- พิฆาตอสูร likes this
- ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด
- → ดูประวัติผู้ใช้: Likes: จาจา
จาจา
เป็นสมาชิกตั้งแต่ 21 เมษายน 2555ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2557 22:39
Community Stats
- กลุ่มผู้ใช้ Members
- จำนวนกระทู้และความเห็น 595
- Profile Views 7,251
- Member Title ขาประจำ
- อายุ ไม่ระบุ
- วันเกิด ไม่ระบุ
-
Gender
Not Telling
2989
Excellent
เครื่องมือสมาชิก
Friends
จาจา hasn't added any friends yet.
ผู้เยี่ยมชมล่าสุด
#279262 เสาร์ 2 มิย. ปชป.นัดปราศรัยแฉพรบ.ล้างผิด ที่ลานคนเมือง 5 โมงเย็นครับ
โดย จาจา on 2 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 16:14
ออกไปสามวันติด หมดแรงอ่ะ ตอนนี้เอกเขนกรอดูหน้าจอบลูสกาย
#277562 สถานการณ์ต้าน พรบ.ปรองดองล้างผิด "แม้ว" ที่สภาฯ ต่อวันที่ 2
โดย จาจา on 1 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 19:58
เพิ่งกลับมาถึงบ้านเหมือนกัน วันนี้ไปทำหน้าที่ ที่ทั้งสองแยกเลย
ขับรถไปจอดที่ลานจอดรถ BTS จตุจักรแบบจ่ายตังค์ 50 บาท นั่งรถไฟฟ้า ต่อรถสายเมลล์สาย12 ไปถึงแยกพิชัยแปดโมงกว่า
ด้วยใจตุ๊มๆต่อมๆ เพราะข่าวที่ประโคมเรื่องความสามารถของรถจัดสีการที่ซื้อมาตั้ง 25 ล้านบาท กลัวคนไม่ออกมากัน
พอถึงแยกพิชัย พันธมิตรมาถึงพอดี คนมีประมาณ150 คน .....นึกในใจอยู่ที่ไหนก็ตายถ้ามันถึงฆาต แล้วนี่เรามาทำภารกิจเพื่อชาติ
เอาวะสู้โว้ยยยย ตรูมาช่วยอีกแรงแร้ววววว ลงรถเมลล์ทันทีไปรวมกับพันธํมิตร
( ลืมหมดสิ้นว่าเกลียดแป๊ะ .....เอาน่าขอให้เป็นแมว สีไหน พันธ์ุไหนก็ได้ ขอให้จับหนูได้ )
นั่งประจันหน้ากับตำรวจได้ถึง 10 โมงครึ่ง เลยเดินเล่นยืดเส้น ไปนั่งแช่แอร์ กินไอติม กินขนมที่ร้านศูนย์ศิลปาชีพ 904 ริมถนนสุโทัย ห้องน้ำมีดีไซน์ สะอาดมาก
ชิลด์มาก เสร็จเลยเดินต่อไปเสริมกลุ่มเสื้อหลากสีของหมอตุลย์ที่แยกการเรือน ตอนไปถึงก็เกือบ 11 โมงละ ตอนนั้นเสื้อหลากสีได้รถบรรทุกที่โดนยึดกลับคืนมาแล้ว
เลยปักหลักที่นั่นทั้งวันจน 4 โมงเย็น ระหว่างนั้น สส ปชป มาเยี่ยมก็หลายคน มี ณัฐ บรรทัดฐาน (ส่งน้ำดื่มมาช่วย ) มาสองรอบมั้ง , รังสิมา เส่งข้าวเหนียวหน้าสังขยา ขนมมาให้ และแวะมาตอนเย็น จุรินทร์ ก็มา มีอีกหลายคนที่จำชื่อไม่ได้
ที่แยกการเรือนห้องน้ำก็สะดวก มีรถสุขา กทม มาบริการ แต่เดินไปเข้าที่ ราชภัฎสวนดุสิตก้ได้ใกล้นิดเดียว เลยแวะกินเสลอปี้ที่ 7-11 ชิลด์อีกละ (เอ่อ ตั้งใจไปช่วยจริงๆนะ ตอนโดนข่าวสับขาหลอกของพรรคเพื่อไทยช่วงเที่ยง ถึงบ่ายสอง ว่าจะเปิดประชุมตอนบ่ายโมงครึ่ง ก็นั่งติดแถวนั้น ไม่ได้ไปไหนเลยนะ )
นี่แค่ยกแรกเท่านั้น ยังมีอีกยาวไกลที่พวกเราต้องช่วยกัน เสื้อหลากสี ประกาศชุมนุมอีกครั้งวันที่ 5 เวลา 6 โมง แอบหวังว่าจะมีใครที่นี่จะไปช่วยร่วมแรงในวันนั้น ?
ขับรถไปจอดที่ลานจอดรถ BTS จตุจักรแบบจ่ายตังค์ 50 บาท นั่งรถไฟฟ้า ต่อรถสายเมลล์สาย12 ไปถึงแยกพิชัยแปดโมงกว่า
ด้วยใจตุ๊มๆต่อมๆ เพราะข่าวที่ประโคมเรื่องความสามารถของรถจัดสีการที่ซื้อมาตั้ง 25 ล้านบาท กลัวคนไม่ออกมากัน
พอถึงแยกพิชัย พันธมิตรมาถึงพอดี คนมีประมาณ150 คน .....นึกในใจอยู่ที่ไหนก็ตายถ้ามันถึงฆาต แล้วนี่เรามาทำภารกิจเพื่อชาติ
เอาวะสู้โว้ยยยย ตรูมาช่วยอีกแรงแร้ววววว ลงรถเมลล์ทันทีไปรวมกับพันธํมิตร
( ลืมหมดสิ้นว่าเกลียดแป๊ะ .....เอาน่าขอให้เป็นแมว สีไหน พันธ์ุไหนก็ได้ ขอให้จับหนูได้ )
นั่งประจันหน้ากับตำรวจได้ถึง 10 โมงครึ่ง เลยเดินเล่นยืดเส้น ไปนั่งแช่แอร์ กินไอติม กินขนมที่ร้านศูนย์ศิลปาชีพ 904 ริมถนนสุโทัย ห้องน้ำมีดีไซน์ สะอาดมาก
ชิลด์มาก เสร็จเลยเดินต่อไปเสริมกลุ่มเสื้อหลากสีของหมอตุลย์ที่แยกการเรือน ตอนไปถึงก็เกือบ 11 โมงละ ตอนนั้นเสื้อหลากสีได้รถบรรทุกที่โดนยึดกลับคืนมาแล้ว
เลยปักหลักที่นั่นทั้งวันจน 4 โมงเย็น ระหว่างนั้น สส ปชป มาเยี่ยมก็หลายคน มี ณัฐ บรรทัดฐาน (ส่งน้ำดื่มมาช่วย ) มาสองรอบมั้ง , รังสิมา เส่งข้าวเหนียวหน้าสังขยา ขนมมาให้ และแวะมาตอนเย็น จุรินทร์ ก็มา มีอีกหลายคนที่จำชื่อไม่ได้
ที่แยกการเรือนห้องน้ำก็สะดวก มีรถสุขา กทม มาบริการ แต่เดินไปเข้าที่ ราชภัฎสวนดุสิตก้ได้ใกล้นิดเดียว เลยแวะกินเสลอปี้ที่ 7-11 ชิลด์อีกละ (เอ่อ ตั้งใจไปช่วยจริงๆนะ ตอนโดนข่าวสับขาหลอกของพรรคเพื่อไทยช่วงเที่ยง ถึงบ่ายสอง ว่าจะเปิดประชุมตอนบ่ายโมงครึ่ง ก็นั่งติดแถวนั้น ไม่ได้ไปไหนเลยนะ )
นี่แค่ยกแรกเท่านั้น ยังมีอีกยาวไกลที่พวกเราต้องช่วยกัน เสื้อหลากสี ประกาศชุมนุมอีกครั้งวันที่ 5 เวลา 6 โมง แอบหวังว่าจะมีใครที่นี่จะไปช่วยร่วมแรงในวันนั้น ?
#274487 ////////////////////เพื่อนๆท่านใดที่ไปชุมนุมมาแล้ว ขอเชิญมาเล่าสู่กันฟังที่กร...
โดย จาจา on 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 12:28
เมื่อวานไปถึงตอน 5โมง กว่าๆ ฝนลงเม็ดพอดี
ปักหลักที่เวทีเสื้อหลากสี กางร่มลายเสือ เสื่อกันฝนสีชมพู นั่นแหละเรา กลับออกมาตอน 2 ทุ่ม ก่อนเลิกชุมนุม
ปล. น้องตั๊นเดินผ่านหน้า3 รอบ ยิ้มให้เราด้วย น่ารักมากกกกก
ใครที่ออกมาได้ ขอให้มาเถอะ อย่ารอเลย..
ไปดุหนัง ดูบอล นั่งหน้าคอม เล่นเกมส์ แชท Facebook Twitter ทำไมเราให้เวลากับสิ่งเหล่านี้ได้
แต่กับอนาคตของประเทศ ทำไมไม่แม้แต่จะสละเวลา
ไม่อยาก ให้มานึกเสียใจทีหลังว่าตอนนั้นทำไม ไม่ทำอะไรบ้าง
ขอบคุณคนที่ออกมาเมื่อวาน
ปักหลักที่เวทีเสื้อหลากสี กางร่มลายเสือ เสื่อกันฝนสีชมพู นั่นแหละเรา กลับออกมาตอน 2 ทุ่ม ก่อนเลิกชุมนุม
ปล. น้องตั๊นเดินผ่านหน้า3 รอบ ยิ้มให้เราด้วย น่ารักมากกกกก
ใครที่ออกมาได้ ขอให้มาเถอะ อย่ารอเลย..
ไปดุหนัง ดูบอล นั่งหน้าคอม เล่นเกมส์ แชท Facebook Twitter ทำไมเราให้เวลากับสิ่งเหล่านี้ได้
แต่กับอนาคตของประเทศ ทำไมไม่แม้แต่จะสละเวลา
ไม่อยาก ให้มานึกเสียใจทีหลังว่าตอนนั้นทำไม ไม่ทำอะไรบ้าง
ขอบคุณคนที่ออกมาเมื่อวาน
- pinkpanda, Gingerbread and ploychanpen like this
#271691 อัพเดทข่าวล่าสุด..กำหนดการต่างๆแจ้งให้ทราบ 3เวที4กลุ่มหลัก สะดวกที่ไหนชอบกลุ่...
โดย จาจา on 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 22:06
นึกถึงขุนรองปลัดชู. . ......
"ทำสิ่งที่ยากแสนยากให้สำเร็จ อาศัยคาถาเพียงสี่คำ…ร่วม แรง ร่วม ใจ และคาถาอีกสองคำ แลกชีวิต"
"ความห่วงใยแผ่นดินปลุกให้กูลุกขึ้นมาทุกวัน ลุกขึ้นมาเพื่อบอกกับลูกหลานว่า เราต้องดูแลตัวอง ดูแลบ้านเกิดของตัวเอง ดูแลวิเศษไชยชาญ แต่งานใหญ่เพียงนี้ไม่อาจจทำให้สำเร็จได้ด้วยใครคนใดคนหนึ่ง กูพยายามส่งผ่านความคิดของกู ไปยังผู้ที่มีจิตใจรักแผ่นดิน กูมีความหวังว่าความคิดของกูคงไม่โดดเดี่ยว แล้วกูก็มีความหวังว่า ความห่วงใยบ้านเกิดจะปลุกให้ทุกคนตื่นขึ้นมาพร้อมกัน เราต้องพร้อมที่จะสู้เพื่อบ้าน สู้เพื่อวิเศษไชยชาญ"
"แผ่นดินมันกำลังอ่อนแอ อ่อนแออย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เหมือนเรือนใกล้จะพัง คานใกล้จะขาด เสาผุกร่อน เพราะปลวกมอดมันเจาะกินใน ถ้าพวกเราไม่ช่วยกัน วันนึง ถ้ามันต้องเผชิญกับพายุร้าย แม้นแรงเพียงนิด มันก็ไม่แคล้วต้องพังทลายลง"
เมื่อขุนรองฯได้กลับวิเศษไชยชาญ ได้เล่าเรื่องราวที่ตนเองประสบพบเจอมาที่อยุธยา พร้อมย้ำอยู่เสมอว่า
**บ้านเมืองอ่อนแอ เหมือนบ้านไม้ที่ถูกปลวกมอดกัดแทะ แม้ต้องลมเพียงนิดก็จะพังทลายทั้งหมด ต้องเตรียมทำสงคราม สู้เพื่อวิเศษไชยชาญ**
โดยรวบรวมอาสาสมัครได้ 400 คน ฝึกดาบอาตมาท และอาบน้ำว่านเพื่อปลุกขวัญกำลังใจและอยู่ยงคงกระพัน เดินทางไปยังด่านสิงขรเพื่อสกัดกั้นทัพพม่า โดยที่กรมการเมืองวิเศษไชยชาญได้แจ้งไปยัง พระยารัตนาธิเบศร์ ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ในอยุธยาได้ทราบแล้ว และจะยกทัพไปสมทบ
แต่เมื่อได้ปะทะกับทางพม่าแล้ว ขุนรองฯได้ใช้ป่าชายเลนริมหาดซุ่มโจมตี แม้ตัดกำลังพม่าได้ส่วนหนึ่ง แต่เมื่อทางพม่าโต้กลับก็มิอาจทานได้ ทั้งหมดจึงหนีไปอยู่ริมหาด และถูกฆ่าตายทั้งหมดด้วยการจับกดน้ำและใช้ช้างกระทืบ ด้วยทั้งตัวขุนรองปลัดชูด้วย
*** ก่อนตาย ขุนรองฯเหลือบเห็นทัพของพระยารัตนาธิเบศร์ที่สัญญาว่าจะยกมาช่วยยืนมองอยู่ห่าง ๆ โดยไม่มาช่วยจริงดังคำที่ว่าไว้*** ขุนรองฯรู้สึกสลดกับเหตุการณ์และระลึกถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ต้น
วีรกรรมของขุนรองปลัดชู ที่เหมือนกับสถานการณ์ความแตกแยกของบ้านเมืองในเวลาปัจจุบันเพื่อสะท้อนสำนึกของคนในชาติ ว่าในอดีตเคยมีคนตัวเล็ก ๆ ที่ลุกขึ้นมาสู้เพื่อบ้านเมือง โดยไม่หวังอะไรตอบแทนและรู้ดีว่าจุดจบของตนเองจะเป็นเช่นไร
"ทำสิ่งที่ยากแสนยากให้สำเร็จ อาศัยคาถาเพียงสี่คำ…ร่วม แรง ร่วม ใจ และคาถาอีกสองคำ แลกชีวิต"
"ความห่วงใยแผ่นดินปลุกให้กูลุกขึ้นมาทุกวัน ลุกขึ้นมาเพื่อบอกกับลูกหลานว่า เราต้องดูแลตัวอง ดูแลบ้านเกิดของตัวเอง ดูแลวิเศษไชยชาญ แต่งานใหญ่เพียงนี้ไม่อาจจทำให้สำเร็จได้ด้วยใครคนใดคนหนึ่ง กูพยายามส่งผ่านความคิดของกู ไปยังผู้ที่มีจิตใจรักแผ่นดิน กูมีความหวังว่าความคิดของกูคงไม่โดดเดี่ยว แล้วกูก็มีความหวังว่า ความห่วงใยบ้านเกิดจะปลุกให้ทุกคนตื่นขึ้นมาพร้อมกัน เราต้องพร้อมที่จะสู้เพื่อบ้าน สู้เพื่อวิเศษไชยชาญ"
"แผ่นดินมันกำลังอ่อนแอ อ่อนแออย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เหมือนเรือนใกล้จะพัง คานใกล้จะขาด เสาผุกร่อน เพราะปลวกมอดมันเจาะกินใน ถ้าพวกเราไม่ช่วยกัน วันนึง ถ้ามันต้องเผชิญกับพายุร้าย แม้นแรงเพียงนิด มันก็ไม่แคล้วต้องพังทลายลง"
เมื่อขุนรองฯได้กลับวิเศษไชยชาญ ได้เล่าเรื่องราวที่ตนเองประสบพบเจอมาที่อยุธยา พร้อมย้ำอยู่เสมอว่า
**บ้านเมืองอ่อนแอ เหมือนบ้านไม้ที่ถูกปลวกมอดกัดแทะ แม้ต้องลมเพียงนิดก็จะพังทลายทั้งหมด ต้องเตรียมทำสงคราม สู้เพื่อวิเศษไชยชาญ**
โดยรวบรวมอาสาสมัครได้ 400 คน ฝึกดาบอาตมาท และอาบน้ำว่านเพื่อปลุกขวัญกำลังใจและอยู่ยงคงกระพัน เดินทางไปยังด่านสิงขรเพื่อสกัดกั้นทัพพม่า โดยที่กรมการเมืองวิเศษไชยชาญได้แจ้งไปยัง พระยารัตนาธิเบศร์ ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ในอยุธยาได้ทราบแล้ว และจะยกทัพไปสมทบ
แต่เมื่อได้ปะทะกับทางพม่าแล้ว ขุนรองฯได้ใช้ป่าชายเลนริมหาดซุ่มโจมตี แม้ตัดกำลังพม่าได้ส่วนหนึ่ง แต่เมื่อทางพม่าโต้กลับก็มิอาจทานได้ ทั้งหมดจึงหนีไปอยู่ริมหาด และถูกฆ่าตายทั้งหมดด้วยการจับกดน้ำและใช้ช้างกระทืบ ด้วยทั้งตัวขุนรองปลัดชูด้วย
*** ก่อนตาย ขุนรองฯเหลือบเห็นทัพของพระยารัตนาธิเบศร์ที่สัญญาว่าจะยกมาช่วยยืนมองอยู่ห่าง ๆ โดยไม่มาช่วยจริงดังคำที่ว่าไว้*** ขุนรองฯรู้สึกสลดกับเหตุการณ์และระลึกถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ต้น
วีรกรรมของขุนรองปลัดชู ที่เหมือนกับสถานการณ์ความแตกแยกของบ้านเมืองในเวลาปัจจุบันเพื่อสะท้อนสำนึกของคนในชาติ ว่าในอดีตเคยมีคนตัวเล็ก ๆ ที่ลุกขึ้นมาสู้เพื่อบ้านเมือง โดยไม่หวังอะไรตอบแทนและรู้ดีว่าจุดจบของตนเองจะเป็นเช่นไร
#271677 ท่านจะไปร่วมชุมนุมกับพันธมิตรหรือไม่
โดย จาจา on 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 21:57
ไป แต่ไม่ได้ไปเพราะแป๊ะ. ที่ไปเพราะต้องการแสดงจุดยืนว่าไม่เห็นด้วยกับพรบ ปรองดองที่สอดไส้นิรโทษกรรม จะไปร่วมกับเสื้อหลากสี
นึกถึงขุนรองปลัดชู. . ......
"ทำสิ่งที่ยากแสนยากให้สำเร็จ อาศัยคาถาเพียงสี่คำ…ร่วม แรง ร่วม ใจ และคาถาอีกสองคำ แลกชีวิต"
"ความห่วงใยแผ่นดินปลุกให้กูลุกขึ้นมาทุกวัน ลุกขึ้นมาเพื่อบอกกับลูกหลานว่า เราต้องดูแลตัวอง ดูแลบ้านเกิดของตัวเอง ดูแลวิเศษไชยชาญ แต่งานใหญ่เพียงนี้ไม่อาจจทำให้สำเร็จได้ด้วยใครคนใดคนหนึ่ง กูพยายามส่งผ่านความคิดของกู ไปยังผู้ที่มีจิตใจรักแผ่นดิน กูมีความหวังว่าความคิดของกูคงไม่โดดเดี่ยว แล้วกูก็มีความหวังว่า ความห่วงใยบ้านเกิดจะปลุกให้ทุกคนตื่นขึ้นมาพร้อมกัน เราต้องพร้อมที่จะสู้เพื่อบ้าน สู้เพื่อวิเศษไชยชาญ"
"แผ่นดินมันกำลังอ่อนแอ อ่อนแออย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เหมือนเรือนใกล้จะพัง คานใกล้จะขาด เสาผุกร่อน เพราะปลวกมอดมันเจาะกินใน ถ้าพวกเราไม่ช่วยกัน วันนึง ถ้ามันต้องเผชิญกับพายุร้าย แม้นแรงเพียงนิด มันก็ไม่แคล้วต้องพังทลายลง"
เมื่อขุนรองฯได้กลับวิเศษไชยชาญ ได้เล่าเรื่องราวที่ตนเองประสบพบเจอมาที่อยุธยา พร้อมย้ำอยู่เสมอว่า
**บ้านเมืองอ่อนแอ เหมือนบ้านไม้ที่ถูกปลวกมอดกัดแทะ แม้ต้องลมเพียงนิดก็จะพังทลายทั้งหมด ต้องเตรียมทำสงคราม สู้เพื่อวิเศษไชยชาญ**
โดยรวบรวมอาสาสมัครได้ 400 คน ฝึกดาบอาตมาท และอาบน้ำว่านเพื่อปลุกขวัญกำลังใจและอยู่ยงคงกระพัน เดินทางไปยังด่านสิงขรเพื่อสกัดกั้นทัพพม่า โดยที่กรมการเมืองวิเศษไชยชาญได้แจ้งไปยัง พระยารัตนาธิเบศร์ ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ในอยุธยาได้ทราบแล้ว และจะยกทัพไปสมทบ
แต่เมื่อได้ปะทะกับทางพม่าแล้ว ขุนรองฯได้ใช้ป่าชายเลนริมหาดซุ่มโจมตี แม้ตัดกำลังพม่าได้ส่วนหนึ่ง แต่เมื่อทางพม่าโต้กลับก็มิอาจทานได้ ทั้งหมดจึงหนีไปอยู่ริมหาด และถูกฆ่าตายทั้งหมดด้วยการจับกดน้ำและใช้ช้างกระทืบ ด้วยทั้งตัวขุนรองปลัดชูด้วย
*** ก่อนตาย ขุนรองฯเหลือบเห็นทัพของพระยารัตนาธิเบศร์ที่สัญญาว่าจะยกมาช่วยยืนมองอยู่ห่าง ๆ โดยไม่มาช่วยจริงดังคำที่ว่าไว้*** ขุนรองฯรู้สึกสลดกับเหตุการณ์และระลึกถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ต้น
วีรกรรมของขุนรองปลัดชู ที่เหมือนกับสถานการณ์ความแตกแยกของบ้านเมืองในเวลาปัจจุบันเพื่อสะท้อนสำนึกของคนในชาติ ว่าในอดีตเคยมีคนตัวเล็ก ๆ ที่ลุกขึ้นมาสู้เพื่อบ้านเมือง โดยไม่หวังอะไรตอบแทนและรู้ดีว่าจุดจบของตนเองจะเป็นเช่นไร
นึกถึงขุนรองปลัดชู. . ......
"ทำสิ่งที่ยากแสนยากให้สำเร็จ อาศัยคาถาเพียงสี่คำ…ร่วม แรง ร่วม ใจ และคาถาอีกสองคำ แลกชีวิต"
"ความห่วงใยแผ่นดินปลุกให้กูลุกขึ้นมาทุกวัน ลุกขึ้นมาเพื่อบอกกับลูกหลานว่า เราต้องดูแลตัวอง ดูแลบ้านเกิดของตัวเอง ดูแลวิเศษไชยชาญ แต่งานใหญ่เพียงนี้ไม่อาจจทำให้สำเร็จได้ด้วยใครคนใดคนหนึ่ง กูพยายามส่งผ่านความคิดของกู ไปยังผู้ที่มีจิตใจรักแผ่นดิน กูมีความหวังว่าความคิดของกูคงไม่โดดเดี่ยว แล้วกูก็มีความหวังว่า ความห่วงใยบ้านเกิดจะปลุกให้ทุกคนตื่นขึ้นมาพร้อมกัน เราต้องพร้อมที่จะสู้เพื่อบ้าน สู้เพื่อวิเศษไชยชาญ"
"แผ่นดินมันกำลังอ่อนแอ อ่อนแออย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เหมือนเรือนใกล้จะพัง คานใกล้จะขาด เสาผุกร่อน เพราะปลวกมอดมันเจาะกินใน ถ้าพวกเราไม่ช่วยกัน วันนึง ถ้ามันต้องเผชิญกับพายุร้าย แม้นแรงเพียงนิด มันก็ไม่แคล้วต้องพังทลายลง"
เมื่อขุนรองฯได้กลับวิเศษไชยชาญ ได้เล่าเรื่องราวที่ตนเองประสบพบเจอมาที่อยุธยา พร้อมย้ำอยู่เสมอว่า
**บ้านเมืองอ่อนแอ เหมือนบ้านไม้ที่ถูกปลวกมอดกัดแทะ แม้ต้องลมเพียงนิดก็จะพังทลายทั้งหมด ต้องเตรียมทำสงคราม สู้เพื่อวิเศษไชยชาญ**
โดยรวบรวมอาสาสมัครได้ 400 คน ฝึกดาบอาตมาท และอาบน้ำว่านเพื่อปลุกขวัญกำลังใจและอยู่ยงคงกระพัน เดินทางไปยังด่านสิงขรเพื่อสกัดกั้นทัพพม่า โดยที่กรมการเมืองวิเศษไชยชาญได้แจ้งไปยัง พระยารัตนาธิเบศร์ ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ในอยุธยาได้ทราบแล้ว และจะยกทัพไปสมทบ
แต่เมื่อได้ปะทะกับทางพม่าแล้ว ขุนรองฯได้ใช้ป่าชายเลนริมหาดซุ่มโจมตี แม้ตัดกำลังพม่าได้ส่วนหนึ่ง แต่เมื่อทางพม่าโต้กลับก็มิอาจทานได้ ทั้งหมดจึงหนีไปอยู่ริมหาด และถูกฆ่าตายทั้งหมดด้วยการจับกดน้ำและใช้ช้างกระทืบ ด้วยทั้งตัวขุนรองปลัดชูด้วย
*** ก่อนตาย ขุนรองฯเหลือบเห็นทัพของพระยารัตนาธิเบศร์ที่สัญญาว่าจะยกมาช่วยยืนมองอยู่ห่าง ๆ โดยไม่มาช่วยจริงดังคำที่ว่าไว้*** ขุนรองฯรู้สึกสลดกับเหตุการณ์และระลึกถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ต้น
วีรกรรมของขุนรองปลัดชู ที่เหมือนกับสถานการณ์ความแตกแยกของบ้านเมืองในเวลาปัจจุบันเพื่อสะท้อนสำนึกของคนในชาติ ว่าในอดีตเคยมีคนตัวเล็ก ๆ ที่ลุกขึ้นมาสู้เพื่อบ้านเมือง โดยไม่หวังอะไรตอบแทนและรู้ดีว่าจุดจบของตนเองจะเป็นเช่นไร
- ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด
- → ดูประวัติผู้ใช้: Likes: จาจา
- Privacy Policy
- กฎการใช้งานเว็บบอร์ด ·