Jump to content


คนกินข้าว

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2554
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2557 11:24
-----

Topics I've Started

คนกลุ่มไหนได้รับความเดือดร้อนจาก "กฎอัยการศึก"

21 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 10:31

พวกนี้เดือดร้อนแน่

 

21 พ.ค. 57 พล.ต.ต.มนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี เปิดเผยว่าตามที่มีการประกาศกฏอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร เมื่อวานนี้ ทางตำรวจลพบุรีได้สนธิกำลังทหาร กอ.รมน. ปฏิบัติการภายใต้อำนาจของกฏอัยการศึก เข้าตรวจค้นบ้านต้องสงสัยในตำบลชอนสารเดช อำเภอหนองม่วง จังหวัดลพบุรี และจับกุมตัวนายเชาวร์วัฒน์ ทองเผือก ฉายา สาม หรือ นวย อายุ 54 ปี ที่บ้านเลขที่ 103 หมู่ที่ 8 ตำบลชอนสารเดช อำเภอหน่องม่วง พร้อมด้วยของกลาง

1.  อาวุธปืนยาวเอเค หรืออาก้า 1 กระบอก พร้อมกระสุน

2.  เครื่องกระสุนปืนขนาด 5.56 จำนวน 800 นัด

3. เครื่องกระสุนปืนขนาด 11 มม. 156 นัด

4. เครื่องกระสุนปืนเอเค 47 จำนวน 88 นัด

5. เครื่องกระสุนปืนคาร์บินขนาด 30 จำนวน 60 นัด

6. วัตถุระเบิดเอ็ม 18 เอ 1 จำนวน 1 ลูก

7. เครื่องวัตถุระเบิด ทีเอ็นที น้ำหนัก 1 ออนด์

8. พุพวงกลม จำนวน 11 รูป

9. วัตถุระเบิดแสวงเครื่องไปร์บอม ทำด้วยโลหะ จำนวน 3 ลูก

10.  วัตถุระเบิดแสวงเครื่องไปร์บอม กล่องเหล็ก จำนวน 1 ลูก

11. วัตถุระเบิดแสวงเครื่องไปร์บอม พลาสติกจำนวน 5 ลูก

จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้ทำการจัดหากระทำอาวุธปืนและวัตถุระเบิดตามรายการ โดยได้รับว่าจ้างจากนางนันทนา และนางชัชญา     เพื่อนำไปก่อเหตุความวุ่นวายในพื้นที่ชุมนุม ที่กรุงเทพฯ
................................................
 
 21 พ.ค.57 เวลา11.00น.เจ้าหน้าที่ทหาร เข้าตรวจสอบห้องพักของ น.ส.จันทนา วรากรสกุลกิจ ที่ห้องเลขที่ 3-4 หอพัก NCO ซ.สวนหลวง ถ.สวนหลวง เขตกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พบอาวุธสงครามพร้อมกระสุนมีรายการดังนี้
1.ปืนเอเค 47(พับฐาน)จำนวน1กระบอก ซอง1ซอง พร้อมกระสุน 777 นัด
2.ปืนไรเฟิ้ล จำนวน 1 กระบอก พร้อมกล้องส่อง2พร้อมซอง2ซอง กระสุนในซองพร้อมยิง38นัด
3.เครื่องยิงเอ็ม 79 จำนวน1กระบอกพร้อมลูกยิง40มม.จำนวน 9 นัด
4.ปืนเอ็มพีจำนวน1กระบอก. พร้อมซอง3ซอง,กระสุน48นัด
5.ปืนคาร์บิ้น จำนวน1กระบอก พร้อมซอง4ซอง,กระสุน154นัด
6.ปืนเอ็ม4จำนวน1กระบอกพร้อมซอง3ซอง กระสุน 275 นัด และที่เก็บเสียง
7.ปืนพกสั้น(ดาวแดง)จำนวน1กระบอกพร้อมซอง1ซอง กระสุน.380 9นัด
8.วิทยุไอคอมจำนวน1เครื่อง
9.ระเบิดแสวงเครื่อง(ยังไม่ใส่ดินปืน)จำนวน8ลูก
10.ระเบิดขว้าง3ลูก (rgd5,เอ็ม26,เอ็ม67)
11.ดินระเบิด120ขวด
12.มีดสั้น1เล่ม,คัตเตอร์1เล่ม
13.กล้องถ่ายรูป3เครื่อง
14.ไฟฉาย1กระบอก
15.สายไฟ1มัด
16.เกราะอ่อน1ตัว
17.บัตร staff นปช."รวมพลคนประชาธิปไตย"
18.บัตรการ์ดนปช.no.3084
19.ตะปูเกลียว-ลวดพร้อมทำระเบิดแสวงเครื่องจำนวนหนึ่ง
20.กระสุนขนาด.38 จำนวน1กล่อง
..................................
 
 วันนี้ (21 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกระแสข่าวแพร่สะพัดออกมาว่า “เลิศ ไม้เก่า” หรือนายบุญเลิศ เรืองทิม แกนนำการเคลื่อนไหวเสื้อแดง นปช.พิษณุโลก กลุ่มนักรบพระองค์ดำ ถูกชุดปฏิบัติการ กองทัพภาคที่ 3 ควบคุมตัวเมื่อเย็นวานนี้ (20 พ.ค.) หลังประกาศใช้กฎอัยการศึก โดยชุดปฏิบัติการของกองทัพภาคที่ 3 ได้เข้าควบคุมตัวตามข้อหายั่วยุ ก่อให้เกิดความไม่สงบ ประกอบกับยังมีหมายจับเกี่ยวข้องกับคดีฆ่านักนักศึกษารามคำแหง

โดยควบคุมตัวได้ขณะขับรถกระบะโตโยต้าวีโก้คู่ชีพสีดำ แต่งกายกางเกงยีนส์สีเข้ม เสื้อลายสกอตแขนสั้น พร้อมเด็กสาวอีก 1 ราย บนถนนแห่งหนึ่งเขตรอยต่อ อ.เมือง-อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก

ขณะที่ข่าวลือบางกระแสอ้างว่าพบ “เลิศ ไม้เก่า” ปรากฏตัวที่บ้านไม้ขนาดใหญ่ใน อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ก่อนประกาศกฎอัยการศึก 1 วัน กระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้นบ้านหลังดังกล่าวก็ปิดประตูเงียบ ส่วนบ้านริมคลองชลประทานในเมืองพิษณุโลก ที่มักพบภรรยาและลูกสาวขับรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ทอง อยู่ในสภาพเงียบเหงา

“เลิศ ไม้เก่า” เคยถูกทหารม้า ม.พัน.9 พล.ร.4 จับกุมตัวได้มาแล้วครั้งหนึ่งขณะเกิดการปฏิวัติปี 2549 สมัยที่ พล.อ.สะพรั่ง กัลยาณมิตร เป็นแม่ทัพภาคที่ 3 อาชีพดั้งเดิมคือ ถีบสามล้อในตัวเมืองพิษณุโลก กระทั่งคุมวิจักรยานยนต์แถวศูนย์ขนส่งสไตล์ “นักเลงหัวไม้” กระทั่งนักการเมืองท้องถิ่นให้การดูแลชุบเลี้ยงจนเติบใหญ่ ต่อมาอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย จึงให้งานระดมมวลชน

นายบุญเลิศเคยนำทีมเสื้อแดงวิ่งพล่านเต็มถนนทั่วพิษณุโลก กรีดเลือดสาบานต่อเบื้องพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ต่อต้านการปฏิวัติ ยุคสมัยหนึ่งเคยผิดใจกับนักการเมืองคนหนึ่งจนแทบถอดใจ พร้อมป่าวประกาศผ่านสื่อมวลชนในจังหวัดพิษณุโลกว่า “ถอดใจ เลิกแล้ว” เพราะถูกงาบหัวคิวไปก้อนใหญ่

แต่หลังจากนั้นไม่นาน “เลิศ ไม้เก่า” ก็กลับมาอีก แต่คราวนี้ไม่ได้เคลื่อนไหวเฉพาะใน จ.พิษณุโลก แต่ขยับขึ้นไปอยู่กับแกนนำเสื้อแดงในกรุงเทพฯ ยืนอยู่แถวสองหลังนายจตุพร พรหมพันธุ์

ตามประวัติ นายบุญเลิศ เรืองทิม เกิดเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2501 อยู่บ้านเลขที่ 46 หมู่ 6 ต.สักหลง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งโดยข้อเท็จจริงแล้วเป็นคนขี้กลัว แต่ด้วยใบหน้าเข้ม ดูดุดัน และไว้หนวด จึงทำให้กลบจุดด้อยไปโดยปริยาย อย่างไรก็ตาม ล่าสุดชั่วโมงนี้ยังไม่ทราบชะตากรรม “เลิศ ไม้เก่า” ท่ามกลางกระแสข่าวที่แพร่สะพัดว่าอยู่ใน “เซฟเฮาส์” ค่ายทหารแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.พิษณุโลก


..............................................................................
 
วันนี้ ( 21 พ.ค.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 19.40 น. พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผกก.ผู้ทรงคุณวุฒิ บก.ป. พ.ต.ท.ต่อวงศ์ พิทักษ์โกศล สว.กก.1 บก.ป.ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ทหารให้ไปรับตัว นายประเสริฐ ดาวสุข อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/5 หมู่ 18 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พร้อมของกลาง อาวุธปืนเอ.เค.47 กระสุนปืน 30 นัด โทรศัพท์มือถือ และกระเป๋าเอกสาร หลัง ควบคุมตัวไว้ได้จับกุมได้ที่ถนนเลียบคลองทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา กทม.
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ทหาร กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยกองทัพภาคที่ 1 ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตาม พ.ร.บ.กฎอัยการศึก ได้พบตัว นายประเสริฐ ภายในรถยนต์ซึ่งผ่านมาในบริเวณใกล้กับพื้นที่การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ถนนอุทยาน หรือถนนอักษะ จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น ก่อนพบอาวุธสงครามพร้อมของกลางทั้งหมด จึงประสานแจ้งให้ตำรวจ บก.ป.เข้าควบคุมตัวเพื่อสอบสวนดำเนินคดี
สอบสวนเบื้องต้น นายประเสริฐ ให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่า ไม่ทราบว่าอาวุธของกลางทั้งหมดเป็นของใคร เพียงแต่ขับรถมาเพื่อจะรอรับภรรยา ซึ่งทำหน้าที่แม่ครัวให้กับกลุ่มผู้ชุมนุม นปช. โดยตนไม่ได้เข้าร่วมชุมนุมแต่อย่างใด และมีอาชีพซ่อมรถที่อู่ “เบิ้มดูป๊อง” ย่านรังสิต ช่วงที่ถูกเจ้าหน้าที่ทหารเข้ามาตรวจค้นนั้นกำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่ในรถ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ โดยจะสอบปากคำอย่างละเอียดก่อนพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป
 
.................................
 

เมื่อช่วงที่ผ่านมาวันนี้ (21 พฤษภาคม) พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน เข้าตรวจสอบบ้านพัก หลังหนึ่งในซอยรัชดาภิเษก 32 แยก 7 / 3 หลังได้รับแจ้งจากเจ้าของบ้านให้เข้าตรวจสอบ เนื่องจากพบว่าภายในบ้านมีความผิดปกติลักษณะถูกรื้อค้น เหมือนมีผู้ลักลอบเข้ามาภายในบ้าน

 

ทั้งนี้เจ้าของบ้าน ระบุว่าบัานหลังนี้ไม่มีผู้อยู่อาศัยนานแล้ว แต่ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาหลังจากเข้ามาตรวจสอบบ้านตามปกติ ก็พบว่าบ้านมีลักษณะถูกรื้อค้น และ มีทรัพย์สินถูกลักขโมยไป เป็นทองคำและเงินสดจำนวนหนึ่ง มูลค่ารวมเกือบ 2 แสนบาท

 

จากนั้นเจ้าของบ้านยังได้ตรวจสอบทั่วทั้งบ้านโดยละเอียด พบว่าห้องเก็บของชั้นล่างถูกรื้อค้นสายไฟถูกดึงออกไปนอกหน้าต่าง จึงได้แจ้งตำรวจ ให้เข้าตรวจสอบภายในบ้านอีกครั้ง กระทั่ง พบกระสุนปืนเอ็ม 16 จำนวน 140 นัด และ พบลูกระเบิด แบบลูกซ้อม ชนิดขว้าง จำนวน 2 ลูก โดยไม่รู้ที่มา

 

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์หลักฐานได้เก็บของกลางที่พบทั้งหมด ไปส่ง สน.พหลโยธิน เพื่อลงบันทึกประจำวัน จากนั้นจะส่งต่อ หน่วยงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด หรือ อีโอดี เพื่อตรวจพิสูจน์ ตามขั้นตอน


แจ้งความไม่ได้รับค่าจ้างชุมนุมอีก 30 ราย แถมกระทืบนักข่าวช่อง 7

14 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 15:01

Attached File  677718.jpg   60.17K   39 downloads

Attached File  677719.jpg   69.64K   36 downloads

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 14 พ.ค. นายทอมฉัน บุญไสย์ อยู่บ้านเลขที่ 40/225 หมู่ 2 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 มีบาดแผลพกช้ำตามร่างกายหลายแห่ง พร้อมใบรับรองแพทย์ เดินทางเข้ามาแจ้งความกับ พ.ต.ท.วันชัย แก้วจินดา พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สน.ธรรมศาลา หลังจากถูกกลุ่มแท็กซี่ทำร้ายร่างกายที่หน้า สน.ธรรมศาลา กลางดึกคืนที่ผ่านมา

โดยนายทอมฉัน ให้การอ้างว่า ก่อนเกิดเหตุตนมาทำข่าวม็อบเสื้อแดงเป็นปกติประจำทุกวัน โดยวันเกิดเหตุมีกลุ่มผู้ร่วมชุมนุมโทรศัพท์มาร้องทุกข์ที่สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ว่า ไม่ได้รับค่าจ้างจากนายหน้าที่รับว่าจ้างมาตามที่ได้ตกลงกันไว้ จากนั้นทางหัวหน้าข่าวได้ประสานมายังตนให้เข้ามาทำข่าวที่ สน.ธรรมศาลา ต่อมาเวลาประมาณ 02.45 น. วันที่ 14 พ.ค. ตนเดินทางมาถึง สน.ดังกล่าว จึงนำกล้องวีดีโอออกมาถ่ายภาพทำข่าวกลุ่มแท็กซี่ที่รออยู่หน้าสน. แต่ปรากฏว่ามีกลุ่มแท็กซี่ประมาณ 20 คน ไม่พูดพร่ำทำเพลง กรูกันเข้ามาทำร้ายร่างกายด้วยการชกต่อยจนกองกับพื้น พร้อมทั้งบังคับให้ให้ลบภาพที่บันทึกออกทั้งหมด ซึ่งตนก็ปฎิบัติตามคำสั่งอย่างไม่ขัดข้อง แต่เนื่องจากเกิดความล่าช้าไม่ทันใจกลุ่มคนดังกล่าว จึงใช้กำลังนำเอาม้วนเทปบันทึกภาพไป ซึ่งระหว่างที่ตนกำลังนำม้วนเทปบันทึกภาพให้นั้นก็ยังถูกทำร้ายร่างกายอยู่ตลอดเวลา

 

ท้ังนี้ขณะเกิดเหตุมีผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งตนสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นพวกเดียวกับแท็กซี่ตะโกนออกมาว่าอย่าทำร้ายสื่อมวลชน ทำให้กลุ่มแท็กซี่ดังกล่าวหยุดและนำม้วนเทปติดมือไปด้วย แต่ผู้หญิงคนดังกล่าวก็ได้ไปตามม้วนเทปกลับคืนมาให้ กระทั่งในช่วงเช้าตนไปตรวจร่างกายที่ รพ.ธนบุรี 2 ก่อนจะมาแจ้งความดังกล่าว

 

“อยากขอร้องกลุ่มผู้ชุมนุมทุกม็อบ อย่าทำร้ายสื่อมวลชนทุกแขนงอีกเลย โดยเฉพาะสื่อในภาคสนาม เนื่องจากสื่อเหล่านี้ไม่มีอำนาจในการตัดสินใจที่จะนำข่าวออกไปเผยแพร่ เพราะกระบวนการถ่ายทอดไปยังประชาชนนั้นขึ้นอยู่กับทางสถานีหรือสำนักข่าวนั้น ๆ”

 

พ.ต.ท.วันชัย กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะทำการส่งข้อมูลไปยังฝ่ายสืบสวน และนำกล้องวงจรปิดที่หน้า สน.ธรรมศาลา มาตรวจสอบเพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี สำหรับการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดในข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่น ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ สำหรับคดีที่มีคนมาแจ้งความว่าไม่ได้รับค่าจ้างจากการชุมนุมนั้นมีประมาณ 30 ราย.

------------------------------

จากเดลินิวส์


"ขวัญชัย" โม้แทบตาย สุดท้ายได้แค่ 200

14 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 14:43

ขวัญชัย บอกว่า จะระดมคนมาชุมนุมที่ถนนอักษะ อีก 1,000 คน เอาเข้าจริงได้แค่ 200 คน

..........................

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี ว่า เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 13 พฤษภาคม 2557 ที่อาณาจักรคนเสื้อแดง สถานีวิทยุชมรมคนรักอุดร 97.5 เม็กกะเฮิร์ต บ.หนองลีหู ต.สามพร้าว อ.เมือง กลุ่มคนเสื้อแดง สมาชิกชมรมคนรักอุดร กว่า 200 คน ที่เดินทางมาคอยขึ้นรถบัสโดยสาร พร้อมกระเป๋าเสื้อผ้า เสื่อ หมอน เพื่อเข้าร่วมสบทบกับการชุมนุมกับทาง นปช.ที่ ถ.อักษะ กรุงเทพฯ โดยนายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร ได้เปิดเสียงการถ่ายทอดสด จากสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมช่อง ASIA UPDATE จากเวทีที่ ถ.อักษะ ให้ผู้เตรียมเดินทางได้รับฟัง

ซึ่งก่อนหน้านี้ เวลาประมาณ 17.00 น. เกิดฝนฟ้าคะนอง และลมกรรโชกแรง ทำให้มีคนเสื้อแดงบางส่วน ที่กำลังเดินทางมาต้องกลับบ้าน เนื่องจากเป็นห่วงบ้านที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง และคนเสื้อแดงจากต่างอำเภอ เปลี่ยนใจไม่เดินทางมา เนื่องจากรอดำนาจากฝนที่ตกลงมา ส่วนเสบียงข้าวสาร อาหารแห้ง ผักสด น้ำดื่ม ได้นำขึ้นรถ 6 ล้อ ที่จะนำเข้า กทม. พร้อมกับรถบัสนำไป ถ.อักษะ

ขณะที่นายขวัญชัยฯ ได้นิมนต์พระอาจารย์วิชาญ วิชชโย หรือ อาจารย์หนึ่ง เจ้าอาวาสวัดป่าหนองยาง ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี ปะพรมน้ำมนต์ให้กับคนเสื้อแดงที่จะเดินทาง พร้อมมอบผ้ายันต์ของหลวงปู่ทวีศักดิ์ ชุตินธโร หรือ หลวงพ่อเสือดำ เจ้าอาวาสวัดศรีนวลธรรมวิมล หนองแขม กรุงเทพฯ ให้กับผู้ที่เดินทางทุกคน ก่อนที่จะออกเดินทางในเวลา 21.39 น.

นายขวัญชัยฯ เปิดเผยว่า ช่วงเย็นวันนี้ฝนตกลงมาอย่างหนัก และมีฟ้าคะนอง ทำให้คนเสื้อแดงที่นัดจะร่วมเดินทางไปสมทบที่กรุงเทพฯ ไม่สามารถเดินทางมาได้ แต่ก็มีผู้มาร่วมเดินทางกว่า 200 คน ซึ่งตนก็พร้อมจะเดินทางร่วมไปด้วย เพื่อต่อสู้ร่วมกับพี่น้องคนเสื้อแดง และ นปช. โดยยังไม่กำหนดวันกลับ ซึ่งเราจะร่วมต่อสู่ จนกว่าได้รับชัยชนะ คือ มีการเดินหน้าเลือกตั้ง ตามระบอบประชาธิปไตย

 

------------------------------

จาก กรุงเทพธุรกิจ


ใครช่วยพาไปลงหลุมที

12 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 12:33

สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล กับเฉลิม อยู่บำรุง ยังไม่ยอมรับว่า..... หมดสภาพแล้ว

 

12 พ.ค.57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “นายเสริมสุข กษิติประดิษฐ์” บรรณาธิการข่าวการเมืองและความมั่นคง สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส โพสต์ข้อความลงเฟสบุ๊คเพจชื่อ “Sermsuk Kasitipradit” เกี่ยวกับการประชุม “อาเซียน ซัมมิท” ที่กรุงเนปิดอว์ ประเทศเมียนมาร์ ซึ่งนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ เดินทางไปร่วมประชุม ปรากฏว่า โดนเจ้าภาพการประชุมตบหน้าอย่างแรง เนื่องจากในการถ่ายภาพร่วมกันหลังเสร็จสิ้นการประชุมนั้น ตัวแทนฝ่ายไทยกลับเป็น นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ถ่ายภาพพร้อมกับรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของชาติอาเซียนทั้งหมด

ข้อความที่นายเสริมสุขโพสต์ลงเฟซบุ๊คระบุว่า “แจ่มจันทร์หลาย..ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว เป็นตัวแทนรัฐบาลถ่ายภาพร่วมกับรมต.กต.จากสิบชาติอาเชี่ยนในการประชุมasean summit ที่เมียนมาร์..สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล โดนตบหน้าหงาย เดินทางไปร่วมประชุม ไม่ชัดเจนเสนอหน้าไปในฐานะอะไร....เป็นเวทีของรมว.กต.อาเชี่ยน”

Attached File  103061.jpg   53.36K   35 downloads

 

....................................................

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 พฤษภาคม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรมว.แรงงาน เดินทางมาเป็นประธานการประชุมศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) โดยอ้างว่า ยังไม่มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้ตนพ้นจากตำแหน่งตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จึงยังเป็นผอ.ศอ.รส.ตามกฎหมายอยู่

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า จากนี้ต่อไปจะมีคนสร้างสถานการณ์ เมื่อคืนวันที่ 11 พ.ค.ตนสั่งการถึงเวลา 22.00 น.ว่าให้ดูแลการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่ถ.อักษะ เพราะจะมีคนไปก่อเหตุ ถ้าคนเสื้อแดงได้รับบาดเจ็บจะมีคนเสื้อแดงจำนวนมากลุกฮือ จะมีการเผชิญหน้า คนเสื้อแดงวันนี้ไม่มีศัตรูเพราะยึดมั่นระบอบประชาธิปไตย แต่กปปส.ศัตรูเต็มไปหมด

"วิเคราะห์มาตั้งแต่ต้นว่าเอ็ม 79 จะลงที่กปปส.เป็นระยะ เพราะแค่คนผ่านไปผ่านมายังทำร้าย ม็อบอันธพาล จะโดนยิงเรื่อย อย่างไรก็ตาม ต้องระวังอย่าให้คนเสื้อแดงถูกเกเร การเผชิญหน้าของกลุ่มคนก็จะไม่เกิด แต่ขอเตือนกปปส.ทุกจุดต้องระวังตัว เพราะศัตรูเยอะ อย่างเมื่อคืนวันที่ 11 พฤษคม เวทีกปปส.แจ้งวัฒนะก็โดนเอ็ม 79 2 ลูก ระวังสุดท้ายนายสุเทพจะโดนเอง ผมสั่งตำรวจตำรวจทุกพื้นที่ให้สายตรวจไปเพิ่มกำลังดูแลการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงแล้ว เพราะกลัวจะโดนเอ็ม 79 วันนี้หากปปส.ไม่ก่อเหตุร้าย แพ้เรียบวุธ ไม่มีวันชนะ"

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า ในบ่ายวันนี้ (12 พ.ค.) หากศาลอนุมัติหมายจับ ตนจะปรึกษากับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ว่าจะไม่ใช้อรินทราชอย่างเดียว แต่จะให้ประกอบกำลังกับพลร่มจากค่ายนเรศวร ไม่ได้สลายม็อบ แต่จะจับพวกกบฎตามหมายศาล ไม่ว่าจะเป็นนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา นายเสรี วงษ์มณฑา นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ นางสาวอัญชลี ไพรีรักษ์ ทั้งหมดโดนหมด ส่วนที่กปปส.ออกจากสวนลุมพินีมาอยู่ถ.ราชดำเนินนั้น เป็นเพราะแขกยกเลิกเข้าพักโรงแรมดุสิตธานีเป็นปี จะเจ๊ง การที่นายสุเทพเข้าไปยึดทำเนียบฯเพราะกลัวถูกยิงด้วย.

-------------------------------------

นี่ก็อีก 1 ตัวอย่างแห่งความ..........ด้า................น


เงินรับจำนำข้าว กับเงินคืนภาษีรถคันแรก

30 เมษายน พ.ศ. 2557 - 16:44

ถ้าท่านเป็นรัฐบาล ควรหาเงินมาจ่ายเรื่องใดก่อน ระหว่างเงินรับจำนำข้าว กับเงินคืนภาษีรถคันแรก