SalesIan

  ดูต่อไป... ออกจากบ้าน AF คราวนี้จะเห่าอะไรอีก... เอิ๊กๆๆๆๆ

ผู้ชุมนุมจำนวนน้อยอย่างนี้ ควรจับทั้งหมดไปทำประวัติและปรับแล้วปล่อยตัว

และบอกว่ายังกลับมาทำอีก คราวหน้าส่งฟ้องศาลทหาร ให้รุ้สึกว่าที่รับเงินมาประท้วงไม่คุ้ม

วิธีการจับกุม ใช้กำลังปิดล้อมพิ้นที่ทั้งหมด แล้วคอยประกาศให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกมาจาก

พื้นที่ปิดล้อม พอกันผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกมาหมดแล้ว ก็ตั้งแนวโล่ค่อยๆรุกคืบจนประชิดตัวผู้ชุมนุม

เมื่อประชิดตัวแล้ว ก็จับดึงผู้ชุมนุมมาหลังแนวโล่ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่อีกชุดคอยทำการจับกุม

โดยใช้พลาสติกมัดสายไฟ มัดสองมือไพล่หลัง และมัดเท้าทั้งสองข้าง แล้วปล่อยให้นอนรอกับพื้น

รุกคืบจับกุมไปจนหมด แล้วค่อยกลับมาเก็บพวกที่นอนกับพื้น โดยตัดพลาสติกที่มัดขาแล้วต้อนขึ้นรถผู้ต้องหา

ไปทำประวัติและเปรียบเทียบปรับ

ต้องมีเจ้าหน้าที่อีกชุดตั้งแนวกันผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องรวมทั้งสื่อมวลชนออกจากพื้นที่ปฎิบัติงานด้วย

ตัวอย่างผู้ถูกจับกุมด้วยพลาสติกรัดสายไฟ

อาจจะร่วมมือกับหน่วยควบคุมฝูงชนของตำรวจ เพราะมีการฝึกมาและอุปกรณ์ป้องกันครบ

และลองซักซ้อมความเข้าใจหรือฝึกร่วมกันก่อนปฎิบัติงานจริง

ทำประวัติและเปรียบเทียบปรับแล้วปล่อยตัวตรงนั้นเลย นอกจากเป็นแกนนำที่มีประวัติอยู่แล้ว

อาจนำตัวไปสอบสวนเพิ่มเติม หรือจะปล่อยตรงนั้นก็ได้ แล้วแต่การตัดสินใจของหัวหน้าชุดปฎิบัติการ

ต้องปรับแผนจากการถ่ายวีดีโอและจับบางส่วน เพราะแกนนำไม่มาร่วมชุมนุม

ดังนั้นต้องจับมันทั้งหมด เอาจริง ทำซักครั้งสองครั้งน่าจะหายไปเองครับ 

ถ้าไม่หายก็ทำมันเรื่อยๆจนกว่ามันจะเข็ด

จะต้องเฉียบขาด แต่ไม่ใช้ความรุนแรง ต้องทำให้คำสั่งต่างๆศักดิ์สิทธิ์

ถ้าปล่อยไปเรื่อยๆอย่างนั้ระวังม๊อบจะจุดติดนะครับ 

การประท้วงของกปปส  ถั่วเฉลี่ยมีคนตาย 3.5  และบาดเจ็บ 110 คน  ต่อเดือน ตลอด 6 เดือนที่มีการชุมนุม

อี้ แทนคุณ ได้อ่านบทความของการ์ด คปท ของคืนวันที่21 ที่ทุกคนรับทราบถึงการเข้าสลาย คปทด้วยอาวุธ ของตำรวจไหม

หรือได้อ่านโน๊คของ กบกางเกงในที่เขียนสั่งลาไว้ บางหรือไม่

บางที่ถ้าเราอยู่ในเหตุการณ์นั้น ช่วงตี 1 การปฎิวัติ ตอนตี  3  อาจจะได้ช่วยร้อยกว่าชีวิตนั้น

รวมถึงการเข้าจับคุม อาวุธสงครามหลายรายการ ที่เกิดขึ้นในหลายวันที่ฝานมา

ใครดำเนินการถ้าไม่ใช่ทหาร 

แล้วถามอี้หน่อย ในระบบการดูแลความสงบและความปลอยภัยของรัฐบาล โดย ศรส นั้นเป็นการปกป้องชีวิตของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตยใช่ไหม 

ด้วยความอ่อนพรรษาทางการเมือง  การจะตอบคำถามเรื่องการไม่เห็นด้วยกับการปฎิวัติ ของนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตยนะ มันมีวิธิการตอบมากมาย  แต่ไม่ใช่การออกตัวแรงอย่างนี้ 

การกระทำของทหารในครั้งนี้ เราเรียกกันว่าปฎิวัติ เพราะมันยึดอำนาจของรัฐบาลมา แต่ปัจจุบันนี้มีรัฐบาลไหม ? เพราะการแต่งตั้งรองนายกรักษาการแทนนายก  จากนายกรักษาการที่ถูกตัดสินโดยศาลรัฐธรรมนูญว่าประพฤติไม่ชอบแล้ว (หัวขาดแล้ว) ชอบด้วยของกฎหมายไหมหรือไม่  และการที่รองนายก และรัฐมนตรีที่เหลือ ไม่ปฎิบัติโดยมารยาท  ที่จะลาออก เพราะหัวคือนายกได้ถูกปลดแล้ว  นี้คือการรักษาซึ่งระบอบประชาธิปไตยของอี้ใช่ไหม

ประชาธิปไตยมันไม่ใช่แค่ยึดตามกฎหมายเท่านั้น  มันต้องคำนึงถึงจริยธรรม หลักคุณงามความดี และประเพณีวัฒนธรรมที่ดีงาม และสำคัญสุด คือผลประโยชน์ของส่วนรวมผ

ดังนั้นการกระทำของทหารในเบื้องต้นที่ อี้ว่าถูกนั้น (ประกาศกฎอัยการศึก) ก็เพื่อรักษาความสงบนั้น ทหารได้ทำเลยมาจนถึงการขอให้ทั้ง 7 ฝ่ายหาทางออกให้ประเทศ  แล้วเป็นไง  อี้ได้อ่านความเห็นที่หัวหน้าอภิสิทธิ์ได้ พูดในที่ประชุมไหม  ที่ว่าให้นักกการเมืองถอยออกมา แล้วไม่มีใครเชื่อ สุดท้ายก็โดน  บอกแล้ว

ทุกอย่างที่ทหารทำเป็นขั้นเป็นตอน  ที่น่าเครพาเสียด้วยซ่ำ

อย่ายึดติดกับความคิดที่ว่า เป็นนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตย จะสนับสนุนการปฎิวัติไม่ได้ (ใช้คำว่าการแก้ไขเปลี่ยนแปงสถานะการณ์ดีกว่า)  เพราะนั้นเป็นแค่วลี ของพวกฉวยโอกาสที่หลอกพวกโลกสวยให้เกลียดการปฎิวัติ  เพราะการปฎิวัติมันเป็นทางเดียวที่สามารถขัดขวางการทำมาหากินของมันได้เท่านั้น 

พูดกันตามตรงเลยนะ ผมว่ากำนันสุเทพเหลี่ยมจัดรอบสูงพอที่จะไม่ยกพลไปตีมั่ว-เรื่อยเปื่อย เหมือนตอนการชุมนุมพธม.เดิม

กำนันยิงตรงไปที่ รบ.เถื่อนเท่านั้น เป้าหมายชัดเจน ไม่เคยเปลี่ยนเป้า แต่พลิกแพลงยุทธศาสตร์ตามสถานการณ์ รู้จักผ่อนเบา-ผ่อนหนัก

การชุมนุมแบบสันติอหิงสา ต้องใช้เวลาสะสมตบะ เพื่อสร้างแรงกระเพื่อมแบบหมากล้อม เดินหมากต้องระวังหลัง รุกคืบมีจังหวะจะโคน ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มออกดอกออกผลแล้ว

ต่างกับการชุมนุมไพร่แดง ที่ต้องใช้เงินหล่อเลี้ยง ต้องจบให้เร็ว ไม่งั้นเงินรั่ว จึงได้เห็นยุทธวิธีแบบป่าเถื่อน เผาบ้านเผาเมือง

กลุ่มปฏิรูปพลังงานพวกนี้ขี้ระแวง แถมคิดเล็กคิดน้อย แต่ไม่คิดไกล(อันนี้เขียนจากปสก.ที่เคยไปขลุกอยู่ด้วยพักหนึ่ง) ด้วยพื้นฐานอคติเดิมๆ

การที่ออกมาเรียกร้องให้ปฏิรูปพลังงานนั้น ถือเป็นเรื่องดี ได้ประโยชน์ทั้งชาติ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ตีสะเปะสะปะ มันจะเจอแรงสะท้อนที่เจ็บปวด ได้ไม่คุ้มเสีย(ก็น่าจะรู้ๆ กัน)

ผมไม่ชอบที่กลุ่มนี้จะแบกศพคุณสุทิน เอามาเอ่ยอ้าง อวดบุญคุณ มันไม่ถูกต้อง พวกคุณมุมมองคับแคบ แถมใจคับแคบด้วย ตีให้ตายไปอีกกี่ศพ ปตท. ก็ไม่แตก

จะขึงพืดปตท. ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยาก ถ้ารู้จักใจเย็น เล่นเป็นสเต็ป รออำนาจมาเข้ามือก่อน คุณจะไปล้วง ไปควัก ไปชำแหละยังไงก็ได้

ผมจึงไม่เชื่อว่า ถ้ามีการปฏิรูปโดยประชาชน วันนั้นจะไม่มีเรื่องพลังงานชาติ เข้าไปเป็นหนึ่งในหัวข้อปฏิรูป

ค่าครองชีพจะลดไม่ลง ถ้าไม่ปฏิรูปพลังงาน แค่นี้ก็เป็นหัวข้อให้ชำแหละสังคายนาปตท.ได้แล้ว

ฝากบอกแกนนำกลุ่มนี้ให้ลองทบทวนด้วย(ถ้าหากใครมีคอนเน็คชั่น) "ปฏิรูปประเทศ ไม่ใช่ปฏิรูปเฉพาะปตท. แต่ ปตท.ก็เป็นหนึ่งในแผนปฏิรูปประเทศ"

ถามง่ายๆ ละกัน ว่า

สมมติกปปส. โดดลงไปช่วยชาวนา จะด้วยวิธีการใดก็ตาม เพื่อให้ได้เงินค่าจำนำข้าวให้ชาวนา

เป็นการปฏิรูปตรงใหน

ประเด็นจริงๆ ของโครงการจำนำข้าวก็คือ มันเป็นทางตัน ไม่มีทางออก

ทางออกที่เป็นรูปธรรมมีข้อเดียว คือชาวนาต้องฟ้องเอาเงินจากพรรคเพื่อไทย

ไม่ใช่มาเอาเงินจากคนอื่น

พรรคเพื่อไทยเป็นหนี้ชาวนาแสนสามหมื่นล้าน ก็ต้องเป็นพรรคเพื่อไทยที่ชำระหนี้

ต้องแยกให้ชัดว่า ปัญหาชาวนานั่นเรื่องนึง ปัญหาจำนำข้าวก็อีกเรื่องนึง สองเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกัน

จะช่วยชาวนามันเป็นเรื่องอนาคต อย่างสมาชิกท่านหนึ่งเสนอว่าให้มี 1 ตำบล 1 โรงสี

หรือสมาชิกอีกท่าน โพสต์เรื่องโครงการพระราชทาน....นี่จึงเป็นการช่วย พร้อมทั้งมีการปฏิรูปไปด้วยในตัว

ดูจบแล้ว เหมือน อ.วีรพัฒน์

- จะพยายามสร้างชุดความคิดว่าคนไม่ออกมาเลือกตั้งเพราะกลัวกระสุนและนกหวีด ซึ่งอันที่จริงมันไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น

- ปากบอกว่า "อย่าดูถูกประชาชน" แต่แกกลับดูถูกประชาชนที่ไปม็อบว่าไปเพราะกำนันสุเทพสั่ง กลายเป็นว่าแกห้ามดูถูกประชาชนที่ไปเลือกตั้ง แต่กลับดูถูกประชาชนที่ไปม็อบ ลักลั่นย้อนแย้งจริงๆ

- ประเด็นความรับผิดชอบของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ดันไปเปรียบเทียบนายกอภิสิทธิ์ ซึ่งคนละสถานการณ์และบริบทกันเลย ตอนนั้นสถานการณ์บ้านเมืองไม่สงบ แต่คุณอภิสิทธิ์ต้องตัดสินใจเพื่อให้บ้านเมืองกลับมาสงบ และศาลยังไม่ตัดสินว่าผิดจริง แต่ของคุณยิ่งลักษณ์ บ้านเมืองสงบอยู่ดีๆ กลับไปออก พรบ.นิรโทษฯ และศาล รธน. ตัดสินแล้วว่าการแก้รัฐธรรมนูญ(ที่มา ส.ว. และ มาตรา 190) ผิด ทำให้เป็นชนวนขึ้นมา ยังไม่นับรวมการบริหารงานที่ผิดพลาดในนโยบายหลายๆเรื่อง 

- ประเด็น กปปส. ขัดขวางการเลือกตั้ง อันนี้ผมเห็นด้วยว่าไม่ควรทำครับ

ส่วนคุณอรรถวิชช์ ควบคุมอารมณ์จากการเหน็บ ปชป ได้พอใช้ ตอบโต้ได้ดี มีบางประเด็นที่ออกนอกลู่ไปบ้าง ถ้าเทียบกับตอนไปออกรายการ เถียงให้รู้เรื่่อง เจอ บก.ลายจุด ตอนนั้นคุณอรรถวิชช์ทำได้ดีมากครับ (แต่ก็อย่างว่ารายการสรยุทธ์ เวลาน้อย รีบๆ ล่กๆ จัดรายการเหมือนเสี้ยมให้คนทะเลาะกันมากกว่า)

ดูภาพนี้แล้ว พิจารณากันเอาเองครับว่าเค้ามาเพื่อ ช่วยชีวิตผู้อื่น หรือมาเพื่อ เอาชีวิตคนอื่น

นี่ถ้าฝั่ง กปปส ไม่มีอาวุธ ผมว่าตอนนี้ตายเรียบแน่ๆ คนที่ถือปืนเอาถุงปุ๋ยครอบ ช่วยยิงสกัดให้มวลชนออกมาจากหลักสี่ ควายแดงยิงใส่ฝั่งมวลชน กปปส ตลอด คนที่บอกว่า ฝั่ง กปปส ไม่อหิงสา อยากให้ไปอยู่ที่ตรงนั้น แล้วพวกควายแดงไล่ยิงแบบนี้ คุณจะอหิงสายังไงครับ ผมถามใจพวกคุณดู 

ผมไม่รู้หรอกว่า  อหิงสาไม่อหิงสา  จะมีอาวุธหรือไม่มีอาวุธ  แต่หลังจากเหตูการณ์ผ่านไปแล้วไม่มีใครเสียชีวิต  ผมพอใจครับ

มันอาจจะไม่ถูกต้องที่เป็นแบบนี้  แต่มันจะมีประโยชน์อะไรหากมีความถูกต้องแล้วมีคนตาย  สำหรับผมแบบนี้ดีกว่าครับ

สั่งเกตุให้ดี ต้องได้รับการฝึกมาอย่างดี เพราะมีคนชี้เป้าอยู่ และตอนจบชายใส่แว่นดำ ใส่เสื้อเกราะมาตบบ่าให้หยุด และเคลียร์ตัวเองออกจากพื้นที่

เห็นได้ว่าเป็นการยิงเพื่อป้องกันตัว คุ้มกันให้กลุ่มข้างหลังพ้นอันตราย และการยิงเป็นการยิงมุ่งประสงค์ต่อเป้าหมายร้ายแรง

ตำรวจไม่เห็นเข้าจับ เพราะรู้ว่ากำลังเล่นกับอะไรอยู่

พ้มว่า เขามาถูกกฎหมายนะคนพวกนี้ มีหนังสือสั่งการมา

มีใบอนุญาตพกพาอาวุธด้วยล่ะ แล้วเขาก็ไม่ได้เริ่มยิงก่อน

เขายิงป้องกันประชาชน ไม่งั้นไอ้ ศรส มันออกแถลงการณ์แล้ว

หรือว่าไง

ในเมื่อ ตะกวด ไม่อยู่ตรงกลาง ไม่รักษากฏหมาย

กลับช่วยเหลือ ปกป้องเสื้อแดง ทำร้าย ฆ่า ฝ่ายไม่เห็นด้วย

มิหนำซ้ำ ตะกวดเองยังแต่งชุดดำ ฆ่า ปชช เสียเอง

ฉะนั้น เป็นไปได้ที่ทหารที่รักชาติ รักความยุติธรรม ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของรัฐ + ตะกวด

แต่กฏหมายไม่ได้อนุญาติให้ทหารออกมารักษากฏหมายได้ (ยกเว้นรัฐบาลเรียกร้อง)

ทหารบางคน จึงจำเป็นต้องเล่นใต้ดินเพื่อปกป้อง ปชช ที่ไร้อาวุธ ให้รอดพ้นจากกองกำลังติดอาวุธจากฝ่ายทักษิณ

จะปล่อยให้ฝ่ายทักษิณ ฆ่าอีกฝ่ายที่มือเปล่า ตามลำพัง....คงไม่ได้

ต้องขอบคุณ ชายชุดดำที่ออกมาช่วย ปชช..มิฉะนั้น...เหตุจะรุนแรงกว่าทีวัดศรีเอี่ยมหลายเท่าตัว

กรุณาดูต้นเหตุกันด้วย อย่ามองแค่ปลายเหตุ 

ถ้าอยู่ๆแล้วการ์ดผู้ชุมนุมพกอาวุธไปไล่ยิงคนเสื้อแดง ทั้งที่ไม่มีใครเขามาทำร้ายผู้ชุมนุม อันนั้นก็ว่ากันไป

แต่นี่โดนบุกถล่มตายเจ็บไปเท่าไหร่แล้ว ถ้าไม่มีอาวุธไว้ป้องกันตัวบ้าง พวกเอี้ยๆมันก็ต้องได้ใจ บุกมาถล่มตามใจชอบ

แล้วจะต้องเจ็บ ต้องตายกันอีกเท่าไหร่ ?

จะพึ่งตำรวจก็ไม่ได้ เพราะมันพวกเดียวกัน แล้วจะให้ทำยังไง ?

คอยวิ่งหลบกระสุนอย่างเดียว เมื่อถูกพวกเอี้ยบุกถล่ม

กับ ตอบโต้ให้พวกมันหวาดกลัว ?

ยังไงก็ต้องเลือกที่จะตอบโต้บ้าง ไม่งั้นการชุมนุมเสียขบวนแน่ๆ

เพราะออกมาชุมนุมแล้วมันดูไม่ปลอดภัย ไม่มีใครปกป้อง แล้วใครจะกล้าออกมา

ผมว่าอย่างน้อยหลังจากเหตุการณ์วันนี้ พวกเสื้อแดงถ่อยก็คงไม่กล้าซ่าแบบสุ่มสี่สุ่มห้าก็แล้วกัน 

มันก็เหมือนการชกมวย ปล่อยให้เขาเตะ เขาต่อยอยู่ข้างเดียว ไม่ตอบโต้ คู่ต่อสู้ก็ต้องได้ใจ

แต่ถ้าสวนกลับแรงๆไปบ้าง ยังไงก็ต้องหวั่นๆเราบ้าง

งานนี้ถึงภาพลักษณ์อาจจะเสีย แต่คนทั่วไปก็ต้องเข้าใจ ว่ามันมีเหตุ

แม้แต่เสื้อแดงเองก็ต้องเข้าใจ ว่าต้นเหตุมาจากความถ่อยของพวกเขาเอง

ทางกปปส.จึงจำเป็นต้องมีอาวุธป้องกันตัว

เพียงแต่นิสัยของคนเสื้อแดงก็รู้ๆอยู่ว่า ไร้ความยุติธรรม จึงทำเป็นไม่เข้าใจ และเอาเรื่องนี้มาเล่น

นายกเทศมนตรีชะอำนี่ แดงเถือกแน่นอนครับ  นายนุกูลน่ะ ....

กรณีน้องตั๊นถูกคนเลวกลุ่มหนึ่งใส่ความว่าดูถูกคนอีสาน จนเป็นเหตุให้คนที่มีการศึกษาไม่มากนักหลงเชื่อ และเป็นเรื่องราวใหญ่โต ผมขอความกรุณาให้ชาว สรท. ช่วยชี้แจงกรณีดังกล่าวด้วย

จากคำสัมภาษณ์

she insists the Democrats are not turning their back on elections.
“We’re not taking away democracy.
“We just need some time to reform the country before we can move on to democracy,” she said, explaining that problems such as corruption and vote-buying must be tackled before free and fair elections can be held.
 

The problem, she added, is that many Thais lack a “true understanding of democracy … especially in the rural areas”.
แปลเป็นไทยที่ถูกต้องสำหรับบรรทัดสุดท้ายได้ดังนี้

"เธอเสริมว่า ปัญหาคือ คนไทยจำนวนมากขาดความเข้าใจในประชาธิปไตย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่อยู่นอกเขตเมือง" 

many = จำนวนมาก (มีคนแปลว่า “ส่วนใหญ่” ซึ่งไม่ถูกต้อง)

rural areas = นอกเมือง, ไม่อยู่ในเขตเมือง ซึ่งตรงข้ามกับ urban area  (ภาษาไทยแปลลวกๆว่า ต่างจังหวัด ซึ่งความหมายคล้ายกันแต่ไม่ 100%)

 ผมมีความเห็นว่าน้องตั๊นไม่พูดอะไรผิด ตรงกันข้าม คำสัมภาษณ์ของเธอเป็นคำพูดของคนที่มีสติปัญญา และมีการศึกษา เสียดายครับที่คนในสังคมส่วนหนึ่งกลับยัดเยียดความผิดให้กับเธอ