PriFa

 

จากกรณีที่ช่วงค่ำวานนี้ (28 พ.ค.) คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) ยังมีคำสั่งที่ 29/2557 ให้นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักกฎหมายอิสระ ให้ไปรายงานตัวที่ห้องจามจุรี สโมสรกองทัพบก เทเวศร์ ในวันที่ 29 พ.ค. 2557 เวลา 10.00-10.30 น. และในเวลาต่อมานายวีรพัฒน์ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอแถลงการณ์ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วน ตัว โดยปฏิเสธที่จะไปรายงานตัว อ้างว่าการอยู่ในประเทศไทยไม่ปลอดภัย ประกอบกับการที่ตนได้รับเชิญจากมหาวิทยาลัยในต่างประเทศให้ไปบรรยายและแสดง ความคิดเห็นถึงปัญหาในประเทศไทย โดยขณะนี้ตนอยู่ในประเทศสหราชอาณาจักร และกำลังจะไปบรรยายที่มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด เคมบริดจ์ รวมถึงสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงแห่งอื่นๆ พร้อมกล่าวด้วยว่า วันไหนบ้านเมืองสงบเรียบร้อย คนร้ายถูกดำเนินการตามกฎหมาย ตนจะกลับประเทศไทย
       
       ล่าสุดจากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าว ASTVผู้จัดการ คณะกรรมการสมาคมนักเรียนไทยในมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ได้ออกแถลงการณ์ผ่าน เฟซบุ๊ก “Cambridge University Thai Society (CUTS)” ระบุถึงข่าวการเชิญนายวีรพัฒน์มาบรรยายที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ว่า ทางสมาคมฯ ไม่ได้เป็นผู้เชิญนายวีรพัฒน์ แต่นายวีรพัฒน์แสดงความจำนงขอมาบรรยายเอง โดยการจัดของ “ชมรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา” และสมาคมฯ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบรรยายของนายวีรพัฒน์ในวันที่ 30 พ.ค. นี้แต่อย่างใด
       
       สำหรับแถลงการณ์ดังกล่าว โดยสมาคมนักเรียนไทยในมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ มีรายละเอียดเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ดังนี้
       
       *******************
       
       ตามที่ปรากฏในสื่อต่างๆ ว่า นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ จะเดินทางมาบรรยายในหัวข้อ “เมืองไทย กับการปกครองที่ไร้กติกา” ณ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ สหราชอาณาจักร ในวันที่ 30 พ.ค. 2557 นั้น “สมาคมนักเรียนไทยในมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์” ขอเรียนชี้แจงว่า การบรรยายดังกล่าวจัดขึ้นโดย “ชมรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา” ซึ่งเป็นชมรมนักศึกษาชมรมหนึ่งที่นายวีรพัฒน์ได้แจ้งความจำนงขอให้เชิญตนมา บรรยาย
       
       สมาคมฯ ขอเรียนให้ทราบว่า มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบรรยายของนายวีรพัฒน์ ในวันที่ 30 พ.ค. 2557 แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม สมาชิกของสมาคมฯ ย่อมใช้สิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวได้อย่างเสรี
       
       สมาคมนักเรียนไทยในมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์จึงขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องมา ณ ที่นี้
       
       คณะกรรมการสมาคมนักเรียนไทยในมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์
       -------------------------------------------

 

       In reference to media reports on Mr. Verapat Pariyawong’s trip to give a talk entitled “Thailand and the Rule of No Law?” at the University of Cambridge, United Kingdom, on 30th May 2014, the Cambridge University Thai Society would like to clarify that the said talk is organised by the Cambridge University Southeast Asian Forum, one of the student-run clubs from which Mr Pariyawong has asked for an invitation to give a talk.
       
       The Society would thus like to inform that it has by any means no involvement in Mr Pariyawong’s talk on 30th May 2014. Nevertheless, the Society’s members are fully entitled to their rights to attend the said talk.
       
       Please be informed accordingly.
       
       The committee of the Cambridge University Thai Society
       
       28/05/2014

 

 

 

 

ที่มา http://www.manager.c...D=9570000059928

 

 

ตัดแปะให้ทราบเฉยๆ....นะ..มีสงสัยแค่เพียงไปขอบรรยายที่มหาลัยได้ง่ายๆเลยรึ...หรือว่ามีใครเตรียมการณ์ไว้ให้แล้ว

 วีรพัฒน์ ปริยวงศ์”นักกฎหมายอิสระ พบระบุในเว็บไซต์ส่วนตัวดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษา "พงศ์เทพ เทพกาญจนา" 

อ้างอิง http://isranews.org/.../26019-vlp.html

แบบนี้ อิสระตรงไหนหว่า

ผมยังข้องใจอีกประเด็นที่บอกว่า 

"ที่ให้เพรียวพันธ์ มาเป็น ผบ.ตร. เพราะเก่งปราบปรามยาเสพติด" 

ถามนิดเถอะ  ตอนเป็นรอง ผบ.ตร. นี่  เพรียวพันธ์ ไม่ทำงานอะไรเลยหรือ  

ไม่ปราบยา  ไม่ปราบบ่อน  ไม่เสนอแนวทางในการประชุมระดับสูง

ต้องเป็น ผบ.ตร.ก่อน จึงจะมีแก่ใจทำงานหรือไง?

ถ้ามีเวลา ลองหาข้อมูล ความรู้ จากชีวิตจริงบ้างนะครับ

ไปยืนดูแถวหน้าธนาคาร เวลาที่รถขนเงินเขามารับ-ส่งเงิน 

แล้วลองคะเนดูว่า  เงินสด จำนวน 280 ล้าน (ต่อให้เป็นธนบัตรใบละ 1000) จะมีปริมาณขนาดไหน

แล้วถ้าเอาต้องนับเพื่อให้มั่นใจว่าครบตามจำนวน จะเอิกเกริกกันขนาดไหน

ทั้งตอนเอาลงจากรถที่นำมา  ทั้งตอนส่งมอบ ทั้งตอนที่คนรับจะนำกลับอีก

เพราะตั้งแต่สมัยบก่อนจนกระทั้งถึงระบอบอภิสิทธิ จะทำงานเช้าชามเย็นชาม ทำไปหยุดไป หรือไปไหนก็ได้ และเป็นเจ้าคนนายคน พอประชาชนเข้ามาติดต่อก็ดุอย่างกับหมูกับหมา แสดงอำนาจบาตใหญ่ เบ่งคับสถานที ทำตัวเป็นว่าข้านี่ใหญ่สุดๆเป็นข้าราชการ

แต่พอระบอบทักษิณเข้ามา ข้าราชการต้องทำงานมากขึ้น จะทำเช้าชามเย็นชามก็ไม่ค่อยได้ ประชาชนร้องเรียนได้ พวกช้าราชการมันถึงไม่ชอบระบอบทักษิณเพราะมันจะทำงานเหนื่อยมากขึ้น

สมัยชวน หลีกไป ผมไปต่อบัตรทหารผ่านศึกทุก6ปี รอ 1 เดือนค่อยไปรับบัตร
สมัยทักษิณ ผมไปต่ออีกรอบ ทำเสร็จ เจ้าหน้าทีบอกว่าพรุ่งนี้มารับ ผมงง-เลย ว่าทำไมมันเร็วปานนั้น  เจ้าหน้าที่ทหารผ่านศึกพิการผู้นั้นตอบว่า น้องนี่มันยุคทักษิณ แล้วนะ

นี่แหละความแตกต่างให้เห็นๆระหว่างสองระบอบ ข้าราชการมันถึงได้เกลียดทักษิณ

แหม จะเอาฮา ก็ไม่บอกด้วยนะ

สมัยทักษิณ ผมเอาเช็คธนาคารต่างสาขาไปฝาก ต้องรอ 1-3 วัน จึงจะถอนเงินได้

สมัยอภิสิทธิ์ ผมเอาเช็คธนาคาร่ต่างสาขาไปถอนเงินได้ทันทีเลย  

เข้าใจความแตกต่างไหม  จขกท.

ทรงพระเจริญ