chackrapbong

พี่มะนาว ไดอาน่า พี่มะนาวทำผมโดนภรรยาแซวแล้วครับ เธอบอกว่าฟังเพลงหรือดู เพลง  

คุณแสงธูปเจอคล้ายผมครับ  (ขออนุญาต)เล่าเรื่องส่วนตัวนิด....

สมัยก่อน ผมฟังเพลง ค่อนข้างหนักกว่าทุกวันนี้

ส่วนสาวสวยข้างข้าง ก็ฟังแต่เพลงไทยเป็นส่วนใหญ่

ก่อนแต่งงาน เวลาขับรถไปเที่ยวด้วยกัน เธอมักจะบ่นว่า ปวดหัว

: ไม่รู้เป็นไร  ปวดหัวขึ้นมา ตึบ ตึบ

: หลับตาพัก  ถึงแล้วเรียก

:  ไหม้!!!!

: พาราซักเม็ด แล้วเอนตัวสบายสบาย

:  ไหม้!!!!

: เอางัย ดี….

: เปลี่ยนเพลง!!!!

จัดให้……………..เพลงไทย

บางคน ให้คำนิยาม ประชาธิปไตย หมายถึง การเลือกตั้ง

บางคน ให้คำนิยาม ประชาธิปไตย หมายถึง เสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง

บางคน ให้คำนิยาม ประชาธิปไตย หมายถึง การปกครอง ของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน

ฯลฯ

ต่างคน ต่างก็ นิยามไปตามภูมิหลัง สติปัญญา ความเข้าใจที่ตัวเองรับรู้มา

ก็เหมือนคำ liberal ที่ต่างคนต่างเข้าใจ ตามที่ตัวเองต้องการ ให้สอดคล้องกับสิ่งที่ตัวเองคิดไว้ในใจ

ส่วนใหน ที่ต่างไปหรือไม่ตรงกับสิ่งที่ตัวเองตั้งธงไว้ ก็บอกว่า ไม่ใช่ หากตรงกับที่ตัวเองตั้งธงไว้ในใจ ก็บอกว่า ใช่

ก่อนไปไกลกันกว่านี้ ก็ต้องคุยกันเสียก่อน ว่า Liberal ในความหมายที่แท้จริง คือ อะไร เข้าใจกันอย่างไร

หากเข้าใจผิดแต่ตัน ก็อย่าหวังว่า จะมีพฤติกรรมที่ถูกและสอดคล้องกับความหมาย liberal ได้

แต่ที่เห็น พวกที่อ้างตัวเป็น liberal ยังไม่ชัดเจนกับคำนี้ แม้กระทั่ง ชัดเจนกับตัวเองว่า จะเอาอย่างไงดีกับชีวิต

ก็เหมือน พวก วิปริต ทางเพศ ที่ยังสับสนว่า ตัวเองเป็นเพศใหนกันแน่ นี้ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น เอาแค่ ว่า จะเข้าห้องน้ำ

ก็เดิน งง ว่า จะเลี้ยวซ้ายเข้า ห้องน้ำชาย หรือ เลี้ยวขวา เข้าห้องน้ำหญิง

ไม่ต้องไปไกลถึงเรื่องอื่น แค่ห้องน้ำที่จะเข้า ก็มีปัญหาแล้ว

ไม่ใช่ความผิดของห้องน้ำหรอก แต่เป็นความสับสนของคนมากกว่า

จะ liberal อะไร อย่างไร ก็ทำไป แต่อย่าลืมว่า คนอื่น เค้าก็ liberal ได้เหมือนกัน หาก liberal เมื่อไหร่แล้ว

ไปทำลาย liberal คนอื่น ทำลายความสงบ มาตรฐานทางศีลธรรมของสังคม อย่างนี้เท่ากับ ประกาศตัวอ้างสิทธิ

เหนือกว่า ที่แต่ละคนจะมีได้ อย่างนี้ เค้า เรียกว่า วอนเสียแล้ว หรือ liberal wanna be…..

การอยู่ร่วมกันของคนในสังคมจำต้องมีระเบียยวินัย เพื่อให้การอยู่ร่วมกันมีความสงบเรียบร้อย และเป็นไปได้

“ระเบียยวินัยไม่ใช่เผด็จการแต่เป็นมาตรฐานของความดี “

ฟังเพลงกัน คุยกัน ในห้องนี้ ด้วยความสบายใจ แม้นี้จะเป็นเงาของโลกจริง แต่เสียงเพลงและความเห็นก็สะท้อนโลกแห่งความจริงได้ อาจต่างกันไปบ้างในรายละเอียด เพราะประสบการณ์ชีวิตแต่ละคน มีที่มาที่ไปต่างกัน แต่ที่เห็นได้ชัดว่ามีสิ่งหนึ่งที่ไม่ต่างกันคือ พี่ เพื่อน น้อง ทุกคน ล้วนมีความหวังดีต่อ ชาติ บ้านเมือง และสังคม ที่เราเป็นหนี้บุญคุณ ในแผ่นดินเกิด จึงทำให้พวกเราได้มาเจอกันในที่สุด ทุกอย่างในโลกนี้ ล้วนมีเหตุ ปัจจัย เป็นเหตุและผล ไมใช่ความบังเอิญ หรือเกิดขึ้นมาลอยลอยแน่

[๓๖๖] ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย

พวกเธอเห็นสารีบุตรกำลังจงกรมอยู่ด้วยกันกับภิกษุหลายรูปหรือไม่.

ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า เห็น พระเจ้าข้า.

พ.  ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุทั้งหมดนี้ ล้วนมีปัญญามาก

พวกเธอเห็นมหาโมคคัลลานะกำลังจงกรมอยู่ด้วยกันกับภิกษุหลายรูปหรือไม่.

ภิ.  เห็น พระเจ้าข้า.

พ.  ภิกษุทั้งหมดนี้ ล้วนมีฤทธิ์มาก

พวกเธอเห็นมหากัสสปกำลังจงกรมอยู่ด้วยกัน กับภิกษุหลายรูปหรือไม่.

ภิ.  เห็น พระเจ้าข้า.

พ.  ภิกษุทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นธุตวาท

พวกเธอเห็นอนุรุทธกำลังจงกรมอยู่ด้วยกันกับภิกษุหลายรูปหรือไม่.

ภิ.  เห็น พระเจ้าข้า.

พ.  ภิกษุทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นผู้มีทิพยจักษุ

พวกเธอเห็นปุณณมันตานีบุตรกำลังจงกรมอยู่ด้วยกันกับภิกษุหลายรูปหรือไม่.

ภิ.  เห็น พระเจ้าข้า.

พ.  ภิกษุทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นธรรมกถึก

พวกเธอเห็นอุบาลีกำลังจงกรมอยู่ด้วยกันกับภิกษุหลายรูปหรือไม่.

ภิ.  เห็น พระเจ้าข้า.

พ.  ภิกษุทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นผู้ทรงวินัย

พวกเธอเห็นอานนท์กำลังจงกรมอยู่ด้วยกันกับภิกษุหลายรูปหรือไม่.

ภิ.  เห็น พระเจ้าข้า.

พ.  ภิกษุทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นพหูสูต

พวกเธอเห็นเทวทัตกำลังจงกรมอยู่ด้วยกันกับภิกษุหลายรูปหรือไม่.

ภิ.  เห็น พระเจ้าข้า.

พ.  ภิกษุทั้งหมดนี้ ล้วนมีความปรารถนาลามก.

แม้ในปัจจุบันกาลสัตว์ทั้งหลายก็ย่อมคบค้ากัน  ย่อมสมาคมกันโดยธาตุเทียว

คือ สัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยเลว ย่อมคบค้ากันย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยเลว

สัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยดี  ย่อมคบค้ากันย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยดี.   

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค เล่ม ๒ - หน้าที่ 440 หีนาธิมุตติสูตร

 

CNN​ รัฐบาลนี้ยังคงมีอำนาจอยู่หรือไม่?

 

รก นรม: แน่นอนครับ ทั้งทางกฎหมายและแนวทางการทำงาน ผมได้รับแต่งตั้งให้เป็นรักษาการณ์นายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งคณะรัฐมนตรีอีก 25 คน และเรายังมีอำนาจดูแลศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ทหารและตำรวจ

....................................................................................................

เห็นข่าวนี้ตั้งแต่เมื่อวาน แปลกใจที่ไม่ค่อยเห็นในฉบับอื่น เลยขอนำมาลงเก็บไว้ในนี้ครับ 

หากฟังตามนี้แสดงว่า เพื่อไทยไม่ได้มีความคิดปฎิรูปอยู่ในหัวเลย นั้นหมายความว่า หากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น เราย่อมไม่อาจไว้ใจนักการ

เมืองทั้งหลายได้ว่า จะทำการปฎิรูปจริง ส่วนคำถามที่ว่า ตระกูลชินฯ โดยปกติต่างชาติมักจะกล้าถามคำถามตรงๆแบบนี้อยู่แล้วหากไม่มี ธง

คำถาม อยู่ก่อนและแสดงให้เห็นว่า ต่างชาติรับรู้ข้อมูลที่แท้จริงแล้วว่า ปัญหาในไทยเกิดจาก อะไร 

ปล. แปลกใจที่ไม่เห็นสื่ออื่นนำมาลง

 

นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีหากนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี

ยังคงยืนกรานเป็นนายกฯ ต่อไป โดยอ้างว่าตนเองมีสิทธิ อำนาจเต็มในฐานะของนายกรัฐมนตรีที่จะดำเนินการต่างๆ ได้ว่า

วันนี้ขอโต้แย้ง ข้อที่ว่า จะไปสรรหานายกฯไม่ได้ เพราะไม่มีสุญญากาศ โดยอยากเน้นยํ้าว่า การที่มีคนรักษาการตาม ม.181 คือ นายนิวัฒน์ธำรง พ้นจากตำแหน่งไปแล้ว

เนื่องจากนายกฯพ้นจากตำแหน่ง และนายนิวัฒน์ธำรง มีหน้าที่ในการอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมี ครม.ชุดใหม่ ตาม ม.181 และตามที่ศาลรัฐธรรมนูญยืนยัน

ในคำวินิจฉัย จนทำให้มีคนอ้างว่า หานายกฯใหม่ไม่ได้ ซึ่งตนมองว่า เป็นการอ่าน ม.181 ที่ผิด

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า "ม.181 บอกแต่ว่าคุณพ้นแล้ว ให้คุณอยู่ทำหน้าที่จนมีคนใหม่เข้ามา เขาไม่ได้เขียนว่า คุณพ้นแล้ว คุณอยู่ตรงนี้ห้ามมีคนใหม่เข้ามา เขาบอกว่า

ให้คุณอยู่ได้จนมีคนใหม่เข้ามา

จะได้ชัดเจนตรงนี้ ไม่ใช่เป็นเรื่องว่า ถ้ามีคนรักษาการอยู่แล้วจึงไม่ต้องสรรหาใหม่ ม.181 ไปยกเว้น ม.180 ที่บอกว่า เมื่อนายกฯ สิ้นสุดไปแล้วต้องไปสรรหาใหม่" 

ปัญหาวันนี้ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงว่า การสรรหาใหม่นี้ไม่อาจทำได้ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ เพราะไม่มีสภาผู้แทนฯ แต่ไม่ได้หมายความว่า ม. 181 ระบุว่า

ให้คนที่รักษาการอยู่ก็อยู่ได้ตลอดไปชั่วฟ้าดินสลาย

สมัยทำงานชินคอร์ปแกชื่อ"นิวัติ บุญทรง"

ต่อมาไปเปลี่ยนชื่อที่ร้านไหนไม่รู้กลายเป็น "นิวัติธำรง บุญทรงไพศาล"

ดวงพุ่งสู่ตำแหน่งรองนายกฯและรษก.นายกฯตามลำดับ

แต่ตอนนี้ คนจำชื่อไม่ได้ ระหว่าง

"นิวัตทำงง รำวงไปศาล" หรือ

"นิวัตรำวง ทำงงไปศาล" หรือ

"นิวัดร่างทรง เดินงงไปศาล"

เท่าที่ฟังมาเขาจะเข้าไปจัดการเรื่องกฎหมายคอร์รัปชั่น กระจายอำนาจ จากนั้นใครจะกลับมาหลังเลือกตั้งช่างแม่มัน 

ยังไม่ทราบรายละเอียดเลยว่า ทำอย่างไร มีอะไรเป็นสาระสำคัญ

หรือว่า ให้มีนายก คนกลางก่อนแล้วค่อยมาว่ากันในรายละเอียด

ไม่ทราบจริงจริง

"ที่ใดมีอำนาจ ที่นั่นย่อมมีการฉ้อฉล ที่ใดมีอำนาจเหลือล้น ที่นั่นย่อมมีการฉ้อฉลสุดประมาณ"

 Lord Acton

..ที่ใดมีอำนาจเหลือล้น ที่นั่นย่อมมีการฉ้อฉลสุดประมาณ มีความหมายชัดเจน พอเห็นภาพกันได้ หากจะถามว่า..

แล้วทำไม? เพราะเหตุใด? อำนาจมันจึงเหลือล้น ขึ้นมาได้! อันนี้นี่ซิน่าคิด

การเมือง ยังคงเป็นเรื่องของนักการเมืองแต่โดยลำพังมาโดยตลอด ประชาชนในฐานะผู้เลือก ทำหน้าที่ทางการเมืองด้วยการหย่อนบัตร เสร็จก็จบกันไป

นี้ จึงเป็นสาเหตุหลัก ที่เราต่างได้ร่วมกันทำให้การเมืองมันอัปลักษณ์ โดยไม่รู้ตัว กระทั่งการเมืองจะเป็นเช่นไรก็ต้อง "เดินหน้าไปเลือกตั้ง" ไม่งั้นประเทศชาติจะเสียหาย

..ที่ใดมีอำนาจเหลือล้น ที่นั่นย่อมมีการฉ้อฉลสุดประมาณ สิ่งสำคัญสุด จึงอยู่ที่ การทำการเมืองให้เป็นเรื่องของประชาชน มิใช่แต่เฉพาะในตอนเลือกตั้งเท่านั้น(ที่คนไทย

ส่วนมากก็ยืนต่ำกว่าด้วยการขายสิทธิขายเสียงตน)

หลายปีก่อน แม้กระทั่งพลตรี จำลองยังไปนั่งแถวหน้าศาลคดีซุกหุ้นทักษิณอยู่ วันนั้น ทักษิณคือ นายก ในดวงใจ

แล้วทำไม วันนี้ ทักษิณ กลายมาเป็น อดีตนายก ทรราชย์ได้

ผมจึงมีคำถามได้เช่นเดียวกับ เจ้าของกระทู้ ว่า อะไรควรจะเป็นหลักประกันที่เชื่อใจได้มากกว่านี้

โดยส่วนตัวแล้ว ผมยังเชื่อหลักประชาธิปไตยพื้นฐาน ในการถ่วงดุลย์ ทั้งสามอำนาจ คือ นิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ เพราะประชาธิปไตยไม่ใช่ระบบที่ดีที่สุด

แต่ทำได้ดีที่สุดคือ หลักประกันความเลวที่ไม่มากไปกว่า ระบบเผด็จการ

แม้กระทั่งนายกคนกลางที่เรียกร้องกันอยู่ วันนี้ ก็ยังไม่รู้ว่า จะจบกันแบบใหน

แต่ไม่ว่า จะจบแบบใหนก็ตาม เรา คงต้องมีคำถามเหมือนเจ้าของกระทู้ อยูเหมือนเดิมว่า

แล้วจะแก้ปัญหาระบบทรราชย์ได้จริงหรือ แล้วจะทำอย่างไร

แต่ไม่ว่า อย่างไร เราคงไม่สามารถคาดหวังอะไรได้มากไปกว่านี้ เพราะในที่สุดแล้ว

“ประชาชนเป็นเช่นใด ผู้ปกครองย่อมเป็นเช่นนั้น”

ขอบคุณ mod ครับ

ที่รีบจัดการกระทู้ไร้สาระ "สรุปว่าบ้า" ได้รวดเร็วทันใจ

ไม่อย่างนั้น จะพากันเสื่อมไป ทั้งเราและเขา

จัดการได้ไวมาก ขอชมเชยครับ

วันนี้คุณแสงธูป หยุดงานหรือเปล่า เห็นแต่เช้าเลย ถ้าใช่ก็เหมือนผม

ผมแวะไปกินกาแฟที่สภาแต่เช้า อ่านหลายหลายความเห็นแล้วรู้สึกอึดอัด

หากอยู่นานกว่านี้ผมอาจเป็นกบฏได้เพราะชักจะเริ่มเห็นด้วยแล้วว่า หากอยู่ด้วยกันไม่ได้

ก็แยกกันอยู่ไปเสียให้หมดเรื่องหมดราว สิ้นเวรสิ้นกรรมกันไปก็ดีเหมือนกัน เลยแวะมาพักใจสักหน่อย

พร้อมกับเอาข่าวนี้มาฝากกัน

หนังสือพิมพ์ Sunday Herald ประกาศจุดยืน สนับสนุนการแยกประเทศสกอตแลนด์

เมื่อปี ค.ศ. 1603 พระเจ้าเจมส์ที่ 6 แห่ง สกอตแลนด์ ได้ขึ้นครองบัลลังก์กษัตริย์แห่งประเทศอังกฤษ( พระเจ้าเจมส์ที่ 1 แห่งอังกฤษ)

จึงมีผลให้ทั้งสองประเทศมีกษัตริย์องค์เดียวกัน( Union of the Crowns)

วันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ. 1707 อังกฤษและสกอตแลนด์ได้รวมตัวกันด้วยเหตุผลทางเศรษฐกิจ

คริสต์ศตวรรษที่ 17 สกอตแลนด์มีความก้าวหน้ามากในเรื่องการศึกษาวิชาการ  (Scottish Enlightenment) นักคิดคนสำคัญ

ในช่วงนี้ได้แก่ เดวิด ฮูม นักปรัชญา และอดัม สมิธ บิดาแห่งเศรษฐศาสตร์

สกอตแลนด์มีการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมอย่างรวดเร็ว การคิดค้นทฤษฎีแม่เหล็กไฟฟ้าของแมกซ์เวล

เครื่องจักรไอน้ำของเจมส์ วัตต์ (เกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรม) ชาวสกอตมีชื่อเสียงด้านการเงินและการธนาคาร เช่น

ตู้เอทีเอ็ม ธนาคารขนาดใหญ่ เช่น HSBC – RBS- Bank of England

วันที่ 18 กันยายน ค.ศ. 2014 ลงประชามติว่าจะแยกตัวออกจากสหราชอาณาจักรหรือไม่

เมืองนี้อยู่ใน สกอตแลนด์ 

ขอบคุณและดีใจที่คุณจักรชอบเพลง น้ำตาแสงไต้ เหมือนกัน  ผมว่าเสียงเพลงนี้แหละคือกุญแจไขความทรงจำที่ดีที่สุด

ขอบคุณเช่นกัน

จขกท เข้าใจอะไรยากจังเลย

ไปแล้วครับ

Sony กลับมาใช้เทปอีกครั้ง   จุได้มากถึง 47 ล้านเพลง ?????

Sony ได้ประกาศในงาน International Magnetic Conference (Intermag) ที่ประเทศเยอรมนี ว่า เทปคาสเซ็ตใหม่นี้ ใช้เทคโนโลยี

Sputter Deposition ใส่ความจุ 185TB ลงไปในฟิล์มเทปหรือแถบแม่เหล็กในม้วนเทปได้ เทียบเท่าแผ่น Blu-ray (1แผ่นจุ 50GB) 3,700 แผ่น

หรือเทียบเท่ากับ เครื่องเล่น iPod Classic 1,100 ตัว

เทปคาสเซ็ทรุ่นใหม่โดย Sony ร่วมมือกับ IBM จะรองรับการ Backup ข้อมูลที่สูงมากในอนาคต งานนี้เป็นการกลับมาของเทปคาสเซ็ท ที่ยิ่งใหญ่มาก

ภาวนาให้กลับมา จะได้อารมณ์เดิมกลับมาด้วย เปิดม้วนเดียว ฟังกันข้ามภพ ข้ามชาติ

คืนนี้หลับให้ ลึก สนิท ตื่นเช้าด้วยความสดชื่น ไปก่อนครับ

 

 

ดอกบัว เกิดและเจริญงอกงามในน้ำ แต่ไม่ติดน้ำ

ทั้งส่งกลิ่นหอม ชื่นชูใจให้รื่นรมย์ ฉันใด

พระพุทธเจ้า ทรงเกิดในโลกและอยู่ในโลก

แต่ไม่ติดโลก เหมือนบัวไม่ติดน้ำ ฉันนั้น

 

 

ที่มา : "อมฤตพจนา"  

พุทธศาสนสุภาษิต

พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)

 

ขณะที่เห็น  หรือได้ยิน  หรือได้กลิ่น  หรือลิ้มรสหรือกระทบสัมผัสทางกาย....ขณะใด ขณะหนึ่ง

แต่ ไม่รู้ ลักษณะของสภาพธรรม ตามความเป็นจริงซึ่งเกิดขึ้น แล้วดับไป สืบต่อกันอย่างรวดเร็ว

จึงมีการยึดถือ อาการ สัณฐาน ของสิ่งที่ปรากฏ ว่าเป็นสัตว์  เป็นบุคคลต่าง ๆ เป็นวัตถุสิ่งต่าง ๆ

ตราบใด ที่ยังไม่ประจักษ์แจ้ง "ลักษณะที่เกิด-ดับ"ของสภาพธรรม แต่ละขณะ ตามปกติ ตามความเป็นจริง.

แม้ว่าจะได้ศึกษา เรื่องของโลก โดยวิชาการต่าง ๆทางภูมิศาสตร์   ประวัติศาสตร์   วิทยาศาสตร์  ฯลฯ

แม้อีกหลายแสนล้านปี ก็ตามวิชาการทั้งหลายเหล่านั้น ก็ไม่สามารถทำให้  "พ้นจากโลก" นี้ได้.! เพราะว่า....

เมื่อไม่รู้จัก "โลก" ก็ย่อมพ้นไปจาก "โลก" ไม่ได้.!

"โลก" ที่ปรากฏ ในวันหนึ่ง ๆ นั้น มีสาระอะไรบ้าง.?

สุขเวทนา....เกิดขึ้น แล้วก็ดับหมดไป ทุกขณะจิต ซึ่งเกิด-ดับ ๆจะให้ สุขเวทนานั้น กลับคืนมาอีก...ไม่ได้เลย.!

ส่วนผู้ที่ทุกข์ทรมานแสนสาหัส แม้อยากจะพ้นไปจาก"โลก" สักเท่าไร ก็พ้นไม่ได้.!

ตราบใด  ที่ยังไม่รู้จัก "โลก" ตามความเป็นจริง.!

ข้อสำคัญ ก็คือ...ท่าน พร้อมหรือยัง ที่จะ"สละความยึดถือ" ว่า มีสัตว์  มีบุคคล  มีตัวตน.

แม้แต่ "ตัวท่าน".........ขณะนี้  ก็ไม่มี.!

ท่านพร้อมที่จะ "สละทิ้งโลก" หรือยัง.?

ต้องเป็นการ "อบรม-เจริญปัญญา"จนกระทั่ง "รู้แจ้ง" ว่า ไม่มีตัวตน สัตว์  บุคคล เสียก่อน

จึงจะ "ดับโลก"  และ "พ้นโลก" ได้.! 

(หนังสือ จิตสังเขป)

พี่มะนาวเปิด เพลงได้เพราะดีครับ

ส่วน คุณแสงธป เปิดเพลง ได้กินใจ ลึกเหลือเกิน

เพลงน้ำตาแสงใต้ นี้เหมือนกับ คุณ แสงธูป ย้อนไปจับอดีต มาวางไว้ข้างหน้าให้ผมได้ยินอีกครั้ง หากวันนี้ไม่ได้ยิน

คงจะเลือนหายไปกับเวลา เพลงนี้ผมจำไม่ได้ว่าเคยได้ยินเมื่อไหร่ ขอบคุณที่ทำให้อดีตกลับมามีชีวิตอีกครั้ง

หากเปรียบมวยแล้ว คุณแสงธูปถือเป็นรุ่นใหญ๋ ชกข้ามรุ่นทีเดียว เพราะคนที่จะรู้สึกประทับใจเพลงนี้ได้อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า

รุ่นแม่หรือถัดขึ้นไป  กินใจและลึกครับคุณแสงธูป

บทเพลงพระราชนิพนธ์ ลำดับที่ 1

เป็นบทเพลงที่แฝงไว้ด้วยคติความเชื่อ และ ความมั่นคงต่อกรรมและผลแห่งกรรม