Jump to content


Shoot 'Em Up

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 22 ตุลาคม 2554
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2557 07:05
-----

#793096 เรื่องเล่าจากก๊วนกอล์ฟ: ตีกอล์ฟ กินเลี้ยง ที่ปักกิ่ง

โดย โจโฉ นายกตลอดกาล on 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 17:15

หลังจากที่เจ้าภาพ ลับ ลวง พราง ไม่จัดงานที่มาเก๊า และ ปล่อยข่าวว่ายกเลิกงานเพราะสังเวยถังเช่า

ไม่กี่วันก่อนเริ่มงาน ผมได้รับตั๋วเครื่องบิน พร้อม จดหมายเขียนด้วยลายมือ

ความว่า "พี่ต้องมาให้ได้ ถ้าไม่มาไม่รักกันจริง เตรียมอาวุธให้พร้อม"

ด้วยรัก และ คิดถึง

.................

เราก็นึกในใจ ไหนมันบอกว่าไม่จัดแล้วไง

พอสืบข่าวไปมา ของจริง ตัวจริง เสียงจริง ปักกิ่งเท่านั้น เขาเชิญแต่ระดับคีย์แมน และ คนไว้ใจได้

ส่วนที่ฮ่องกง พวกวิ่งเต้น....!!!!!????

พอไปถึงปักกิ่งก็แบบ งงๆ มีรถมารับไปสนามกอล์ฟทันที บริการเขาดีจริงๆ เจ้าภาพ

(ทุกปี มันขี้เหนียวจะตาย) พอไปถึงจอดรถปุ๊บ มีเด็กมารับพาเข้าล๊อกเกอร์

และมีคนไทยมาคอยดูแล บอกว่า "นายรอด้านบน ในห้องไพรเวท"

พอขึ้นไปก็เจอเจ้าภาพสักที หน้าตาดูโทรมลงพอสมควร สงสัยเสพถังเช่าเกินหรือเปล่า

เข้ามากอดผมเฉยเลย บอกคิดถึงผมมาก (ปากหวานเหมือนเดิม)

ระหว่างมื้อกลางวันนั่งคุยกัน เจ้าภาพเริ่มอารัมภบทกล่าวกับผมว่า

ผมคิดถึงพี่ คิดถึงเวลาเราเคยร่วมงานกัน พี่ว่ากล่าวตักเตือนผมตรงไปตรงมาเสมอ

อะไรไม่ดี พี่ก็บอกไม่ดี ไม่เคยต้องมาเอาใจผมเหมือนคนอื่น ถ้าผมเชื่อพี่แต่แรก ผมก็ไม่ต้องมาลำบากอย่างนี้

ผมอยากให้พี่กลับมาช่วยงานผม ช่วยรัฐบาล

ผมตอบสั้นๆกับเจ้าภาพว่า "ผมพอแล้ว ผมถึงจุดเกือบสูงสุดทางการเมืองแล้ว ผมขอเลี้ยงหลานดีกว่า"

เจ้าภาพรุกต่อว่า พี่สามารถประสานงานหลายฝ่ายได้ดี หลายกลุ่มการเมือง และ พวกสื่อ

ผมเสียดายจริงๆ ถ้าพี่จะมานั่งเลี้ยงหลาน และตีกอล์ฟไปวันๆ

ผมได้แต่ตอบสั้นๆ สถานการณ์มันทำงานยาก ไร้เอกภาพ แบ่งกลุ่ม แบ่งมุ้ง ถ้าจะให้ผมทำงาน

กลุ่มมุ้งต้องสลายในสาม ถึง หกเดือน และ ตำแหน่งของผมต้องสูงสุดทางการเมืองโดยมีอำนาจเบ็ดเสร็จ

และเหตุผลเดียวที่ผมจะกลับมาทำงานคือ กลุ่มเสื้อแดง และ ม๊อบสีต่างๆต้องสลาย

ถ้ารับเงื่อนไขผมได้ ผมกล้ารับทำงานให้ เจ้าภาพคิดหนัก และ บอกต่อว่า

คนเสื้อแดง เป็นฐานมวลชนสำคัญจะสลายได้ไง และ เราจะมีอำนาจต่อรองอะไร

เหมือนทำลายกำแพงคุ้มครองตัวเรา

ผมเถียงต่อไปว่า ก็ไม่ใช่เพราะม๊อบสีเสื้อต่างๆเหรอ ถึงมีปัญหาไม่จบไม่สิ้น

นับวัน ตู่ เต้น แกนนำอื่นๆต่อรองกันไม่จบไม่สิ้น ถ้าไม่สลาย ต่อให้ไปขอใครมาทำงานก็ลำบาก

ต้องมาคอยเป็นลูกไล่ พวกอันธพาลพวกนี้ ก็ลองเอาไปคิดดูแล้วกัน

ถ้ากล้าเสี่ยงสลายกลุ่ม ผมก็กล้าเสี่ยงทำงาน ยอมถูกคนตราหน้าก็เอา

ผมขอคิดดูก่อน.......ยังไงผมก็อยากให้พี่มาทำงานด้วย ช่วยกันทำกับ......หน่อย

ผมคิดในใจ.....ว่าแล้ว ไม่พ้นหน่อย

พูดถึงไม่ขาดคำ หน่อยก็โผล่เลย เข้ามาทักทายผม และ เจ้าภาพ

พร้อมชวนออกจากห้องไพเวท บอกน้องๆรออยู่

อุ่นหนาฝาคั่งจริงๆ แบ่งก๊วนเล่นกอล์ฟกันเสร็จ ก็เริ่มออกรอบ

โดยเจ้าภาพต้องการที่จะดวลกับผมจริงๆ ผมเลยตกลง

และถามถึงกรณีถังเช่าในขณะออกรอบ

เจ้าภาพตอบสั้นๆ "โดนซะเกือบตาย พอๆ"

พอเล่นไปเรื่อยจนเสร็จ อาบน้ำขึ้นมากินเลี้ยงในห้องอาหารในสนามกอล์ฟ

เริ่มเป่าเค้ก พร้อมรับของขวัญ (และพวงหรีด)

เจ้าภาพ ตะโกนข้ามโต๊ะไป

หน่อย... งานบง งานบุญพอๆได้แล้วนะ มาช่วยงานรัฐบาลได้แล้ว

สิ้นเสียงเจ้าภาพ พวกแก๊งค์ใกล้ชิด ปรบมือกันเกรียว

แต่เจ้าแม่ก็ยังไว้เชิง ขอทำงานบุญใหญ่สุดท้ายให้เสร็จซะก่อน

สรุปเจ้าแม่ คัมแบ๊คแน่ ในขณะที่เจ้าพ่อตกกระป๋อง

ส่วนผมถ้ารับเงื่อนไขไม่ได้ ก็ขอเลี้ยงหลานเหมือนเดิม บอกตรงๆเปลืองตัว......


#791588 คาดไว้ไม่ผิด เกมอำมหิต เชือดนิ่มๆ ยึดกองทัพเบ็ดเสร็จ!!! หลอกกองทั...

โดย นารายณ์สังหาร on 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 14:01

เห็นด้วย   กองทัพไม่ใช่รัฐอิสระ ใช้ภาษีจากประชาชน อยู่ใต้บังคับบัญชาของฝ่ายบริหาร

ซึ่งมาจากประชาชนก็ถูกต้องอยู่แล้ว  กองทัพควรจะเข้ารูปเข้ารอยเหมือนประเทศที่  ปชต.

เขาแข็มแข็งแล้วเสียที  

 

แล้วรัฐบาลนี้อยู่ใต้อำนาจประชาชนหรืออำนาจของ "ใคร" กันแน่ครับ ดอนยอ ......

 

ประชาธิปไตยของไทยไม่มีวันเข้ามแข็งได้หรอกครับตราบใดที่คนของเรายังมีพื้นฐานแบบนี้  ไร้ระเบียบ รักสบาย ถูกชักจูงง่าย รักษาสิทธิตัวเองแบบโง่ๆ แต่ละเมิดสิทธิ์คนอื่นตลอด ....

 

ความหมายของประชาธิปไตย คนไทยเองยังไม่เข้าใจเลยว่ามันคืออะไร  หรือถึงเข้าใจก็...แล้วไงล่ะ  ทำอะไรตามใจคือไทยแท้ .....  เพราะฉะนั้น คนไทย เหมาะที่จะถูกปกครองครับ ไม่ใช่ปกครองตัวเอง .....ไปวัดดวงเอากับผู้ปกครองว่าจะดีจะเลว แล้วก็ก้มหน้ารับกรรมไป  นั่นคือวิถีคนไทย ซึ่งมันฝังรากลึกจนนเป็นธรรมชาติของคนไทยและเกินกว่าจะเปลี่ยนแปลงในแค่ 2-3 ช่วงอายุคน ...

 

 

การเข้ามาควบคุมทหารของรัฐบาลไทย ไม่ต่างอะไรกับการพยายามจับเสือด้วยมือเปล่าโดยไม่มีความรู้ความสามารถอะไรเลย  เพราะกองทัพไม่ได้ถูกสร้างมาด้วยรัฐบาล แต่ถูกสร้างมาด้วย "ประเพณีทหาร" ซึ่งคนอย่างดอนยอ ไม่มีทางเข้าใจ ....ยิ่ง รมต.กลาโหมคนนี้ ยิ่งไม่มีวันเข้าใจ หรือแม้แต่ ทักษิณเองก็ไม่เข้าใจ เพราะมันเป็นตำรวจ....องค์ประกอบของตำรวจกับทหารมันต่างกันเยอะ .... เพราะฉะนั้น ในหัวของทหารเกือบทุกคนลึกๆเค้าจะคิดว่า...."พวกเอ็งไม่มีสิทธิ์มาคุมทหาร...หรือถึงพยายามจะมีสิทธิ์นั้น ที่สุดแล้วจะคุมอยู่ไหม ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะ" .... ทุกวันนี้รัฐบาลก็กลัวทหารขี้ขึ้นสมองกันอยู่แล้ว เพราะรู้ดีว่าถ้ารอบนี้ทหารเอาขึ้นมา พวกเมิงไม่มีใครรอดแน่  ตายหมดสถานเดียว!!!  คนในยุคนี้มันเห็นความโหดร้ายกันน้อยไปหน่อยก็เลยกล้าแหย่ทหาร...

 

ละก็เรื่องภาษีอ่ะ เลิกเอามาพูดเถอะครับ มันปัญญาอ่อนว่ะดอนยอ  เอาไว้ทหารไม่เสียภาษี แล้วเอาเงินจากประชาชนมาเลี้ยงกองทัพล้วนๆ โดยที่ทหารไม่้ต้องเสียภาษี... ค่อยมาพูด ...... เพราะทุกหน่วยงานในรัฐบาลมันใช้ภาษีประชาชนทั้งนั้นแหละ  ....  

 

และถ้าจะอ้างภาษี  ก็ชวยดูด้วยว่า ประชาชนอีกกี่ล้านคนที่เค้าเสียภาษีแล้วอยากให้ทหารกระทืบรัฐบาลนี้ ......

 

ประเทศไทยอาจจะมีประชาธิปไตยที่แปลกๆจากประเทศอื่นเพราะคนของเราเป็นแบบนี้ แต่ต้องให้ "ทหารคุม (ค้ำ) รัฐบาลเท่านั้นถึงรอด...ถ้ารัฐบาลไม่ยอม ก็ต้องล่มสลายไป ....ถ้าไม่พอใจเชิญดูไบครับ ดอนยอ" ...




#791445 คาดไว้ไม่ผิด เกมอำมหิต เชือดนิ่มๆ ยึดกองทัพเบ็ดเสร็จ!!! หลอกกองทั...

โดย นารายณ์สังหาร on 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 10:38

ดูต่อไป ^^"  




#782851 สื่อนอกชื่นชม "จำนำข้าว" ของไทย เสื้อแดงจงปลื้มซะ

โดย eAT on 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 06:42

'สื่อนอก'ชี้โครงการรับจำนำข้าว'เขมร-พม่า'สวมสิทธิ์7.5แสนตัน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 กรกฎาคม 2556 00:30 น.
 
ข้าวเขมรถูกลักลอบเข้าสู่ไทยเพื่อสวมสิทธิ์โครงการรับจำนำข้าว
 
       เอเจนซี/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - สำนักข่าวรอยเตอร์เสนอรายงานข่าวเชิงลึก อ้างนักวิเคราะห์และพ่อค้าที่ศึกษาติดตามเรื่องนี้อยู่ชี้ว่า มีการลักลอบขนข้าวโจ๋งครึ่มทั้งด้วยรถบรรทุก 18 ล้อ เกวียน และปิ๊กอัพ จากกัมพูชาและพม่า รวมประมาณปีละ 750,000 ตันเข้าสู่ไทย ทั้งที่สต็อกภายในประเทศของไทยเองมีล้นโกดังถึงครึ่งหนึ่งของปริมาณที่ซื้อขายในตลาดโลกอยู่แล้ว โดยเหตุผลสำคัญของการแอบส่งข้าวข้ามพรมแดนกันอย่างมากมายเช่นนี้ ก็คือเพื่อสวมสิทธิ์ขายในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
       
       รายงานข่าวเชิงลึกของรอยเตอร์บอกว่า โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ จ่ายเงินให้ชาวนาสูงเกือบเป็น 2 เท่าตัวของราคาข้าวในกัมพูชาและพม่า จึงชักนำให้เกษตรกรชาติเพื่อนบ้านของไทยพยายามฉกฉวยประโยชน์ส่งข้าวข้ามพรมแดนมาสวมสิทธิ์ถึง 750,000 ตันต่อปีทีเดียว ส่วนใหญ่มาจากกัมพูชาและพม่า
       
       รอยเตอร์อ้าง นายเกียรติศักดิ์ กัลยาสิริวัฒน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท โนเวล อะกริเทรด ชี้ว่าเนื่องจากไม่สามารถแยกแยะได้ระหว่างข้าวไทยกับข้าวเขมร การลักลอบนำข้าวมาขายให้รัฐบาลไทยเพื่อทำกำไรจึงเป็นสิ่งที่ง่ายดายอย่างยิ่ง
       
       รายงานชิ้นนี้ชี้ว่า การลับลอบนำเข้าข้าวอย่างมโหฬารเช่นนี้ เพิ่มความปวดเศียรเวียนเกล้าให้แก่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งประกาศอุดหนุนราคาข้าวเปลือกเป็นตันละ 15,000 บาทนับแต่ที่เธอเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อ 2 ปีที่แล้วเพื่อหวังเอาใจชาวไร่ชาวนาที่เป็นฐานเสียงสนับสนุน ทว่ารัฐบาลของเธอผิดพลาดมากที่กล้าเดิมพันว่า ไทยจะสามารถต้อนตลาดข้าวโลกให้จนมุมด้วยการสต็อกข้าวเก็บเอาไว้
       
       แทนที่จะเป็นแบบนั้น รัฐบาลไทยที่ขาดดุลงบประมาณอยู่แล้วถึง 300,000 ล้านบาทในปีงบประมาณปัจจุบัน กำลังมีปัญหาในการหางบมาสนับสนุนโครงการรับจำนำข้าว และเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มูดี้ส์เตือนว่า นโยบายประชานิยมอาจนำมาซึ่งความเสี่ยงในเรื่องวินัยทางการคลัง
       
       เดือนที่แล้ว รัฐบาลแถลงว่า ขาดทุนจากโครงการรับจำนำข้าว 136,400 ล้านบาทในปีการผลิตที่สิ้นสุดเดือนกันยายน 2012 และปัจจุบัน สต็อกข้าวของไทยอยู่ที่ 18 ล้านตัน หรือเกือบเป็นสองเท่าตัวของยอดส่งออกปกติในแต่ละปี และเกือบเป็นครึ่งหนึ่งของปริมาณข้าวที่ซื้อขายในตลาดโลกต่อปีจำนวน 38 ล้านตัน
       
       การที่ไทยยังถือสต็อกเอาไว้ล้มหลามแบบนี้ ก็เพราะถ้านำออกขายจะต้องขาดทุนก้อนโต ในเมื่อข้าวเปลือกในราคาแทรกแซงที่ตันละ 15,000 บาท จะต้องขยับเป็นกว่า 23,000 บาทเมื่อสีเป็นข้าวสารแล้ว แต่ตามข้อมูลของผู้ค้าข้าว ราคาข้าวสารในตลาดเปิดของไทยขณะนี้อยู่ที่ราวตันละ 14,725 บาท ซึ่งก็ถือวาสูงมากไปแล้วเมื่อเทียบกับประมาณ 12,400 บาทในเวียดนาม
       
       ปัจจุบันจากที่เคยเป็นแชมป์ส่งออกข้าวในตลาดโลก ไทยกลับตกลงเป็นที่ 3 รองจากอินเดียและเวียดนาม มิหนำซ้ำคุณภาพข้าวในโกดังยังลดลง เนื่องจากข้าวลักลอบนำเข้าส่วนใหญ่เป็นปลายข้าวที่นำมาผสมรวมกับข้าวเต็มเมล็ดของไทย
       
       ด้วยเหตุนี้เอง เบน ซาเวจ กรรมการผู้จัดการแห่ง แจ๊กสัน ซัน แอนด์ โค บริษัทโบรกเกอร์ด้านข้าวที่ตั้งฐานอยู่ในกรุงลอนดอน และทำกิจการด้านนี้มาตั้งแต่ปี 1860 ชี้ว่า ปัจจุบันส่วนต่างด้านราคาระหว่างข้าวที่มีส่วนผสมของปลายข้าวอยู่ 5% กับข้าวที่เป็นปลายข้าว 100% ในไทยจึงแคบลงเพียงตันละ 930 บาท จาก 1,860 บาทเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว และ 2,635 บาทในปี 2011
       
       รายงานข่าวเชิงลึกของรอยเตอร์ชี้ว่า พรมแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาช่วงยาวเหยียดทีเดียวไม่มีปราการธรรมชาติ เช่น แม่น้ำ และภูเขาสูง การที่ชาวบ้านสามารถข้ามแดนระหว่างกันได้อย่างง่ายดาย ทำให้การลักลอบนำเข้าข้าวจากเขมรชุกชุมอย่างมาก
       
       นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ยอมรับว่า ตราบที่ราคาข้าวไทยยังสูงอยู่ ไทยคงไม่อาจหยุดยั้งการลักลอบส่งข้าวจากกัมพูชาเข้ามาทำกำไรได้ และสำทับว่า ก่อนหน้านี้เพิ่งยึดข้าวได้ 60 ตัน
       
       ส่วนนายนพดล เทพประสิทธิ์ นายด่านศุลกากรอรัญประเทศในจังหวัดสระแก้ว เสริมว่าเมื่อเร็วๆ นี้สามารถสกัดข้าว 30 ตันที่ลักลอบเข้ามาจากกัมพูชา และเชื่อว่า มีการลักลอบนำเข้าข้าวจำนวนมากกว่านี้ผ่านจุดผ่านแดนเล็กๆ ที่ไม่มีเครื่องมืออุปกรณ์ตรวจจับ
       
       เขาเสริมว่า ข้าวถูกขนเข้ามาด้วยเกวียนขนาดเล็ก ก่อนขนถ่ายขึ้นรถบรรทุกเพื่อนำไปขายต่อในจังหวัดต่างๆ ของไทย
       
       ทางด้านเจ้าหน้าที่ไทยที่ไม่ประสงค์เอ่ยนามขานรับว่า การลักลอบนำเข้าบางครั้งมีปริมาณมากกว่าที่ชาวบ้านร่ำลือกันหรือมากกว่าที่จะสามารถขนใส่เกวียนมาได้ โดยบางครั้งมีการขนข้าวขึ้นรถบรรทุก 18 ล้อข้ามด่านเข้าสู่ประเทศไทยทีเดียว
       
       รอยเตอร์ชี้ว่า อันที่จริงการลักลอบนำเข้าข้าวจำนวนเล็กๆ น้อยๆ มีมานานแล้ว แต่โครงการรับจำนำข้าวทำให้ปริมาณการลักลอบเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน พร้อมกับอ้าง ดาร์เรน คูเปอร์ นักเศรษฐศาสตร์จากสภาธัญพืชนานาชาติในลอนดอน ซึ่งประเมินว่า มีข้าวสารถูกลักลอบนำเข้าเมืองไทยถึงปีละ 750,000 ตัน หรือเท่ากับข้าวเปลือกราว 900,000 ตันต่อปี
       
       คูเปอร์ฟันธงว่า การลักลอบส่งข้าวเข้าไทยเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนนับแต่รัฐบาลทำโครงการรับจำนำข้าว ขณะที่กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ขานรับว่า ในช่วง 2 ปีแรกของโครงการรับจำนำข้าว ไทยนำเข้าข้าว 600,000 ตันต่อปี โดยเพิ่มจาก 200,000 ตันในฤดูปี 2010/2011
       
       ในส่วนของ คุง วุน นายกสมาคมโรงสีข้าวจังหวัดบันเตียเมียนเจยในกัมพูชา ระบุว่าเจ้าหน้าที่ศุลกากรและตำรวจจะอนุญาตให้นำข้าวข้ามแดนตราบเท่าที่มีใบอนุญาตส่งออกมาแสดง
       
       จากตัวเลขของทางการระบุว่า ปีที่ผ่านมา ข้าวที่กัมพูชาส่งออกโดยถูกกฎหมายไปยังประเทศต่างๆ มีจำนวนทั้งสิ้น 205,177 ตัน
       
       ตอน วิรัก ผู้อำนวยการของ กรีน เทรด กิจการส่งออกข้าวของรัฐบาลกัมพูชาประเมินว่า ปีที่ผ่านมามีการลักลอบส่งข้าวเปลือกมายังไทยถึง 300,000 ตันโดยประมาณ หรือเท่ากับในปี 2011 แต่สำหรับปีนี้คาดว่า ปริมาณจะลดลงเนื่องจากไทยมีมาตรการเข้มงวดขึ้นและปิดจุดผ่านแดนหลายแห่ง
       
       สำหรับพม่า การขาดแคลนโรงสีคุณภาพดี กลายเป็นการจำกัดความต้องการส่งออกโดยถูกกฎหมาย แต่ส่งเสริมการลักลอบส่งออก
       
       ออง จ่อ ทู ผู้จัดการธุรกิจการเกษตรของเอสจีเอส บริษัทตรวจสอบการจัดส่งสินค้าในนครย่างกุ้ง ประเมินว่า มีการลักลอบส่งข้าวเข้าไทยราว 120,000 ตันในปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นปลายข้าวคุณภาพต่ำ และเข้าใจว่า ข้าวเหล่านั้นถูกนำไปขายให้โครงการรับจำนำข้าว อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์บางคนระบุว่า ข้าวบางส่วนขายให้ผู้ผลิตบะหมี่และอาหารสัตว์ เนื่องจากโครงการรับจำนำข้าวทำให้ข้าวที่ควรจะนำไปแปรรูปเหล่านั้นขาดแคลนหรือมีราคาแพงขึ้น
       
       รายงานข่าวเชิงลึกของรอยเตอร์กล่าวในตอนท้ายว่า เดือนที่แล้ว รัฐบาลไทยประกาศลดราคาจำนำข้าวเหลือตันละ 12,000 บาท แต่เพียงหนึ่งวันก็กลับลำและรับซื้อข้าวในราคาเดิมหลังถูกเกษตรกรขู่ประท้วง และนายบุญทรง เตริยาภิรมณ์ ก็ถูกปลดจากตำแหน่งรัฐมนตรีพาณิชย์หลังถูกวิจารณ์อย่างหนักว่า ขาดความน่าเชื่อถือและขาดความโปร่งใสเกี่ยวกับต้นทุนโครงการรับจำนำข้าว
       
       ด้านเจ้ากระทรวงพาณิชย์คนปัจจุบัน นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล เผยว่า จะเปิดประมูลข้าวในสต็อกเดือนละ 1.5 ล้านตันจนถึงสิ้นปี รวมทั้งพยายามขายให้แก่รัฐบาลของประเทศอื่น
       
       อย่างไรก็ดี ไม่เป็นที่ชัดเจนว่า แผนการดังกล่าวจะลุล่วงได้อย่างไรหากไม่มีการเสนอลดราคาให้แก่ผู้ส่งออกหรือรัฐบาลประเทศอื่น แต่หากทำเช่นนั้นก็อาจเข้าข่ายเป็นการทุ่มตลาด โดยขณะนี้ สหรัฐฯและอีกหลายชาติเริ่มร้องเรียนกับองค์การการค้าโลก (WTO) ว่า นโยบายขายและสต็อกข้าวของรัฐบาลไทยนั้นขาดความโปร่งใส



#776056 ยิงพม่า...

โดย นารายณ์สังหาร on 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 16:59

ขอบคุณหลายๆท่านที่มาให้ข้อมูลนะครับ

ผมติดใจนิดเดียวครับว่า http://pantip-topics...0/P7658280.html ความเห็นที่ 32

มันพูดราวกับว่า ปชป มีส่วนรู้เห็นกับท่าน ส. ด้วย

พาลจะบอกไปอีกว่า ถ้าบานปลายจะกลายเป็นสงครามใหญ่ บลาๆๆ

แต่ผมไม่แม่นเรื่องนี้มากนัก เลยไม่รู้จะตอกกลับมัน (ควายแดง) ให้หน้าหงายยังไงดี

ถ้าใครมีข้อมูลเชิงลึกมากกว่านี้เรียนเชิญเลยนะครับ

ปล. รอความเห็นจากสายแข็งอย่างน้าเชอยู่เหมียนกัลล์นะครับ :D

 

คนในพันดริฟส่วนมากมันจะโลกสวย จะเอาแต่สันติ คลั่งแต่ AEC แต่พวกนั้นมันไม่รู้หรอกว่า รอบๆบ้านเรามีแต่คนจ้องจะทำลายเราทั้งนั้น  ..

 

พม่าไม่เคยมองเราในฐานะมิตรอยู่แล้วครับ  มันคิดเสมอว่ามันตีเมืองหลวงเราแตก 2 ครั้งในอดีต  และคิดฝังหัวแบบนั้นเสมอมา มันคิดว่ามันเหนือกว่าเรา เพราะเราไม่เคยตีเมืองหลวงมันแตกเลย ...มันคิดว่าเราเป็นรองมันเสมอ จนปี 45 นั่นแหละ โดนเข้าไปเบาะๆ ถึงกับขวัญกระเจิง... มันถึงได้ตกใจมากและปรับปรุงกองทัพขนานใหญ่ .... ในช่วงเวลานั้นจริงๆ ถ้ารบกันเต็มกำลัง บานปลายเป็นสงครามใหญ่... พม่าแหลกไปแล้ว แต่ไอ้ทักษิณเสือกห่วงผลประโยชน์ตัวเอง กับปอดแหก (ตามสันดานตำรวจ) พม่ายกทหารมาหลายหมื่นประชิดชายแดน.....  ทหารเราเตรียมจะอัดกับมันอยู่แล้ว เพราะรู้ๆกันว่าถ้าเปิดศึกเต็มรูปแบบ พม่าไม่รอดแน่ เพราะชนกลุ่มน้อยทั่วพม่า จะคอยเล่นงานการส่งกำลังบำรุงของพม่าแน่ๆ ...แถมย่างกุ้ง ยังอยู่ในระยะปฏิบัติการของ F-16 ลำพัง F-7 ของพม่า ที่มีความพร้อมต่ำ ไม่มีทางขวางได้อยู่แล้ว  ศูนย์บัญชาการพม่าคงแหลกในเวลาไม่ถึง 20 นาที......ไอ้แม้วเสือกปอดแหกสั่งให้ถอย  อ้างโน่น อ้างนี่สารพัด...ท้ายสุดก็ยอมพม่ามันเหมือนเดิม เพราะกลัวผลประโยชน์ตัวเองเจ๊ง.....พม่าก็ได้ใจขู่โน่น ขู่นี่ .... บังคับกู้เงินซะเลย... ปอดแหกสัสหมามาก....

 

.. เขมรเพิ่งจะมาซ่ากับเราก็ช่วงหลังจากที่ประเทศเราอ่อนแอ (มันทำแบบนี้มาตั้งแต่สมัยยุดยาแล้ว จำได้ไหม อ่อนแอทีไร  มันมาทุกที) .....ช่วงที่มีเหตุการณ์เผาสถานฑูต  เคยอ่านพวกเวปเสธ.แดงเขียนว่าทักษิณกล้า ยังโง้น ยังงี้ .....กล้าสิคร๊าบบบ ตอนนั้น ทำไมจะไม่กล้า ก็ทหารเราจ่อคอหอยเขมรแล้ว แถมถ้ารบกัน  เราก็อ้างประชาคมโลกได้ว่า  เขมรมันเริ่มก่อน ..... ได้เปรียบทุกประตู  มันไม่กล้าก็หมาแล้ว...

 

....ลาวเองเค้าก็ไม่เคยมองเราเป็นพี่น้องนะ มีโอกาสเมื่อไหร่เค้าก็กระทืบเราจมดินเหมือนกัน .......  

 

หลายๆคนในพันดริฟ ผมอ่านแล้วก็ขำ  ชอบฝันเฟื่องถึงสันติภาพในภูมิภาคและการอยู่อย่างเท่าเทียมกัน  ซึ่งในความเป็นจริงในทางปฏิบัติมันไม่มีหรอก  หลอกตัวเองกันอยู่ได้ ทุกประเทศตางแสวงหาผลประโยชน์ให้ได้มากที่สุดโดยไม่เลือกวิธีการทั้งนั้นแหละ 

 

...หน้าฉากทุกประเทศก็เล่นละครดีกันทั้งนั้นแแหละครับ...

 

หลังฉาก การปะทะย่อยๆ เกิดขึ้นแบบไม่เป็นข่าวแทบจะทุกเดือน ....ไม่ได้ว่าแต่เขานะ  บางทีเราก็ล่อมันก่อน....เพราะบางทีก็ต้องสั่งสอนกันเบาๆบ้าง ว่าอย่ามาแหยม.....




#775725 ยิงพม่า...

โดย นารายณ์สังหาร on 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 12:28

รบทำไม  ยิงทำไม  ผมไม่รู้หรอกครับ ตอนนั้นเป็นรุ่นผมหมวดตัวน้อยๆ เพิ่งจบใหม่ๆ เพื่อนๆที่เป็น ทบ. บางคนก็ได้งานแรกที่นั่นเลย เค้าสั่งให้ทำไรก็ทำไป ...เข้าก็เข้า....ยิงก็ยิง...

 

สาเหตุ ..... ไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้นี่ครับ รู้แค่เข้าไปทำงานอย่างไรให้สำเร็จและปลอดภัยก็พอ .....

 

จริงๆมันมีอะไรมากกว่าที่เรารู้ๆกันเยอะ และผลงานก็ไม่ได้เป็นของ ทบ. เหล่าเดียว มีเหล่าอื่นมาแจมด้วย เพียงแต่ไม่ได้ออกข่าวอะไรมาก...

 

พี่ๆเล่าให้ฟังว่า  ทักษิณโกรธมาก เพราะ ทบ.เคลื่อนกำลังขนาดใหญ่โดยที่ทักษิณไม่ระแคะระคายเลย (นึกว่าฝึก...เรื่องมาแดงตอน กองร้อยตีกรมนี่แหละ คืนเดียวล่อซะละลายไปหลายฐาน  ละลายในที่นี้หมายถึง ตายยกฐาน...)  ....

 

หลักๆไม่ใช่แค่ผลประโยชน์หรอกครับ แต่มันกลัวปฏิวัติ เพราะถ้าลองทหารเคลือนกำลัง ทั้ง ราบ ม้า ปืน โดยที่มันไม่รู้ตัวได้ ก็แสดงว่า มันจะโดนปฏิวัติเมื่อไหร่ก็ได้เหมือนกัน มันเลยโกรธพี่แอ้ดมาก......ไม่ได้เกี่ยวกับผลประโยชน์ของชาติอะไรหรอก.....พวกตำรวจลึกๆมันมีปม เพราะพวกมันขึ้นมาปกครองประเทศทีไร โดนทหารอัดเอาทุกทีและก็อยู่ใต้ท้อปบูททหารมาตลอด  มารุ่งก็ยุค เผ่า กับ ทักษิณ นี่แหละ แต่ก็เสร็จทหารอยู่ดี...

 

ในพันดริ๊ฟจะใส่พี่แอ้ดซะเละก็ไม่แปลกนี่ครับ แดงเถือกซะขนาดนั้น...




#775102 บุกเดี่ยว... ร.อ.ทรงกลด ถือพระแก้วมรกต บุกกห. พบ พล.อ.ยุทธศักดิ์

โดย นารายณ์สังหาร on 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 17:48

ผมได้ฟังทั้งหมด ครบถ้วนเต็มคลิป (ที่ทำงานเอามาเปิดฟัง)  .... ผมก็บอกตรงๆนะ ถ้าผมสั่งกำลังระดับกองพลได้  ผมคงเอาเขาไปแล้ว....

 

 

ผมอยากย้อนข้อความนึงไปให้พี่ตู่ เพราะพี่ตู่เคยพูดกับพี่ป้อกสมัยปราบม้อบเสื้อแดง  ผมว่าพี่น่าจะจำได้

 

 

..........."พี่จะรอให้พวกมันฆ่าเราก่อนหรือไง" 




#758510 เรื่องแปลกประเทศไทยในรอบ 2 ปี

โดย naiare on 22 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 14:36

เรื่องแปลกประเทศไทยในรอบ 2 ปี ยุคประชาธิปไตยเบ่งบาน

 

1/ เป็น สส อยู่ แต่ลาออกเพื่อมาสมัคร สส (ดอนเมือง) สุดท้ายสอบตก

2/ เป็น สส (เชียงใหม่)อยู่ดีๆ ขอลาออกมาเป็นคนขับรถ

3/ เป็นรัฐบาลที่ผลงานเยอะจนไม่สามารถแถลงผลงานได้

4/ มีนายกรัฐมนตรีรู้ข่าวสารบ้านเมืองหลังนักข่าว และประชาชน

5/ ละครต่อต้านคอรัปชั่น เรทติ้งดี  ถูกถอดด้วยข้อหาทำลายความมั่นคงชาติ

6/ โฆษณาต่อต้านคอรับชั่น ห้ามออกอากาศ

7/ ไฟดับพร้อมกัน 14 จังหวัดภาคใต้

8/ ใช้เงินไปเพื่อลดราคาไข่- ไข่แพง ,ใช้เงินไปอุ้มเพื่อเพิ่มราคายาง ยางตกต่ำ

9/แก้ปัญหาชาวนา โดยไล่ชาวนาไปเป็นชาวไร่ ให้ปลูกอ้อย ปลูกมันแทน

10/ ฝ่ายค้านตรวจสอบจับทุจริตข้าวได้ กลายเป็นฝ่ายผิดทำให้ราคาจำนำเหลือ 12000

11/ ส่งออกข้าวอันดับหนึ่ง แต่ต้องซื้อข้าวเขมรกิน

12/ ชุมนุมโดยสงบ โดนไล่ทุบตี รองนายกขู่ระวังโดนระเบิด

13/ เป็นม๊อบฝ่ายรัฐบาลชุมนุมไล่ทุบใครก็ได้ ไม่ผิด

14/ นสพ ใหญ่ ยุค ปชต คนชุมนุมสามร้อยลงข่าวใหญ่ คนมาชุมนุมหลักหมื่น มองแทบไม่เห็น

15/ หน้าที่หลัก รมว กลาโหม จับผู้นำฝ่ายค้านหนีทหาร

16/ รมต กลาโหมแก้ปัญหาไฟใต้ โดยบอกสื่ออย่าเสนอข่าว

17/ ยุบ รร ขนาดเล็กหมื่นกว่าแห่ง นักเรียนหกแสนคน แล้วไปซื้อรถตู้ 12 ที่นั่งหนึ่งพันคันบอกจะเอามารับ ส่ง (1 เที่ยวได้ 12000 คน คงส่งกัน 24 ชม.)

18/ โจรกระจอก ปล้นฆ่า ขอแค่เช๊ค 5 ล้าน ส่วนพระเครื่อง ทอง สร้อยแหวน ฯ มูลค่ายี่สิบกว่าล้าน เอาไปโยนทิ้ง

19/ ตำรวจคู่คดีกับคนตาย เป็นคนสอบสวนคดีคนตาย

20/ ตำรวจเคยต้องคดีอุ้มฆ่าจับโจรอุ้มฆ่าได้เป็นคนแรก

21/ กู้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติ 2.2 ล้านล้านเพื่อมาทำรถความเร็วสูง กลัวผักเน่า

22/ ใช้เงินสามหมื่นล้านไปอุดราคาน้ำมัน น้ำมันแพงสุด แก๊สขึ้นราคาพรวดๆ

23/ประกาศกระชากค่าครองชีพ ผลปรากฎสายขาด ลูกโป่งลอย แพงทั้งแผ่นดิน

24/ ดีเอสไอ สมองกลับด้านเหมือนเพิ่งเกิดมาแค่สองขวบ

25/ โรลสรอยซ์รองนายก นำเข้าทั้งคันราคารวมแค่ 9 ล้านเสียภาษีถูกต้องทุกอย่างถูกกว่าเบนซ์และถูกกว่าประเทศผู้ผลิต

26/ รมต อยากเป็นเทพฯ ลงทุนถอดเสื้อสวมโขนเล่นละคร มีแต่คนด่า

27/ แก้ปัญหาร้านโชวห่วย โดยให้เปลี่ยนชื่อเป็นโชวสวยแทน ขายดีแน่

28/ แก้จน โดยซื้อหวยเลขทะเบียนรถนายก ถูกแปดงวดแล้ว (อำมาตย์แดงประกาศที่โบนันซ่าก่อน 1 วัน รุ่งขึ้นออกตรงๆไม่มีโต๊ด)

29/ เป็นนายกยุคประชาธิปไตยเบ่งบาน แต่ไปพูดด่า ปชต บ้านตัวเองใน ตปท.

30/ คนด่าเจ้ากลายเป็นคนรักเจ้าขึ้นมาทันที ส่วนคนรักเจ้าโดนด่าว่าล้มเจ้าเพราะใส่หน้ากากขาว

31/ ยุบโรงเรียนเด็ก แล้วเปิดโรงเรียนผู้ใหญ่ นปช ไปทั่วประเทศแทน

32/ หมิ่นนายก จับได้ทันที หมิ่นเจ้า รอชาติหน้าค่อยจับ

33/ ประเทศไทย บริหารด้วยรีโมทคอนโทรลจากดูไบ ทันสมัยที่สุดในโลก

34/ กูเกิ้ล เจอคู่แข่งชื่อ กูเหลิม

35/ คนเขียนการ์ตูนโดยนายกฟ้อง ข้อหาหมิ่นในเฟซบุ๊คส่วนตัว

36/ เสาไฟฟ้าก็มีสิทธิ์สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ  เกือบชนะแน่ะ

37/ ไฟไหม้โรงสีบ่อยที่สุดในประวัติศาสตร์

38/ ระบบปฏิบัติการใหม่ ISO คิดค้นโดย รมต ICT ประเทศไทย

 

 

ฯลฯ 

 

ต่อเติมกันเอาเองละกันครับ   จะได้เป็นฉบับสมบูรณ์

 

 

 




#755854 นางยกย้ำ จำนำข้าวขาดทุนแค่หมื่นกว่าล้านเท่านั้น

โดย menergizer on 20 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 10:59

1002949_398183296965014_1916435623_n.jpg

 

*แก้ไขหัวข้อน่ะครับ สะกดผิด




#751048 ภาพถ่ายกับลูกสาวลานหน้าหอศิลป์วันนี้

โดย TFEX on 16 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 20:46

https://www.facebook...ics?ref=tn_tnmn

ตอนแรกภรรยาไม่ยอมให้ไปเพราะเห็นกรณีเชียงใหม่ เค้ากลัวมีปะทะกัน

ผมก็บอกว่าไม่มีอะไรหรอกตำรวจเยอะแยะ

โต้เถียงกันอยู่นานเห็น จน 4 โมง เค้าก็บอกว่างั้นขอไปด้วย เอาลูกไปด้วย

สปริงนิวบอกว่าจะเลิกประมาณ6โมง เลยพาลูกสาวกะภรรยาไปซะเลย

กว่าจะไปถึง 5โมงครึ่งกว่า ไม่มีใครอยู่แล้ว

ลูกผมอุตส่าห์เตรียมตัว ซ้อมคำว่า " ออกไปๆ " และพกหน้ากากเสือไปอันหนึ่ง

แม้ไม่ได้ร่วมชุมนุมกับเพื่อนๆ แต่ก็ได้ร่วมชุมนุมกับครอบครัวครับ

ถ่ายรูปหน้าหอศิลป์กับลูกสาวมาฝาก

Attached Images

  • CYMERA_20130616_203128.jpg



#745937 กรณี ดอนสวรรค์ ยังไม่จบ ...

โดย chaidan on 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 16:07

972147_10201222355018888_1437377697_n.jp

 

:lol:




#745525 คำต่อคำ อำมาตย์ บันทึกไว้ในแผ่นดิน จากนี้ไป ชาวไทยไม่อาจไม่อ่าน !!

โดย wat on 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 11:25

25574_388156590799_149052_n.jpg

 

คำต่อคำ  อำมาตย์  ชื่อ  “ดร.สุเมธ  ตันติเวชกุล”  เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา  บันทึกไว้ในแผ่นดิน…ตามเส้นทางเสด็จฯ ทุกคำ ทุกบรรทัด จากนี้ไป... พสกนิกรไทยชาวไทยไม่อาจไม่อ่าน !!

 

... ลองอ่านดู แล้วคิดอย่างไร...

 

... คนไทย ... “คนที่คิดจะล้มระบอบกษัตริย์” เคยทำอะไรเพื่อคนอื่นแบบนี้บ้างไหม?

 

“ดร.สุเมธ” เล่าเรื่องอาการพระประชวร

 

        “พระองค์ท่าน  พระชนมพรรษาตั้ง  80  พรรษากว่าแล้ว การที่ทรงพระประชวรก็เป็นเรื่องธรรมดา อีกทั้งพระวรกายของพระองค์ท่านก็ผ่าน การใช้งานมาอย่างหนัก ทรงเสด็จฯ เยี่ยมเยียนพสกนิกรอย่างมากมาย ผมได้มีโอกาสตามเสด็จมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2524  กว่าๆ เป็นต้นมา เห็นว่าพระองค์ท่านทรงงานเกินกว่าภาวะร่างกายมนุษย์จะพึงแบกรับได้  พระวรกายของพระองค์ท่านก็ต้องสึกหรอเป็นธรรมดา”

 

“อย่างไรก็ตาม ในขณะที่พระองค์ท่านทรงมีพระวรกายแข็งแรง ทรงมองปัญหา, วางแผนการแก้ปัญหาไว้เรียบร้อยแล้ว ทรงตั้งองค์กรที่จะรับงานไปดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เช่น มูลนิธิโครงการหลวง มูลนิธิชัยพัฒนา และโครงการพระราชดำริ และมูลนิธิราชประชานุเคราะห์” ทำให้มีองค์กรที่สามารถทำให้งานเดินหน้าต่อไปได้  แม้ว่าระยะหลังพระองค์ท่านจะไม่ได้เสด็จออก แต่งานทั้งหลายก็ไม่ได้หยุดนิ่ง แต่มีกระแสรับสั่งผ่านสมเด็จพระเทพฯ ที่ทรงเข้าเฝ้าฯ บ่อยมากๆ และทรงรับพระราชกระแสรับสั่งมา ทำให้ในแง่งานไม่ได้หยุดลงเลย

 

71110.jpg

 

“ทรงงานตลอดเวลา…แม้ประทับอยู่โรงพยาบาล”

 

แม้ว่าในขณะนี้ พระองค์จะประทับอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช สมเด็จพระเทพฯ ก็ยังทรงเข้าเฝ้าฯ และกราบทูลฯ ถวายรายงาน บางงานพระองค์ท่านก็มีรับสั่งเพิ่มเติม ในฐานะพระองค์ท่านทรงเป็นประธานกิตติมศักดิ์ สถาบันน้ำ ท่านก็รับสั่งให้ข้อมูลตลอดเวลา ในโลกที่เทคโนโลยีสารสนเทศก้าวหน้า การสั่งราชการสมัยใหม่ สั่งงานที่ไหนก็ได้ และรูปแบบการถวายรายงานก็มีหลายช่องทาง ไม่จำเป็นต้องเสด็จฯ ให้เหนื่อยยากเหมือนสมัยก่อน และงานทุกอย่างพระองค์ท่านทรงหลับตาก็เห็นหมด

 

มีอยู่ครั้งหนึ่งพระองค์ท่านทรงโทรศัพท์สายตรงมาถึง ตอนนั้นก็ประมาณตีสองตีสามก็เคย  แสดงให้เห็นว่าท่านทรงงานตลอดเวลา แต่ส่วนมากท่านจะทรงมีกระแสรับสั่งผ่านสมเด็จพระเทพฯ

 

ตัวอย่างคำแนะนำของในหลวง ตอนนั้นมีเรื่องการตั้งโครงการเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงของหน่วยงานอื่น พระองค์ท่านทรงเห็นว่าไม่ควรดำเนินการ แต่ได้ทรงอธิบายว่าทำไมพระองค์ไม่เห็นด้วย ผมก็แจ้งให้หน่วยงานนั้นยุติเสีย

 

nis01809.jpg

 

“ทรงงานอย่างละเอียด…รอบคอบทุกพิกัด”

 

ท่านมีพระกระแสรับสั่งงานได้เฉพาะเจาะจง บางครั้งงานที่เราถวายรายงานก็ทรงทราบ รายละเอียดมากกว่าเราที่อยู่ในพื้นที่ มีอยู่ครั้งหนึ่งพระองค์จะเสด็จฯ ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เราไปนอนรออยู่ก่อนที่เวียงจันทน์ แล้วถวายรายงานเรื่องพิกัด ท่านก็มีพระกระแสรับสั่งผ่านศูนย์อำนวยการรักษาความปลอดภัย กลับมาตอนสี่ทุ่ม ทรงมีรับสั่งว่า “พิกัดที่ส่งไป  ผิดพลาดไปประมาณ 500 เมตร” เราซึ่งอยู่ในพื้นที่ยังถวายรายงานได้ไม่ครบ แต่พระองค์ท่านประทับอยู่ที่วังยังทราบได้  ทั้งๆที่คณะทำงานขนระบบ GPS ไปกันเพียบ3

 

พอรุ่งขึ้น…เข้าไปวัดใหม่ก็ปรากฏว่า ผิดพลาดจริงๆ เมื่อพระองค์ท่านประทับลงจากรถ ก็ทรงรับสั่งว่า “เห็นมั้ย…บอก ผิด” นี่เป็นตัวอย่างว่าท่านทรงงานละเอียดมาก งานทุกแห่งท่านต้องทรงไปทอดพระเนตรด้วยพระองค์เอง

 

302957_1.jpg

 

“ทรงพะวงกับงานโดยไม่คำนึงถึงพระวรกาย”

 

การทรงงานทุกอย่าง ท่านคิดแต่เรื่องคนอื่นตลอดเวลา ทรงเกรงใจคนไม่ต้องการให้คนอื่นลำบาก บางคราวเสด็จออกโดยไม่แจ้งหมายกำหนดการล่วงหน้า ทรงทราบว่าจะมีคนมาคอยเฝ้าฯ จะลำบาก พวกเราก็ต้องคอยเก็งเอาว่าท่านจะเสด็จฯ ไหน  เมื่อเสด็จออกถึงได้รู้กันตอนนั้น บางครั้งก็เก็งถูก บางครั้งก็ผิด แต่เราก็ต้องเตรียมพร้อมเสมอ มีรถนำขบวนเตรียมไว้ทั้งซ้าย-ขวา ท่านเสด็จออกทางไหนก็พร้อม มีโอเปอเรชั่นวางไว้เลย

 

ครั้งที่แล้วที่เสด็จฯ ประทับโรงพยาบาลเพราะต้องผ่าตัด อีก 5 ชั่วโมงจะเสด็จฯ ถึงโรงพยาบาลศิริราช ทรงมีรับสั่งให้ทีมงานติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อติดตามสถานการณ์พายุที่จะเข้าฝั่ง พระองค์ท่านทรงพะวงกับงานโดยไม่คิดถึงพระวรกาย ไม่ใช่ว่าเมื่อทรงพระประชวรแล้วจะหยุดทรงงาน ขณะนี้ก็มีหนังสือราชการ มีการลงพระปรมาภิไธย มีพระบรมราชโองการตลอดเวลา

 

“ผมคิดว่าเป็นเพราะความเกรงใจคนอื่น การประทับที่โรงพยาบาลศิริราช ขณะนี้ทราบว่าพระอาการทั่วไปหายดีหมดแล้ว เหลือเฉพาะต้องประทับต่อเพื่อทำกายภาพบำบัด หากท่านเสด็จฯ ออกจากโรงพยาบาลก็เกรงใจทีมแพทย์ การประทับโรงพยาบาลต่อเพื่อจะทำให้ทีมแพทย์มีความสะดวก… นี่ผมเดาเอาเองนะ เพราะท่านทรงคิดถึงคนอื่นตลอดเวลา แม้จะเสด็จฯ ไปหัวหินก็ทรงรอให้ถึงวันเปิดเทอม เพราะจะได้มีคนน้อยๆ รถราไม่ติด ทุกเรื่องทรงคิดหมด”

 

ฝนตก แดดออก ทรงเสด็จออก ไม่เคยยกเลิกหมายกำหนดการ มีอยู่ปีหนึ่งน้ำท่วม ท่านเสด็จออกโดนแมลงกัดจนมีแผลที่พระบาท ท่านก็ยังมีรับสั่งงานต่างๆต่อ งานทุกอย่างท่านต้องทอดพระเนตร  ทุกงานพระองค์จะทรงห่วงตลอด

 

054313.jpg

 

“พระอารมณ์ขันและคำเตือน”

 

“งานผมก็เคยถวายรายงานแล้วไม่ถูกพระทัย เพราะเราพลาด เราก็รู้ว่าเราต้องทำใหม่ มนุษย์คนไหนไม่พลาดเลยตลอดชีวิต คนนั้นบ้าแล้ว  บางคนทำผิดเท่าไร ไม่เคยเห็นความผิดของตัวเอง คนแบบนี้พระพุทธเจ้าสอนว่า เป็นพวกบัวใต้น้ำ  พระองค์ท่านทรงดุเพื่อไม่ให้เราผิดพลาด อีก”

 

พระองค์ท่านเคยตรัสถามว่า จะอยู่ถึง 120 ปีด้วยกันมั้ย เราก็ตอบว่า ตอนนั้นข้าพระพุทธเจ้าก็คง 108 ปี… ทรงมีอารมณ์ขัน นอกจากนี้ทรงมีการเตือนพวกเราตลอดเวลา ว่าอย่าให้ตัวเองอ้วนเกินไป ให้มีวินัยในการประพฤติตัว ปีที่แล้วเราอายุ 69 ปี ก็ขอพร ท่านตรัสว่า “ให้กินน้อยๆ” “ทรงเตือนว่า  เป็นนักพัฒนาต้องแข็งแรง เพราะต้องออกเยี่ยมเยียนประชาชน อย่าตามใจปาก พออิ่มก็หยุดได้แล้ว”

 

“ความทุกข์…ของพ่อ”

 

“เรื่องความทุกข์ ท่านไม่ทุกข์ แต่ก็ธรรมดาถ้าลูกๆ ทะเลาะกัน พ่อ-แม่ก็ทุกข์…  ไม่ว่าจะเสื้อสีอะไร ก็ลูกท่านทั้งนั้น ตามวิสัยพ่อ-แม่ รู้สึก Hurt  ทั้งนั้น ถ้าลูกตีกัน ฉันใดก็ฉันนั้น พระองค์ท่านก็ทรงห่วง” จะเห็นว่าเมื่อมีวิกฤติเป็นระยะๆ ท่านก็ทรงเตือนให้รักษาบ้าน รักษาเมือง ประเทศชาติเกิดอะไรก็ไปกันหมด ประเทศไม่สงบก็เดือดร้อนกันหมด ทรงเตือนให้มีสติ เอาสติกลับมา ทะเลาะกันก็เดือดร้อนกันทั้งคู่

 

“พระประมุขแห่งแผ่นดินเห็นอย่างนี้  ก็คงกลุ้มพระทัย แต่เราก็ไม่เคยทูลถามแต่ก็สังเกตเห็น”

 

หลายฝ่ายจะให้ท่านทำอย่างนั้นทำอย่างนี้ ทำไม่ได้หรอก พูดอย่างนั้นเป็นการพูดกันตามอำเภอใจ แต่พระองค์ทรงมีทศพิธราชธรรมอยู่ข้อ หนึ่งคือ อวิโรธนะ คือทำผิดไม่ได้ ต้องดูความเหมาะสม ถูกกฎหมายหรือไม่ ผิดกฎหมายหรือไม่ รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่าอย่างไร ผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์บางทีก็ไม่รู้เรื่อง

 

ตอนหนึ่งมีนักข่าวต่างชาติมาสัมภาษณ์ ท่านเรื่องพฤษภาทมิฬ ท่านรับสั่งว่าตอนนั้นนายกรัฐมนตรีก็มี รัฐบาลก็อยู่ จะให้ท่านออกมาได้อย่างไร  ถ้าท่านออกมาก็จะถูกหาว่าเข้าข้างรัฐบาลได้ เมื่อทั้ง 2 ฝ่ายควบคุมกันไม่ได้ แล้วมีคนตาย ท่านก็ออกมา ท่านจะทรงทำอะไร ไม่ทำอะไร เป็นเรื่องที่ยากมาก ท่านมีกรอบ มีคนมาวิพากษ์วิจารณ์ท่าน พระองค์ท่านก็นิ่งเงียบ อดทน ไม่เหมือนเรา ใครด่าเราก็ด่าตอบ  แต่ท่านทรงทำอย่างนั้นได้ที่ไหน

 

995679.png

 

“ในหลวงเป็นนักบุญที่มีชีวิต”

 

เรื่องที่วิจารณ์เปรียบเทียบกันว่า สถาบันของไทยไม่เหมือนกับสถาบันพระมหากษัตริย์ประเทศอื่นก็ใช่ ของเขาก็ของเขา ไม่เหมือนของเรา เปรียบเทียบกันไม่ได้ ผมก็เคยพูดไปว่าไม่เหมือนกันระหว่างเมืองไทยกับประเทศอื่นก็มี คนหาว่าผมเล่านิทานโกหก

 

สถาบันของเราถวายคำว่ามหาราช ท่านก็ยังไม่รับ พระองค์ท่านเป็นนักบุญที่มีชีวิต ตลอด 63 ปี ท่านทรงงานตลอด ท่านทรงทำอะไรไม่ดีต่อแผ่นดินบ้าง พระองค์ท่านเหมือนพระ ท่านทำเพื่อทำ ท่านเคยตรัสว่า “ฉันใช้ระบบ สังฆทาน ทำไปโดยไม่เจาะจงว่าเพื่อใคร” หาอย่างนี้ไม่ได้แล้ว

 

เด็กรุ่นใหม่เขาอาจจะไม่เคยสัมผัส ทั้งๆที่สื่อก็ออกมามากมาย แต่ยุคสมัยมันเปลี่ยนไป เพราะไปศึกษาในโลกตะวันตกก็มีค่านิยมอีกแบบ ที่สุดก็ถูกครอบงำโดยตะวันตก จนลืมรากเหง้าตัวเอง  

 

เด็กรุ่นใหม่ก็คิดเรื่องเงินตัวเดียว ทำงานก็เพื่อเงิน ต้องรวย คุณธรรมช่างหัวมัน ทัศนคติเด็กที่คิดเรื่องคอรัปชั่น บอกว่าขอให้สะดวกสบาย มีการบริการ ไม่แยกแยะเรื่องดีเรื่องไม่ดี…

 

“เมื่อถูกอ้าง… จะให้ทำอย่างไร”

 

เรื่องที่ถูก “อ้าง” คนใกล้ไม่ได้อ้าง คนอ้างไม่ได้ใกล้นั้น “ดร.สุเมธ” ต้องถอนหายใจหลายครั้งกว่าจะเริ่มตอบอย่างมีคำถาม จะให้ทำอย่างไร…แต่เราก็ไม่เคย ถ้าพระองค์ไม่เรียกก็ไม่เข้าเฝ้าฯ เรียกหาก็เข้าเฝ้าฯ เรื่องอ้าง เรื่องข่าวลือ มันมีมาตั้งแต่สมัยไหนแล้ว สมัยรัชกาลที่ 5 ก็มีเรื่องหยุมหยิม เรื่องมูลฝอย ผมเคยอ่านหนังสือสมัยรัชกาลที่ 5 ทรงมีรับสั่งว่า “เลิกนินทากันซะทีเถอะ” ขอให้พอทีเถอะ  ข่าวโกหกคนโง่ก็เป็นเหยื่อ คนฉลาดฉุกคิดได้ก็รอดไป เป็นเรื่องมนุษย์ บ้านเมืองวุ่นวาย เหมือนเชื้อโรค ย่อมมีอยู่รอบตัวเรา สำคัญว่ามีคนเชื่อหรือเปล่า… ทำไมถึง เชื่อกันง่าย เมื่อสถาบันถูกกระทบกระเทียบจากฝ่ายต่างๆ  “ข้าแผ่นดิน” ที่ตามรอยเส้นทางเสด็จฯ ยังคงก้มหน้าก้มตาเดินตามทางแห่ง “พ่อ” ของแผ่นดิน ก็ต้องทำหน้าที่  ไปสอน ไปอบรม ไปพูด คนตีกันก็ห่วง พอห้ามตีกันก็โดนด่ากลับมา ผมไม่เข้าใจคนในสังคมนี้ เราบอกให้สงบ  เลิกทะเลาะกันก็ด่าเราอีก

 

F9554900-4.jpg

 

“ดร.สุเมธ - คนกลาง อำมาตย์ 100 เปอร์เซ็นต์”

 

“ผมเป็นอำมาตย์ 100% ในชีวิตไม่เคยทำอะไรนอกจากเป็นข้าราชการ อำมาตย์ก็คือข้าราชการ มียศ มีศักดิ์ ใช่… แล้วไง แล้วตอนบ้านเมืองจนมุม ก็มีแต่พวกอำมาตย์กู้ชาติ ถ้าผมตายก็ตาย ไม่รู้จะเตือนอย่างไร จำนวนคนอวิชชามันเยอะ ถ้าเขาฟังก็ฟัง เขาด่าเราก็ไม่ด่าตอบ ทำตามบทบาทหน้าที่ ทำได้เท่านี้ แล้วก็ทำไม่เคยหยุด เสาร์-อาทิตย์ก็ทำงาน”

 

ถ้าจะให้เตือนมีอย่างเดียวคือ ไม่ต้องห่วงใคร ถ้ามีสติห่วงตัวเองเท่านั้นแหละ ถ้ามีสติจะรู้ตัวว่าตัวเองยืนอยู่ตรงไหน หรืออยากจะเป็นคนอพยพ  อยากอยู่ที่โน่นที่นี่ก็เชิญ ผมอยากอยู่ที่นี่ อยากให้ลูกหลานอยู่ที่นี่ ใครจะสร้างรัฐใหม่ ไปอยู่รัฐใหม่ เราไม่ไป เราจะอยู่รัฐเก่านี่แหละ คนที่เรียกร้องคนกลางมาแก้ปัญหา เราก็สุดปัญญาจะอธิบาย คนกลางก็มีแล้วมีหมดทุกอย่าง มีเครื่องมือครบ แต่ก็ไม่อยากจะซ่อมกัน ปล่อยให้เครื่องมือเสีย

 

เพราะฉะนั้น สื่อเองแหละที่ต้องทบทวนตัวเอง หน้าที่พร้อมมูล คนกลางพูดไปเถอะ ไม่มีมรรคผลหรอก คนกลางออกมา คนฟังก็อาจจะมี คนไม่ฟังก็อาจจะมี ถ้าสื่อจับมือกันกระหน่ำคนที่ทำผิดพักเดียวก็อยู่ ตอนนี้สื่อไม่มีเอกภาพ แต่ถ้าลองพร้อมใจกันหยุดทำมาหากินสักพัก แล้วเห็นใครบ้าๆบอๆ ก็กระหน่ำให้อยู่… ขุดโคตรมาเลย รับรองทุกอย่างจะเข้าที่โดยเร็วที่สุด ดังนั้นสื่อนั่นแหละคนกลาง ผมคาดหวังในพลังของสื่อมาก ต้องนำมาใช้ในทาง positive ที่ผมพูดนี้พูดโดยบริสุทธิ์ใจ ผมเสนอว่าลองหยุดสัก 6 เดือน เป็นสื่อกู้ชาติ

 

428038.jpg

 

“พระเจ้าอยู่หัวท่านทำร้ายใคร… ไม่มี ท่านทรงอยู่เฉยๆ”

 

ประชาธิปไตยเขาสอนหรือว่าให้อยู่เฉยๆ เวลาเห็นคนโกง การมาตามประชาธิปไตย เพราะฉะนั้นให้เขากินกันอย่างนั้นหรือ แล้วมาบ่นกันทำไม… น่าเศร้า

 

 

“โดนโจมตีว่าเป็นอำมาตย์ แล้วจะให้ผมทำอย่างไร ผมก็เป็นผม ผมเป็นอำมาตย์ ผมจะเจียระไนให้ดูว่า อำมาตย์คนนี้ทำอะไรบ้าง เป็นคนทำงานพัฒนาชนบท เคยออกรบ โดดร่มกลางป่า ก็อำมาตย์ทำทั้งนั้น ตอนนี้เป็นอดีตอำมาตย์ที่เกษียณ แต่ยังกินเงินเดือนอำมาตย์อยู่ รับเงินเดือนทุกเดือน ใครมาด่าเราก็ปลง เราไปช่วยเขาแท้ๆ”

 

ในช่วงสองสามปีมานี้อำมาตย์โดนวิพากษ์วิจารณ์มากเป็นพิเศษ  แต่ “ดร.สุเมธ” บอกว่า “ผมอยู่ตรงกลางจริงๆ แดงก็ด่าเหลืองก็ด่า ทั้งๆที่อยู่ตรงกลางที่สุดแล้ว ผมก็ทำงานไป  จะเอาอะไรไปตอบโต้ ใครเดือดร้อนก็ไปช่วย อย่าพะวงว่าจะโดนด่า พระพุทธเจ้ายังถูกนินทา โดนทำร้ายด้วย แล้วเราจะเหลืออะไร

 

“คนที่พูดคำว่าจงรักภักดี คำที่ดีที่สุดคือสติ เหนือสิ่งอื่นใด ทุกวันนี้สติหดหายขาด ถ้ามีสติ มีศีล มีปัญญา ฉลาดรอบคอบ ก็ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน เพราะฉะนั้นคนในสังคมต้องมีสติ อย่าขาดสติ จะให้เราเข้าใจที่สุด”

 

คำต่อคำของอำมาตย์ ๑๐๐% หัวข้อสำคัญของวันนี้ อ่านทบทวนกันให้ดี ผมจะไม่หยิบตรงไหนมาสรุป เพราะถึงเวลาที่ทุกคนต้อง “สรุป-ด้วยใจ” ตัวเองกันแล้ว...

 

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

 

http://www.chaopraya...มาตย์-บันทึกไว/




#726898 หมดทางสู้ หันไปโหนเจ้า พิงวัง ช่างน่าสมเพชยิ่งนัก!!!!

โดย จูกัดขงเบ้ง on 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 11:37

ปรากฎการณ์ หน้ากากแห่งความคับแค้นใจ ที่พร้อมใจแสดงตัวให้เผด็จการทรราชย์ได้รู้ตัว กันอย่างมากมาย

ว่าพวกข้า ไม่ยอมให้พวกเอ็ง ใช้อำนาจกดขี่ข่มเหง ประชาชนตามใจชอบอีกต่อไป

พวกข้าจึงแสดงตัวให้พวกเอ็งได้รับรู้กันเอาไว้

 

ข้าไม่คิดว่า พวกทรราชย์เผด็จการทุนนิยมสามานย์ อย่างพวกเอ็งจะใช้วิธีอันต่ำช้า ยิ่งกว่าเดรัจฉานเยี่ยงนี้

ตลอดเวลาที่ผ่านมา นปช.USA เปิดเวป ด่าสถาบัน ด่าในหลวงอย่างหยาบคายหยาบช้า

ไม่มีสุนัขสักตัว ในพวกเอ็ง ออกมาด่า หรือ ประนามใดๆ

วันนี้ เหล่าประชาชนผู้ทุกข์ยาก ทนไม่ไหว ต่างแสดงตัวด้วยการสวมหน้ากากออกมา

พวกเอ็งที่ต่ำช้า กลับ อ้างโดยบิดเบือนว่า หน้ากาก นี้เป็นหน้ากากของพวก "ล้มเจ้า"

ข้าได้ยินแล้วได้แต่ อดสูใจ

พวกเอ็งเอาประวัติศาสตร์มาบิดเบือน ว่าเป็นหน้ากากของพวก "ล้มเจ้า"

ก็ในเมื่อพวกเอ็งมิใช่หรือ ที่ต้องการเช่นนั้น

วันนี้ เสียหน้า หน้าแหก ไม่มีทางออก ก็เอาเจ้ามาโหนเล่น

 

พึงสำเหนียกไว้ด้วยว่า พวกข้าออกมาใส่หน้ากากนี้ เพราะพวกเอ็งมันต่ำช้า

ปกครองด้วยระบอบเผด็จการ กดขี่ข่มเหงน้ำใจคนที่ไม่เห็นด้วยกับพวกเอ็ง

 

เอ็งกู้เงิน เป็นแสนล้าน เป็นล้านล้าน เอ็งกล้ากู้ตามใจชอบ ไม่สนใจเสียงทักท้วงของพวกข้าที่จ่ายภาษีให้พวกเอ็ง

เอ็งด่าประชาชนที่จะมาประท้วง แสดงความไม่เห็นด้วยกับเอ็งว่า "ขยะ"

เอ็งจะยกโทษให้คนเผาบ้านเผาเมืองที่ให้ประชาชนเดือดร้อนกันไปทั่ว เพื่อที่จะให้นักการเมืองโกงชาติพ้นผิด

เอ็งจะแก้กฎหมาย ปิดปาก ไม่ให้ประชาชนที่เดือดร้อน มีสิทธิยื่นเรื่องโดยตรงกับศาลรัฐธรรมนูญ

เอ็งจะแก้กฎหมาย เพื่อที่เอ็งจะได้ไปตกลงกับต่างชาติอย่างลับๆได้ โดยไม่ต้องผ่านสภา

เอ็งไม่ใช่หรือ ที่จะฟ้อง ชัย ราชวัตร เพียงเพราะแค่เขียนคำว่า กะหรี่ กับ หญิงชั่ว

 

นี่หรือคือประชาธิปไตย ที่เอ็งบอก

เอ็งไปประจานตัวเองที่มองโกเลียว่า มันไม่ใช่ประชาธิปไตย

มันจะเป็นประชาธิปไตยได้ยังไง ในเมื่อ เอ็งไม่เคยสนใจฟังเสียงข้างน้อยที่คัดค้าน

เอ็งอ้างว่าเสียงส่วนใหญ่ เอ็งก็สามารถข่มขืนใจของใครก็ได้ พอเขาไม่ยอม เอ็งก็ใส่ความเขาว่าขัดขวางประชาธิปไตย

ก็ตัวเอ็งนั่นแหละ ที่ทำตัวเป็น "เผด็จการโสโครก" เที่ยวป้ายขี้ให้อำมาตย์ ให้สถาบัน รับบาปที่พวกเอ็งก่อ

ใครที่คัดค้านพวกเอ็ง เอ็งก็ไปหาว่า เป็นพวกอำมาตย์

วันนี้เขาใส่หน้ากากนี้มาเพื่อต่อต้านเอ็ง  เอ็งกลับไปใส่ร้ายเขาอีกว่า เขาเป็นพวก"ล้มเจ้า"

 

เอ็งมันต่ำช้าจริงๆ

บรรพบุรุษสมัยปกครองด้วยกษัตริย์ ต่างก็ตั้งใจทำนุบำรุงบ้านเมือง

แม้จะปกครองด้วยระบอบกษัตริย์ แต่ทุกคนต่างมีอิสระและเสรีภาพ มากกว่าวันนี้เวลานี้อีก

ข้าก็ไมเคยเห็นกษัตริย์องค์ไหน กู้เงินโดยที่ไม่มีแผนอะไรในมือแบบที่พวกเอ็งทำกันเวลานี้เลย

 

เอ็งจงเตรียมใจไว้เถอะไอ้พวกโหนเจ้าเพื่อผูกขาดอำนาจเผด็จการทั้งหลาย

หน้ากากวีนี้ จะกวาดล้างเผด็จการทุนนิยมสามานย์ให้หมดไป ในวันหนึ่งข้างหน้า

Attached Images

  • V for.jpg



#726946 หมดทางสู้ หันไปโหนเจ้า พิงวัง ช่างน่าสมเพชยิ่งนัก!!!!

โดย MIRO on 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 11:59

หากเขาไม่แกล้งโง่ ก็อาจจะโง่กันจริงๆ

คนใส่หน้ากาก V ไม่ได้หมายความว่าเขาจะกลายร่างเป็น guy

คนใส่หน้ากากแม้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะกลายเป็นคนหนีคุก

 

สัญลักษณ์ของหน้ากากคือการต่อต้านความไม่เป็นธรรม

และนั่นคือสิ่งที่คนทั่วโลกหยิบนำมาใช้ในการต่อสู่กับระบบทุนสามานย์หรือรัฐบาลเผด็จการ

ที่เห็นยังมีหน้าซื่อตาใสมันยังคิดว่าใส่แล้วจะต้องล้มเจ้า

 

คืออยากจะบอกว่า

เดี๋ยวนี้พวกล้มเจ้าเขาไม่ต้องใส่หน้ากากกันแล้ว

 

ใส่แค่เสื้อแดง..




#715304 ยุค มืด ของ ตำรวจไทย มาไวกว่าที่คิด .. By วินเซนต์

โดย เรื่อยๆเอื่อยๆ on 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 15:25

ผมผิดหวังกับ ผบตร คนนี้มาก ตอนอยู่ใต้เหมือนจะเป็นตำรวจน้ำดีเป็นที่พึ่งประชาชนได้ แต่พออยู่ในอำนาจก็เลือกจะลืมประชาชน ทำเพื่อฝ่ายการเมืองอย่างเดียว