วันดี

ขอ มาร์ค ดีแต่กู้ บ้างสิ
ขาดไปแล้วรู้สึกยังไงไม่รู้

จัดปายยยย

สุดท้ายของวันนี้

ชวนดูหนังบ้าง

ห้างชินวัตรข้าวคั่ว

สงสัย 7-8 ตัว แก๊งค์นี้ จริงๆ

"เยดดดดดดดดดดดดดดดดดดเข้"

"บอกตามตรงเลยกูงงงงงงงงงงงง"

5555 โอ้ยยยยยอิหนูขำ เมื่อก่อนตอนเล่นที่ลากดำนา เจอสาคูไส้หมา มาแปะแบบนี้ละ งงได้อีก แอบคิดว่าตรูมึนหรือมันเยอะว่ะ ขอขำหน่อยนะคะ 555

http://www.youtube.c...&v=XHJxpv9DaFE#!

สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ยืนยันว่าส่งเอกสารให้กับ DSI แล้ว ว่ากรณีของน้องกมนเกดที่เสียชีวิตภายในวัดปทุมไม่สามารถเกิดได้จากวิถีกระสุนที่มาจากรางรถไฟฟ้า แต่ DSI ไม่นำสำนวนนี้มาพิจารณา

แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ กล่าวถึง กระบวนการในการทำงานของนิติวิทยาศาสตร์ จะต้องตรวจพยานหลักฐานที่เกิดเหตุ และภายหลังได้รับการแต่งตั้งจาก ศอฉ. ก็ได้เข้าไปตรวจเต้นท์ที่วัดปทุม ตรวจเต้นท์ที่บริเวณแยกราชประสงค์ ส่วนขณะที่ดีเอสไอตั้งคณะทำงานขึ้นมานั้น ก็พบว่าพนักงานสอบสวนบางรายยังไม่มีความรู้เรื่องของการชันสูตรศพ รายละเอียดเกี่ยวกับศพก็มีไม่ครบถ้วน รายละเอียดของสถานที่บางส่วนขาดหาย ถ้าบอกโดยสรุปคณะทำงานมองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุผิดปกติ อีกทั้งเราไม่พบรายงานเกี่ยวกับอาวุธที่พบกับศพ ไม่ได้รับมอบหมายให้ตรวจสอบเรื่องชายชุดดำ

แต่จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบเพียงซีดีที่มีผู้สื่อข่าวต่างประเทศเป็นผู้ผลิตเกี่ยวกับชายชุดดำ จากนั้นเข้าไปตรวจที่ราชประสงค์ก็พบรถของคนสนิทของ พลตรีขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ที่มีอาวุธและโปสเตอร์ต่างๆ ส่วนคดี 6 ศพที่วัดปทุมคณะทำงานไม่เรียกว่าเป็นการชันสูตร เพราะไม่ได้เป็นการตรวจสภาพศพในที่เกิดเหตุแต่เป็นการไปชันสูตรภายหลังที่เคลื่อนศพไปจากจุดเกิดเหตุแล้ว ส่วนการเสียชีวิตของ นางสาวกมลเกต อัคฮาด คณะทำงานก็สรุปตามรายงานที่ได้รับมาจากการสอบสวนพยานในเบื้องต้น เพราะคณะทำงานไม่ได้ทำการผ่าศพดังกล่าว แต่จากวิถีกระสุนที่พบถ้าเป็นไปตามอ้างในกรณีที่คนยิงอยู่ในจุดที่พยานระบุจริงก็เชื่อว่าการยิงในวิถีดังกล่าวไม่สามารถเป็นไปได้

นอกจากนี้ แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ ยืนยันว่านิติวิทยาศาสตร์ได้ทำการจำลองการยิงและส่งผลการจำลองวิถีกระสุนให้ดีเอสไอไปแล้วแต่ในสำนวนสอบสวนพบว่าดีเอสไอไม่ได้มีการนำไปใช้ อย่างไรก็ตาม แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ ยืนยันว่ายินดีที่จะส่งเอกสารในการส่งเรื่องการจำลองวิถีกระสุนให้กับคณะทำงานกรรมาธิการตำรวจ พร้อมทั้งมีการอธิบายขั้นตอนของการจำลองวิถีกระสุน

ส่วนการตรวจสอบเรื่องกระสุนนั้น แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ ยืนยันว่าไม่เคยมีรายงานเรื่องกระสุนมาให้คณะทำงานของนิติวิทยาศาสตร์เลย ส่วนหลักฐานที่มีการส่งมาทั้งในเรื่องของสถานที่เกิดเหตุ อาวุธ เป็นการตรวจสอบหลังเกิดเหตุไปแล้ว 1 ปีจึงไม่สามารถนำมาเป็นหลักฐานยืนยันได้

ไม่รู้จะเรียก คนๆนี้ว่า อะไรดี คุณธรรมไม่มี มา สรท. เจอของจริง เถียงไม่ได้
ก็กลับไป แต่งเรื่องด้วยภาพ ทำทีขอความเห็น แต่เอาเรื่องที่เป็นประโยชน์กับตัวมานำเสนอทั้งนั้น


สิงห์สนามหลวง ต่อไปขอเรียกเธอ ฮายีน่าสนามหลวง ดีกว่า
เหมาะดี ทั้งกินซากศพ ทั้งเจ้าเล่ห์ หลอกลวง
ไม่อายบ้างเลย เกินจินตนาการ

http://www.pantip.co.../P12652912.html

หมอพรทิพย์ซัดนักการเมืองทำยุติธรรมเสียหาย

แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ชี้นักการเมืองเป่าหูประชาชน ทำให้เสียหายในกระบวนการยุติธรรมยืนยันความคืบหน้า 6 ศพยังไม่สรุป



(28พ.ค.) แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เปิดเผยที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี

ถึงความคืบหน้าการตรวจสอบเรื่องการเสียชีวิต 6 ศพวัดปทุมวนาราว่า คดีนี้แยกเป็น 2 เรื่องคือ ผู้ที่ทำหน้าที่ชันสูตรศพถูกต้องตามกฏหมายคือแพทย์สถาบันนิติเวช

ซึ่งผลยังไม่ออกมา อีกเรื่องคือเข้าติดตามตรวจสอบในฐานะคณะกรรมการ ศอฉ. ซึ่งได้เข้าไปตรวจเบื้องต้น พอเห็นภาพเบื้องต้นว่า

บาดแผลบางคนมีทิศทางชัดเจน ซึ่งต้องรอการผ่าศพภายในเสียก่อนว่าเจอกระสุนตรงไหนจะชัดเจนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม บางส่วนพอสรุปได้

ส่วนยากอีกอันหนึ่งคือคือคนอ้างตัวประจักษ์พยานไม่มีใครเป็นพยานจริง ส่งผลให้ข้อมูลคาดเคลื่อน

เช่นบางศพเบื้องเป็นแผลทิศด้านขวา และวิ่งล่างขึ้นบน เจอทะลุขวาขึ้น และข้างในในแก้ม

แต่พยานบอกว่าศพหันหน้าออกจากเต้นท์ แสดงว่าหันข้างทางรถไฟฟ้า เป็นต้น ซึ่งทุกคนจะต้องตั้งสติ

คือทิศทางศพบอกชัดเจน แต่ตัวศพอยู่ตรงไหนยังไม่ชัดเจน

ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า ในการตรวจต้องดูสิ่งที่เห็นจริงคือศพ แล้วค่อยตามว่าสิ่งพยานบอกยังไง

และพยานลำเอียงหรือมีความน่าเชื่อถือไหม เห็นจริงไหม

เช่น ศพหนึ่งมีเขม่าที่หน้าท้อง แต่ไม่มีแผล เหมือนว่าอยู่ใกล้อาวุธปืน มีคำถามของเราเขม่ามาได้อย่างไร ก็ต้องมีข้อมูล

จะสรุปไม่ใช่เรื่องง่าย ข้อมูลผิดทำให้เคลาดเคลื่อนได้ ในการจะยอมรับหรือไม่นั้น หมอไม่เป็นประเด็น ขณะนี้สังคมขัดแย้ง ไม่ฟังใครเลย อะไรก็ตามไม่ตรงใจ ไม่ยอมรับ

เอาความคิดตนเองมาใส่ความคิดคนอื่นทำให้บิดเบือน โดยเฉพาะนักการเมืองเป่าหูประชาชน ทำให้เสียหายในกระบวนการยุติธรรม หมอว่าความจริงคือความจริง

แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ ยังกล่าวอีกว่า เรื่องการแก้ปัญหาว่า คือทุกคนต้องย้อนดูตนเองว่าตนเองทำงานเป้าหมายอย่างไร หมอ ไม่ได้ทำงานให้รัฐบาลหรือทหาร

เราค้นหาความจริง เราต้องยอมรับกติกาสังคมต้องมีกติกา เราไม่ได้เป็นเครื่องมือของใคร คนที่พูดไม่จริงนั้นทำให้สับสน

สำหรับความสำคัญในการแก้ปัญหาสังคม หรือ ผลชันสูตรศพ คือทุกคนต้องชำระใจตัวเอง ต้องเลิกมีอารมณ์ ต้องเลิกโกรธ เลิกแค้น ให้อภัยกัน เมื่อใจเย็นลง จะยอมรับ

และเปิดใจทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าผิดคือผิดถ้าถูกคือถูก ทุกคนต้องเปิดใจให้กว้างทำอย่างไรให้สังคมเกิดความสันติสุข คือมีกระบวนการยุติธรรมที่ดี.

ที่มา..http://www.komchadluek.net/detail/20100528/60868/%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%8B%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A2.html#.UFIQB7LN-gA

http://www.komchadlu...ml#.UFIKkLLN-gA

จาก นสพ คมชัดลึก ฉบับ วันที่ 27 พค 10

ไขทีละเปลาะ 6 ศพถูกยิงหน้าอก-หลัง..ยันไม่ได้ยิงจากมุมสูง

คมชัดลึก : การตาย 6 ศพที่วัดปทุมวนารามยังคงเป็นปริศนารอการคลี่คลาย ?!!
แม้จะผ่านมานานเกินกว่า สัปดาห์แล้ว ทว่าการตายของ มงคล เข็มทอง เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง, วิชัย มั่นแพ, อัธชัย ขุมจันทร์, อัครเดช ขำแก้ว, กมลเกด พยาบาลอาสา และชายไทยไม่ทราบชื่อยังคงรอคำอธิบายจากผู้ที่เกี่ยวข้องว่าคนร้ายซุ่มยิง จากจุดไหนกันแน่
เพื่อบีบวงสมมติฐานให้แคบลง

"ข้อเท็จจริงจะปรากฏออกมา จากการตรวจสอบเบื้องต้นคิดว่าผลการชันสูตรและผลนิติเวชน่าจะเป็นตัวบ่งบอก อะไรได้พอสมควร" ถ้อยแถลงของนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อเช้าวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา เหมือนจะส่งสัญญาณอะไรบางอย่างออกมา

"คม ชัด ลึก" พยายามหาคำตอบจากนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายคนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) จนได้ข้อสรุปในระดับหนึ่ง แม้ว่าในวันเกิดเหตุกระชับวงล้อม 19 พฤษภาคม 2553 จะไม่มีตำรวจ แพทย์ชันสูตร หรือเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เข้าไปในวัดปทุมฯ ได้ ประกอบกับการเคลื่อนย้ายศพออกจากจุดเกิดเหตุ จะทำให้การตรวจสอบในข้อเท็จจริงหลายอย่างไม่สามารถทำได้

แต่ผลการชันสูตรศพออกมาก็ช่วยไขข้อข้องใจอะไรบางอย่างได้ !?!

การผ่าชันสูตรพลิกศพทั้ง 6 ศพ แพทย์ตรวจแล้วพบว่าทุกรายถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่มีความเร็วสูง ไม่มีรายใดถูกยิงที่ศีรษะ ส่วนใหญ่ถูกยิงเข้าหน้าอก แขน หัวไหล่ บางคนกระสุนแฉลบขึ้นไปทะลุศีรษะ บางรายถูกยิงจากด้านหลังและขา

สำหรับทิศทางการยิงนั้น แม้จะไม่ได้เข้าไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ แต่มีการตั้งข้อสังเกตกันในหมู่ผู้เชี่ยวชาญอาวุธปืนและวิถีกระสุนว่า ทั้งหมดไม่น่าจะถูกยิงมาจากมุมสูง

"เราไม่เห็นว่าการเสียชีวิตเป็นไปในลักษณะไหน แต่ตามหลักวิทยาศาสตร์แล้วบอกได้ว่า ก่อนที่ทั้งหมดจะถูกลอบสังหาร ไม่ว่าจะอยู่ในท่านั่งหรือนอนก็ตาม หากถูกลอบยิงจากมุมสูง ผู้ก่อเหตุจะเห็นแค่ศีรษะด้านบน หัวไหล่ทั้งสองข้าง และก้นเท่านั้น แต่นี่ผู้เสียชีวิตทั้งหมดถูกยิงจากด้านหน้าและด้านหลัง แขน หัวไหล่และขา จึงมีความเป็นไปได้สูงว่าไม่ได้ยิงมาจากมุมสูง ส่วนจะเป็นฝ่ายไหนไม่ขอออกความคิดเห็น" นายตำรวจท่านหนึ่งอธิบาย

เมื่อได้ผลชันสูตรเช่นนี้ "คม ชัด ลึก" ได้รับการเปิดเผยจากอดีตผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธปืนและยุทธวิธีหน่วยงานแห่ง หนึ่ง บอกว่า ในวันกระชับพื้นที่ชุมนุมได้เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์บริเวณวัดปทุมวนารามด้วย และมองเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดพอจะสรุปได้ว่า

ในวันนั้นเมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงทยอยเข้าไปอยู่ในวัด รอบๆ พื้นที่ถูกตรึงด้วยกำลังทหาร บนรางรถไฟฟ้าเองก็มีเช่นกัน ต่อมาเวลาประมาณห้าโมงเย็น มีเสียงอาวุธสงครามดังลั่นมาจากด้านบน ระหว่างนี้ก็มีกองกำลังบางกลุ่มแต่งกายคล้ายทหารใช้อาวุธสงครามยิงในแนวราบ หันหน้าเข้าไปในวัดปทุมฯ

"ไม่อยากคาดเดาว่าเป็นกองกำลังของกลุ่มไหน แต่ก็ดูกลมกลืนกันไปหมด"

หลังจากสิ้นเสียงปืนมีการลากผู้เสียชีวิตไปรวมกันในเต็นท์กาชาดสากล อดีตผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธปืนและยุทธวิถีคนนี้เข้าไปตรวจสอบดูจากตรงจุดนั้น ประกอบกับภาพถ่ายมุมสูงจากบนรางรถไฟฟ้า บอกได้คำเดียวว่ากลุ่มคนที่อยู่ในมุมสูงเหนือวัดปทุมวนารามขึ้นไปไม่สามารถเล็งเป้าได้อย่าง แม่นยำเช่นนี้ เพราะบริเวณรอบๆ วัดและใกล้จุดเกิดเหตุมีต้นไม้ใหญ่บังอยู่หลายต้น โดยเฉพาะช่วงเย็นต่อเนื่องกลางคืนทัศนวิสัยไม่ชัดเจน จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะยิงมาจากมุมสูง

"สอดคล้องกับสภาพบาดแผลของผู้เสียชีวิตที่ส่วนใหญ่ถูกยิงหน้าอกและด้าน หลัง แสดงให้เห็นว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่มือปืนจะอยู่สูงกว่าพวกเขา"

ดังนั้นเมื่อไม่ได้ยิงมาจากมุมสูง จุดที่มีกองกำลังทหารตรึงกำลังเอาไว้ ประเด็นนี้จึงต้องข้ามไป หันกลับไปหาปริศนาข้อต่อไปว่า แล้วกองกำลังพื้นราบที่แต่งกายกลมกลืนกับทหารนั้น แท้ที่จริงเป็นคนกลุ่มไหนกันแน่

ถ้าตามช่าวนี้คนถูกยิงน่าจะเห็นคนร้าย คนที่ถูกยิงด้านหน้าคือคนที่ถูกยิงก่อน ส่วนคนที่ถูกยิงด้านหลังคือคนที่เห็นเพื่อนถูกยิงแล้วกำลังจะหนีจึงถูกยิงด้านหลัง แต่เสื้อแดงมันบอกว่าทหารด้านบนยิงตอนนอนหมอบหลบกระสุน ผมว่าคงไม่มีใครมานอนหมอบหรอกครับ ถ้าจะหนีอะไรบางอย่างเค้าหนีเข้าวัดไปแล้ว แต่นี่แสดงว่ามันจวนตัวจนหนีไม่ทัน

his video showing Thai redshirt protestors armed with a pistol and an M-16 rifle was recently aired by CNN.
It was recorded at Ratchdamri Station, an area under control of the protestors at the time.
Redshirts leaders have claimed that their group were "peaceful protectors" and were always unarmed.
As Illustrated by this video and other international media such as BBC, that statement is clearly propaganda and an outright lie.







แล้วกลุ่มนี้จะเกี่ยวข้องด้วยรึเปล่าคะ ลืมไปหรือยังคะ!!!!
กรณีถ้าภาพนี้ไม่ใช่ วันที่ 19 พค.
แต่...เป็นไปได้หรือไม่ว่า วันที่ 19 พค ก็ได้ขึ้นมาประจำการ บนสถานีรถไฟฟ้า อีกเหมือนเคย

ไปค้นมาแล้ว รายงานว่า
นักรบลึกลับ - ซีเอ็นเอ็นแพร่ภาพกลุ่มคนติดอาวุธบนสถานีรถไฟฟ้าในช่วงเกิดเหตุจลาจล ซึ่งประกอบด้วยคนชุดดำและคนแต่งกายคล้ายทหารสะพายปืน โดยกล้องจับภาพใบหน้าหนึ่งในคนกลุ่มดังกล่าวได้อย่างชัดเจน

แล้วอาวุธปืน เครื่องกระสุน เครื่องหมายพยาบาล ที่พบในห้องพักของ นายขวัญชัย ไพรพนา นาย พายัพ ปั้นเกต หลังยุติการชุมนุมจะเกี่ยวข้องไหม!!!!

ด่านแตกก็เพราะ

บังชม แกโดนหมายหัวตั้งแต่ก่อนสลายการชุมนุม 13-19 พ.ค. 2553 นะครับ
การที่บังชมจะขยับเขยื้อนอะไร บังชมต้องถูกนอกเครื่องแบบจับตาเป็นพิเศษอยู่แล้ว

ที่สำคัญ เท่าที่ผมพอทราบนะครับ ด่านแต่ละด่าน ล้วนมีความอิสระแยกจากกัน
ไม่มีใครขึ้นกับใคร บังชมแกเป็นหัวหน้าการ์ดกลุ่มสมิงดำ (พี่เทพว่างั้น) คุมอยู่สวนลุมพินีครับ
บังชมคุมอย่างไรทำไมด่านแตกกระเจิงอย่างง่ายดาย จนแกนนำต้องยกธงขาว?

ฟ่ะ!!!! ด่านแตก เพราะ อีตาโคระทม ไม่ได้มาขอเป็นเขตอภัยทานนนนนนิคร้า เจ็บจริง เล่นจริง ไม่ใช้ สแตนอิน

ด่านสวนลุมไม่ได้แตกง่ายๆ นะครับ มีทหารสูญเสีย และนักข่าวตาย

กว่าจะฝ่าดง M79 เข้าไปได้ ก็บ่ายแก่เข้าเย็นแล้ว
แม้กระนั้นก็ไมมีการฆ่าอย่างเลือดเย็น เพราะทหารไม่ทำ ทหารไม่ใช่การ์ดนปช.

สิงห์ว่า หัวหน้าการ์ด นปช บังชม อะไรเนีี้ย คุมด่านอยู่สวนลุม

ที่นั้นมีทหาร นักข่าว ที่โดน M 79 จำได้ ทหาร แขนยับเยิน

ถ้างั้นหัวหน้าการ์ด นปช สมิงดำคนนี้เป็นคน เอาเครื่องยิงกระสุน M 79 เข้ามาซุกซ่อนในวัดด้วยใช่ไหม !!!!!?????

จำได้ไหมคะ พี่ๆ เพื่อนๆ ทหารค้นเจอ M 79ในวัด แต่ส่งให้ตำรวจแล้ว แต่ตำรวจเล่นซ่อนแอบ ดีว่าทหารและนักข่าวถ่ายรูปเอาไว้

นายคนนี้เจออีกกระทง สิงห์รากดำนา จัดให้เอง 55

ด่านแตกก็เพราะ

บังชม แกโดนหมายหัวตั้งแต่ก่อนสลายการชุมนุม 13-19 พ.ค. 2553 นะครับ
การที่บังชมจะขยับเขยื้อนอะไร บังชมต้องถูกนอกเครื่องแบบจับตาเป็นพิเศษอยู่แล้ว

ที่สำคัญ เท่าที่ผมพอทราบนะครับ ด่านแต่ละด่าน ล้วนมีความอิสระแยกจากกัน
ไม่มีใครขึ้นกับใคร บังชมแกเป็นหัวหน้าการ์ดกลุ่มสมิงดำ (พี่เทพว่างั้น) คุมอยู่สวนลุมพินีครับ
บังชมคุมอย่างไรทำไมด่านแตกกระเจิงอย่างง่ายดาย จนแกนนำต้องยกธงขาว?

ฟ่ะ!!!! ด่านแตก เพราะ อีตาโคระทม ไม่ได้มาขอเป็นเขตอภัยทานนนนนนิคร้า เจ็บจริง เล่นจริง ไม่ใช้ สแตนอิน

ก็ถามสิงห์ไง วันที่ 19 พค ทำอะไร สิงห์เจอรึเปล่าละ สิงห์อยู่ไหนใต้ท้องรถหรืออยู่หน้าวัด !!!?

ส่วนเรา รู้แต่ว่า 20 พค หัวหน้าการ์ดนปช. โดนทหารจับ เพราะไปแอบ ในกุฎิวัด อ่อนแรงด้วยนะ !!!

ทีแม่น้องเกด สิงห์และคนเสื้อแดง กล่าวหาทหารที่ปฎิบัติหน้าที่ในวันนั้นว่าเป็น ฆาตกร มือสังหาร เอาทุกสิ่งอย่างมาประกาศทราบ. ชื่อ ที่อยู่ ลูกเมีย เบอร์รองเท้า สีกกน.

ทั้งๆที่ยังไม่ได้พิสูจน์ทราบอะไรเลย เราแค่กล่าวหาว่ามีส่วนรับรู้บ้าง ทำไม่ได้เหรอ 2 มาตราฐานว่ะ.


ทหารโดนกล่าวหา พวกตรูก็ต้องไปหาเหตุผลมาแก้

ตรูกล่าวหากลับบ้าง ตรูก็ยังต้องไปหาหลักฐานมาเล่า

ไม่รู้ละ ฉันชาวบ้าน ฉันกล่าวหาเอาไว้อย่างนี้ละ ถ้าสิงห์หาเหตุผลมาแก้ได้

ฉันก็ยินดี ขอโทษที่กล่าวหา หัวหน้าการ์ด นปช ว่ารู้เห็นเหตุการณ์สังหาร น้องเกดในวัดปทุม.