อาตี๋

"สวนดุสิตโพล” เผยผลสำรวจความคิดเห็นจากประชาชนทั่วประเทศ กรณี "ความหนักใจ" ของคนไทย วันนี้ จำนวนทั้งสิ้น 1,344 คน  ระหว่างวันที่ 16-21 กันยายน 2556 สรุปผลดังนี้ 

"การเมืองไทย เรื่องใด ที่ประชาชนหนักใจ
ร้อยละ 57.25 การทะเลาะเบาะแว้ง ความขัดแย้งแตกแยกทางการเมือง
ร้อยละ 27.17 การทุจริต คอรัปชั่น เล่นพรรคเล่นพวก
ร้อยละ 15.58 พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของนักการเมือง 

ในฐานะคนไทย จะช่วยให้ "การเมืองไทย" ดีขึ้นได้อย่างไร
ร้อยละ 40.07 ออกไปใช้สิทธิทุกครั้งและพิจารณาเลือกคนดีมีความสามารถเข้ามาทำงาน
ร้อยละ 34.20 วางตัวเป็นกลาง มีเหตุมีผล ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
ร้อยละ 25.73 มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นหรือร่วมทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ตามระบอบประชาธิปไตย

"เศรษฐกิจไทย" เรื่องใด ที่ประชาชนหนักใจ
ร้อยละ 50.69 ข้าวของแพง สินค้าและบริการต่างๆมีราคาสูงขึ้น
ร้อยละ 30.34 รายได้ไม่พอกับรายจ่าย มีหนี้สิน 
ร้อยละ 18.97 ราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำและเศรษฐกิจย่ำแย่

ในฐานะคนไทย จะช่วยให้ "เศรษฐกิจไทย" ดีขึ้นได้อย่างไร
ร้อยละ 45.27 ประหยัด อดออม ไม่ฟุ้งเฟ้อ ยึดหลักพอเพียง
ร้อยละ 40.16 สนับสนุนสินค้าไทย ซื้อของไทยไม่ใช้ของนอก
ร้อยละ 14.57 ไม่เอารัดเอาเปรียบ ไม่คดโกง

"สังคมไทย" เรื่องใด ที่ประชาชนหนักใจ
ร้อยละ 43.21 คนไทยขาดความสามัคคี ทะเลาะเบาะแว้ง แบ่งฝักแบ่งฝ่าย 
ร้อยละ 32.10 การเอารัดเอาเปรียบ เห็นแก่ตัว ไม่มีน้ำใจ 
ร้อยละ 24.69 อาชญากรรม ความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
                 
ในฐานะคนไทย จะช่วยให้ "สังคมไทย" ดีขึ้นได้อย่างไร
ร้อยละ 43.03 เป็นคนดี ซื่อสัตย์ เคารพกฎหมายบ้านเมือง
ร้อยละ 32.49 มีน้ำใจ มีรอยยิ้มให้กัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
ร้อยละ 24.48 ดูแลครอบครัวให้อบอุ่น สอนลูกหลานให้เป็นคนดี รักชาติบ้านเมือง

"สิ่งใด" หรือ "เรื่องใด" ที่ประชาชน "หนักใจ" ฝ่ายรัฐบาล
ร้อยละ 41.81 การบริหารงาน บริหารประเทศยังไม่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการใช้งบประมาณ ลงไปช่วยเหลือ สนับสนุนในเรื่องต่างๆยังไม่เป็นรูปธรรมพอ
ร้อยละ 35.38 การกู้เงินโครงการต่างๆ อาจมีการทุจริต คอรัปชั่น เนื่องจากรัฐบาลไม่สามารถดูแลได้ทั่วถึง
ร้อยละ 22.81 การทะเลาะเบาะแว้งของนักการเมืองโดยเฉพาะเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญการเล่นเกมการเมืองกันไปมา

"สิ่งใด" หรือ "เรื่องใด" ที่ประชาชน "หนักใจ" ฝ่ายค้าน
ร้อยละ 37.91 มีแนวทางการทำงานและความเห็นที่ไม่ตรงกับรัฐบาล ค้านทุกเรื่อง
ร้อยละ 35.17 แสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม การทะเลาะเบาะแว้ง ความขัดแย้งในสภา 
ร้อยละ 26.92 มีเสียงข้างน้อย ขาดแนวร่วม จนทำให้มีการเคลื่อนไหวนอกสภา

วันที่ 9 ส.ค. ที่โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์​ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงแนวคิดการเชิญนายโทนี แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร และนายโคฟี อันนัน อดีตเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ร่วมเวทีปฏิรูปประเทศไทยว่า เป็นส่วนหนึ่งที่อยากจะเห็นทิศทางของประเทศในอนาคตข้างหน้า นอกเหนือจากการรวบรวมความคิดเห็นของประชาชนผ่านโครงการประชาเสวนาที่ผ่านมา รวมทั้งการเปิดเวทีที่พูดคุยเพื่อหาทางออกให้ประเทศ ตามที่รัฐบาลได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนให้เข้ามาร่วม และอีกส่วนหนึ่งคือเวทีที่จะเชิญผู้นำจากต่างประเทศหรืออดีตผู้นำที่มีประสบการณ์ มาแลกเปลี่ยน ให้ความรู้กับคนไทย โดยจะเน้นประสบการณ์ของต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จแล้ว หรือที่ปฏิบัติแล้วมาให้ความรู้กับประเทศไทย อย่างน้อยจะได้เห็นกรณีศึกษาหลาย ๆ รูปแบบจากต่างประเทศ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศกำลังทาบทามอยู่ เบื้องต้นได้รับการตอบรับมาบ้างแล้ว ในส่วนของนายโทนี แบลร์ และนายโคฟี อันนัน ได้ตอบรับแบบไม่เป็นทางการมาแล้วแต่ยังไม่เป็นลายลักษณ์อักษร ส่วนระยะเวลาในการจัดเวทีก็อยู่ที่ความพร้อมของผู้นำแต่ละคน แต่ตั้งใจว่าอยากจะจัดเวทีแบบนี้อย่างต่อเนื่อง เดือนละครั้งหรือ 2 เดือนครั้ง

เมื่อถามว่า ในประเทศไทยทั้งพรรคประชาธิปัตย์ และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ยืนยันชัดเจนว่าจะไม่เข้าร่วมเวทีกับรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์​ กล่าวว่า รัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ที่จะเปิดเวทีในหลาย ๆ เวที และให้ความรู้ควบคู่กันไป เพื่อเปิดมุมมองต่าง ๆ ร่วมกันเพื่อประเทศ ซึ่งหวังว่าวันหนึ่งจะมีโอกาสได้ร่วมเวทีกัน

นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ ทาบทามบุคคลสำคัญในเวทีโลกที่มีบทบาทในเรื่องประชาธิปไตยและความปรองดอง ผ่านโครงการ Uniting for the future: Learning from each other's experiences เข้าร่วม ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้ทาบทามกว่า 10 คนแล้ว ขณะที่นายโทนี่ แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร นายโคฟี อันนัน อดีตเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ได้ตอบรับคำเชิญแล้ว ซึ่งจะมีการเปิดเวทีในช่วงต้นเดือน ก.ย. นี้

นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประสานกลุ่มบุคคลที่จะเชิญมาร่วมในเวทีสภาปฏิรูปการเมืองว่า ขณะนี้ได้ประสานบุคคลไปนับสิบคนแล้ว โดยมีฝ่ายอื่นช่วยประสานด้วย ซึ่งหลายคนก็ไม่มีปัญหา ส่วนอดีตนายกรัฐมนตรีก็ทาบทามกันอยู่ รวมถึงนายอานันท์ ปันยารชุน ด้วย สำหรับอดีตนายกฯ ที่เป็นองคมนตรีนั้น ยอมรับว่าหลายคนติดขัดด้วยสถานะในปัจจุบัน ซึ่งเราก็เข้าใจ ทั้งนี้ เราตั้งใจจะให้เวทีดังกล่าวเริ่มการหารือกันครั้งแรกในสัปดาห์หน้า แต่ถ้าไม่ทัน ก็จะเลื่อนไปอีกประมาณ 1 - 2 สัปดาห์ และตั้งใจว่าจำนวนผู้เข้าร่วมทั้งหมดไม่น่าจะเกิน 100 คน เพราะถ้ามากกว่านี้ ก็อาจจะทำให้แสดงความเห็นกันไม่ทั่วถึง แต่ถ้าต่ำกว่า 50 คน ก็อาจจะไม่หลากหลาย อย่างไรก็ตามเวทีปาฐกถาของกระทรวงการต่างประเทศ จะเป็นคนละเวทีกับทางเวทีปฎิรูปที่ตนและนายวราเทพ รัตนากร รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี และรมช.เกษตรและสหกรณ์ กำลังเดินสายอยู่  แต่หลายคนที่มาร่วมในเวทีปฏิรูปการเมือง อาจจะไปร่วมฟังในเวทีปาฐกถาของกระทรวงการต่างประเทศด้วยก็ได้