และราคาน้ำมัน ณ โรงกลั่นของน้ำมันดีเซลหมุนเร็วลดลง 1.30 บาทต่อลิตร ค่าการตลาดน้ำมันดีเซลหมุนเร็วเพิ่มขึ้นจาก 1.4060 บาทต่อลิตร เป็น 2.7082 บาทต่อลิตร
4. ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 3 พฤษภาคม 2554 มีเงินสดในบัญชี 34,518 ล้านบาท มีหนี้สินกองทุน 33,548 ล้านบาท แยกเป็นหนี้อยู่ระหว่างการเบิกจ่ายชดเชย 33,340 ล้านบาท งบบริหารและโครงการซึ่งได้อนุมัติแล้ว 207 ล้านบาท กองทุนน้ำมันฯ มีฐานะเบื้องต้นสุทธิ 971 ล้านบาท

http://www.eppo.go.t.../kbg/kbg-76.htm

มาเดือนพฤษภาคม มาร์คเหลือ 971 ล้านบาท

หายไปอีก 10631 ล้านบาท +ของเดิม 11778

10631+11778 = 22409 ล้านบาท


เรื่องที่ 1 การแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันแพง
สรุปสาระสำคัญ
1. ตามที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2553 และวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 เห็นชอบให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็วไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2553 ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2554 นั้น การดำเนินการที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2553 ถึงวันที่ 6 พฤษภาคม 2554 กองทุนน้ำมันฯ ได้จ่ายชดเชยเพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็วไปแล้วประมาณ 24,005 ล้านบาท โดย ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2554 กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มีฐานะเบื้องต้นสุทธิติดลบ 524 ล้านบาท

http://www.eppo.go.t.../kbg/kbg-89.htm

สิ้นสมัยอภิสิทธิกองทุนน้ำมัน มีฐานะเบื่องต้นสุทธิ ติดลบ 524

เพราะมาทำติดลบไป จากเดิมเริ่มแรก มี 23380 ล้านบาท ตอนนี้ติลบ 524 ล้านบาท

เพราะฉนั้นบวกไป 23380+524 = 23904

เพราะฉนั้นมาร์คทำกองทุนน้ำมัน ลดไป 23904 ล้านบาท





คราวนี้มายุคยิ่งลักษณ์ เริ่มต้น ติดลบ 524 ล้านบาท



4.1 ฐานะกองทุนฯ ณ วันที่ 26 กันยายน 2554 มีเงินสดในบัญชี 16,867 ล้านบาท มีหนี้สินกองทุน 18,168 ล้านบาท มีฐานะกองทุนสุทธิติดลบ 1,302 ล้านบาท (รวมเงินฝากโครงการส่งเสริมการปลูกปาล์มน้ำมันจำนวน 500 ล้านบาท)

http://www.eppo.go.t.../kbg/kbg-93.htm

มากันยา จากติดลบ 524 ล้าน เป็นติดลบ 1302 ล้าน

เพราะฉนั้นเอาลบกัน 1302-524 = 778

ยิ่งลักษณ์ ทำกองทุนน้ำมันลดไป 778 ล้านบาท



5. สถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลก ณ วันที่ 10 มกราคม 2555 น้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 110.80 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล น้ำมันเบนซินอยู่ที่ 124.15 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 129.96 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศเป็นดังนี้ น้ำมันเบนซิน 95 ลิตรละ 40.92 บาท น้ำมันเบนซิน 91 ลิตรละ 36.97 บาท น้ำมันแก๊สโซฮอล 95 ลิตรละ 35.69 บาท และน้ำมันดีเซลลิตรละ 29.99 บาท โดยค่าการตลาดน้ำมัน ณ วันที่ 11 สิงหาคม 2554 อยู่ที่ลิตรละ 5.0867, 1.8436, 0.8742 และ 0.8726 บาท ตามลำดับ
6. ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 6 มกราคม 2555 มีเงินสดในบัญชี 3,769 ล้านบาท มีหนี้สินกองทุน 18,319 ล้านบาท แยกเป็นหนี้อยู่ระหว่างการเบิกจ่ายชดเชย 18,165 ล้านบาท งบบริหารและโครงการซึ่งได้อนุมัติแล้ว 154 ล้านบาท กองทุนน้ำมันฯ มีฐานะเบื้องต้นสุทธิติดลบ 14,550 ล้านบาท

http://www.eppo.go.t.../kbg/kbg-98.htm


อันนี้เป็นข้อมูลล่าสุดที่ผมหาได้แล้วครับเพราะ เดือน กพ มีค เมย ผมหาข้อมูลไม่ได้แล้ว

เพราะฉนั้นเดือน มกราคม ยิ่งลักษณติดลบไป 14550

เริ่มรับตำแหน่งยิ่งลักษณ์ ติดลบ 524 เพราะฉนั้นเอามาลบกัน

14550 - 524 = 14026 ล้านบาท

เพราะฉะนั้นยิ่งลักษณ์ทำเงินหายไป 14026 ล้านบาท ใน 6 เดือน จากสิงหาคน - มกราคม

ส่วนมาร์คทำเงินหายไป 23904 ภายใน 6 เดือนเช่นกัน จาก กุมภาพันธ์ - กรกฎาคม





เอาไปเปรียบเทียบดูนะครับว่าในสถานะการณ์เหมือนกันใครบริหารได้ดีกว่า


ส่วนบอกน้ำมันรัฐบาลมาร์คถูกกว่านิดหน่อย

ก็อย่างที่บอกครับ มาร์คอุ้มดีเซลครับ เลย ราคาถูก โดยงดภาษีลิตรละ 5 บาท

ส่วนยิ่งลักษณล่าสุดเริ่มจัดเก็บภาษีเข้ากรมสรรพสามิตแล้วรู้สึกจะ 1 บาท

และขึ้นไปเรื่อยๆตามความเหมาะสมกับราคาน้ำมัน ซึ่งยิ่งลักษณ์ปล่อยน้ำมันไปตามกลไกโดยไม่อุ้มครับ




จบครับ


โอ้โห พออ่านดีๆแล้วฮามากเลย

นับเงินที่ลด บอกว่าปูทำเงินลดน้อยกว่ามาร์ค

แต่ขอโทษครับ คุณปูทำเงินลดน้อยกว่าก็จริง แต่ปรากฏว่าสถานะสุทธิติดลบ

ของคุณมาร์ค เงินลดเยอะกว่า แต่สถานะสุทธิเป็นบวก

เล่นอย่างนี้ง่ายดีนะครับ ผู้บริหารคนแรก ทำให้เงินในบัญชีลดลง แต่ไม่มีหนี้

ปรากฏว่าผู้บริหารคนที่สอง ไม่ทำให้เงินเพิ่มขึ้น แต่ทำให้บริษัทเป็นหนี้ ปรากฏว่าคุณ evomans 136 บอกว่าผู้บริหารคนหลังนั้นเก่งกว่า เออ เยี่ยมไปเลย

หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#193 evomans136

evomans136

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 112 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 21:49

ตัวเลขมันบิดเบือนกันไม่ได้อยู่แล้วครับ

ผมก็อธิบายชัดเจนว่า ฐานะสุทธิ ตัวเลขแต่ละช่วงมันเท่าไร





มีตัวเลขในบัญชี 100 ล้าน แต่เป็นหนี้ 1000 ล้าน ผมก็ไม่เอานะครับ

ผักชีโรยหน้า

Edited by evomans136, 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 21:53.


#194 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 22:13

แล้วอภิสิทธิ์เป็นหนี้พันล้านตอนไหนครับ?

ตอนยุบสภา สถานะเป็นบวก

ตอนรัฐบาลนี้เข้ามา ลบ ๕๕ ล้านจริง แต่พอผ่านไป ๑๕ วัน ขึ้นเป็นบวกพันล้าน เพราะได้เงินที่รับเข้ามาจากรายได้ต่าง ๆ

ว่าแต่ตอนนี้ ฐานะติดลบ ๒ หมื่นล้าน เงินสดเหลือน้อย อันนี้กระทั่งผักชียังไม่มีโรยหน้าเลย

แต่ทั้งที่เห็นว่ามันเน่า ก็หน้าด้านหน้าทนอวยว่าเก่งอย่างโน้นอย่างนี้ได้นี่ แปลกเนอะ
ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#195 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 22:14

ตัวเลขมันบิดเบือนกันไม่ได้อยู่แล้วครับ

ผมก็อธิบายชัดเจนว่า ฐานะสุทธิ ตัวเลขแต่ละช่วงมันเท่าไร

มีตัวเลขในบัญชี 100 ล้าน แต่เป็นหนี้ 1000 ล้าน ผมก็ไม่เอานะครับ

ผักชีโรยหน้า


ขอถามแบบตรงๆเลยนะครับ ในสายตาคุณ evomans136 นั้น คุณยิ่งลักษณ์บริหารกองทุนน้ำมันดีกว่าคุณอภิสิทธิ์ใช่มั้ยครับ??

เพราะคุณอ้างว่าอภิสิทธิ์ทำให้ฐานะสุทธิลดลงมากกว่า ภายในช่วงเวลาที่เท่ากัน

หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#196 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 22:18

อีโว ไม่ได้เข้าใจเลยสินะว่า ฐานะกองทุนสุทธิมันหมายถึงหักหนี้ทั้งหมดแล้ว เหลือเป็นกองทุนสุทธิ

ตอนนี้หักหนี้ หักรายจ่ายทั้งหมด มีตัวเลขติดลบ ๒ หมื่นล้าน

ตอนอภิสิทธิ์ ช่วงแย่สุด หักหนี้หมดแล้ว มีตัวเลขติดลบ ๕๐๐ ล้าน

ต่างกัน ๔๐ เท่าเอง
ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#197 evomans136

evomans136

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 112 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 22:23

เรื่องที่ 1การแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันแพง
สรุปสาระสำคัญ
1. ตามที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2553 และวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 เห็นชอบให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็วไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2553 ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2554 นั้น การดำเนินการที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2553 ถึงวันที่ 6 พฤษภาคม 2554 กองทุนน้ำมันฯ ได้จ่ายชดเชยเพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็วไปแล้วประมาณ 24,005 ล้านบาท โดย ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2554 กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มีฐานะเบื้องต้นสุทธิติดลบ 524 ล้านบาท

Edited by evomans136, 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 22:23.


#198 No more

No more

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 882 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 22:26

แล้วอภิสิทธิ์เป็นหนี้พันล้านตอนไหนครับ?

ตอนยุบสภา สถานะเป็นบวก

ตอนรัฐบาลนี้เข้ามา ลบ ๕๕ ล้านจริง แต่พอผ่านไป ๑๕ วัน ขึ้นเป็นบวกพันล้าน เพราะได้เงินที่รับเข้ามาจากรายได้ต่าง ๆ

ว่าแต่ตอนนี้ ฐานะติดลบ ๒ หมื่นล้าน เงินสดเหลือน้อย อันนี้กระทั่งผักชียังไม่มีโรยหน้าเลย

แต่ทั้งที่เห็นว่ามันเน่า ก็หน้าด้านหน้าทนอวยว่าเก่งอย่างโน้นอย่างนี้ได้นี่ แปลกเนอะ


I admire your patience.
Your comments are useful for interested readers.

Red shirts perhaps were not born idiots, but are acting idiotically and will die idiots. What a poor creature!

Red shirts in the cyber world are merely contract posters. These dumb fucks are worthless pieces of shit.

Stupidity and incompetence of the walking botox will run have run Thailand to the ground.

The magnitude of this disaster would have decreased exponentially if proper water management had been applied in time like since the inception of the Bang-Ra-Kum model.


#199 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 22:27

เรื่องที่ 1การแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันแพง
สรุปสาระสำคัญ
1. ตามที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2553 และวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 เห็นชอบให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็วไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2553 ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2554 นั้น การดำเนินการที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2553 ถึงวันที่ 6 พฤษภาคม 2554 กองทุนน้ำมันฯ ได้จ่ายชดเชยเพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็วไปแล้วประมาณ 24,005 ล้านบาท โดย ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2554 กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มีฐานะเบื้องต้นสุทธิติดลบ 524 ล้านบาท


แต่วันที่ ๙ สิงหา ฐานะติดลบ ๕๕ ล้าน

วันที่ ๒๖ สิงหา ฐานะบวก ๑ พันล้าน

ปลายเดือนกันยา เหลือ ๖ ร้อยล้าน

หมดเดือนตุลา ติดลบ ๑ พันล้าน

มกราคม ติดลบ ๑ หมื่น ๕ พันล้าน

หมดกุมภาพันธ์ ติดลบ ๑ หมื่น ๗ พันล้าน

หมดมีนาคม ติดลบ ๒ หมื่น ๒ พันล้าน

เห็นอะไรตรงนี้ไหม หรือจะหลับหูหลับตา?

เท่าที่ดูก็ประมาณนั้น อภิสิทธิ์เลวมาก ทำกองทุนติดลบ ๕๐๐ ล้าน แต่หลังจากนั้นที่มันขึ้น ๆ มาไม่นับ

ยิ่งลักษณ์เก่งมาก ทำกองทุนติดลบต่อเนื่องจากแดนบวก จนติดลบเกิน ๒ หมื่นล้าน แถมเตรียมขยายวงเงินเพื่อกู้ยืมเป็น ๓ หมื่นล้าน จากที่เคยกู้แล้ว ๑ หมื่นล้าน????????

Edited by baezae, 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 22:37.

ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#200 evomans136

evomans136

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 112 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 22:40

เอาบ้างครับศรีธนชัยมาก็ต้องศรีธนชัยไปจะได้สมกัน

การปรับขึ้นราคาเชื้อเพลิง แบบยกแผง

Posted Image

ปีใหม่ พ.ศ. 2555 ผ่านไปเพียงแค่ 2 สัปดาห์ มีการปรับราคาน้ำมันเบนซินสูงขึ้นถึง 5 ครั้ง รวมแล้ว น้ำมันเบนซืนแพงขึ้นถึงลิตรละ 3.57 บาทต่อลิตร และมีการปรับราคาน้ำมันดีเซล 2 ครั้ง ทำให้น้ำมันดีเซลมีราคาเพื่มขึ้นลิตรละ 1.74 บาท ทำให้ราคาน้ำมันดีเซล ทะลุลิตรละ 30 บาท ไปอยุ่ที่ ลิตรละ 31.13 บาท

นอกจากนั้น ราคาแก๊สเอ็นจีวี ยังถูกปรับขึ้นอีกกิโลกรัมละ 50 สตางค์ จากกิโลกรัมละ 8.50 บาท เป็นกิโลกรัมละ 9 บาท และจะทยอยขึ้นอีกเดือนละ 50 สตางค์ ในอีก 3 เดือนต่อไป รวมเป็นการขึ้นราคา 2 บาท ต่อ 1 กิโลกรัม ส่วนแอลพีจี ในภาคขนส่งปรับขึ้นกิโลกรัมละ 75 สตางค์

การปรับขึ้นราคาเชื้อเพลิง แบบยกแผงครั้งนี้ มีสาเหตุหลายอย่าง คือ ราคาน้ำมันในตลาดโลก ปรับตัวสูงขึ้น ตามฤดูกาล และสถานการณ์ในอ่าวเปอร์ซียที่ตึงเครียดขึ้น หลังจากการซ้อมรบทางทะเลของอิร่าน การปรับราคาเอ็นจีวี และแอลพีจี ตามความต้องการ ของ ปตท. และ การปรับราคาเพราะรัฐบาลพรรคเพือ่ไทย ยกเลิกนโยบายลดค่าครองชีพประชาชนแบบทันทีทันใด โดยประชาชนไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัว

ส่าเหตุสุดท้ายนี้ ทำให้การปรับราคาน้ำมันครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา ปรับขึ้นสูงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา คือ น้ำมันเบนซินลิตรละ 1 .07 บาท และน้ำมันดีเซลลิตรละ 60 สตางค์ เพราะรัฐบาลแอบฉีกนโยบายเลิกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันทิ้ง แล้วหันมาเก็บเงินเข้ากองทุนฯตามเดิม ไม่ได้เกี่ยวกับ ราคาน้ำมันในตลาดโลกแต่อย่างใด

นอกจาก เก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน จากผู้ใช้น้ำมันเบนซินและ น้ำมันดีเซลแล้ว รัฐบาลยังแอบเก็บเงินเพิ่มจากผู้ใช้แก๊สโซฮอลล์ 95 เพิ่มขึ้นอีก 1 บาทต่อลิตร จาก 0.20 บาท เป็น 1.20 บาทต่อลิตร และ ลดเงินอุดหนุน แก๊สโซฮอล์ 91 ลง ลิตรละ 1 บาท จาก ลิตรละ 1.40 บาท เหลือลิตรละ .40 สตางค์ เดิมได้รับการอุดหนุน 1.40 บาท ก็จะได้รับการอุดหนุนลดลงเหลือ 0.40 บาทต่อลิตร อี 20 เดิมได้รับการอุดหนุน 2.80 บาท อัตราใหม่ลดลงเหลือ 1.80 บาทต่อลิตร

ส่วนน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ อี 85 ซึ่งมีผู้ใช้น้อยมาก ได้รับการอุดหนุนเพิ่มขึ้นลิตรละ 10 สต่างค์ จาก 13.50 บาท เป็น 13.60 บาทต่อลิตร

การงดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน เป็น 1 ใน 6 นโยบายเร่งด่วนของ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่ใช้ในการหาเสียงและประกาศว่า จะทำทันที หลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เพื่อลดค่าครองชีพของประชาชน

วันที่ 27 สิงหาคม ปีที่แล้ว รัฐบาล โดย คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีมติให้ชะลอการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นชั่วคราว สำหรับน้ำมัน 3 ประเภท คือ น้ำมันเบนซิน 95 ลดการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ลิตรละ 7.50 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่ลดลงแล้วทำให้ราคาน้ำมันเบนซิน 95 ลดลงถึงลิตรละ 8.20 บาท

น้ำมันเบนซิน 91 ลดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ลิตรละ 6.70 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ทำให้ราคาน้ำมันลดลงถึงลิตรละ 7.17 บาท และดีเซลลดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ลิตรละ 2.80 บาทรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ราคาน้ำมันลดลงได้ลิตรละ 3 บาท

การงดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันนี้ ทำให้รายรับของกองทุน หายไปเดือนละ 3,000 ล้านบาท เมื่อหักลบกลกันกับรายได้อื่นๆ และภาระค่าใช้จ่ายแล้ว กองทุนฯจะมีฐานะการเงินติดลบ เดือนละ 3,000 ล้านบาท ในขณะที่มีเงินหมุนเวียนอยู่ 15,000 ล้านบาท หากยังงดเก็บเงินเข้ากองทุนฯต่อไป เงินจะหมดในเดือนมกราคมนี้ และจะต้องกู้เงินมาใช้

รัฐบาลจึงแหกตาประชาชนได้เพียง 4 เดือนครึ่งเท่านั้น ว่า จะช่วยลดค่าครองชีพ เพราะต้องหันกลับมาเก็บเงินเข้ากองทุนฯ ที่ถูกนโยบายประชานิยมผลาญจนหมดตัว ตามเดิม แต่ทำเงียบๆ ไม่มีการป่าวประกาศใหญ๋โต เหมือนตอนงดเก็บ การจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมันครั้งนี้ จะทำให้ฐานะของกองทุนน้ำมัน ที่ติดลบวันละ 97.85 ล้านบาท เหลือติดลบวันละ 44.23 ล้านบาท ซึ่งแปลว่า จะต้องมีการขึ้นราคาน้ำมันเบนซิน และดีเซล อีก อย่างน้อยเดือนละ 1 บาท โดยไม่เกี่ยวกับราคาน้ำมันในตลาดโลก จนกว่า กองทุนน้ำมันจะไม่ติดลบ และหากช่วงไหนราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลง ราคาน้ำมันทึ่คนไทยต้องจ่ายจะไม่ลดลง เพราะต้องเก็บเงินเข้ากองทุนฯเพิ่มขึ้น

นี่คือ ความเป็นจริง ที่รัฐบาลไม่กล้ายอกให้ประชาชนรับรู้ นี่คือ การซ้ำเติม ให้ประชาชนต้องยากลำบาก ประสบกับปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น โดยที่รัฐบาลซึ่งโกหกว่า จะกระชากค่าครองชีพของประชาชนให้ลดลงมา ไม่ใส่ใจ เพราะมั่นใจว่า จะอยู่ในอำนาจครบเทอมแน่ จึงแอบฉีกสัญญาประชาคมทิ้ง แล้วโกหกว่า เป็นการปรับโครงสร้างพลังงาน

17/01/2555 17:29:05






มกราคมมันยัง 15000 อยู่เลยครับติดลบตรงไหน

อย่าพูดดีแต่ได้ เอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่นสิครับ


ข้อความนี้ผมแถมากครับยอมรับแต่ผมเลียนแบบพวกคุณ



แค่นี้ละครับ

อีกอย่างเดี๋ยวผมจะแนะนำให้รัฐบาล กู้ สักแสนล้านแล้วเอาไปใส่บัญชีกองทุน

แล้วเอาภาระหนี้มาใส่กองทุนน้ำมันไปด้วย

เงินในบัญชีคงได้สักแสน ล้านแต่หนี้ไม่ต้องพูดหรอกครับ เพราะผมทำเอาใจพวกชอบผักชีโรยหน้าอะ

5555555



ไปแล้วครับหวังว่าคงไม่ต้องเจอกันอีกครับ

Edited by evomans136, 5 เมษายน พ.ศ. 2555 - 22:46.