Jump to content


Photo
- - - - -

10 เมษา ทหารถูกสั่งให้ใช้กระสุนยางและโลห์เท่านั้น....


This topic has been archived. This means that you cannot reply to this topic.
175 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 02:11

วันที่ 10 เมษา ทหารถูกสั่งให้ใช้กระสุนยางและโลห์เท่านั้น....


คุณดราม่าเสนอประเด็นที่ชัดเจนแหลมคมเอาไว้

ผมจึงขอมาตั้งเป็นกระทู้ต่างหาก เพื่อเก็บหลักฐาน และเสนอให้มหาชนพิจารณา

ข้อเท็จจริงก็คือ จนถึงวันที่ 10 เมษา
ไม่มีความตายจากคมกระสุนไม่ว่าฝ่ายใดทั้งสิ้น

นปช. พยายามยั่วยุทหารทุกวิถีทาง แม้กระทั่งจัดขบวนไปไล่ทหารออกจากที่ตั้ง
ทหารก็ยอมโดยดี

แม้แต่วันที่ 10 เมษายน ความตายก็เพิ่งเกิดตอนสองทุ่ม
ข้อมูลเหล่านี้ เราถกกันมาจนจำขึ้นใจ

แต่ไม่มีใครชี้ว่า ที่จริงแล้ว ทหารมีแต่อาวุธปลอม





คุณดราม่าเป็นคนแรกเท่าที่ผมทราบ ที่ชี้ข้อนี้ออกมา

#2 ทัชชี่

ทัชชี่

    ดีใจจัง ค้นแล้วเจอเลย

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,784 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 02:18

ถึงจะมีการอนุญาตให้ใช้กระสุนจริงแล้วก็ตาม ก็จะทำเพื่อป้องปรามเท่านั้น คือ ป้องกันตัว และยิงสกัดกั้น ซึ่งมีคำสั่งอย่างเคร่งครัดว่าห้ามยิงเลยเข่าขึ้นมาเด็ดขาด...

พวกที่โดนยิงเลยเข่าขึ้นมา จึงไม่ใช่ฝีมือทหาร...แต่เป็น?????

ประชาธิปไตยแบบแดง: 1. ไม่ใช่แดง เป็นประชาธิปไตยไม่ได้ 2. เสียงส่วนใหญ่ คือเสียงถูกต้อง 3. กฎพวกพ้องต้องเหนือกฎหมาย 4. เบื้องสูงมีไว้เหยียบย่ำ 5. ใครทำก็ผิด แต่แดงต้องไม่ผิด 6. คิดร้ายต่อทักษิณย่อมชั่ว 7. มั่วบิดเบือนหลอกพวกเดียวกัน 8. ปั้นน้ำเป็นตัวแล้วแถ


#3 Solidus

Solidus

    เลิกเล่น

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 14,367 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 02:20

ต้องบอกว่าเดิมให้ใช้แต่กระสุนยางกับโล่มากกว่าครับ


[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]

ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556


#4 Solidus

Solidus

    เลิกเล่น

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 14,367 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 02:25

อันนี้กระสุนจริง แต่หลัง M79 อาก้า M16 ยิงถล่มใส่ทหารแล้วนะ


[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]

ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556


#5 Solidus

Solidus

    เลิกเล่น

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 14,367 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 02:32

เลเซอร์ชี้มาจากกลุ่มผู้ชุมนุม แล้วก็มี M79 ลอยตามมา


[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]

ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556


#6 นายตัวเกร็ง

นายตัวเกร็ง

    Monkey Godfather Lv.3

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,901 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 03:05

รอชมครับเพราะเสื้อแดงและคนเป็นกลางความจำมักจะสั้น
หรือไม่ก็ความทรงจำสับสนอยากดูว่าจะมีข้อมูลใดมาหักล้าง

เขียนเรื่องการเมือง : ดราม่า ,เขียนเรื่องสังคม : ดราม่า เขียนเรื่องบันเทิง : ดราม่า
แต่พอโพสเรื่องหื่น : มีความเห็นเป็นไปทางเดียวกันเสมอ >3<


#7 คนกินข้าว

คนกินข้าว

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,422 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 05:52

สรุปได้สั้น ๆ ว่า

ช่วงแรกไม่มีคนตาย แต่ คนนอกประเทศ และหัวหน้ากลุ่มเสื้อแดงก็พยายามสร้างกระแสว่ามีคนตาย แต่ก็หาศพไม่ได้
ทำให้พูดเท่าไรก็จุดกระแสไม่ติด แถมหน้าแตกอีกต่างหาก
จึงมีการวางแผนใหม่ว่า ต้องสร้างสถานการณ์ให้ดูรุนแรงขึ้นและต้องทำให้มีคนตายให้ได้ เพื่อให้เป็นที่สนใจของประชาคมโลก
แต่เมื่อเห็นว่าทหารไม่ใช้อาวุธ ไม่ใช่กระสุนจริง จึงไม่เกรงกลัว จึงสร้างความรุนแรงขึ้น เพื่อยั่วยุ จนทหารหลงกลนำกระสุนจริงออกมาใช้ หวังข่มขู่ให้เกรงกลัว จึงเข้าทางที่วางแผนไว้ ทหารถูกแย่งชิงอาวุธปืนและกระสุนไปเป็นจำนวนมาก
ดังนั้นอาวุธปืนของทหาร จึงอยู่ในมือของทั้งสองฝ่าย พอเกิดการยิงกัน ก็แยกแยะไม่ได้ว่าเป็นอาวุธของฝ่ายใดยิง
ตามข้อเท็จจริง เสื้อแดงบางคนก็ตาย เพราะพวกเดียวกันยิง เพื่อสร้างสถานการณ์แล้วโยนความผิดให้ทหาร
แต่บางคนก็ถูกทหารยิงตายจริง ๆ เพราะถูกตอบโต้ป้องกันตัว
ถ้าหากทหารตั้งใจยิงจริง ๆ จำนวนคนตายคงนับไม่ถ้วน
ส่วนทหารที่ตายก็เพราะถูกโจมตี จากกองกำลังติดอาวุธ ที่ถูกฝึกมาจากทหารนอกแถวคนหนึ่ง จนต้องถูกสั่งเก็บด้วยสไนเปอร์
ความตายของ "คนเสื้อแดง" ที่เกิดขึ้น เป็นไปตามแผนการของ "คนนอกประเทศ" ที่วางแผนไว้
แต่ความตายของทหารนั้น คนนอกประเทศไม่ได้ต้องการเลย
เพราะถ้าไม่มีทหารตาย จะพูดได้เต็มปากเต็มคำ เพื่อหลอกประชาคมโลกได้ว่า
ทหารทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ไม่มีอาวุธและไม่มีทางต่อสู้
แต่เมื่อมีทหารตาย ทำให้ความน่าเชื่อถือของประชาคมโลกลดลง
คนนอกประเทศ เห็นความสำคัญของกลุ่มมวลชนที่จะปกป้องตัวเองได้ จึงต้องเลี้ยงมวลชนเอาไว้ด้วยอำนาจเงิน
จะเห็นได้จากการจ่ายเงินชดเชยให้คนตาย คนบาดเจ็บในจำนวนสูง เพื่อจูงใจมวลชนไม่ให้ทอดทิ้งตัวเอง
ถูกหรือผิดกฎหมายไม่สนใจ เอาไว้แก้ปัญหาทีหลัง เพราะขืนชักช้ามวลชนจะหนีหมด เพราะกลัวตายฟรี
แต่เมื่อได้เงินก้อนใหญ่ ความกลัวตายจะลดลง
เราจะได้เห็นมวลชนออกมาปกป้องคนนอกประเทศกันอีกหลายกิจกรรม
จนกว่าคนนอกประเทศจะบรรลุวัตถุประสงค์และผลประโยชน์ของตัวเองล้วน ๆ
พวกเขาได้เสวยสุข แต่พวกรากหญ้า ก็ยังคงเป็น รากหญ้า ต่อไป
เงินทองมีให้ใช้ ก็กู้มาจากกองทุนต่าง ๆ ไม่มีจ่ายเขาก็พักหนี้ให้ แต่ยังต้องเป็นทาสเงินเขาต่อไป
และเมื่อนั้น กว่าจะรู้ตัวก็สายไปเสียแล้ว
"ทักษิณ" ไม่ได้ฉลาดเกินคน เพียงแต่ "ความฉ้อฉล" มากกว่าใคร ๆ
"การเมือง เป็นเรื่องผลประโยชน์ส่วนตน ผลประโยชน์ประชาชน เป็นข้ออ้าง"

#8 ryukendo

ryukendo

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,383 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 06:18

พวกฆาตกรเค้าก็จ่ายค่าจ้างตายให้แล้วนี่ครับ ^_^
บ้านเมืองไม่ใช่ของเล่นที่จะทำพังแล้วร้องไห้ขออันใหม่

#9 เพื่อนร่วมชาติ

เพื่อนร่วมชาติ

    พรานล่าปูไปรยา

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 7,788 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 06:35

สรุปได้สั้น ๆ ว่า

ช่วงแรกไม่มีคนตาย แต่ คนนอกประเทศ และหัวหน้ากลุ่มเสื้อแดงก็พยายามสร้างกระแสว่ามีคนตาย แต่ก็หาศพไม่ได้
ทำให้พูดเท่าไรก็จุดกระแสไม่ติด แถมหน้าแตกอีกต่างหาก
จึงมีการวางแผนใหม่ว่า ต้องสร้างสถานการณ์ให้ดูรุนแรงขึ้นและต้องทำให้มีคนตายให้ได้ เพื่อให้เป็นที่สนใจของประชาคมโลก
แต่เมื่อเห็นว่าทหารไม่ใช้อาวุธ ไม่ใช่กระสุนจริง จึงไม่เกรงกลัว จึงสร้างความรุนแรงขึ้น เพื่อยั่วยุ จนทหารหลงกลนำกระสุนจริงออกมาใช้ หวังข่มขู่ให้เกรงกลัว จึงเข้าทางที่วางแผนไว้ ทหารถูกแย่งชิงอาวุธปืนและกระสุนไปเป็นจำนวนมาก
ดังนั้นอาวุธปืนของทหาร จึงอยู่ในมือของทั้งสองฝ่าย พอเกิดการยิงกัน ก็แยกแยะไม่ได้ว่าเป็นอาวุธของฝ่ายใดยิง
ตามข้อเท็จจริง เสื้อแดงบางคนก็ตาย เพราะพวกเดียวกันยิง เพื่อสร้างสถานการณ์แล้วโยนความผิดให้ทหาร
แต่บางคนก็ถูกทหารยิงตายจริง ๆ เพราะถูกตอบโต้ป้องกันตัว
ถ้าหากทหารตั้งใจยิงจริง ๆ จำนวนคนตายคงนับไม่ถ้วน
ส่วนทหารที่ตายก็เพราะถูกโจมตี จากกองกำลังติดอาวุธ ที่ถูกฝึกมาจากทหารนอกแถวคนหนึ่ง จนต้องถูกสั่งเก็บด้วยสไนเปอร์
ความตายของ "คนเสื้อแดง" ที่เกิดขึ้น เป็นไปตามแผนการของ "คนนอกประเทศ" ที่วางแผนไว้
แต่ความตายของทหารนั้น คนนอกประเทศไม่ได้ต้องการเลย
เพราะถ้าไม่มีทหารตาย จะพูดได้เต็มปากเต็มคำ เพื่อหลอกประชาคมโลกได้ว่า
ทหารทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ไม่มีอาวุธและไม่มีทางต่อสู้
แต่เมื่อมีทหารตาย ทำให้ความน่าเชื่อถือของประชาคมโลกลดลง
คนนอกประเทศ เห็นความสำคัญของกลุ่มมวลชนที่จะปกป้องตัวเองได้ จึงต้องเลี้ยงมวลชนเอาไว้ด้วยอำนาจเงิน
จะเห็นได้จากการจ่ายเงินชดเชยให้คนตาย คนบาดเจ็บในจำนวนสูง เพื่อจูงใจมวลชนไม่ให้ทอดทิ้งตัวเอง
ถูกหรือผิดกฎหมายไม่สนใจ เอาไว้แก้ปัญหาทีหลัง เพราะขืนชักช้ามวลชนจะหนีหมด เพราะกลัวตายฟรี
แต่เมื่อได้เงินก้อนใหญ่ ความกลัวตายจะลดลง
เราจะได้เห็นมวลชนออกมาปกป้องคนนอกประเทศกันอีกหลายกิจกรรม
จนกว่าคนนอกประเทศจะบรรลุวัตถุประสงค์และผลประโยชน์ของตัวเองล้วน ๆ
พวกเขาได้เสวยสุข แต่พวกรากหญ้า ก็ยังคงเป็น รากหญ้า ต่อไป
เงินทองมีให้ใช้ ก็กู้มาจากกองทุนต่าง ๆ ไม่มีจ่ายเขาก็พักหนี้ให้ แต่ยังต้องเป็นทาสเงินเขาต่อไป
และเมื่อนั้น กว่าจะรู้ตัวก็สายไปเสียแล้ว
"ทักษิณ" ไม่ได้ฉลาดเกินคน เพียงแต่ "ความฉ้อฉล" มากกว่าใคร ๆ


พูดแบบชาวบ้านคือ

มันเฮี่ยเกินคนครับ

ประชาธิปไตยก็เหมือนส้วมสาธารณะแบบนั่งเต็มตูด ควายนับถือศาสนาชินวัตรใช้แล้วสกปรกชิบเป๋ง


#10 Mike Saimai

Mike Saimai

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,004 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 07:46

มันเหมือนการจ้างคนให้มาตายจะได้เป็นข้อที่สามารถเอาไปโจมตี เเล้วไปค่าจ้างที่จ่ายน่ะมันก็ภาษีพวกเราทั้งนั้น เเน่จริงเอาตังค์ตัวเองจ่ายดิวะ
*เราอยู่ได้ทุกวันนี้ ก็เพราะเรามีฐานะความจนที่มั่นคง***ไม่โกรธ ไม่เกลียด แต่จำได้ทุกรายละเอียดที่ทำ*****อดึตช่างมัน ปัจจุบันช่างเเม่ง***

#11 วิท

วิท

    ขาแพง

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,333 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 07:51

นึกถึงตอนนั้น สงสารทหารจับใจ และแค้นไอ้แม้วและสมุนที่มันกล้าทำกับประเทศไทยได้ขนาดนั้น

#12 G-GEAR53

G-GEAR53

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,263 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 08:38

เครดิต facebook คุณ Sirichok Sopha

ครอบครัวทหารตายในม็อบแดงจี้ ทบ.สอบเผาเมือง- “ภริยาร่มเกล้า” ซัด “ประชา” อ้างหาคนร้ายไม่ได้ ลั่นคนผิดรับเงินเยียวยา 7.75 ล้านไม่ได้
ข้อเท็จจริงอีกด้านที่คนไม่รู้

บันทึกของแพทย์ทหารผู้หนึ่ง ที่เขียนบันทึกไว้เมื่อวันที่ 15 เมษายน เวลา 13.04 น.
การสลายการชุมนุม เมื่อวันที่ 10 เมษายน ผ่านไปกว่า 1 สัปดาห์แล้ว ซีดี.ภาพเหตุการณ์มีทั้งเวอร์ชั้น ศอฉ. และเวอร์ชั่นคนเสื้อแดง ได้ปั๊มกันออกมา เกลื่อนเมือง
แต่ท่ามกลาง การช่วงชิงมวลชน ปรากฏมีบันทึกของแพทย์ทหารผู้หนึ่ง ที่เขียนบันทึกไว้เมื่อวันที่ 15 เมษายน เวลา 13.04 น. มีหลายประเด็นน่าสนใจ ลองใช้ดุลยพินิจของท่าน

ผมในฐานะแพทย์ทหารคนหนึ่งที่ปฎิบัติงานในเหตุการณ์วันที่ 10 เม.ย. 53 อยากจะเขียนบันทึกความทรงจำเหตุการณ์ในวันนั้น เพื่อเก็บไว้เป็นบทเรียน เป็นอุทาหรณ์ หรือเป็นสิ่งเตือนใจให้แก่ตนเอง และประชาชนชาวไทย ไม่ให้ลืมเลือนบทเรียนจากเหตุการณ์ครั้งนี้ไปกับกาลเวลา
ผมได้รับภารกิจในฐานะ ผบ.มว.สร.พัน.ร. (ผู้บังคับหมวดเสนารักษ์ กองพันทหารราบ) หรือก็คือแพทย์ทหารประจำกองพัน หน้าที่ของผมคือติดตามดูแลกำลังพลเกี่ยวกับสุขภาพอนามัย การป้องกันโรค การส่งกำลังบำรุงทางสายแพทย์ รวมถึงงานอื่นๆตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย ผมมาภารกิจในครั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 11 มี.ค. 53 ย้ายสถานที่พักไปตามภารกิจต่างๆซึ่งส่วนใหญ่เป็นการตั้งด่านตรวจ และเฝ้าระวังเหตุร้ายตามสถานที่สำคัญ เช่น ที่ ร.1 พัน.1 รอ., ร.11 รอ., สนามบินสุวรรณภูมิ, ลาดหลุมแก้ว และที่สุดท้าย คือ สี่แยกคอกวัวบริเวณถนนตะนาวศรี (ข้างวัดบวรนิเวศฯ ย่านบางลำภู) ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ในวันที่ 10 เม.ย. 53
หน่วยของเราได้รับภารกิจในการขอพื้นที่คืนจากกลุ่มผู้ชุมนุมที่บริเวณสี่แยกคอกวัว ออกจากที่ตั้งปกติโดยรู้ก่อนล่วงหน้าไม่ถึง 1 ชม.

หลังจากเข้าที่รวมพลซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสี่แยกคอกวัวไม่นานก็ต้องเคลื่อนย้ายราวสักบ่ายโมง ผมขึ้นบนหลังคารถฮัมวี่คันแรกสุด (หากใครเห็นในรูปถ่าย ก็คงจะเห็นทหารคนหนึ่งบนหลังคารถฮัมวี่ที่ติดปลอกแขนกาชาด ถือโล่บังตัวเอง นั่นก็ผมล่ะครับ) จนกระทั่งถึงบริเวณถนนตะนาวศรี กำลังพลรวมทั้งผู้พันก็ลงจากรถ ไปตั้งแนวโล่หน้ากลุ่มผู้ชุมนุม ผู้พันผมบอกให้ผมรออยู่ในรถก่อน เนื่องจากกลัวว่าผมอาจโดนสิ่งของขว้างปามาจะเกิดอันตราย ซึ่งอีกไม่นานก็เกิดขึ้นจริงๆ
ทหารของเราตั้งแนวโล่ มีเพียงชุดเกราะป้องกัน (ผมเรียกว่า ชุดโรโบคอป) หมวกกันน๊อค โล่ และกระบองป้องกันตัว เราถูกกลุ่มผู้ชุมนุมปาของทุกอย่างที่คิดว่าจะปาได้ ทั้งขวดเบียร์ ขวดกระทิงแดง ไม้ อิฐบล๊อค กระถางต้นไม้ บันได ขวดน้ำ ฯลฯ อีกสารพัด รถบางคนกระจกถูกปาแตก แต่อาจเป็นเพราะรถฮัมวี่ของผมคงจะแข็งมากมั้งครับ กระจกเลยไม่เป็นไร

หลังจากนั้นไม่นาน ผมเริ่มเห็นมีคนเจ็บจากของที่ถูกขว้างปา เลยตัดสินใจบอกพลขับว่าผมจะลงจากรถไปดูคนเจ็บ ฝากตอบ ว. (วิทยุ) ให้ด้วยนะครับ หลังจากนั้นก็ลงไปดูคนเจ็บและสถานการณ์อยู่หลังแนวโล่ ซึ่งในระหว่างนั้นก็ต้องคอยหลบซ้าย หลบขวา ก้มหัว หลบบรรดาสิ่งของที่ขว้างมา แต่ผมเพิ่งมารู้ทีหลังว่าผมโชคดีมาก เพราะหลังจากผมตัดสินใจลงจะรถไม่นาน กลุ่มผู้ชุมนุมก็รุกไล่แนวโล่มาจนถึงรถฮัมวี่ที่ผมเคยนั่งอยู่ก่อนไม่ถึง 5 นาที ทุบรถ ทุบกระจก แล้วขึ้นไปบนช่องของพลสังเกตการณ์ (บนเพดานรถจะมีช่องไว้สำหรับให้ทหารนั่งคอยสังเกตการณ์ หรือติดปืนกล แต่นี่เป็นรถธุรการของผู้บังคับบัญชา ไม่ใช่ฮัมวี่รบ เลยไม่ได้ติดอาวุธ) พลขับของผมถูกผู้ชุมนุมใช้เท้ายันศีรษะกับพวงมาลัยรถ ลากลงมารุมกระ..ทืบ แล้วจ้วงแทงด้วยมีด แต่เขาก็ยังโชคดีมากที่ใส่เกราะ มีดเลยไม่เข้า ไม่อย่างนั้นก็คงไส้ทะลักแน่ๆ

ผมทำหน้าที่ช่วยกันกับทหารและนายสิบพยาบาลลำเลียงผู้ป่วยจากด้านหน้าแนวมาไว้ที่รวบรวมผู้ป่วยเจ็บด้านหลัง ซึ่งผมกำหนดไว้ที่ริมกำแพงข้างวัดบวรนิเวศฯ ซึ่งตอนนั้นยังเป็นการปะทะกันของแนวโล่กับกลุ่มผู้ชุมนุม ผู้ป่วยเจ็บส่วนใหญ่จึงมักเกิดจากการขว้างของแข็งเข้าใส่ มีบาดแผลแตกหรือบาดแผลที่ศีรษะ รวมทั้งผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะตื่นตระหนกทำให้เกิดอาการหายใจเร็วเกินไป (ผมขอเรียกตามศัพท์ทางแพทย์ว่า Hyperventilation syndrome) ในส่วนของผมมีผู้ป่วยอยู่ในเวลานั้นประมาณ 20-30 คน การทำงานชุลมุนมาก เพราะเรามีคนน้อยแค่ผมกับนายสิบพยาบาลรวมกันไม่ถึง 6-7 คน แต่ต้องขอขอบคุณพี่ๆน้องๆกู้ภัย เจ้าหน้าที่ EMS ของวชิรพยาบาล รวมทั้งพ่อแม่พี่น้องประชาชนละแวกนั้นที่ให้ความช่วยเหลือ คอยติดต่อเอารถกู้ภัยมารับคนป่วยไป รพ.ศิริราช และ รพ.วชิรพยาบาล คุณยายบางคนไม่รู้จะช่วยยังไงก็ควักยาดมให้ พี่ๆหลายคนก็วิ่งไปหาน้ำเย็น น้ำแข็ง ผ้าเย็น แอมโมเนีย ให้คนไข้ หรือแม้แต่น้องผู้หญิงตัวเล็กๆคนนึงที่ผมจำได้ดี น้องเค้าวิ่งหาท๊อฟฟี่คอยแจกพี่ๆทหารและคนที่มาช่วย พนักงานเดอะพิซซ่าก็คอยเอากระดาษลังมาพัดให้ผู้ป่วย
แต่มีนายสิบกับพลทหารอีกคนหนึ่งของหน่วยผมที่ถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่บริเวณต้นขา ถามเขาบอกว่าเขาอยู่บริเวณแถวหน้าสุดของแนวโล่ มีการ์ด นปช. คนนึงถูกยิงด้วยกระสุนยางที่ไหล่ เขาโมโห เขาพูดว่า moong ยิง goo เหรอ หลังจากนั้นก็ชักปืนพก 11 มม. ยิงใส่ทหาร ถูกนายสิบคนหนึ่งมีบาดแผลรูกระสุนที่ต้นขาซ้าย และถูกพลทหารอีกคนที่บริเวณขา ผมได้ทำการห้ามเลือดด้วยผ้าแต่งแผลและสายรัดห้ามเลือด (Tourniquet) แล้วส่งรถกู้ภัยต่อ

หลังจากเหตุปะทะช่วงแรกสักราวๆ 1 ชม. ทั้ง 2 ฝ่ายก็เจรจากัน ผู้ชุมนุมขอให้ทหารถอยออกไป ส่วนทหารขอให้ผู้ชุมนุมถอยเพื่อลากเอารถที่เสียหายออกมา ก็ตกลงกันได้ ต่างฝ่ายจึงถอยออกห่างจากกันประมาณ 20 เมตร ซึ่งช่วงนั้นผมและเจ้าหน้าที่ได้ทำการลำเลียงผู้ป่วยเจ็บออกไปได้หมดแล้ว ทั้งผู้ชุมนุมและทหารก็ต่างนั่งพักตรึงกำลังอยู่ในพื้นที่ของตน

ในระหว่างนั้นก็มีประชาชนเอาน้ำ เอาของกิน เอาผ้าเย็นมาให้ทั้งฝ่ายทหารและผู้ชุมนุม เวลาผ่านไปจนกระทั่งถึงราวๆหกโมงเย็น (หลังเคารพธงชาติ) ทางทหารจึงได้รับคำสั่งให้ทำการขอคืนพื้นที่ชุมนุมอีกครั้ง โดยตั้งขบวนแถวแรกจำนวน 1 กองร้อย ด้วยแนวโล่และกระบอง และมีกำลังด้านหลังมีปืน M16 เพื่อทำการยิงขู่ขึ้นฟ้าในกรณีที่จำเป็น กำลังของทหารสามารถผลักดันผู้ชุมนุมให้ถอยร่นจากบริเวณปากทางเข้าถนนข้าวสารจนเกือบจะถึงถนนราชดำเนินนอก ซึ่งตอนนั้นผมอยู่หลังกองร้อยที่อยู่ด้านหน้า (ชุดโรโบคอป โล่ กระบอง) โดยมีผู้บังคับกองพันและผู้บังคับการกรมคอยสั่งการอยู่ด้านหน้าของผม (หลังแถวกองร้อย)
ลักษณะการจัดแนวจะเป็นแถวหน้ากระดานประมาณ 4-6 แถว ขณะนั้นผมอยู่ที่ริมฟุตบาทถนนข้าวสาร ในระหว่างนั้นผู้ชุมนุมเริ่มมีการใช้อาวุธที่ร้ายแรงมากขึ้น เช่น ขว้างแก๊สน้ำตาใส่ ขว้างระเบิดเพลิง (โมโรตอฟ) จนกระทั่งมีการเปิดถังแก๊สใส่ทหาร (โชคดีที่ไม่มีใครจุดไฟ มิเช่นนั้นทหารรวมทั้งผมคงถูกไฟคลอกตายแน่) จนกระทั่งเหตุการณ์สำคัญที่สุดก็เกิดขึ้น ...

ผมจำได้ติดตาเลยว่า ตอนนั้นมีระเบิดควันลูกหนึ่งโยนมาตกที่บริเวณแถวทหารหน้าสุด ซึ่งตอนแรกทุกคนคิดว่าเป็นแก๊สน้ำตา จึงรีบนำผ้าพันคอปิดจมูก และเตรียมถอยกลับออก แต่ตอนนั้นทั้งทหารและผมก็โดนแก๊สน้ำตา 3-4 ครั้งแล้ว จึงรู้โดยทันทีว่านั่นไม่ใช่แก๊สน้ำตา เป็นระเบิดควันเฉยๆ ผมได้ยินเสียงผู้พันสั่งว่า ไม่ใช่แก๊ส ไม่ต้องถอย ตั้งแนวต่อไป แถวทหารก็เริ่มตั้งแนวและผลักดันต่อ ผมเองก็ค่อยๆเดินตามหลังแถวทหารไป หลังจากนั้นไม่ถึง 1 นาที ก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นบริเวณหน้าแถวทหาร (ห่างจากเท้าของทหารแถวแรกไม่กี่เมตร)

ผมยอมรับตามตรงว่าทั้งชีวิตไม่เคยเห็นระเบิด M79 มาก่อน แต่สิ่งที่เห็นคล้ายกับประทัดยักษ์ระเบิดที่พื้นถนน แต่ปกติประทัดยักษ์ควรจะมีแต่เสียงดังกับควัน แต่สิ่งที่เห็นกลับมีประกายไฟกระจายออกมาด้วย ผมก็คิดอยู่ว่า ทำไมประทัดมันมีประกายไฟด้วย จุดที่ระเบิดตกห่างจากผมไปราวๆ 10 เมตร หลังจากนั้นก็มีอีกลูกหนึ่งตกหลังผมไปทางหน้าแนวทหารที่ 2 ผมได้ยินเสียงผู้การสั่งว่า มันเล่นของจริง ทุกคนถอย หลังจากนั้นแถวของเราก็แตกถอยมาด้านหลัง นายสิบพยาบาลของผมคนหนึ่งดึงผมให้หลบออกมาทางฟุตบาทให้หลบ ผมหันหลังกลับมาทางถนน เห็นคนเจ็บนอนเลือดอาบอยู่ราวๆ 10-20 คน ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นทหารเป็นลูกน้องในกองพันของผม บางคนเมื่อวานเพิ่งมาขอยา บางคนยังเคยกินข้าวด้วยกันไม่นานนี้เอง

ตอนนั้นผมยอมรับจริงๆว่าเบลอไปหมดแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำไปทำด้วยสัญชาตญาณ ภาพที่เห็นคือทหารนอนเลือดอาบ ตาลอย ตามร่างกายมีสะเก็ดระเบิด และบางคนมีรูกระสุนปืนด้วย เพื่อนทหารต่างพากันช่วยลากออกมาจากจุดที่ระเบิด ร้องเรียก หมอ ช่วยด้วย หมอ ดูเพื่อนผมด้วยหมอ หมอ ช่วยเพื่อนผมด้วย บรรยากาศตอนนั้นหลาย

ท่านคงเห็นจากในคลิปวีดีโอหรือในสื่อต่างๆ แต่ ณ สถานที่เกิดเหตุจริงมันยิ่งกว่านั้น มันไม่รู้จะอธิบายยังไง ทั้งตกใจ ทั้งหดหู่ ทั้งเศร้าใจ แม้ว่าผมจะเป็นแพทย์
แต่สิ่งที่ทำได้ผมก็ทำได้เพียงเข้าไปช่วยลากคนเจ็บ เข้าไปช่วยกันห้ามเลือดด้วยผ้าพันคอ เพราะตอนนั้นทั้งตัวไม่มีอุปกรณ์อะไรติดตัวเลย มีแต่ stethtoscope (หูฟัง) ไม่มีสายรัดห้ามเลือด ไม่มีผ้าพันแผล สมัยเป็น นพท.ปี 6 ผมเคยเรียนวิชาเวชปฎิบัติการยุทธ (ปฎิบัติการเพชราวุธ) ผมรู้ว่าสถานการณ์แบบนี้คือ Care under fire แต่ผมเพิ่งจะเข้าใจจริงๆว่า หัวใจของ care under fire คือ เอาชีวิตตัวเองให้รอด แล้วเอาคนเจ็บออกจากบริเวณสังหาร (Killing zone) ให้เร็วที่สุด ลืมเรื่องการปฐมพยาบาล ลืมเรื่อง primary survey หรือ ABCD ที่เคยเรียนไปได้เลย เพราะขณะช่วยเอาคนไข้ออก ก็มีทั้งระเบิด M79 ระเบิดขว้างลูกเกลี้ยง M26 เสียงปืน (ตอนหลังเพื่อนผู้หมวดบอกว่าเขามีทั้ง M16, AK47 และปืนพก)

ขณะนั้นรถกู้ภัย รถพยาบาล จอดอยู่บริเวณหัวถนนตะนาว ใกล้กับวงเวียนบางลำพู รถไม่กล้าขับเข้ามาเพราะยังมีระเบิดตกอยู่เรื่อยๆและมีเสียงปืนดังอยู่ตลอดจากฝั่งผู้ชุมนุม ผมวิ่งไปเรียกตรงกลางทางให้รถพยาบาลเข้ามา (แต่ตอนนั้นก็รู้อยู่แล้วว่า ถ้าเป็นตัวเองก็คงไม่กล้าขับรถเข้ามาหรอก) ขอบคุณพี่ๆกู้ภัยหลายคนช่วงนั้นที่เสี่ยงตายวิ่งเข้ามาช่วยพวกเราลากผู้ป่วย ตอนนั้นผู้ป่วยทั้งหมดถูกลำเลียงออกมารวมกันบริเวณเกาะกลางถนนตรงแยกบางลำพู ผมช่วยกันลำเลียงผู้ป่วยออกมาได้ 2-3 คน ใส่รถกู้ภัย หลังจากนั้นพอจะกลับเข้าไปช่วย

สิ่งที่เห็นก็คือฝ่ายตรงข้ามก็ยิงระเบิดไล่หลังมาเรื่อยๆจนเกือบถึงหัวถนนตะนาวตรงหัวมุมวัดบวรนิเวศฯ ทหารฝ่ายเราต้องเริ่มคว้าปืนมายิงคุ้มกันให้พวกที่ลำเลียงผู้ป่วยออกมาตรงฟุตบาท 2 ข้างของถนนตะนาว ผมไม่สามารถเข้าไปในบริเวณถนนตะนาวได้อีกแล้วเพราะบริเวณนั้นกลายเป็น killing zone ผมจึงต้องหลบอยู่หลังรถกู้ภัยตรงวงเวียนบางลำพู (พร้อมๆกับบอกให้พี่ๆกู้ภัยก้มหัวหมอบ ต้องเอาชีวิตตัวเองรอดก่อนไปช่วยคนอื่น) จุดนั้นมีการปะทะอยู่นานประมาณ 15-20 นาที
ฝ่ายอำนวยการของผมแจ้งให้ทราบในภายหลังว่านับระเบิด M79 ได้เกือบ 15 ลูก ระเบิดขว้าง M26 อีก 2 ลูก รวมทั้งมีพลทหารคนหนึ่งซึ่งผมไปรับหลังจากกลับจาก รพ. บอกผมว่า เขาเห็นแสง laser pointer สีเขียวคอยส่องอยู่แถวศีรษะของทหารแถวหน้า คาดว่าน่าจะมีคนซุ่มยิงมาจากบริเวณอาคารสูงบริเวณแยกคอกวัว แต่คงไม่พบเป้าหมายซึ่งคาดว่าจะเป็นผู้บังคับบัญชา เพราะแต่ละคนต่างกระจาย ไม่รวมกัน และมี รปภ. คุ้มกันไม่มากนัก หลังจากนั้นเราได้ลำเลียงผู้ป่วยทั้งหมดขึ้นรถพยาบาลได้หมด ฝ่ายนั้นเริ่มยิงตอบโต้มากขึ้น ผมเห็นไม่ปลอดภัยจึงขอให้รถกู้ภัย รวมทั้งรถจี๊ปพยาบาลไปหลบอยู่ในซอยบางลำภู ฝ่ายนั้นก็ยังคงพยายามยิงระเบิดใส่ท้ายขบวนรถของเราที่จอดอยู่ถนนริมวัดบวรนิเวศฯ ซึ่งคาดว่าหากไม่มีทหารของเราที่คอยยิงคุ้มกันตอนลำเลียงผู้ป่วยและถอยกลับ รถหลายคันคงถูกยิงระเบิด ทหารและประชาชนแถวนั้นคงตายอีกเป็นจำนวนมาก

ต่อมาผู้บังคับหน่วยของเราจึงขอหน่วยเหนือในการถอนกำลัง ซึ่งกว่าจะเคลื่อนย้ายออกไปได้หมด ก็ต้องใช้เวลานานเพราะรถมีจำนวนมาก และการจราจรแถวนั้นก็ถูกปิดกั้นบางส่วน แถมตอนเราถอนตัวฝ่ายตรงข้ามก็ยังพยายามยิงระเบิดใส่พวกเราอีกด้วย ในช่วงก่อนถอนตัวผมจำได้ว่ามีเด็กวัยรุ่นใส่เสื้อแดง 2 คน ขี่มอเตอร์ไซด์มาจอดข้างๆรถจี๊ปพยาบาล แล้วพูดด้วยน้ำเสียงยั่วโมโหว่า หน่วยพยาบาลคงไม่โดนอะไรหรอกมั้ง มีคนตายด้วย พวกพี่ยิงคนเหรอ

ผมยอมรับว่าแม้ว่าปกติผมจะไม่ใช่คนอารมณ์ร้อน แต่จากเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาที่ประสบ ผมเลือดขึ้นหน้า อารมณ์ตอนนั้นคุกรุ่นเต็มที่ ผมพูดจริงๆ ผมอยากลงไปต่อยเด็กคนนั้น แต่ผมก็อดทนแล้วตอบกลับไปว่า แล้วทีพวกน้องยิงระเบิดใส่พวกพี่ล่ะ น้องยิงทั้งระเบิด น้องขว้างทั้งระเบิด แถมเอาอาวุธสงครามยิงใส่ทหาร ทหารแถวหน้าเค้ามีแต่โล่กับกระบอง ป้องกันตัวเองอะไรไม่ได้เลย เค้าก็มีครอบครัว มีลูกมีเมีย แล้วนี่ที่ทหารยิงก็เพื่อคุ้มกันคนเจ็บกับตอนถอนตัว แล้วน้องจะให้ทหารเอาโล่กับกระบองไปไล่ตีไอ้พวกที่ยิงระเบิดใส่หรือไง น้องไส..หัวไปเลย ไส..หัวไปหลบระวังลูกหลงจากระเบิดที่พวกน้องยิงมาด้วยแล้วกัน
เด็กคนนั้นอึ้งไปแล้วก็ขี่รถมอเตอร์ไซด์ออกไป

เราถอนตัวออกจากจุดตรงแยกคอกวัวเป็นหน่วยสุดท้ายกลับที่ร่วมพลเดิม ซึ่งก็หลงทางไปทางวังสวนจิตรลดา เนื่องจากเราไม่ใช่ทหารกรุงเทพจึงไม่รู้เส้นทาง คืนนั้นพอผมกลับมาได้ พบกับผู้พัน พบกับผู้กองและเพื่อนผู้หมวด จึงได้รู้ว่าในขณะที่หน่วยของผมถอนตัวออกมาทางถนนตะนาว มีอีกกองร้อยที่ต้องถอยร่นออกมาทางถนนข้าวสาร โดยมีผู้บังคับกองพันอีก 2 คน และรองผู้บังคับกองพันอีกคน ผู้พันคนหนึ่งถูกยิงจากฝั่งตรงข้ามเข้าที่สีข้าง เนื่องจากฝ่ายตรงข้ามกราดยิงปืนซึ่งคาดว่าเป็น M16 เพื่อนผมบังผู้พันของเขาอยู่แต่กระสุนเฉี่ยวข้างตัวไปถูกผู้พัน แต่ที่น่าเศร้าคือมีนายสิบของต่างหน่วยอีกคนถูกยิงทะลุหมวกเหล็ก เสียชีวิตคาที่ นายสิบที่เป็น รปภ. หลายคนก็ถูกยิงเข้าที่ขา
โชคดีมากๆและต้องขอขอบคุณเจ้าของผับแห่งหนึ่งที่ถนนข้าวสาร ที่เปิดร้านนำคนเจ็บเข้ามา ให้เด็กในร้านช่วยปฐมพยาบาล ทำแผล ห้ามเลือด ปิดประตูหน้าร้าน และติดต่อตำรวจและรถกู้ภัยให้มารับที่หลังร้านซึ่งทะลุออกทางถนนอีกเส้นหนึ่ง มีทหารประมาณ 1 กองร้อยที่ไม่สามารถออกมาขึ้นรถได้เพราะหลงเข้าไปในถนนข้าวสารและถูกปิดทางด้านถนนตะนาวไว้ ก็ต้องวิ่งออกมาทางถนนสามเสนไปยังที่รวมพลซึ่งอยู่ห่างเกือบ 5 กม. แต่อย่างไรก็ตามทุกคนปลอดภัยดี (ขณะนี้ผมได้ไปเยี่ยมทหารทุกคนที่ รพ.พระมงกุฎเกล้า ทุกคนปลอดภัยดี และออกจาก ICU ได้หมดแล้ว)

ในขณะที่เกิดเหตุการณ์โทรศัพท์มือถือของผมแบตหมด พอกลับมาชาร์ทแบต ก็พบว่ามีหลายคนโทรเข้ามา หนึ่งในนั้นเป็นเพื่อนของผมที่ วพม. ผมโทรกลับไปจึงทราบว่ามีนายทหารหลายคนถูกระเบิด หนึ่งในนั้น arrest (เสียชีวิต) ก่อนมา รพ. ต่อมา CPR (ปั๊มหัวใจ) ขึ้น และต้องเข้ารับการผ่าตัดสมองด่วน ซึ่งนายทหารคนนั้นเป็นเพื่อนกับอาจารย์ที่พระมงกุฎของผม แต่อาจารย์จำผิดคนคิดว่าเป็นผู้บังคับกองพันของผมจึงรีบโทรหาผม แต่มือถือผมแบตหมด จึงให้เพื่อนติดต่อ ในภายหลังจึงทราบว่าคือ พี่เปา (พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม) ซึ่งอยู่รุ่นเดียวกับผู้พันของผม คืนนั้นผมกินข้าวไม่ลง กว่าจะนอนตาหลับได้ก็เกือบตี 3 ซึ่งภายหลังอาจารย์ก็โทรมาบอกว่า พี่เปา
...ไม่มีดินผืนใดให้ไออุ่น เท่ากับดินที่คุณถือกำเนิด ...ไม่มีดินผืนใดดูมั่นคง เท่ากับดินที่ลงสำมะโนครัว ...ไม่มีดินผืนใดให้คุณเดิน เท่ากับดินที่คุณเดินตอนตั้งไข่ ...ไม่มีดินผืนใดมีความหมาย เท่ากับ"" ดินสุดท้าย ของเผ่าพันธุ์

#13 busaba

busaba

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 649 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 08:48

อ่านแล้วยิ่งเศร้าใจ เพื่อให้บรรลุอำนาจตัวเอง คนนอกประเทศที่ว่า คนที่ทำทุกวิถีทาง แม้กระทั่งทำให้คนไทยเข่นฆ่ากันเอง คนแบบนี้หรือที่พวกเสื้อแดงยกย่อง คนแบบนี้หรือที่พวกเสื้อแดงรักนักรักหนา
อันชีวิตคนเราช่างสั้นนัก ต้องรู้จักทำประโยชน์ก่อนจะสายทิ้งไว้เป็นอนุสรณ์หลังความตาย มีความหมายคงอยู่ตลอดไป

#14 ครุฑดำ

ครุฑดำ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,056 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 08:56

เครดิต facebook คุณ Sirichok Sopha

ครอบครัวทหารตายในม็อบแดงจี้ ทบ.สอบเผาเมือง- “ภริยาร่มเกล้า” ซัด “ประชา” อ้างหาคนร้ายไม่ได้ ลั่นคนผิดรับเงินเยียวยา 7.75 ล้านไม่ได้
ข้อเท็จจริงอีกด้านที่คนไม่รู้

บันทึกของแพทย์ทหารผู้หนึ่ง ที่เขียนบันทึกไว้เมื่อวันที่ 15 เมษายน เวลา 13.04 น.
การสลายการชุมนุม เมื่อวันที่ 10 เมษายน ผ่านไปกว่า 1 สัปดาห์แล้ว ซีดี.ภาพเหตุการณ์มีทั้งเวอร์ชั้น ศอฉ. และเวอร์ชั่นคนเสื้อแดง ได้ปั๊มกันออกมา เกลื่อนเมือง
แต่ท่ามกลาง การช่วงชิงมวลชน ปรากฏมีบันทึกของแพทย์ทหารผู้หนึ่ง ที่เขียนบันทึกไว้เมื่อวันที่ 15 เมษายน เวลา 13.04 น. มีหลายประเด็นน่าสนใจ ลองใช้ดุลยพินิจของท่าน

ผมในฐานะแพทย์ทหารคนหนึ่งที่ปฎิบัติงานในเหตุการณ์วันที่ 10 เม.ย. 53 อยากจะเขียนบันทึกความทรงจำเหตุการณ์ในวันนั้น เพื่อเก็บไว้เป็นบทเรียน เป็นอุทาหรณ์ หรือเป็นสิ่งเตือนใจให้แก่ตนเอง และประชาชนชาวไทย ไม่ให้ลืมเลือนบทเรียนจากเหตุการณ์ครั้งนี้ไปกับกาลเวลา
ผมได้รับภารกิจในฐานะ ผบ.มว.สร.พัน.ร. (ผู้บังคับหมวดเสนารักษ์ กองพันทหารราบ) หรือก็คือแพทย์ทหารประจำกองพัน หน้าที่ของผมคือติดตามดูแลกำลังพลเกี่ยวกับสุขภาพอนามัย การป้องกันโรค การส่งกำลังบำรุงทางสายแพทย์ รวมถึงงานอื่นๆตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย ผมมาภารกิจในครั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 11 มี.ค. 53 ย้ายสถานที่พักไปตามภารกิจต่างๆซึ่งส่วนใหญ่เป็นการตั้งด่านตรวจ และเฝ้าระวังเหตุร้ายตามสถานที่สำคัญ เช่น ที่ ร.1 พัน.1 รอ., ร.11 รอ., สนามบินสุวรรณภูมิ, ลาดหลุมแก้ว และที่สุดท้าย คือ สี่แยกคอกวัวบริเวณถนนตะนาวศรี (ข้างวัดบวรนิเวศฯ ย่านบางลำภู) ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ในวันที่ 10 เม.ย. 53
หน่วยของเราได้รับภารกิจในการขอพื้นที่คืนจากกลุ่มผู้ชุมนุมที่บริเวณสี่แยกคอกวัว ออกจากที่ตั้งปกติโดยรู้ก่อนล่วงหน้าไม่ถึง 1 ชม.

หลังจากเข้าที่รวมพลซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสี่แยกคอกวัวไม่นานก็ต้องเคลื่อนย้ายราวสักบ่ายโมง ผมขึ้นบนหลังคารถฮัมวี่คันแรกสุด (หากใครเห็นในรูปถ่าย ก็คงจะเห็นทหารคนหนึ่งบนหลังคารถฮัมวี่ที่ติดปลอกแขนกาชาด ถือโล่บังตัวเอง นั่นก็ผมล่ะครับ) จนกระทั่งถึงบริเวณถนนตะนาวศรี กำลังพลรวมทั้งผู้พันก็ลงจากรถ ไปตั้งแนวโล่หน้ากลุ่มผู้ชุมนุม ผู้พันผมบอกให้ผมรออยู่ในรถก่อน เนื่องจากกลัวว่าผมอาจโดนสิ่งของขว้างปามาจะเกิดอันตราย ซึ่งอีกไม่นานก็เกิดขึ้นจริงๆ
ทหารของเราตั้งแนวโล่ มีเพียงชุดเกราะป้องกัน (ผมเรียกว่า ชุดโรโบคอป) หมวกกันน๊อค โล่ และกระบองป้องกันตัว เราถูกกลุ่มผู้ชุมนุมปาของทุกอย่างที่คิดว่าจะปาได้ ทั้งขวดเบียร์ ขวดกระทิงแดง ไม้ อิฐบล๊อค กระถางต้นไม้ บันได ขวดน้ำ ฯลฯ อีกสารพัด รถบางคนกระจกถูกปาแตก แต่อาจเป็นเพราะรถฮัมวี่ของผมคงจะแข็งมากมั้งครับ กระจกเลยไม่เป็นไร

หลังจากนั้นไม่นาน ผมเริ่มเห็นมีคนเจ็บจากของที่ถูกขว้างปา เลยตัดสินใจบอกพลขับว่าผมจะลงจากรถไปดูคนเจ็บ ฝากตอบ ว. (วิทยุ) ให้ด้วยนะครับ หลังจากนั้นก็ลงไปดูคนเจ็บและสถานการณ์อยู่หลังแนวโล่ ซึ่งในระหว่างนั้นก็ต้องคอยหลบซ้าย หลบขวา ก้มหัว หลบบรรดาสิ่งของที่ขว้างมา แต่ผมเพิ่งมารู้ทีหลังว่าผมโชคดีมาก เพราะหลังจากผมตัดสินใจลงจะรถไม่นาน กลุ่มผู้ชุมนุมก็รุกไล่แนวโล่มาจนถึงรถฮัมวี่ที่ผมเคยนั่งอยู่ก่อนไม่ถึง 5 นาที ทุบรถ ทุบกระจก แล้วขึ้นไปบนช่องของพลสังเกตการณ์ (บนเพดานรถจะมีช่องไว้สำหรับให้ทหารนั่งคอยสังเกตการณ์ หรือติดปืนกล แต่นี่เป็นรถธุรการของผู้บังคับบัญชา ไม่ใช่ฮัมวี่รบ เลยไม่ได้ติดอาวุธ) พลขับของผมถูกผู้ชุมนุมใช้เท้ายันศีรษะกับพวงมาลัยรถ ลากลงมารุมกระ..ทืบ แล้วจ้วงแทงด้วยมีด แต่เขาก็ยังโชคดีมากที่ใส่เกราะ มีดเลยไม่เข้า ไม่อย่างนั้นก็คงไส้ทะลักแน่ๆ

ผมทำหน้าที่ช่วยกันกับทหารและนายสิบพยาบาลลำเลียงผู้ป่วยจากด้านหน้าแนวมาไว้ที่รวบรวมผู้ป่วยเจ็บด้านหลัง ซึ่งผมกำหนดไว้ที่ริมกำแพงข้างวัดบวรนิเวศฯ ซึ่งตอนนั้นยังเป็นการปะทะกันของแนวโล่กับกลุ่มผู้ชุมนุม ผู้ป่วยเจ็บส่วนใหญ่จึงมักเกิดจากการขว้างของแข็งเข้าใส่ มีบาดแผลแตกหรือบาดแผลที่ศีรษะ รวมทั้งผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะตื่นตระหนกทำให้เกิดอาการหายใจเร็วเกินไป (ผมขอเรียกตามศัพท์ทางแพทย์ว่า Hyperventilation syndrome) ในส่วนของผมมีผู้ป่วยอยู่ในเวลานั้นประมาณ 20-30 คน การทำงานชุลมุนมาก เพราะเรามีคนน้อยแค่ผมกับนายสิบพยาบาลรวมกันไม่ถึง 6-7 คน แต่ต้องขอขอบคุณพี่ๆน้องๆกู้ภัย เจ้าหน้าที่ EMS ของวชิรพยาบาล รวมทั้งพ่อแม่พี่น้องประชาชนละแวกนั้นที่ให้ความช่วยเหลือ คอยติดต่อเอารถกู้ภัยมารับคนป่วยไป รพ.ศิริราช และ รพ.วชิรพยาบาล คุณยายบางคนไม่รู้จะช่วยยังไงก็ควักยาดมให้ พี่ๆหลายคนก็วิ่งไปหาน้ำเย็น น้ำแข็ง ผ้าเย็น แอมโมเนีย ให้คนไข้ หรือแม้แต่น้องผู้หญิงตัวเล็กๆคนนึงที่ผมจำได้ดี น้องเค้าวิ่งหาท๊อฟฟี่คอยแจกพี่ๆทหารและคนที่มาช่วย พนักงานเดอะพิซซ่าก็คอยเอากระดาษลังมาพัดให้ผู้ป่วย
แต่มีนายสิบกับพลทหารอีกคนหนึ่งของหน่วยผมที่ถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่บริเวณต้นขา ถามเขาบอกว่าเขาอยู่บริเวณแถวหน้าสุดของแนวโล่ มีการ์ด นปช. คนนึงถูกยิงด้วยกระสุนยางที่ไหล่ เขาโมโห เขาพูดว่า moong ยิง goo เหรอ หลังจากนั้นก็ชักปืนพก 11 มม. ยิงใส่ทหาร ถูกนายสิบคนหนึ่งมีบาดแผลรูกระสุนที่ต้นขาซ้าย และถูกพลทหารอีกคนที่บริเวณขา ผมได้ทำการห้ามเลือดด้วยผ้าแต่งแผลและสายรัดห้ามเลือด (Tourniquet) แล้วส่งรถกู้ภัยต่อ

หลังจากเหตุปะทะช่วงแรกสักราวๆ 1 ชม. ทั้ง 2 ฝ่ายก็เจรจากัน ผู้ชุมนุมขอให้ทหารถอยออกไป ส่วนทหารขอให้ผู้ชุมนุมถอยเพื่อลากเอารถที่เสียหายออกมา ก็ตกลงกันได้ ต่างฝ่ายจึงถอยออกห่างจากกันประมาณ 20 เมตร ซึ่งช่วงนั้นผมและเจ้าหน้าที่ได้ทำการลำเลียงผู้ป่วยเจ็บออกไปได้หมดแล้ว ทั้งผู้ชุมนุมและทหารก็ต่างนั่งพักตรึงกำลังอยู่ในพื้นที่ของตน

ในระหว่างนั้นก็มีประชาชนเอาน้ำ เอาของกิน เอาผ้าเย็นมาให้ทั้งฝ่ายทหารและผู้ชุมนุม เวลาผ่านไปจนกระทั่งถึงราวๆหกโมงเย็น (หลังเคารพธงชาติ) ทางทหารจึงได้รับคำสั่งให้ทำการขอคืนพื้นที่ชุมนุมอีกครั้ง โดยตั้งขบวนแถวแรกจำนวน 1 กองร้อย ด้วยแนวโล่และกระบอง และมีกำลังด้านหลังมีปืน M16 เพื่อทำการยิงขู่ขึ้นฟ้าในกรณีที่จำเป็น กำลังของทหารสามารถผลักดันผู้ชุมนุมให้ถอยร่นจากบริเวณปากทางเข้าถนนข้าวสารจนเกือบจะถึงถนนราชดำเนินนอก ซึ่งตอนนั้นผมอยู่หลังกองร้อยที่อยู่ด้านหน้า (ชุดโรโบคอป โล่ กระบอง) โดยมีผู้บังคับกองพันและผู้บังคับการกรมคอยสั่งการอยู่ด้านหน้าของผม (หลังแถวกองร้อย)
ลักษณะการจัดแนวจะเป็นแถวหน้ากระดานประมาณ 4-6 แถว ขณะนั้นผมอยู่ที่ริมฟุตบาทถนนข้าวสาร ในระหว่างนั้นผู้ชุมนุมเริ่มมีการใช้อาวุธที่ร้ายแรงมากขึ้น เช่น ขว้างแก๊สน้ำตาใส่ ขว้างระเบิดเพลิง (โมโรตอฟ) จนกระทั่งมีการเปิดถังแก๊สใส่ทหาร (โชคดีที่ไม่มีใครจุดไฟ มิเช่นนั้นทหารรวมทั้งผมคงถูกไฟคลอกตายแน่) จนกระทั่งเหตุการณ์สำคัญที่สุดก็เกิดขึ้น ...

ผมจำได้ติดตาเลยว่า ตอนนั้นมีระเบิดควันลูกหนึ่งโยนมาตกที่บริเวณแถวทหารหน้าสุด ซึ่งตอนแรกทุกคนคิดว่าเป็นแก๊สน้ำตา จึงรีบนำผ้าพันคอปิดจมูก และเตรียมถอยกลับออก แต่ตอนนั้นทั้งทหารและผมก็โดนแก๊สน้ำตา 3-4 ครั้งแล้ว จึงรู้โดยทันทีว่านั่นไม่ใช่แก๊สน้ำตา เป็นระเบิดควันเฉยๆ ผมได้ยินเสียงผู้พันสั่งว่า ไม่ใช่แก๊ส ไม่ต้องถอย ตั้งแนวต่อไป แถวทหารก็เริ่มตั้งแนวและผลักดันต่อ ผมเองก็ค่อยๆเดินตามหลังแถวทหารไป หลังจากนั้นไม่ถึง 1 นาที ก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นบริเวณหน้าแถวทหาร (ห่างจากเท้าของทหารแถวแรกไม่กี่เมตร)

ผมยอมรับตามตรงว่าทั้งชีวิตไม่เคยเห็นระเบิด M79 มาก่อน แต่สิ่งที่เห็นคล้ายกับประทัดยักษ์ระเบิดที่พื้นถนน แต่ปกติประทัดยักษ์ควรจะมีแต่เสียงดังกับควัน แต่สิ่งที่เห็นกลับมีประกายไฟกระจายออกมาด้วย ผมก็คิดอยู่ว่า ทำไมประทัดมันมีประกายไฟด้วย จุดที่ระเบิดตกห่างจากผมไปราวๆ 10 เมตร หลังจากนั้นก็มีอีกลูกหนึ่งตกหลังผมไปทางหน้าแนวทหารที่ 2 ผมได้ยินเสียงผู้การสั่งว่า มันเล่นของจริง ทุกคนถอย หลังจากนั้นแถวของเราก็แตกถอยมาด้านหลัง นายสิบพยาบาลของผมคนหนึ่งดึงผมให้หลบออกมาทางฟุตบาทให้หลบ ผมหันหลังกลับมาทางถนน เห็นคนเจ็บนอนเลือดอาบอยู่ราวๆ 10-20 คน ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นทหารเป็นลูกน้องในกองพันของผม บางคนเมื่อวานเพิ่งมาขอยา บางคนยังเคยกินข้าวด้วยกันไม่นานนี้เอง

ตอนนั้นผมยอมรับจริงๆว่าเบลอไปหมดแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำไปทำด้วยสัญชาตญาณ ภาพที่เห็นคือทหารนอนเลือดอาบ ตาลอย ตามร่างกายมีสะเก็ดระเบิด และบางคนมีรูกระสุนปืนด้วย เพื่อนทหารต่างพากันช่วยลากออกมาจากจุดที่ระเบิด ร้องเรียก หมอ ช่วยด้วย หมอ ดูเพื่อนผมด้วยหมอ หมอ ช่วยเพื่อนผมด้วย บรรยากาศตอนนั้นหลาย

ท่านคงเห็นจากในคลิปวีดีโอหรือในสื่อต่างๆ แต่ ณ สถานที่เกิดเหตุจริงมันยิ่งกว่านั้น มันไม่รู้จะอธิบายยังไง ทั้งตกใจ ทั้งหดหู่ ทั้งเศร้าใจ แม้ว่าผมจะเป็นแพทย์
แต่สิ่งที่ทำได้ผมก็ทำได้เพียงเข้าไปช่วยลากคนเจ็บ เข้าไปช่วยกันห้ามเลือดด้วยผ้าพันคอ เพราะตอนนั้นทั้งตัวไม่มีอุปกรณ์อะไรติดตัวเลย มีแต่ stethtoscope (หูฟัง) ไม่มีสายรัดห้ามเลือด ไม่มีผ้าพันแผล สมัยเป็น นพท.ปี 6 ผมเคยเรียนวิชาเวชปฎิบัติการยุทธ (ปฎิบัติการเพชราวุธ) ผมรู้ว่าสถานการณ์แบบนี้คือ Care under fire แต่ผมเพิ่งจะเข้าใจจริงๆว่า หัวใจของ care under fire คือ เอาชีวิตตัวเองให้รอด แล้วเอาคนเจ็บออกจากบริเวณสังหาร (Killing zone) ให้เร็วที่สุด ลืมเรื่องการปฐมพยาบาล ลืมเรื่อง primary survey หรือ ABCD ที่เคยเรียนไปได้เลย เพราะขณะช่วยเอาคนไข้ออก ก็มีทั้งระเบิด M79 ระเบิดขว้างลูกเกลี้ยง M26 เสียงปืน (ตอนหลังเพื่อนผู้หมวดบอกว่าเขามีทั้ง M16, AK47 และปืนพก)

ขณะนั้นรถกู้ภัย รถพยาบาล จอดอยู่บริเวณหัวถนนตะนาว ใกล้กับวงเวียนบางลำพู รถไม่กล้าขับเข้ามาเพราะยังมีระเบิดตกอยู่เรื่อยๆและมีเสียงปืนดังอยู่ตลอดจากฝั่งผู้ชุมนุม ผมวิ่งไปเรียกตรงกลางทางให้รถพยาบาลเข้ามา (แต่ตอนนั้นก็รู้อยู่แล้วว่า ถ้าเป็นตัวเองก็คงไม่กล้าขับรถเข้ามาหรอก) ขอบคุณพี่ๆกู้ภัยหลายคนช่วงนั้นที่เสี่ยงตายวิ่งเข้ามาช่วยพวกเราลากผู้ป่วย ตอนนั้นผู้ป่วยทั้งหมดถูกลำเลียงออกมารวมกันบริเวณเกาะกลางถนนตรงแยกบางลำพู ผมช่วยกันลำเลียงผู้ป่วยออกมาได้ 2-3 คน ใส่รถกู้ภัย หลังจากนั้นพอจะกลับเข้าไปช่วย

สิ่งที่เห็นก็คือฝ่ายตรงข้ามก็ยิงระเบิดไล่หลังมาเรื่อยๆจนเกือบถึงหัวถนนตะนาวตรงหัวมุมวัดบวรนิเวศฯ ทหารฝ่ายเราต้องเริ่มคว้าปืนมายิงคุ้มกันให้พวกที่ลำเลียงผู้ป่วยออกมาตรงฟุตบาท 2 ข้างของถนนตะนาว ผมไม่สามารถเข้าไปในบริเวณถนนตะนาวได้อีกแล้วเพราะบริเวณนั้นกลายเป็น killing zone ผมจึงต้องหลบอยู่หลังรถกู้ภัยตรงวงเวียนบางลำพู (พร้อมๆกับบอกให้พี่ๆกู้ภัยก้มหัวหมอบ ต้องเอาชีวิตตัวเองรอดก่อนไปช่วยคนอื่น) จุดนั้นมีการปะทะอยู่นานประมาณ 15-20 นาที
ฝ่ายอำนวยการของผมแจ้งให้ทราบในภายหลังว่านับระเบิด M79 ได้เกือบ 15 ลูก ระเบิดขว้าง M26 อีก 2 ลูก รวมทั้งมีพลทหารคนหนึ่งซึ่งผมไปรับหลังจากกลับจาก รพ. บอกผมว่า เขาเห็นแสง laser pointer สีเขียวคอยส่องอยู่แถวศีรษะของทหารแถวหน้า คาดว่าน่าจะมีคนซุ่มยิงมาจากบริเวณอาคารสูงบริเวณแยกคอกวัว แต่คงไม่พบเป้าหมายซึ่งคาดว่าจะเป็นผู้บังคับบัญชา เพราะแต่ละคนต่างกระจาย ไม่รวมกัน และมี รปภ. คุ้มกันไม่มากนัก หลังจากนั้นเราได้ลำเลียงผู้ป่วยทั้งหมดขึ้นรถพยาบาลได้หมด ฝ่ายนั้นเริ่มยิงตอบโต้มากขึ้น ผมเห็นไม่ปลอดภัยจึงขอให้รถกู้ภัย รวมทั้งรถจี๊ปพยาบาลไปหลบอยู่ในซอยบางลำภู ฝ่ายนั้นก็ยังคงพยายามยิงระเบิดใส่ท้ายขบวนรถของเราที่จอดอยู่ถนนริมวัดบวรนิเวศฯ ซึ่งคาดว่าหากไม่มีทหารของเราที่คอยยิงคุ้มกันตอนลำเลียงผู้ป่วยและถอยกลับ รถหลายคันคงถูกยิงระเบิด ทหารและประชาชนแถวนั้นคงตายอีกเป็นจำนวนมาก

ต่อมาผู้บังคับหน่วยของเราจึงขอหน่วยเหนือในการถอนกำลัง ซึ่งกว่าจะเคลื่อนย้ายออกไปได้หมด ก็ต้องใช้เวลานานเพราะรถมีจำนวนมาก และการจราจรแถวนั้นก็ถูกปิดกั้นบางส่วน แถมตอนเราถอนตัวฝ่ายตรงข้ามก็ยังพยายามยิงระเบิดใส่พวกเราอีกด้วย ในช่วงก่อนถอนตัวผมจำได้ว่ามีเด็กวัยรุ่นใส่เสื้อแดง 2 คน ขี่มอเตอร์ไซด์มาจอดข้างๆรถจี๊ปพยาบาล แล้วพูดด้วยน้ำเสียงยั่วโมโหว่า หน่วยพยาบาลคงไม่โดนอะไรหรอกมั้ง มีคนตายด้วย พวกพี่ยิงคนเหรอ

ผมยอมรับว่าแม้ว่าปกติผมจะไม่ใช่คนอารมณ์ร้อน แต่จากเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาที่ประสบ ผมเลือดขึ้นหน้า อารมณ์ตอนนั้นคุกรุ่นเต็มที่ ผมพูดจริงๆ ผมอยากลงไปต่อยเด็กคนนั้น แต่ผมก็อดทนแล้วตอบกลับไปว่า แล้วทีพวกน้องยิงระเบิดใส่พวกพี่ล่ะ น้องยิงทั้งระเบิด น้องขว้างทั้งระเบิด แถมเอาอาวุธสงครามยิงใส่ทหาร ทหารแถวหน้าเค้ามีแต่โล่กับกระบอง ป้องกันตัวเองอะไรไม่ได้เลย เค้าก็มีครอบครัว มีลูกมีเมีย แล้วนี่ที่ทหารยิงก็เพื่อคุ้มกันคนเจ็บกับตอนถอนตัว แล้วน้องจะให้ทหารเอาโล่กับกระบองไปไล่ตีไอ้พวกที่ยิงระเบิดใส่หรือไง น้องไส..หัวไปเลย ไส..หัวไปหลบระวังลูกหลงจากระเบิดที่พวกน้องยิงมาด้วยแล้วกัน
เด็กคนนั้นอึ้งไปแล้วก็ขี่รถมอเตอร์ไซด์ออกไป

เราถอนตัวออกจากจุดตรงแยกคอกวัวเป็นหน่วยสุดท้ายกลับที่ร่วมพลเดิม ซึ่งก็หลงทางไปทางวังสวนจิตรลดา เนื่องจากเราไม่ใช่ทหารกรุงเทพจึงไม่รู้เส้นทาง คืนนั้นพอผมกลับมาได้ พบกับผู้พัน พบกับผู้กองและเพื่อนผู้หมวด จึงได้รู้ว่าในขณะที่หน่วยของผมถอนตัวออกมาทางถนนตะนาว มีอีกกองร้อยที่ต้องถอยร่นออกมาทางถนนข้าวสาร โดยมีผู้บังคับกองพันอีก 2 คน และรองผู้บังคับกองพันอีกคน ผู้พันคนหนึ่งถูกยิงจากฝั่งตรงข้ามเข้าที่สีข้าง เนื่องจากฝ่ายตรงข้ามกราดยิงปืนซึ่งคาดว่าเป็น M16 เพื่อนผมบังผู้พันของเขาอยู่แต่กระสุนเฉี่ยวข้างตัวไปถูกผู้พัน แต่ที่น่าเศร้าคือมีนายสิบของต่างหน่วยอีกคนถูกยิงทะลุหมวกเหล็ก เสียชีวิตคาที่ นายสิบที่เป็น รปภ. หลายคนก็ถูกยิงเข้าที่ขา
โชคดีมากๆและต้องขอขอบคุณเจ้าของผับแห่งหนึ่งที่ถนนข้าวสาร ที่เปิดร้านนำคนเจ็บเข้ามา ให้เด็กในร้านช่วยปฐมพยาบาล ทำแผล ห้ามเลือด ปิดประตูหน้าร้าน และติดต่อตำรวจและรถกู้ภัยให้มารับที่หลังร้านซึ่งทะลุออกทางถนนอีกเส้นหนึ่ง มีทหารประมาณ 1 กองร้อยที่ไม่สามารถออกมาขึ้นรถได้เพราะหลงเข้าไปในถนนข้าวสารและถูกปิดทางด้านถนนตะนาวไว้ ก็ต้องวิ่งออกมาทางถนนสามเสนไปยังที่รวมพลซึ่งอยู่ห่างเกือบ 5 กม. แต่อย่างไรก็ตามทุกคนปลอดภัยดี (ขณะนี้ผมได้ไปเยี่ยมทหารทุกคนที่ รพ.พระมงกุฎเกล้า ทุกคนปลอดภัยดี และออกจาก ICU ได้หมดแล้ว)

ในขณะที่เกิดเหตุการณ์โทรศัพท์มือถือของผมแบตหมด พอกลับมาชาร์ทแบต ก็พบว่ามีหลายคนโทรเข้ามา หนึ่งในนั้นเป็นเพื่อนของผมที่ วพม. ผมโทรกลับไปจึงทราบว่ามีนายทหารหลายคนถูกระเบิด หนึ่งในนั้น arrest (เสียชีวิต) ก่อนมา รพ. ต่อมา CPR (ปั๊มหัวใจ) ขึ้น และต้องเข้ารับการผ่าตัดสมองด่วน ซึ่งนายทหารคนนั้นเป็นเพื่อนกับอาจารย์ที่พระมงกุฎของผม แต่อาจารย์จำผิดคนคิดว่าเป็นผู้บังคับกองพันของผมจึงรีบโทรหาผม แต่มือถือผมแบตหมด จึงให้เพื่อนติดต่อ ในภายหลังจึงทราบว่าคือ พี่เปา (พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม) ซึ่งอยู่รุ่นเดียวกับผู้พันของผม คืนนั้นผมกินข้าวไม่ลง กว่าจะนอนตาหลับได้ก็เกือบตี 3 ซึ่งภายหลังอาจารย์ก็โทรมาบอกว่า พี่เปา


ขอไว้อาลัยและสดุดีให้กับทหารกล้าที่ปกป้องพวกเราครับ

เอ็งขอเป็น"ขี้ข้าโจร" ข้าเลือกเป็น"ข้าธุลีพระบาท" เอ็งขอเป็น"ไพร่" ข้าเลือกเป็น"พสกนิกร"


#15 voodoo

voodoo

    ไม่เป็นกลาง

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,202 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 09:14

ความจริง ทหารก็มีกระสุนจริงอยู่แหละครับ เพราะเห็นๆอยู่ว่าปืนโดนปล้นไปเยอะ ใครจะยอมให้ลูกน้องเอากระสุนยางไปสู้กระสุนจริง
แต่ทหารเขามีวินัยครับ เขาไม่ให้ใช้กระสุนจริงกับประชาชน จนทหารโดนฆ่าเขาจึงต้องใช้กระสุนจริง
ตอนนั้นเขาก็ประกาศแล้วว่าในม็อบมีคนใช้อาวุธ ให้คนที่บริสุทธิ์ใจแยกตัวออกไปเสีย แต่บางคนเสือกดีใจ ขนาดหลุดปากว่ามีคนมาช่วย
ที่จริงถ้าแกนนำบริสุทธิ์ใจต้องประกาศเลิกชุมนุมแล้ว แต่มันอยากให้คนตายไง
ไม่เหมือนจำลองตอนพฤกษภา 35 ที่ยอมมอบตัวเพื่อรักษาชีวิตมวลชน
" สลิ่มที่ไม่กล้่าเปิดตัวต่อสาธารณชนเท่าไรนัก เนื่องจากไม่ได้ทำประกันอัคคีภัย "

#16 จอมโจรคิด

จอมโจรคิด

    อธรรมผู้น่ารัก

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,299 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 09:30

ไม่ใช่แค่ทหารที่มีปืน พวกโจรแดงก็มีปืนเหมือนกัน ทหารก็แค่เพียงป้องกันตัว แต่โจรแดงมันกะให้มีคนตาย

จะได้หากินกับศพ

ไอ่แม้วก็ยุส่ง พี่น้องอย่ากลับบ้านมือเปล่า ไม่สนใจเลยว่ามวลชนของตัวเองจะเป็นตายอย่างไร

ถ้ามันรักควายแดงจริงๆ มันต้องสั่งถอยแล้ว ที่ยุให้ปะทะ เสร็จแล้วก็ปฏิเสธกับสื่อนอกว่าไม่ได้ยุ

ควายแดงยังคงหลงคารมมัน เชื่อมันอีก

เจตนารมณ์ส่วนตัว
- ไม่ใช้ถ้อยคำที่คำหยาบคาย
- ไม่ต่อล้อต่อเถียงอย่างไม่มีเหตุผล


#17 Charlie

Charlie

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,449 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 09:35

จำได้ครับนึกแล้วก้แค้นแทนทหารต้องเป็นแพะให้ไอพวกแกนนำเอาไปปลุกระดมคน พวกควายมันก็โง่เชื่อทุกกอย่าง

คนดีจริงไม่โกงที่วัด ไม่ยุแยงให้คนแตกแยก ไม่หลอกคนอื่นให้มารับเคราะห์ตายแทน


#18 A7x

A7x

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 319 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 10:13

ที่ออกมาเห่ากันสนั่นเมืองว่าทหารฆ่าประชาชนน่ะ

ถ้าเขาคิดจะฆ่าจริงๆน่ะ คงจะไม่เหลือฝูงควายแดงซักตัว

แต่ทหารหารเขามีหน้าที่ปกป้องประเทศชาติ ปกป้องคนในชาติ ก็มีแตควายแดงอย่างพวกมรึงนั่นแหละไปทำร้ายพวกทหาร

พูดแล้วของขึ้น!!
Rise With The Fallen

#19 อิไซกูนิ

อิไซกูนิ

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,631 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 10:15

แล้วที่ตายกัน ใครมีปืนพร้อมกระสุนจริงหล่ะ

Posted Image

Posted Image Posted Image Posted Image Posted Image Posted Image

เป็นเห็บเกาะไข่ระบบรัฐประหาร


#20 saopao

saopao

    Moderator

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,093 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 10:22

เฮลิคอปเตอร์ทหารโดนเสื้อแดงเอากระสุนจริงยิงใส่ตั้งกะบ่ายแล้ว
ทหารบนนั้นบาดเจ็บด้วย
Posted Image

#21 พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน

พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,450 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 10:24

สำหรับพี่น้องเสื้อแดงแล้ว ... ข้อมูลนี้ไม่เคยมีอยู่จริง

ไม่รับรู้ ไม่รับฟัง ไม่ชี้แจง ... จบ :lol: ... สมองพี่น้องเสื้อแดงมีความสามารถในการรับรู้และจดจำแค่ว่าทหารยิงประชาชน ... :lol:
อยากรู้ว่าประชาธิปไตยไทยเป็นแบบไหน ให้ดูการใช้รถใช้ถนนรู้จักกันแต่สิทธิ แต่ไม่เคยรู้จักหน้าที่ ในการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่วางไว้

#22 อิไซกูนิ

อิไซกูนิ

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,631 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 10:25

สำหรับพี่น้องเสื้อแดงแล้ว ... ข้อมูลนี้ไม่เคยมีอยู่จริง

ไม่รับรู้ ไม่รับฟัง ไม่ชี้แจง ... จบ :lol: ... สมองพี่น้องเสื้อแดงมีความสามารถในการรับรู้และจดจำแค่ว่าทหารยิงประชาชน ... :lol:


ว่าทำไมยุคนี้ของแพง มันไม่บ่นสักคำ 5555555555

Posted Image Posted Image Posted Image Posted Image Posted Image

เป็นเห็บเกาะไข่ระบบรัฐประหาร


#23 marrykate

marrykate

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,381 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 10:36

เมื่อวานฟังภรรยา พ.อ. ร่มเกล้าพูดในรายการวิทยุแล้วชื่นชมและเห็นใจท่านมากๆค่ะ

ท่านบอกว่าหลังจากโดนถล่มด้วยอาวุธหนัก ทหารนอนบาดเจ็บกันหลายนาย

รถพยาบาลที่กำลังจะนำตัวไปส่ง รพ. รถถูกเสื้อแดงกักไว้ 2 ชม. ทหารหลายนายบาดเจ็บ

ยังถูกเสื้อแดงลากลงมากระทืบ ทหารอีกท่านที่ตายพร้อมกัน คุณแม่บอกว่าโดนยิง แต่ขณะเดียวกัน

มีแผลฉีกขาดที่หัวใจ แสดงว่าโดนซ้อมมาค่ะ ฟังแล้วเศร้า เรื่องแบบนี้ Voice TV ไม่มีทางเสนอ
อย่าให้ความ "โง่" ของตัวเอง กลายเป็นความผิดของคนอื่น เข้าใจมั๊ยค๊าาาาาาาาา

#24 hentai

hentai

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,046 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 10:41

ทำไมคนที่ถูกหาว่าเป็นเสื้อแดงอย่างผม กลับไม่เคยพูดว่า ทหารฆ่าประชาชน

ผมเคยแต่พูดว่า

ใครนำทหารไร้อาวุธไปให้ไปประชาชนที่ถูกปลุกเร้า หรือ กองกำลัง ติดอาวุธ(ถ้ามี ถ้าไม่มี ไอ้คนที่ว่ามีมันก็โกหก) ฆ่า.....

ถ้ารู้ว่าเค้าใช้ความรุนแรง... พาทหารไร้อาวุธไปตายทำไม...
ถ้าไม่รู้ว่าเค้าจะใช้ความรุนแรง.... มันเป็นความบกพร่องในการข่าวของใคร.....
ใครที่อยากได้หน้ากับประชาคมโลก ว่า รักสันติ.... สุดท้ายก็หนีไม่พ้น ข้อ ครหา 91 ศพ มือ เปื้อนเลือด จาก อีกฝั่งอยู่ดี....

สุดท้าย รัฐบาลใครที่จับใคร(กองกำลังติดอาวุธ)ไม่ได้เลย .... ในเหตุการณืที่เกิดขึ้น..... แล้วลอยหน้าลอยตาอยู่ได้....

"คนโง่มักจะชอบว่าคนอื่นว่าโง่"

"ถ้าคนเราคิดเหมือนกันหมด ก็ไม่มีเลือกตั้งซิครับ"

"ผมไม่พูด เรื่อง 112 แล้ว นะครับ กรุณาอย่าถาม (17 พค 2012)"


#25 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 10:44

กระสุนจริงถูกเอามาใช้ตอนหลัง สังเกตว่าความรุนแรงเริ่มขึ้นหลังจากชายชุดดำเริ่มทำงาน

หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#26 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 10:48

สุดท้าย รัฐบาลใครที่จับใคร(กองกำลังติดอาวุธ)ไม่ได้เลย .... ในเหตุการณืที่เกิดขึ้น..... แล้วลอยหน้าลอยตาอยู่ได้....


เค้าจับแล้ว แต่คุณไม่ได้ข่าวต่างหากครับ มั่วอีกแล้ว ดำเนินคดีแล้วด้วย ไปดูเองนะ

http://forum.serithai.net/viewtopic.php?f=2&t=37452

หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#27 Grimmy

Grimmy

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,178 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 10:56

สุดท้าย รัฐบาลใครที่จับใคร(กองกำลังติดอาวุธ)ไม่ได้เลย .... ในเหตุการณืที่เกิดขึ้น..... แล้วลอยหน้าลอยตาอยู่ได้....


เค้าจับกันไปกี่คนแล้ว ควายเฮนไตไม่รูบ้างเลยเหรอ กระทู้ในนี้ก็มี ลอง search ดูนะ

#28 55555

55555

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,795 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 11:02


สุดท้าย รัฐบาลใครที่จับใคร(กองกำลังติดอาวุธ)ไม่ได้เลย .... ในเหตุการณืที่เกิดขึ้น..... แล้วลอยหน้าลอยตาอยู่ได้....


เค้าจับแล้ว แต่คุณไม่ได้ข่าวต่างหากครับ มั่วอีกแล้ว ดำเนินคดีแล้วด้วย ไปดูเองนะ

http://forum.serithai.net/viewtopic.php?f=2&t=37452


สงสัย เฮ็นตาย ความจำเลอะเลือนไป 2-3 ปี...

:lol:

#29 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 11:20

ผมเคยแต่พูดว่า

ใครนำทหารไร้อาวุธไปให้ไปประชาชนที่ถูกปลุกเร้า หรือ กองกำลัง ติดอาวุธ(ถ้ามี ถ้าไม่มี ไอ้คนที่ว่ามีมันก็โกหก) ฆ่า.....

ถ้ารู้ว่าเค้าใช้ความรุนแรง... พาทหารไร้อาวุธไปตายทำไม...
ถ้าไม่รู้ว่าเค้าจะใช้ความรุนแรง.... มันเป็นความบกพร่องในการข่าวของใคร.....
ใครที่อยากได้หน้ากับประชาคมโลก ว่า รักสันติ.... สุดท้ายก็หนีไม่พ้น ข้อ ครหา 91 ศพ มือ เปื้อนเลือด จาก อีกฝั่งอยู่ดี....


๑ มีเห็นด้วยกับคุณอยู่ข้อหนึ่งคือ วันนั้นการข่าวแย่มาก ไม่รู้ว่าประเมินอย่างไรถึงได้ตัดสินใจสลายการชุมนุมต่อในตอนกลางคืน ทั้งที่ตอนนั้นเสื้อแดงที่ราชประสงค์มาสมทบอีกเป็นจำนวนมาก ทหารก็เหนื่อยล้ามากแล้ว คนที่น่าโดนตำหนิมากๆคือคนที่ตัดสินใจวันนั้น

๒ ผมเชื่อว่ารัฐบาลก็ระแคะระคายเรื่องอาวุธที่แฝงอยู่กับผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งอยู่แล้ว เพราะก่อนจะถึงวันนั้นมีการวินาศกรรมอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการเตรียมอาวุธให้ทหารได้อุ่นใจเอาไว้ก็ถือว่าไม่แปลก แต่กลับกลายเป็นว่าเข้าทางทักษิณ ที่ต้องการให้ทหารฟิวส์ขาด ใช้อาวุธกับผู้ชุมนุม

๓ ผมไม่เชื่อว่าการทำให้เกิดความรุนแรงน้อยที่สุดจะเป็นการ "อยากได้หน้ากับประชาคมโลก" แต่มันควรเป็นสามัญสำนึกของผู้นำประเทศ และผู้นำมวลชนทั้งสองฝ่าย คนที่ควรถูกประณามเรื่องนี้คือทักษิณ และพวกแกนนำเสื้อแดงที่หากินกับศพ เพราะจงใจยั่วยุและใช้อาวุธกับเจ้าหน้าที่ก่อน ที่น่าเศร้าคือยังมีคนแบบคุณ hentai ที่ยังหลับหูหลับตาเลือกคนที่มันชั่วถึงขนาดฆ่าคนไทยด้วยกัน ฆ่าพวกพ้องเพื่อให้ตนเองมีอำนาจโดยไม่สนว่าต้องแลกด้วยอะไร

หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#30 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 11:29

เฮ้นไตนี่หากินกับศพจริงๆ

ไม่ต้องจุดธูป ก็มา

มาแล้วยังมาเต้นระบำเปลื้องผ้า
เปลือยความชั่วของตัวเองอีก

อนาถ

#31 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 11:31

วันนั้นการข่าวแย่มาก ไม่รู้ว่าประเมินอย่างไรถึงได้ตัดสินใจสลายการชุมนุมต่อในตอนกลางคืน

มีสองสามเหตุผลที่ทำให้เกิดผลอย่างนั้น

1 ทหารติดกับมวลชน ไม่สามารถกลับที่ตั้งได้

2 มีการถ่วงเวลาให้ปฎิบัติการต่อเนื่องถึงค่ำ

3 ผมเฃื่อว่า ทหารไม่ต้องการให้มีการข้ามไปศิริราช

#32 อมพระมาพูด

อมพระมาพูด

    ไอ้มดแดง V 5 สู้ว้อย

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,701 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 11:34

อย่าลืมว่ามีการปล้นปืนจากทหารไปโชว์ที่ชุมนุมด้วย ที่สวนลุมฯ เจอที่ซ่อนอาวุธเยอะพอสมควร ถ้าไอ่เศษแดงไม่ลงไปคุยกับยมบาลซะก่อน คงบรรลัยกว่านี้เยอะ
The wise man doubts often, and his views are changeable.The fool is constant in his opinions, and doubts nothing,because he knows everything, except his own ignorance (Pharaoh Akhenaton, c.1250BCE)

#33 เพื่อนร่วมชาติ

เพื่อนร่วมชาติ

    พรานล่าปูไปรยา

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 7,788 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 11:44


สุดท้าย รัฐบาลใครที่จับใคร(กองกำลังติดอาวุธ)ไม่ได้เลย .... ในเหตุการณืที่เกิดขึ้น..... แล้วลอยหน้าลอยตาอยู่ได้....


เค้าจับแล้ว แต่คุณไม่ได้ข่าวต่างหากครับ มั่วอีกแล้ว ดำเนินคดีแล้วด้วย ไปดูเองนะ

http://forum.serithai.net/viewtopic.php?f=2&t=37452


มาแช่ปลักควายโชว์ได้อีก ฮาจริง ๆ ๕๕๕๕ :D

อยากหัวเราะเป็นภาษาควายว่ะน้องวิตถาร แต่พี่ทำไม่เป็น

ประชาธิปไตยก็เหมือนส้วมสาธารณะแบบนั่งเต็มตูด ควายนับถือศาสนาชินวัตรใช้แล้วสกปรกชิบเป๋ง


#34 usarain

usarain

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 974 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 11:45

ทำไมคนที่ถูกหาว่าเป็นเสื้อแดงอย่างผม กลับไม่เคยพูดว่า ทหารฆ่าประชาชน

ผมเคยแต่พูดว่า

ใครนำทหารไร้อาวุธไปให้ไปประชาชนที่ถูกปลุกเร้า หรือ กองกำลัง ติดอาวุธ(ถ้ามี ถ้าไม่มี ไอ้คนที่ว่ามีมันก็โกหก) ฆ่า.....

ถ้ารู้ว่าเค้าใช้ความรุนแรง... พาทหารไร้อาวุธไปตายทำไม...
ถ้าไม่รู้ว่าเค้าจะใช้ความรุนแรง.... มันเป็นความบกพร่องในการข่าวของใคร.....
ใครที่อยากได้หน้ากับประชาคมโลก ว่า รักสันติ.... สุดท้ายก็หนีไม่พ้น ข้อ ครหา 91 ศพ มือ เปื้อนเลือด จาก อีกฝั่งอยู่ดี....

สุดท้าย รัฐบาลใครที่จับใคร(กองกำลังติดอาวุธ)ไม่ได้เลย .... ในเหตุการณืที่เกิดขึ้น..... แล้วลอยหน้าลอยตาอยู่ได้....


อ่านความคิดเห็นคุณ hentai มาพอสมควร ไม่ได้ตามอ่านทั้งหมด แต่อ่านความคิดเห็นนี้แล้วลงความเห็นว่างี่เง่าที่สุด เต็มไปด้วยอคติบังตา คิดว่าตนเองอยู่เหนือคนอื่นอยู่เหนือปัญหา วิจารณ์คนอื่นได้แต่ไม่ดูสภาพความเป็นจริง รับคำว่าเสื้อแดงไปก็สมควรแล้วครับ

รู้ว่ามีอาวุธ จะรู้ไหมครับว่าเขาจะใช้ความรุนแรง รู้ว่ามีโจรใต้ โจรใต้จะใช้ความรุนแรง ที่ไหนเมื่อไหร่การข่าวต้องรู้หมดเหรอครับ ระดับผู้บังคับบัญชายังอยู่ที่นั่น ถูกฆ่าตาย คุณไปตำหนิเขาว่าการข่าวไม่ดีเหรอครับ บ้าหรือเปล่าครับ ทำไมไม่ตำหนิคนที่ใช้ความรุนแรง ขอสักครั้งได้ไหมครับที่ตำหนิคนใช้ความรุนแรงกับทหารออกมาดัง ๆ ไม่งั้นคงไม่พ้นข้อกล่าวหาว่าเป็นแดงล้มเจ้าหรอกครับ พฤติกรรมมันบ่งซะขนาดนี้

ทำไมหนีไม่พ้นการถูกกล่าวหา เพราะอคติมันบังตาไงล่ะครับ เอาความเท็จมาเล่า พวกเสื้อแดงก็เลือกจะเชื่ออยู่แล้วนี่ครับ

ส่วนเรื่องการจับกุมหลาย ๆท่านก็ออกมาบอกแล้ว ยอมรับความผิดมั่งสิครับ ไม่ใช่สักแต่แถ
แดงล้มเจ้าเป็นบาป เพราะอกตัญญู

#35 เมาอยู่

เมาอยู่

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,182 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 11:46

...วันนั้น ผมยังจำฝังใจ ผมอยู่หน้าแมคโดนัลตรงแยกคอกวัว
ขอบอกว่าสิ่งควายแดงเที่ยวไปพ่นตามเวปนั้น ส่วนใหญ่ล้วนตอแหล

...ผมเองไม่ใช่เสื้อแดง ม็อปสีบ้าสีบออะไรก็ไม่เคยไปทั้งนั้น แต่ตอนปี52 ไปเถียงกะไอ้แดงตัวหนึ่งตามเวป
ตอนสงกรานต์ไอ้แดงตัวนั้นมันก็ปล่อยข่าวสารพัด ผมเลยตัดสินใจไปดูด้วยตัวเอง (ด้วยความหมั่นไส้)
แต่แฟนผมก็ห้ามนักห้ามหนาสุดท้ายก็ขอไปจนได้ แต่เป็นวันที่มันประกาศเลิกการชุมนุมพอดี
คือวันที่ 14 เมษายน(รึเปล่า...นะ)

..นี่ก็เป็นเรื่องขำๆเล็กๆ น้อยๆ ตอนสงกรานต์เลือด ที่ผมไปเจอมา..

ขอบอกว่าดราม่าสุดๆ มีการเปลี่ยนสีเสื้อแล้วมายืนโห่ฮาทหาร พอไล่ก็วิ่งหนีหางจุกตูด
ไอ้ตัวที่ไม่วิ่งก็มี แต่แม่มรับบทแกล้งตาย เป็นวัยรุ่นชายหนึ่งคนแล้วก็มีป้าคนนึงรับบทนางเอก นั่งบีบน้ำตาข้างๆ
คอยตะโกนว่าโดนทหารกระทืบ(โดนกระทืบแม่มสิ เห็นตูกะตา) ตอแหลกันเนียนเลย แต่แกบิ๊วไม่ขึ้นฮะ
เพราะพรรคพวกแกเผ่นหมดแล้ว เป็นผมคนเดียวมั้งที่ยืนดู
ได้คอยแผ่นเสียงตกร่อง "ฮือๆ ทหารทำร้าย..."(แต่ไม่มีน้ำตานะ นี่ถ้าไม่มีทหารผมได้ถุยน้ำลายรดอิป้าคนนี้จริงๆ)
เพราะทหารก็เยอะกว่า ป้าแกก็จ๋อย ทำไรไม่ได้ หายแวบไปซักแปบ ส่วนไอ้หนุ่มนั่นผมก็จำไม่ได้ว่าเป็นไงต่อ..

พอทหารกลุ่มที่ไล่ไอ้พวกที่วิ่งหนีไปกลับมา ปรากฎว่าจับมาได้1 ตัว เป็นลุงแก่ๆ ตัวงี้เหม็นเหล้าหึ่ง ใส่เสื้อสีไรจำไม่ได้พร้อมเป้1ใบ
แกบอก "จับผมทำไม ผมไม่ใช่เสื้อแดง" ทหารก็จกเสื้อแดงแกออกมาจากเป้ แกบอก "ไม่ใช่ของโผ้มมม
ผมเก็บได้"(เอาละ เมิงดริฟเข้าไปเหอะ) ทหารก็ถามกินเหล้ามาปะเนี่ย (ตอนนี้ อีป้าคนนั้นเริ่มมาวนเวียน)
ตาลุงก็บอก "ไม่ได้กิ๊นนนน"(ถ้าเป็นตอนนี้นะ ต้องอ้างว่ากินกาแฟ กะป่วยเป็นก้านหูอักเสบ ถึงจะอิน)
ทหารก็ชูขวดเหล้าขาวแล้วถามแก "แล้วนี่อะไร" จำไม่ได้ว่าแกซ่อนขวดไว้ไหน อีป้าก็หน้าเจื่อนไม่รู้จะช่วยดริฟยังไง
ลงท้าย ลุงแกเจอจับไปนอนโรงพักให้สร่าง ส่วนชะตากรรมจะเป็นอย่างต่อไปนั้น ผมไม่ทราบ ส่วนคนที่เหลือๆ
ก็โดนชาวบ้านแถวนั้นด่าไล่หลัง "ลูกไอ้หน้าเหลี่ยม" บลาๆๆ สารพัด แล้วสลายโต๋กันไป ...

ส่วน 10 เมษา 53 ไว้วันไหนว่างๆ จะมาเล่าให้ฟังอีกที......

...ที่อยากจะบอกก็คือ สังคมเราไอ้อย่างงี้ก็มีด้วย ผมสงสัยจริงๆว่า อิป้าแกได้อะไรกับการเล่นละครของแก มันต้องหน้าด้านนะ
โอเคถ้าคุณรับเงินมาทำแบบนี้ ถึงผมจะไม่ยอมรับ แต่ผมเข้าใจได้นะ วันที่ผมยืนดูแอ็คติ้งห่วยๆ ของแก แกล้งบีบน้ำตา
ก็ยังแอบขำ ในใจก็คิด เฮ้อ.. ทำไปได้...

...และอย่างหนึ่งที่ผมได้จากการไปวันนั้น เพื่อมาไว้เถียงกับไอ้เสื้อแดงคนที่ผมคุยประจำคือ...

ได้เห็นความวินาศสันตโรที่พวกมันทำไว้ และที่มันชอบคุยโวในเวปว่า เสื้อแดงทุกคน สงบ สันติ อหิงสา
เป็นคนดี คนบ้านนอก ชอบความเป็นธรรม เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ล้วนตอแหล ตลบแตลง ทั้งเพ ทั้งสิ้น

ปล. บางคนก็ดี แต่มีน้อยนะ :P

Edited by เมาอยู่, 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 12:02.


#36 เพื่อนร่วมชาติ

เพื่อนร่วมชาติ

    พรานล่าปูไปรยา

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 7,788 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 11:51

...วันนั้น ผมยังจำฝังใจ ผมอยู่หน้าแมคโดนัลตรงแยกคอกวัว
ขอบอกว่าสิ่งควายแดงเที่ยวไปพ่นตามเวปนั้น ส่วนใหญ่ล้วนตอแหล

...ผมเองไม่ใช่เสื้อแดง ม็อปสีบ้าสีบออะไรก็ไม่เคยไปทั้งนั้น แต่ตอนปี52 ไปเถียงกะไอ้แดงตัวหนึ่งตามเวป
ตอนสงกรานต์ไอ้แดงตัวนั้นมันก็ปล่อยข่าวสารพัด ผมเลยตัดสินใจไปดูด้วยตัวเอง (ด้วยความหมั่นไส้)
แต่แฟนผมก็ห้ามนักห้ามหนาสุดท้ายก็ขอไปจนได้ แต่เป็นวันที่มันประกาศเลิกการชุมนุมพอดี
คือวันที่ 14 เมษายน(รึเปล่า...นะ)

..นี่ก็เป็นเรื่องขำๆเล็กๆ น้อยๆ ตอนสงกรานต์เลือด ที่ผมไปเจอมา..

ขอบอกว่าดราม่าสุดๆ มีการเปลี่ยนสีเสื้อแล้วมายืนโห่ฮาทหาร พอไล่ก็วิ่งหนีหางจุกตูด
ไอ้ตัวที่ไม่วิ่งก็มี แต่แม่มรับบทแกล้งตาย เป็นวัยรุ่นชายหนึ่งคนแล้วก็มีป้าคนนึงรับบทนางเอก นั่งบีบน้ำตาข้างๆ คอยตะโกนว่าโดนทหารกระทืบ
(โดนกระทืบแม่มสิ เห็นตูกะตา) ตอแหลกันเนียนเลย แต่แกบิ๊วไม่ขึ้นฮะ เพราะพรรคพวกแกเผ่นหมดแล้ว เป็นผมคนเดียวมั้งที่ยืนดู
ได้คอยแผ่นเสียงตกร่อง "ฮือๆ ทหารทำร้าย..."(แต่ไม่มีน้ำตานะ นี่ถ้าไม่มีทหารผมได้ถุยน้ำลายรดอิป้าคนนี้จริงๆ) เพราะทหารก็เยอะกว่า
ป้าแกก็จ๋อย ทำไรไม่ได้ หายแวบไปซักแปบ ส่วนไอ้หนุ่มนั่นผมก็จำไม่ได้ว่าเป็นไงต่อ..

พอทหารกลุ่มที่ไล่ไอ้พวกที่วิ่งหนีไปกลับมา ปรากฎว่าจับมาได้1 ตัว เป็นลุงแก่ๆ ตัวงี้เหม็นเหล้าหึ่ง ใส่เสื้อสีไรจำไม่ได้พร้อมเป้1ใบ
แกบอก "จับผมทำไม ผมไม่ใช่เสื้อแดง" ทหารก็จกเสื้อแดงแกออกมาจากเป้ แกบอก "ไม่ใช่ของโผ้มมม ผมเก็บได้"(เอาละ เมิงดริฟเข้าไปเหอะ)
ทหารก็ถามกินเหล้ามาปะเนี่ย (ตอนนี้ อีป้าคนนั้นเริ่มมาวนเวียน) ตาลุงก็บอก "ไม่ได้กิ๊นนนน"(ถ้าเป็นตอนนี้นะ ต้องอ้างว่ากินกาแฟ
กะป่วยเป็นก้านหูอักเสบ ถึงจะอิน) ทหารก็ชูขวดเหล้าขาวแล้วถามแก "แล้วนี่อะไร" จำไม่ได้ว่าแกซ่อนขวดไว้ไหน อีป้าก็หน้าเจื่อนไม่รู้จะช่วยดริฟยังไง
ลงท้าย ลุงแกเจอจับไปนอนโรงพักให้สร่าง ส่วนชะตากรรมจะเป็นอย่างต่อไปนั้น ผมไม่ทราบ ส่วนคนที่เหลือๆ ก็โดนชาวบ้านแถวนั้นด่าไล่หลัง
"ลูกไอ้หน้าเหลี่ยม" บลาๆๆ สารพัด แล้วสลายโต๋กันไป ...

ส่วน 10 เมษา 53 ไว้วันไหนว่างๆ จะมาเล่าให้ฟังอีกที......

...ที่อยากจะบอกก็คือ สังคมเราไอ้อย่างงี้ก็มีด้วย ผมสงสัยจริงๆว่า อิป้าแกได้อะไรกับการเล่นละครของแก มันต้องหน้าด้านนะ
โอเคถ้าคุณรับเงินมาทำแบบนี้ ถึงผมจะไม่ยอมรับ แต่ผมเข้าใจได้นะ วันที่ผมยืนดูแอ็คติ้งห่วยๆ ของแก แกล้งบีบน้ำตา ก็ยังแอบขำ ในใจก็คิด
เฮ้อ.. ทำไปได้...

...และอย่างหนึ่งที่ผมได้จากการไปวันนั้น เพื่อมาไว้เถียงกับไอ้เสื้อแดงคนที่ผมคุยประจำคือ...

ได้เห็นความวินาศสันตโรที่พวกมันทำไว้ และที่มันชอบคุยโวในเวปว่า เสื้อแดงทุกคน สงบ สันติ อหิงสา
เป็นคนดี คนบ้านนอก ชอบความเป็นธรรม เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ล้วนตอแหล ตลบแตลง ทั้งเพ ทั้งสิ้น

ปล. บางคนก็ดี แต่มีน้อยนะ :P


ศาสนาชินวัตรมันทำให้ศาสนิกชนของมันสูญสิ้นศักดิ์ศรีความดีงามฉันมนุษย์ได้อย่างรวดเร็วครับ

ยิ่งถลำลึกกับศาสนานี้มาก ยิ่งห่างไกลความเป็นมนุษย์

น่าเศร้าจริง ๆ

ประชาธิปไตยก็เหมือนส้วมสาธารณะแบบนั่งเต็มตูด ควายนับถือศาสนาชินวัตรใช้แล้วสกปรกชิบเป๋ง


#37 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 11:55

ขอบคุณทุกความเห็นครับ

ผ่านไปนานขนาดนี้ ยังมีความทรงจำที่เด่นชัด

ในเว็บเสื้อแดง
ขนาดเล่าเหตุการสดๆ
ยังมีแต่ประโยคปรุงแต่ง

แล้วมาถึงปัจจุบัน
ก็มีแต่การป้ายสีแบบไอ้ศพเฮนไต

#38 ดราม่า

ดราม่า

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,395 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 12:01

นายฮิโรยูกิ มูราโมโต ช่างภาพญี่ปุ่นเสียชีวิตวันที่ 10 เมษา วันเดียวกับ พ.อ.ร่มเกล้า

ซึ่งวันนั้นยังไม่มีการใช้กระสุนจริงของทางการ
"หากท่านโกหกเรื่องใหญ่มากพอ, โกหกบ่อยครั้งเพียงพอ, เรื่องนั้นจะถูกเชื่อ" อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ สนับสนุนกฎหมายเก็บภาษีที่ดินคนรวย สนันสนุนกฎหมายเก็บภาษีมรดก “ขอพูดอะไรแรงๆ สักครั้งในชีวิตค่ะ พูดแล้วจะร้องไห้...น้ำท่วมไม่กลัว กลัวอย่างเดียว...ผู้นำโง่ เพราะพวกเราจะตายกันหมด”หนูดี

#39 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 12:16

กลับมาอ่านใหม่ ผมว่าข้อความบอกเล่าชัดเจนนะครับ

คลิปวิดีโอ 7 นาทีสุดท้าย ของ"ฮิโรยูกิ มูราโมโตะ" ช่างภาพชาวญี่ปุ่น สำนักข่าวรอยเตอร์
http://www.matichon....grpid=01&catid=
วันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2553 เวลา 15:15:28 น.
อย่างที่รับรู้กัน ฮิโรยูกิ "ฮิโร่" มูราโมโตะ เดินทางมาถึงกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 8 เมษายน เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายในฐานะช่างภาพโทรทัศน์ของรอยเตอร์ ทีวี

2 วันให้หลังตากล้องพ่อลูก 2 วัย 43 ปีรายนี้ ถูกหามส่งโรงพยาบาลในสภาพไม่สามารถจับชีพจรได้ กระสุนนัดหนึ่งเจาะเข้าบริเวณหน้าอกทะลวงออกทางด้านหลัง

กล้องโทรทัศน์ที่หลุดจากมือถูกผู้ชุมนุมประท้วงเก็บไว้ ก่อนคืนให้รอยเตอร์ในเวลาต่อมา หลังตรวจสอบ รอยเตอร์พบว่า ภายในนั้นมีภาพวิดีโอที่เป็นผลงานของมูราโมโตะ ความยาว 7 นาทีอยู่ด้วย หากไม่ถูกตัดทอนดัดแปลงใดๆ นี่น่าจะเป็น 7 นาทีสุดท้ายในชีวิตของ "ฮิโร่" บนโลกใบนี้

เพราะรอยเตอร์ระบุว่า ไม่มีใครรู้ได้ว่า นี่คือสิ่งที่เขาถ่ายไว้เป็นครั้งสุดท้ายแท้จริงหรือไม่!
ต่อไปนี้คือคำบอกเล่าที่ "นิค แม็คฟี" เพื่อนร่วมอาชีพของ "ฮิโร่" บรรยายถึงสิ่งที่เขาได้เห็นจากกล้องตัวนี้ใน 7 นาทีสุดท้ายนั้น!

"ฟุตเทจของมูราโมโตะเริ่มที่หลังแนวของทหาร ด้านหนึ่งคืออนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ฉากที่เคยเป็นเวทีของความรุนแรงที่เลวร้ายของเมืองนี้ในปี 2535 ใกล้กับสะพานผ่านฟ้า ลีลาศ อันเป็นส่วนเมืองเก่าของกรุงเทพมหานคร

ทหาร ในชุดปราบจลาจลเต็มยศยืนประจำการพร้อมกับไรเฟิลในมือชี้ขึ้นสู่ท้องฟ้า มีเสียงปืนดังระงมต่อเนื่อง ทหารนายหนึ่งมองมาที่มูราโมโตะ สองครั้งด้วยท่าทีเคร่งเครียดแต่ไม่ใช่การคุกคามแต่อย่างใด

จากนั้นเกิดระเบิดขึ้นครั้งหนึ่งตรงหน้ามูราโมโตะ ห่างออกไปเพียงไม่กี่หลา ส่งผลให้ทหาร 4 นายกระเด็นร่วงลงกับพื้นในทันทีท่ามกลางประกายไฟและหมอกควัน กระจัดกระจาย ทหาร 2 ใน 4 นาย ทรงตัวลุกขึ้นเดินโขยกเขยกออกไป

ช่าง ภาพโทรทัศน์อีกราย วิ่งแตกตื่นเข้ามาหามูราโมโตะ ผ่านเขาไป ทหารจำนวนหนึ่งพร้อมโล่ปราบจลาจล เบียดเข้ามาแล้วก็ผละห่างออกไปเช่นกัน มูราโมโตะยังคงเดินกล้องต่อเนื่องขณะก้าวถอยหลังล่าถอยออกมาช้าๆ

กล้องโฟกัสไปที่ทหารนายหนึ่งซึ่งนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น ดวงตาเหม่อลอยพร้อมกับบาดแผลเลือดท่วมบริเวณลำคอแต่ยังมีชีวิตอยู่ เพื่อนทหารพยายามปลดเสื้อเกราะกันกระสุนออกมาจากลำคอของทหารนายนั้น

ในเฟรมถัดมา ทหารกลุ่มหนึ่งลากแขนของเพื่อนทหารที่เห็นได้ชัดว่าตกอยู่ในความเจ็บปวด ปากกระบอกไรเฟิลประจำกายครูดไปตามผิวถนน อีกร่างที่ไม่ไหวติงแล้วถูกลากจากไป

กล้องโฟกัสไปตามเส้นทางของคราบเลือดบนท้องถนนที่ส่องประกายวูบวาบในระหว่างการต่อสู้บนท้องถนน ด้านบนคือแผ่นป้ายเชิญชวนให้ร่วมฉลองเทศกาลสงกรานต์ หนึ่งในวันนักขัตฤกษ์ที่หฤหรรษ์ที่สุดในปฏิทินไทย

ทหารเริ่มล่าถอย และทันทีทันใด มุมกล้องก็เปลี่ยนไปเป็นการแสดงให้เห็นแถวของกลุ่มเสื้อแดง ส่วนใหญ่มีท่อนไม้และอีกส่วนกำลังอวดโล่ซึ่งดูเหมือนจะยึดเอามาได้จากทหาร หลายคนโบกไม้โบกมือ ทำท่าทางให้กับใครก็ตามที่อยู่หลังกล้อง

บางคนพูดคุยแบบไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้กับทหาร อีกหลายคนโยนสิ่งของขึ้นฟ้า หนึ่งในจำนวนนั้นอ่อนกำลังตกลงมาโดยไม่ก่อให้เกิดอันตราย

ไม่มีใครโดยรอบให้ความสนใจกับกล้องที่ยังเดินอยู่อย่างต่อเนื่อง

แต่ในเวลานี้นี่เอง ที่บริเวณสี่แยกแห่งนี้นี่เอง ที่ฟุตเทจทีวีจากอีกหลายแหล่ง แสดงให้เห็นมือปืนจำนวนหนึ่งกำลังวิ่งหลบหนี ไม่ได้อยู่ในชุดแดงหรือชุดพรางของทหาร แต่อยู่ในชุดพลเรือนดำทะมึน

รัฐบาลพูดถึง "กำลังฝ่ายที่ 3" ที่เกี่ยวเนื่องอยู่ในการชุมนุมประท้วงครั้งนี้ และสัญญาว่าจะสอบสวนสภาพแวดล้อมของความตายของมูราโมโตะในครั้งนี้

Edited by amplepoor, 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 12:17.


#40 overtherainbow

overtherainbow

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,295 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 12:16

เหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้มาร์คโดนสบประมาทจากทุกคนที่ตั้งแง่ว่า
แหย

คนที่เห็นชีวิตคนเป็นเบี้ยเท่านั้นที่กล้าคิดกล้าทำเรื่องแบบนี้

คนไทยบนผืนแผ่นดินนี้ ก็ทำให้แตกแยกได้ด้วยความโลภ อิจฉา และขี้เกียจ ซึ่งคนอยากเข้ามา ก็เป็นจึงรู้จักรู้ใจกันเหมือนพิมพ์เดียวกัน


อ่านบันทึกของหมอและหลายคน น้ำตาซึม ที่คนไทยกลายพันธุ์เป็นอะไรไปแล้วไม่รู้

บางครั้งการเลี้ยงเชื้อโรคไว้แบบนี้ ในนามของคำว่าบาป บุญ เมตตา กรุณา อุเบกขา คงใช้ไม่ได้

หลายครั้งหลายหนพิสูจน์แล้วว่า ไม่เคยสำเร็จ

#41 phoosana

phoosana

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 7,687 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 12:27

ต้องถามวิภูแถลง อย่างฮาเอาป้าๆ มาร้องห่มร้องให้หน้าเวที ว่ามีคนเสื้อแดง
ถูกยิงตายที่สามเหลี่ยมดินแดง แย่งมาได้แต่กางเกง ส่วนศพทหารโยนขึ้นรถ GMC

มีการส่งซิกกันด้วย :D อันนี้ปี 52

Edited by phoosana, 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 12:27.

We love fender.

#42 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 12:36

วันนั้นการข่าวแย่มาก ไม่รู้ว่าประเมินอย่างไรถึงได้ตัดสินใจสลายการชุมนุมต่อในตอนกลางคืน

มีสองสามเหตุผลที่ทำให้เกิดผลอย่างนั้น

1 ทหารติดกับมวลชน ไม่สามารถกลับที่ตั้งได้

2 มีการถ่วงเวลาให้ปฎิบัติการต่อเนื่องถึงค่ำ

3 ผมเฃื่อว่า ทหารไม่ต้องการให้มีการข้ามไปศิริราช


ว่าตามหลักฐานนะครับ

๑ ถ้าดูตามคลิปจะเห็นว่าทหารถอยได้ทุกเมื่อครับ เพราะถนนด้านหลังนั้นโล่ง เสื้อแดงต้องวางกำลังไว้ที่ถนนราชดำเนินเป็นหลัก

๒ ข้อนี้ค่อนข้างเห็นด้วย ผมรู้สึกว่าพวกแกนนำรอเวลานี้มานานแล้ว เพราะก่อนหน้านั้นก็ใช้ปฏิบัติการยุั่วยุมาตลอด โดยเฉพาะที่ลาดหลุมแก้ว พอวันนั้นที่ราชดำเนินเหตุการณ์ต่อเนื่องและยืดเยื้อมาตั้งแต่ตอนบ่าย และสามารถต้านไว้จนพระอาทิตย์ตก แล้วปฎิบัติการณ์ชั่วก็เกิดขึ้น ผมจำได้เต็มหูเลย ตอนบ่ายผมอยู่ที่เวทีใหญ่ราชประสงค์ ไอ้ตู่มันพูดแปลกๆว่า ถ้าพระอาทิตย์ตกแล้วยังไม่เสียราชดำเนิน แล้วจะไปช่วย ตอนนั้นผมงงมาก ว่าทำไมต้องรอให้พระอาทิตย์ตกแล้วจึงไปช่วย พอผลออกมาแบบนี้ถึงได้เข้าใจ

๓ เท่าที่เห็นนะครับ การวางกำลังที่ปื่นเกล้าไม่มีนะครับ การปะทะผมก็ไม่ได้ข่าว เพราะบริเวณนั้นไม่สำคัญเท่าไหร่ ที่เสื้อแดงต้องต้านไว้ให้ได้คือเวทีที่สะพานผ่านฟ้า

หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#43 ชาวสวน

ชาวสวน

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,095 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 12:37

เหตุการณ์ 10 เมษายน 53 เป็นอีกวันที่ ทักษิณ ชินวัตร ได้ทำความเลวสุดขีด กับบุคคลผู้บริสุทธิ์ไม่ว่าจากฝ่ายไหน

เป็นความอำมหิต ของคนที่คิดและทำทุกอย่าง เพื่อให้ได้คืนมาซึ่งอำนาจ ไม่เลือกว่า จะเป็นวิธีการที่เลวทรามต่ำช้าขนาดไหน

ความจริงที่ถูกบิดเบือน ความจริงที่พวกคนกลางโลกสวยทั้งหลาย ที่ไม่เจอกับตัวตนเองและคนในครอบครัว คงไม่มีทางรู้ว่ามันเจ็บปวดขนาดใน

ความสูญเสียในวันนั้น จงใจ เตรียมการ และวางแผนกันมาอย่างแน่นอน รวมถึง 17 พฤษภา 53 ด้วย

#44 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 12:39

กลับมาอ่านใหม่ ผมว่าข้อความบอกเล่าชัดเจนนะครับ

คลิปวิดีโอ 7 นาทีสุดท้าย ของ"ฮิโรยูกิ มูราโมโตะ" ช่างภาพชาวญี่ปุ่น สำนักข่าวรอยเตอร์
http://www.matichon....grpid=01&catid=
วันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2553 เวลา 15:15:28 น.
อย่างที่รับรู้กัน ฮิโรยูกิ "ฮิโร่" มูราโมโตะ เดินทางมาถึงกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 8 เมษายน เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายในฐานะช่างภาพโทรทัศน์ของรอยเตอร์ ทีวี

2 วันให้หลังตากล้องพ่อลูก 2 วัย 43 ปีรายนี้ ถูกหามส่งโรงพยาบาลในสภาพไม่สามารถจับชีพจรได้ กระสุนนัดหนึ่งเจาะเข้าบริเวณหน้าอกทะลวงออกทางด้านหลัง

กล้องโทรทัศน์ที่หลุดจากมือถูกผู้ชุมนุมประท้วงเก็บไว้ ก่อนคืนให้รอยเตอร์ในเวลาต่อมา หลังตรวจสอบ รอยเตอร์พบว่า ภายในนั้นมีภาพวิดีโอที่เป็นผลงานของมูราโมโตะ ความยาว 7 นาทีอยู่ด้วย หากไม่ถูกตัดทอนดัดแปลงใดๆ นี่น่าจะเป็น 7 นาทีสุดท้ายในชีวิตของ "ฮิโร่" บนโลกใบนี้

เพราะรอยเตอร์ระบุว่า ไม่มีใครรู้ได้ว่า นี่คือสิ่งที่เขาถ่ายไว้เป็นครั้งสุดท้ายแท้จริงหรือไม่!
ต่อไปนี้คือคำบอกเล่าที่ "นิค แม็คฟี" เพื่อนร่วมอาชีพของ "ฮิโร่" บรรยายถึงสิ่งที่เขาได้เห็นจากกล้องตัวนี้ใน 7 นาทีสุดท้ายนั้น!

"ฟุตเทจของมูราโมโตะเริ่มที่หลังแนวของทหาร ด้านหนึ่งคืออนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ฉากที่เคยเป็นเวทีของความรุนแรงที่เลวร้ายของเมืองนี้ในปี 2535 ใกล้กับสะพานผ่านฟ้า ลีลาศ อันเป็นส่วนเมืองเก่าของกรุงเทพมหานคร

ทหาร ในชุดปราบจลาจลเต็มยศยืนประจำการพร้อมกับไรเฟิลในมือชี้ขึ้นสู่ท้องฟ้า มีเสียงปืนดังระงมต่อเนื่อง ทหารนายหนึ่งมองมาที่มูราโมโตะ สองครั้งด้วยท่าทีเคร่งเครียดแต่ไม่ใช่การคุกคามแต่อย่างใด

จากนั้นเกิดระเบิดขึ้นครั้งหนึ่งตรงหน้ามูราโมโตะ ห่างออกไปเพียงไม่กี่หลา ส่งผลให้ทหาร 4 นายกระเด็นร่วงลงกับพื้นในทันทีท่ามกลางประกายไฟและหมอกควัน กระจัดกระจาย ทหาร 2 ใน 4 นาย ทรงตัวลุกขึ้นเดินโขยกเขยกออกไป

ช่าง ภาพโทรทัศน์อีกราย วิ่งแตกตื่นเข้ามาหามูราโมโตะ ผ่านเขาไป ทหารจำนวนหนึ่งพร้อมโล่ปราบจลาจล เบียดเข้ามาแล้วก็ผละห่างออกไปเช่นกัน มูราโมโตะยังคงเดินกล้องต่อเนื่องขณะก้าวถอยหลังล่าถอยออกมาช้าๆ

กล้องโฟกัสไปที่ทหารนายหนึ่งซึ่งนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น ดวงตาเหม่อลอยพร้อมกับบาดแผลเลือดท่วมบริเวณลำคอแต่ยังมีชีวิตอยู่ เพื่อนทหารพยายามปลดเสื้อเกราะกันกระสุนออกมาจากลำคอของทหารนายนั้น

ในเฟรมถัดมา ทหารกลุ่มหนึ่งลากแขนของเพื่อนทหารที่เห็นได้ชัดว่าตกอยู่ในความเจ็บปวด ปากกระบอกไรเฟิลประจำกายครูดไปตามผิวถนน อีกร่างที่ไม่ไหวติงแล้วถูกลากจากไป

กล้องโฟกัสไปตามเส้นทางของคราบเลือดบนท้องถนนที่ส่องประกายวูบวาบในระหว่างการต่อสู้บนท้องถนน ด้านบนคือแผ่นป้ายเชิญชวนให้ร่วมฉลองเทศกาลสงกรานต์ หนึ่งในวันนักขัตฤกษ์ที่หฤหรรษ์ที่สุดในปฏิทินไทย

ทหารเริ่มล่าถอย และทันทีทันใด มุมกล้องก็เปลี่ยนไปเป็นการแสดงให้เห็นแถวของกลุ่มเสื้อแดง ส่วนใหญ่มีท่อนไม้และอีกส่วนกำลังอวดโล่ซึ่งดูเหมือนจะยึดเอามาได้จากทหาร หลายคนโบกไม้โบกมือ ทำท่าทางให้กับใครก็ตามที่อยู่หลังกล้อง

บางคนพูดคุยแบบไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้กับทหาร อีกหลายคนโยนสิ่งของขึ้นฟ้า หนึ่งในจำนวนนั้นอ่อนกำลังตกลงมาโดยไม่ก่อให้เกิดอันตราย

ไม่มีใครโดยรอบให้ความสนใจกับกล้องที่ยังเดินอยู่อย่างต่อเนื่อง

แต่ในเวลานี้นี่เอง ที่บริเวณสี่แยกแห่งนี้นี่เอง ที่ฟุตเทจทีวีจากอีกหลายแหล่ง แสดงให้เห็นมือปืนจำนวนหนึ่งกำลังวิ่งหลบหนี ไม่ได้อยู่ในชุดแดงหรือชุดพรางของทหาร แต่อยู่ในชุดพลเรือนดำทะมึน

รัฐบาลพูดถึง "กำลังฝ่ายที่ 3" ที่เกี่ยวเนื่องอยู่ในการชุมนุมประท้วงครั้งนี้ และสัญญาว่าจะสอบสวนสภาพแวดล้อมของความตายของมูราโมโตะในครั้งนี้


ผมเคยดูคลิปของมุราโมโตะ ผมว่ามันแปลกๆครับ มันดูไม่ต่อเนื่อง และไม่มีจังหวะที่เค้าล้มด้วย ตามเวลานั้น มีความเป็นไปได้หลายอย่างครับ ตำแหน่งที่เค้าอยู่ก็มีสิทธิโดนลูกหลงจากทหารได้ครับ

หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#45 เมาอยู่

เมาอยู่

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,182 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 12:51

ดูเหมือนจุดยืนคุณเฮนไต จะพยายามแสดงว่า ไม่ได้เป็นเสื้อแดง แต่เป็นพวกไม่เอาประชาธิปัตย์ และจะเดินตามอุดมการณ์แปลกๆ ของคุณ
เอาล่ะ... ก็ว่ากันไป

ก่อนปี52 ก็ไม่ได้ชอบมาร์ค แต่ไม่ถึงขั้นรังเกียจ ตอนนั้นรู้สึกไม่ชอบคนคนนี้ หมั่นไส้ อคติ ทั้งมาร์ค ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ เช่นเดียวกันกับแม้ว
แต่ตอนนั้นสนธิ ลิ้ม คนนี้สิ ในสายตาผม ช่างทุเรศเหลือ ทั้งลีลา ทั้งอากัปกริยา ยังงงๆ อยู่ ว่าคนแบบนี้พูดอะไรไร้สาระ ทำไมมีคนไปนั่งฟัง
นี่คือตอนที่ผมมองการเมืองแบบคนที่ไม่ค่อยจะใส่ใจ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะมีคนแบบผมตอนนั้นสักกี่มาก

แต่พอมีเสื้อแดง ทุกอย่างมันชัด ทังแม้วและมาร์ค คนแบบแม้วทำได้ทุกอย่างไม่สนวิธีการ คนแบบมาร์คอ้างหลักการตลอดเวลา
คนประเภทเดียวกับแม้วนี่แหล่ะรับมือยาก คนแบบนี้แหล่ะเรียกว่าเก่งจริง แต่กลับน่ารังเกียจที่สุด
ปัญหาตอนช่วงรัฐบาลอภิสิทธิ์ ไม่หมูนะครับ ผมไม่มองว่าเป็นเทวดา แต่สามารถผ่านมาได้นี่ ถือว่ามีความสามารถ

อาจารย์ผม มักชอบชมแม้วว่าเก่งเสมอๆ ผมไม่เคยเถียง แต่แกไม่เคยด่าว่า รัฐบาลอภิสิทธิ์แก้อะไรไม่ได้สักอย่าง หรือไร้ฝีมือ
เพราะแกอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง แกคงไม่หวาดระแวงว่า จะมีอำมาตย์มาปะปนในห้องที่มีคนแค่ห้าหกคนหรอกมั้ง
ซึ่งทำให้กลายเป็นว่าผมเปลี่ยนใจ มองว่ามาร์คนี่เก่งในระดับหนึ่ง อาจไม่เท่าแม้ว แต่ความน่ารังเกียจน้อยว่ากันเยอะ

ผมเห็นด้วยกับคุณว่า ไอ้ข้อครหา 91 ศพ มือเปื้อนเลือด มันก็คงติดอยู่กันไปอย่างนี้เรื่อยๆ
ต่อให้จบในศาลปรากฎว่ามาร์คไม่ผิด มันยังคงมีคนดันทุรัง และหาประเด็นมาด่าทอกัน
จนต่อให้มาร์คกลายเป็นขี้เถาก็ยังไม่หยุดแน่นอน

แต่ในทางกลับกันหากพิสูจน์กันไปแล้ว ไอ้แม้วมันเป็นคนน่ารังเกียจอย่างที่ผมคิดจริงๆ
หากไอ้ตระกูลชินวัตรยังคิดจะใช้คำว่า "ลอยหน้าลอยตา" ในสังคม แล้วละก็ ผมเชื่อว่า
เวลาไอ้ตระกูลนี้ มันถึงขาลงเมื่อไหร่ "ความจริง" ก็จะปรากฎเมื่อนั้น แน่นอน...

Edited by เมาอยู่, 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 12:55.


#46 mairukumoa

mairukumoa

    ขาใครนี่

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,222 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 12:57

อ่านบันทึกของหมอแล้วสลดกับพฤติกรรมของสัตว์ในคราบมนุษย์

#47 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 13:10

๑ ถ้าดูตามคลิปจะเห็นว่าทหารถอยได้ทุกเมื่อครับ เพราะถนนด้านหลังนั้นโล่ง เสื้อแดงต้องวางกำลังไว้ที่ถนนราชดำเนินเป็นหลัก
ถ้าคำสั่งคือ รักษาที่มั่น ไม่ให้ม็อบผ่านคอกวัว
ทหารก็จะไม่ถอย
ยิ่งกว่านั้น แม้แต่โดนถล่มขนาดนั้น ทหารก็ยังรักษาสี่แยกคอกวัวไว้ ผมคิดว่า นี่คือยุทธศาสตร์เวลานั้น

๓ เท่าที่เห็นนะครับ การวางกำลังที่ปื่นเกล้าไม่มีนะครับ การปะทะผมก็ไม่ได้ข่าว เพราะบริเวณนั้นไม่สำคัญเท่าไหร่ ที่เสื้อแดงต้องต้านไว้ให้ได้คือเวทีที่สะพานผ่านฟ้า
ข้ามสะพานไป มีกำลังตั้งอยู่ที่เชิงสะพาน ไล่ไปถึงแยกที่จะไปศิริราช มีรถเกราะเบาอยู่ด้วย
ที่จริง มีตั้งแต่กลางสะพานแล้ว

ประเด็นก็คือ ถ้ามวลชนฮือข้ามสะพานมา จะยิ่งเกิดความฉิบหายที่ไม่อาจประเมินได้

การเสียสละที่แยกคอกวัว เป็นเงื่อนไขบังคับ
ผมคิดว่า มีทหารแตงโมระดับสูงอยู่ในศอฉ. จึงรู้จุดอ่อนของผู้การร่มเกล้า และสังหารสำเร็จ

#48 ตะกวด กากๆ

ตะกวด กากๆ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 974 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 13:12

จะใช้ ยาง หรือ โลห์ ก็ไม่ครวนใช้ทั้งนั้นและครับ เยอะจังกลัว ปั่นไม่ขึ่นหรอครับ ท่าน จขกท

#49 เด็กอมมือ

เด็กอมมือ

    "ขวัญใจอาหมวย"

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,343 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 13:24

ผมไม่เคยเห็นคำสั่งหรือการแสดงออกใดๆของรัฐบาลหรือผู้มีอำนาจในขณะนั้นให้ใช้ความรุนแรงหรือที่สิ่งมีชีวิตประเภทหนึ่งใช้คำว่า"สั่งฆ่า"กับกลุ่มผู้ชุมนุม
แต่ผมเห็นลักษณะการสั่งการหรือสัญญาณที่ให้ใช้ความรุนแรงกับฝ่ายตรงข้ามจากแกนนำหลายๆคนโดยเฉพาะจากคนที่อยู่ต่างประเทศ
"ผมคงไปบังคับใครให้รักในสิ่งที่ผมรักไม่ได้ แต่คุณก็ไม่มีสิทธิ์มาจาบจ้วงในสิ่งที่ผมรัก"

#50 amplepoor

amplepoor

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,365 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 13:28

จะใช้ ยาง หรือ โลห์ ก็ไม่ครวนใช้ทั้งนั้นและครับ เยอะจังกลัว ปั่นไม่ขึ่นหรอครับ ท่าน จขกท


ผมดีใจนะ

ที่ผมอยู่คนละฝ่ายกับคนแบบนี้ และแบบศพเฮนไต