ไม่รู้ทีวีบ้านไหน ยี่ห้ออะไร หน้าจอมีสิ่งแปลกปลอม
Shoot 'Em Up hasn't added any friends yet.
โดย koong
on 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 21:36
อยู่ต่อเลยได้ไหม
อย่าปล่อยให้ฉันไป
เธอก็รู้ ว่าที่ประเทศไทย
มีคนรอดักยิงหัวฉัน ตอนนี้
โดย หนูอ้อย
on 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 07:21
โดย sigree
on 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 07:32
โดย RiDKuN_user
on 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 15:16
พรบ. นิรโทษกรรม เป็นเรื่องของสภา ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล แล้วมาเผือกอะไรครับท่าน
โดย ปุถุชน
on 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 21:26
กะหรี่ขายชาติไม่ไว้ใจสถานการณ์...
กลัวไม่สามารถหากินในกรุงเทพมหานคร....
ไปหากินที่อู่ตะเภาแล้ว....
ถิ่นที่ทหารเรือต่างชาติชอบจอดเรือรับบริการ
ไปซุกอ้อมอกนาวีไทย...
มี รปภ. 3 กอง คอปเตอร์ 2 คัน....
ศึกนี้ยิ่งใหญ่นัก...
ด้วยสมองกะหรี่ขายชาติ ไม่คาดคิดมาก่อน....
ปล.ห้ามทึกทักว่าเป็นใครนะโว๊ยยย......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
โดย amplepoor
on 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 08:22
ถ้าเราเชื่อว่า 12 ล้านเสียง เลือกพรรคประชาธิปัตย์ด้วยสติ
15 ล้านเสียงเลือกทักษิณเพราะความมัวเมา
ตอนนี้ เวลาพิสูจน์มาถึงแล้ว
แน่ละ เชื้อไฟจาก 12 ล้านเสียงคงจะจุดติดยากหน่อย
แต่ถ้าติดแล้ว ก็ไม่ดับง่ายๆ
แม้ว่าสุขภาพไม่ดี ผมก็คงต้องออกจากบ้าน ไปสามเสนเสียแล้ว
โดย redfrog53
on 31 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 16:08
Mallika Boonmeetrakool
เริ่มแล้ว!!!! เวทีคัดค้านการออกกฎหมายนิรโทษกรรม ที่สถานีรถไฟสามเสน Overcome 2 #สามเสน ค่ะ
ต้อม นักเดินทาง
ข้าวสาร ขนมาเทกันเป็นรถสิบล้อ รอรับคลื่นมวลชนที่จะเข้าร่วมต้านกฎหมายล้างผิด
นี้ยังคาดการว่าคนจะมาเป็นหมื่น แล้ว "ครัวจิรายุ" ทำบริการคนเป็นแสน มันขนจากไหน พ่อครัวกี่คน ไม่มีรูปสักใบเหรอ $$#@$##@#$
@Pai_NTV
15.22น. สถานีรถไฟสามเสน รถไฟยังคงจอดชานชาลาที่ขบวนตามปกติ
โดย a.mtvv
on 30 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 12:56
ผมเป็นคนไทยเชื้อสายจีน
พ่อแม่เป็นลูกครึ่ง แต่ไม่เคยมีสักครั้งที่ จะรู้สึกว่าผมไม่ใช่คนไทย
เคยมีเพื่อนที่เรียนหนังสือด้วยกันเป็นคนเวียตนาม แบบนั่งเรือหนีมาที่ US ตอนเด็ก
รู้สึกว่าเขาเก็บกดมาก ผมเห็นใจเขามาก เพราะไม่เคยรู้สึก ว่า Belong here (US)
มันคงเป็นความรู้สึกเคว้งคว้าง ว่าไม่รู้จะไปที่ใด จะกลับเวียตนามก็ยาก อยู่ที่ US ก็รู้สึกว่าไม่ใช่คนของที่นั่น
วันนี้ผมรู้สึกแปลกไปกว่าเดิม
มองประเทศไทยในวันข้างหน้าด้วยความรู้สึกกดดัน
มองคนไทยที่อยู่แวดล้อม แต่ไม่รู้สึกว่ารัฐบาลนี้ทำผิดพลาดมาก
และอาจพาเรา ล่มสลายไปด้วย
ผมเริ่มรู้สึกว่าผมไม่ใช่คนของสังคมนี้
ไม่ใช่เพราะเชื้อชาติ ไม่ใช่เพราะสัญชาติ
ไม่ใช่ว่าบ้านเมืองผมตกอยู่ในภาวะอดอยาก อย่างที่อากงผมเคยเผชิญ
ไม่ใช่ว่าบ้านเมืองนี้ถูกรุกรานจากคนต่างชาติ อย่างที่เพื่อนเวียตนามผมเคยเผชิญ
แต่เป็นเพราะตระกูลเลวตระกูลหนึ่ง
เป็นเพราะคนเลว 300 คน ในสภา
และเป็นเพราะคนโลภ หลายล้านคน ในประะเทศนี้
ดันมาอยู่ในประเทศนี้ ในเวลาเดียวกัน
ผมยังเด็กมากในสมัย ตุลา
ยังไม่รู้เรื่องมากพอในพฤษภาทมิฬ
แต่วันนี้ผมอยู่ในวัยวุฒิที่เป็นส่วนหนึ่งที่ผลักดันประเทศนี้ได้
คงไม่เฉยแน่ครับ
โดย whiskypeak
on 18 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 22:37
โดย Bookmarks
on 16 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 14:27
ขอแ่ช่งด้วยคนครับ ผมขอสาปแช่งพวกควายแดงที่ไปเลือกมันมา ขอให้เวรกรรมจากการเห็นแก่เศษเนื้อ เศษกระูดูกที่ไอ้แม้ว อีปูมันโยนให้ ให้พวกควายแดงมันชิบหาย ไปพร้อมกับสิ่งที่มันเลือกมา
โดย เมาอยู่
on 5 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 02:47
http://hilight.kapook.com/view/91916
(1) ต้องลงไปลุยป่าเพื่อศึกษาว่าพื้นที่นั้นมันมีเสือจริงไม่จริงอย่างที่ว่าเลยไหม? ถึงจะเรียกว่าใช้เหตุผลอยู่เหนืออารมณ์ และระหว่างกลุ่มNGOนักอนุรักษ์ทำงานลงพื้นที่ กับดร.โสภณ เราควรเชื่อใคร?...
(2) การที่ไม่มีเสือทำร้ายคนแปลว่าพื้นที่ไม่มีเสือจริง นี่เรียกว่าใช้เหตุผลเหนืออารมณ์หรือไม่? เพราะอันที่จริงสัตว์ป่าแท้ๆ ส่วนใหญ่มักกลัวคน(ต่อให้เป็นสัตว์ดุร้ายอย่างเสือ ก็ตาม) และมักไม่ทำร้ายหากไม่เจอภาวะกดดันจริง เช่น หลงมาจากป่า หิว หรือเจอในระยะที่คุกคาม ตกลง ดร.โสภณ เข้าใจธรรมชาติของสัตว์ป่าจริงหรือไม่?...
(3) หากดูจาก พื้นที่ ปริมาณการกักน้ำ "เขื่อนแม่วงก์" ไม่สามารถป้องกันน้ำท่วมได้ ดร.ยังเป็นคนย้ำเองว่า "ต่อให้มีเขื่อนภูมิพลนับสิบเขื่อน ก็อาจไม่สามารถกักน้ำไว้ได้อยู่ดี" แล้วการสร้างเขื่อนแม่วงก์จะยังคุ้มค่าอีกหรือไม่เมื่อต้องสูญเสียป่า(ที่ ตัวดร.เอง ก็ไม่เคยศึกษาว่า มีเสือจริงหรือไม่)
ส่วนเรื่องการแก้ไขภัยแล้งในพื้นที่ใกล้เคียงของ อ.ลาดยาว และ อ.สว่างอารมณ์ ซึ่งมีพื้นที่กว่า 291,900 ไร่ ความต้องการใช้น้ำเฉลี่ย 347.9 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ส่วน "เขื่อนแม่วงก์" ที่มีพื้นที่ขนาด 13,000 ไร่ เก็บน้ำได้เพียงประมาณ 250 ล้านลูกบาศก์เมตร จะแก้ไขปัญหาภัยแล้งได้ตรงจุดไหน นี่คือการใช้เหตุผลอยู่เหนืออารมณ์ หรือไม่ อย่างไร?...
(4) ดร.เข้าใจคำว่า "ป่า" ดีเพียงใด มีความหมายเพียง "ต้นไม้ใหญ่" ใช่หรือไม่? ดังนั้น "ทุ่งหญ้า" "ป่าพรุ" ไม่นับเป็นป่าใช่หรือไม่? ดร.เข้าใจคำว่า "ระบบนิเวศ" หรือไม่? "ระบบนิเวศ" ของดร. คือต้องมีต้นไม้ใหญ่ๆ พื้นที่ 41.6 ตารางเมตร (6.4 x 6.4 เมตร) มารวมกันใช่หรือไม่? ถ้าอย่างงั้นแล้ว "สวนยาง" คือ "ป่า" หรือไม่? มีความสำคัญเท่ากับอุทยานและ "ป่า" ชนิดอื่นไหม?...
(5) ดร.พูดเองว่า "แม้ไม่มีเขื่อนก็ยังต้องมีการก่อสร้างคูคลองระบายน้ำและการชลประทานอยู่ดี" งั้นปัญหาแรกที่ควรโฟกัส คือเรื่องการระบายน้ำและชลประทาน ซึ่งทำได้รวดเร็วกว่า การสร้างเขื่อนที่ใช้เวลาถึง 8 ปี ใช่หรือไม่?...
(6) เรื่องพื้นที่ใช้ในการสร้างเขื่อน ดร.ว่าแค่ 1% ของอุทยาน จะเป็นหัวใจของป่าได้ยังไง งั้นลองจินตนาการดูว่า ถ้าบ้าน ดร. มีพื้นที่ 1ไร่ ผมขอพื้นที่บ้าน ดร. แค่ 1% คือ 16 ตรม. แต่ขอตรงเสากลางบ้านเลย ดร. จะยินดียกให้ผม เพียงเพราะผมขอเพียง 1 % ไหม? หรือจะไม่ยกให้ เพราะตรงที่ผมขอมันเป็นเสาบ้าน? ก็ถามซ้ำอีกว่า ดร.เข้าใจคำว่า ระบบนิเวศไหม? เชี่ยวชาญ ศึกษาพื้นที่แค่ไหน? ถึงได้กล้าพูดว่าข้อสงสัยของ ดร. เป็นการใช้เหตุผลอยู่เหนืออารมณ์?...
(7) เรื่องการทุจริต อ่านมาถึงตรงนี้ ถ้าเป็นถึง ดร. มีสมอง ก็ต้องเข้าใจ ว่านี่ไม่ใช่การอ้างลอยๆ เพราะประเทศไทยอยู่อันดับที่ 88 การตรวจสอบการทุจริตประจำปี 2555 และแทบทุกโครงการ มีอ้างถึงการทุจริตทั้งนั้น และก็หลายโครงการก็ผ่านมาได้ แม้จะมีการทุจริตจริง เป็นหน้าที่ของผู้รับผิดชอบในการดำเนินงาน ที่จะสร้างความเชื่อมั่น มากกว่าจะมาชี้หน้าว่าการกล่าวหาลอยๆ ว่าการกล่าวหาเรื่องทุจริตจะทำให้โครงการเดินไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลเองต่างหาก ที่ไม่สามารถชี้แจงได้ การโบ้ยว่า การกล่าวหาเรื่องการทุจริต จะทำให้ทำโครงการไม่ได้ เป็นการใช้เหตุผลอยู่เหนืออารมณ์ อย่างไรมิทราบ?
และการตรวจสอบที่ ดร. ว่า มีคว่ามน่าเชื่อถือแค่ไหน สารพัดเรื่องที่มีการจัดซื้อจ้าง ล้วนมีช่องทางการทุจริตทั้งสิ้น(ยกตัวย่างเช่นการซื้อนาฬิกาติดพนังของรัฐสภา) แล้ว ดร.คิดว่าเรื่องใหญ่อย่างการสร้างเขื่อน จะมีผลกระทบแค่ไหน คิดดูว่าต้องเปิดป่าให้แรงงานจำนวนมากเข้าก่อสร้างเป็นเวลาถึง 8 ปี การลักลอบตัดไม้ การลักลอบล่าสัตว์มันจะเป็นยังไง ขณะที่เสือโคร่งส่งไปจีนมีราคาสูงถึงตัวล่ะ 1 ล้านบาท ในส่วนของเจ้าหน้าที่มีจำกัด ยังไม่รวมกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ค่าเวนคืน ผลประโยชน์ตรงนี้ ดร. ได้คิดบ้างหรือไม่?…
(8) ขณะที่คนคัดค้านการสร้างเขื่อน พยายามพูดถึง ประโยชน์ของป่า ความคุ้มค่า และให้พยายามให้มองหานวัตกรรมอื่นในการป้องกันน้ำท่วม น้ำแล้ง ดร. คิดว่า นั่นคือ "การใช้อารมณ์เหนือเหตุผล" ส่วนคนที่เห็นด้วยกับการสร้างเขื่อนอย่าง ดร. กลับมองคนเหล่านั้นว่า "ฝ่ายต่อต้านเขื่อนพยายามดึงความน่ารัก น่าสงสารของป่าไม้และสัตว์ป่ามาต่อต้าน พยายามล่ารายชื่อคนต้านให้ครบ 100,000 ราย แต่หากชาวบ้านรวมตัวกันและแสดงประชามติเกินกว่าที่มีคนค้าน ฝ่ายต่อต้านก็คงไม่ฟังเสียงอยู่ดี เพราะสำคัญตนว่าตนเองมีข้อมูลดีกว่า ทั้งที่ตรรกะหรือข้อมูลข้างต้น มีช่องโหว่ที่พึงฉงนมากมาย แต่ในนามของการ "ทำดี" เป็น "คนดี" ที่หวังดีต่อป่า เราก็อาจเชื่อตาม ๆ กันไปโดยไม่ตรวจสอบ" ตรงนี้ เป็น "การใช้เหตุผลอยู่เหนืออารมณ์" ของ ดร. ยังไง? ขณะที่คนคัดค้าน ชี้ให้เห็นถึงโทษของการสร้างเขื่อนได้ แต่ แต่ ดร. ไม่สามารถชี้ให้เห็นโทษของการมีป่าได้ ใช่หรือไม่?...
(9) ดร. เป็น ดร. ประเภทไหน? ด้านอะไร?(ไม่ได้อยากรู้หรอก ถามไปงั้น)...
โปรดตอบ...
ทีละข้อ..
ละข้อ.
Community Forum Software by IP.Board 3.4.6
Licensed to: serithai.net