หลังจากไต้ฝุ่นลูกแรกจากนอกฝั่งตะวันตกแปซิฟิกพัดเข้าประเดิมเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2554
ใต้ฟ้าเมืองไทยไล่มาจากภาคเหนือตอนล่างลงมาภาคกลางทั้งหมด ภาคอีสาน และตะวันออก
ต่างชุ่มฉ่ำเกินพิกัด
เนื่องจากหลายพื้นที่ประสบกับกระแสน้ำหลากไหลเชี่ยว และมีน้ำท่วมฉับพลัน
มีดินโคลนถล่มบริเวณที่อยู่เชิงเขา ฯลฯ
เมื่อรวมไต้ฝุ่นได้เบ็ดเสร็จ 5 ลูก (ปิดท้ายด้วย "นกเต็น" ในช่วงต้นเดือนตุลาคม 2554)
มากกว่าถัวเฉลี่ยปีละ 3 ลูกจากสถิติในรอบ 70 ปี
ข่าวและภาพน้ำท่วมเมืองไทยถูกจัดอันดับจากนิตสารไทม์ให้เป็น 10 เหตุการณ์สุดยอดของโลกในปี 2554 ทันที
ประเด็นที่ว่าน้ำท่วมใหญ่ปี 2485 ซึ่งไม่ทราบว่ามีไต้ฝุ่นเข้ามากน้อยกว่าปี 2554 หรือไม่ประการใด
ไม่สำคัญเท่ากับว่า...
หลังจากเมืองไทยมีเขื่อนเอนกประสงค์ "ภูมิพล" ที่ความจุ 13,600 ล้านลูกบาศก์เมตรในปี 2507 และยังมีเทคโนโลยีที่ช่วยในการทำนายล้มฟ้าอากาศที่มีความแม่นยำด้วยเช่นนี้
ต่อให้ปีที่ผ่านมามีไต้ฝุ่นเข้าถึง 6-7 ลูก หากรัฐมีการบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพ
รวมทั้งมีการประสานข้อมูลกับฝ่ายอุตุนิยมวิทยาอย่างเป็นระบบต่อเนื่อง
เชื่อว่าความร้ายแรงของภัยพิบัติจะไม่มีมากเท่าที่เกิดขึ้น
แต่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่เข้ามาบริหารประเทศเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2554 กลับปล่อยให้คนไม่มีอำนาจในรัฐบาลตามกฎหมาย เช่น นายบรรหารบังอาจสั่งการเมื่อเดือนกันยายน 2554 ว่า “ใครจะเปิดน้ำจากเขื่อนถามผมก่อน”
และนั่นคือปฐมเหตุของมหาอุทกภัยที่ไม่เคยมีครั้งใดในประวัติศาสตร์รุนแรงเท่า
แต่นั่นอาจมิใช่ครั้งสุดท้าย …
อารยะ
เป็นสมาชิกตั้งแต่ 23 มกราคม 2555ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 20 เมษายน 2557 15:09